Share

2 : ขึ้นเขาหาของกิน

Author: หิมะที่ปลิดปลิว
last update Last Updated: 2024-11-26 11:19:20

2 : ขึ้นเขาหาของกิน

        “ท่านพี่ ๆ ตื่นเร็วเข้า”

          เซี่ยซานซานเขย่าปลุกพี่สาวด้วยน้ำเสียงเบาหวิว คล้ายกลัวว่าคนอื่นในบ้านจะมาได้ยินเข้า

          “อาซานนี่ยามใดแล้ว” เซี่ยซือซืองัวเงียตื่นขึ้นมา พร้อมขยี้ตาตัวเองเบา ๆ

          “ยามเหม่า[1]ท่านพี่"

          “เช้าเพียงนี้หรือ”

          ท้องฟ้ายังมืดแต่เซี่ยซานซานปลุกพี่สาวเสียแล้ว คล้ายเป็นกิจวัตรประจำวัน ต้องตื่นขึ้นมาตักน้ำทำงานบ้าน คิดแล้วให้เศร้าใจยิ่งนัก “อาซานวันนี้พวกเราไม่ต้องทำงานหรอก”

          “เช่นนั้นได้อย่างไรท่านพี่ ท่านย่ากับท่านป้าสะใภ้ทั้งสองต้องทุบตีพวกเราแน่”

          “บ้านสามของพวกเราถูกสั่งงดอาหาร เจ้าจะมีแรงที่ใดไปทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือหาอาหาร เจ้ากับข้ายังพอทนไหวแต่น้องเล็กยังเด็กนัก วันนี้เจ้าพาข้าขึ้นเขาไปได้หรือไม่ ข้าจำได้ว่าบนเขาไฉ่หง[2]มีผักป่ากับผลไม้ป่าอยู่”

          เซี่ยซือซือจำเป็นต้องมีชีวิตรอด ร่างกายอันบอบบางของเธอถ้าไม่ได้รับอาหารในตอนนี้ เกรงว่าจะไม่สามารถอยู่รอดได้เกินสองวันแน่

          “แต่ข้ากลัวว่าท่านย่า”

          “ไม่ต้องกลัวไป ถูกตียังดีกว่าอดข้าวตายนะอาซาน”

          “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ พาน้องเล็กไปด้วยนะท่านพี่ ปล่อยไว้ในบ้านคนเดียวข้าไม่ไว้วางใจ”

          “ได้สิเจ้ารีบไปปลุกน้องเล็กเถิด”

          ราวหนึ่งเค่อ[3]สามพี่น้องก็แบกตะกร้าสะพายหลังไว้บนบ่า มุ่งหน้าขึ้นไปบนเขาไฉ่หง ในอดีตกาลนั้นได้ปรากฏสายรุ้งขึ้นบนยอดเขาอยู่บ่อยครั้ง ความงดงามของสายรุ้งทำให้ผู้คนต่างเล่าขาน เรื่องเทพเซียนย่างกรายลงมาประทานพรให้มวลมนุษย์ มีบัณฑิตเฒ่าผู้หนึ่งเดินทางผ่านมา แล้วขนานนามภูเขาแห่งนี้ว่า ไฉ่หง ผู้คนจึงใช้ชื่อนี้เรียกขานนับจากนั้นมา

          ในความทรงจำของเซี่ยซือซือ นางเคยขึ้นมาบนเขาแห่งนี้บ่อยครั้งเพื่อเก็บผักป่า แต่ไม่เคยไปไกลเกินกว่าบริเวณตีนเขา เพราะด้านในค่อนข้างอันตราย มีเพียงนายพรานมากฝีมือเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้าไปได้ สตรีชาวบ้านกับบรรดาเด็กจึงขึ้นไปแค่บริเวณตีนเขา และจุดที่มีผลไม้ป่าเท่านั้น

          เดินเท้ากันเพียงหนึ่งลี้[4]ทั้งสามก็มาถึงบริเวณตีนเขา ท้องฟ้าเริ่มสว่างทำให้มองเห็นรอบข้างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เซี่ยซือหยางยังเด็กนัก ดวงตายังปิดปรือพร้อมหลับอยู่ตลอดเวลา เวลานี้เซี่ยซานซานคือคนที่ร่างกายแข็งแรงที่สุด นางอุ้มน้องชายเดินและหยุดพักอยู่เป็นระยะ

          “ท่านพี่ตรงนี้ผักป่าถูกคนในหมู่บ้านเก็บไปหมดแล้ว เกรงว่าจะหาได้ยาก” เซี่ยซานซานเดินกลับมาบอกพี่สาว หลังจากสำรวจบริเวณที่มีผักป่าทุกจุดแล้ว

          “เช่นนั้นเราเดินขึ้นไปอีกหน่อยดีหรือไม่อาซาน” เซี่ยซือซือต้องการสำรวจภูเขาลูกนี้ นางต้องการหาของกินให้น้อง ๆ

          “อันตรายนะท่านพี่ ท่านลืมไปแล้วหรือว่าท่านพ่อกับท่านแม่ของพวกเราก็” น้ำเสียงของเซี่ยซานซานเบาลง ใบหน้าซีดเจื่อนยามนึกถึงความตายของบิดามารดา

          “โจรป่าพวกนั้นถูกทางการกวาดล้างไปหมดแล้ว เจ้าไม่ต้องกลัวไปหรอกอาซาน ข้าจำได้ว่าท่านพ่อเคยเล่าให้ฟัง ว่าบนเขาไฉ่หงมีลำธารเล็ก ๆ อยู่ด้านใน มีปลาตัวเล็กตัวน้อยเต็มไปหมด”

          “แต่ว่า”

          “ไปเถิดอาซาน”

          “เจ้าค่ะท่านพี่”

          เดินขึ้นเขาลึกเข้าไปอีกหน่อย ทั้งสองพลันได้ยินเสียงน้ำตกจริง ๆ ดวงตาของพวกเขาประกายจ้าขึ้นด้วยความหวัง ไม่ช้าธารน้ำตกก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า เซี่ยซานซานรีบวางน้องชายลงพิงกับต้นไม้ นำกระบอกไม้ไผ่ที่พกติดตัวมาลงไปตักน้ำ นำขึ้นมาให้พี่สาวได้ดื่ม

          “ท่านพี่ท่านเพิ่งฟื้นจากอาการป่วย อีกทั้งยังไม่ได้กินข้าว ท่านดื่มน้ำแก้กระหายก่อนเถิด”

