Share

ข่าวดี

หลังจากที่หลันจินเยว่รู้ความจริงจากปากสาวใช้ว่าตอนที่ตนสลบอยู่ถูกตงเปียนอ๋องทำอันใด นางก็ไม่กล้าออกจากห้องพักอีกเลยจนผ่านมาแล้วสามวันเต็ม

"จูบแรกฉัน"

ทุกครั้งที่หลันจินเยว่อยู่คนเดียวและส่องคันฉ่องนางมักนึกถึงสิ่งที่สาวใช้เล่าให้ฟังเมื่อสามวันก่อน

ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่สะท้อนผ่านคันฉ่องทองเหลืองตรงหน้าแม้จะไม่ใช่ร่างกายของหลันจินเยว่จริง ๆ แต่คนที่รู้สึกถึงจูบที่ว่าคือตัวนางเอง จะไม่ให้เสียใจได้เยี่ยงไร

"คุณหนูไม่สบายรึเจ้าคะทำไมหน้าแดงเช่นนั้น"

เสี่ยวโหรวที่ยกสำรับอาหารเข้ามาเอ่ยถามคุณหนูนางที่ไม่รู้ตัวว่าทุกครั้งเวลานึกถึงสิ่งที่สาวใช้บอกจะหน้าแดงอยู่นานสองนาน

"ข้าสบายดี หอมจัง"

หลันจินเยว่เปลี่ยนเรื่องทำจมูกสูดดมกลิ่นอาหารที่สาวใช้เพิ่งนำมาทันทีเพราะไม่อยากให้สาวใช้ซักความต่อ

"เจ้าค่ะ วันนี้เสี่ยวโหรวเข้าครัวเองเลยนะเจ้าคะ"

เพราะกลัวว่าพ่อครัวที่จวนจะเผลอทำอาหารที่คุณหนูนางแพ้อีกเลยต้องเข้าครัวจัดเตรียมเสียเอง

"น่ากินทั้งนั้นเลย"

บนโต๊ะมีอาหารอยู่ไม่กี่อย่างเพราะปกติเฟิงเยว่ซินตัวจริงจะทานน้อย นางมักบอกตนเองเสมอว่า ทานแต่พออิ่มอย่าให้ของเหลือ แล้วทำงานให้มาก บิดาจะได้ไม่แบกรับภาระมากเกินไป

"คุณหนูทานนี่ดูนะเจ้าคะ"

สาวใช้ผู้น่ารักคีบเนื้อเป็ดตุ๋นน้ำแดงลงบนชามข้าวของผู้เป็นนาย

"อื้ม อร่อยมาก"

ว่าฝีมือป้าจวงอร่อยแล้วนะแต่พอได้มากินฝีมือคนยุคนี้อร่อยไปอีกแบบ

"ทำไมไม่ทานต่อแล้วล่ะเจ้าคะ หรือว่าคุณหนูไม่สบายตรงไหนอีก"

หลันจินเยว่เผลอนึกถึงครอบครัวแท้ ๆ จนทานอะไรไม่ลง

"ข้าแค่คิดถึงบ้าน"

บ้านที่ไม่ได้แปลว่าที่นี่ แต่เป็นบ้านที่ไกลแสนไกลที่ไม่รู้ว่านางจะมีโอกาสได้กลับไปหรือเปล่า

"โธ่... คุณหนูของเสี่ยวโหรว"

มือน้อย ๆ สวมกอดร่างอรชรของคุณหนูผู้แสนบอบบางเพื่อปลอบประโลม

น้ำตาใส ๆ ของทั้งสาวใช้ทั้งคุณหนูหลั่งไหลออกมาพร้อมกัน

"ซินเอ๋อร์! เจ้าเป็นอันใด"

อู่ชิงหรงเพิ่งกลับมาจากจวนองค์ชายเฟยหลงจึงแวะมาหาสหายวัยเยาว์แต่กลับเจอเข้ากับสองหญิงสาวนั่งอมทุกข์น้ำตาอาบแก้มแทน

"ท่านรองแม่ทัพอู่"

เสี่ยวโหรวปล่อยกอดคุณหนูนางพร้อมทำความเคารพผู้มาเยือน

"ซินเอ๋อร์เป็นอะไร"

เมื่อถามครั้งแรกไม่ได้คำตอบรองแม่ทัพผู้ร้อนใจจึงหันไปถามสาวใช้แทน

"คุณหนูบอกว่าคิดถึงท่านเสนาเฟิงเจ้าค่ะ"

