Share

11 : ท่านแม่ ท่านขาดทุนแล้วล่ะ

Author: หิมะที่ปลิดปลิว
last update Last Updated: 2024-11-26 11:19:20

11 : ท่านแม่ ท่านขาดทุนแล้วล่ะ

          “ท่านพี่สามีท่านงามมาก” เซี่ยซือหยางเอ่ยขึ้นหลังก้าวเท้าเข้าไปภายในห้องนอนของพวกเขาแล้ว

          ทันใดนั้นคนบนเตียงนอนก็ลืมตาขึ้นข้างเดียว เงี่ยหูฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มไปหมด ก่อนหน้าเซี่ยซานซานผุดลุกผุดนั่ง คลายความขบเมื่อยอยู่หลายรอบ พอได้ยินเสียงคนเดินมานางก็รีบกลับไปนอนนิ่งอยู่ตามเดิม นางเองก็อยากเห็นพี่เขยของตัวเองเหมือนกัน ตั้งแต่ถานจ้านพิการเขาก็ไม่ค่อยออกจากบ้านไปไหน ภาพจำของนางจึงติดอยู่ตอนก่อนที่เขาจะพิการ

          “เจ้าอย่าได้เอ่ยคำนี้ต่อหน้าพี่ถานจ้านเด็ดขาด บุรุษไม่พึงพอใจให้ผู้อื่นชมตนเองว่างามหรอก ต้องชมว่าหล่อเหลาเข้าใจไหม”

          “เช่นนั้นข้าก็ต้องหล่อเหลาใช่ไหมท่านพี่” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นยิ้มตาหยีให้พี่สาว

          “ถูกต้องน้องเล็กของข้านั้นหน้าตาหล่อเหลาเหลือเกิน ปานเทพเซียนตัวน้อย ๆ” เซี่ยซือซืออุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา แล้วแนบแก้มถูไถเบา ๆ

          “ท่านพี่บุรุษสตรีไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน”

          “ไอหยา ! เจ้าตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นบุรุษหรอก” นางอุ้มน้องชายขึ้นแล้วหมุนไปรอบ ๆ เจ้าตัวส่งเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างชอบใจ ยามพี่สาวหยุดหมุนก็ส่งเสียงเร่งเร้า “ท่านพี่เอาอีก หมุน ๆ อีก ฮะ ๆ ๆ”

          เซี่ยซานซาน “...”

          ท่านพี่เล่นสนุกกันเชียว ท่านอย่าลืมข้าสิ นางปรือตามองทั้งคู่อย่างอิจฉา นางให้คำสัญญากับพี่สาวไปแล้วว่าจะเชื่อฟังทุกคำ จึงต้องแสดงละครบทนี้ต่อไป

          เหมือนเซี่ยซือซือจะล่วงรู้ความคิดของน้องสาว นางวางเซี่ยซือหยางให้นั่งเล่นอยู่มุมห้อง เดินไปทิ้งสะโพกลงนั่งบนขอบเตียง จับมือน้องสาวมาบีบเบา ๆ เอ่ยกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน

          “เมื่อครู่ท่านป้าถานพาข้ากับน้องเล็กไปทำความรู้จักกับพี่ถานจ้าน ข้าขอดูสถานการณ์ในบ้านสกุลถานไปสักวันสองวันก่อน ถ้าท่านป้าถานดีไว้ใจได้เจ้าค่อยฟื้นขึ้นมานะอาซาน” นางเอ่ยจบก็ตบหลังมือน้องสาวเบา ๆ

          เด็กน้อยที่นั่งเล่นอยู่คนเดียว แต่สายตากลับมองไปที่เตียงนอนอยู่ตลอดเวลา ในหัวเซี่ยซือหยางเต็มไปด้วยความสงสัย อดใจที่จะตะโกนถามขึ้นไม่ได้ “ท่านพี่พี่รองยังไม่ฟื้น ท่านพูดไปนางก็ไม่รู้เรื่องหรอก”

          เซี่ยซานซาน “...”

          เซี่ยซือซือถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ “ข้าก็พูดไปเรื่อย ไม่แน่นะพี่รองของเจ้าได้ยินเสียงของข้าแล้ว อาจจะตื่นขึ้นมาวันพรุ่งนี้เลยก็ได้”

          “จริงหรือท่านพี่ !” เซี่ยซือหยางก้าวขาสั้น ๆ มาหาพี่สาวทั้งสองคน แววตาฉายประกายความหวังขึ้นมา ทำท่าจะใช้ขาสั้น ๆ ปีนขึ้นเตียงนอน

          “เจ้าทำอันใด”

          “ข้าก็จะพูดกับพี่รองอย่างไรเล่า เสียงของข้าพี่รองต้องประทับใจจนตื่นขึ้นมาแน่”

          เซี่ยซานซาน “...”

          ข้าไม่ต้องการ !

          ก่อนที่น้องเล็กของพวกนางจะก่อเรื่อง เซี่ยซือซือก็อุ้มเจ้าตัวน้อยหมุนตัวไปรอบ ๆ บริเวณห้อง ทำให้เขาหลุดความสนใจออกจากเซี่ยซานซานไปได้ ปากของเซี่ยซือหยางเอาแต่พร่ำบอกว่า “ฮะฮะ ท่านพี่ สูง ๆ”

          ภายในห้องนอนของถานจ้าน นางถานพยายามอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ลูกชายฟังอย่างใจเย็น แม้ว่าลูกชายของนางจะหน้านิ่วคิ้วขมวด พร้อมถอนหายใจหนัก ๆ ออกมาอยู่บ่อยครั้งก็ตาม

          “ท่านแม่ ท่านขาดทุนแล้วล่ะ” ถานจ้านเอ่ยขึ้นหลังมารดาของเขาเล่าจบ มีอย่างที่ไหนซื้อหนึ่งแถมสอง คนหนึ่งป่วยนอนแน่นิ่งขยับตัวไม่ได้ อีกคนยังเป็นเพียงเด็กเล็กอยู่ ไม่ใช่ว่าต้องเสียเงินเสียทองดูแลมากกว่าคนทั่วไปหรอกหรือ

          “ขาดทุนอันใดกัน เจ้ามีภรรยาคอยดูแลแล้ว ต่อไปข้าก็ตายตาหลับ”