          “อืม” เซี่ยซือซือมองน้องสาวในโลกนี้ ด้วยความรู้สึกยากแก่การอธิบาย เด็กตัวเท่านี้ยังต้องดิ้นรนเรื่องปากท้อง การใช้ชีวิตในโลกนี้ไม่ง่ายเอาเสียเลย

          “น้องเล็กตื่นได้แล้ว บ้วนปากล้างหน้าก่อนเถิด” เซี่ยซานซานหันไปปลุกน้องชายบ้าง จัดการล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อย เด็กน้อยเหมือนจะงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ปรับสายตาได้ในที่สุด

          “พี่รองเหตุใดข้าถึงมาอยู่ในป่าได้ล่ะ”

          “ข้าอุ้มเจ้ามาอย่างใดเล่า ท่านพี่บอกว่าจะพาพวกเรามาหาของกิน เจ้าไปดูตรงลำธารกับข้าสิ มีปลาเยอะแยะไปหมดเลย”

          “ปลา ! ข้าอยากกินปลาพี่รอง” ได้ยินเรื่องอาหารดวงตาของเซี่ยซือหยางก็เปิดกว้างขึ้นอย่างดีใจ

          “ท่านพี่ท่านนั่งอยู่ตรงนี้ไปก่อนนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะไปลองจับปลาดู”

          “ได้เจ้าไปตรงที่น้ำตื้นเท่านั้นนะอาซาน ห้ามไปตรงน้ำลึกเด็ดขาด”

          “เจ้าค่ะ”

          “ท่านพี่รออยู่ตรงนี้นะขอรับ ข้าจะจับปลาตัวโต ๆ มาให้”

          “อื้ม”

          เซี่ยซือซือมองน้อง ๆ ทั้งสองด้วยสายตาอบอุ่น ร่างกายนี้ของเธอช่างอ่อนแอนัก เดินมาไม่เท่าไรก็หมดแรงเสียแล้ว เธอจะมีกำลังไปต่อสู้กับครอบครัวชั่วร้ายของเจ้าของร่างได้อย่างไร ขณะทอดสายตามองดูน้องทั้งสองอยู่นั้น ภายในร่างกายของเซี่ยซือซือมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น บริเวณท้องร้อนผ่าวขึ้นมา นางหลับตาลง ทันใดนั้นรอบตัวก็วูบมืดไป

          พอลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง พบว่านางได้อยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่ง ตรงกลางมีลานน้ำพุตั้งอยู่ มีกระท่อมหลังหนึ่ง รอบข้างมีต้นไม้อยู่ พื้นที่แห่งนี้มีขนาดราวสองหมู่[5] นางเกรงว่านี่จะไม่ใช่เรื่องจริง จึงหลับตาแล้วนึกถึงบริเวณที่นั่งอยู่ พอลืมตาขึ้นอีกครั้งนางก็กลับมานั่งพิงต้นไม้อยู่เช่นเดิม

          มิติพิเศษ ต้องใช่แน่ ๆ จึงเริ่มทำการทดสอบมิติพิเศษนั้นดูอีกครั้ง นางสามารถไปมาระหว่างมิติพิเศษนั้นได้ โดยที่ร่างกายไม่ได้หายไปไหน หัวใจนางเต้นแรงด้วยความดีใจ ราวกับชีวิตในโลกนี้ของนางยังมีความหวัง มีเวลาให้ทดสอบพื้นที่แห่งนี้อีกเยอะ ตอนนี้ยังไม่สามารถทำอะไรได้สะดวกนัก เกรงว่าน้องทั้งสองจะล่วงรู้ถึงความผิดปกตินี้

          แต่ว่าน้ำพุตรงกลางลานแห่งนี้ มันดึงดูดนางเหลือเกิน กลิ่นหอมสดชื่นเหมือนไม่ใช่น้ำพุธรรมดา นางลองใช้มือวักน้ำขึ้นมาดื่มเล็กน้อย รับรู้ได้ว่าร่างกายกำลังได้รับการบำบัด เรี่ยวแรงที่หายไปกลับคืนมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

          ไม่ได้ข้าจะดื่มน้ำพุนี้ตามใจไม่ได้

          นางลองหยิบก้อนหินโยนเข้าไปในมิติพิเศษ ปรากฏว่าหินก้อนนั้นอยู่ในมิติพิเศษจริง ๆ นางจึงลองนำใบไม้จากในนั้นออกมา ใช่แล้ว มันออกมาได้จริง ๆ

          “ท่านพี่ ๆ พี่รองจับปลาได้ด้วย” เสียงเล็ก ๆ ของเจ้าตัวน้อย ทำให้นางต้องเก็บเรื่องน่ายินดีเอาไว้ก่อน

          “ดูสิท่านพี่ ข้าจะมีปลากินแล้ว เย้ ๆ” น้องเล็กของนางกระโดดดึ๋ง ๆ ปานเจ้ากระต่ายตัวน้อย เพียงแต่กระต่ายตัวนี้ผอมแห้งไปเสียหน่อย

          “อาซานเจ้าเก่งมาก” เซี่ยซือซือมองน้องสาวที่กำลังเดินหิ้วปลาตัวเท่าแขนมาพร้อมกับน้องชาย นางแยกไม่ออกว่ามันคือปลาชนิดไหน มีลักษณะคล้ายปลาตะเพียนอยู่ไม่น้อย

          “ปลาตัวนี้มันโง่เจ้าค่ะท่านพี่ มันหลุดมาตรงน้ำตื้นข้ากับน้องเล็กเลยเอาก้อนหินขังมันไว้” เซี่ยซานซานกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

          “เจ้ากับน้องเล็กถอดเสื้อตัวนอกออกตากไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา ข้าจะก่อไฟเอง”

          นางให้น้องสาวดูแลน้องชาย ตัวนางเดินไปหาฟืนแห้งนำหินจุดไฟมาทำการก่อไฟตามความทรงจำเดิม ไม่ช้าไฟก็จุดติด ส่วนปลาที่ได้มาเซี่ยซือซือก็นำไปเสียบไม้ไผ่ รอไฟได้ที่ค่อยย่าง ไม่มีเครื่องปรุงใด ๆ คาดว่าปลาน่าจะคาวเป็นอย่างมาก

          “อาซานแถวนี้มีต้นหอมป่าบ้างไหม”

          “ข้าไม่เคยเข้ามาที่นี่ข้าไม่รู้เหมือนกันท่านพี่” เซี่ยซานซานสะบัดเสื้อนอกของน้องชาย นำไปพาดตากไว้บนต้นไม้ ก่อนจัดการกับเสื้อของตนเองต่อ

