แชร์

10 : เจ้ากล้าสาบานไหมซือซือ

ผู้แต่ง: หิมะที่ปลิดปลิว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 11:19:20

10 : เจ้ากล้าสาบานไหมซือซือ

          หลังจิบน้ำต้มจอกที่สองจนหมด นางถานถึงรู้สึกหายใจคล่องคอขึ้น อาการไอก่อนหน้าหยุดลง ตัวนางนั้นย่อมรู้ดีว่ามันจะหยุดแค่ชั่วคราว สักพักจะกลับมาไอรุนแรงอีกครั้ง เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา

          “เอาล่ะ ๆ ข้าดีขึ้นมากแล้ว มาว่าเรื่องของเจ้าต่อซือซือ เจ้ารีบไปเก็บของแล้วตามข้ากลับบ้านเถอะ”

          เซี่ยซือซือมองนางถานอีกหน มองให้ลึกไปถึงความเป็นจริงตรงหน้า ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆ บ้านหลังเก่าทรุดโทรมแห่งนี้ ด้วยอายุของเจ้าของร่างกับอายุของน้องทั้งสองคน อันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้อยู่ตามลำพังได้

          “ท่านป้าถานเจ้าคะ ท่านรู้เรื่องแยกบ้านของข้าแล้วใช่ไหม”

          “ข้าย่อมรู้ดี ข้าไปหาแม่เฒ่าเซี่ยมาก่อนหน้า นี่ใบซื้อขายตัวของเจ้า” นางถานดึงเอกสารซื้อขายตัวออกมาจากอกเสื้อตนเอง “แต่แม่เฒ่าเซี่ยไม่ยอมพาเจ้าออกมาให้ข้า บอกว่าแยกบ้านกันแล้วให้ข้ามาตามเจ้าที่บ้านสามเอง พวกเขาช่างกั้นกำแพงได้รวดเร็วยิ่งนัก ข้าล่ะนึกแปลกใจจริง ๆ”

          เซี่ยซือซือสัมผัสได้ถึงความเห็นอกเห็นใจในคำพูดของนางถาน พลอยทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย อย่างน้อยแม่สามีของนางก็ไม่ได้มีจิตใจเลวร้ายเหมือนแม่เฒ่าเซี่ย เรื่องนี้มีผลต่อการตัดสินใจของนางด้วย

          “ท่านป้าถานเจ้าคะ อาซานของข้าถูกทำร้ายจนไม่ได้สติ ตอนนี้ยังนอนแน่นิ่งอยู่ในห้อง ข้าไม่อยากจากน้อง ๆ ไปในยามนี้เลย ขอเวลาให้ข้าได้ดูแลพวกเขาสักปีสองปีได้หรือไม่”

          “เจ้าเอ่ยอันใดออกมาซือซือ ข้าจะไปรอถึงวันนั้นได้อย่างไรกัน !” นางถานหน้าถมึงทึงขึ้นในทันใด นางยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ

          “หากข้าไปกับท่านวันนี้ แล้วน้อง ๆ ของข้า ใครจะดูแลล่ะเจ้าคะ”

          “เจ้าก็ช่างโง่นัก อยู่ดีไม่ว่าดีไปขอแยกบ้านออกมาทำไม อย่างไรเสียวันนี้เจ้าก็ต้องกลับไปกับข้า แม่เฒ่าเซี่ยรับเงินไปแล้ว ใบซื้อขายตัวก็อยู่ในมือข้า เจ้าอย่าได้คิดเบี้ยวข้าเด็ดขาดซือซือ !” นางถานไม่ยอมใจอ่อนเด็ดขาด เรื่องนี้นางตัดสินใจแน่วแน่มาตั้งแต่ต้น กระทั่งลูกชายของนางก็ห้ามไม่ได้

          เซี่ยซือซือเม้มปากเข้าหากันแน่ ข้อเสนอนี้ถูกนางถานปัดทิ้งอย่างไม่แยแส นางสูดลมหายใจเขาปอดลึก ๆ “เช่นนั้นท่านป้าถานพอจะให้น้องทั้งสองคนของข้า ไปอยู่ด้วยได้หรือไม่”

          “อันใดนะ !”

          “ท่านป้าถาน ท่านใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะไม่รบกวนเงินทองของท่านเด็ดขาด เรื่องอาหารการกินข้าจะเป็นคนจัดหาให้น้อง ๆ เอง ส่วนที่อยู่อาศัยขอห้องเก็บของ หรือห้องเก็บฟืนก็ได้เจ้าค่ะ”

          “เจ้า ! เจ้าช่างกล้า มาร้องขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะซือซือ”

          “ท่านป้าถานข้าขอร้องท่าน ได้โปรดเมตตาพวกข้าสามคนพี่น้องด้วยเถิดเจ้าคะ” เซี่ยซือซือใช้ไม้ตายคุกเข่าขอร้อง

          แอด ! เซี่ยซือหยางที่แอบฟังอยู่ในห้อง เปิดประตูออกมาดึงเสื้อพี่สาว พร้อมร้องตะโกนปาว ๆ ออกมา “ท่านพี่ ๆ ท่านอย่าไปนะ ท่านอย่าไป !”

          “เสี่ยวซือหยางเจ้าทำอันใด เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยพี่สาวเจ้าเสีย” เสี่ยวซือหยาง เป็นชื่อที่คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน ใช้เรียกขานเด็กน้อยอย่างเซี่ยซือหยาง

          “ท่านป้าถาน ท่านอย่าเอาท่านพี่ข้าไปเลย แง ๆ ๆ” ไม้ตายอีกคนมาช่วยเซี่ยซือซือแล้ว นางกลอกตาอยู่ในใจ น้องชายของนางจะเสแสร้งเก่งเกินไปแล้ว

          กระนั้นนางถานก็ยังนั่งนิ่งไม่ยอมรับปากใด ๆ

          เซี่ยซือซือพยายามคิดหาเหตุผลในการขอร้อง เรื่องไหนสำคัญสุดสำหรับนางถาน ปัง ! เสียงพลุแตกดังขึ้นในใจ เมื่อนางคิดออกแล้ว ใครที่นางควรเอ่ยถึงในยามนี้

