บทที่ 12 นายพลคนใหม่
เหม่ยหลิงลอบรำพึงในใจเมื่อได้ไปอวยพรกับสะใภ้ใหม่ของตระกูลเหวิน แต่เธอคงจะไม่โดนอย่างที่เหม่ยหลิงโดนแน่ ๆ เพราะเธอนั้นทั้งรวยแถมยังเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านด้วย เหม่ยหลิงสบายใจเดินซื้อของที่ตลาดเพื่อนำกลับไปทำซาลาเปาของเธอต่อ ใครจะแต่งงานใหม่ใครจะเป็นอย่างไรต่อไปเธอไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้หน้าที่ของเธอคือการดูแลน้องชายหาเงินและหนทางที่ร่ำรวยอยู่อย่างมีความสุข
วันเวลาผ่านมาหลายวันร้านของเหม่ยหลิงเลื่องลือไปทั่วทั้งรสชาติของไส้และตัวแป้งที่ไม่เหมือนใครทำให้ผู้คนที่ได้กินต้องติดใจจนต้องรีบมายืนคอยตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดด้วยซ้ำ แม้จะเหนื่อยกายแต่ทว่าเหม่ยหลิงกลับมีความสุขมาก ๆ
"พี่เหม่ยหลิงฉันช่วยเก็นนะครับ วันนี้พี่คงเหนื่อยน่าดูผมเห็นพี่ตื่นแต่เช้าตรู่ทำซาลาเปาเพิ่มตั้งมากมาย พี่ทำเพื่อผมขนาดนี้ผมจะช่วยงานพี่เองพี่ไปนั่งพักนะครับ" วันนี้เวยอันกลับมาเร็วเนื่องจากคุณครูที่สอนจะไปร่วมงานต้อนรับนายพลที่ย้ายมาประจำการที่กองทัพในอำเภอแห่งนี้ ที่เหม่ยหลิงหนื่อยและต้องทำซาลาเปาเพิ่มเพราะมีคนมาสั่งซาลาเปาเพื่อไปเป็นของว่างกินต้อนรับนายพล เธอจ้องมองน้องชายอย่างเอ็นดูก่อนจะวางมือจากผ้าถูโต๊ะเดินเข้ามาใกล้ก่อนพร้อมเผยยิ้มกว้าง
"แค่เวยอันตั้งใจเรียนไม่ว่าพี่จะเหนื่อยเท่าไหร่ก็ยอม"
"พี่มั่นใจได้เลยผมเวยอันจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอนครับผมจะตั้งใจเรียนและไปเป็นทหารมียศ โตขึ้นผมจะตอบแทนพี่ให้สุขสบายเองครับ " เด็กน้อยเอ่ยออกมาเสียงดังฟังชัดแววตามุ่งมั่น
"ได้ยินเท่านี้พี่ก็หายเหนื่อยแล้ว อย่างนั้นช่วยยกหม้อนี้ไปไว้ในครัวให้พี่หน่อยนะ เดี๋ยวเย็นนี้จะทำอาหารอร่อย ๆ ให้กิน " ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารหรือแม้แต่อาหารท้องถิ่น อีกทั่งความเคยชินของร่างกายทำให้เธอทำอาหารได้อย่างไม่ขัดข้องและมีป้าเสี่ยนมาคอยช่วยชี้แนะตลอด ตอนนี้ร่างกายของเธอกับเวยอันเริ่มมีน้ำมีนวลจากเมื่อก่อนมา
ช่วงเย็นบนโต๊ะอาหารระหว่างกินข้าวเวยอันได้พูดถึงเรื่องของนายพลคนใหม่กับพี่สาวของตัวเอง
"พี่เหม่ยหลิงคุณครูที่โรงเรียนบอกว่าวันนี้ไปงานเลี้ยงต้อนรับนายพลคนใหม่ ผมอยากเห็นจังว่านายพลคนใหม่จะเป็นยังไงจะแข็งแกร่งขนาดไหน หากได้พบผมจะถามว่าทำยังไงถึงจะได้เป็นท่านนายพลเหมือนเขา " เวยอันพูดจบคีบผัดผักใส่ชามข้าวก่อนจะนำเข้าปากเคี้ยว เหม่ยหลิงจำได้ว่าทศวรรษนี้ที่เธอเข้ามาอยู่เป็นยุคที่ทหารมีอำนาจมาก ไม่ว่าจะไปทางไหนผู้คนยังคงให้ความเคารพและเกรงกลัว
"คนใหญ่โตอย่างนั้นยากที่เราจะเข้าถึง หากเห็นก็คงไม่ได้เข้าใกล้หรอกนะคงมีลูกน้องคอยเดินประกบหน้าประกบหลัง หากว่าเวยอันอยากเป็นทหารจริง ๆ ต้องกินข้าวเยอะ ๆ ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงและตั้งใจเรียนเก่ง ๆ "
"อย่างนั้นวันนี้ผมขอเติมข้าวอีกชามได้มั้ยครับ" เด็กชายคลี่ยิ้มให้เธอพลางยื่นชามมาตรงหน้า เหม่ยหลิงยิ้มกริ่มก่อนจะจับชามของน้องชายมาตักข้าวเพิ่มให้เขา