          ความร้อนวูบวาบตรงหน้าท้อง ทำให้เซี่ยซือซือรู้สึกประหลาดใจ เหมือนมิติพิเศษของนางมีการตอบสนองต่อนางโดยตรง นางลองเอาฝ่ามือวางลงบนพื้นดิน แล้วหลับตาสั่งการค้นหาต้นหอมป่าดู ทันใดนั้นนางก็สามารถมองเห็นทุกสรรพสิ่งบนเขาลูกนี้ได้ทั้งหมด มันนำทางนางไปหาต้นหอมป่าได้ในทันที ทว่าหากไกลเกินเขาลูกนี้ไป นางจะไม่สามารถมองเห็นได้ นางรีบดึงสายตากลับมา หัวใจเต้นตึกตักด้วยความดีใจ

          ไม่เลว ๆ

          นางไม่ได้มีความรู้ติดตัวเหมือนนางเอกคนอื่นที่ทะลุมิติมา ไม่ได้เป็นหมอเทวดาหรือคนเก่งมากความรู้ แต่นางมีไอเท็มวิเศษพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ฮะ ๆ ๆ นางเปล่งเสียงหัวเราะออกมาคล้ายคนบ้า

          “ท่านพี่ ๆ ท่านหัวเราะทำไม” เซี่ยซือหยางตกใจที่เห็นพี่สาวคนโตของตนเองทำท่าเหมือนคนสติแตก

          “ท่านพี่...” ไม่ต่างไปจากเซี่ยซานซานนางรับรู้ได้ตั้งแต่ตอนพี่สาวฟื้นแล้ว ว่ามีบางอย่างได้เปลี่ยนไป แต่นางกลัวเลยไม่กล้าเอ่ยมันออกมา พี่สาวที่อ่อนแอแววตาหวาดกลัวคนเก่าหายไป พอฟื้นขึ้นมาแววตาก็เฉยชา มองนางไม่เหมือนเดิม

          “เอ่อ ข้าดีใจจะได้กินปลาน่ะ พวกเจ้าไม่ต้องตกใจไปหรอก ข้าจะลองเข้าไปหาต้นหอมป่าตรงโน้นเสียหน่อย พวกเจ้าเฝ้าปลารอไปก่อนนะ” เซี่ยซือซือบอกแล้วลุกขึ้นด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง ไม่ได้อ่อนแรงเหมือนตอนแรก

          “ท่านพี่ร่างกายของท่านดีขึ้นแล้วหรือเจ้าคะ”

          “อื้ม ข้าไปไม่นานหรอก ข้าจำได้ว่าตอนเดินมาเหมือนข้าจะเห็นต้นหอมป่าอยู่ เดี๋ยวข้าจะไปเก็บมันมายัดไส้ปลาเสียหน่อย มิเช่นนั้นปลาคงคาวจนยากจะกินได้”

          “รีบกลับมานะท่านพี่”

          “ได้เจ้าดูแลน้องเล็กดี ๆ ล่ะ ผึ่งเสื้อผ้าให้แห้งเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

          “เจ้าค่ะ”

          พอลับสายตาน้องทั้งสอง เซี่ยซือซือก็ลองหายตัวเข้าไปในมิติพิเศษ นางเข้าใจแล้วว่านางสามารถหายตัวเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ได้ ยังเข้าไปแบบไม่ต้องหายตัวก็ได้เหมือนกัน นางลองดื่มน้ำพุอีกอึกดู พบว่าตอนนี้แม้แต่วิ่งก็ไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด นางหลับตาลงแล้วทาบฝ่ามือลงบนพื้น จินตนาการว่าต้องการไปจุดที่มีต้นหอมป่าดู พลันร่างกายของนางก็หายวับไปโผล่อยู่บริเวณนั้นในทันที

          นี่มันเร็วเกินไปแล้ว

          นางไม่สามารถทำเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นได้ ต้องระวังแล้วล่ะ นางก้มลงเด็ดต้นหอมป่าใส่บนตะกร้าด้านหลัง หลับตานึกคิดหาผลไม้ป่าอีกครั้ง นางเจอพุทราป่าที่สุกเต็มต้นอยู่ใกล้ ๆ ร่างกายของนางไม่เพียงแค่เร็ว แต่ยังปีนต้นไม้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย แค่ชั่วอึดใจหนึ่งนางก็หอบพุทราป่าพร้อมต้นหอมป่า เดินทางกลับไปหาน้องทั้งสองคน

[1] เหม่า คือเวลา 05.00-06.59

[2] ไฉ่หง คือ สายรุ้ง

[3] เค่อ คือ เวลาประมาณ 15 นาที

[4] หนึ่งลี้ คือ 500 เมตร

[5] 1หมู่ คือ 666.67ตารางเมตร

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   3 : มิติพิเศษ  

    3 : มิติพิเศษ เซี่ยซือซือขยำ ๆ ต้นหอมป่ายัดใส่ในท้องปลา ช่วยกลบกลิ่นคาวปลาได้บ้างเล็กน้อย หากมีเกลือมีเครื่องปรุง ปลาตัวนี้คงจะอร่อยไม่น้อย “ท่านพี่ ปลา ซู้ด” เสียงสูดน้ำลายของเซี่ยซือหยาง ทำให้พี่สาวทั้งสองหัวเราะออกมาดัง ๆ “ดูเจ้าตัวตะกละตัวนี้สิท่านพี่ แทบจะทนรอปลาสุกไม่ไหวอยู่แล้ว รีบเช็ดน้ำลายของเจ้าเสียน้องเล็ก น่าอายชะมัด” “ข้าไม่ได้กินเนื้อมานานมากแล้ว ขอข้ามองปลาตัวนี้นาน ๆ หน่อยเถอะท่านพี่” เด็กน้อยยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำลาย จ้องปลาตัวโตแทบไม่วางตา เซี่ยซือซือยกฝ่ามือลูบศีรษะน้องชายตัวเองเบา ๆ ไม่รู้สึกว่าท่าทางของน้องชายน่ารังเกียจแต่อย่างใด “ต่อไปในภายภาคหน้าเจ้าจะได้กินเนื้อบ่อย ๆ” “จริงหรือท่านพี่” “จริงสิข้าจะหลอกเจ้าทำไม” “ไอหยา ! ข้าจะได้กินเนื้อบ่อย ๆ แล้ว จะกินเนื้อ ๆ ๆ” เซี่ยซือหยางกระโดดโลดเต้นไปรอบ ๆ กองไฟอย่างมีความสุข “ท่านพี่ท่านก็อย่าตามใจน้องเล็กมากนักเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวก็เก็บเอาไปฝันว่าได้กินเนื้อทุกวันหรอก” เซี่ยซานซานใช้ไม้เขี่ยท่อนไฟตรงหน้า มุมปากก