เสี่ยวโหรวอธิบายแบบเจาะจงตัวบุคคล ทำให้อู่ชิงหรงถึงกับจุกในอกแทนสหายรัก

"เจ้ายังมีหวัง"

อู่ชิงหรงเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างกายสหายวัยเยาว์เพื่อบอกกล่าวข่าวดีที่เพิ่งรายงานตงเปียนอ๋องเสร็จ

"มีหวังคืออะไร"

หลันจินเยว่ปาดน้ำตาออกจากแก้ม หันไปคุยกับอีกคนที่นางเริ่มสนิทใจ

"เรื่องท่านเสนาเฟิง"

พ่อของเยว่ซินน่ะเหรอ เฮ้อ! ลืมไปว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในร่างของคนอื่นจะเป็นเรื่องใครไปได้

"ท่านเส... ท่านพ่อข้าทำไมเหรอ"

เดาจากท่าทีของชิงหรงผู้นี้บ่งบอกว่าต้องเป็นเรื่องดีแน่ ๆ

"ข้าได้รับมอบหมายภารกิจจากท่านอ๋องให้ไปตรวจสอบดูจุดที่ทหารบอกว่าสังหารพ่อเจ้า ทว่าข้ากลับไม่พบเบาะแสอะไรที่บ่งบอกว่าตรงนั้นมีการต่อสู้เกิดขึ้น"

นี่คือสิ่งที่อู่ชิงหรงได้ไปสืบมา

"ท่านรองแม่ทัพกำลังบอกว่าท่านเสนาเฟิงยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ"

เสี่ยวโหรวดีใจแทนคุณหนูจนเสียมารยาทถามออกไป

"จะกล่าวว่ายังมีชีวิตอยู่เลยก็ใช่เรื่อง แต่ท่านอ๋องตรัสว่า ไม่พบศพ ให้ถือว่าคนยังมีลมหายใจ"

ก็มีเหตุผล แต่ทุกอย่างไม่เกี่ยวกับตัวหลันจินเยว่สักหน่อย นางแค่มาอาศัยร่างคนอื่นอยู่ สิ่งที่มีผลกับนางคือการได้กลับคืนร่างตัวเองที่แม้จะไม่รู้ว่าจากอุบัติเหตุครั้งนั้นนางจะยังมีลมหายใจอยู่อีกมิติหรือไม่

"ทำไมเจ้าดูไม่ดีใจเลย"

สายตาไม่เคยหลอกใคร ในดวงตาสีดำขลับมีแต่ความผิดหวังปนเศร้าสร้อยจนสหายสนิทจับพิรุธได้

"ดีใจสิ ทำไมข้าจะไม่ดีใจ"

เสียงตื่นเต้นหลุดออกมาจากริมฝีปากได้รูปสวย แววตาที่เศร้าหมองเมื่อครู่มีประกายในแววตาขึ้นมาจนคนครางแครงใจเลิกกังวล

"เรื่องดีเช่นนี้เราต้องไปบอกแก่คุณหนูใหญ่นะเจ้าคะ"

เพราะญาติเพียงคนเดียวที่นางเหลืออยู่ตอนนี้คือพี่สาวต่างมารดาเสี่ยวโหรวเลยแนะนำ

"เกรงว่ายังไม่ได้" ชิงหลงรีบเอ่ยห้าม

"ทำไมล่ะ"

หลันจินเยว่มองหน้าเขาเพื่อต้องการคำอธิบาย

"ท่านอ๋องรับสั่งไว้ เรื่องในวันนี้ที่ข้าไปสืบมาต้องเป็นความลับ"

ทำไมต้องเป็นความลับด้วยนะ พ่อยังไม่ตายควรบอกกล่าวแก่ลูกให้รู้เป็นเรื่องดีออก

"เจ้าคงไม่ได้โกรธเคืองการตัดสินใจของท่านอ๋องใช่หรือไม่"

หลันจินเยว่ถูกถามจวนตัวเลยได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พร้อมหลุดปากพูดสิ่งที่หลีกหนีมาตลอดสามวันออกไป

"ข้าจะไปโกรธท่านอ๋องได้ยังไง ตัวข้าอยากไปขอบคุณท่านอ๋องด้วยตัวเองด้วยซ้ำ"

"เอาสิ ข้าจะพาเจ้าไปเข้าเฝ้าท่านอ๋อง"

หลันจินเยว่ฝืนกลืนก้อนน้ำลายลงคอพลางหลบหน้าสหายสนิทพึมพำกับตนเอง

"ไม่น่าปากไว้เลยเรา"