          “ท่านแม่ท่านอย่าได้พูดเช่นนี้” สีหน้าของถานจ้านเจ็บปวดเหลือคณา ย่อมรู้ว่ามารดาทำเช่นนี้เพราะหวังดีต่อเขา กระทั่งเงินเก็บก้อนสุดท้ายยังเอาไปซื้อภรรยามาให้เขา

          “ซือซือสาบานต่อหน้าฟ้าดินแล้วว่าจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเด็ดขาด ข้าเชื่อนาง”

          “นางอายุเท่าใดกันท่านแม่ จะมาดูแลข้าได้อย่างไรกัน แล้วดูนางสิผอมแห้งขาดสารอาหารปานนั้น ข้าว่าท่านมีแต่จะเพิ่มภาระหนักให้ตัวเองมากกว่า”

          “เอาเถอะ ๆ คนก็ซื้อมาแล้วจะไล่กลับก็ไม่ได้”

          “ท่านเลี้ยงเด็กสามคนไม่ได้ ยิ่งมีคนหนึ่งนอนติดเตียงแบบนั้นด้วย”

          “ซือซือสัญญาแล้วว่าเรื่องอาหารการกินของน้อง ๆ ของนาง จะไม่มาหยิบฉวยเอาจากบ้านเรา”

          “ท่านเชื่อนางหรือท่านแม่” ด้วยนิสัยของมารดา มีหรือจะดูดายเด็กพวกนั้นได้ 

          “เรื่องยังมาไม่ถึงเจ้าก็อย่าเพิ่งคิดไปก่อน เอาเป็นว่าคืนนี้ข้าจะให้ซือซือมานอนกับเจ้าก็แล้วกัน”

          “ท่านแม่นางยังเด็ก !”

          “เด็กแล้วอย่างไร นางคือภรรยาของเจ้า ให้นางมาคอยดูแลเจ้ายามค่ำคืน คอยหยิบกระโถนให้เจ้าอย่างไรเล่า”

          “หยิบกระโถน ?” ข้าคงคิดมากไปเองสินะ

          “ข้าไม่ชอบนอนกับผู้อื่น”

          “ให้นางนอนพื้น !”

          ถานจ้าน “... ”

          นางถานเดินออกจากห้องลูกชายไป ตรงไปหาเซี่ยซือซือที่ห้องของนาง ได้ยินเสียงหัวเราะสดใสของเด็กน้อยดังอยู่ในห้อง ในใจของนางถานรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา นางอยู่กับถานจ้านมาหลายปี แทบไม่ได้ยินเสียงหัวเราะเลยสักครั้ง ลูกชายของนางไม่ใช่เด็กช่างเล่น พอโตขึ้นก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาหาความรู้ ยามมีสหายจากตำบลมาหา ก็พากันท่องตำราอย่างเคร่งเครียด ไหนเลยจะมีเสียงหัวเราะให้ได้ยินเช่นวันนี้

          “ซือซือ” เพราะประตูเปิดแง้มไว้ นางถานจึงผลักออกแล้วเดินเข้าไปได้เลย

          “ท่านป้าถานคุยกับพี่จ้านเสร็จแล้วหรือเจ้าคะ”

          “อืมเสร็จแล้ว ข้าจะมาบอกให้เจ้าเอาเสื้อผ้าไปไว้ในห้องของจ้านเออร์”

          “ท่านป้าถานนี่ท่าน” เซี่ยซือซือหรี่ตาลงอย่างไม่ไว้วางใจ นางอายุสิบสามปีเท่านั้นเอง อย่าได้ลืมเชียวละ

          “เจ้าเป็นภรรยาจ้านเออร์ก็ต้องนอนห้องเดียวกับเขาสิ ไปเอาเสื้อผ้าเจ้าออกมา” นางถานกุลีกุจอช่วยยกห่อผ้าของลูกสะใภ้ไป ไว้ในห้องนอนของลูกชาย ไม่ลืมดึงมือของเซี่ยซือซือให้เดินตามไปด้วย

          เซี่ยซือหันมามองน้องชายตนเองเล็กน้อย “น้องเล็กเจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่รองที่นี่ก่อนนะ”

          “ขอรับท่านพี่” เด็กน้อยมองตามหลังพี่สาวไปอย่างไม่เข้าใจ

          ไม่ใช่ว่าเพิ่งไปห้องของพี่เขยมาไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้ไปอีกแล้วล่ะ

          นางถานเดินนำหน้าลูกสะใภ้ไปยังห้องนอนของลูกชายตนเอง นางรู้ว่าเซี่ยซือซือต้องมีคำถามอีกมากมายตามมา “เจ้าไม่ต้องถามอันใดอีกซือซือ ทำตามที่ข้าบอกเป็นพอ”

          เซี่ยซือซือไม่ได้ตอบกลับทำเพียงพยักหน้าลงอย่างเชื่องช้า มองประตูห้องของถานจ้านด้วยความไม่สบายใจ

          “จ้านเออร์ข้าเอาเสื้อผ้าของซือซือมาไว้ในห้องของเจ้านะ” บอกแล้วเดินเอาห่อผ้าไปใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าของลูกชาย “ซือซือเจ้าอยู่ดูแลสามีของเจ้าอยู่ที่นี่ไปก่อน น้อง ๆ ของเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะดูแลให้เอง วันนี้เจ้าไม่ต้องหาอาหารให้น้อง ถือว่าข้าเลี้ยงต้อนรับสะใภ้ก็แล้วกัน”

          เอ่ยเพียงเท่านั้นนางถานก็เดินออกจากห้องของลูกชายไป ปล่อยให้เซี่ยซือซือยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางห้อง ส่วนเจ้าของห้องนั้นทำเหมือนนางเป็นฝุ่นผงในอากาศ หันไปคัดตำราของตนเองต่อ

          เจ้าเด็กหน้าตายนี่ !

          “เอ่อ ข้าควรเรียกท่านว่าอย่างไร” นางทำใจกล้าเดินเข้าไปหาถานจ้านใกล้ ๆ แต่เขาไม่ตอบไม่รับรู้การมีตัวตนของนางด้วยซ้ำ

          “พี่จ้าน”

          “ท่านพี่”

          “หรือว่า...สามี”

          ถานจ้าน “...!”

          มีปฏิกิริยาแล้วสินะ เจ้าไม่อยากได้ข้าเป็นภรรยา ข้าก็ไม่อยากได้เจ้าเป็นสามีเหมือนกัน แต่ข้ายังเด็กอยู่ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกกับน้อง ๆ ตอนนี้ยังไม่ได้ รอข้าร่ำรวยก่อนเถอะ !