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   4 : ท่านย่า ! ท่านจะฆ่าน้องชายข้าอีกคนหรือเจ้าคะ

    4 : ท่านย่า ! ท่านจะฆ่าน้องชายข้าอีกคนหรือเจ้าคะ เสียงร้องไห้โหยหวนปานคนกำลังจะขาดใจตายของเซี่ยซือซือ ไม่เพียงทำให้เด็กน้อยอย่างเซี่ยซือหยางร้องไห้ตาม เซี่ยฮุ่ยหนิงกับสหายของนางที่กำลังปีนขึ้นจากคูนา หมายจะตามมาตบตีทั้งคู่เป็นอันต้องชะงักอยู่กับที่ ได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าพูดบ้าอันใดกันอาซือ มีใครตายที่ไหนกัน” เซี่ยฮุ่ยหนิงรีบเดินเข้าไปใกล้ ๆ สองพี่น้อง พอเห็นศีรษะของเซี่ยซานซานปูดบวม มุมปากก็มีเลือดไหลออกมา ยังทั้งยังไม่ได้สติไม่รู้เป็นหรือตาย นางตกใจจนผงะถอยหลังไปสองก้าว “พี่ฮุ่ยหนิง ท่านมันฆาตกร ! ท่านทำให้อาซานของข้าต้องตาย ฮือ ๆ ๆ” เซี่ยซือซือชี้นิ้วก่นด่านาง ส่งเสียงร้องไห้ดังขึ้นกว่าเดิม มีชาวบ้านสี่ห้าคนทยอยเดินมามุงดูเหตุการณ์ ก่อนหน้าพวกเขาแค่มองดูอยู่ไกล ๆ เสียงร้องไห้ของนางเรียกร้องความสนใจจากชาวบ้านได้ นางจงใจเอ่ยชื่อเซี่ยฮุ่ยหนิงเพียงผู้เดียว ยัดเยียดให้นางเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ “อย่ามาใส่ร้ายข้านะ ข้าไม่ได้ทำ !” เซี่ยฮุ่ยหนิงสะบัดแขนเสื้อหันไปทางอวี่ไป๋ชิงกับอวี่เยี่ยนเอ๋อ พวกนางกลับหลบตาไปทางอ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   5 : จ่ายเงินค่าหมอหรือแยกบ้าน     

    5 : จ่ายเงินค่าหมอหรือแยกบ้าน ภายในห้องโถงของบ้านสกุลเซี่ย ท่านหมออวี่กำลังบอกเล่าถึงอาการของเซี่ยซานซานให้ทุกคนได้รับรู้ เซี่ยซือซือให้น้องชายอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวในห้องนอน ตัวนางออกมายืนฟังผู้ใหญ่คุยกันอยู่ในห้องโถง อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นไปตามที่นางคาดคิดไว้หรือไม่ “ค่าหมอสองตำลึง ส่วนเทียบยาใบนี้ข้าคิดแค่หนึ่งตำลึงเป็นพอ” ท่านหมออวี่บอกค่ารักษาให้ทุกคนได้รับรู้ “อันใดกันท่านหมออวี่ คนก็รักษาไม่ฟื้นท่านยังมีหน้าจะมาคิดค่าหมอกับข้าอีก” แม่เฒ่าเซี่ยไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก ตวัดตาไปมองเซี่ยซือซืออย่างเอาเรื่อง “นังตัวดีใครใช้ให้เจ้าไปตามท่านหมออวี่มา เจ้ากี้เจ้าการนักนะ !” “ท่านย่าข้าไม่ได้ให้คนไปตามท่านหมออวี่มานะเจ้าคะ เป็นชาวบ้านที่เขาสงสารพวกข้าเลยพากันไปตามมาต่างหาก” เซี่ยซือซือเม้มปากทำท่าคล้ายอยากร้องไห้อีกรอบ “ตอนนี้อาซานถูกทำร้ายนอนแน่นิ่งไม่ฟื้นคืนสติ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าชีวิตนี้นางจะฟื้นขึ้นมาอีกไหม ฮืออ ท่านย่านางต้องได้กินยาที่ท่านหมออวี๋เขียนให้นะเจ้าคะ ข้าขอร้องท่านย่าท่านช่วยอาซานของข้าด้วยเถอะ”

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   6 : กั้นกำแพง

    6 : กั้นกำแพง “ตามธรรมเนียมการแยกบ้านนั้น จำต้องระบุไว้ว่าคนเป็นลูก จะต้องแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดาด้วยนะพี่ใหญ่” แม่เฒ่าเซี่ยยังหมายหวังผลประโยชน์จากเด็กทั้งสาม “เจ้ายังมีหน้ามาพูดเรื่องนี้อีกหรือจิ่วเม่ย เจ้าขายอาซือไปแล้วจะให้นางเอาอันใดมาตอบแทนบุญคุณเจ้า นางกลายเป็นคนบ้านอื่นไปแล้ว อาซานก็ป่วยติดเตียงซือหยางยังเป็นเด็กเล็ก จิ่วเม่ยไหนเจ้าลองบอกพี่ใหญ่คนนี้ให้กระจ่างซิ เจ้ายังต้องการสิ่งใดจากเด็กน่าสงสารพวกนี้อีก !” เซี่ยคุนทั้งโกรธทั้งอยากทุบตีน้องสะใภ้คนนี้เหลือเกิน หากน้องชายของเขายังอยู่ เด็กทั้งสามไม่มีทางวันได้รับความคับข้องใจแบบนี้เป็นแน่ “ข้าเห็นด้วยกับท่านผู้นำตระกูล แม่เฒ่าเซี่ยเจ้าอย่าได้คิดเอาเปรียบเด็ก ๆ เหล่านี้เลย ไม่เพียงแค่นั้นเจ้ายังต้องมอบธัญพืชให้เด็ก ๆ ไว้สำหรับเลี้ยงชีพอีกด้วย” อวี่กังออกความเห็นช่วยเด็กบ้านสาม “อันใดกัน ! พวกนางอยากแยกบ้านออกไปเอง มีสิทธิ์อันใดมาขอธัญพืชจากข้าอีก” “จิ่วเม่ยนั่นหลานของเจ้าเองนะ เป็นสายเลือดของเจ้าแท้ ๆ แค่ให้ธัญพืชพวกเขาไว้กินสักสองสามวันจะเป็นอันใดไป ยังมีบ้านกับที่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   7 : เซี่ยเหมยลี่