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ไม่ว่าเวยอันจะกินกี่ชามพี่ย่อมทำให้กินได้เสมอ " ทั้งสองพี่น้องนั่งกินข้าวเย็นอย่างชื่นบานก่อนจะพากันแยกย้ายเข้านอน
ฝั่งด้านงานเลี้ยงฉลองที่อำเภอ
เพราะการเดินทางมายังที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่สามารถกะเวลาได้ทำให้นายพลคนใหม่ที่ย้ายมากว่าจะถึงก็เกือบจะบ่ายคล้อย ผู้ใหญ่นายอำเภอต่างพากันต้อนรับเป็นอย่างดีนายพลผู้นี้เป็นนายพลที่อายุยังไม่เยอะเพราะความสามารถของเขาไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือแม้แต่จะเป็นการปกครองผู้คนเขาสามารถจัดการได้เป็นอย่างดี ทำให้เขาไต่เต้ามาถึงจุดนี้ได้โดยง่ายอีกทั้งตระกูลของเขาเป็นนายทหารมาทุกรุ่น นายทหารผู้นี้มีชื่อว่านายพลเฟยอี้หาน บุตรชายคนเดียวของตระกูลเฟย เขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้งแต่ทว่าเมื่ออยู่กับภรรยาได้เพียงไม่นานภรรยาสุดที่รักของเขาได้มาจากไปจากโรคร้าย ทำให้เขาเสียใจและไม่คิดจะมองหญิงคนใหม่อีกเลยจนกระทั่งตอนนี้ก็สองปีแล้วที่เขาเป็นนายพลพ่อหม้าย แถมเขาเองก็ยังไม่มีลูกกับภรรยาเลยด้วยซ้ำหากไม่พูดก็ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาเคยมีครอบครัวมาก่อน ด้วยใบหน้าที่คมเข้มหล่อเหลาเหล่าหญิงสาวมากมายต่างอยากเข้ามาใกล้ชิดส่งสายตาเย้ายวนแต่เขายังคงมีเพียงภรรยาของเขาอยู่ในใจไม่สนใจแม้ว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะมาแก้ผ้าต่อหน้า
"นายพลเฟยอี้หาน ฉันนายอำเภอที่นี่ขอต้อนรับท่านและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ท่านนายพลมาประจำการที่นี่ หากวันนี้ฉันต้อนรับไม่ดีต้องขอโทษด้วยนะครับ"
"นายอำเภอฉีไม่ต้องเป็นกังวลฉันไม่ใช่นายพลที่เรื่องมากอะไร ไม่ต้องมากพิธีเพราะฉันเป็นคนง่าย อย่างไรฉันเองต้องฝากเนื้อฝากตัวกับนายอำเภอด้วยนะครับ " อี้หานเอ่ยออกมาอย่างเป็นกันเองทำให้นายอำเภอที่ยืนตัวเกร็งคลายความกังวลลงบ้างเพราะนายพลคนก่อนทั้งบ้าอำนาจและเอาแต่ใจตัวเองหากผู้ใดทำไม่ถูกใจมักจะถูกลงโทษอยู่บ่อย ๆ โชคดีที่ทางการได้ย้ายเขาไปอยู่ที่อื่น
"อย่างนั้นไปดูบ้านที่เราจัดเตรียมไว้ให้กันเถอะครับ แม้จะไม่ใหญ่โตแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างหวังว่าท่านนายพลจะพึงพอใจนะครับ " นายอำเภอฉีผายมือให้อี้หานเดินตามตนเองไปที่บ้านที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้ บ้านหลังใหญ่พอสมควร เป็นที่พึงพอใจของอี้หานยิ่งนักเขาไม่ต้องการอยู่ที่ค่ายทหารจึงแจ้งทางการให้จัดเตรียมบ้านที่อยู่ปะปนกับชาวบ้านจะดีกว่า
เมื่อเดินดูรอบบ้านทุกคนต่างพากันมานั่งกินอาหารด้วยกัน อี้หานเห็นก้อนแป้งสีขาวคล้ายหมั่นโถวจึงได้หยิบมากิน ทันทีที่กัดเข้าปากเคี้ยวกินทำให้เขาชะงักเล็กน้อยรสชาตินี้นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้ลิ้มรส คล้ายรสชาติที่ภรรยาของเขาทำให้กินเมื่อครั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอเป็นคนชอบทำอาหารและชอบทำให้เขากินอยู่บ่อยครั้ง เขาดีใจที่ได้กินรสชาตินี้อีก เมื่อหมดหนึ่งลูกเขาได้หยิบลูกที่สองขึ้นมากิน ทำให้นายอำเภอสังเกตเห็นจึงได้เอ่ยถาม
"ดูท่าแล้วท่านนายพลคงจะชอบกินซาลาเปาสินะครับ คิดไม่ผิดเลยที่นำซาลาเปามาต้อนรับท่านนายพล ร้านนี้เลื่องลือแถมยังอร่อย อีกอย่างแม่ค้าร้านนี้ผมได้ยินมาว่าสง่างามแต่ว่าเคยผ่านการแต่งงานมาก่อน น่าเสียดายจริง ๆ" นายอำเภอถอนหายใจเมื่อพูดถึงเหม่ยหลิง ไม่ใช่แค่รสมือที่อร่อยแต่ทว่าใบหน้าของเธอก็งดงามไม่น้อย อี้หานสนใจซาลาเปาและอยากกินรสชาตินี้อีก หากกินตอนร้อน ๆ คงอร่อยกว่านี้
"นายอำเภอฉีพอบอกฉันได้มั้ยว่าร้านซาลาเปานี้อยู่ที่ไหน หากวันหน้าอยากกินอีกจะใช้ให้ลูกน้องไปซื้อมาให้"
"ร้านซาลาเปาอยู่หมู่บ้านอู่หลงหมู่บ้านถัดจากที่นี่ไปหนึ่งหมู่บ้านนะครับแต่ว่าหากอยากกินต้องรีบไปแต่เช้านะครับไม่งั้นคงไม่ได้กินแน่ ๆ ร้านนี้ขายดีรสชาติอร่อยถึงจะไร้ความร้อนแป้งก็ไม่แข็งทำให้ซาลาเปาร้านนี้ขายดิบขายดีครับ " เมื่ออี้หานได้ยินเขาคิดว่าต้องไปซื้อดูสักครั้ง ซาลาเปาของเธอทำให้เขาหวนคิดถึงรสชาติของภรรยาอยู่ไม่น้อย
บทที่ 13 ถูกใจบ้านตระกูลเหวินหลังจากงานแต่งเสร็จสิ้นสะใภ้ได้เข้ามาอยู่ที่บ้านของสามี ตั้งแต่คืนวันแต่งงานเหวินเทียนไม่ได้แตะต้องตัวของซิงเยียนเลย ทำให้เธอทุกข์ระทมหัวใจโชคดีที่มีแม่สามีคอยเอาใจใส่ดูแล ทำกับข้าวเก็บกวาดบ้านทำกระทั่งซักผ้าให้ลูกสะใภ้ด้วยซ้ำวันนี้ลู่หลินกำลังออกไปทำงานอย่างที่เธอไปทำทุกวันนี้ เธอจะออกไปทำงานหาแม่ไม่เจอจึงเดินหาอ้อมบ้านเห็นแม่กำลังนั่งซักผ้าให้ลูกสะใภ้กับลูกชายอยู่หลังบ้านเธอเลยรู้สึกว่าแม่จะทำเกินไปจริง ๆ"คุณแม่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้เรื่องงานบ้านฉันเองก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่แม่จะมาซักผ้าให้เหวินเทียนกับน้องสะใภ้ได้ยังไง อีกอย่างตะวันขึ้นโด่งป่านนี้ยังไม่ตื่นอีก เฮ้อ! ตอนแรกฉันคิดว่าซิงเยียนจะเป็นคนขยันเห็นเข้าไปดูงานที่โรงงานทุกวัน แต่ที่ไหนได้เป็นคุณหนูตื่นสายและทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่าง แม่หยุดทำได้แล้วไปปลุกให้เหวินเทียนมาซักให้เถอะ เจ้านั่นก็เหมือนกันทำตัวอย่างกับไร้ชีวิตชีวา ""แกไม่ต้องมาบ่นมากไม่รีบไปทำงานหรือไงอีกอย่างงานแค่นี้ฉันทำได้ จะให้ลูกสะใภ้อย่างซิงเยียนมาทำได้ยังไง อย่าลืมสิเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงเย็บผ้านะจะให้มาทุกข์ยากได้ยังไง " ฟ
บทที่ 14 ฉันจะเป็นคุณนายทหารลู่หลินเดินทอดน่องมาถึงบ้านด้วยความตื่นเต้นที่จะเล่าให้แม่ฟังว่าตนเองพบเจอผู้ใดมาแต่เมื่อกลับมาดันเห็นว่าคุณแม่ของตัวเองกำลังนวดหลังให้ลูกสะใภ้อย่างเอาอกเอาใจเธออดที่จะต่อว่าไม่ได้ แม้จะเป็นลูกเจ้าของโรงงานแล้วยังไงในเมื่อตอนนี้ซิงเยียนก็เป็นน้องสะใภ้ของเธอเหมือนกัน"นี่น้องสะใภ้มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอที่จะให้คุณแม่มาทำอะไรแบบนี้ ฉันไม่เคยเห็นแม่สามีบ้านไหนที่ต้องคอยนวดให้สะใภ้อย่างนี้เลย มีแต่ลูกสะใภ้ที่ต้องเอาอกเอาใจแม่สามีคอยดูแลบ้านเรือนหุงหาอาหารนวดบ่าไหลให้แม่สามี