บทที่ 9 ขายดิบขายดี
เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนในโรงงานกำลังเดินทางกลับบ้านโชคดีที่บ้านของฟางเซียนไม่ไกลจากโรงงานเท่าไหร่นัก เธอมาถึงได้ยืนชะเง้อมองหาซิงเยียน เห็นเธอโบยมือร่ำลาลูกน้องในโรงงานเมื่อหันมาเห็นฟางเซียนเธอรีบเดินเข้ามาทักทายทันที
"สวัสดีค่ะป้าฟางเซียนมารับพี่ลู่หลินหรือคะ?"
"อ้อ…ไม่ใช่จ้ะ ป้ามาที่นี่เพราะต้องการเจอหนูซิงเยียนมาคุยกับป้าสักหน่อยได้มั้ย " ซิงเยียนคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยแต่ก็ยอมเดินตามฟางเซียนไปยืนคุยไกล ๆ ผู้คน
"คุณป้ามีเรื่องอะไรหรือคะ? "
"ป้าอยากจะถามหนูอย่างจริงใจ หนูซิงเยียนชอบลูกชายของป้าหรือเปล่าจ้ะ " เมื่อถามขึ้นใบหน้าของเธอแดงระเรื่อราวมะเขือเทศ ยืนบิดอายไปมาเผยให้ฟางเซียนเห็นโดยที่เธอไม่ต้องตอบก็รู้ว่าเธอคิดยังไงกับเหวินเทียน
"ป้าฟางเซียนถามอย่างนี้จะให้ฉันตอบยังไงคะ หากจะว่าชอบก็คงตรงไป "
"ไม่เลยเพราะป้ามาหาหนูวันนี้เพราะมีความจริงจะบอก จริงสิวันนี้ลู่หลินเล่าให้ป้าฟังแล้วว่าหนูรู้แล้วเรื่องที่เหวินเทียนหย่ากับภรรยา ตอนนี้เขาโศกเศร้าเสียใจมากจนไม่ได้สติ หากตอนนี้หนูซิงเยียนเข้าไปปลอบใจอยู่เคียงข้างเขาคงจะมีกำลังใจขึ้นมา วันนี้หนูมีเรื่องจะต้องทำหรือเปล่า?"
"น่าสงสารพี่เหวินเทียนจังเลยนะคะ แล้วทำไมเขาถึงเลิกกับภรรยาล่ะคะ หากพี่เหวินเทียนรักเธอขนาดนั้น" ซิงเยียนดีใจแต่พยายามรักษาหน้าตัวเองไว้ไม่ให้แสดงออกมากเกินไปแสร้งทำเป็นถามถึงเรื่องที่เหวินเทียนเลิกกับภรรยาเก่า
"เพราะว่าลูกสะใภ้คนนั้นไม่ได้รักเหวินเทียนยังไงล่ะ หลอกล่อให้เหวินเทียนรักจนหมดใจ จนแกล้งฆ่าตัวตายและเรียกร้องให้เหวินเทียนหย่า นั่นยังไม่พอแถมยังขู่เข็นเอาค่าเสียหายจากครอบครัวเราด้วย เหวินเทียนรักเธอเสียจนยอมจ่ายเงินให้เธอห้าสิบหยวน เจ้าเล่ห์นัก" ฟางเซียนเอ่ยออกมานึกทีไรก็โมโหไม่หายที่จะต้องเสียเงินจำนวนมากให้เหม่ยหลิง
"หากเป็นอย่างนั้นฉันจะไปปลอบใจพี่เหวินเทียนค่ะ " ซิงเยียนไม่รู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของว่าที่แม่สามีจึงยอมตามเธอไปที่บ้าน จากนั้นเธอได้วางยานอนหลับให้ซิงเยียนก่อนที่จะเข้าไปหาเหวินเทียนที่ห้อง ยามนั้นเองที่เหวินเทียนได้สติแต่ยังคงเมาไม่สร่างเห็นซิงเยียนเป็นภรรยาของตัวเองนึกดีใจที่เธอกลับมาหา โอบกอดเธอแน่นก่อนจะร่วมหลับนอนด้วยกัน ฟางเซียนแอบมองอยู่เห็นว่าแผนสำเร็จเธอยิ้มนอนยิ้มใหญ่ออกมาอย่างพึงพอใจ เพราะต่อจากนี้ชีวิตครอบครัวของเธอจะได้สุขสบายไปตลอดชาติ
รุ่งเช้าวันต่อมา
บ้านตระกูลฟ่ง
วันนี้เหม่ยหลิงตื่นแต่เช้าจัดหน้าร้านวางซาลาเปาตั้งโต๊ะขายอย่างทุกวันมีลูกค้าที่เดินผ่านมาเรียกซื้อ
"ซาลาเปาลูกละเท่าไหร่ครับ"
"ซาลาเปาลูกละสองเจี่ยวค่ะ รับเท่าไหร่ดีคะ"เหม่ยหลิงรีบตอบลูกค้าทันทีที่มาถาม
"งั้นเอามาห้าลูก " เหมยหลิ่งดีใจนาน ๆ ครั้งที่จะมีคนมาซื้อทีเดียวห้าลูกอย่างนี้เธอรีบหยิบซาลาเปาใส่ถุงยื่นให้ทันที
"นี่ค่ะซาลาเปาห้าลูกเป็นเงินหนึ่งหยวนค่ะ"เขาควักเงินออกมายื่นให้เธอก่อนจะเดินจากไป
"วันนี้วันดีจริง ๆ เลยรับเงินหนึ่งหยวนแต่เช้า เวยอันหิวหรือยังพี่ทำซุปไว้ในครัวหากหิวแล้วยกออกมากินได้เลยนะ "
"ครับพี่เหม่ยหลิง" เวยอันช่วยเหลืองานเหม่ยหลิงกำลังเช็ดถูบ้านอยู่อย่างขะมักเขม้นตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่กันสองคนพี่น้องเขาไม่โดนทุบตีอีกเลย เหม่ยหลิงนำเงินไปเก็บในกระปุกเงิน เห็นว่าตอนนี้กิจการของตัวเองกำลังไปได้ดี เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเจ้าของโรงงานใกล้ ๆ ให้ช่วยทำซาลาเปาหลายสิบลูกเพื่อนำไปเลี้ยงฉลองการเปิดกิจการใหม่ทำให้เธอมีความคิดที่จะรับทำซาลาเปางานมงคล เพราะรสชาติและความสดใหม่ทำให้ซาลาเปาของเหม่ยหลิงเลื่องลือไปไกล เธอพอเก็บเงินได้บ้างแล้วจึงคิดจะส่งน้องชายกลับไปเรียนหนังสือตามที่เหม่ยหลิงคนเก่าต้องการแต่ทำไม่ได้
