บทที่ 15 พบกันครั้งแรก
เหม่ยหลิงหยิบซาลาเปาไส้ถั่วแดงกับไส้หมูใส่ถุงให้ลูกค้าพร้อมรับเงินเก็บใส่กระปุกเอาไว้
"กินให้อร่อยนะคะ " ลูกค้าเดินจากไปเหม่ยหลิงหันหลังจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อนำซาลาเปาที่นึ่งไว้มาเพิ่มแต่แล้วเสียงทุ่มต่ำได้เรียกเธอเอาไว้เสียก่อน
"ผมต้องการซาลาเปาครับไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ร้านซาลาเปาหรือไม่?" เหม่ยหลิงหันกลับมาฉีกยิ้มเต็มใบหน้ารีบต้อนรับลูกค้าคนใหม่ทันที แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าของเขาต้องตกตะลึงไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าที่คมเข้มร่างกายสูงโปรงแข็งแกร่งอย่างกับคนที่ออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา อีกทั่งรูปร่างอย่างเขาไม่ได้เห็นได้ง่าย ๆ ในที่แห่งนี้คงจะไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน
"ใช่แล้วค่ะ ที่ร้านของเราตอนนี้มีซาลาเปาเพิ่มมาอีกไส้ลูกค้าต้องการแบบไหนคะ มีไส้ถั่วแดงกับไส้หมูค่ะ " มิใช่แค่เหม่ยหลิงที่ตกตะลึงแต่อี้หานเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เพราะหญิงร่างบางคนนี้มิใช่แค่รสชาติฝีมือที่เหมือนภรรยาของเขาแต่ทว่าทั้งกิริยาท่าทางช่างคล้ายภรรยาของเขายิ่งนัก
"เอ่อ ...ไม่ทราบว่าลูกค้ายังต้องการจะซื้อซาลาเปาอยู่มั้ยคะ? " เหม่ยหลิงเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าไม่พูดอันใดเอาแต่จ้องหน้าเธอ
"เอา ๆ เมื่อครู่บอกว่ามีสองไส้อย่างนั้นเอามาทั้งสองเลยอย่างละห้าลูก" อี้หานตอบเธอตะกุกตะกักอย่างเขินอายไม่รู้ว่าเพราะเธอเหมือนภรรยาของเขาหรืออย่างไรถึงทำให้เขาใจสั่นขึ้นมา วันนี้เขาได้ใช้จักรยานในการเดินทางมาที่นี่แถมยังแต่งกายด้วยชุดธรรมดาไม่อยากเป็นที่สนใจของผู้คน เหม่ยหลิงจึงไม่รู้ว่าเขาเป็นนายพลที่น้องชายของเธออยากเจอ
"ได้ค่ะ " เหม่ยหลิงใช้ไม้คีบซาลาเปาที่กำลังร้อน ๆ ใส่ถุงให้เขาตอนนั้นเวยอันได้เดินออกมาพอดี เพราะถึงเวลาที่เขาต้องไปโรงเรียนแล้ว
"พี่เหม่ยหลิงฉันไปโรงเรียนก่อนนะ วันนี้จะรีบกลับมาช่วยงานที่บ้านไม่เที่ยวเตร่เกเรไปที่ไหน" เวยอันยืนตรงยกมือแตะที่หัวคล้าย ๆ นายทหารทำกันทำให้อี้หานที่ยืนคอยซาลาเปาได้เห็นจึงเอ่ยถามเหม่ยหลิง
"ดูท่าน้องชายของคุณจะชอบทหารมากเลยนะครับ " เหม่ยหลิงมองไปยังเวยอันก่อนจะยื่นซาลาเปาให้อี้หานและตอบคำถามที่เขาเอ่ยถามเมื่อครู่
"ไม่ใช่แค่ชอบค่ะ แต่เป็นความฝันของเวยอันโตขึ้นเขาอยากเป็นนายทหารนะค่ะ ว่าแต่ไม่เคยเห็นคุณสักครั้งพึ่งมาอยู่ที่นี่หรือคะ"
"ใช่ครับผมย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สองวันแล้ว วันก่อนได้ชิมซาลาเปาของที่นี่แล้วติดใจจึงตามหาร้านต่อจากนี้ผมคงจะมาบ่อย ๆ "
"ขอบคุณค่ะทั้งหมดสามหยวน " เหม่ยหลิงบอกราคาซาลาเปาแก่เขา เขาล้วงเงินออกจ่ายพร้อมคว้าจักรยานปั่นออกไป
ตอนนี้เขาเริ่มสนใจและอยากรู้จักเหม่ยหลิงคนนี้เหลือเกิน วันนี้เพียงแค่รู้ชื่อก็เพียงพอแล้วหากเข้าหาเธอมากเกินจะทำให้เธอหวาดกลัวและไม่ต้อนรับเขาอีก หลังจากที่ถึงบ้านเขาจัดการแต่งกายสวมชุดหทารเพื่อไปทำงาน โดยมีลูกน้องคอยช่วยสวมใส่อยู่ข้าง ๆ