เหวินเทียนน้องไม่ได้เรื่องอยู่ที่ไหนทำไมถึงปล่อยให้ภรรยามาใช้คุณแม่อย่างนี้"ฟางเซียนกลัวว่าลูกสะใภ้จะโกรธและรังแกกลั่นแกล้งลู่หลินที่โรงงานจึงรีบตอบกลับเธอทันที"ลู่หลินมิใช่อย่างที่ลูกเห็นหรอกนะ วันนี้ลูกสะใภ้ช่วยงานบ้านแล้วเกิดปวดหลังแม่แค่นวดให้เท่านั้นไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ""นั่นสิพี่ลู่หลินคงไม่รู้ว่าฉันไม่เคยทำงานบ้านมาก่อน วันนี้ฉันใจดีช่วยคุณแม่ถูบ้านพอก้มนาน ๆ ฉันเกิดปวดหลังเท่านั้นเอง หรือว่าต่อจากนี้ฉันจะต้องจ้างคนงานมาทำความสะอาดบ้านกันนะ จะได้ไม่ทำให้คุณแม่เหน็ดเหนื่อย
บทที่ 15 พบกันครั้งแรกเหม่ยหลิงหยิบซาลาเปาไส้ถั่วแดงกับไส้หมูใส่ถุงให้ลูกค้าพร้อมรับเงินเก็บใส่กระปุกเอาไว้"กินให้อร่อยนะคะ " ลูกค้าเดินจากไปเหม่ยหลิงหันหลังจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อนำซาลาเปาที่นึ่งไว้มาเพิ่มแต่แล้วเสียงทุ่มต่ำได้เรียกเธอเอาไว้เสียก่อน"ผมต้องการซาลาเปาครับไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ร้านซาลาเปาหรือไม่?" เหม่ยหลิงหันกลับมาฉีกยิ้มเต็มใบหน้ารีบต้อนรับลูกค้าคนใหม่ทันที แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าของเขาต้องตกตะลึงไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าที่คมเข้มร่างกายสูงโปรงแข็งแกร่งอย่างกับคนที่ออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา อีกทั่งรูปร่างอย่างเขาไม่ได้เห็นได้ง่าย ๆ ในที่แห่งนี้คงจะไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน"ใช่แล้วค่ะ ที่ร้านของเราตอนนี้มีซาลาเปาเพิ่มมาอีกไส้ลูกค้าต้องการแบบไหนคะ มีไส้ถั่วแดงกับไส้หมูค่ะ " มิใช่แค่เหม่ยหลิงที่ตกตะลึงแต่อี้หานเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เพราะหญิงร่างบางคนนี้มิใช่แค่รสชาติฝีมือที่เหมือนภรรยาของเขาแต่ทว่าทั้งกิริยาท่าทางช่างคล้ายภรรยาของเขายิ่งนัก"เอ่อ ...ไม่ทราบว่าลูกค้ายังต้องการจะซื้อซาลาเปาอยู่มั้ยคะ? " เหม่ยหลิงเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าไม่พูดอันใดเอาแต่จ้องหน้าเธอ"เอา
บทที่ 16 ทำความรู้จักลูกค้าที่กำลังยืนต่อคิวรอซื้อซาลาเปาเริ่มหันมองหน้ากันไปมา เพราะคำพูดของฟางเซียน หากเธอมาเพียงต่อว่าเหม่ยหลิงคงจะไม่โต้ตอบแต่ทว่าตอนนี้ทั้งแม่สามีเก่าและภรรยาใหม่ของเหวินเทียนกำลังใส่ความทำให้ร้านของเธอเสียหาย ลูกค้าเริ่มเป็นกังวลหากเธอไม่โต้ตอบทั้งสองคงได้ใจไม่หยุดเพียงเท่านี้"อะไรที่มากเกินไป ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทั้งนั้น ""ความจริงที่ว่าฉันถูกแม่สามีเก่ากับพี่สาวของสามีรุมรังแกทำร้ายจนฉันแท้งลูกนะหรือ? มิหนำซ้ำขนาดมีฉันเป็นลูกสะใภ้อยู่ทั้งคนยังจะหาเมียน้อยให้สามีของฉันช่างเป็นแม่สามีที่ดีจริง ๆ เธอเองก็เช่นกันนะระวังตัวไว้เถิดขนาดฉันยังถูกกระทำแบบนี้เมื่อไหร่ที่เธอหมดความสำคัญต่อตระกูลนี้เธอเองก็ไม่ต่างจากฉันนักหรอก ""หุบปากสกปรกของเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ! ใครกันที่จะทำอย่างนั้นนี่ซิงเยียนไม่ต้องไปฟังเธอพูดนะ อีกอย่างลูกสะใภ้ฉันคนนี้ดีกว่าเธอเป็นไหน ๆ อีกไม่นานคงจะท้องมีหลานคนแรกให้ฉัน ไม่มีทางที่ฉันจะรังแกลูกสะใภ้ของฉันคนนี้แน่นอน ""งั้นก็เชิญออกไปจากหน้าร้านของฉันได้แล้ว หากยังมาคอยสอดเสือกพูดเรื่องที่ไม่เข้าท่าทำให้ร้านของฉันเสียชื่อเสียงฉันจะไม่ไว้หน้าอีกต