"แต่คุณหนูเพิ่งทานไปได้แค่หน่อยเดียวเองนะเจ้าคะ"

เสี่ยวโหรวสองจิตสองใจ ทั้งอยากให้คุณหนูไปพบท่านอ๋อง ทั้งอยากให้นางดื่มกินให้อิ่มก่อน

"ไว้ข้าค่อยกลับมากิน"

ถึงในใจจะยังไม่กล้าสู้หน้าท่านอ๋องที่ว่า แต่ด้วยความที่นางคลาดการเห็นหน้าตาคนผู้นี้ไปหลายหนเลยเลือกอย่างหลัง

"ท่านอ๋องน่าจะกำลังซ้อมธนูอยู่ เจ้าต้องระวังตัวด้วยละ"

"เสี่ยวโหรวเจ้าตามข้ามาด้วย"

"แต่ว่า..."

เพราะมาอยู่ที่นี่หลายวันทำให้เสี่ยวโหรวรู้ดีว่าเจ้าของจวนแห่งนี้รักสันโดดและมีเขตหวงห้ามค่อนข้างเยอะจึงได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่กล้ารับปากหลันจินเยว่

"ให้เสี่ยวโหรวรอที่นี่เถอะ ท่านอ๋องไม่ชอบให้คนไปยุ่งย่ามเวลาฝึกซ้อม"

คนอะไรจะเข้มงวดขนาดนั้น แต่ก็ช่างปะไร นางแค่อยากเห็นหน้าท่านอ๋องที่เคยเจอแบบไม่ค่อยชัด ส่วนสาวใช้คงพบเจอหน้าท่านอ๋องจนชินตาไปแล้ว

"งั้นเรารีบไปกันเถอะ"

อู่ชิงหรงหัวเราะเบา ๆ พร้อมส่ายหัวไปมา เมื่อเห็นสหายรักกระโดดโลดเต้นวิ่งนำหน้าเขาราวรู้ทิศทาง

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   สตรีเจ้าปัญหา / 1

    ฉึก!เสียงปลายแหลมคมของลูกธนูปักเข้ากับเป้าวงกลมตรงกลางอย่างแม่นยำคนที่เพิ่งมาถึงสนามยิงธนูที่อยู่ส่วนลึกสุดของจวนเหมยฮัวที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไผ่ถึงกับรีบหลบด้านหลังชิงหรงด้วยความหวาดเสียว"ท่านอ๋อง ข้าพาเยว่ซินมาเข้าเฝ้า"มือที่ค้างคันธนูอยู่ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยลูกธนูที่แหลมคมลงกลางเป้าสีแดงเป็นลูกที่สอง ริมฝีปากหยักลึกเอ่ยอย่างราบเรียบแฝงไปด้วยความเย็นชา"ข้าไม่เคยสั่งหรือไร เขตหวงห้ามคนนอกห้ามเข้า"เพียงแค่ได้ยินคำว่า 'คนนอก' ที่ฟังดูก็รู้ว่าอีกคนกำลังเหน็บแนมตน หลันจินเยว่รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาทันควันเผลอทำปากล้อเลียนแบบไม่มีเสียงอยู่ด้านหลังบุรุษรูปงาม ทว่าสายตาขององค์ชายเฟยหลงช่างไวยิ่งนักที่เหลือบเห็นด้วยหางตาเข้าพอดี"ข้าไม่ชอบพวกนินทาลับหลัง หากอยากพูดอะไรเปล่งวาจาออกมาตรง ๆ"ชิงหรงก้มมองคนที่ดึงแขนเสื้อเขาอยู่ จินเยว่รีบเชิดหน้าขึ้นสู้สายตาอึกคน"หม่อมฉันแค่จะมาขอบพระทัยท่านอ๋องที่ช่วยสืบเรื่องท่านพ่อ" น้ำเสียงมีความกระแทกกระทั้นเป็นบางส่วน ฟังแล้วรู้ทันทีว่าอีกคนไม่พอใจในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไป"หากเป็นเรื่องนั้นจงรู้ไว้ ข้าไม่ได้ทำเพื่อเจ้า"วางท่า!หน้าตาหล่อเหลาก็จริง

    Last Updated : 2025-01-27
  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   สตรีเจ้าปัญหา / 2