          ถานจ้านวางพู่กันในมือลง เงยหน้าขึ้นมามองภรรยาตัวน้อยของตนเอง สีหน้าใสซื่อเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอันใด ช่างขัดใจเขานัก “เรียกข้าว่าพี่จ้านก็พอ ส่วนสองคำนั้นอย่าได้คิด ซือซือเจ้าอายุสิบสามใช่ไหม”

          “เจ้าค่ะ”

          “ยังเด็กเกินไป”

          “ถูกของท่าน ข้านั้นยังเด็กอยู่ยังเข้าหอไม่ได้เจ้าค่ะ !”

          ถานเจ้า “...!” เจ้าคิดไปถึงไหนกัน “เช่นนั้นเจ้ามีประโยชน์อันใดต่อข้า”

          “ประโยชน์ ?” เซี่ยซือซือกะพริบตาปริบ ๆ

          ไม่ใช่ท่านแม่ของเจ้าหรอกหรือที่ซื้อข้ามา ทำไมยามนี้กลายเป็นข้าต้องมามองหาประโยชน์ของตัวเองเสียแล้วล่ะ ประโยชน์ของข้านั้นเกินจะคณานับ เพียงแต่ข้าต้องใช้มันกับคนที่คู่ควรเท่านั้น เซี่ยซือซือคิดแล้วก็ปรายตามองไปที่ขาด้านซ้ายของเขา ตั้งแต่เข้าบ้านหลังนี้มานางยังไม่เห็นตอนเขายืน

          ถานเจ้าชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ น้อยคนนักจะหาญกล้ามองขาข้างซ้ายของเขาตรง ๆ “ว่าอย่างไร ข้าถามว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง”

          เซี่ยซือซือยกนิ้วขึ้นมานับระหว่างเฟ้นหาประโยชน์ของตัวเอง “ข้าปัดกวาดเช็ดถูได้ ทำอาหารได้ ซักเสื้อผ้าได้...”  พลันสมองก็คิดต่อไม่ออก

          “หยิบกระโถนด้วย” ถานจ้านต่อคำให้นางเอง

          “หา หยิบกระโถน ?”

          “ท่านแม่ให้เจ้ามานอนในห้องของข้า ต้องการให้เจ้าช่วยหยิบกระโถนให้ข้ายามค่ำคืน เพราะข้าเดินเหินไม่สะดวก”

          เซี่ยซือซือ ” ...”

          เกินไปแล้ว ! เจ้ามนุษย์หน้าตายผู้นี้ ต้องการให้นางหยิบกระโถนถ่ายหนักถ่ายเบาให้ตอนกลางคืนเช่นนั้นหรือ นางผงะอย่างตกใจเล็กน้อย

          “ท่านป้าถานคงไม่ได้ซื้อข้ามาเป็นคนใช้ท่านใช่ไหม” นางอดถามออกไปตรง ๆ ไม่ได้

          ถานจ้านกลอกตามองคนถามเล็กน้อย จากนั้นก็ระบายลมหายใจแผ่วเบาตามมา “ก่อนถึงวัยปักปิ่น[1]เจ้าย่อมเป็นคนใช้ไปก่อน”

          เป็นคนใช้ไปก่อน ! เซี่ยซือซือโกรธจนหน้าดำคล้ำ เจ้าเด็กนี่อยากให้นางมาเป็นคนรับใช้ พอถึงอายุสิบห้าก็เลื่อนตำแหน่งเป็นภรรยา ไหนเลยจะมีเรื่องดีเช่นนั้น ขาของเจ้าข้าไม่รักษาให้แล้ว !

[1] พิธีปักปิ่น หรือ จี้หลี่ คือพิธีบรรลุนิติภาวะของเด็กสาว เป็นหญิงสาวเต็มตัว พร้อมที่จะออกเรือน พิธีจะจัดขึ้นเมื่อเด็กหญิงอายุครบ 15 ปี โดยการนำปิ่นปักผมมาเสียบบนเรือนผมที่รวบขึ้นมาไว้กลางศีรษะ

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   12 : เหมือนข้าเห็นนิ้วมือของอาซานขยับได้

    12 : เหมือนข้าเห็นนิ้วมือของอาซานขยับได้ “ท่านพี่ท่านป้าให้ข้ามาตามท่าน” เสียงของเซี่ยซือหยางดังขัดจังหวะของทั้งคู่ ศีรษะน้อย ๆ ของเขายื่นออกมา ผ่านช่องประตูที่แง้มไว้เพียงเล็กน้อย “มีเรื่องอันใดน้องเล็ก” เซี่ยซือซือเห็นน้องชายไม่กล้าเข้ามาก็นึกแปลกใจ “ท่านหมออวี่มาหาท่านพี่ขอรับ” เซี่ยซือซือขานรับในลำคอ หันไปทางเจ้าของห้อง เห็นเขาหันหลังกลับไปคัดลอกตำราต่อ ไม่ได้สนใจนางเลยแม้แต่น้อย เซี่ยซือซือทำปากยื่นใส่อย่างหมั่นไส้ เขาก่อนหมุนตัวออกจากห้องไป “น้องเล็กทำไมไม่เข้าไปในห้องล่ะ” นางจูงมือน้องชายเดินไปตามทางเดิน “ท่านป้าถานบอกว่า ห้ามข้าเข้าห้องพี่เขยก่อนได้รับอนุญาต” พี่เขย ! ทำไมคำนี้ทำนางรู้สึกกระดากอายชอบกล “เช่นนั้นเจ้าต้องส่งเสียงบอกเจ้าของห้องก่อน รอให้เขาอนุญาตค่อยเปิดประตูเข้าไป” “อื้ม ข้าจะจำไว้” ทั้งคู่เดินมาถึงห้องโถงของบ้านสกุลถาน เห็นนางถานนั่งคุยเป็นเพื่อนท่านหมออวี่อยู่ บนโต๊ะด้านข้างมีกาชาร้อนวางต้อนรับ “เจ้ามาพอดีเลยซือซือ ท่านหมออวี่มีธุระเรื่องน้องสาวของเจ้า

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   13 : น้าเหลียนฮวาช่างโง่นัก