บทที่ 17 ทำลายชื่อเสียงหลังจากทั้งสามกินอาหารเสร็จเหม่ยหลิงได้เดินมาส่งอี้หานที่หน้าบ้าน“เดินทางกลับดี ๆ นะคะ”“ครับคุณเองก็เข้าบ้านไปพักเถอะ ได้ยินคุณพูดกับเวยอันว่าจะทำไส้ซาลาเปาต่อคงจะเหนื่อยน่าดูนับถือความขยันของคุณยิ่งนัก”“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่อยากกลับไปอดอยากและอยากให้เวยอันได้เรียนทำเพียงเท่านี้ไม่ได้ทำให้เหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่นัก วันพรุ่งนี้ฉันจะไม่ลืมเก็บซาลาเปาไว้ให้นะคะ”“ครับ งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนเข้าไปในบ้านเถอะครับตอนนี้มืดค่ำแล้วเดี๋ยวจะเกิดอันตรายยิ่งมีแต่ผู้หญิงและเด็กด้วย”“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ คุณไม่ต้องห่วง” เธอโบกมือลาเขายืนมองจนเขาลับสายตาเหม่ยหลิงจึงเดินเข้ามาปิดประตูบ้านเข้ามาด้านในเพื่อทำไส้ซาลาเปาต่อ ส่วนเวยอันเธอให้น้องชายไปอาบน้ำทำการบ้านและพักผ่อนฝั่งด้านของฟางเซียนเธอกลับมาถึงบ้านให้ลูกสะใภ้ไปพักผ่อนเธอยังนึกโมโหเหม่ยหลิงไม่หายที่ทำให้เธอขายหน้าต่อหน้าทุกคนรวมถึงลูกสะใภ้อย่างซิงเยียนโชคดีที่ซิงเยียนโง่เขลาเธอพูดเพียงไม่กี่คำก็เข้าใจง่าย คืนนี้เธอนอนไม่หลับคิดหาหนทางจัดการกับเหม่ยหลิงให้ได้ ลู่หลินออกมาจากห้องนอนตัวเองเพื่อหาน้ำกินเห็นคุณแม่ย
บทที่ 18 พิสูจน์ทุกคนเดินเข้ามาดูเปรียบเทียบซาลาเปาทั้งสองก้อนแตกต่างกันจริงๆ เหม่ยหลิงจ้องมองไปยังคนที่เข้ามาหาเรื่องเธอ แต่ละคนเริ่มมีความกระวนกระวายมองหน้ากันไปมา ทำให้เหม่ยหลิงมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังหวังทำลายชื่อเสียงร้านของเธอเพราะคนพวกนี้เธอไม่เคยเห็นหน้าสักครั้งเลยด้วยซ้ำ"เอ๊ะ! ต่างกันจริง ๆ ด้วยอย่างนั้นพวกพี่ชายพี่สาวยังจะว่าเป็นซาลาเปาร้านนี้อยู่อีกหรือ? อย่างนี้ไม่เท่ากับว่ามาสร้างความวุ่นวายเสียหายให้ร้านนี้หรอกหรือ หากพวกพี่ ๆ บริสุทธิ์ใจบอกมาสิว่าซื้อมาจากไหน เพราะอย่างไรก็ไม่ใช่ที่นี่อยู่ดี" อี้หานได้พูดขึ้น"นั่นสิ! หรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกคุณตั้งใจมาทำลายชื่อเสียงร้านฉันอย่างนี้ฉันแจ้งความได้ใช่มั้ยนะ... แล้วอย่างนี้ใครกันที่จะต้องเป็นคนที่จะรับจ่ายค่าเสียหาย หื้ม! หากนับจำนวนคนห้าคนค่าที่ทำให้ร้านเสียหายต้องจ่ายค่าปรับเท่าไหร่กันนะ จะเรียกร้องค่าซาลาเปาสามวันดีมั้ยนะ" เหม่ยหลิงทำท่าทางนับนิ้วมือจนกระทั่งหนึ่งในนั้นรีบรับสารภาพทันที"อย่าแจ้งความเลยนะฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับหรอก ฉันยอมแล้วฉันรับเงินมาจากผู้หญิงคนหนึ่งแถมเธอยังให้ซาลาเปามาด้ว