    7 : เซี่ยเหมยลี่ เซี่ยซือซือบอกน้องสาวให้สงบจิตใจเอาไว้ก่อน นางกำลังพยายามหาหนทางให้สามพี่น้องได้อยู่ด้วยกัน ระหว่างนี้เซี่ยซานซานยังต้องแกล้งนอนติดเตียงเช่นเดิมอยู่ แม้แต่น้องเล็กก็ห้ามบอกความจริง เหตุเพราะเขายังเด็กนัก เกิดออกไปวิ่งเล่น แล้วมีชาวบ้านมาหลอกถาม อาจทำให้หลุดพูดความจริงออกไปแบบไม่รู้ตัว “ข้าเชื่อฟังท่านพี่เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานไม่มีทางเลือกอื่น นางจำเป็นต้องนอนติดเตียงไปก่อนสักระยะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย นางจะกลับมาใช้ชีวิตได้ดังเดิม “ลำบากเจ้าต่อไปอีกสักพักนะอาซาน แต่ไม่นานนักหรอกเจ้าอย่าได้กังวลเกินเหตุ ให้ข้าไปดูลาดเลาที่บ้านท่านป้าถานก่อน ข้าไม่รู้ว่าทางนั้นเขาอยู่กันอย่างไร” เซี่ยซือซือมีความคิดแก้ไขสถานการณ์อยู่ในใจ แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจในทันที นางเพิ่งทะลุมิติมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน ผลีผลามเกินไปย่อมไม่เป็นผลดี “ท่านพี่ท่านคงไม่คิดจะพาข้ากับน้องเล็กไปอยู่กับท่าน ที่บ้านท่านป้าถานหรอกนะเจ้าคะ” “ทำไมเล่า ทำเช่นนั้นไม่ได้หรือ” นางเอียงคอมองน้องสาวคล้ายไม่เข้าใจ “ไม่ได้เจ้าค่ะ มีชาวบ้านคนไหนแต่งภรรยาแล้วต้องให้ที

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   8 : สำรวจมิติพิเศษ

    8 : สำรวจมิติพิเศษ นางยิ้มอย่างพึงพอใจ ละสายตาจากบ่อน้ำพุมองไปยังทุ่งหญ้ากว้างไกล ก่อนจะวกสายตาไปที่กระท่อมหลังน้อย รีบก้าวเท้าตรงไปสำรวจในทันที ภายในกระท่อมมีเพียงเตียงนอนหนึ่งหลัง ชั้นวางตำราที่มีตำราวางเรียงรายอยู่นับสิบเล่ม แน่นอนว่าเป็นภาษาโบราณซึ่งนางอ่านไม่ออก ไม่รู้ว่ามันเขียนสิ่งใดเอาไว้ มีสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ[1]วางอยู่บนโต๊ะ นางใช้พู่กันกับหมึกโบราณเป็นเสียที่ไหนกัน ไม่ใช่ว่าสิ่งนี้มันเปล่าประโยชน์สำหรับนางหรอกหรือ มีห้องครัวสำหรับทำอาหารด้วย มีเพียงอุปกรณ์พวกเตาหม้อกระทะเหล็ก แต่กลับไร้เงาของวัตถุดิบประกอบอาหาร ในกระท่อมหมดความน่าสนใจไปเพียงเท่านั้น แต่พอเปิดประตูด้านหลังกระท่อมออกไป พลันดวงตาของนางก็สว่างจ้าขึ้นด้วยทิวทัศน์แสนงดงาม มีธารน้ำไหลมาจากที่ไหนสักแห่ง นางลองชิมดูแล้วไม่ปรากฏว่ามีพลังพิเศษแต่อย่างใด แตกต่างจากน้ำพุใจกลางลาน ต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายอยู่รอบด้าน มีต้นผิงกั่ว[2] อยู่สามต้น ซึ่งผลของมันสีแดงสุกเต็มต้น รีบเอื้อมมือออกไปเด็ดมาชิมดูผลหนึ่ง เซี่ยซือซืออ้าปากกว้างกัดดังกร๊วบ ! ผิงกั่วผลนี้หวานอร่อยสดชื่น

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   9 : นางถานมารับตัวเซี่ยซือซือ

    9 : นางถานมารับตัวเซี่ยซือซือ ยามเฉิน[1] เสียงดังเหมือนคนกำลังก่อสร้างบางอย่าง รบกวนสามพี่น้องในตอนเช้าของอีกวัน เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ น้องสาวของนางยันตัวลุกขึ้นมานั่งเหมือนกัน ทั้งคู่หันไปมองเจ้าตัวน้อยมุมในสุดของเตียง เซี่ยซือหยางยังคงนอนหลับอุตุอยู่ที่เดิม สองพี่น้องจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ข้าจะออกไปดูเองเจ้านอนต่อเถอะ” เซี่ยซือซือกระซิบเสียงเบา น้องสาวของนางก็เอนตัวลงนอนอย่างว่าเชื่อฟัง พอเดินออกมาอยู่หน้าบ้าน เซี่ยซือซือถึงได้รู้ว่าท่านลุงใหญ่กับท่านลุงรองของนาง กำลังช่วยกันปั้นก้อนดินก่อกำแพงกั้นบ้านอยู่ ทำงานกันเช้าเพียงนี้เชียวหรือ ดูท่าแม่เฒ่าเซี่ยคงอยากตัดขาดพวกนางให้เร็วที่สุด เซี่ยฉางเงยหน้าขึ้นมาเห็นหลานสาวของตน สายตาพลันเย็นชาขึ้นในทันที “ข้าไม่อยู่แค่วันเดียวเจ้าก็ปีกกล้าขาแข็งขอแยกบ้าน ช่างเป็นเด็กเนรคุณจริง ๆ” เมื่อวานเซี่ยฉางกับน้องชายเซี่ยชุน พากันเข้าไปเยี่ยมบุตรชายที่สำนักศึกษาในอำเภอ จึงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ขอแยกบ้าน พอกลับมาถึงช่วงเย็นภรรยาของพวกเขา ต่างก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   10 : เจ้ากล้าสาบานไหมซือซือ