“ทำไมนายท่านต้องออกไปซื้อด้วยตนเองด้วยครับ ให้ผมไปซื้อให้ก็ได้” เขาจ้องมองไปยังซาลาเปาด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม
“เพราะฉันอยากไปเห็นด้วยตาตนเองนะสิ! ช่วยไปสืบประวัติของผู้หญิงคนนั้นให้ที เธอชื่อว่าเหม่ยหลิงชีวิตของเธอเป็นอย่างไรฉันได้ยินมาว่าเธอหย่ากับสามี เพราะอะไรเธอถึงหย่าจงไปสืบมาให้หมด” ลูกน้องของอี้หานพยักหน้ารับคำสั่งของผู้เป็นนายก่อนจะเดินตามเขาไปที่รถเพื่อขับเคลื่อนออกไปที่กองทัพ อี้หานไม่ลืมที่จะหยิบซาลาเปาที่เขาซื้อมาติดมือไปด้วย
ฝั่งด้านฟางเซียนวันนี้เธอได้ไปเดินซื้อของพร้อมลูกสะใภ้เพราะเมื่อคืนนี้เธอกับสามีได้ร่วมใช้ค่ำคืนที่เร้าร้อนทั้งคืนจึงชักชวนแม่สามีออกมาซื้อยาและอาหารเพื่อไปบำรุงร่างกาย แต่เมื่อเดินเล่นที่ตลาดได้ยินคนเขาพูดถึงซาลาเปาลูกสะใภ้ของเธอจึงอยากจะชิมขึ้นมาฟางเซียนจึงเดินไปถามแม่ค้าในตลาดเพื่อพาซิงเยียนไปซื้อ
“ร้านซาลาเปาที่เลื่องชื่ออยู่ที่ใดกันหรือลูกสะใภ้ฉันอยากกินแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน”
“ร้านขายซาลาเปาไม่ไกลจากตลาดเท่าไหร่นัก รู้จักเรือนตระกูลฟ่งหรือเปล่าหากไปถึงที่นั่นก็เปรียบว่าถึงร้านซาลาเปาแล้ว” แม่ค้าขายเนื้อได้เอ่ยบอก เธอรู้จักเพราะเดี๋ยวนี้เหม่ยหลิงมาซื้อเนื้อหมูที่ร้านเธอบ่อย ๆ ฟางเซียนได้ยินพลางนึกในใจหากเป็นบ้านตระกูลฟ่งก็มิใช่บ้านของเหม่ยหลิงหรือ? หากเป็นอย่างนั้นก็ดีเธอเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันหลังจากที่ออกมาจากบ้านของเธอชีวิตของเหม่ยหลิงกับเวยอันจะเป็นอย่างไร คงอยู่กันอย่างอด ๆ อยาก ๆ สินะ
“ขอบใจมาก ซิงเยียนมาเถอะแม่รู้แล้วว่าร้านซาลาเปาที่อยากกินอยู่ที่ไหน” เธอยิ้มกริ่มเมื่อนึกถึงสภาพของเหม่ยหลิง
แต่ผู้ใดจะคิดเมื่อเธอกับลูกสะใภ้เดินมาถึงบ้านตระกูลฟ่งกลับพบว่าที่นี่เป็นร้านซาลาเปาแถมบ้านของเหม่ยหลิงยังถูกตกแต่งโดดเด่นน่าอยู่มากกว่าบ้านที่อยู่ละแวกนี้ด้วยซ้ำ
“อะไรกันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง ทำไมชีวิตของเธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้”
“อะไรกันหรือคะคุณแม่ มาถึงแล้วเราเข้าไปซื้อเลยมั้ยคะจะได้รีบกลับวันนี้ฉันจะพาพี่เหวินเทียนไปหาคุณพ่อด้วย สายมาแดดร้อนเดี๋ยวฉันจะไม่สบาย” ซิงเยียนบอกกับแม่สามีแต่เธอกลับจับแขนของลูกสะใภ้เอาไว้
“ไม่ได้เราจะกินร้านนี้ไม่ได้เอาไว้วันหน้าเราค่อยไปซื้อที่อื่นแล้วกันนะ”
“ทำไมละคะ”
“เพราะนั่นเป็นบ้านของเหม่ยหลิงภรรยาเก่าของเหวินเทียนนะสิ” ซิงเยียนจ้องมองไปที่ร้านสายตาของเธอเริ่มเปลี่ยนไปเธอไม่ได้หันหลังกลับแต่เลือกที่จะเดินตรงเข้าไปหาเหม่ยหลิงอย่างตั้งใจ เธอเจ็บใจที่เหวินเทียนยังคงฝันเพ้อละเมอหาเหม่ยหลิงอยู่ไม่จางหาย ทั้ง ๆ ที่นอนกอดเธอทั้งคืนแต่หลับฝันดันละเมอชื่อของเหม่ยหลิงออกมา แม่สามีเมื่อห้ามไม่อยู่ก็ได้เดินตามหลังลูกสะใภ้ไปหาเหม่ยหลิงที่กำลังขายซาลาเปาให้ลูกค้าคนอื่น