บทที่ 19 ขายดีกว่าเดิมเหวินเทียนแต่งตัวเต็มยศวันนี้เขาต้องออกเดินทางไปออกงานกับนายอำเภอ เมื่อออกมาจากห้องตัวเองลูกน้องของเขายืนรออยู่หน้าประตูได้แจ้งกับเขาว่าตอนนี้มีแขกรอเขาอยู่ที่ห้องต้อนรับ“ท่านนายพลตอนนี้แขกมาขอพบท่านครับ”“แขกหรือ? ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันไม่เคยเห็นใครมาหาที่บ้านเลยหากจะพบต้องไปที่กองทัพสิ”“เอ่อ..แขกคนนี้เป็นผู้หญิงครับ” เมื่อได้ยินว่าเป็นผู้หญิงคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใดก็มีผู้หญิงเข้ามาคอยป้วนเปี้ยนข้างกาย“ต่อจากนี้หากไม่ใช่คนที่มาติดต่อราชการไม่ต้องต้อนรับและปฏิเสธการขอเข้าพบเข้าใจหรือไม่”“ครับ” อี้หานเดินไปที่ห้องต้อนรับสองเท้าก้าวเข้าไปเหลียวมองหญิงสาวที่นั่งรอเขาอยู่ที่เก้าอี้พร้อมเอ่ยทักทายอย่างเป็นมารยาท“สวัสดีครับคุณผู้หญิงไม่ทราบว่ามาหาผมมีธุระอะไรครับ” ลู่หลินยืนขึ้น อย่างรีบร้อนใบหน้าคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นใบหน้าของท่านนายพลที่แต่งกายด้วยชุดประจำตำแหน่งเต็มยศยิ่งทำให้เขาสง่างามมากกกว่าเดิม แววตาของเธอเป็นประกายแวววาว“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อว่าลู่หลินได้ยินมาว่ามีท่านนายพลมาประจำการใหม่เลยเข้ามาทักทายไม่ได้
บทที่ 20 สามีเก่ามาก่อกวนเหม่ยหลิงเดินมาเปิดประตูเห็นว่าเขาเคยเป็นสามีเก่าและไม่มีพิษมีภัยอะไรหากเปรียบเทียบสามคนในบ้านตระกูลเหวินเขาคือคนที่ดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อเธอเปิดประตูเห็นใบหน้าของเขาพร้อมกลิ่นเหล้าที่ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว เธอใช้มือปิดจมูกก่อนจะเอ่ยถามเขามาหาเธอมีเรื่องอะไร“พี่เหวินเทียนทำไมพี่ถึงดื่มเหล้ามากขนาดนี้กัน แล้วมาที่นี่มีเรื่องอะไรจะพูดกับฉันหรือ? ” เขาเห็นใบหน้าของเหม่ยหลิงเดินเข้ามาใกล้พร้อมดึงร่างบางเข้ามาโอบกอดไว้แน่น“พี่คิดถึงเธอเหลือเกินเหม่ยหลิง คิดถึงจนแทบบ้า” เหม่ยหลิงตกใจไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมเข้ามากอดเธอแบบนี้ใบหน้าของเหม่ยหลิงซีดเผือก รีบผลักเขาออกร่างกายของเธอ“ปล่อยนะ! อย่ามาทำแบบนี้กับฉัน เราหย่ากันแล้วพี่ไม่มีสิทธิ์มากอดฉันแบบนี้ ออกไปนะ” เหวินเทียนไม่สนใจคำพูดของเหม่ยหลิงด้วยซ้ำเพราะฤทธิ์เหล้าที่อยู่ในร่างกาย ทำให้เขาโมโหและโกรธในตัวของเหม่ยหลิง เขาตะคอกออกมาเสียงดังแววตาจ้องเขม็ง“เพราะพี่ไม่ใช่ไอ้หนุ่มคนนั้นใช่มั้ย? เธอถึงได้ผลักไสพี่ไม่ให้เข้าใกล้ เหม่ยหลิงเธอรู้มั้ยพี่เจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องหย่าให้เธอยอมให้เธอเดินออกจากชีวิตพี่มา เธอเห็นใจพี่สัก
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 32 พี่ชอบพี่สาวฉันจริง ๆ ใช่มั้ยเขาค่อย ๆ ทายาให้เหม่ยหลิงอย่างเบามือเธอจ้องมองความอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขาเป็นคนเดียวเมื่อไหร่ที่เธอพบเจอกับเรื่องอันตรายจะเข้ามาช่วยไว้ได้เสมอ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้างหัวใจของเธออบอุ่นทุกครั้ง ความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดได้หายไป"ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย หากไม่มีคุณฉันคงไม่รู้จะทำอย่างไรเลย ""ไม่เห็นจะต้องขอบคุณหลายครั้งเลย คงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตมาให้เราได้พบเจอกัน