    10 : เจ้ากล้าสาบานไหมซือซือ หลังจิบน้ำต้มจอกที่สองจนหมด นางถานถึงรู้สึกหายใจคล่องคอขึ้น อาการไอก่อนหน้าหยุดลง ตัวนางนั้นย่อมรู้ดีว่ามันจะหยุดแค่ชั่วคราว สักพักจะกลับมาไอรุนแรงอีกครั้ง เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา “เอาล่ะ ๆ ข้าดีขึ้นมากแล้ว มาว่าเรื่องของเจ้าต่อซือซือ เจ้ารีบไปเก็บของแล้วตามข้ากลับบ้านเถอะ” เซี่ยซือซือมองนางถานอีกหน มองให้ลึกไปถึงความเป็นจริงตรงหน้า ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆ บ้านหลังเก่าทรุดโทรมแห่งนี้ ด้วยอายุของเจ้าของร่างกับอายุของน้องทั้งสองคน อันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้อยู่ตามลำพังได้ “ท่านป้าถานเจ้าคะ ท่านรู้เรื่องแยกบ้านของข้าแล้วใช่ไหม” “ข้าย่อมรู้ดี ข้าไปหาแม่เฒ่าเซี่ยมาก่อนหน้า นี่ใบซื้อขายตัวของเจ้า” นางถานดึงเอกสารซื้อขายตัวออกมาจากอกเสื้อตนเอง “แต่แม่เฒ่าเซี่ยไม่ยอมพาเจ้าออกมาให้ข้า บอกว่าแยกบ้านกันแล้วให้ข้ามาตามเจ้าที่บ้านสามเอง พวกเขาช่างกั้นกำแพงได้รวดเร็วยิ่งนัก ข้าล่ะนึกแปลกใจจริง ๆ” เซี่ยซือซือสัมผัสได้ถึงความเห็นอกเห็นใจในคำพูดของนางถาน พลอยทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย อย่างน้อยแม่สามีของนางก็ไม่ได้

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   114 : ยวนยางคู่ (จบ)

    114 : ยวนยางคู่ (จบ) สองเดือนต่อมา เสียงประทัดจุดขึ้นตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ย ถานจ้านเป็นฝ่ายแต่งเข้ามาเป็นเขยของตระกูล คนนอกไม่รู้มักคิดติฉินนินทา แต่การที่เซี่ยซือซืออยู่กับสองแม่ลูกตระกูลถานมาตั้งแต่ต้น พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันมาหลายปีแล้ว ไม่แบ่งแยกว่าใครต้องแต่งเข้าบ้านใคร นางถานเองย่อมรู้ว่าการที่บุตรชายแต่งเข้าบ้านของภรรยา เป็นเพราะเขาต้องการช่วยนางดูแลน้อง ๆ ทั้งสองคน ตัวนางเองมีวันนี้ได้เพราะเซี่ยซือซือเช่นเดียวกัน “เจ้าไม่เสียใจแน่นะเหลี่ยฮวา” แม่เฒ่าจางแอบถามก่อนพิธีเริ่มต้นขึ้น “ข้าไม่เสียใจเจ้าค่ะแม่เฒ่าจาง ลูกชายข้ายังใช้แซ่ของข้ามาตั้งแต่เกิด ข้าไม่สนใจเรื่องชื่อแซ่หรอกเจ้าค่ะ สนใจแค่ว่าเขามีความสุขในชีวิตหรือไม่ ข้าเคยถามเรื่องซื้อเรือนเป็นของตัวเอง จ้านเออร์ปฏิเสธในทันที เขาไม่ยอมแยกจากซือซือไปไหน และรู้ว่านางเองก็ไม่สามารถแยกจากน้อง ๆ ไปได้เช่นเดียวกัน พวกเราอยู่ด้วยกันเช่นนี้ก็มีความสุขดีแล้วนี่เจ้าคะ ยังท่านมีครอบครัวอาจารย์ฮู่ ล้วนแล้วแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน” “เจ้าคิดเช่นนี้ย่อมดีแก่พวกเขา อย่าไปฟังเสียงผ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   113 : ขอแต่งงาน

    113 : ขอแต่งงาน ถานจ้านพานางไปเลือกซื้อโคมไฟอันใหม่ จากนั้นก็ชวนกันไปล่องเรือในบึง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของผืนน้ำ ที่สะท้อนแสงเป็นดวงไฟน้อยใหญ่เต็มไปหมด ฝีพายยืนอยู่ด้านหลังทำเป็นไม่สนใจคู่สามีภรรยา ที่กำลังอิงอกซบไหล่กันอยู่ ถานจ้านถอดเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกออกคลุมให้ภรรยา “ซือซือ” “หืม” “เจ้าอายุสิบแปดแล้วนะ” “อื้ม” “เราแต่งงานกันเถอะ” เซี่ยซือซือ “...” นางรีบดันศีรษะตัวเองออก เงยหน้ามองเขาด้วยความงุนงง “ไม่ใช่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วรึ” “ใช่ แต่เราไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานกัน และยังไม่เคยร่วมหอ” ทำไมเซี่ยซือซือได้ยินแล้วรู้สึกว่า เขาย้ำสองคำสุดท้ายแบบแปลก ๆ ก้มลงเล่นนิ้วมือตัวเองเงียบ ๆ “ร่วมเหอหรือ” พวงแก้มแดงปลั่ง ภายใต้แสงจากโคมไฟที่แขวนไว้ตรงหัวเรือ “เจ้าเคยเล่าให้ข้าฟังว่า โลกของเจ้าบุรุษขอสตรีแต่งงาน จะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย” ถานจ้านล้วงหยิบแหวนหยกเนื้อดีสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ บรรจงสวมใส่บนนิ้วนางข้างซ้ายให้นาง “แต่งงานกับข้านะซือซือ” เซี่ยซือซือมองแหวนบนนิ้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   112 : ชีวิตในเมืองหลวง