    13 : น้าเหลียนฮวาช่างโง่นัก ก่อนถึงบ้านสกุลถาน เซี่ยซือซือได้นำปลา หน่อไม้ และเห็ดเยื่อไผ่ส่วนหนึ่งออกมาใส่ตะกร้าบนหลัง ยังมีผักป่ากับสมุนไพรอีกหลายชนิดที่นางเก็บกลับมาด้วย นางเหลือเห็ดเยื่อไผ่เอาไว้ในมิติพิเศษ เพื่อนำไปขายในวันพรุ่งนี้ พอกลับมาถึงหน้าบ้านสกุลถาน บรรยากาศภายในบ้านกลับดูแปลกไป นางถานนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงห้องโถงเพียงลำพัง “ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” เซี่ยซือซือปลดตะกร้าบนหลังวางลงที่พื้น “เจ้าบอกข้ามาตามตรงซือซือ เจ้ารังเกียจจ้านเออร์ของข้าหรือไม่” “ท่านแม่เหตุใดถึงถามข้าเช่นนี้” “ชาวบ้านต่างหาว่าข้าโง่นักที่ซื้อเจ้ามาเป็นภรรยาให้จ้านเออร์ ทั้งที่เจ้าไม่ได้เต็มใจอีกทั้งยังรังเกียจ ที่ลูกชายของข้าพิการ จนคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย” ตอนเย็นนางถานเดินไปซื้อไข่ไก่ที่บ้านของหวางชุนลี่ กลับได้ยินหวางชุนลี่พูดกับอวี่กุ้ยสามีของนาง ว่าเห็นกับตาตอนเซี่ยซือซือกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย นางไม่ได้พลัดตกน้ำไปเองอย่างที่ทุกคนคิดกัน “สามีข้าน้าเหลียนฮวาช่างโง่นัก ซือซือรังเกียจที่ถานจ้านพิการ จนเลือกกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   14 : แอบช่วยแม่สามี

    14 : แอบช่วยแม่สามี อาหารบนโต๊ะมีซุปเยื่อไผ่ ปลาตุ๋นสมุนไพรจีน ผัดผักป่า แล้วยังมีไข่ตุ๋นเห็ดหอมอีกด้วย เซี่ยซือซือหุงข้าวขาวให้สองแม่ลูก ส่วนนางกับน้อง ๆ ยังคงกินโจ๊กธัญพืชหยาบผสมกับมันฝรั่ง นางถานเห็นอาหารบนโต๊ะแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก สองแม่ลูกจึงกินแค่ผัดผักป่ากับไข่ตุ๋นเห็ดหอม ไม่กล้าแตะต้องซุปเยื่อไผ่กับปลาตุ๋นสมุนไพรจีน เซี่ยซือซือเห็นเช่นนั้นจึงหยิบถ้วยมาตักอาหารทั้งสองชนิด วางตรงหน้าของนางถานก่อน “ท่านแม่ปลาตุ๋นกับซุปเยื่อไผ่นี่ข้าตั้งใจทำเลยนะเจ้าคะ ท่านลองชิมดูหน่อยว่าฝีมือข้าเป็นอย่างไรบ้าง” ก่อนจะยื่นอีกถ้วยให้ถานจ้าน “พี่จ้านท่านก็ลองดูหน่อย ข้าไม่ค่อยถนัดเรื่องทำอาหาร พวกสมุนไพรที่ใส่วันนี้ก็เก็บเอาตามป่าเขานั่นแหละ” นางใช้ขิง ต้นหอมป่า เห็ดหอมป่า มาเป็นส่วนผสม ปรุงรสด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว รสชาติจึงไม่อาจรู้ได้ ว่าจะอร่อยถูกใจผู้อื่นไหม เซี่ยซือซือไม่รอฟังความเห็นของสองแม่ลูก นางหันไปใส่ใจน้องชายของตัวเองต่อ “น้องเล็กเนื้อปลานี่ดูก้างดี ๆ ด้วยล่ะ เผื่อหลุดรอดสายตาข้าไป” เซี่ยซือหยางคีบเนื้อปลาเข้าปาก

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   15 : เข้าตำบลหานตง

    15 : เข้าตำบลหานตง เซี่ยซือซือสะพายตะกร้าที่ใส่เห็ดเยื่อไผ่เอาไว้ นางถานนำห่อผ้าเช็ดหน้าปักของตัวเองกับตำราของลูกชาย มาส่งยื่นให้นางถือไป เพราะกลัวจะทำให้เห็ดเยื่อไผ่ช้ำ และตำราอาจได้รับความเสียหาย พอพ้นสายตาคนในบ้านไป เซี่ยซือซือตั้งใจนำของในมือใส่ไว้ในมิติพิเศษ เหลือไว้แค่เห็ดเยื่อไผ่ในตะกร้า “ลำบากเจ้าแล้วซือซือ รีบไปเถอะก่อนที่เกวียนของเฒ่าอวี่ไห่จะออกไปเสียก่อน นี่เอาไว้จ่ายค่าเกวียน” เงินสองอีแปะถูกยัดใส่มือของเซี่ยซือซือ “หลังได้เงินค่าผ้าปักมาแล้ว เจ้านำไปซื้อข้าวกับธัญพืชกลับมาด้วย กะว่าให้กินได้หลายวันเสียหน่อย ส่วนค่าคัดลอกตำราของจ้านเออร์เจ้าห้ามใช้ เงินส่วนนั้นให้นำกลับมาให้จ้านเออร์ทั้งหมด” “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ฝากท่านดูแลน้องชายของข้าด้วยนะเจ้าคะ ส่วนอาซานข้าป้อนยานางไปแล้ว” “ได้เดินทางดี ๆ ล่ะ เจอคนแปลกหน้าก็ไม่ต้องไปคุยด้วย ได้เงินมาแล้วต้องเก็บให้ดี ๆ อย่าให้คนอื่นมาฉกฉวยเอาไปได้” นางถานมองลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง แต่อย่างไรเสียนางต้องปล่อยให้เซี่ยซือซือทำเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเอง “เจ้าค่ะท่านแม่” เซ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   16 : ขายเขากวางอ่อน