          “ท่านป้าถานข้าขอร้องท่าน ได้โปรดอย่าพรากพวกเราสามคนพี่น้องออกจากกันเลยนะเจ้าคะ ข้าสัญญาว่าข้าจะเป็นภรรยาที่ดีของลูกชายท่าน จะไม่มีวันทอดทิ้งเขาเป็นอันขาด” น้ำเสียงอันหนักแน่นของเซี่ยซือซือ ส่งผลให้บรรยากาศรอบตัวดูน่าเชื่อถือขึ้นมา

          แววตาของนางถานไหววูบ เพราะคำว่าพูดสุดท้ายของเซี่ยซือซือ จ้องมองเด็กสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ด้วยสายตายากจะคาดคะเนได้ “ที่ว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งจ้านเออร์ของข้า เจ้ากล้าสาบานไหมซือซือ”

          “กล้าเจ้าค่ะ ข้าเซี่ยซือซือขอสาบานต่อหน้าฟ้าดิน ขอเพียงท่านป้าถานยอมให้น้องทั้งสองคนของข้า ติดตามข้าไปอยู่ที่บ้านของท่านด้วย ข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งพี่ถานจ้าน ลูกชายของท่านป้าถานเป็นอันขาด หากผิดคำเมื่อใด ขอฟ้าดินจงลงทัณฑ์ ให้ไม่ได้ตายดี !”

          “ท่านพี่...” เซี่ยซือหยางตะลึงในคำสาบานอันทรงพลังของพี่สาว ถึงขั้นน้ำตาแห้งเหือดในทันที

          นางถานถอนหายใจเบา ๆ ออกมา มองสองพี่น้องที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอีกครา พลันสะท้อนความรู้สึกหดหู่ใจขึ้นมา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กอีกคนที่นอนไม่ได้สติอยู่

          “เจ้าต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจนะซือซือเรื่องคำสาบานของเจ้าในวันนี้ และจงตระหนักไว้ว่าบ้านข้านั้นยากจน ไม่สามารถเลี้ยงดูน้องทั้งสองคนของเจ้าได้”

          “เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับข้าเจ้าค่ะ ข้าบอกท่านแล้วว่าข้าจะรับผิดชอบเรื่องอาหารการกินของพวกเขาเอง ไม่ให้กระทบลูกชายท่านป้าถานอย่างแน่นอน”

          “เช่นนั้นเจ้าไปเก็บของเถอะ”

          “ท่านป้าถานแล้วน้องของข้าล่ะเจ้าค่ะ”

          “เมื่อเจ้ากล้าสาบานว่าจะไม่ทอดทิ้งจ้านเออร์ของข้า ข้าย่อมยินยอมให้น้องของเจ้าไปอยู่ด้วย รีบไปเก็บของเถอะ ส่วนซานซาน...”

          “ข้าจะแบกนางไปเองเจ้าค่ะ”

          “เจ้าแบกไหวรึ” นางถานทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ

          “ไหวเจ้าค่ะ ข้าวของของพวกเราสามพี่น้องไม่ได้มีอะไรมาก แค่เสื้อผ้าคนละสองสามชุดกับผ้าห่มผืนเก่า ๆ”

          “เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้าหิ้วของเอง ส่วนซานซานเจ้าแบกนางไปก็แล้วกัน”

          “ขอบคุณท่านป้าถานมากเจ้าค่ะ น้องเล็กรีบโขกหัวขอบคุณท่านป้าถานเร็วเข้า พวกเราไม่ต้องแยกจากกันแล้ว” นางกระตุกแขนเสื้อน้องชายเบา ๆ เซี่ยซือหยางหัวไวใช่เล่น รีบทำตัวพี่สาวในทันที

          “ขอบคุณท่านป้าถานขอรับ”

          สองพี่น้องโขกศีรษะขอบคุณนางถาน ความจริงแล้วเด็กน้อยเซี่ยซือหยางนั้นมิได้รู้ความมากนัก เพียงแต่กระทำเลียนแบบพี่สาวของตัวเองเท่านั้น

          เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา[1]ผู้ใหญ่หนึ่งกับเด็กอีกสามก็มาถึงประตูบ้านสกุลถาน ซึ่งตั้งอยู่ตรงตีนเขาฝั่งตะวันออกของหมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ความจริงแล้วหมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่มีอยู่สามสิบกว่าหลังคาเรือน ทุกเรือนใช้แซ่อวี่เหมือนกันหมด

          เมื่อสิบกว่าปีก่อน บ้านสกุลเซี่ยกับบ้านสกุลถาน เป็นผู้ลี้ภัยน้ำท่วมมาจากเมืองอื่น ทางการได้จัดหาที่ดินอยู่อาศัยให้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ อีกทั้งยังให้ผู้ใหญ่บ้านมอบที่นาทำกินให้ตามความเหมาะสมอีกด้วย ยามนั้นนางถานเป็นเพียงแม่ม่ายลูกยังเล็ก ไม่ถนัดทำนาจึงปล่อยให้คนเช่าไป ต่างจากบ้านสกุลเซี่ยที่มีคนเยอะสามารถใช้แรงงานได้ดี

          บ้านถานมีลานหน้าบ้านค่อนข้างกว้าง ด้านในเป็นห้องโถง ด้านข้างเป็นห้องครัว ภายในมีสามห้องนอน สภาพบ้านค่อนข้างเก่า มีร่องรอยซ่อมบำรุงอยู่บ่อยครั้ง นับว่ายังดูดีกว่าบ้านเก่าของเซี่ยซือซือ

          “ซือซือข้าเตรียมห้องไว้ให้เจ้าแล้ว เจ้าพาซานซานเข้าไปด้านในก่อนเถอะ” นางถานเดินนำหน้าสามพี่น้อง เข้าไปยังห้องฝั่งปีกขวา

          “ห้องนี้มีเตียงเดียว พวกเจ้านอนเบียดกันหน่อยก็แล้วกัน”

          “ได้เจ้าค่ะท่านป้าถานพวกข้าอยู่ได้ นี่ยังดูดีกว่าที่บ้านเก่าของพวกข้าอีกเจ้าค่ะ” เซี่ยซือซือค่อย ๆ วางน้องสาวลง นางแสดงได้แนบเนียนมาก จนเผลอคิดไปว่านางหลับอยู่บนหลังของตนเสียแล้ว

          “ให้ซานซานอยู่ที่นี่ ส่วนพวกเจ้าสองคนตามข้าไปทักทายจ้านเออร์ก่อน”

