บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทนำชะตาชีวิตนำพาให้หญิงสาวที่หมดลมหายใจได้เกิดใหม่ในยุคทศวรรษ 1983 แต่ทว่าการเกิดใหม่ครั้งนี้เธอได้เข้ามาอยู่ในร่างของเหม่ยหลิง หญิงสาวที่แต่งงานกับครอบครัวหนึ่งแต่ไม่ทันที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสามีเขาต้องไปรับราชการทหาร ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวสามีแม่สามีกับพี่สาวที่คอยรังแกและใช้งานสารพัด แถมเธอยังไม่ได้อยู่ในบ้านในฐานะลูกสะใภ้แต่เธอทำทุกอย่างราวกับทาส แต่ที่เธอยอมเพราะเธอมีน้องชายที่ต้องคอยปกป้อง จนวันหนึ่งที่เธอแตกสลายไปหมดทั้งร่างกายและจิตวิญญาณจนไม่คิดถึงคนอื่น และเลือกที่จะจบชีวิตอันน่ารันทดนี้ลงด้วยการปลิดชีพตัวเองแต่ใครจะคิดว่าจู่ ๆ ร่างที่กำลังจะถูกฝังกลับฟื้นคืนมาและยังมีนิสัยเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะเธอไม่ใช่เจ้าของร่างคนเดิมอีกต่อไป ต่อจากนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอกับน้องชายได้อีก และสามีที่รักเธอแต่ปกป้องเธอไม่ได้เธอเองก็ไม่ต้องการ เธอจะหาทางดิ้นรนเอาชีวิตรอดและเลี้ยงดูน้องชายของเธอให้มีชีวิตที่ดีขึ้นบทที่ 1 เกิดใหม่ในยุค 80อึก อึก แค่ก ๆ !!!'ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน! ทำไมหายใจไม่ทั่วท้องอย่างนี้ ทำไมที่นี่
บทที่ 2 ฉันจะไม่ยอมแต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ ฝนเกิดตกลงมาฟางเซียนคิดหนักเพราะไม่มีท่าทีว่าฝนจะตกสักนิดหากจะให้ลู่หลินลูกสาวของเธอเดินตากฝนกลับมาคงไม่สบายแน่ ๆ เธอเลยรีบเดินไปเรียกลูกสะใภ้ถือร่มไปรับลู่หลินที่โรงเย็บผ้าตอนนั้นเวยอันออกไปด้านนอกเพื่อเฝ้าดูลู่หลินว่ากลับมาหรือยังเลยไม่เห็นว่าฟางเซียนกำลังเดินไปหาพี่สาวของตัวเอง“นี่มันอะไรกัน! แอบมาหลับอยู่ในครัวได้ยังไงขี้เกียจตัวเป็นขนจริง ๆ นี่เหม่ยหลิงลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาพัก” ฟางเซียนใช้น้ำสาดเรียกให้เหม่ยหลิงตื่น ทันทีที่ร่างกายของเธอถูกน้ำก็ได้ลืมตาสะลึมสะลือขึ้นมาเพราะรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งร่างกาย“คุณแม่ ฉันแค่นอนพักเท่านั้นพี่ลู่หลินมาแล้วหรือคะ” เธอรีบลุกขึ้นกวาดสายตามองไปด้านหลังของแม่สามี“ตอนนี้ยังไม่มาเพราะข้างนอกเกิดฝนตก เธอเอาร่มไปให้ลู่หลินหน่อยสิฝนนี่ก็จริง ๆ เลยทั้งวันไม่ตกมาตกตอนลูกสาวของฉันจะกลับบ้าน” เหม่ยหลิงมองไปทางหน้าต่างเห็นเม็ดฝนกำลังหล่นลงมาไม่แรงเท่าไหร่ หากเธอไม่ตากฝนคงไม่ไข้ขึ้นเมื่อคิดเช่นนั้นเหม่ยหลิงรีบเดินไปถือร่มเพื่อออกไปรับลู่หลินตามที่แม่สามี
บทที่ 3 หย่า“เธอคงตกใจกลัวใช่มั้ยที่ไม่มีพี่อยู่เคียงข้าง เอาล่ะเลิกร้องไห้ได้แล้วต่อจากนี้พี่ไม่คิดจะหนีไปไหนอีก เราสองคนจะต้องไม่ให้ใครมารังแกได้อีกพี่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนายเองเวยอัน” ร่างกายของเวยอันพ่ายผอมจนหนังหุ้มกระดูกทั้งสองพี่น้องต้องพบเจอกับเรื่องไม่ยุติธรรมขนาดไหนกันนะ! แล้วทำไมเจ้าของร่างเดิมถึงได้กำลังถูกฝังอยู่ในโลง หยวนเหมยเริ่มคิดหนักในเรื่องนี้ หรือว่าเธอถูกแม่สามีกับพี่สาวรังแกจนตาย หรือว่าเธอป่วยไข้จนทนไม่ไหวตายเพราะไข้หวัดหรือ? หยวนเหมยฉุดคิดแต่ไม่ทันไรเสียงชายที่เธอพบหลังจากที่ลืมตาได้เดินเข้ามา"เหม่ยหลิงเธอฟื้นแล้วหรือ รู้มั้ยว่าฉันดีใจแค่ไหนที่เธอฟื้นขึ้นมา ฉันคิดว่าฉันจะเสียเธอไปแล้ว ทำไมเธอถึงได้คิดสั้นอย่างนั้น รู้บ้างมั้ยฉันต้องเจ็บปวดมากขนาดไหน " น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยแววตาเจ็บปวด ของชายที่เดินเข้ามาหยวนเหมยพอเดาออกนี่คงเป็นสามีของเธอ แต่เขาพูดว่าเธอคิดสั้น นั่นก็หมายความว่าเธอไม่ได้ถูกรังแกแต่เป็นเธอเองที่คิดจะฆ่าตัวตายอย่างนั้นเหรอ! เวยอันรีบผละออกให้พี่เขยเข้ามาคุยกับพี่สาว หยวนเหมยเห็นว่าเขาจะเข้ามากอดเธอรีบใช้มือดันอกเอาไว้ ไม่รู้ว่าเพรา
บทที่ 4 ความทรงจำ"เอามือออกไปจากร่างกายของฉันได้แล้ว ""ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้หรือว่าเพราะเกิดการกระทบจิตใจกับเรื่องที่เธอพบเจอมากันนะ! โธ่ภรรยาของฉันทำไมต้องเกิดเรื่องไม่ดีอย่างนี้ด้วย ต่อจากนี้ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะฉันจะอยู่เคียงข้างคอยปกป้องเธอเอง ตอนนี้ฉันออกจากการรับราชการแล้วต่อจากนี้เรามาอยู่กันอย่างมีความสุขเถอะนะ! เธอคงเหนื่อยมามากพักผ่อนเถอะ ฉันจะออกไปเกลี้ยกล่อมคุณแม่เอง " เหม่ยหลิงไม่ได้โต้ตอบอะไรเธอเดินดูในห้องอย่างน่าสนใจก่อนจะนั่งลงที่เตียงหนานุ่ม แต่ทำไมเหมือนร่างนี้ไม่เคยได้อยู่ในห้องนี่เลยด้วยซ้ำที่นอนแบบนี้เธอคงไม่ได้สัมผัส เมื่อเห็นว่าประตูปิดลงหยวนเหมยที่อยู่ในร่างของเหม่ยหลิงนอนลงที่เตียงก่อนจะผลอยหลับไปอากาศเย็นสบายเหม่ยหลิงดีใจที่สามีของเธอจะกลับมาอยู่บ้านอย่างถาวรหลังจากที่ไปเป็นทหารกองหนุนเมื่อหลังจากการปฏิวัติเสร็จสิ้นทางการให้ทหารที่ไม่ได้มียศหรือทหารกองหนุนกลับบ้านพร้อมเงินจำนวนหนึ่งกลับมาด้วย วันนี้เหม่ยหลิงจึงเก็บกวาดเช็ดถูบ้านด้วยสีหน้าดีอกดีใจ เพราะมีเรื่องหนึ่งที่เธออยากบอกให้สามีรู้ สองเดือนที่แล้วสามีได้กลับมาเยี่ยมและร่วมหลับนอนหลังจากนั้นฤด
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 32 พี่ชอบพี่สาวฉันจริง ๆ ใช่มั้ยเขาค่อย ๆ ทายาให้เหม่ยหลิงอย่างเบามือเธอจ้องมองความอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขาเป็นคนเดียวเมื่อไหร่ที่เธอพบเจอกับเรื่องอันตรายจะเข้ามาช่วยไว้ได้เสมอ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้างหัวใจของเธออบอุ่นทุกครั้ง ความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดได้หายไป"ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย หากไม่มีคุณฉันคงไม่รู้จะทำอย่างไรเลย ""ไม่เห็นจะต้องขอบคุณหลายครั้งเลย คงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตมาให้เราได้พบเจอกัน ตอนนี้รู้สึกดีแล้วใช่มั้ยฉันขอออกไปคุยกับลูกน้องสักครู่นะ" เหม่ยหลิงพยักหน้าให้อี้หาน เขาเดินออกมาด้านนอกสั่งการให้ลูกน้องไปสืบประวัติสามีเก่าของเหม่ยหลิงรวมถึงซิงเยียนที่เป็นคนสั่งการให้คนมาทำร้ายเหม่ยหลิงอีกด้วย เมื่อสั่งการเสร็จเขาได้เดินเข้ามาหาเหม่ยหลิงด้านในเห็นเธอกำลังเก็บของที่หล่นลงบนพื้นที่ซื้อมาจากตลาดอย่างทุลักทุเลจึงนั่งลงช่วยเธอเก็บของ"มาให้ฉันช่วย ซื้อของมาเยอะขนาดนี้จะขายซาลาเปาพรุ่งนี้ใช่มั้ย? แขนเจ็บแบบนี้คงนวดแป้งไม่ได้แน่ ๆ ว่าแต่ของนี่คืออะไร"เขาเก็บของหันไปเห็นของมีค่าคล้ายซื้อไว้เก็บสะสมนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ"อ้อ...