    "ไร้ยางอาย? หม่อมฉันไม่เคยทำเรื่องไร้ยางอายมาก่อน พระองค์ตรัสแรงเกินไปหรือเปล่าเพคะ"แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าสร้อย ใบหน้าบิดเบี้ยวสะอื้นไร้น้ำตาเพื่อให้สมบทบาทที่สร้างขึ้นมากลั่นแกล้งอีกคน"เจ้าทำอันใดที่ไร้ยางอายไว้ย่อมรู้อยู่แก่ใจ"ตงเปียนอ๋องมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาขยะแขยง ไม่อยากเข้าใกล้ราวกับนางติดโรคระบาดมา'เฟิงเยว่ซิน เจ้าเคยไปทำอะไรท่านอ๋องคนนี้ไว้ก่อนที่ข้าจะมาเข้าร่างเจ้าใช่ไหม ดูสายตาเขาที่มองเจ้าสิ รังเกียจเหมือนเป็นอะไรสักอย่าง'"เรื่องสติเลอะเลือน ข้าว่าน่าจะเป็นโรคประจำตัวกระมัง ผ่านมาไม่กี่วัน เรื่องน่าอายพวกนั้นเจ้ากลับจำมันไม่ได้แล้ว"เสียงเหน็บแนมดังขึ้นอีกครั้ง ตงเปียนอ๋องส่ายหน้าอย่าระอาให้กับสตรีตรงหน้าที่ยังค้นหาไม่เจอว่านางทำเรื่องไร้ยางอายอันใดไว้กับตน"เอ๊ะ! หรือว่าพระองค์หมายถึงเรื่องจูบนั่น!"เพราะคำใบ้ที่บอกว่าเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันทำให้หลันจินเยว่นึกได้เพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว"ไร้ยางอาย! เป็นถึงบุตรีขุนนางชั้นสูงกลับพูดคำนั้นออกมาได้ไม่อายฟ้าดิน"ถ้าไม่พูดตรง ๆ เขาจะรู้ไหมว่านางกำลังเข้าใจเรื่องเดียวกันกับอีกคนหรือไม่"เรื่องนี้จริงด้วย หม่อมฉันมากกว่าที่ต้อง

    Last Updated : 2025-01-27
  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   สตรีเจ้าปัญหา / 3

    "แค่เราสองคนคงหาไม่ทั่ว ข้าจะไปทูลขอให้ท่านอ๋องเรียกบ่าวในจวนมาช่วยอีกแรง"หามาแล้วหนึ่งก้านธูปก็ไม่เห็นแม้เงาเฟิงเยว่ซิน อู่ชิงหรงอุตส่าห์ยืนรออยู่ทางเข้าสนามฝึกซ้อมแต่กลับไม่เห็นสหายวัยเยาว์ออกมาสักที ตอนนั้นตงเปียนอ๋องก็กลับออกไปอีกทางทำให้อู่ชิงหรงเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองยังอยู่ด้านในทว่าพอเมฆฝนครึ้มมากลับไม่เห็นทั้งคู่ออกมาจึงเร่งกลับเข้ามาดูแต่สิ่งที่พบเจอมีเพียงเป้าธนูไร้ผู้คนที่รอคอย"เจ้าต้องการใช้คนเพื่อการใด"ตงเปียนอ๋องผู้ยังไม่รู้เรื่องราวใด ๆ เดินผ่านมาได้ยินสิ่งที่องครักษ์ข้างกายพูดขึ้นจึงเอ่ยถาม"ท่านอ๋อง"ทั้งสองคนทำความเคารพเจ้าบ้านก่อนที่ชิงหรงผู้ร้อนใจจะเร่งปากเอ่ยขอสิ่งที่ตริตรองไว้"ข้าต้องการยืมพวกบ่าวในจวนช่วยกันออกตามหาซินเอ๋อร์พะย่ะค่ะ""ตามหาใครนะ"ใช่ว่าไม่ได้ยิน แต่เพราะได้ยินชัดทุกคำจึงรู้สึกตกใจตาม"ท่านอ๋องพอจะทราบไหมเพคะว่าแยกจากคุณหนูแล้วนางไปไหนต่อ"เสี่ยวโหรวร้อนใจยิ่งกว่าผู้ใดจึงเสียมารยาทถามออกไป"ข้ากับนางแยกกันได้ราวครึ่งชั่วยามแล้ว ส่วนจะไปที่ใดนั้น"ตงเปียนอ๋องเฟยหลงสุดจะหาคำตอบให้สาวใช้ที่ขอบตาแดงก่ำ"ท่านอ๋องกับซินเอ๋อร์แยกกันแล้วครึ่งชั่วยาม

    Last Updated : 2025-01-27
  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   หลบฝน / 1