"เวยอันพี่ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย? ความฝันขอเราเมื่อโตขึ้นอยากจะเป็นอะไร " เด็กชายวางมือจากการถูพื้นเดินเข้ามาหาพี่สาวใบหน้าครุ่นคิดดวงตาเป็นประกายก่อนจะปรากฏรอยยิ้ม
"ความฝันหรือ? ฉันอยากเป็นนายทหารแต่ไม่ใช่ทหารเหมือนพี่เหวินเทียนนะ ฉันอยากมียศมีอำนาจจะได้ปกป้องพี่เหม่ยหลิงได้ และยังไม่มีเงินเดือนให้พี่ใช้ทุกเดือนตอบแทนที่พี่ดูแลฉันอย่างไงล่ะ" ทันทีที่ได้ยินความคิดของเด็กชายวัยเพียงสิบขวบทำให้เหม่ยหลิงชุ่มชื่นหัวใจ เธอเองที่เคยมีความฝันอยากเป็นเชฟแต่ตอนนี้ได้เป็นแม่ค้าขายซาลาเปาแต่ก็ยังดีที่ได้มีชีวิตกลับมาทำ หากน้องชายต้องการอย่างนั้นเธอจะสนับสนุนเต็มที่
"ได้สิพี่จะช่วยให้เราทำตามฝันเอง อย่างนั้นวันนี้หลังจากขายซาลาเปาหมด เมื่อไหร่พี่จะพาเราออกไปเดินหาที่เรียนอยากเรียนใช่มั้ย" เด็กชายเบิกตาโพลงโตรอบดวงตาแดงก่ำเอ่อนองของน้ำตาแห่งความดีใจ วิ่งเข้ามากอดพี่สาวแน่น
"พี่เหม่ยหลิงฉันสัญญาจะตั้งใจเรียนไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอน ฉันดีใจจนน้ำตาไหลออกมาเลย ไม่คิดเลยว่าพี่จะรักฉันมากขนาดนี้ตอนนั้นที่พี่หมดลมหายใจฉันคิดว่าพี่เบื่อฉันรำคาญฉันจนไม่อยากมีชีวิตปกป้องฉันอีกต่อไป ไม่คิดเลยว่าพี่รักฉันมากถึงเพียงนี้" เหม่ยหลิงโอบกอดเด็กชายไว้ในอ้อมกอดแน่นพลางลูบหลังเบา ๆ เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะไม่ร้องไห้ออกมา
"ผู้ใดบอกว่าพี่รำคาญหรือเบื่อเวยอันเล่า เวยอันไม่เคยทำให้พี่ทุกข์ใจเลย ตอนนั้นเป็นพี่เองที่คิดน้อยเกินไปรักแต่ตัวเองจนไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของน้องเลย พี่ขอโทษนะต่อจากนี้พี่จะดูแลเวยอันเป็นอย่างดีอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้" ทั้งสองพี่น้องกอดกันร้องไห้แต่ทว่ากลับอบอุ่นหัวใจมากเหลือเกิน
ไม่ถึงช่วงสายซาลาเปาของเหม่ยหลิงก็ขายจนหมดเธอเก็บร้านปิดประตูบ้านจับมือน้องชายเดินออกหาโรงเรียน การสัญจรของคนยุคนี้ยังคงไม่สะดวกสบายนัก ยังคงต้องเดินเป็นส่วนมากจะมีบ้านที่มีจักรยานก็เป็นคนมั่งคั่งที่สามารถซื้อหาได้ แต่หากผู้ใดอยากได้ก็ไม่อยากเพราะที่นี่มีตลาดมืดอยู่แต่ทว่าราคาสูงมาก หากจะเดินทางไปที่ไกล ๆ หรือต่างเมืองยังคงใช้รถไฟในการเดินทางอยู่ดี
บทที่ 10 รับผิดชอบหลังจากการปฏิวัติทุกอย่างเริ่มดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรือการคมนาคม ชาวต่างชาติได้เข้ามาทำการค้าได้อย่างเสรี เครื่องจักรต่าง ๆ ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ โรงงานมากมายถึงเปิดทำการเป็นของนายทุนแถมยังเปิดรับสมัครคนงานเป็นจำนวนมากผู้คนที่นี่จึงไม่ได้อดอยากเหมือนแต่ก่อนโรงเรียนที่เหม่ยหลิงพาเวยอันมาฝากเข้าเรียนมีการสอนภาษาด้วยแต่ทว่าไม่ใช่โรงเรียนที่สอนฟรี เหม่ยหลิงแม้จะมีทางเลือกที่จะให้เวยอันไปเข้าเรียนโรงเรียนธรรมดากลับคิดว่าเพื่อคุณภาพชีวิตของน้องชายไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก เพราะภาษาคือใบเลิกทางให้เวยอันเติบโตมีความรู้ความสามารถที่ดีและได้เปรียบทางด้านภาษาจึงตกลงที่จะให้เวยอันเข้าเรียนที่นี่หลังจากที่จัดการเรื่องการเรียนซื้อชุดรองเท้าพร้อมกระเป๋าที่ตลาดทั้งสองจึงพากันกลับบ้านแต่ระหว่างได้พบเข้ากับคนละแวกบ้านของแม่สามีเก่า พวกเขาเห็นเธอใช้จ่ายมือเติบจึงได้เข้ามาถามไถ่"นี่ใช่เหม่ยหลิงสะใภ้ตระกูลเหวินมั้ย! " เหม่ยหลิงเห็นคนอาวุโสกว่าเข้ามาทักทายเธอเลือกที่จะทักทายกลับอย่างมีมารยาท"ใช่ค่ะฉันเหม่ยหลิงแต่ไม่ใช่สะใภ้บ้านนั้นแล้ว ""โฮ๊ะ ๆ จริงด้วยฉันเคยตั