    16 : ขายเขากวางอ่อน ระหว่างทางที่เดินออกมาจากร้านขายผ้าหยู่จี้ เซี่ยซือซือมองเห็นแม่เฒ่านางหนึ่งนั่งขายถังหูลู่[1]อยู่ อดนึกถึงน้องทั้งสองคนของนางไม่ได้ เอาไว้ทำธุระสำคัญเสร็จดีเสียก่อน นางค่อยกลับมาซื้อกลับไปฝากพวกเขา หอโอสถหยวนเป่า เป็นเรือนไม้สองชั้น มีขนาดค่อนข้างใหญ่โต เซี่ยซือซือสัมผัสได้ว่าผู้คนที่เดินเข้าออกหอโอสถแห่งนี้ ล้วนแต่งตัวดูดีกันทุกคน มีเพียงนางที่ดูซอมซ่อในชุดเสื้อผ้าปะชุนแบบนี้ ก่อนหน้าที่หอหนังสือกับร้านขายผ้า นางไม่ได้รู้สึกถึงสายตาของผู้อื่นเลย ครั้นเข้ามาในหอโอสถแห่งนี้ กลับพบสายตาดูถูกดูแคลนนาง “พี่ชายหอโอสถของท่านรับซื้อสมุนไพรหรือไม่” นางทำใจกล้าถามคนดูแลที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด “แม่นางน้อยหอโอสถของเรารับซื้อสมุนไพรอยู่ ท่านนำสมุนไพรตัวไหนมาขายรึ” นับว่าผู้ดูแลคนนี้ยังปฏิบัติดีต่อนาง เซี่ยซือซือเหลือบตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบเบา ๆ ออกไปว่า “เขากวางอ่อนเจ้าค่ะ” ดวงตาของผู้ดูแลเฉาเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ รีบผายมือเชื้อเชิญนางเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัว พร้อมนำน้ำชาออกมาต้อนรับอีกต่างหาก นี

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   17 : อาซานเจ้าฟื้นแล้วหรือ

    17 : อาซานเจ้าฟื้นแล้วหรือ นางทำให้ห้องครัวในมิติพิเศษมีทุกอย่างครบครัน ทั้งหมดใช้เงินไปไม่ถึงสิบตำลึงด้วยซ้ำ พวกผ้าห่มผืนใหม่ที่ซื้อมา นางคงต้องเก็บไว้ในมิติพิเศษไปก่อน เพราะไม่มีเหตุผลจะมาบอกทุกคนได้ ยามนี้เซี่ยซือซือต้องการเก็บงำเรื่องเงินก้อนนี้เอาไว้ นางไม่อยากเป็นเศรษฐีใหม่ ที่คนอื่นต่างพุ่งความสนใจมาหา ของแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป นางเดินสำรวจในตำบลหานตงเพื่อหาช่องทางหาเงินในอนาคต ในใจพลันสับสนนางจะสามารถสร้างรายได้จากอาชีพอะไรได้บ้าง เอาล่ะตอนนี้นางยังคิดอะไรไม่ออก ใครใช้ให้นางเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาล่ะ หากนางปลูกของกินได้ในมิติพิเศษ นางจะเก็บเกี่ยวมันออกมาอย่างไรไม่ให้ผู้คนสงสัย เป็นปัญหาที่นางนอนคิดมาสองคืนแล้วก็ยังคิดไม่ตก พลังวิเศษมักมากับปัญหาหากใช้พร่ำเพรื่อจนเกินเหตุ ถ้านางเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อที่ดินปลูกบ้านหลังใหม่ แค่คิดผีโหยในบ้านใหญ่สกุลเซี่ย คงไม่ปล่อยให้พวกนางหลุดรอดไปแน่ ให้ตัดขาดจากกันดันไม่มีเหตุผลเพียงพอให้ทำเช่นนั้น ยิ่งยุคโบราณบูชาความกตัญญูแบบไม่สนใจเหตุผลแบบนี้ แค่มีพ่อเฒ่าแม่เฒ่าทิ้งตัวลงไปกลิ้งเกลือกกับดินโคลน ก่นด่าบุตร

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   18 : น้องเล็กก่อเรื่อง

    18 : น้องเล็กก่อเรื่อง “ซือซือเจ้ามาทันเวลาพอดี ซานซานเพิ่งฟื้นเมื่อครู่ใหญ่ ๆ นี้เอง เสี่ยวซือหยางเป็นคนวิ่งไปบอกข้า ข้าเลยให้คนไปตามท่านหมออวี่มาตรวจดูอาการของนาง” นางถานยิ้มจนหน้าบาน เดินไปดึงมือของลูกสะใภ้มาตบปลอบเบา ๆ นี่นับว่าเป็นเรื่องดีของครอบครัวนาง “ท่านหมออวี่อาซานเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” “อาการแทบจะเป็นปกติดีทุกอย่าง ยาที่ข้าให้เจ้ามาได้ผลดีเกินคาด กินไปไม่ทันข้ามวันก็ฟื้นแล้ว” ท่านหมออวี่ยืดอกขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เซี่ยซือซือ “...” เซี่ยซานซาน “...” “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ปวดเมื่อยเนื้อตัวตรงไหนไหม” เซี่ยซือซือเดินเข้าไปหาน้องสาว พร้อมกับลูบศีรษะนางเบา ๆ สายตาของเซี่ยซานซานเหมือนกำลังอยากฟ้องนางเหลือเกิน นี่มันต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ๆ “ไม่ปวดเลยท่านพี่ ข้าเหมือนคนเพิ่งฟื้นจากความตายมา สวรรค์ยังเมตตาข้าอยู่” “ข้าบอกแล้วว่าเสียงของข้า ต้องทำให้พี่รองประทับใจจนต้องฟื้นขึ้นมา” เซี่ยซือหยางกอดอกฉีกยิ้มกว้าง จนเห็นฟันสีขาวเรียงกัน เซี่ยซานซาน “...!” “เช่นนั้นหรอกหรือ น้องเล็กเจ้าเก่ง

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   19 : ไอหยา ! วันนี้ข้ามีเนื้อกินอีกแล้ว