บทที่ 31 เป็นเขาอีกแล้วที่ช่วยเหลือเมื่อมาถึงหน้าประตูเหม่ยหลิงวางของไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดโดยมีชายคนนั้นคอยเดินตามหลังติด ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตูเหม่ยหลิงคว้าไม้ถูพื้นฟาดใส่หัวของชายคนนั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทำให้เขาโมโหผลักกายของเหม่ยหลิงจนล้มกับพื้น"โอ๊ย!!! นี่เธอกล้าลงมือกับฉันอย่างไม่หวาดกลัวเลยอย่างนั้นหรือตอนแรกตั้งใจแค่มาข่มขู่แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต้องทำให้เธอเจ็บกว่าฉัน""อึก! ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำฉันแบบนี้อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เหม่ยหลิงเจ็บแขนเพราะถูกผลักจนล้มถลาลงทับแขนตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นแววตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาอาฆาตจนเหม่ยหลิงคิดว่าหากเธอสู้ไม่ไหวหรือไม่มีใครช่วยเธอได้วันนี้เธอคงได้ตายอีกครั้งแน่ ๆ คนเดียวที่เธอคิดถึงกลับเป็นอี้หาน เฝ้าภาวนาในใจให้เขามาช่วยเธอ"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันแต่เป็นคุณหนูของฉันต่างหากที่เธอไปก่อกวนให้รำคาญใจ ไม่พูดมากมานี่ซ่ะดี ๆ ฉันจะจัดการให้เธอเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เอง" เขาขึ้นคร่อมร่างของเหม่ยหลิงก่อนที่จะยกมือที่ถือมีดขึ้นเพื่อแทงเข้าที่หน้าอกของเธอ เหม่ยหลิงหัวใจเต้นร
บทที่ 30 ถูกฉุดฝั่งด้านของลู่หลินเธอครุ่นคิดทั้งคืนจนใบหน้าเคร่งเครียดเพราะนอนไม่หลับอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ฟางเซียนยกข้าวมาให้ลูกได้กินอดที่จะสอบถามไม่ได้“วันนี้อารมณ์ไม่ดีอย่างนั้นหรือ? เกิดอะไรขึ้นอีก”“มีเรื่องชวนให้คิดนิดหน่อยค่ะ คุณแม่หากว่าผู้หญิงกับผู้ชายไม่รู้จักกันหรือไม่สนิทสนมกันเมื่อเห็นอีกฝ่ายเจ็บไข้จะเข้าไปช่วยเหลือมั้ย?”“ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ”“เมื่อวานนะสิคะฉันไปหาท่านนายพลที่บ้านไม่พบระหว่างทางที่จะเดินไปโรงงานเห็นนายพลพานางเหม่ยหลิงแนบชิดนั่งรถยนต์ไปหาหมอ”“นางเหม่ยหลิงนะหรือ? ทำไมรู้จักกับนายพลได้ไม่มีทางต่อให้รู้จักกันยังไงหากไม่ได้รู้สึกพิษสวาทคงไม่ให้เข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัว หรือว่านางเหม่ยหลิงคิดจะอ่อยนายพลให้สนตัวเองแสร้งเป็นไข้ให้ได้แนบชิดหรือ? ไม่ได้การเรื่องนี้แม่ไม่ยอมให้มันมาแย่งนายพลจากลูกเด็ดขาด ไปกันเถอะแม่จะไปจัดการกับเหม่ยหลิงเอง” ฟางเซียนโมโหเลือดขึ้นหน้าลุกขึ้นดึงมือของลู่หลินให้เดินตามตนเองไปที่บ้านของเหม่ยหลิงอย่างเร่งรีบเหวินเทียนเดินมาได้ยินบทสนธนาเมื่อครู่ทำให้เขาเกิดอาการหึงหวงไม่อยากให้เหม่ยหลิงได้ใกล้ชิดคนอื่น ก่อนที่เขาจะเอะใจ