    “หนาว ผ้า ขอผ้าห่มที”เสียงสั่นสะท้านบ่งบอกอาการว่าคนที่เปล่งวาจาออกมานั้นกำลังรู้สึกหนาวสะบั้นไปถึงข้างในกายมากเพียงใด ตงเปียนอ๋องเฟยหลงที่กำลังเร่งก่อกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่นเงยหน้ามองคนที่กอดกายตนเองเสื้อผ้าเปียกโชกชุ่มฉ่ำเพราะสายฝนด้วยแววตาเรียบเฉย หลังจากที่เขาสั่งให้คนออกตามหาตัวหลันจินเยว่ตามความต้องการของอู่ชิงหรง ท่านอ๋องที่ไม่เคยรู้สึกอ่อนไหวต่อเหตุการณ์ใด ๆ ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ ในใจว้าวุ่นครุ่นคิดอยู่นานสองนาน หากเกิดอะไรขึ้นกับนางผู้นี้ รองแม่ทัพชิงหรงจะเคืองโกรธโทษเขาหรือไม่เพราะเขาคือคนสุดท้ายที่อยู่กับนาง แถมยังเป็นคนที่ทิ้งนางไว้ที่นั่นคนเดียวจนเกิดเรื่อง เมื่อคิดทบทวนความผิดตนเองอยู่นานสองนานจึงตัดสินใจช่วยออกตามหาตัวหลันจินเยว่อีกแรงตงเปียนอ๋องเฟยหลงแกะร่องรอยตามความชำนาญทางของป่าแถบนี้จนพบกับร่างบอบบางนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำแล้วพาเข้ามาหลบฝนในถ้ำแห่งนี้"แม่คะ พ่อคะ หนูหนาวเหลือเกิน"เสียงโอดครวญแผ่วเบาคลอออกมาจากริมฝีปากเป็นกระจับหลันจินเยว่เอาแต่กอดก่ายตัวเองเพื่อควานหาความอบอุ่นให้ร่างกายทว่าในถ้ำแ

    Last Updated : 2025-01-27
  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   หลบฝน / 2

    "แค่ข้อเท้าเคล็ด ไกลความตายนัก"'คนอะไรขยันประชด มีดีแค่หน้าหล่ออย่างเดียวจริง ๆ'"ท่านอ๋อง ข้าหนาว แต่ข้าคงเดินไม่ไหวแล้ว"เสียงเล็กออดอ้อนดังขึ้นพร้อมสายตาน่าสงสารลอบมองตงเปียนอ๋องที่ไม่สนใจจะมองหน้านางพรึ่บ! เหมือนจำใจทำตามสถานการณ์ ร่างนุ่มนิ่มถูกช้อนอุ้มลอยกลางอากาศเพียงชั่วครู่ก็ถูกวางไว้บนกองหญ้าแห้งที่ใช้ปูแทนเสื่อนั่ง มีกองไฟห่างจากร่างนั้นเพียงเอื้อมมือ"ขอบพระทัยท่านอ๋อง"แม้ปากจะกล่าววาจาน่าฟัง แต่สายตาหลันจินเยว่แสดงออกว่าสะใจที่ครั้งนี้นางแกล้งเขาสำเร็จแล้ว"ฝนคงตกทั้งคืน ถ้าโชคดีพวกชิงหรงอาจจะมาเจอ แต่ถ้าโชคร้ายคงต้องนอนในนี้จนรุ่งสาง"หลันจินเยว่เหลือบมองไปยังปากถ้ำที่ตอนนี้มองไม่เห็นทิวทัศน์ด้านนอกเพราะถูกสายฝนบดบังจนพื้นที่ตรงนั้นกลายเป็นสีเทาขุ่นมัวไปหมด"ในถ้ำนี้มีผีหรือไม่เพคะ"หากมองไกลออกไปจากรัศมีแสงสว่างของเปลวไฟพบเจอแต่ความมืดมิดจนเกิดความกลัวต่าง ๆ นานา ขึ้นในความคิด"เจ้าสื่อสารกับคนตายได้"ตงเปียนอ๋องกำลังหาที่นอนเอ่ยถามพลางเหน็บแนมในที"หม่อมฉันเป็นคนจะไปสื่อสารกับวิญญาณคนตายได้อย่างไรเพคะ""แล้วใยเจ้าจะต้องกลัวผี"นี่เขากำลังหลอกด่านางใช่ไหม"ท่านอ๋องคง

    Last Updated : 2025-01-27
  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   สตรีเช่นข้ามิใช่คนอ่อนแอ