    19 : ไอหยา ! วันนี้ข้ามีเนื้อกินอีกแล้ว เซี่ยซือซือเดินกลับมายังห้องครัวของบ้าน เห็นนางถานกำลังหิ้วเนื้อหมูหนึ่งก้อนขึ้นมา สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความสงสัย “นี่มันเนื้อหมูน้ำหนักสองจิน[1]ใช่ไหมซือซือ” “เจ้าค่ะท่านแม่ พวกข้าขาดเนื้อมาหลายปีแล้ว อยู่ที่บ้านหลังเก่าท่านย่าไม่เคยให้พวกข้ากินเนื้อเลยเจ้าค่ะ พอวันนี้มีเงินก็อยากซื้อเนื้อมาให้น้อง ๆ ได้กินบ้าง ท่านแม่ท่านอย่าหาว่าข้าใช้เงินเปลืองเลยนะเจ้าคะ น้อง ๆ ของข้าอยู่ในวัยกำลังโต พวกเขาควรได้กินของดี ๆ บ้าง” อย่าว่าแต่เนื้อเลยอาหารดี ๆ ยังหากินได้ยาก ส่วนใหญ่พวกนางสามพี่น้อง มักได้อาหารเหลือกินของทุกคนด้วยซ้ำ เพราะไม่มีบิดามารดาคอยหนุนหลัง ทุกคนจึงเอารัดเอาเปรียบอยู่ร่ำไป เจ้าของร่างเดิมเป็นคนไม่มีปากเสียง ถือเรื่องกตัญญูต่อผู้อาวุโสมาก่อน แม่เฒ่าเซี่ยบอกให้ไปซ้าย นางจะไม่มีวันไปทางขวาเด็ดขาด “ข้าจะไปว่าเจ้าได้อย่างไรซือซือ เงินนั้นเป็นของเจ้า ดีแล้วที่เจ้าคิดถึงเรื่องพวกนี้ น้องของเจ้ารวมถึงตัวเจ้าด้วยผ่ายผอมเกินไปจริง ๆ” นางถานวางเนื้อหมูที่เดิม นางเข้าใจความคิดของลูกสะใภ้เป็นอย่างดี

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   114 : ยวนยางคู่ (จบ)

    114 : ยวนยางคู่ (จบ) สองเดือนต่อมา เสียงประทัดจุดขึ้นตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ย ถานจ้านเป็นฝ่ายแต่งเข้ามาเป็นเขยของตระกูล คนนอกไม่รู้มักคิดติฉินนินทา แต่การที่เซี่ยซือซืออยู่กับสองแม่ลูกตระกูลถานมาตั้งแต่ต้น พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันมาหลายปีแล้ว ไม่แบ่งแยกว่าใครต้องแต่งเข้าบ้านใคร นางถานเองย่อมรู้ว่าการที่บุตรชายแต่งเข้าบ้านของภรรยา เป็นเพราะเขาต้องการช่วยนางดูแลน้อง ๆ ทั้งสองคน ตัวนางเองมีวันนี้ได้เพราะเซี่ยซือซือเช่นเดียวกัน “เจ้าไม่เสียใจแน่นะเหลี่ยฮวา” แม่เฒ่าจางแอบถามก่อนพิธีเริ่มต้นขึ้น “ข้าไม่เสียใจเจ้าค่ะแม่เฒ่าจาง ลูกชายข้ายังใช้แซ่ของข้ามาตั้งแต่เกิด ข้าไม่สนใจเรื่องชื่อแซ่หรอกเจ้าค่ะ สนใจแค่ว่าเขามีความสุขในชีวิตหรือไม่ ข้าเคยถามเรื่องซื้อเรือนเป็นของตัวเอง จ้านเออร์ปฏิเสธในทันที เขาไม่ยอมแยกจากซือซือไปไหน และรู้ว่านางเองก็ไม่สามารถแยกจากน้อง ๆ ไปได้เช่นเดียวกัน พวกเราอยู่ด้วยกันเช่นนี้ก็มีความสุขดีแล้วนี่เจ้าคะ ยังท่านมีครอบครัวอาจารย์ฮู่ ล้วนแล้วแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน” “เจ้าคิดเช่นนี้ย่อมดีแก่พวกเขา อย่าไปฟังเสียงผ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   113 : ขอแต่งงาน

    113 : ขอแต่งงาน ถานจ้านพานางไปเลือกซื้อโคมไฟอันใหม่ จากนั้นก็ชวนกันไปล่องเรือในบึง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของผืนน้ำ ที่สะท้อนแสงเป็นดวงไฟน้อยใหญ่เต็มไปหมด ฝีพายยืนอยู่ด้านหลังทำเป็นไม่สนใจคู่สามีภรรยา ที่กำลังอิงอกซบไหล่กันอยู่ ถานจ้านถอดเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกออกคลุมให้ภรรยา “ซือซือ” “หืม” “เจ้าอายุสิบแปดแล้วนะ” “อื้ม” “เราแต่งงานกันเถอะ” เซี่ยซือซือ “...” นางรีบดันศีรษะตัวเองออก เงยหน้ามองเขาด้วยความงุนงง “ไม่ใช่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วรึ” “ใช่ แต่เราไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานกัน และยังไม่เคยร่วมหอ” ทำไมเซี่ยซือซือได้ยินแล้วรู้สึกว่า เขาย้ำสองคำสุดท้ายแบบแปลก ๆ ก้มลงเล่นนิ้วมือตัวเองเงียบ ๆ “ร่วมเหอหรือ” พวงแก้มแดงปลั่ง ภายใต้แสงจากโคมไฟที่แขวนไว้ตรงหัวเรือ “เจ้าเคยเล่าให้ข้าฟังว่า โลกของเจ้าบุรุษขอสตรีแต่งงาน จะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย” ถานจ้านล้วงหยิบแหวนหยกเนื้อดีสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ บรรจงสวมใส่บนนิ้วนางข้างซ้ายให้นาง “แต่งงานกับข้านะซือซือ” เซี่ยซือซือมองแหวนบนนิ้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   112 : ชีวิตในเมืองหลวง

    112 : ชีวิตในเมืองหลวง เมื่อแคว้นฉีแพ้สงครามย่อยยับ เพื่อแสดงความจริงใจว่าจะไม่บุกแคว้นจ้าวในช่วงสิบปีนับจากนี้ พวกเขาจึงยอมส่งองค์ชายหกซึ่งมีอายุเพียงห้าปี มาเป็นตัวประกันที่แคว้นจ้าว หลังจากนั้นเพียงห้าเดือน เมืองหลวงได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เนื่องจากฮ่องเต้ทรงสวรรคตลงด้วยโรคร้าย ท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องห้าจึงต้องนำทัพ เข้าไปปราบปรามขุนนางชั่วที่ก่อกบฏ และปลดองค์รัชทายาทผู้ไร้ความสามารถลงจากบัลลังก์ ท่านอ๋องเจ็ดได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ให้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ถัดไป เมืองหลวงที่เคยเต็มไปด้วยขุนนางชั่ว กลับถูกกำจัดทิ้งไปในเวลาเพียงสองปีกว่า แน่นอนว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง คอยเฝ้าดูคนชั่วและชี้เป้าหมายความผิดได้อย่างแม่นยำ ยังเป็นเซี่ยซือซือคนเดิม แม้นางไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ เพราะอยากทำการค้าเพื่อความร่ำรวย แต่หากมีเรื่องสำคัญจริง ๆ อยากให้นางช่วย นางก็พร้อมช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ แม่ทัพโหย่วถูกย้ายมาเป็นแม่ทัพประจำเมืองหลวง ฮ่องเต้ได้มอบจวนให้เขาได้อยู่อาศัยอย่างสมเกียรติ และมอบตำแหน่งให้บุตรชายทั้งสอง โหย่วหยางหลงได้เป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร แม้เขาแขนพ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   111 : ขับไล่ข้าศึก

    111 : ขับไล่ข้าศึก เซี่ยซือซือนอนไปได้เพียงหนึ่งชั่วยามเศษ ท่านอ๋องเจ็ดก็ส่งคนมาตามนางที่กระโจม ให้นางตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ค่ายของข้าศึก เซี่ยซือซือใช้เวลาไม่นานก็พบว่าฤทธิ์ของยาเริ่มทำงาน ท่านหมอใช้ยาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง ไร้รสไร้กลิ่นไร้สี ม้าศึกนับหมื่นตัวล้มเกลื่อนอยู่บนพื้น ส่วนทหารหนึ่งในสี่ต่างก็ลุกไม่ขึ้นเช่นกัน “ได้ผลเจ้าค่ะท่านอ๋อง แม้จำนวนที่ได้รับยาไม่มากนัก แต่ก็ทำให้กองทหารม้าทมิฬไร้อาชาสู้รบได้จริง ๆ” “เช่นนั้นดี ออกคำสั่งไปให้เตรียมตัวออกรบ ส่งข่าวให้ทางซื่อจื่อได้รู้ด้วย” ท่านอ๋องเจ็ดจะรุกฆาตข้าศึกในเช้านี้ เซี่ยซือซือตัดสินใจพูดเรื่องน้ำพุวิเศษกับท่านอ๋องเจ็ดตามลำพัง นางไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้มากนัก แต่ทหารนับแสนนาย นางไม่สามารถลงมือคนเดียวได้ “เจ้าบอกว่าน้ำพุวิเศษสามารถทำให้กำลังวังชาเพิ่มขึ้นได้เช่นนั้นรึ” “เจ้าค่ะ ท่านลองดื่มดูก็ได้แต่แค่อึกเดียวพอนะเจ้าคะ มันช่วยในการรักษาเป็นหลัก ร่างกายคนปกติหากดื่มเกินหนึ่งอึก มันจะส่งผลเสีย” นางล้วงหยิบขวดน้ำพุวิเศษยื่นให้ท่านอ๋องเจ็ด ท่านอ๋องเจ็ดรับข

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   110 :  กำจัดหน่วยสอดแนม

    110 : กำจัดหน่วยสอดแนม ซื่อจื่อได้รับจดหมายเตือนแล้วถึงกับหน้าดำคล้ำในทันที หากไม่มีการเตือนจากฝั่งท่านอ๋องเจ็ด เขาคงไม่ได้สนใจข้าศึกที่แอบมาด้านข้างเป็นแน่ รีบออกคำสั่งให้ทหารหลักสามหมื่นนาย ดักซุ่มโจมตีข้าศึกที่จ้องทำลายคลังเสบียงในคืนนี้ ส่วนข้าศึกด้านหน้าที่แสร้งทำเป็นบุกโจมตี ก็ให้กองทัพย่อย ๆ ออกไปจัดการส่วนหนึ่ง ที่เหลือตรึงกำลังอยู่กับที่ ห้ามผลีผลามโดยเด็ดขาด ยามดึกทหารทั้งสองฝั่งต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถานจ้านนำทหารร้อยนาย ตามด้วยเซี่ยซือซือกับอาจารย์ฮู่ ลอบเข้าไปโจมตีหน่วยสอดแนมของอีกฝ่าย หนนี้พวกมันมากันเพียงสิบสองคน แบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มละหกคน เซี่ยซือซือชี้เป้าให้พลธนูโจมตีได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็ปลีกตัวไปช่วยสามีกับอาจารย์ฮู่ หน่วยสอดแนมทั้งแปดกลายเป็นศพในเวลาอันรวดเร็ว “จุดพลุส่งสัญญาณ” นางสั่งทหารด้านหลัง ปัง ! ปัง ! ตามที่ตกลงกันไว้ หากพลุส่งสัญญาณดังขึ้น รุ่งเช้าทหารทุกนายต้องเดินทางลงจากเทือกเขาชิงเทียนอย่างเงียบ ๆ กลุ่มของถานจ้านจะเดินทางนำหน้าไปก่อน เพื่อที่จะได้ส่งสัญญาณบอกคนด้านหลังเป็นระยะ เป

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ

    109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ เรือนโหย่วเสวี่ยหยา เซี่ยซานซานฝึกฝนวรยุทธ์กับคุณหนูสามจนเหนื่อยล้า นางกำลังนั่งกินขนมที่สาวใช้นำมาให้ ส่วนโหย่วเสวี่ยหยาขอตัวเข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ความจริงนางชวนเซี่ยซานซานไปอาบน้ำด้วย แต่เซี่ยซานซานปฏิเสธไม่อยากรบกวน “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงนุ่มทุ้มของโหย่วหยางหลงดังขึ้นอยู่ด้านหลัง “คุณชายใหญ่” เซี่ยซือซือรีบลุกขึ้นโค้งศีรษะให้เขา “ข้าเห็นสาวใช้บอกว่าเสวี่ยหยามีแขก นึกว่าจะเป็นใครที่ไหนเสียอีก นั่งลงสิเจ้ากำลังกินขนมอยู่ไม่ใช่รึ” “เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานไม่อยากอยู่กับคนผู้นี้ตามลำพัง นางเหมือนเด็กน้อยขี้ขลาด มองไปทางประตูห้องของโหย่วเสวี่ยหยาตลอดเวลา “เหตุใดถึงไม่นั่ง รังเกียจข้ารึ” “มะไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้านั่งแล้ว” นางไม่กล้ามองสบสายตากับเขาด้วยซ้ำ นั่งลงบนเก้าอี้อย่างจำใจ “กลัวข้ารึ” มุมปากของโหย่วหยางหลงกระตุกเบา ๆ นึกอยากแกล้งเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา “เจ้ามาฝึกวรยุทธ์กับน้องสามของข้า เหตุใดไม่มาลองฝึกกับข้าดูบ้างล่ะ” “ข้าฝีมืออ่อนหัดนัก ไม่บังอาจไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   108 :  รักษาท่านอ๋องห้า   