บทที่ 11 ร่วมแสดงความยินดีบ้านตระกูลเหวินตกแต่งหน้าบ้านอย่างสวยงาม แขกเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกันมากมาย ฟางเซียนกับลู่หลินแต่งตัวหรูหราหากไม่บอกคิดว่าทั้งสองแม่ลูกเป็นเจ้าสาวเองเสียอีกเหม่ยหลิงก้าวเท้าเข้ามาที่บ้านของเหวินเทียนอีกครั้ง เมื่อคราที่ก้าวออกไปเธอคิดว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกแต่เมื่อสามีเก่าจะแต่งงานเธอต้องมีน้ำใจมาแสดงความยินดีเสียหน่อย"ยินดีด้วยนะฟางเซียนวาสนาของเธอดีจริง ๆ ได้สะใภ้เป็นถึงลูกสาวเจ้าของโรงเย็บผ้าได้ยินมาว่าเป็นลูกสาวคนเดียวด้วย หากว่าอนาคตข้างหน้าไม่ใช่จะตกเป็นสมบัติของลูกสะใภ้เธอหรอกหรือ? อย่างนั้นเท่ากับว่าเหวินเทียนอาจจะเป็นผู้ดูแลกิจการ แข่งอะไรก็แข่งได้วาสนาแข่งกันไม่ได้จริง ๆ " หญิงคนหนึ่งได้นำของมาร่วมยินดีก่อนจะเอ่ยแสดงความยินดีกับฟางเซียนที่ยืนต้อนรับอยู่ด้วยใบหน้าปลื้มปริติยินดี"โฮ๊ะ ๆ เธอก็กล่าวเกินไปแล้วจะมาตกเป็นของลูกชายฉันได้ยังไงล่ะอยากไรก็เป็นของลูกสะใภ้ฉันทางครอบครัวเราไม่ก้าวก่ายหรอก เชิญ ๆ ไปด้านในเถอะมีอาหารมากมายกินให้อิ่มหนำสำราญเลยนะ " ฟางเซียนเอ่ยถ่อมตัวแต่ในใจยิ้มกริ่มเบิกบานจนแทบจะหุบยิ้มไม่ไหว"โอ้โห้...ฉันพึ่งจะเห็นรอยยิ้
บทที่ 12 นายพลคนใหม่เหม่ยหลิงลอบรำพึงในใจเมื่อได้ไปอวยพรกับสะใภ้ใหม่ของตระกูลเหวิน แต่เธอคงจะไม่โดนอย่างที่เหม่ยหลิงโดนแน่ ๆ เพราะเธอนั้นทั้งรวยแถมยังเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านด้วย เหม่ยหลิงสบายใจเดินซื้อของที่ตลาดเพื่อนำกลับไปทำซาลาเปาของเธอต่อ ใครจะแต่งงานใหม่ใครจะเป็นอย่างไรต่อไปเธอไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้หน้าที่ของเธอคือการดูแลน้องชายหาเงินและหนทางที่ร่ำรวยอยู่อย่างมีความสุขวันเวลาผ่านมาหลายวันร้านของเหม่ยหลิงเลื่องลือไปทั่วทั้งรสชาติของไส้และตัวแป้งที่ไม่เหมือนใครทำให้ผู้คนที่ได้กินต้องติดใจจนต้องรีบมายืนคอยตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดด้วยซ้ำ แม้จะเหนื่อยกายแต่ทว่าเหม่ยหลิงกลับมีความสุขมาก ๆ"พี่เหม่ยหลิงฉันช่วยเก็นนะครับ วันนี้พี่คงเหนื่อยน่าดูผมเห็นพี่ตื่นแต่เช้าตรู่ทำซาลาเปาเพิ่มตั้งมากมาย พี่ทำเพื่อผมขนาดนี้ผมจะช่วยงานพี่เองพี่ไปนั่งพักนะครับ" วันนี้เวยอันกลับมาเร็วเนื่องจากคุณครูที่สอนจะไปร่วมงานต้อนรับนายพลที่ย้ายมาประจำการที่กองทัพในอำเภอแห่งนี้ ที่เหม่ยหลิงหนื่อยและต้องทำซาลาเปาเพิ่มเพราะมีคนมาสั่งซาลาเปาเพื่อไปเป็นของว่างกินต้อนรับนายพล เธอจ้องมองน้องชายอย่างเอ็นดูก่อนจะวางมือจากผ
บทที่ 13 ถูกใจบ้านตระกูลเหวินหลังจากงานแต่งเสร็จสิ้นสะใภ้ได้เข้ามาอยู่ที่บ้านของสามี ตั้งแต่คืนวันแต่งงานเหวินเทียนไม่ได้แตะต้องตัวของซิงเยียนเลย ทำให้เธอทุกข์ระทมหัวใจโชคดีที่มีแม่สามีคอยเอาใจใส่ดูแล ทำกับข้าวเก็บกวาดบ้านทำกระทั่งซักผ้าให้ลูกสะใภ้ด้วยซ้ำวันนี้ลู่หลินกำลังออกไปทำงานอย่างที่เธอไปทำทุกวันนี้ เธอจะออกไปทำงานหาแม่ไม่เจอจึงเดินหาอ้อมบ้านเห็นแม่กำลังนั่งซักผ้าให้ลูกสะใภ้กับลูกชายอยู่หลังบ้านเธอเลยรู้สึกว่าแม่จะทำเกินไปจริง ๆ"คุณแม่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้เรื่องงานบ้านฉันเองก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่แม่จะมาซักผ้าให้เหวินเทียนกับน้องสะใภ้ได้ยังไง