บทที่ 29 นอนด้วยกันมั้ยคะอี้หานเปิดผ้าม่านเดินเข้าไปด้านในเห็นเหม่ยหลิงนอนหลับอยู่บนเตียงใบหน้าที่ซีดขาวเริ่มกลับมามีเลือดฝาดแถมตอนนี้ดูเหมือนร่างกายของเธอขับเหงื่อออกมามากกว่าเมื่อครู่ด้วยซ้ำคงเป็นฤทธิ์ยา"คนอะไรไม่รักตัวเองเลย ห่วงคนอื่นจนตัวเองไม่สบายอย่างนี้ใครจะดูแลเธอจะให้เวยอันคอยดูแลคนเดียวคงไม่ได้แน่ ๆ "อี้หานจ้องมองพลางคิดในใจหลังจากนั้นพยาบาลได้นำยาพร้อมค่ารักษามาให้แก่นายพลเขาไม่รอช้าจะจัดการในส่วนนี้ให้ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเขาได้อุ้มเธอไปที่รถเดินทางกลับบ้านตระะกูลฟ่งเมื่อมาถึงบ้านของเหม่ยหลิงเวยอันรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้อี้หานก็ถึงเวลาเลิกงาน จงสั่งการให้ลูกน้องกลับไปพักผ่อนส่วนเขาจะคอยอยู่ที่นี่จนกว่าเหม่ยหลิงจะฟื้น"พี่เหม่ยหลิงเป็นอย่างไรบ้างครับ หมอบอกว่าพี่สาวของผมเป็นอะไรกัน""เหม่ยหลิงเป็นไข้หวัดที่เธอยังไม่รู้สึกตัวเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอน่าจะเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่แสดงออกให้ใครรู้ จนร่างกายทุรดตัวทำให้เป็นหนักกว่าทุกครั้ง เวยอันฉันจะพาเหม่ยหลิงไปนอนที่ห้องเธอยังไม่ได้กินข้าวใช่มั้ย อย่างนั้นฉันพาเหม่ยหลิงเข้าพักแล้วจะออกมาทำอาหารให้นะ""ขอบคุณพี่อี้หานอ
บทที่ 28 จับไข้ปัง ปัง!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงที่เรียกด้านนอกอย่างเสียงดัง"เหม่ยหลิง เหม่ยหลิงเธออยู่ข้างในหรือไม่?" เวยอันที่เช็ดตัวให้พี่สาวได้ยินเสียงที่คุ้นเคยรีบวางผ้าลงเดินไปเปิดประตูให้อี้หานทันที"พี่อี้หานเดี๋ยวฉันจะเปิดประตูให้นะ" อี้หานได้ยินเสียงเวยอันจึงขยับกายออกมาไกลจากประตู"เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงยังไม่เปิดร้านขายซาลาเปา หรือว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น""พี่อี้หานตอนนี้พี่เหม่ยหลิงจับไข้นอนหนาวสั่นอยู่ที่ห้องฉันเอายาให้กินเช็ดตัวให้แต่ดูเหมือนไข้จะไม่ลดเลย ฉันจะพาพี่ไปหาหมอก็ไม่สามารถพาไปได้โชคดีเหลือเกินที่พี่อี้หานมาตอนนี้พอดี" เด็กชายใบหน้ามีหวังขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าของอี้หาน เหม่ยหลิงจับไข้จนไม่ได้สติทำอย่างไรก็ไม่รู้สึกตัวสักที เมื่ออี้หานได้ยินรีบให้เวยอันพาไปที่ห้องนอนของเธอทันที"ห้องเหม่ยหลิงอยู่ตรงไหนรีบพาฉันไปหาเธอเดี๋ยวนี้ ""ด้านนี้ครับ "เวยอันรีบเดินไปหน้าห้องเปิดประตูให้เขาเข้าไป ร่างบางนอนสั่นเทาอยู่ใต้ผ้าห่มเหงื่อไหลออกตามรูขุมขนเมื่ออี้หานใช้มือแตะที่หน้าผากพบว่าร่างกายของเธอร้อนราวกับไฟ จึงรีบอุ้มร่างเล็กไปขึ้นรถพาเธอไปหาหมอที่โรงพยาบาล"เวยอันไม่