“เฮอะ ฉันคิดว่าเธอออกมาจากบ้านของฉันแล้วจะได้ดี ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาเป็นแม่ค้าขายซาลาเปาน่าอับอายสิ้นดี ต่างจากลูกชายของฉันหลังจากที่หย่ากับเธอชีวิตของเหวินเทียนได้เปลี่ยนไปมีภรรยาที่แสนดีเอาอกเอาใจ หนุนนำสามีมีงานการที่ดีต่างจากที่อยู่กับเธอยิ่งนัก” เสียงแผดร้องออกมาเพียงแค่ได้ยินเหม่ยหลิงก็รับรู้ทันทีว่าสตรีที่มาเยือนคือแม่สามีเก่าของเธอ เธอเลือกที่จะไม่โต้ตอบเพราะมีลูกค้าคนอื่นอยู่
“นั่นสิคะคุณแม่ พี่เหวินเทียนทั้งแสนดีทำหน้าสามีในทุกคืนจนคิดว่าไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อนอีกไม่นานคุณแม่คงจะได้อุ้มหลานในไม่ช้า ยาสมุนไพรพวกนี้เห็นทีต้องไปซื้อเพิ่มดูสิคะตรงนี้ร่องรอยที่พี่เหวินเทียนฝากเอาไว้เมื่อคืนนี้” ซิงเยียนอยากเอาชนะและทำให้เหม่ยหลิงเจ็บใจจึงได้พูดกระแนะกระแหนขึ้นมา แต่เหม่ยหลิงไม่ได้ใส่ใจเธอไม่ได้มีความรู้สึกกับเหวินเทียนสักหน่อยต่อให้มาตายต่อหน้าเธอก็ไม่ได้สนใจ ยิ่งเธอนิ่งเฉยไม่สนใจยิ่งทำให้แม่สามีกับลูกสะใภ้ไม่พอใจเริ่มก่อกวนเธอมากขึ้น
“นี่พวกเธอมาซื้อของก็เลือกบ้างนะ รู้มั้ยว่าแม่ค้าร้านนี้เป็นสตรีที่ผ่านการมีสามีมาก่อนมิหนำซ้ำยังผ่านการตายมาก่อนกินเข้าไประวังครอบครัวชีวิตจะพบเจอแต่สิ่งอัปมงคลด้วยล่ะ”
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!!!”
บทที่ 16 ทำความรู้จักลูกค้าที่กำลังยืนต่อคิวรอซื้อซาลาเปาเริ่มหันมองหน้ากันไปมา เพราะคำพูดของฟางเซียน หากเธอมาเพียงต่อว่าเหม่ยหลิงคงจะไม่โต้ตอบแต่ทว่าตอนนี้ทั้งแม่สามีเก่าและภรรยาใหม่ของเหวินเทียนกำลังใส่ความทำให้ร้านของเธอเสียหาย ลูกค้าเริ่มเป็นกังวลหากเธอไม่โต้ตอบทั้งสองคงได้ใจไม่หยุดเพียงเท่านี้"อะไรที่มากเกินไป ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทั้งนั้น ""ความจริงที่ว่าฉันถูกแม่สามีเก่ากับพี่สาวของสามีรุมรังแกทำร้ายจนฉันแท้งลูกนะหรือ? มิหนำซ้ำขนาดมีฉันเป็นลูกสะใภ้อยู่ทั้งคนยังจะหาเมียน้อยให้สามีของฉันช่างเป็นแม่สามีที่ดีจริง ๆ เธอเองก็เช่นกันนะระวังตัวไว้เถิดขนาดฉันยังถูกกระทำแบบนี้เมื่อไหร่ที่เธอหมดความสำคัญต่อตระกูลนี้เธอเองก็ไม่ต่างจากฉันนักหรอก ""หุบปากสกปรกของเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ! ใครกันที่จะทำอย่างนั้นนี่ซิงเยียนไม่ต้องไปฟังเธอพูดนะ อีกอย่างลูกสะใภ้ฉันคนนี้ดีกว่าเธอเป็นไหน ๆ อีกไม่นานคงจะท้องมีหลานคนแรกให้ฉัน ไม่มีทางที่ฉันจะรังแกลูกสะใภ้ของฉันคนนี้แน่นอน ""งั้นก็เชิญออกไปจากหน้าร้านของฉันได้แล้ว หากยังมาคอยสอดเสือกพูดเรื่องที่ไม่เข้าท่าทำให้ร้านของฉันเสียชื่อเสียงฉันจะไม่ไว้หน้าอีกต
บทที่ 17 ทำลายชื่อเสียงหลังจากทั้งสามกินอาหารเสร็จเหม่ยหลิงได้เดินมาส่งอี้หานที่หน้าบ้าน“เดินทางกลับดี ๆ นะคะ”“ครับคุณเองก็เข้าบ้านไปพักเถอะ ได้ยินคุณพูดกับเวยอันว่าจะทำไส้ซาลาเปาต่อคงจะเหนื่อยน่าดูนับถือความขยันของคุณยิ่งนัก”“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่อยากกลับไปอดอยากและอยากให้เวยอันได้เรียนทำเพียงเท่านี้ไม่ได้ทำให้เหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่นัก วันพรุ่งนี้ฉันจะไม่ลืมเก็บซาลาเปาไว้ให้นะคะ”“ครับ งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนเข้าไปในบ้านเถอะครับตอนนี้มืดค่ำแล้วเดี๋ยวจะเกิดอันตรายยิ่งมีแต่ผู้หญิงและเด็กด้วย”“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ คุณไม่ต้องห่วง” เธอโบกมือลาเขายืนมองจนเขาลับสายตาเหม่ยหลิงจึงเดินเข้ามาปิดประตูบ้านเข้ามาด้านในเพื่อทำไส้ซาลาเปาต่อ ส่วนเวยอันเธอให้น้องชายไปอาบน้ำทำการบ้านและพักผ่อนฝั่งด้านของฟางเซียนเธอกลับมาถึงบ้านให้ลูกสะใภ้ไปพักผ่อนเธอยังนึกโมโหเหม่ยหลิงไม่หายที่ทำให้เธอขายหน้าต่อหน้าทุกคนรวมถึงลูกสะใภ้อย่างซิงเยียนโชคดีที่ซิงเยียนโง่เขลาเธอพูดเพียงไม่กี่คำก็เข้าใจง่าย คืนนี้เธอนอนไม่หลับคิดหาหนทางจัดการกับเหม่ยหลิงให้ได้ ลู่หลินออกมาจากห้องนอนตัวเองเพื่อหาน้ำกินเห็นคุณแม่ย
บทที่ 18 พิสูจน์ทุกคนเดินเข้ามาดูเปรียบเทียบซาลาเปาทั้งสองก้อนแตกต่างกันจริงๆ เหม่ยหลิงจ้องมองไปยังคนที่เข้ามาหาเรื่องเธอ แต่ละคนเริ่มมีความกระวนกระวายมองหน้ากันไปมา ทำให้เหม่ยหลิงมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังหวังทำลายชื่อเสียงร้านของเธอเพราะคนพวกนี้เธอไม่เคยเห็นหน้าสักครั้งเลยด้วยซ้ำ"เอ๊ะ! ต่างกันจริง ๆ ด้วยอย่างนั้นพวกพี่ชายพี่สาวยังจะว่าเป็นซาลาเปาร้านนี้อยู่อีกหรือ? อย่างนี้ไม่เท่ากับว่ามาสร้างความวุ่นวายเสียหายให้ร้านนี้หรอกหรือ หากพวกพี่ ๆ บริสุทธิ์ใจบอกมาสิว่าซื้อมาจากไหน เพราะอย่างไรก็ไม่ใช่ที่นี่อยู่ดี" อี้หานได้พูดขึ้น"นั่นสิ! หรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกคุณตั้งใจมาทำลายชื่อเสียงร้านฉันอย่างนี้ฉันแจ้งความได้ใช่มั้ยนะ... แล้วอย่างนี้ใครกันที่จะต้องเป็นคนที่จะรับจ่ายค่าเสียหาย หื้ม! หากนับจำนวนคนห้าคนค่าที่ทำให้ร้านเสียหายต้องจ่ายค่าปรับเท่าไหร่กันนะ จะเรียกร้องค่าซาลาเปาสามวันดีมั้ยนะ" เหม่ยหลิงทำท่าทางนับนิ้วมือจนกระทั่งหนึ่งในนั้นรีบรับสารภาพทันที"อย่าแจ้งความเลยนะฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับหรอก ฉันยอมแล้วฉันรับเงินมาจากผู้หญิงคนหนึ่งแถมเธอยังให้ซาลาเปามาด้ว
บทที่ 19 ขายดีกว่าเดิมเหวินเทียนแต่งตัวเต็มยศวันนี้เขาต้องออกเดินทางไปออกงานกับนายอำเภอ เมื่อออกมาจากห้องตัวเองลูกน้องของเขายืนรออยู่หน้าประตูได้แจ้งกับเขาว่าตอนนี้มีแขกรอเขาอยู่ที่ห้องต้อนรับ“ท่านนายพลตอนนี้แขกมาขอพบท่านครับ”“แขกหรือ? ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันไม่เคยเห็นใครมาหาที่บ้านเลยหากจะพบต้องไปที่กองทัพสิ”“เอ่อ..แขกคนนี้เป็นผู้หญิงครับ” เมื่อได้ยินว่าเป็นผู้หญิงคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใดก็มีผู้หญิงเข้ามาคอยป้วนเปี้ยนข้างกาย“ต่อจากนี้หากไม่ใช่คนที่มาติดต่อราชการไม่ต้องต้อนรับและปฏิเสธการขอเข้าพบเข้าใจหรือไม่”“ครับ” อี้หานเดินไปที่ห้องต้อนรับสองเท้าก้าวเข้าไปเหลียวมองหญิงสาวที่นั่งรอเขาอยู่ที่เก้าอี้พร้อมเอ่ยทักทายอย่างเป็นมารยาท“สวัสดีครับคุณผู้หญิงไม่ทราบว่ามาหาผมมีธุระอะไรครับ” ลู่หลินยืนขึ้น อย่างรีบร้อนใบหน้าคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นใบหน้าของท่านนายพลที่แต่งกายด้วยชุดประจำตำแหน่งเต็มยศยิ่งทำให้เขาสง่างามมากกกว่าเดิม แววตาของเธอเป็นประกายแวววาว“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อว่าลู่หลินได้ยินมาว่ามีท่านนายพลมาประจำการใหม่เลยเข้ามาทักทายไม่ได้