อีกอย่างตะวันขึ้นโด่งป่านนี้ยังไม่ตื่นอีก เฮ้อ! ตอนแรกฉันคิดว่าซิงเยียนจะเป็นคนขยันเห็นเข้าไปดูงานที่โรงงานทุกวัน แต่ที่ไหนได้เป็นคุณหนูตื่นสายและทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่าง แม่หยุดทำได้แล้วไปปลุกให้เหวินเทียนมาซักให้เถอะ เจ้านั่นก็เหมือนกันทำตัวอย่างกับไร้ชีวิตชีวา ""แกไม่ต้องมาบ่นมากไม่รีบไปทำงานหรือไงอีกอย่างงานแค่นี้ฉันทำได้ จะให้ลูกสะใภ้อย่างซิงเยียนมาทำได้ยังไง อย่าลืมสิเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงเย็บผ้านะจะให้มาทุกข์ยากได้ยังไง " ฟ
บทที่ 14 ฉันจะเป็นคุณนายทหารลู่หลินเดินทอดน่องมาถึงบ้านด้วยความตื่นเต้นที่จะเล่าให้แม่ฟังว่าตนเองพบเจอผู้ใดมาแต่เมื่อกลับมาดันเห็นว่าคุณแม่ของตัวเองกำลังนวดหลังให้ลูกสะใภ้อย่างเอาอกเอาใจเธออดที่จะต่อว่าไม่ได้ แม้จะเป็นลูกเจ้าของโรงงานแล้วยังไงในเมื่อตอนนี้ซิงเยียนก็เป็นน้องสะใภ้ของเธอเหมือนกัน"นี่น้องสะใภ้มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอที่จะให้คุณแม่มาทำอะไรแบบนี้ ฉันไม่เคยเห็นแม่สามีบ้านไหนที่ต้องคอยนวดให้สะใภ้อย่างนี้เลย มีแต่ลูกสะใภ้ที่ต้องเอาอกเอาใจแม่สามีคอยดูแลบ้านเรือนหุงหาอาหารนวดบ่าไหลให้แม่สามี เหวินเทียนน้องไม่ได้เรื่องอยู่ที่ไหนทำไมถึงปล่อยให้ภรรยามาใช้คุณแม่อย่างนี้"ฟางเซียนกลัวว่าลูกสะใภ้จะโกรธและรังแกกลั่นแกล้งลู่หลินที่โรงงานจึงรีบตอบกลับเธอทันที"ลู่หลินมิใช่อย่างที่ลูกเห็นหรอกนะ วันนี้ลูกสะใภ้ช่วยงานบ้านแล้วเกิดปวดหลังแม่แค่นวดให้เท่านั้นไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ""นั่นสิพี่ลู่หลินคงไม่รู้ว่าฉันไม่เคยทำงานบ้านมาก่อน วันนี้ฉันใจดีช่วยคุณแม่ถูบ้านพอก้มนาน ๆ ฉันเกิดปวดหลังเท่านั้นเอง หรือว่าต่อจากนี้ฉันจะต้องจ้างคนงานมาทำความสะอาดบ้านกันนะ จะได้ไม่ทำให้คุณแม่เหน็ดเหนื่อย
บทที่ 15 พบกันครั้งแรกเหม่ยหลิงหยิบซาลาเปาไส้ถั่วแดงกับไส้หมูใส่ถุงให้ลูกค้าพร้อมรับเงินเก็บใส่กระปุกเอาไว้"กินให้อร่อยนะคะ " ลูกค้าเดินจากไปเหม่ยหลิงหันหลังจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อนำซาลาเปาที่นึ่งไว้มาเพิ่มแต่แล้วเสียงทุ่มต่ำได้เรียกเธอเอาไว้เสียก่อน"ผมต้องการซาลาเปาครับไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ร้านซาลาเปาหรือไม่?" เหม่ยหลิงหันกลับมาฉีกยิ้มเต็มใบหน้ารีบต้อนรับลูกค้าคนใหม่ทันที แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าของเขาต้องตกตะลึงไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าที่คมเข้มร่างกายสูงโปรงแข็งแกร่งอย่างกับคนที่ออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา อีกทั่งรูปร่างอย่างเขาไม่ได้เห็นได้ง่าย ๆ ในที่แห่งนี้คงจะไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน"ใช่แล้วค่ะ ที่ร้านของเราตอนนี้มีซาลาเปาเพิ่มมาอีกไส้ลูกค้าต้องการแบบไหนคะ มีไส้ถั่วแดงกับไส้หมูค่ะ " มิใช่แค่เหม่ยหลิงที่ตกตะลึงแต่อี้หานเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เพราะหญิงร่างบางคนนี้มิใช่แค่รสชาติฝีมือที่เหมือนภรรยาของเขาแต่ทว่าทั้งกิริยาท่าทางช่างคล้ายภรรยาของเขายิ่งนัก"เอ่อ ...ไม่ทราบว่าลูกค้ายังต้องการจะซื้อซาลาเปาอยู่มั้ยคะ? " เหม่ยหลิงเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าไม่พูดอันใดเอาแต่จ้องหน้าเธอ"เอา
บทที่ 16 ทำความรู้จักลูกค้าที่กำลังยืนต่อคิวรอซื้อซาลาเปาเริ่มหันมองหน้ากันไปมา เพราะคำพูดของฟางเซียน หากเธอมาเพียงต่อว่าเหม่ยหลิงคงจะไม่โต้ตอบแต่ทว่าตอนนี้ทั้งแม่สามีเก่าและภรรยาใหม่ของเหวินเทียนกำลังใส่ความทำให้ร้านของเธอเสียหาย ลูกค้าเริ่มเป็นกังวลหากเธอไม่โต้ตอบทั้งสองคงได้ใจไม่หยุดเพียงเท่านี้"อะไรที่มากเกินไป ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทั้งนั้น ""ความจริงที่ว่าฉันถูกแม่สามีเก่ากับพี่สาวของสามีรุมรังแกทำร้ายจนฉันแท้งลูกนะหรือ? มิหนำซ้ำขนาดมีฉันเป็นลูกสะใภ้อยู่ทั้งคนยังจะหาเมียน้อยให้สามีของฉันช่างเป็นแม่สามีที่ดีจริง ๆ เธอเองก็เช่นกันนะระวังตัวไว้เถิดขนาดฉันยังถูกกระทำแบบนี้เมื่อไหร่ที่เธอหมดความสำคัญต่อตระกูลนี้เธอเองก็ไม่ต่างจากฉันนักหรอก ""หุบปากสกปรกของเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ! ใครกันที่จะทำอย่างนั้นนี่ซิงเยียนไม่ต้องไปฟังเธอพูดนะ อีกอย่างลูกสะใภ้ฉันคนนี้ดีกว่าเธอเป็นไหน ๆ อีกไม่นานคงจะท้องมีหลานคนแรกให้ฉัน ไม่มีทางที่ฉันจะรังแกลูกสะใภ้ของฉันคนนี้แน่นอน ""งั้นก็เชิญออกไปจากหน้าร้านของฉันได้แล้ว หากยังมาคอยสอดเสือกพูดเรื่องที่ไม่เข้าท่าทำให้ร้านของฉันเสียชื่อเสียงฉันจะไม่ไว้หน้าอีกต
บทที่ 17 ทำลายชื่อเสียงหลังจากทั้งสามกินอาหารเสร็จเหม่ยหลิงได้เดินมาส่งอี้หานที่หน้าบ้าน“เดินทางกลับดี ๆ นะคะ”“ครับคุณเองก็เข้าบ้านไปพักเถอะ ได้ยินคุณพูดกับเวยอันว่าจะทำไส้ซาลาเปาต่อคงจะเหนื่อยน่าดูนับถือความขยันของคุณยิ่งนัก”“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่อยากกลับไปอดอยากและอยากให้เวยอันได้เรียนทำเพียงเท่านี้ไม่ได้ทำให้เหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่นัก วันพรุ่งนี้ฉันจะไม่ลืมเก็บซาลาเปาไว้ให้นะคะ”“ครับ งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนเข้าไปในบ้านเถอะครับตอนนี้มืดค่ำแล้วเดี๋ยวจะเกิดอันตรายยิ่งมีแต่ผู้หญิงและเด็กด้วย”“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ คุณไม่ต้องห่วง” เธอโบกมือลาเขายืนมองจนเขาลับสายตาเหม่ยหลิงจึงเดินเข้ามาปิดประตูบ้านเข้ามาด้านในเพื่อทำไส้ซาลาเปาต่อ ส่วนเวยอันเธอให้น้องชายไปอาบน้ำทำการบ้านและพักผ่อนฝั่งด้านของฟางเซียนเธอกลับมาถึงบ้านให้ลูกสะใภ้ไปพักผ่อนเธอยังนึกโมโหเหม่ยหลิงไม่หายที่ทำให้เธอขายหน้าต่อหน้าทุกคนรวมถึงลูกสะใภ้อย่างซิงเยียนโชคดีที่ซิงเยียนโง่เขลาเธอพูดเพียงไม่กี่คำก็เข้าใจง่าย คืนนี้เธอนอนไม่หลับคิดหาหนทางจัดการกับเหม่ยหลิงให้ได้ ลู่หลินออกมาจากห้องนอนตัวเองเพื่อหาน้ำกินเห็นคุณแม่ย
บทที่ 20 สามีเก่ามาก่อกวนเหม่ยหลิงเดินมาเปิดประตูเห็นว่าเขาเคยเป็นสามีเก่าและไม่มีพิษมีภัยอะไรหากเปรียบเทียบสามคนในบ้านตระกูลเหวินเขาคือคนที่ดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อเธอเปิดประตูเห็นใบหน้าของเขาพร้อมกลิ่นเหล้าที่ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว เธอใช้มือปิดจมูกก่อนจะเอ่ยถามเขามาหาเธอมีเรื่องอะไร“พี่เหวินเทียนทำไมพี่ถึงดื่มเหล้ามากขนาดนี้กัน แล้วมาที่นี่มีเรื่องอะไรจะพูดกับฉันหรือ? ” เขาเห็นใบหน้าของเหม่ยหลิงเดินเข้ามาใกล้พร้อมดึงร่างบางเข้ามาโอบกอดไว้แน่น“พี่คิดถึงเธอเหลือเกินเหม่ยหลิง คิดถึงจนแทบบ้า” เหม่ยหลิงตกใจไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมเข้ามากอดเธอแบบนี้ใบหน้าของเหม่ยหลิงซีดเผือก รีบผลักเขาออกร่างกายของเธอ“ปล่อยนะ! อย่ามาทำแบบนี้กับฉัน เราหย่ากันแล้วพี่ไม่มีสิทธิ์มากอดฉันแบบนี้ ออกไปนะ” เหวินเทียนไม่สนใจคำพูดของเหม่ยหลิงด้วยซ้ำเพราะฤทธิ์เหล้าที่อยู่ในร่างกาย ทำให้เขาโมโหและโกรธในตัวของเหม่ยหลิง เขาตะคอกออกมาเสียงดังแววตาจ้องเขม็ง“เพราะพี่ไม่ใช่ไอ้หนุ่มคนนั้นใช่มั้ย? เธอถึงได้ผลักไสพี่ไม่ให้เข้าใกล้ เหม่ยหลิงเธอรู้มั้ยพี่เจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องหย่าให้เธอยอมให้เธอเดินออกจากชีวิตพี่มา เธอเห็นใจพี่สัก