          “เจ้าค่ะ” เซี่ยซือซือจูงมือน้องชายเดินตามหลังนางถาน ไปยังห้องฝั่งปีกซ้าย คาดว่าคงเป็นห้องนอนของถานจ้าน

          นางถานหยุดอยู่หน้าประตู “จ้านเออร์แม่ของเจ้าเอง”

          “ขอรับท่านแม่” มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน นางถานจึงยื่นมือไปเปิดประตูออก

          ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่าง แสงแดดทอแสงเข้ามาให้เห็นถานจ้านในชุดผ้าฝ้ายสีขาวหม่น ใบหน้าหล่อเหลาแลดูดั่งเทพเซียนก็ไม่ปาน ช่างไม่เข้ากับความยากจนของบ้านหลังนี้เลย บนโต๊ะมีกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวอักษร เหมือนเขากำลังคัดลอกตำราอยู่

          “เจ้ามองพอรึยัง” น้ำเสียงตวาดด้วยความหงุดหงิด ที่ถูกเด็กสาวผอมแห้งจ้องมองจนเขาแทบพรุนไปหมดทั้งตัว

          “เอ่อ ข้า” เซี่ยซือซือติดอ่างในทันที นางถูกรูปลักษณ์เด็กหนุ่มคนนี้ทำให้ตกตะลึงได้อย่างไร ก็แค่เด็กวัยรุ่นหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง ไม่ได้ ๆ นางจะมาหลงใหลในรูปร่างหน้าตาของผู้ชายไม่ได้ ว่าไปเขาคงสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเห็นจะได้ หากยืนขึ้นคงจะรู้ชัดกว่านี้

          “ข้าชื่อเซี่ยซือหยาง แต่คนอื่นมักเรียกข้าว่าเสี่ยวซือหยางขอรับ” เจ้าตัวน้อยกลับมีสติดีกว่าพี่สาว แนะนำตัวเองเสร็จสรรพ

          “ข้าชื่อเซี่ยซือซือ ท่านเรียกข้าว่าซือซือก็ได้” ใครจะคาดคิดว่านางจะเกิดอาการประหม่า ต่อหน้าเด็กหนุ่มน้ำแข็งคนนี้ เพียงเขาปรายตามองมา นางก็กลายเป็นฝุ่นผงในอากาศไป สีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์แบบนี้คืออะไร นางยังไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เขาเสียหน่อย

          ถานจ้านปรายตามองเซี่ยซือหยาง ที่สูงยังไม่ถึงเอวของเซี่ยซือซือด้วยซ้ำ หัวคิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันแน่น หันไปทางมารดาด้วยสายตาซับซ้อน “เหตุใดถึงมีเด็กมาด้วยล่ะท่านแม่ ไม่ใช่ว่าท่านซื้อภรรยามาให้ข้าหรอกหรือ นางมีลูกติดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

          เซี่ยซือหยาง “...”

          เซี่ยซือซือ “...”

          “จ้านเออร์เจ้าเข้าใจผิดแล้ว นี่เสี่ยวซือหยางน้องชายของซือซืออย่างไรเล่า” นางถานรีบเข้าไปอธิบายให้ลูกชายฟัง

          “น้องชาย ?”

          “เอ่อ พวกเจ้าสองพี่น้องกลับห้องไปก่อน ข้ามีเรื่องจะคุยกับจ้านเออร์สักครู่หนึ่ง”

          “เจ้าค่ะท่านป้าถาน” เซี่ยซือซือรีบดึงน้องชายเดินออกจากห้องเจ้าชายน้ำแข็งไป เห็นท่าทีของถานจ้านแล้ว เดาได้ไม่ยากว่าเขาไม่ต้องการภรรยาอย่างนางแน่นอน ออกแนวต่อต้านด้วยซ้ำไป

[1] หนึ่งถ้วยชา ราว 5-15นาที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   11 : ท่านแม่ ท่านขาดทุนแล้วล่ะ

    11 : ท่านแม่ ท่านขาดทุนแล้วล่ะ “ท่านพี่สามีท่านงามมาก” เซี่ยซือหยางเอ่ยขึ้นหลังก้าวเท้าเข้าไปภายในห้องนอนของพวกเขาแล้ว ทันใดนั้นคนบนเตียงนอนก็ลืมตาขึ้นข้างเดียว เงี่ยหูฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มไปหมด ก่อนหน้าเซี่ยซานซานผุดลุกผุดนั่ง คลายความขบเมื่อยอยู่หลายรอบ พอได้ยินเสียงคนเดินมานางก็รีบกลับไปนอนนิ่งอยู่ตามเดิม นางเองก็อยากเห็นพี่เขยของตัวเองเหมือนกัน ตั้งแต่ถานจ้านพิการเขาก็ไม่ค่อยออกจากบ้านไปไหน ภาพจำของนางจึงติดอยู่ตอนก่อนที่เขาจะพิการ “เจ้าอย่าได้เอ่ยคำนี้ต่อหน้าพี่ถานจ้านเด็ดขาด บุรุษไม่พึงพอใจให้ผู้อื่นชมตนเองว่างามหรอก ต้องชมว่าหล่อเหลาเข้าใจไหม” “เช่นนั้นข้าก็ต้องหล่อเหลาใช่ไหมท่านพี่” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นยิ้มตาหยีให้พี่สาว “ถูกต้องน้องเล็กของข้านั้นหน้าตาหล่อเหลาเหลือเกิน ปานเทพเซียนตัวน้อย ๆ” เซี่ยซือซืออุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา แล้วแนบแก้มถูไถเบา ๆ “ท่านพี่บุรุษสตรีไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน” “ไอหยา ! เจ้าตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นบุรุษหรอก” นางอุ้มน้องชายขึ้นแล้วหมุนไปรอบ ๆ เจ้าตัวส่งเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   12 : เหมือนข้าเห็นนิ้วมือของอาซานขยับได้