    "อืม หอมที่สุด"เคยเห็นแต่ในซีรีส์เขาย่างปลากินกัน มาวันนี้ได้มาลองลิ้มรสการทำอาหารแบบยุคโบราณดูบ้างจะอร่อยตื่นตาขนาดไหนกันนะว่าแล้วมือเรียวจึงค่อย ๆ ฉีกส่วนเนื้อออกมาแล้วเอาเข้าปาก"อื้ม... อร่อย"แม้จะไม่ได้โรยเครื่องเทศอะไรลงไป แต่อาหารตรงหน้านี้กลับให้รสชาติหวานกลมกล่อมยิ่งกว่าถูกปรุงรสเสียอีก"มูมมาม!"หลันจินเยว่ใช้หางตาตวัดมองตงเปียนอ๋องที่จิกกัดนางอีกแล้ว"หม่อมฉันป้อนไหมเพคะ"ไม่ว่าเปล่ามือฉีกชิ้นส่วนที่เป็นส่วนน่องยื่นให้จนเกือบทิ่มปากอีกคน"ข้ามีมือ"ตงเปียนอ๋องเฟยหลงรีบหลบไปอีกทาง มือหนึ่งเอื้อมหยิบไม้อาหารที่เหลือติดมาด้วยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งบนหินก้อนใหญ่เพื่อหลบให้ห่างจากสตรีที่ไม่เคยทำอะไรถูกใจตน"หล่อ เก่ง ทำอาหารเป็น นี่มันพ่อของลูกในอนาคตชัด ๆ"หลันจินเยว่เอ่ยชมคนที่ไม่รู้ตัวว่านางแอบปลื้มเบา ๆถ้าหากนี่เป็นยุคปัจจุบันของนาง ป่านนี้คงเป็นฝ่ายขอจีบตงเปียนอ๋องไปแล้วหลังจากมีอาหารตกถึงท้องแล้วทั้งคู่ก็พากันนั่งมองสายฝนกันคนละมุมถ้ำ"ปกติที่นี่ฝนตกนานขนาดนี้เลยเหรอ"ไม่อยากให้บรรยากาศเงียบมีเพียงเสียงอื้ออึงสะท้อนเข้ามาของสายฝน คนที่มาจากยุคสมัยอื่นจึงถามเพื่อเสริมความ

    Last Updated : 2025-01-27
  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ขับพิษ / 1

    "แมงป่องหางแดง"ดวงตาคมกล้าเบิกอย่างตกใจเมื่อเห็นเจ้าตัวที่ทิ้งร่องรอยไว้บนข้อมือหลันจินเยว่เดิมทีแมงป่องตามธรรมชาติจะเป็นตัวสีดำขลับทั้งตัว พิษของมันก็แค่ปวดบวม หากผู้ใดแพ้จะมีไข้ไม่นานก็หายแต่เจ้าแมงป่องหางแดงตัวนี้มีลักษณะที่เด่นชัดเลยคือตัวเล็กกว่าแมงป่องธรรมดาที่โตเต็มไวถึงสองส่วน หางที่ใช้จู่โจมศัตรูจะมีสีแดงคล้ายสีของเลือด เป็นสัตว์มีพิษที่ประหลาด คนที่โดนต่อยเข้าไปจะมีอาการเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวจนสุดท้ายธาตุในร่างกายแปรปรวนยุ่งเหยิงสิ้นใจในทันที"ข้ามิได้ตั้งใจแช่งเจ้า"นึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่เผลอโมโหหลันจินเยว่ที่โยนเสื้อตนทิ้งทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมา"ร้อน ร้อนจัง ร้อนมากเลย"สองมือเรียวสวยดึงทึ้งเสื้อตัวเองจนแทบจะหลุดรุ่ย เดือดร้อนไปถึงบุรุษรูปงามที่นั่งกัดฟันกรอด ๆ หงุดหงิดให้กับความไม่รู้จักระมัดระวังแถมยังถือดีท้าอะไรไม่เข้าท่าต้องจับสองมือแน่งน้อยให้ออกจากเสื้อผ้าที่เกือบจะหลุดเห็นผ้าพันอก"อยู่นิ่ง ๆ" เสียงกังวาลสั่งขึ้น"ข้าจักทำอันใดกับเจ้าดี"บุรุษผู้รู้วิธีรักษาพิษจากแมงป่องหางแดงดีถึงกับครุ่นคิดหนักในตำราแพทย์ที่เคยศึกษามามีเพียงวิธีรักษาด้วยการขับเอาพิษออกจากรูข

    Last Updated : 2025-01-27
  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ขับพิษ / 2