บทที่ 19 ขายดีกว่าเดิมเหวินเทียนแต่งตัวเต็มยศวันนี้เขาต้องออกเดินทางไปออกงานกับนายอำเภอ เมื่อออกมาจากห้องตัวเองลูกน้องของเขายืนรออยู่หน้าประตูได้แจ้งกับเขาว่าตอนนี้มีแขกรอเขาอยู่ที่ห้องต้อนรับ“ท่านนายพลตอนนี้แขกมาขอพบท่านครับ”“แขกหรือ? ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันไม่เคยเห็นใครมาหาที่บ้านเลยหากจะพบต้องไปที่กองทัพสิ”“เอ่อ..แขกคนนี้เป็นผู้หญิงครับ” เมื่อได้ยินว่าเป็นผู้หญิงคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใดก็มีผู้หญิงเข้ามาคอยป้วนเปี้ยนข้างกาย“ต่อจากนี้หากไม่ใช่คนที่มาติดต่อราชการไม่ต้องต้อนรับและปฏิเสธการขอเข้าพบเข้าใจหรือไม่”“ครับ” อี้หานเดินไปที่ห้องต้อนรับสองเท้าก้าวเข้าไปเหลียวมองหญิงสาวที่นั่งรอเขาอยู่ที่เก้าอี้พร้อมเอ่ยทักทายอย่างเป็นมารยาท“สวัสดีครับคุณผู้หญิงไม่ทราบว่ามาหาผมมีธุระอะไรครับ” ลู่หลินยืนขึ้น อย่างรีบร้อนใบหน้าคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นใบหน้าของท่านนายพลที่แต่งกายด้วยชุดประจำตำแหน่งเต็มยศยิ่งทำให้เขาสง่างามมากกกว่าเดิม แววตาของเธอเป็นประกายแวววาว“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อว่าลู่หลินได้ยินมาว่ามีท่านนายพลมาประจำการใหม่เลยเข้ามาทักทายไม่ได้
บทที่ 18 พิสูจน์ทุกคนเดินเข้ามาดูเปรียบเทียบซาลาเปาทั้งสองก้อนแตกต่างกันจริงๆ เหม่ยหลิงจ้องมองไปยังคนที่เข้ามาหาเรื่องเธอ แต่ละคนเริ่มมีความกระวนกระวายมองหน้ากันไปมา ทำให้เหม่ยหลิงมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังหวังทำลายชื่อเสียงร้านของเธอเพราะคนพวกนี้เธอไม่เคยเห็นหน้าสักครั้งเลยด้วยซ้ำ"เอ๊ะ! ต่างกันจริง ๆ ด้วยอย่างนั้นพวกพี่ชายพี่สาวยังจะว่าเป็นซาลาเปาร้านนี้อยู่อีกหรือ? อย่างนี้ไม่เท่ากับว่ามาสร้างความวุ่นวายเสียหายให้ร้านนี้หรอกหรือ หากพวกพี่ ๆ บริสุทธิ์ใจบอกมาสิว่าซื้อมาจากไหน เพราะอย่างไรก็ไม่ใช่ที่นี่อยู่ดี" อี้หานได้พูดขึ้น"นั่นสิ! หรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกคุณตั้งใจมาทำลายชื่อเสียงร้านฉันอย่างนี้ฉันแจ้งความได้ใช่มั้ยนะ... แล้วอย่างนี้ใครกันที่จะต้องเป็นคนที่จะรับจ่ายค่าเสียหาย หื้ม! หากนับจำนวนคนห้าคนค่าที่ทำให้ร้านเสียหายต้องจ่ายค่าปรับเท่าไหร่กันนะ จะเรียกร้องค่าซาลาเปาสามวันดีมั้ยนะ" เหม่ยหลิงทำท่าทางนับนิ้วมือจนกระทั่งหนึ่งในนั้นรีบรับสารภาพทันที"อย่าแจ้งความเลยนะฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับหรอก ฉันยอมแล้วฉันรับเงินมาจากผู้หญิงคนหนึ่งแถมเธอยังให้ซาลาเปามาด้ว
บทที่ 17 ทำลายชื่อเสียงหลังจากทั้งสามกินอาหารเสร็จเหม่ยหลิงได้เดินมาส่งอี้หานที่หน้าบ้าน“เดินทางกลับดี ๆ นะคะ”“ครับคุณเองก็เข้าบ้านไปพักเถอะ ได้ยินคุณพูดกับเวยอันว่าจะทำไส้ซาลาเปาต่อคงจะเหนื่อยน่าดูนับถือความขยันของคุณยิ่งนัก”“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่อยากกลับไปอดอยากและอยากให้เวยอันได้เรียนทำเพียงเท่านี้ไม่ได้ทำให้เหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่นัก วันพรุ่งนี้ฉันจะไม่ลืมเก็บซาลาเปาไว้ให้นะคะ”“ครับ งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนเข้าไปในบ้านเถอะครับตอนนี้มืดค่ำแล้วเดี๋ยวจะเกิดอันตรายยิ่งมีแต่ผู้หญิงและเด็กด้วย”“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ คุณไม่ต้องห่วง” เธอโบกมือลาเขายืนมองจนเขาลับสายตาเหม่ยหลิงจึงเดินเข้ามาปิดประตูบ้านเข้ามาด้านในเพื่อทำไส้ซาลาเปาต่อ ส่วนเวยอันเธอให้น้องชายไปอาบน้ำทำการบ้านและพักผ่อนฝั่งด้านของฟางเซียนเธอกลับมาถึงบ้านให้ลูกสะใภ้ไปพักผ่อนเธอยังนึกโมโหเหม่ยหลิงไม่หายที่ทำให้เธอขายหน้าต่อหน้าทุกคนรวมถึงลูกสะใภ้อย่างซิงเยียนโชคดีที่ซิงเยียนโง่เขลาเธอพูดเพียงไม่กี่คำก็เข้าใจง่าย คืนนี้เธอนอนไม่หลับคิดหาหนทางจัดการกับเหม่ยหลิงให้ได้ ลู่หลินออกมาจากห้องนอนตัวเองเพื่อหาน้ำกินเห็นคุณแม่ย