    12 : เหมือนข้าเห็นนิ้วมือของอาซานขยับได้ “ท่านพี่ท่านป้าให้ข้ามาตามท่าน” เสียงของเซี่ยซือหยางดังขัดจังหวะของทั้งคู่ ศีรษะน้อย ๆ ของเขายื่นออกมา ผ่านช่องประตูที่แง้มไว้เพียงเล็กน้อย “มีเรื่องอันใดน้องเล็ก” เซี่ยซือซือเห็นน้องชายไม่กล้าเข้ามาก็นึกแปลกใจ “ท่านหมออวี่มาหาท่านพี่ขอรับ” เซี่ยซือซือขานรับในลำคอ หันไปทางเจ้าของห้อง เห็นเขาหันหลังกลับไปคัดลอกตำราต่อ ไม่ได้สนใจนางเลยแม้แต่น้อย เซี่ยซือซือทำปากยื่นใส่อย่างหมั่นไส้ เขาก่อนหมุนตัวออกจากห้องไป “น้องเล็กทำไมไม่เข้าไปในห้องล่ะ” นางจูงมือน้องชายเดินไปตามทางเดิน “ท่านป้าถานบอกว่า ห้ามข้าเข้าห้องพี่เขยก่อนได้รับอนุญาต” พี่เขย ! ทำไมคำนี้ทำนางรู้สึกกระดากอายชอบกล “เช่นนั้นเจ้าต้องส่งเสียงบอกเจ้าของห้องก่อน รอให้เขาอนุญาตค่อยเปิดประตูเข้าไป” “อื้ม ข้าจะจำไว้” ทั้งคู่เดินมาถึงห้องโถงของบ้านสกุลถาน เห็นนางถานนั่งคุยเป็นเพื่อนท่านหมออวี่อยู่ บนโต๊ะด้านข้างมีกาชาร้อนวางต้อนรับ “เจ้ามาพอดีเลยซือซือ ท่านหมออวี่มีธุระเรื่องน้องสาวของเจ้า

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   13 : น้าเหลียนฮวาช่างโง่นัก

    13 : น้าเหลียนฮวาช่างโง่นัก ก่อนถึงบ้านสกุลถาน เซี่ยซือซือได้นำปลา หน่อไม้ และเห็ดเยื่อไผ่ส่วนหนึ่งออกมาใส่ตะกร้าบนหลัง ยังมีผักป่ากับสมุนไพรอีกหลายชนิดที่นางเก็บกลับมาด้วย นางเหลือเห็ดเยื่อไผ่เอาไว้ในมิติพิเศษ เพื่อนำไปขายในวันพรุ่งนี้ พอกลับมาถึงหน้าบ้านสกุลถาน บรรยากาศภายในบ้านกลับดูแปลกไป นางถานนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงห้องโถงเพียงลำพัง “ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” เซี่ยซือซือปลดตะกร้าบนหลังวางลงที่พื้น “เจ้าบอกข้ามาตามตรงซือซือ เจ้ารังเกียจจ้านเออร์ของข้าหรือไม่” “ท่านแม่เหตุใดถึงถามข้าเช่นนี้” “ชาวบ้านต่างหาว่าข้าโง่นักที่ซื้อเจ้ามาเป็นภรรยาให้จ้านเออร์ ทั้งที่เจ้าไม่ได้เต็มใจอีกทั้งยังรังเกียจ ที่ลูกชายของข้าพิการ จนคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย” ตอนเย็นนางถานเดินไปซื้อไข่ไก่ที่บ้านของหวางชุนลี่ กลับได้ยินหวางชุนลี่พูดกับอวี่กุ้ยสามีของนาง ว่าเห็นกับตาตอนเซี่ยซือซือกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย นางไม่ได้พลัดตกน้ำไปเองอย่างที่ทุกคนคิดกัน “สามีข้าน้าเหลียนฮวาช่างโง่นัก ซือซือรังเกียจที่ถานจ้านพิการ จนเลือกกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   14 : แอบช่วยแม่สามี

    14 : แอบช่วยแม่สามี อาหารบนโต๊ะมีซุปเยื่อไผ่ ปลาตุ๋นสมุนไพรจีน ผัดผักป่า แล้วยังมีไข่ตุ๋นเห็ดหอมอีกด้วย เซี่ยซือซือหุงข้าวขาวให้สองแม่ลูก ส่วนนางกับน้อง ๆ ยังคงกินโจ๊กธัญพืชหยาบผสมกับมันฝรั่ง นางถานเห็นอาหารบนโต๊ะแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก สองแม่ลูกจึงกินแค่ผัดผักป่ากับไข่ตุ๋นเห็ดหอม ไม่กล้าแตะต้องซุปเยื่อไผ่กับปลาตุ๋นสมุนไพรจีน เซี่ยซือซือเห็นเช่นนั้นจึงหยิบถ้วยมาตักอาหารทั้งสองชนิด วางตรงหน้าของนางถานก่อน “ท่านแม่ปลาตุ๋นกับซุปเยื่อไผ่นี่ข้าตั้งใจทำเลยนะเจ้าคะ ท่านลองชิมดูหน่อยว่าฝีมือข้าเป็นอย่างไรบ้าง” ก่อนจะยื่นอีกถ้วยให้ถานจ้าน “พี่จ้านท่านก็ลองดูหน่อย ข้าไม่ค่อยถนัดเรื่องทำอาหาร พวกสมุนไพรที่ใส่วันนี้ก็เก็บเอาตามป่าเขานั่นแหละ” นางใช้ขิง ต้นหอมป่า เห็ดหอมป่า มาเป็นส่วนผสม ปรุงรสด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว รสชาติจึงไม่อาจรู้ได้ ว่าจะอร่อยถูกใจผู้อื่นไหม เซี่ยซือซือไม่รอฟังความเห็นของสองแม่ลูก นางหันไปใส่ใจน้องชายของตัวเองต่อ “น้องเล็กเนื้อปลานี่ดูก้างดี ๆ ด้วยล่ะ เผื่อหลุดรอดสายตาข้าไป” เซี่ยซือหยางคีบเนื้อปลาเข้าปาก