    112 : ชีวิตในเมืองหลวง เมื่อแคว้นฉีแพ้สงครามย่อยยับ เพื่อแสดงความจริงใจว่าจะไม่บุกแคว้นจ้าวในช่วงสิบปีนับจากนี้ พวกเขาจึงยอมส่งองค์ชายหกซึ่งมีอายุเพียงห้าปี มาเป็นตัวประกันที่แคว้นจ้าว หลังจากนั้นเพียงห้าเดือน เมืองหลวงได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เนื่องจากฮ่องเต้ทรงสวรรคตลงด้วยโรคร้าย ท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องห้าจึงต้องนำทัพ เข้าไปปราบปรามขุนนางชั่วที่ก่อกบฏ และปลดองค์รัชทายาทผู้ไร้ความสามารถลงจากบัลลังก์ ท่านอ๋องเจ็ดได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ให้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ถัดไป เมืองหลวงที่เคยเต็มไปด้วยขุนนางชั่ว กลับถูกกำจัดทิ้งไปในเวลาเพียงสองปีกว่า แน่นอนว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง คอยเฝ้าดูคนชั่วและชี้เป้าหมายความผิดได้อย่างแม่นยำ ยังเป็นเซี่ยซือซือคนเดิม แม้นางไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ เพราะอยากทำการค้าเพื่อความร่ำรวย แต่หากมีเรื่องสำคัญจริง ๆ อยากให้นางช่วย นางก็พร้อมช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ แม่ทัพโหย่วถูกย้ายมาเป็นแม่ทัพประจำเมืองหลวง ฮ่องเต้ได้มอบจวนให้เขาได้อยู่อาศัยอย่างสมเกียรติ และมอบตำแหน่งให้บุตรชายทั้งสอง โหย่วหยางหลงได้เป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร แม้เขาแขนพ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   111 : ขับไล่ข้าศึก

    111 : ขับไล่ข้าศึก เซี่ยซือซือนอนไปได้เพียงหนึ่งชั่วยามเศษ ท่านอ๋องเจ็ดก็ส่งคนมาตามนางที่กระโจม ให้นางตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ค่ายของข้าศึก เซี่ยซือซือใช้เวลาไม่นานก็พบว่าฤทธิ์ของยาเริ่มทำงาน ท่านหมอใช้ยาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง ไร้รสไร้กลิ่นไร้สี ม้าศึกนับหมื่นตัวล้มเกลื่อนอยู่บนพื้น ส่วนทหารหนึ่งในสี่ต่างก็ลุกไม่ขึ้นเช่นกัน “ได้ผลเจ้าค่ะท่านอ๋อง แม้จำนวนที่ได้รับยาไม่มากนัก แต่ก็ทำให้กองทหารม้าทมิฬไร้อาชาสู้รบได้จริง ๆ” “เช่นนั้นดี ออกคำสั่งไปให้เตรียมตัวออกรบ ส่งข่าวให้ทางซื่อจื่อได้รู้ด้วย” ท่านอ๋องเจ็ดจะรุกฆาตข้าศึกในเช้านี้ เซี่ยซือซือตัดสินใจพูดเรื่องน้ำพุวิเศษกับท่านอ๋องเจ็ดตามลำพัง นางไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้มากนัก แต่ทหารนับแสนนาย นางไม่สามารถลงมือคนเดียวได้ “เจ้าบอกว่าน้ำพุวิเศษสามารถทำให้กำลังวังชาเพิ่มขึ้นได้เช่นนั้นรึ” “เจ้าค่ะ ท่านลองดื่มดูก็ได้แต่แค่อึกเดียวพอนะเจ้าคะ มันช่วยในการรักษาเป็นหลัก ร่างกายคนปกติหากดื่มเกินหนึ่งอึก มันจะส่งผลเสีย” นางล้วงหยิบขวดน้ำพุวิเศษยื่นให้ท่านอ๋องเจ็ด ท่านอ๋องเจ็ดรับข

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   110 :  กำจัดหน่วยสอดแนม

    110 : กำจัดหน่วยสอดแนม ซื่อจื่อได้รับจดหมายเตือนแล้วถึงกับหน้าดำคล้ำในทันที หากไม่มีการเตือนจากฝั่งท่านอ๋องเจ็ด เขาคงไม่ได้สนใจข้าศึกที่แอบมาด้านข้างเป็นแน่ รีบออกคำสั่งให้ทหารหลักสามหมื่นนาย ดักซุ่มโจมตีข้าศึกที่จ้องทำลายคลังเสบียงในคืนนี้ ส่วนข้าศึกด้านหน้าที่แสร้งทำเป็นบุกโจมตี ก็ให้กองทัพย่อย ๆ ออกไปจัดการส่วนหนึ่ง ที่เหลือตรึงกำลังอยู่กับที่ ห้ามผลีผลามโดยเด็ดขาด ยามดึกทหารทั้งสองฝั่งต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถานจ้านนำทหารร้อยนาย ตามด้วยเซี่ยซือซือกับอาจารย์ฮู่ ลอบเข้าไปโจมตีหน่วยสอดแนมของอีกฝ่าย หนนี้พวกมันมากันเพียงสิบสองคน แบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มละหกคน เซี่ยซือซือชี้เป้าให้พลธนูโจมตีได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็ปลีกตัวไปช่วยสามีกับอาจารย์ฮู่ หน่วยสอดแนมทั้งแปดกลายเป็นศพในเวลาอันรวดเร็ว “จุดพลุส่งสัญญาณ” นางสั่งทหารด้านหลัง ปัง ! ปัง ! ตามที่ตกลงกันไว้ หากพลุส่งสัญญาณดังขึ้น รุ่งเช้าทหารทุกนายต้องเดินทางลงจากเทือกเขาชิงเทียนอย่างเงียบ ๆ กลุ่มของถานจ้านจะเดินทางนำหน้าไปก่อน เพื่อที่จะได้ส่งสัญญาณบอกคนด้านหลังเป็นระยะ เป

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ

    109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ เรือนโหย่วเสวี่ยหยา เซี่ยซานซานฝึกฝนวรยุทธ์กับคุณหนูสามจนเหนื่อยล้า นางกำลังนั่งกินขนมที่สาวใช้นำมาให้ ส่วนโหย่วเสวี่ยหยาขอตัวเข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ความจริงนางชวนเซี่ยซานซานไปอาบน้ำด้วย แต่เซี่ยซานซานปฏิเสธไม่อยากรบกวน “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงนุ่มทุ้มของโหย่วหยางหลงดังขึ้นอยู่ด้านหลัง “คุณชายใหญ่” เซี่ยซือซือรีบลุกขึ้นโค้งศีรษะให้เขา “ข้าเห็นสาวใช้บอกว่าเสวี่ยหยามีแขก นึกว่าจะเป็นใครที่ไหนเสียอีก นั่งลงสิเจ้ากำลังกินขนมอยู่ไม่ใช่รึ” “เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานไม่อยากอยู่กับคนผู้นี้ตามลำพัง นางเหมือนเด็กน้อยขี้ขลาด มองไปทางประตูห้องของโหย่วเสวี่ยหยาตลอดเวลา “เหตุใดถึงไม่นั่ง รังเกียจข้ารึ” “มะไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้านั่งแล้ว” นางไม่กล้ามองสบสายตากับเขาด้วยซ้ำ นั่งลงบนเก้าอี้อย่างจำใจ “กลัวข้ารึ” มุมปากของโหย่วหยางหลงกระตุกเบา ๆ นึกอยากแกล้งเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา “เจ้ามาฝึกวรยุทธ์กับน้องสามของข้า เหตุใดไม่มาลองฝึกกับข้าดูบ้างล่ะ” “ข้าฝีมืออ่อนหัดนัก ไม่บังอาจไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   108 :  รักษาท่านอ๋องห้า   