บทที่ 16 ทำความรู้จักลูกค้าที่กำลังยืนต่อคิวรอซื้อซาลาเปาเริ่มหันมองหน้ากันไปมา เพราะคำพูดของฟางเซียน หากเธอมาเพียงต่อว่าเหม่ยหลิงคงจะไม่โต้ตอบแต่ทว่าตอนนี้ทั้งแม่สามีเก่าและภรรยาใหม่ของเหวินเทียนกำลังใส่ความทำให้ร้านของเธอเสียหาย ลูกค้าเริ่มเป็นกังวลหากเธอไม่โต้ตอบทั้งสองคงได้ใจไม่หยุดเพียงเท่านี้"อะไรที่มากเกินไป ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทั้งนั้น ""ความจริงที่ว่าฉันถูกแม่สามีเก่ากับพี่สาวของสามีรุมรังแกทำร้ายจนฉันแท้งลูกนะหรือ? มิหนำซ้ำขนาดมีฉันเป็นลูกสะใภ้อยู่ทั้งคนยังจะหาเมียน้อยให้สามีของฉันช่างเป็นแม่สามีที่ดีจริง ๆ เธอเองก็เช่นกันนะระวังตัวไว้เถิดขนาดฉันยังถูกกระทำแบบนี้เมื่อไหร่ที่เธอหมดความสำคัญต่อตระกูลนี้เธอเองก็ไม่ต่างจากฉันนักหรอก ""หุบปากสกปรกของเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ! ใครกันที่จะทำอย่างนั้นนี่ซิงเยียนไม่ต้องไปฟังเธอพูดนะ อีกอย่างลูกสะใภ้ฉันคนนี้ดีกว่าเธอเป็นไหน ๆ อีกไม่นานคงจะท้องมีหลานคนแรกให้ฉัน ไม่มีทางที่ฉันจะรังแกลูกสะใภ้ของฉันคนนี้แน่นอน ""งั้นก็เชิญออกไปจากหน้าร้านของฉันได้แล้ว หากยังมาคอยสอดเสือกพูดเรื่องที่ไม่เข้าท่าทำให้ร้านของฉันเสียชื่อเสียงฉันจะไม่ไว้หน้าอีกต
บทที่ 15 พบกันครั้งแรกเหม่ยหลิงหยิบซาลาเปาไส้ถั่วแดงกับไส้หมูใส่ถุงให้ลูกค้าพร้อมรับเงินเก็บใส่กระปุกเอาไว้"กินให้อร่อยนะคะ " ลูกค้าเดินจากไปเหม่ยหลิงหันหลังจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อนำซาลาเปาที่นึ่งไว้มาเพิ่มแต่แล้วเสียงทุ่มต่ำได้เรียกเธอเอาไว้เสียก่อน"ผมต้องการซาลาเปาครับไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ร้านซาลาเปาหรือไม่?" เหม่ยหลิงหันกลับมาฉีกยิ้มเต็มใบหน้ารีบต้อนรับลูกค้าคนใหม่ทันที แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าของเขาต้องตกตะลึงไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าที่คมเข้มร่างกายสูงโปรงแข็งแกร่งอย่างกับคนที่ออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา อีกทั่งรูปร่างอย่างเขาไม่ได้เห็นได้ง่าย ๆ ในที่แห่งนี้คงจะไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน"ใช่แล้วค่ะ ที่ร้านของเราตอนนี้มีซาลาเปาเพิ่มมาอีกไส้ลูกค้าต้องการแบบไหนคะ มีไส้ถั่วแดงกับไส้หมูค่ะ " มิใช่แค่เหม่ยหลิงที่ตกตะลึงแต่อี้หานเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เพราะหญิงร่างบางคนนี้มิใช่แค่รสชาติฝีมือที่เหมือนภรรยาของเขาแต่ทว่าทั้งกิริยาท่าทางช่างคล้ายภรรยาของเขายิ่งนัก"เอ่อ ...ไม่ทราบว่าลูกค้ายังต้องการจะซื้อซาลาเปาอยู่มั้ยคะ? " เหม่ยหลิงเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าไม่พูดอันใดเอาแต่จ้องหน้าเธอ"เอา