    แรงบดจูบจากสตรีที่สั่งสมประสบการณ์มาจากการดูซีรีส์อย่างโชกโชนเริ่มขึ้นริมฝีปากนุ่มเหมือนเต้าหู้ขาวบดขยี้กับริมฝีปากบุรุษรูปงานเพื่อให้อีกฝ่ายเผยอกลีบปากแยกออกจากกันรองรับเรียวลิ้นที่กำลังสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากอีกคนอย่างหยอกเอินสลับรัวเร็วบุรุษกายกำยำเริ่มสับสนในการเรียบเรียงความคิดเขาต้องยับยั้งพิษในร่างและหยุดการกระทำหยาบโลนของสตรีด้านบนแต่เหมือนร่างกายบุรุษไม่ตอบสนองความคิดของเขาเท่าไรนักสาบเสื้อค่อย ๆ ถูกมือแน่งน้อยสอดล้วงเข้าไปลูบคลำอกหนัดแน่นเรียกเลือดลมภายในตีรวนส่งผลไปยังส่วนที่อยู่ต่ำกว่าสะโพกให้ขยับขยายขึ้น"เฟิงเยว่ซิน เจ้าต้องตั้งสติ"เท่าที่เขาศึกษาตำรามา ในนั้นไม่ได้บอกว่าพิษแมงป่องหางแดงจะทำให้คนที่โดนต่อยมีอาการเหมือนโดนผงกำหนัดเช่นนี้หรือว่าสตรีผู้นี้เป็นคนวิปลาสจิตสกปรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว"อืม... อกแน่นมาก ขอขยำให้หนำใจหน่อยนะ"เสียงหัวเราะชอบใจมาพร้อมมือนุ่มที่ล้วงเข้าไปจนสัมผัสผิวกายของอีกคน ลึกขึ้น ต่ำลง จนตงเปียนอ๋องเบิกตากว้างแทบลืมหายใจเมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองกับสัมผัสนั้นยิ่งกว่าเดิมลมหายใจเขาร้อนจนแทบจะแผดเผาผิวกายที่โผล่พ้นอาภรณ์ทำบุรุษอกสามศอกกลืน

    Last Updated : 2025-01-27

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 1

    ตอนนี้ดวงตะวันเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง บ่งบอกว่าทั้งสองกายที่นอนกอดกันทั้งคืนเจอกับรุ่งเช้าของวันใหม่แล้วหลันจินเยว่รู้สึกตัวตื่นก่อนจึงค่อย ๆ แกะมือแกร่งที่โอบกอดนางไว้ในอ้อมกอดทั้งคืนออกอย่างช้า ๆเมื่อคืนไม่รู้ว่าเหตุใดจุดจบของทั้งคู่จึงกลายเป็นการหลอมรวมเป็นหนึ่งเช่นนั้นถึงแม้จะยังเคอะเขินและเจ็บหน่วงไปทั้งร่างกายอยู่ แต่นางไม่อยากให้อีกคนตื่นมาเจอสภาพกึ่งเปลือยเช่นนี้จึงตั้งใจหนีจากอกอุ่นออกมาแต่งกายให้เรียบร้อย"คิดจะหนีข้ารึ"ดวงตาดั่งกวางน้อยตกใจกับเสียงทุ้มที่เอ่ยทว่าหลับตาอยู่"ทะ...ท่านตื่นแล้ว"ปกติไม่ได้พูดจาติดขัดเช่นนี้ เหตุใดครั้งนี้ถึงไม่กล้าต่อปากต่อคำเถียงอีกคนกันเล่าพรึ่บ!ตงเปียนอ๋องขี้แกล้งพลิกร่างบอบบางกึ่งเปลือยของนางให้นอนกองทับบนอกตนหลันจินเยว่จ้องมองร่องรอยจิกข่วนบนกล้ามอกอันเกิดจากนางพลางร้อนรุ่มขึ้นที่พวงแก้มทั้งสองข้าง"แอบอ่านกินข้าอยู่หรือ""บ้า!"กำปั้นน้อย ๆ ทุบลงกึ่งกลางเนื้ออกหนัดแน่น"หากข้าบ้า เจ้ามิน่าสงสารหรือ""ทำไมข้าต้องน่าสงสาร"นางเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดจาให้งวยงง"เพราะเจ้ามีสามีเป็นคนบ้า"สะ...สามี!ใบหน้าสวยแดงกร่ำไปทั่วพวงแก้ม ริมฝีปากเ