ตอนนี้รู้สึกดีแล้วใช่มั้ยฉันขอออกไปคุยกับลูกน้องสักครู่นะ" เหม่ยหลิงพยักหน้าให้อี้หาน เขาเดินออกมาด้านนอกสั่งการให้ลูกน้องไปสืบประวัติสามีเก่าของเหม่ยหลิงรวมถึงซิงเยียนที่เป็นคนสั่งการให้คนมาทำร้ายเหม่ยหลิงอีกด้วย เมื่อสั่งการเสร็จเขาได้เดินเข้ามาหาเหม่ยหลิงด้านในเห็นเธอกำลังเก็บของที่หล่นลงบนพื้นที่ซื้อมาจากตลาดอย่างทุลักทุเลจึงนั่งลงช่วยเธอเก็บของ"มาให้ฉันช่วย ซื้อของมาเยอะขนาดนี้จะขายซาลาเปาพรุ่งนี้ใช่มั้ย? แขนเจ็บแบบนี้คงนวดแป้งไม่ได้แน่ ๆ ว่าแต่ของนี่คืออะไร"เขาเก็บของหันไปเห็นของมีค่าคล้ายซื้อไว้เก็บสะสมนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ"อ้อ...
บทที่ 31 เป็นเขาอีกแล้วที่ช่วยเหลือเมื่อมาถึงหน้าประตูเหม่ยหลิงวางของไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดโดยมีชายคนนั้นคอยเดินตามหลังติด ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตูเหม่ยหลิงคว้าไม้ถูพื้นฟาดใส่หัวของชายคนนั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทำให้เขาโมโหผลักกายของเหม่ยหลิงจนล้มกับพื้น"โอ๊ย!!! นี่เธอกล้าลงมือกับฉันอย่างไม่หวาดกลัวเลยอย่างนั้นหรือตอนแรกตั้งใจแค่มาข่มขู่แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต้องทำให้เธอเจ็บกว่าฉัน""อึก! ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำฉันแบบนี้อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เหม่ยหลิงเจ็บแขนเพราะถูกผลักจนล้มถลาลงทับแขนตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นแววตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาอาฆาตจนเหม่ยหลิงคิดว่าหากเธอสู้ไม่ไหวหรือไม่มีใครช่วยเธอได้วันนี้เธอคงได้ตายอีกครั้งแน่ ๆ คนเดียวที่เธอคิดถึงกลับเป็นอี้หาน เฝ้าภาวนาในใจให้เขามาช่วยเธอ"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันแต่เป็นคุณหนูของฉันต่างหากที่เธอไปก่อกวนให้รำคาญใจ ไม่พูดมากมานี่ซ่ะดี ๆ ฉันจะจัดการให้เธอเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เอง" เขาขึ้นคร่อมร่างของเหม่ยหลิงก่อนที่จะยกมือที่ถือมีดขึ้นเพื่อแทงเข้าที่หน้าอกของเธอ เหม่ยหลิงหัวใจเต้นร
บทที่ 30 ถูกฉุดฝั่งด้านของลู่หลินเธอครุ่นคิดทั้งคืนจนใบหน้าเคร่งเครียดเพราะนอนไม่หลับอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ฟางเซียนยกข้าวมาให้ลูกได้กินอดที่จะสอบถามไม่ได้“วันนี้อารมณ์ไม่ดีอย่างนั้นหรือ? เกิดอะไรขึ้นอีก”“มีเรื่องชวนให้คิดนิดหน่อยค่ะ คุณแม่หากว่าผู้หญิงกับผู้ชายไม่รู้จักกันหรือไม่สนิทสนมกันเมื่อเห็นอีกฝ่ายเจ็บไข้จะเข้าไปช่วยเหลือมั้ย?”“ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ”“เมื่อวานนะสิคะฉันไปหาท่านนายพลที่บ้านไม่พบระหว่างทางที่จะเดินไปโรงงานเห็นนายพลพานางเหม่ยหลิงแนบชิดนั่งรถยนต์ไปหาหมอ”“นางเหม่ยหลิงนะหรือ? ทำไมรู้จักกับนายพลได้ไม่มีทางต่อให้รู้จักกันยังไงหากไม่ได้รู้สึกพิษสวาทคงไม่ให้เข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัว หรือว่านางเหม่ยหลิงคิดจะอ่อยนายพลให้สนตัวเองแสร้งเป็นไข้ให้ได้แนบชิดหรือ? ไม่ได้การเรื่องนี้แม่ไม่ยอมให้มันมาแย่งนายพลจากลูกเด็ดขาด ไปกันเถอะแม่จะไปจัดการกับเหม่ยหลิงเอง” ฟางเซียนโมโหเลือดขึ้นหน้าลุกขึ้นดึงมือของลู่หลินให้เดินตามตนเองไปที่บ้านของเหม่ยหลิงอย่างเร่งรีบเหวินเทียนเดินมาได้ยินบทสนธนาเมื่อครู่ทำให้เขาเกิดอาการหึงหวงไม่อยากให้เหม่ยหลิงได้ใกล้ชิดคนอื่น ก่อนที่เขาจะเอะใจ