บทที่ 14 ฉันจะเป็นคุณนายทหารลู่หลินเดินทอดน่องมาถึงบ้านด้วยความตื่นเต้นที่จะเล่าให้แม่ฟังว่าตนเองพบเจอผู้ใดมาแต่เมื่อกลับมาดันเห็นว่าคุณแม่ของตัวเองกำลังนวดหลังให้ลูกสะใภ้อย่างเอาอกเอาใจเธออดที่จะต่อว่าไม่ได้ แม้จะเป็นลูกเจ้าของโรงงานแล้วยังไงในเมื่อตอนนี้ซิงเยียนก็เป็นน้องสะใภ้ของเธอเหมือนกัน"นี่น้องสะใภ้มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอที่จะให้คุณแม่มาทำอะไรแบบนี้ ฉันไม่เคยเห็นแม่สามีบ้านไหนที่ต้องคอยนวดให้สะใภ้อย่างนี้เลย มีแต่ลูกสะใภ้ที่ต้องเอาอกเอาใจแม่สามีคอยดูแลบ้านเรือนหุงหาอาหารนวดบ่าไหลให้แม่สามี เหวินเทียนน้องไม่ได้เรื่องอยู่ที่ไหนทำไมถึงปล่อยให้ภรรยามาใช้คุณแม่อย่างนี้"ฟางเซียนกลัวว่าลูกสะใภ้จะโกรธและรังแกกลั่นแกล้งลู่หลินที่โรงงานจึงรีบตอบกลับเธอทันที"ลู่หลินมิใช่อย่างที่ลูกเห็นหรอกนะ วันนี้ลูกสะใภ้ช่วยงานบ้านแล้วเกิดปวดหลังแม่แค่นวดให้เท่านั้นไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ""นั่นสิพี่ลู่หลินคงไม่รู้ว่าฉันไม่เคยทำงานบ้านมาก่อน วันนี้ฉันใจดีช่วยคุณแม่ถูบ้านพอก้มนาน ๆ ฉันเกิดปวดหลังเท่านั้นเอง หรือว่าต่อจากนี้ฉันจะต้องจ้างคนงานมาทำความสะอาดบ้านกันนะ จะได้ไม่ทำให้คุณแม่เหน็ดเหนื่อย
บทที่ 13 ถูกใจบ้านตระกูลเหวินหลังจากงานแต่งเสร็จสิ้นสะใภ้ได้เข้ามาอยู่ที่บ้านของสามี ตั้งแต่คืนวันแต่งงานเหวินเทียนไม่ได้แตะต้องตัวของซิงเยียนเลย ทำให้เธอทุกข์ระทมหัวใจโชคดีที่มีแม่สามีคอยเอาใจใส่ดูแล ทำกับข้าวเก็บกวาดบ้านทำกระทั่งซักผ้าให้ลูกสะใภ้ด้วยซ้ำวันนี้ลู่หลินกำลังออกไปทำงานอย่างที่เธอไปทำทุกวันนี้ เธอจะออกไปทำงานหาแม่ไม่เจอจึงเดินหาอ้อมบ้านเห็นแม่กำลังนั่งซักผ้าให้ลูกสะใภ้กับลูกชายอยู่หลังบ้านเธอเลยรู้สึกว่าแม่จะทำเกินไปจริง ๆ"คุณแม่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้เรื่องงานบ้านฉันเองก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่แม่จะมาซักผ้าให้เหวินเทียนกับน้องสะใภ้ได้ยังไง อีกอย่างตะวันขึ้นโด่งป่านนี้ยังไม่ตื่นอีก เฮ้อ! ตอนแรกฉันคิดว่าซิงเยียนจะเป็นคนขยันเห็นเข้าไปดูงานที่โรงงานทุกวัน แต่ที่ไหนได้เป็นคุณหนูตื่นสายและทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่าง แม่หยุดทำได้แล้วไปปลุกให้เหวินเทียนมาซักให้เถอะ เจ้านั่นก็เหมือนกันทำตัวอย่างกับไร้ชีวิตชีวา ""แกไม่ต้องมาบ่นมากไม่รีบไปทำงานหรือไงอีกอย่างงานแค่นี้ฉันทำได้ จะให้ลูกสะใภ้อย่างซิงเยียนมาทำได้ยังไง อย่าลืมสิเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงเย็บผ้านะจะให้มาทุกข์ยากได้ยังไง " ฟ
บทที่ 12 นายพลคนใหม่เหม่ยหลิงลอบรำพึงในใจเมื่อได้ไปอวยพรกับสะใภ้ใหม่ของตระกูลเหวิน แต่เธอคงจะไม่โดนอย่างที่เหม่ยหลิงโดนแน่ ๆ เพราะเธอนั้นทั้งรวยแถมยังเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านด้วย เหม่ยหลิงสบายใจเดินซื้อของที่ตลาดเพื่อนำกลับไปทำซาลาเปาของเธอต่อ ใครจะแต่งงานใหม่ใครจะเป็นอย่างไรต่อไปเธอไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้หน้าที่ของเธอคือการดูแลน้องชายหาเงินและหนทางที่ร่ำรวยอยู่อย่างมีความสุขวันเวลาผ่านมาหลายวันร้านของเหม่ยหลิงเลื่องลือไปทั่วทั้งรสชาติของไส้และตัวแป้งที่ไม่เหมือนใครทำให้ผู้คนที่ได้กินต้องติดใจจนต้องรีบมายืนคอยตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดด้วยซ้ำ แม้จะเหนื่อยกายแต่ทว่าเหม่ยหลิงกลับมีความสุขมาก ๆ"พี่เหม่ยหลิงฉันช่วยเก็นนะครับ วันนี้พี่คงเหนื่อยน่าดูผมเห็นพี่ตื่นแต่เช้าตรู่ทำซาลาเปาเพิ่มตั้งมากมาย พี่ทำเพื่อผมขนาดนี้ผมจะช่วยงานพี่เองพี่ไปนั่งพักนะครับ" วันนี้เวยอันกลับมาเร็วเนื่องจากคุณครูที่สอนจะไปร่วมงานต้อนรับนายพลที่ย้ายมาประจำการที่กองทัพในอำเภอแห่งนี้ ที่เหม่ยหลิงหนื่อยและต้องทำซาลาเปาเพิ่มเพราะมีคนมาสั่งซาลาเปาเพื่อไปเป็นของว่างกินต้อนรับนายพล เธอจ้องมองน้องชายอย่างเอ็นดูก่อนจะวางมือจากผ