    108 : รักษาท่านอ๋องห้า แม่เฒ่าจางกับเสี่ยวเป่าเริ่มปรับตัวเข้ากับทุกคนได้แล้ว นางคอยช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่าง ไม่ทำตัวนิ่งดูดายแต่อย่างใด แม้ว่านางถานจะบอกให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอันใด แต่ความเกรงใจของหญิงชรานั้นมีมากเหลือเกิน เซี่ยซือซือเลยปล่อยให้ท่านทำไป การอยู่เฉย ๆ จะยิ่งทำให้รู้สึกเครียด นางคอยกำชับแม่เฒ่าจางว่า นางมีเงินสามารถเลี้ยงดูทั้งคู่ได้ ไม่ต้องคิดว่านางจะลำบาก แม่เฒ่าจางถึงได้วางใจ “ท่านพี่ข้าไปหาคุณหนูสามได้หรือไม่” เซี่ยซานซานอยากเจอหน้าโหย่วเสวี่ยหยา นางอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร ถอนหมั้นไปแล้วทางซื่อจื่อจะตำหนินางหรือไม่ “อืม” เซี่ยซือซือคิดหนักเพราะนางต้องไปทำงานนี่สิ “ไปเพิ่มอีกคนคงไม่เป็นไรหรอกซือซือ” ถานจ้านหน้าน้องสาวภรรยาแล้วรู้สึกสงสาร “แล้วน้องเล็กล่ะ” เซี่ยซือซือมองหาน้องชายบ้าง เพราะปกติเซี่ยซานซานจะเป็นคนคอยดูแลเขา เซี่ยซานซาน “เขาเล่นอยู่กับเสี่ยวเป่าหลังบ้านเจ้าค่ะ มีหนิงเซียนคอยดูอยู่” “เจ้าเข้าไปบอกท่านแม่ไว้ก่อน เผื่อไม่เห็นเจ้าท่านจะเป็นห่วงเอา” “ได้ท่านพี่” เซี่ยซา

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่

    107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่ วันต่อมาโรงประมูลหยางชุนกระจายข่าวออกไปอย่างหนาหู ว่าคุณชายเริ่นก้งเยว่ได้นำของล้ำค่ามาร่วมประมูล ผู้คนต่างแห่มาซื้อตั๋วเข้าชมกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงคนในจวนท่านอ๋องห้าด้วย “เจ้าแน่ใจนะว่าข้าเหมือนสตรีแล้ว” สตรีร่างสูงอย่างถานจ้านเริ่มรู้สึกประหม่า เขาแอบออกมาแต่งตัวที่โรงเตี๊ยมด้านนอก เพราะไม่อยากให้คนในบ้านรู้เรื่องนี้ “พี่หญิงใหญ่เหตุใดไม่เชื่อมือข้าล่ะขอรับ” เซี่ยซือซือที่อยู่ในชุดของคุณชายเริ่นก้งเยว่กลั้นขำแทบตาย นางถักเปียทำมวยผมให้เขาอย่างน่ารัก ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างสวยงาม “พี่หญิงใหญ่ท่านงามมากขอรับ บุรุษในโรงประมูลต้องคลั่งไคล้ท่านแน่” ถานจ้าน “...!?” เขามองพ่อหนุ่มน้อยหน้าตาเกลี้ยงเกลาตรงหน้า นางจะรู้บ้างไหมว่าแต่งเช่นนี้แล้วดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งนัก “เจ้ารีบสวมหมวกเถอะ” เขาหยิบหมวกใบใหญ่ครอบลงบนศีรษะของนาง ก่อนจะสวมให้ตัวเองอีกด้วย หากเซี่ยซือซือไม่บอกว่านางสวมหมวกปิดบังใบหน้า ไว้ตลอดเวลาที่ปลอมตัวเป็นคุณชายเริ่นก้งเยว่ เขาคงห้ามไม่ให้นางเข้าไปยังโรงประมูลแล้ว ก่อนหน้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! 

    106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! รถม้าวิ่งช้า ๆ ผ่านถนนที่มีขอทานกับคนไร้บ้านรวมตัวกันอยู่ เซี่ยซือซือไม่อยากให้น้องชายของนาง เห็นภาพน่าเวทนาเหล่านี้ นางอยากพาเขากลับเข้าไปนั่งในรถม้า แต่ไม่มีที่ให้จอดรถม้าได้อย่างปลอดภัย หากจอดไปแล้วเกรงว่าคนไร้บ้านเหล่านี้ จะกรูกันเข้ามารุมทึ้งรถม้าของนางเข้า จึงต้องให้เขานั่งอยู่บนตักของนางต่อไป เซี่ยซือหยางกินขนมในมือแล้วมองสองข้างทางไปด้วย เขาเห็นคนยากไร้นอนเกลื่อนข้างถนนเต็มไปหมด เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า ก้มลงมองขาสั้น ๆ กับนิ้วมือป้อม ๆ ของตัวเอง จะไปช่วยเหลืออันใดผู้อื่นได้ “แต่เอ๋ ?” เขาหันกลับไปมองดูอีกที ขนมในมือถูกปล่อยทิ้งลงพื้น ลุกขึ้นยืนหันหน้ามองไปยังด้านหลัง “น้องเล็กอันตรายอย่าลุก” เซี่ยซือซือจับเขาเอาไว้แน่น ๆ แต่เหตุใดเขาถึงได้ดิ้นรน อยากมองไปด้านหลังเช่นนี้ “เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม !” ถานจ้านถึงกับค่อย ๆ หยุดรถม้าลง เขาหันไปมองหน้าเซี่ยซือหยางด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวซือหยางเจ้าเรียกใคร” “เหมือนข้าจะเห็นเสี่ยวเป่า” เขาพูดคล้ายไม่แน่ใจ “เสี่ยวเป

DMCA.com Protection Status