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   15 : เข้าตำบลหานตง

    15 : เข้าตำบลหานตง เซี่ยซือซือสะพายตะกร้าที่ใส่เห็ดเยื่อไผ่เอาไว้ นางถานนำห่อผ้าเช็ดหน้าปักของตัวเองกับตำราของลูกชาย มาส่งยื่นให้นางถือไป เพราะกลัวจะทำให้เห็ดเยื่อไผ่ช้ำ และตำราอาจได้รับความเสียหาย พอพ้นสายตาคนในบ้านไป เซี่ยซือซือตั้งใจนำของในมือใส่ไว้ในมิติพิเศษ เหลือไว้แค่เห็ดเยื่อไผ่ในตะกร้า “ลำบากเจ้าแล้วซือซือ รีบไปเถอะก่อนที่เกวียนของเฒ่าอวี่ไห่จะออกไปเสียก่อน นี่เอาไว้จ่ายค่าเกวียน” เงินสองอีแปะถูกยัดใส่มือของเซี่ยซือซือ “หลังได้เงินค่าผ้าปักมาแล้ว เจ้านำไปซื้อข้าวกับธัญพืชกลับมาด้วย กะว่าให้กินได้หลายวันเสียหน่อย ส่วนค่าคัดลอกตำราของจ้านเออร์เจ้าห้ามใช้ เงินส่วนนั้นให้นำกลับมาให้จ้านเออร์ทั้งหมด” “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ฝากท่านดูแลน้องชายของข้าด้วยนะเจ้าคะ ส่วนอาซานข้าป้อนยานางไปแล้ว” “ได้เดินทางดี ๆ ล่ะ เจอคนแปลกหน้าก็ไม่ต้องไปคุยด้วย ได้เงินมาแล้วต้องเก็บให้ดี ๆ อย่าให้คนอื่นมาฉกฉวยเอาไปได้” นางถานมองลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง แต่อย่างไรเสียนางต้องปล่อยให้เซี่ยซือซือทำเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเอง “เจ้าค่ะท่านแม่” เซ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   16 : ขายเขากวางอ่อน

    16 : ขายเขากวางอ่อน ระหว่างทางที่เดินออกมาจากร้านขายผ้าหยู่จี้ เซี่ยซือซือมองเห็นแม่เฒ่านางหนึ่งนั่งขายถังหูลู่[1]อยู่ อดนึกถึงน้องทั้งสองคนของนางไม่ได้ เอาไว้ทำธุระสำคัญเสร็จดีเสียก่อน นางค่อยกลับมาซื้อกลับไปฝากพวกเขา หอโอสถหยวนเป่า เป็นเรือนไม้สองชั้น มีขนาดค่อนข้างใหญ่โต เซี่ยซือซือสัมผัสได้ว่าผู้คนที่เดินเข้าออกหอโอสถแห่งนี้ ล้วนแต่งตัวดูดีกันทุกคน มีเพียงนางที่ดูซอมซ่อในชุดเสื้อผ้าปะชุนแบบนี้ ก่อนหน้าที่หอหนังสือกับร้านขายผ้า นางไม่ได้รู้สึกถึงสายตาของผู้อื่นเลย ครั้นเข้ามาในหอโอสถแห่งนี้ กลับพบสายตาดูถูกดูแคลนนาง “พี่ชายหอโอสถของท่านรับซื้อสมุนไพรหรือไม่” นางทำใจกล้าถามคนดูแลที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด “แม่นางน้อยหอโอสถของเรารับซื้อสมุนไพรอยู่ ท่านนำสมุนไพรตัวไหนมาขายรึ” นับว่าผู้ดูแลคนนี้ยังปฏิบัติดีต่อนาง เซี่ยซือซือเหลือบตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบเบา ๆ ออกไปว่า “เขากวางอ่อนเจ้าค่ะ” ดวงตาของผู้ดูแลเฉาเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ รีบผายมือเชื้อเชิญนางเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัว พร้อมนำน้ำชาออกมาต้อนรับอีกต่างหาก นี

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   17 : อาซานเจ้าฟื้นแล้วหรือ

    17 : อาซานเจ้าฟื้นแล้วหรือ นางทำให้ห้องครัวในมิติพิเศษมีทุกอย่างครบครัน ทั้งหมดใช้เงินไปไม่ถึงสิบตำลึงด้วยซ้ำ พวกผ้าห่มผืนใหม่ที่ซื้อมา นางคงต้องเก็บไว้ในมิติพิเศษไปก่อน เพราะไม่มีเหตุผลจะมาบอกทุกคนได้ ยามนี้เซี่ยซือซือต้องการเก็บงำเรื่องเงินก้อนนี้เอาไว้ นางไม่อยากเป็นเศรษฐีใหม่ ที่คนอื่นต่างพุ่งความสนใจมาหา ของแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป นางเดินสำรวจในตำบลหานตงเพื่อหาช่องทางหาเงินในอนาคต ในใจพลันสับสนนางจะสามารถสร้างรายได้จากอาชีพอะไรได้บ้าง เอาล่ะตอนนี้นางยังคิดอะไรไม่ออก ใครใช้ให้นางเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาล่ะ หากนางปลูกของกินได้ในมิติพิเศษ นางจะเก็บเกี่ยวมันออกมาอย่างไรไม่ให้ผู้คนสงสัย เป็นปัญหาที่นางนอนคิดมาสองคืนแล้วก็ยังคิดไม่ตก พลังวิเศษมักมากับปัญหาหากใช้พร่ำเพรื่อจนเกินเหตุ ถ้านางเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อที่ดินปลูกบ้านหลังใหม่ แค่คิดผีโหยในบ้านใหญ่สกุลเซี่ย คงไม่ปล่อยให้พวกนางหลุดรอดไปแน่ ให้ตัดขาดจากกันดันไม่มีเหตุผลเพียงพอให้ทำเช่นนั้น ยิ่งยุคโบราณบูชาความกตัญญูแบบไม่สนใจเหตุผลแบบนี้ แค่มีพ่อเฒ่าแม่เฒ่าทิ้งตัวลงไปกลิ้งเกลือกกับดินโคลน ก่นด่าบุตร