บทที่ 29 นอนด้วยกันมั้ยคะอี้หานเปิดผ้าม่านเดินเข้าไปด้านในเห็นเหม่ยหลิงนอนหลับอยู่บนเตียงใบหน้าที่ซีดขาวเริ่มกลับมามีเลือดฝาดแถมตอนนี้ดูเหมือนร่างกายของเธอขับเหงื่อออกมามากกว่าเมื่อครู่ด้วยซ้ำคงเป็นฤทธิ์ยา"คนอะไรไม่รักตัวเองเลย ห่วงคนอื่นจนตัวเองไม่สบายอย่างนี้ใครจะดูแลเธอจะให้เวยอันคอยดูแลคนเดียวคงไม่ได้แน่ ๆ "อี้หานจ้องมองพลางคิดในใจหลังจากนั้นพยาบาลได้นำยาพร้อมค่ารักษามาให้แก่นายพลเขาไม่รอช้าจะจัดการในส่วนนี้ให้ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเขาได้อุ้มเธอไปที่รถเดินทางกลับบ้านตระะกูลฟ่งเมื่อมาถึงบ้านของเหม่ยหลิงเวยอันรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้อี้หานก็ถึงเวลาเลิกงาน จงสั่งการให้ลูกน้องกลับไปพักผ่อนส่วนเขาจะคอยอยู่ที่นี่จนกว่าเหม่ยหลิงจะฟื้น"พี่เหม่ยหลิงเป็นอย่างไรบ้างครับ หมอบอกว่าพี่สาวของผมเป็นอะไรกัน""เหม่ยหลิงเป็นไข้หวัดที่เธอยังไม่รู้สึกตัวเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอน่าจะเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่แสดงออกให้ใครรู้ จนร่างกายทุรดตัวทำให้เป็นหนักกว่าทุกครั้ง เวยอันฉันจะพาเหม่ยหลิงไปนอนที่ห้องเธอยังไม่ได้กินข้าวใช่มั้ย อย่างนั้นฉันพาเหม่ยหลิงเข้าพักแล้วจะออกมาทำอาหารให้นะ""ขอบคุณพี่อี้หานอ
บทที่ 28 จับไข้ปัง ปัง!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงที่เรียกด้านนอกอย่างเสียงดัง"เหม่ยหลิง เหม่ยหลิงเธออยู่ข้างในหรือไม่?" เวยอันที่เช็ดตัวให้พี่สาวได้ยินเสียงที่คุ้นเคยรีบวางผ้าลงเดินไปเปิดประตูให้อี้หานทันที"พี่อี้หานเดี๋ยวฉันจะเปิดประตูให้นะ" อี้หานได้ยินเสียงเวยอันจึงขยับกายออกมาไกลจากประตู"เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงยังไม่เปิดร้านขายซาลาเปา หรือว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น""พี่อี้หานตอนนี้พี่เหม่ยหลิงจับไข้นอนหนาวสั่นอยู่ที่ห้องฉันเอายาให้กินเช็ดตัวให้แต่ดูเหมือนไข้จะไม่ลดเลย ฉันจะพาพี่ไปหาหมอก็ไม่สามารถพาไปได้โชคดีเหลือเกินที่พี่อี้หานมาตอนนี้พอดี" เด็กชายใบหน้ามีหวังขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าของอี้หาน เหม่ยหลิงจับไข้จนไม่ได้สติทำอย่างไรก็ไม่รู้สึกตัวสักที เมื่ออี้หานได้ยินรีบให้เวยอันพาไปที่ห้องนอนของเธอทันที"ห้องเหม่ยหลิงอยู่ตรงไหนรีบพาฉันไปหาเธอเดี๋ยวนี้ ""ด้านนี้ครับ "เวยอันรีบเดินไปหน้าห้องเปิดประตูให้เขาเข้าไป ร่างบางนอนสั่นเทาอยู่ใต้ผ้าห่มเหงื่อไหลออกตามรูขุมขนเมื่ออี้หานใช้มือแตะที่หน้าผากพบว่าร่างกายของเธอร้อนราวกับไฟ จึงรีบอุ้มร่างเล็กไปขึ้นรถพาเธอไปหาหมอที่โรงพยาบาล"เวยอันไม่