บทที่ 20 สามีเก่ามาก่อกวนเหม่ยหลิงเดินมาเปิดประตูเห็นว่าเขาเคยเป็นสามีเก่าและไม่มีพิษมีภัยอะไรหากเปรียบเทียบสามคนในบ้านตระกูลเหวินเขาคือคนที่ดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อเธอเปิดประตูเห็นใบหน้าของเขาพร้อมกลิ่นเหล้าที่ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว เธอใช้มือปิดจมูกก่อนจะเอ่ยถามเขามาหาเธอมีเรื่องอะไร“พี่เหวินเทียนทำไมพี่ถึงดื่มเหล้ามากขนาดนี้กัน แล้วมาที่นี่มีเรื่องอะไรจะพูดกับฉันหรือ? ” เขาเห็นใบหน้าของเหม่ยหลิงเดินเข้ามาใกล้พร้อมดึงร่างบางเข้ามาโอบกอดไว้แน่น“พี่คิดถึงเธอเหลือเกินเหม่ยหลิง คิดถึงจนแทบบ้า” เหม่ยหลิงตกใจไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมเข้ามากอดเธอแบบนี้ใบหน้าของเหม่ยหลิงซีดเผือก รีบผลักเขาออกร่างกายของเธอ“ปล่อยนะ! อย่ามาทำแบบนี้กับฉัน เราหย่ากันแล้วพี่ไม่มีสิทธิ์มากอดฉันแบบนี้ ออกไปนะ” เหวินเทียนไม่สนใจคำพูดของเหม่ยหลิงด้วยซ้ำเพราะฤทธิ์เหล้าที่อยู่ในร่างกาย ทำให้เขาโมโหและโกรธในตัวของเหม่ยหลิง เขาตะคอกออกมาเสียงดังแววตาจ้องเขม็ง“เพราะพี่ไม่ใช่ไอ้หนุ่มคนนั้นใช่มั้ย? เธอถึงได้ผลักไสพี่ไม่ให้เข้าใกล้ เหม่ยหลิงเธอรู้มั้ยพี่เจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องหย่าให้เธอยอมให้เธอเดินออกจากชีวิตพี่มา เธอเห็นใจพี่สัก
บทที่ 21 ลูกชายฉันเป็นคนดี"ใช่แล้วฉันคือท่านายพลที่มาประจำการคนใหม่ ต้องขอโทษทั้งสองคนด้วยที่ปิดบัง " เหม่ยหลิงตกใจไม่น้อยคิดว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาเช่นเธอเมื่อครู่เธอหวาดกลัวจนไม่ทันได้สังเกตชุดที่เขาสวมใส่มาเลย หากเขาเป็นนายพลจริง ๆ การที่เธอสนิทสนมกับเขาคงไม่ดีต่อตัวเขาแน่ ๆ อีกไม่นานคงมีเรื่องลือให้แซ่ดเกี่ยวกับเธอและท่านนายพล เธอไม่อยากให้เขามาเสียชื่อเพราะเธอ เหม่ยหลิงจึงคิดจะตีตัวออกห่างเว้นระยะห่างจากเขา"ว๊าววว! น่าทึ่งจริง ๆ กระผมชื่อว่าเวยอันขอฝากเนื้อฝากตัวกับท่านนายพลด้วยนะครับ" เวยอันดีใจรีบยืนตรงตะเบะเสียงออกมายกมือแตะที่หน้าผากของตัวเองราวกับทหารต่อหน้าอี้หาน เหม่ยหลิงไม่อยากให้ทั้งสองสนิทสนมมากไปกว่านี้รีบสั่งให้เวยอันไปนอน"เวยอันไปนอนได้แล้ว นี่ดึกมากแล้ว""ครับพี่เหม่ยหลิง พี่อี้หานไม่ใช่สิท่านนายพลกระผมทหารชั้นผู้น้อยขอตัวเข้านอนก่อนนะครับ " เวยอันบอกกับเขาก่อนจะเดินกลับเข้าห้องตัวเองตอนนี้ในห้องโถงจึงมีแค่เขากับเธอความเงียบเริ่มปกคลุม"เอ่อ..ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ปกปิดตัวเอง ที่ฉันมาซื้อซาลาเปาทุกเช้าเพราะติดใจในรสชาติไม่ได้คิดเข้าหาเธอด้วยเจตนาที่ไม่ดี และคิดว่