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   18 : น้องเล็กก่อเรื่อง

    18 : น้องเล็กก่อเรื่อง “ซือซือเจ้ามาทันเวลาพอดี ซานซานเพิ่งฟื้นเมื่อครู่ใหญ่ ๆ นี้เอง เสี่ยวซือหยางเป็นคนวิ่งไปบอกข้า ข้าเลยให้คนไปตามท่านหมออวี่มาตรวจดูอาการของนาง” นางถานยิ้มจนหน้าบาน เดินไปดึงมือของลูกสะใภ้มาตบปลอบเบา ๆ นี่นับว่าเป็นเรื่องดีของครอบครัวนาง “ท่านหมออวี่อาซานเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” “อาการแทบจะเป็นปกติดีทุกอย่าง ยาที่ข้าให้เจ้ามาได้ผลดีเกินคาด กินไปไม่ทันข้ามวันก็ฟื้นแล้ว” ท่านหมออวี่ยืดอกขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เซี่ยซือซือ “...” เซี่ยซานซาน “...” “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ปวดเมื่อยเนื้อตัวตรงไหนไหม” เซี่ยซือซือเดินเข้าไปหาน้องสาว พร้อมกับลูบศีรษะนางเบา ๆ สายตาของเซี่ยซานซานเหมือนกำลังอยากฟ้องนางเหลือเกิน นี่มันต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ๆ “ไม่ปวดเลยท่านพี่ ข้าเหมือนคนเพิ่งฟื้นจากความตายมา สวรรค์ยังเมตตาข้าอยู่” “ข้าบอกแล้วว่าเสียงของข้า ต้องทำให้พี่รองประทับใจจนต้องฟื้นขึ้นมา” เซี่ยซือหยางกอดอกฉีกยิ้มกว้าง จนเห็นฟันสีขาวเรียงกัน เซี่ยซานซาน “...!” “เช่นนั้นหรอกหรือ น้องเล็กเจ้าเก่ง

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   114 : ยวนยางคู่ (จบ)

    114 : ยวนยางคู่ (จบ) สองเดือนต่อมา เสียงประทัดจุดขึ้นตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ย ถานจ้านเป็นฝ่ายแต่งเข้ามาเป็นเขยของตระกูล คนนอกไม่รู้มักคิดติฉินนินทา แต่การที่เซี่ยซือซืออยู่กับสองแม่ลูกตระกูลถานมาตั้งแต่ต้น พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันมาหลายปีแล้ว ไม่แบ่งแยกว่าใครต้องแต่งเข้าบ้านใคร นางถานเองย่อมรู้ว่าการที่บุตรชายแต่งเข้าบ้านของภรรยา เป็นเพราะเขาต้องการช่วยนางดูแลน้อง ๆ ทั้งสองคน ตัวนางเองมีวันนี้ได้เพราะเซี่ยซือซือเช่นเดียวกัน “เจ้าไม่เสียใจแน่นะเหลี่ยฮวา” แม่เฒ่าจางแอบถามก่อนพิธีเริ่มต้นขึ้น “ข้าไม่เสียใจเจ้าค่ะแม่เฒ่าจาง ลูกชายข้ายังใช้แซ่ของข้ามาตั้งแต่เกิด ข้าไม่สนใจเรื่องชื่อแซ่หรอกเจ้าค่ะ สนใจแค่ว่าเขามีความสุขในชีวิตหรือไม่ ข้าเคยถามเรื่องซื้อเรือนเป็นของตัวเอง จ้านเออร์ปฏิเสธในทันที เขาไม่ยอมแยกจากซือซือไปไหน และรู้ว่านางเองก็ไม่สามารถแยกจากน้อง ๆ ไปได้เช่นเดียวกัน พวกเราอยู่ด้วยกันเช่นนี้ก็มีความสุขดีแล้วนี่เจ้าคะ ยังท่านมีครอบครัวอาจารย์ฮู่ ล้วนแล้วแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน” “เจ้าคิดเช่นนี้ย่อมดีแก่พวกเขา อย่าไปฟังเสียงผ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   113 : ขอแต่งงาน

    113 : ขอแต่งงาน ถานจ้านพานางไปเลือกซื้อโคมไฟอันใหม่ จากนั้นก็ชวนกันไปล่องเรือในบึง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของผืนน้ำ ที่สะท้อนแสงเป็นดวงไฟน้อยใหญ่เต็มไปหมด ฝีพายยืนอยู่ด้านหลังทำเป็นไม่สนใจคู่สามีภรรยา ที่กำลังอิงอกซบไหล่กันอยู่ ถานจ้านถอดเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกออกคลุมให้ภรรยา “ซือซือ” “หืม” “เจ้าอายุสิบแปดแล้วนะ” “อื้ม” “เราแต่งงานกันเถอะ” เซี่ยซือซือ “...” นางรีบดันศีรษะตัวเองออก เงยหน้ามองเขาด้วยความงุนงง “ไม่ใช่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วรึ” “ใช่ แต่เราไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานกัน และยังไม่เคยร่วมหอ” ทำไมเซี่ยซือซือได้ยินแล้วรู้สึกว่า เขาย้ำสองคำสุดท้ายแบบแปลก ๆ ก้มลงเล่นนิ้วมือตัวเองเงียบ ๆ “ร่วมเหอหรือ” พวงแก้มแดงปลั่ง ภายใต้แสงจากโคมไฟที่แขวนไว้ตรงหัวเรือ “เจ้าเคยเล่าให้ข้าฟังว่า โลกของเจ้าบุรุษขอสตรีแต่งงาน จะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย” ถานจ้านล้วงหยิบแหวนหยกเนื้อดีสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ บรรจงสวมใส่บนนิ้วนางข้างซ้ายให้นาง “แต่งงานกับข้านะซือซือ” เซี่ยซือซือมองแหวนบนนิ้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   112 : ชีวิตในเมืองหลวง

    112 : ชีวิตในเมืองหลวง เมื่อแคว้นฉีแพ้สงครามย่อยยับ เพื่อแสดงความจริงใจว่าจะไม่บุกแคว้นจ้าวในช่วงสิบปีนับจากนี้ พวกเขาจึงยอมส่งองค์ชายหกซึ่งมีอายุเพียงห้าปี มาเป็นตัวประกันที่แคว้นจ้าว หลังจากนั้นเพียงห้าเดือน เมืองหลวงได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เนื่องจากฮ่องเต้ทรงสวรรคตลงด้วยโรคร้าย ท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องห้าจึงต้องนำทัพ เข้าไปปราบปรามขุนนางชั่วที่ก่อกบฏ และปลดองค์รัชทายาทผู้ไร้ความสามารถลงจากบัลลังก์ ท่านอ๋องเจ็ดได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ให้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ถัดไป เมืองหลวงที่เคยเต็มไปด้วยขุนนางชั่ว กลับถูกกำจัดทิ้งไปในเวลาเพียงสองปีกว่า แน่นอนว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง คอยเฝ้าดูคนชั่วและชี้เป้าหมายความผิดได้อย่างแม่นยำ ยังเป็นเซี่ยซือซือคนเดิม แม้นางไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ เพราะอยากทำการค้าเพื่อความร่ำรวย แต่หากมีเรื่องสำคัญจริง ๆ อยากให้นางช่วย นางก็พร้อมช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ แม่ทัพโหย่วถูกย้ายมาเป็นแม่ทัพประจำเมืองหลวง ฮ่องเต้ได้มอบจวนให้เขาได้อยู่อาศัยอย่างสมเกียรติ และมอบตำแหน่งให้บุตรชายทั้งสอง โหย่วหยางหลงได้เป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร แม้เขาแขนพ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   111 : ขับไล่ข้าศึก