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   กอดก่ายเคียงกาย

    "เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ตลอดทางมาที่นี่ข้าทำเครื่องหมายเอาไว้แล้ว"อ้อ คงจะเป็นพวกเครื่องหมายลับที่รู้กันแค่ไม่กี่คน"แผลท่าน"ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองแขนที่พันผ้าสีขาวเพื่อห้ามเลือดเอาไว้"แผลเล็กน้อย ข้าต้มยาไว้เดี๋ยวเอามาให้เจ้าทาน"ไม่รอช้าตงเปียนอ๋องผู้เย่อหยิ่งไม่เคยปรนนิบัติใครมาก่อนรีบออกไปยกหม้อยาที่ต้มรอคนเจ็บฟื้นมาให้นางทันที"แค่กลิ่นก็รู้แล้วว่าขม"จริมฝีปากจิ้มลิ้มกล่าว ใบหน้าสวยหวานหันหนีไปอีกทางเพราะไม่ชอบกลิ่นของยาถ้วยนี้"ยาไม่ขมจะช่วยให้หายได้เยี่ยงไร เจ้าฝืนดื่มสักอึกเถอะ"ถ้วยยาถูกยกขึ้นใกล้ใบหน้าหวานนั้นอีกครั้งหลันจินเยว่เหมือนตกอยู่ในมนตร์สะกดเมื่อเผลอสบตาตงเปียนอ๋องที่จ้องนางอยู่ก่อนแล้ว"งั้นข้าป้อนเจ้าแล้วกัน"ว่าจบจึงจับช้อนแล้ววนยาในถ้วยสองสามรอบ ตักยาขึ้นจากถ้วยแล้วจ่อตรงริมฝีปากบางหลันจินเยว่อ้าปากเล็กน้อยเพื่อกลืนยาในช้อนนั้นหากแต่ไม่ยอมละสายตาไปจากใบหน้าตงเปียนอ๋องราวกับมองแล้วจะช่วยลดรสชาติขมของยานี้ลงได้"เด็กดี"รู้ตัวอีกทีจากแค่คิดว่าต้องดื่มแค่อึกเดียวกลายเป็นถูกตงเปียนอ๋องป้อนจนหมดถ้วย"ทะ...ท่า...น"อ้าปากเตรียมต่อว่าอีกคนที่หลอกให้นางทานยาแ

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เสือขวางทาง / 2

    "ต้าเสียน?"นี่เป็นสิ่งเหนือความคาดเดาของตงเปียนอ๋อง เขาไม่เคยคิดว่าคนที่บงการพ่อลูกตระกูลซู่จะเป็นผู้ร่วมสายเลือดเดียวกับเขาอย่างองค์หญิงสาม"เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า เจ้าคงคิดว่าท่านพ่อข้าจะไม่หาทางหนีที่พึ่งไว้สินะ"เมื่อคิดว่าตอนนี้ตนมีอำนาจกว่าอีกฝ่ายก็เริ่มอวดเบ่งด้วยเสียงเย้ยหยัน"ถ้ำแห่งนี้จะเป็นสุสานของพวกเจ้า"จบประโยคนั้น ซู่จิ่งอวิ๋นปรี่เข้าไปฟาดฟันตงเปียนอ๋องเฟยหลงเช่นเดียวกับคู่ของต้าเสียนที่กำลังกันทางไม่ให้อู่ชิงหรงเข้าไปช่วยเหลือหลันจินเยว่บุรุษแห่งกองทัพมังกรขาวทั้งสองแม้จะรับมือคู่ต่อสู้หากแต่ในใจกลับห่วงสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่ถูกจับมัดไว้กลางวงต่อสู้หวั่นจะถูกลูกหลงเอา"ท่านอ๋องระวัง!"เสียงนั้นช้าไป คมกระบี่ของซู่จิ่งอวิ๋นเฉือนเข้าที่แขนตงเปียนอ๋องจนเลือดสีแดงซึมออกมา"ท่านอ๋อง!"อู่ชิงหรงอาศัยความเร็วเข้ารับกระบี่ของซู่จิ่งอวิ๋นที่กำลังจะซ้ำลงอีกครั้งได้ทันท่วงที"ท่านพาซินเอ๋อร์หนีไปก่อน"เสียงอู่ชิงหรงดังขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่คมกระบี่เขาฟันลงบนขาพับของซู่จิ่งอวิ๋นจนเซเสียหลัก"ท่านแม่ทัพอวิ๋น!"ต้าเสียนเห็นท่าทีไม่สู้ดี แม้จะบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายแต่บาดแผลของซู่จิ่งอว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status