บทที่ 22 ไม่กลับไปลงนรกครั้งที่สองรุ่งเช้าวันต่อมาเมื่อคืนนี้เหม่ยหลิงไม่อาจจะนอนหลับได้เลย เธอยังรู้สึกกลัวเหวินเทียนอีกทั้งเรื่องของท่านนายพลอย่างอี้หานก็เข้ามาในความคิดของเธอจนเธอนอนไม่หลับทั้งคืน วันนี้เธอจึงตื่นสายกว่าทุกวัน“พี่เหมยหลิงฉันไปโรงเรียนก่อนนะ หากว่าพี่เหวินเทียนมาก่อกวนอีกพี่รีบวิ่งไปที่บ้านป้าเสี่ยนเลยรู้มั้ย เฮ้อ! ฉันไม่อยากทิ้งพี่ไว้คนเดียวเลยวันนี้ฉันอยู่กับพี่ดีมั้ยนะ” เวยอันจ้องมองพี่สาวพร้อมพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง เหม่ยหลิงวางมือจากงานที่ทำอยู่เดินเข้ามาหาน้องชายใช้มือขยี้หัวของเขาอย่างเอ็นดู“ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอกนะ รีบไปเรียนเถอะเดี๋ยวจะสายอีกอย่างตอนนี้ท้องฟ้าสว่างอย่างนี้เหวินเทียนคงไม่กล้ามารบกวนแน่นอน”“ตอนนี้ผมยังเด็กที่จะปกป้องพี่ รอผมโตกว่านี้ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกพี่อย่างเมื่อคืนอีกผมสัญญา”“ไปเถอะอีกอย่างตอนนี้ผู้คนเดินพลุกพล่านเขาคงไม่ทำอะไรพละการหรอกนะ อีกอย่างเมื่อคืนนี้พี่รู้สึกว่าทหารของท่านนายพลยืนคอยคุ้มกันอยู่หน้าบ้านทั้งคืนไม่ต้องห่วง”“นั่นสินะ ฉันลืมไปได้อย่างไงพี่อี้หานอยู่ด้วยทั้งคนเท่านี้ฉันก็หมดห่วงแล้ว ฉันไปก่อนนะ” เวยอันโบกมือ
บทที่ 23 อย่าทำตัวห่างเหินอี้หานนั่งรถมาจ้องมองเวลาในข้อมือก็ใกล้จะถึงเวลาเข้างานแล้ว เขาหงุดหงิดหัวใจจริง ๆ ที่ไม่ได้ไปเจอหน้าเหม่ยหลิงก่อนเข้างาน เมื่อคืนนี้เธอสั่นเทาไปหมดคงหวาดกลัวไม่น้อยไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบางเขาคิดถึงและเป็นห่วงเธอเหลือเกิน แต่เมื่อนึกเห็นสีหน้าที่เธอรู้ว่าเขาเป็นใครเขาเกิดกังวลใจไม่น้อยเลย ทำไมเธอถึงไม่ดีใจที่เขาเป็นนายพลผู้ยิ่งใหญ่มากด้วยอำนาจที่สามารถปกป้องเธอได้ แต่เขาเห็นท่าทีเปลี่ยนไปของเธอเมื่อคืนหลังจากที่รู้ก็ขับไล่เขาทันที“ท่านนายพลจะไปร้านซาลาเปามั้ยครับ” ลูกน้องเอ่ยถามตอนนี้ถึงทางแยกหากจะไปร้านซาลาเปาต้องไปอีกทาง“ไม่ล่ะตอนนี้สายแล้วไปที่กรมดีกว่าฉันมีงานที่จะต้องจัดการมากมาย วันนี้มีทหารใหม่เข้ากรมด้วยมิหรือ? ต่อให้ฉันจะมีอำนาจมากพอแต่ก็ไม่ชอบที่จะผิดเวลา ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบวินัย ไม่อย่างนั้นลูกน้องจะไม่เกรงขาม”“ครับ” เมื่อรถเคลื่อนผ่านแยกทางไปร้านซาลาเปาอี้หานจ้องมองจนลับสายตาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใจของเขาเห็นแต่ภาพใบหน้าของเหม่ยหลิงวนเวียนในความคิดแทบตลอดทางตะวันบ่ายคล้อยวันนี้ซาลาเปาของเธอก็ขายดีอย่างทุกวัน เหม่ยหลิงหันมองถนนครั้ง
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 32 พี่ชอบพี่สาวฉันจริง ๆ ใช่มั้ยเขาค่อย ๆ ทายาให้เหม่ยหลิงอย่างเบามือเธอจ้องมองความอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขาเป็นคนเดียวเมื่อไหร่ที่เธอพบเจอกับเรื่องอันตรายจะเข้ามาช่วยไว้ได้เสมอ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้างหัวใจของเธออบอุ่นทุกครั้ง ความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดได้หายไป"ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย หากไม่มีคุณฉันคงไม่รู้จะทำอย่างไรเลย ""ไม่เห็นจะต้องขอบคุณหลายครั้งเลย คงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตมาให้เราได้พบเจอกัน