    111 : ขับไล่ข้าศึก เซี่ยซือซือนอนไปได้เพียงหนึ่งชั่วยามเศษ ท่านอ๋องเจ็ดก็ส่งคนมาตามนางที่กระโจม ให้นางตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ค่ายของข้าศึก เซี่ยซือซือใช้เวลาไม่นานก็พบว่าฤทธิ์ของยาเริ่มทำงาน ท่านหมอใช้ยาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง ไร้รสไร้กลิ่นไร้สี ม้าศึกนับหมื่นตัวล้มเกลื่อนอยู่บนพื้น ส่วนทหารหนึ่งในสี่ต่างก็ลุกไม่ขึ้นเช่นกัน “ได้ผลเจ้าค่ะท่านอ๋อง แม้จำนวนที่ได้รับยาไม่มากนัก แต่ก็ทำให้กองทหารม้าทมิฬไร้อาชาสู้รบได้จริง ๆ” “เช่นนั้นดี ออกคำสั่งไปให้เตรียมตัวออกรบ ส่งข่าวให้ทางซื่อจื่อได้รู้ด้วย” ท่านอ๋องเจ็ดจะรุกฆาตข้าศึกในเช้านี้ เซี่ยซือซือตัดสินใจพูดเรื่องน้ำพุวิเศษกับท่านอ๋องเจ็ดตามลำพัง นางไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้มากนัก แต่ทหารนับแสนนาย นางไม่สามารถลงมือคนเดียวได้ “เจ้าบอกว่าน้ำพุวิเศษสามารถทำให้กำลังวังชาเพิ่มขึ้นได้เช่นนั้นรึ” “เจ้าค่ะ ท่านลองดื่มดูก็ได้แต่แค่อึกเดียวพอนะเจ้าคะ มันช่วยในการรักษาเป็นหลัก ร่างกายคนปกติหากดื่มเกินหนึ่งอึก มันจะส่งผลเสีย” นางล้วงหยิบขวดน้ำพุวิเศษยื่นให้ท่านอ๋องเจ็ด ท่านอ๋องเจ็ดรับข

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   110 :  กำจัดหน่วยสอดแนม

    110 : กำจัดหน่วยสอดแนม ซื่อจื่อได้รับจดหมายเตือนแล้วถึงกับหน้าดำคล้ำในทันที หากไม่มีการเตือนจากฝั่งท่านอ๋องเจ็ด เขาคงไม่ได้สนใจข้าศึกที่แอบมาด้านข้างเป็นแน่ รีบออกคำสั่งให้ทหารหลักสามหมื่นนาย ดักซุ่มโจมตีข้าศึกที่จ้องทำลายคลังเสบียงในคืนนี้ ส่วนข้าศึกด้านหน้าที่แสร้งทำเป็นบุกโจมตี ก็ให้กองทัพย่อย ๆ ออกไปจัดการส่วนหนึ่ง ที่เหลือตรึงกำลังอยู่กับที่ ห้ามผลีผลามโดยเด็ดขาด ยามดึกทหารทั้งสองฝั่งต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถานจ้านนำทหารร้อยนาย ตามด้วยเซี่ยซือซือกับอาจารย์ฮู่ ลอบเข้าไปโจมตีหน่วยสอดแนมของอีกฝ่าย หนนี้พวกมันมากันเพียงสิบสองคน แบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มละหกคน เซี่ยซือซือชี้เป้าให้พลธนูโจมตีได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็ปลีกตัวไปช่วยสามีกับอาจารย์ฮู่ หน่วยสอดแนมทั้งแปดกลายเป็นศพในเวลาอันรวดเร็ว “จุดพลุส่งสัญญาณ” นางสั่งทหารด้านหลัง ปัง ! ปัง ! ตามที่ตกลงกันไว้ หากพลุส่งสัญญาณดังขึ้น รุ่งเช้าทหารทุกนายต้องเดินทางลงจากเทือกเขาชิงเทียนอย่างเงียบ ๆ กลุ่มของถานจ้านจะเดินทางนำหน้าไปก่อน เพื่อที่จะได้ส่งสัญญาณบอกคนด้านหลังเป็นระยะ เป

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ

    109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ เรือนโหย่วเสวี่ยหยา เซี่ยซานซานฝึกฝนวรยุทธ์กับคุณหนูสามจนเหนื่อยล้า นางกำลังนั่งกินขนมที่สาวใช้นำมาให้ ส่วนโหย่วเสวี่ยหยาขอตัวเข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ความจริงนางชวนเซี่ยซานซานไปอาบน้ำด้วย แต่เซี่ยซานซานปฏิเสธไม่อยากรบกวน “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงนุ่มทุ้มของโหย่วหยางหลงดังขึ้นอยู่ด้านหลัง “คุณชายใหญ่” เซี่ยซือซือรีบลุกขึ้นโค้งศีรษะให้เขา “ข้าเห็นสาวใช้บอกว่าเสวี่ยหยามีแขก นึกว่าจะเป็นใครที่ไหนเสียอีก นั่งลงสิเจ้ากำลังกินขนมอยู่ไม่ใช่รึ” “เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานไม่อยากอยู่กับคนผู้นี้ตามลำพัง นางเหมือนเด็กน้อยขี้ขลาด มองไปทางประตูห้องของโหย่วเสวี่ยหยาตลอดเวลา “เหตุใดถึงไม่นั่ง รังเกียจข้ารึ” “มะไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้านั่งแล้ว” นางไม่กล้ามองสบสายตากับเขาด้วยซ้ำ นั่งลงบนเก้าอี้อย่างจำใจ “กลัวข้ารึ” มุมปากของโหย่วหยางหลงกระตุกเบา ๆ นึกอยากแกล้งเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา “เจ้ามาฝึกวรยุทธ์กับน้องสามของข้า เหตุใดไม่มาลองฝึกกับข้าดูบ้างล่ะ” “ข้าฝีมืออ่อนหัดนัก ไม่บังอาจไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   108 :  รักษาท่านอ๋องห้า   