    108 : รักษาท่านอ๋องห้า แม่เฒ่าจางกับเสี่ยวเป่าเริ่มปรับตัวเข้ากับทุกคนได้แล้ว นางคอยช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่าง ไม่ทำตัวนิ่งดูดายแต่อย่างใด แม้ว่านางถานจะบอกให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอันใด แต่ความเกรงใจของหญิงชรานั้นมีมากเหลือเกิน เซี่ยซือซือเลยปล่อยให้ท่านทำไป การอยู่เฉย ๆ จะยิ่งทำให้รู้สึกเครียด นางคอยกำชับแม่เฒ่าจางว่า นางมีเงินสามารถเลี้ยงดูทั้งคู่ได้ ไม่ต้องคิดว่านางจะลำบาก แม่เฒ่าจางถึงได้วางใจ “ท่านพี่ข้าไปหาคุณหนูสามได้หรือไม่” เซี่ยซานซานอยากเจอหน้าโหย่วเสวี่ยหยา นางอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร ถอนหมั้นไปแล้วทางซื่อจื่อจะตำหนินางหรือไม่ “อืม” เซี่ยซือซือคิดหนักเพราะนางต้องไปทำงานนี่สิ “ไปเพิ่มอีกคนคงไม่เป็นไรหรอกซือซือ” ถานจ้านหน้าน้องสาวภรรยาแล้วรู้สึกสงสาร “แล้วน้องเล็กล่ะ” เซี่ยซือซือมองหาน้องชายบ้าง เพราะปกติเซี่ยซานซานจะเป็นคนคอยดูแลเขา เซี่ยซานซาน “เขาเล่นอยู่กับเสี่ยวเป่าหลังบ้านเจ้าค่ะ มีหนิงเซียนคอยดูอยู่” “เจ้าเข้าไปบอกท่านแม่ไว้ก่อน เผื่อไม่เห็นเจ้าท่านจะเป็นห่วงเอา” “ได้ท่านพี่” เซี่ยซา

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่

    107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่ วันต่อมาโรงประมูลหยางชุนกระจายข่าวออกไปอย่างหนาหู ว่าคุณชายเริ่นก้งเยว่ได้นำของล้ำค่ามาร่วมประมูล ผู้คนต่างแห่มาซื้อตั๋วเข้าชมกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงคนในจวนท่านอ๋องห้าด้วย “เจ้าแน่ใจนะว่าข้าเหมือนสตรีแล้ว” สตรีร่างสูงอย่างถานจ้านเริ่มรู้สึกประหม่า เขาแอบออกมาแต่งตัวที่โรงเตี๊ยมด้านนอก เพราะไม่อยากให้คนในบ้านรู้เรื่องนี้ “พี่หญิงใหญ่เหตุใดไม่เชื่อมือข้าล่ะขอรับ” เซี่ยซือซือที่อยู่ในชุดของคุณชายเริ่นก้งเยว่กลั้นขำแทบตาย นางถักเปียทำมวยผมให้เขาอย่างน่ารัก ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างสวยงาม “พี่หญิงใหญ่ท่านงามมากขอรับ บุรุษในโรงประมูลต้องคลั่งไคล้ท่านแน่” ถานจ้าน “...!?” เขามองพ่อหนุ่มน้อยหน้าตาเกลี้ยงเกลาตรงหน้า นางจะรู้บ้างไหมว่าแต่งเช่นนี้แล้วดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งนัก “เจ้ารีบสวมหมวกเถอะ” เขาหยิบหมวกใบใหญ่ครอบลงบนศีรษะของนาง ก่อนจะสวมให้ตัวเองอีกด้วย หากเซี่ยซือซือไม่บอกว่านางสวมหมวกปิดบังใบหน้า ไว้ตลอดเวลาที่ปลอมตัวเป็นคุณชายเริ่นก้งเยว่ เขาคงห้ามไม่ให้นางเข้าไปยังโรงประมูลแล้ว ก่อนหน้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! 

    106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! รถม้าวิ่งช้า ๆ ผ่านถนนที่มีขอทานกับคนไร้บ้านรวมตัวกันอยู่ เซี่ยซือซือไม่อยากให้น้องชายของนาง เห็นภาพน่าเวทนาเหล่านี้ นางอยากพาเขากลับเข้าไปนั่งในรถม้า แต่ไม่มีที่ให้จอดรถม้าได้อย่างปลอดภัย หากจอดไปแล้วเกรงว่าคนไร้บ้านเหล่านี้ จะกรูกันเข้ามารุมทึ้งรถม้าของนางเข้า จึงต้องให้เขานั่งอยู่บนตักของนางต่อไป เซี่ยซือหยางกินขนมในมือแล้วมองสองข้างทางไปด้วย เขาเห็นคนยากไร้นอนเกลื่อนข้างถนนเต็มไปหมด เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า ก้มลงมองขาสั้น ๆ กับนิ้วมือป้อม ๆ ของตัวเอง จะไปช่วยเหลืออันใดผู้อื่นได้ “แต่เอ๋ ?” เขาหันกลับไปมองดูอีกที ขนมในมือถูกปล่อยทิ้งลงพื้น ลุกขึ้นยืนหันหน้ามองไปยังด้านหลัง “น้องเล็กอันตรายอย่าลุก” เซี่ยซือซือจับเขาเอาไว้แน่น ๆ แต่เหตุใดเขาถึงได้ดิ้นรน อยากมองไปด้านหลังเช่นนี้ “เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม !” ถานจ้านถึงกับค่อย ๆ หยุดรถม้าลง เขาหันไปมองหน้าเซี่ยซือหยางด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวซือหยางเจ้าเรียกใคร” “เหมือนข้าจะเห็นเสี่ยวเป่า” เขาพูดคล้ายไม่แน่ใจ “เสี่ยวเป

DMCA.com Protection Status