ตอนนี้รู้สึกดีแล้วใช่มั้ยฉันขอออกไปคุยกับลูกน้องสักครู่นะ" เหม่ยหลิงพยักหน้าให้อี้หาน เขาเดินออกมาด้านนอกสั่งการให้ลูกน้องไปสืบประวัติสามีเก่าของเหม่ยหลิงรวมถึงซิงเยียนที่เป็นคนสั่งการให้คนมาทำร้ายเหม่ยหลิงอีกด้วย เมื่อสั่งการเสร็จเขาได้เดินเข้ามาหาเหม่ยหลิงด้านในเห็นเธอกำลังเก็บของที่หล่นลงบนพื้นที่ซื้อมาจากตลาดอย่างทุลักทุเลจึงนั่งลงช่วยเธอเก็บของ"มาให้ฉันช่วย ซื้อของมาเยอะขนาดนี้จะขายซาลาเปาพรุ่งนี้ใช่มั้ย? แขนเจ็บแบบนี้คงนวดแป้งไม่ได้แน่ ๆ ว่าแต่ของนี่คืออะไร"เขาเก็บของหันไปเห็นของมีค่าคล้ายซื้อไว้เก็บสะสมนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ"อ้อ...
บทที่ 31 เป็นเขาอีกแล้วที่ช่วยเหลือเมื่อมาถึงหน้าประตูเหม่ยหลิงวางของไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดโดยมีชายคนนั้นคอยเดินตามหลังติด ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตูเหม่ยหลิงคว้าไม้ถูพื้นฟาดใส่หัวของชายคนนั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทำให้เขาโมโหผลักกายของเหม่ยหลิงจนล้มกับพื้น"โอ๊ย!!! นี่เธอกล้าลงมือกับฉันอย่างไม่หวาดกลัวเลยอย่างนั้นหรือตอนแรกตั้งใจแค่มาข่มขู่แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต้องทำให้เธอเจ็บกว่าฉัน""อึก! ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำฉันแบบนี้อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เหม่ยหลิงเจ็บแขนเพราะถูกผลักจนล้มถลาลงทับแขนตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นแววตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาอาฆาตจนเหม่ยหลิงคิดว่าหากเธอสู้ไม่ไหวหรือไม่มีใครช่วยเธอได้วันนี้เธอคงได้ตายอีกครั้งแน่ ๆ คนเดียวที่เธอคิดถึงกลับเป็นอี้หาน เฝ้าภาวนาในใจให้เขามาช่วยเธอ"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันแต่เป็นคุณหนูของฉันต่างหากที่เธอไปก่อกวนให้รำคาญใจ ไม่พูดมากมานี่ซ่ะดี ๆ ฉันจะจัดการให้เธอเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เอง" เขาขึ้นคร่อมร่างของเหม่ยหลิงก่อนที่จะยกมือที่ถือมีดขึ้นเพื่อแทงเข้าที่หน้าอกของเธอ เหม่ยหลิงหัวใจเต้นร
บทที่ 30 ถูกฉุดฝั่งด้านของลู่หลินเธอครุ่นคิดทั้งคืนจนใบหน้าเคร่งเครียดเพราะนอนไม่หลับอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ฟางเซียนยกข้าวมาให้ลูกได้กินอดที่จะสอบถามไม่ได้“วันนี้อารมณ์ไม่ดีอย่างนั้นหรือ? เกิดอะไรขึ้นอีก”“มีเรื่องชวนให้คิดนิดหน่อยค่ะ คุณแม่หากว่าผู้หญิงกับผู้ชายไม่รู้จักกันหรือไม่สนิทสนมกันเมื่อเห็นอีกฝ่ายเจ็บไข้จะเข้าไปช่วยเหลือมั้ย?”“ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ”“เมื่อวานนะสิคะฉันไปหาท่านนายพลที่บ้านไม่พบระหว่างทางที่จะเดินไปโรงงานเห็นนายพลพานางเหม่ยหลิงแนบชิดนั่งรถยนต์ไปหาหมอ”“นางเหม่ยหลิงนะหรือ? ทำไมรู้จักกับนายพลได้ไม่มีทางต่อให้รู้จักกันยังไงหากไม่ได้รู้สึกพิษสวาทคงไม่ให้เข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัว หรือว่านางเหม่ยหลิงคิดจะอ่อยนายพลให้สนตัวเองแสร้งเป็นไข้ให้ได้แนบชิดหรือ? ไม่ได้การเรื่องนี้แม่ไม่ยอมให้มันมาแย่งนายพลจากลูกเด็ดขาด ไปกันเถอะแม่จะไปจัดการกับเหม่ยหลิงเอง” ฟางเซียนโมโหเลือดขึ้นหน้าลุกขึ้นดึงมือของลู่หลินให้เดินตามตนเองไปที่บ้านของเหม่ยหลิงอย่างเร่งรีบเหวินเทียนเดินมาได้ยินบทสนธนาเมื่อครู่ทำให้เขาเกิดอาการหึงหวงไม่อยากให้เหม่ยหลิงได้ใกล้ชิดคนอื่น ก่อนที่เขาจะเอะใจ