    108 : รักษาท่านอ๋องห้า แม่เฒ่าจางกับเสี่ยวเป่าเริ่มปรับตัวเข้ากับทุกคนได้แล้ว นางคอยช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่าง ไม่ทำตัวนิ่งดูดายแต่อย่างใด แม้ว่านางถานจะบอกให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอันใด แต่ความเกรงใจของหญิงชรานั้นมีมากเหลือเกิน เซี่ยซือซือเลยปล่อยให้ท่านทำไป การอยู่เฉย ๆ จะยิ่งทำให้รู้สึกเครียด นางคอยกำชับแม่เฒ่าจางว่า นางมีเงินสามารถเลี้ยงดูทั้งคู่ได้ ไม่ต้องคิดว่านางจะลำบาก แม่เฒ่าจางถึงได้วางใจ “ท่านพี่ข้าไปหาคุณหนูสามได้หรือไม่” เซี่ยซานซานอยากเจอหน้าโหย่วเสวี่ยหยา นางอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร ถอนหมั้นไปแล้วทางซื่อจื่อจะตำหนินางหรือไม่ “อืม” เซี่ยซือซือคิดหนักเพราะนางต้องไปทำงานนี่สิ “ไปเพิ่มอีกคนคงไม่เป็นไรหรอกซือซือ” ถานจ้านหน้าน้องสาวภรรยาแล้วรู้สึกสงสาร “แล้วน้องเล็กล่ะ” เซี่ยซือซือมองหาน้องชายบ้าง เพราะปกติเซี่ยซานซานจะเป็นคนคอยดูแลเขา เซี่ยซานซาน “เขาเล่นอยู่กับเสี่ยวเป่าหลังบ้านเจ้าค่ะ มีหนิงเซียนคอยดูอยู่” “เจ้าเข้าไปบอกท่านแม่ไว้ก่อน เผื่อไม่เห็นเจ้าท่านจะเป็นห่วงเอา” “ได้ท่านพี่” เซี่ยซา

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่

    107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่ วันต่อมาโรงประมูลหยางชุนกระจายข่าวออกไปอย่างหนาหู ว่าคุณชายเริ่นก้งเยว่ได้นำของล้ำค่ามาร่วมประมูล ผู้คนต่างแห่มาซื้อตั๋วเข้าชมกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงคนในจวนท่านอ๋องห้าด้วย “เจ้าแน่ใจนะว่าข้าเหมือนสตรีแล้ว” สตรีร่างสูงอย่างถานจ้านเริ่มรู้สึกประหม่า เขาแอบออกมาแต่งตัวที่โรงเตี๊ยมด้านนอก เพราะไม่อยากให้คนในบ้านรู้เรื่องนี้ “พี่หญิงใหญ่เหตุใดไม่เชื่อมือข้าล่ะขอรับ” เซี่ยซือซือที่อยู่ในชุดของคุณชายเริ่นก้งเยว่กลั้นขำแทบตาย นางถักเปียทำมวยผมให้เขาอย่างน่ารัก ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างสวยงาม “พี่หญิงใหญ่ท่านงามมากขอรับ บุรุษในโรงประมูลต้องคลั่งไคล้ท่านแน่” ถานจ้าน “...!?” เขามองพ่อหนุ่มน้อยหน้าตาเกลี้ยงเกลาตรงหน้า นางจะรู้บ้างไหมว่าแต่งเช่นนี้แล้วดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งนัก “เจ้ารีบสวมหมวกเถอะ” เขาหยิบหมวกใบใหญ่ครอบลงบนศีรษะของนาง ก่อนจะสวมให้ตัวเองอีกด้วย หากเซี่ยซือซือไม่บอกว่านางสวมหมวกปิดบังใบหน้า ไว้ตลอดเวลาที่ปลอมตัวเป็นคุณชายเริ่นก้งเยว่ เขาคงห้ามไม่ให้นางเข้าไปยังโรงประมูลแล้ว ก่อนหน้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! 

    106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! รถม้าวิ่งช้า ๆ ผ่านถนนที่มีขอทานกับคนไร้บ้านรวมตัวกันอยู่ เซี่ยซือซือไม่อยากให้น้องชายของนาง เห็นภาพน่าเวทนาเหล่านี้ นางอยากพาเขากลับเข้าไปนั่งในรถม้า แต่ไม่มีที่ให้จอดรถม้าได้อย่างปลอดภัย หากจอดไปแล้วเกรงว่าคนไร้บ้านเหล่านี้ จะกรูกันเข้ามารุมทึ้งรถม้าของนางเข้า จึงต้องให้เขานั่งอยู่บนตักของนางต่อไป เซี่ยซือหยางกินขนมในมือแล้วมองสองข้างทางไปด้วย เขาเห็นคนยากไร้นอนเกลื่อนข้างถนนเต็มไปหมด เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า ก้มลงมองขาสั้น ๆ กับนิ้วมือป้อม ๆ ของตัวเอง จะไปช่วยเหลืออันใดผู้อื่นได้ “แต่เอ๋ ?” เขาหันกลับไปมองดูอีกที ขนมในมือถูกปล่อยทิ้งลงพื้น ลุกขึ้นยืนหันหน้ามองไปยังด้านหลัง “น้องเล็กอันตรายอย่าลุก” เซี่ยซือซือจับเขาเอาไว้แน่น ๆ แต่เหตุใดเขาถึงได้ดิ้นรน อยากมองไปด้านหลังเช่นนี้ “เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม !” ถานจ้านถึงกับค่อย ๆ หยุดรถม้าลง เขาหันไปมองหน้าเซี่ยซือหยางด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวซือหยางเจ้าเรียกใคร” “เหมือนข้าจะเห็นเสี่ยวเป่า” เขาพูดคล้ายไม่แน่ใจ “เสี่ยวเป

DMCA.com Protection Status