บทที่ 29 นอนด้วยกันมั้ยคะอี้หานเปิดผ้าม่านเดินเข้าไปด้านในเห็นเหม่ยหลิงนอนหลับอยู่บนเตียงใบหน้าที่ซีดขาวเริ่มกลับมามีเลือดฝาดแถมตอนนี้ดูเหมือนร่างกายของเธอขับเหงื่อออกมามากกว่าเมื่อครู่ด้วยซ้ำคงเป็นฤทธิ์ยา"คนอะไรไม่รักตัวเองเลย ห่วงคนอื่นจนตัวเองไม่สบายอย่างนี้ใครจะดูแลเธอจะให้เวยอันคอยดูแลคนเดียวคงไม่ได้แน่ ๆ "อี้หานจ้องมองพลางคิดในใจหลังจากนั้นพยาบาลได้นำยาพร้อมค่ารักษามาให้แก่นายพลเขาไม่รอช้าจะจัดการในส่วนนี้ให้ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเขาได้อุ้มเธอไปที่รถเดินทางกลับบ้านตระะกูลฟ่งเมื่อมาถึงบ้านของเหม่ยหลิงเวยอันรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้อี้หานก็ถึงเวลาเลิกงาน จงสั่งการให้ลูกน้องกลับไปพักผ่อนส่วนเขาจะคอยอยู่ที่นี่จนกว่าเหม่ยหลิงจะฟื้น"พี่เหม่ยหลิงเป็นอย่างไรบ้างครับ หมอบอกว่าพี่สาวของผมเป็นอะไรกัน""เหม่ยหลิงเป็นไข้หวัดที่เธอยังไม่รู้สึกตัวเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอน่าจะเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่แสดงออกให้ใครรู้ จนร่างกายทุรดตัวทำให้เป็นหนักกว่าทุกครั้ง เวยอันฉันจะพาเหม่ยหลิงไปนอนที่ห้องเธอยังไม่ได้กินข้าวใช่มั้ย อย่างนั้นฉันพาเหม่ยหลิงเข้าพักแล้วจะออกมาทำอาหารให้นะ""ขอบคุณพี่อี้หานอ
บทที่ 28 จับไข้ปัง ปัง!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงที่เรียกด้านนอกอย่างเสียงดัง"เหม่ยหลิง เหม่ยหลิงเธออยู่ข้างในหรือไม่?" เวยอันที่เช็ดตัวให้พี่สาวได้ยินเสียงที่คุ้นเคยรีบวางผ้าลงเดินไปเปิดประตูให้อี้หานทันที"พี่อี้หานเดี๋ยวฉันจะเปิดประตูให้นะ" อี้หานได้ยินเสียงเวยอันจึงขยับกายออกมาไกลจากประตู"เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงยังไม่เปิดร้านขายซาลาเปา หรือว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น""พี่อี้หานตอนนี้พี่เหม่ยหลิงจับไข้นอนหนาวสั่นอยู่ที่ห้องฉันเอายาให้กินเช็ดตัวให้แต่ดูเหมือนไข้จะไม่ลดเลย ฉันจะพาพี่ไปหาหมอก็ไม่สามารถพาไปได้โชคดีเหลือเกินที่พี่อี้หานมาตอนนี้พอดี" เด็กชายใบหน้ามีหวังขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าของอี้หาน เหม่ยหลิงจับไข้จนไม่ได้สติทำอย่างไรก็ไม่รู้สึกตัวสักที เมื่ออี้หานได้ยินรีบให้เวยอันพาไปที่ห้องนอนของเธอทันที"ห้องเหม่ยหลิงอยู่ตรงไหนรีบพาฉันไปหาเธอเดี๋ยวนี้ ""ด้านนี้ครับ "เวยอันรีบเดินไปหน้าห้องเปิดประตูให้เขาเข้าไป ร่างบางนอนสั่นเทาอยู่ใต้ผ้าห่มเหงื่อไหลออกตามรูขุมขนเมื่ออี้หานใช้มือแตะที่หน้าผากพบว่าร่างกายของเธอร้อนราวกับไฟ จึงรีบอุ้มร่างเล็กไปขึ้นรถพาเธอไปหาหมอที่โรงพยาบาล"เวยอันไม่