บทนำ รักแรก
บนดอยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย กลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยได้รวมตัวกันจัดตั้งค่ายอาสาเพื่อน้อง ตระเวนไปยังดอยต่าง ๆ ที่ขาดแคลนสิ่งของ เพื่อสร้างห้องสมุด และบริจาคอุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นทุกอย่าง
หลังจากเปิดรับบริจาค ในทุก ๆ หกเดือน อย่างเช่นวันนี้...
‘พิมพ์พธู’ วัยสิบเก้า เธอกำลังช่วยทาสีชั้นวางของ เธอเพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งได้ไม่นานก็เลือกเข้าชมรมอาสา จนมีโอกาสได้มาออกค่ายหลังจากเปิดเทอมได้เพียงเดือนเดียว
ตุ้บ!
“โอ๊ย! ฮึก...ฮือ” เด็กชายวัยประถมต้นคนหนึ่ง วิ่งหกล้มต่อหน้าต่อตา เสียงร้องของเขาทำให้หญิงสาวรีบวางแปรงทาสีลง แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรมากมั้ยจ๊ะ”
“เป็นอะไรมั้ยครับ?”
รุ่นพี่คนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์เหมือนกัน ก็รีบปรี่เข้ามาดูด้วย ทั้งคู่ย่อตัวลงช่วยกันประคองเด็กชายขึ้นพร้อมกัน ทำให้มือของเขาแตะทับบนมือของหญิงสาว
กลายเป็นว่าทั้งสองคนจับมือกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
“โอมเพี้ยง ความเจ็บปวดจงหายไป”
พิมพ์พธู ห่อปากเป่าลมลงบนแผลถลอก ตรงหัวเข่าให้เด็กชายที่ยังสะอึกสะอื้นไม่หยุด การกระทำแสนอ่อนหวานของเธอเรียกรอยยิ้มและสายตาเอ็นดูจากรุ่นพี่คนนั้นได้ในทันที
‘สหรัฐ’ วัยยี่สิบเอ็ด มองหญิงสาวตรงหน้าไม่ละสายตา ขณะที่เธอพยายามพูดคุยจนกระทั่งเด็กหยุดร้อง ก่อนที่แม่ของเด็กชายจะมาอุ้มออกไป
เมื่อเหลือกันเพียงสองคน...
“สวัสดีครับ พี่ชื่อสหรัฐนะ เรียกพี่รัฐก็ได้ พี่อยู่ปีสาม แล้วน้องล่ะ?”
“พิมพ์ชื่อพิมพ์ค่ะ พิมพ์พธู อยู่ปีหนึ่งค่ะ”
เธอแนะนำตัว เมื่อครู่มัวแต่สนใจเด็กชาย จนไม่ทันได้สังเกตใบหน้าของสหรัฐให้ดี พอได้มาเห็นจังๆ แบบนี้แล้ว..เขาก็หน้าตาดีไม่น้อยเลย
“ชื่อแปลกจัง แปลว่าอะไรเหรอ”
“พิมพ์ก็คือพิมพ์ค่ะ ไม่มีความหมายอะไร พ่อบอกว่าแม่ชื่อพิมพิลาไลย ก็เลยอยากให้พิมพ์มีชื่อตัวหน้าเหมือนแม่เลยเอามาตั้งให้ ส่วนพธู...แปลว่าเจ้าสาวหรือภรรยาค่ะ”
พิมพ์พธูอธิบายให้ชายหนุ่มรุ่นพี่ฟัง ความหมายของชื่อคงเป็น... ‘พิมพ์ เจ้าสาวหรือภรรยาของใครสักคน’ ล่ะมั้ง
บางทีบิดามารดาอาจอยากให้เธอได้เป็นเจ้าสาวของผู้ชายแสนดีสักคนบนโลกก็ได้
“ลึกซึ้งดีนะ ชื่อพี่สิ เป็นคนไทยแท้ๆ พ่อตั้งสหรัฐซะงั้น ความหมายคงเป็นเรื่องทางเศรษฐกิจแน่ๆ”
“รุ่นพี่ล่ะก็...” คนตัวเล็กหัวเราะออกมาอย่างขำขัน ในมุกตลกของชายหนุ่ม รอยยิ้มหวานแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าสวย สะกดสายตาคนมองให้ตกอยู่ในภวังค์
“แล้วพิมพ์กำลังทำอะไรอยู่เหรอ”
“อ๋อ พิมพ์กำลังทาสีชั้นวางของค่ะ”
เธอชี้ไปยังชั้นที่ทาสีค้างเอาไว้ ร่างสูงตรงไปทางนั้นแล้วหยิบแปรงมาจุ่มสีช่วยอีกฝ่าย พิมพ์พธูตามมานั่งลงข้างๆ เขา
“จุ่มสีแบบนั้นเดือนหน้าก็ไม่เสร็จหรอก ทำแบบนี้ไปเลยจะได้ไวขึ้น ปาดขึ้นปาดลงอย่างนี้”
“รุ่นพี่ทำแล้วดูง่ายจังเลยนะคะ”
ทำไมตอนเธอทำมันถึงยากนักนะ ฝึกระบายสีไม่ให้ออกนอกกรอบตอนอนุบาลยังง่ายกว่าเยอะเลย
“ลองดูมั้ย?”
“ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าพร้อมรับแปรงทาสีต่อจากเขา คนตัวสูงกว่าเขยิบเข้ามาใกล้ก่อนจะจับมือหญิงสาวข้างที่ถือแปรงเอาไว้อีกทอดแล้วพาไปจุ่มสี ต่อด้วยบรรจงปาดลงไปตรงที่ว่างของชั้นวางของ
พิมพ์พธูแอบยิ้มกับตนเอง มองมือที่ถูกเขาจับเอาไว้ด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าในชมรมของเรา จะมีรุ่นพี่แสนอบอุ่นอย่างสหรัฐอยู่ด้วย
ใจเจ้ากรรม..ทำไมเต้นโครมครามแบบนี้..
“เก่งมาก หัวไวเหมือนกันนะ”
ไม่พูดเปล่า เขายังยกมือขึ้นลูบหัวหญิงสาวประกอบคำชมอีกด้วย นอกจากบิดาแล้ว ก็เพิ่งจะมีเขาคนนี้นี่แหละที่อ่อนโยนต่อเธอ...
“งั้นพิมพ์ทาต่อเลยนะคะ”
“เอาสิ พี่จะคอยดูเอง”
สหรัฐทำตามที่พูด เขานั่งมองเธอทาสีไปด้วย ชวนคุยเพื่อทำความรู้จักไปด้วย จนทั้งสองคนเริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้น เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นของพิมพ์พธู บ่งบอกได้ว่าเขาทำให้หญิงสาวมีความสุขได้มากกว่าปกติจริงๆ
และสำหรับเขาเธอเหมือนแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เริ่มต้นจากความประทับใจตั้งแต่แรกพบ ไปสู่การตกหลุมรักเมื่อได้เรียนรู้ว่าอีกฝ่ายมีเสน่ห์ตรงใจแค่ไหน การเปิดโอกาสให้หัวใจถูกเติมเต็มจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ และเขา...ก็ไม่ลังเลที่จะสานต่อ
‘เป็นแฟนกับพี่นะครับ’
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น... คู่รักคู่ใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
บทที่ 1 เราเลิกกันเถอะ‘เราเลิกกันเถอะค่ะ’ เสียงหวานใสของ ‘พิมพ์พธู’ วัยยี่สิบปีเอ่ยกับแฟนหนุ่มที่คบหากันตั้งแต่สมัยเธอยังเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง และเขาเป็นรุ่นพี่ปีสามที่ตกหลุมรักใบหน้าหวานนี้ตั้งแต่แรกพบคอยดูแล เทคแคร์และเอาอกเอาใจ จนพิมพ์พธูใจอ่อนยอมคบด้วย ทว่าคบกันได้เพียงแค่ปีกว่า ๆ เรื่องในวันนี้ก็เกิดขึ้นแบบไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนใด ๆ จากเธอ‘พี่ขอถามเหตุผลได้มั้ย’เสียงทุ้มสั่นเครือเจือความเจ็บปวดผ่านดวงตาทั้งสองข้าง ‘สหรัฐ’ ทอดมองอีกฝ่ายด้วยมีคำถามในหัวอยู่เต็มไปหมดเขาทำอะไรผิด ?เธอหมดรักเขาแล้วหรือ ?คนตัวเล็กไม่ตอบกลับในทันที เธอหลับตาลงนิ่ง พยายามไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ทั้งนั้น รอยยิ้มสดใสของพิมพ์พธูที่เขาเคยชอบในเวลานี้ไม่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้านั้นอีกแล้ว เหลือเพียงความเฉยชาราวกับคนแปลกหน้าต่อกันเท่านั้นที่สหรัฐรับรู้ได้‘พิมพ์แค่เบื่อพี่รัฐค่ะ ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอคะ’‘แต่ที่ผ่านมาเราก็รักกันดีมาโดยตลอด แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาบอกว่าเบื่อพี่ล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่พิมพ์ เล่าให้พี่ฟังไม่ได้เหรอ’เขาคว้ามือเธอมาจับเอาไว้ ถามอย่างเว้าวอนด้วยต้องการคำอธิบายที่มากกว่าการขอเลิกสั้น ๆ โดยให้
บทที่ 2 กดให้ลึกสุดใจเมื่อมาถึงฝั่งได้ชายหนุ่มหน้าตาขึงขัง ก็แทบจะทุ่มเรือทิ้งอย่างเร่งรีบ ทะนงรีบเดินนำไปยังที่ดินผืนนั้น ตามรูปที่เจ้านายของตนหยิบเอามาด้วย มันเป็นเพียงที่ดินผืนเล็ก ๆ แต่เพราะมันอยู่ติดกันกับที่ดินผืนใหญ่ที่เขาต้องการ เลยคิดว่ามันควรแก่การที่เขาจะซื้อเอาไว้ด้วย ใบหน้าถมึงทึงจ้องมองไปข้างหน้าขณะกำลังสาวเท้ายาว ๆ ของตนตามลูกน้องไป“นายหัวบอกได้มั้ยครับว่ามีเรื่องอะไร ทำไมถึงอยากมาหาเจ้าของที่ดินผืนนี้หรือครับ”“แค่คนเคยรู้จัก บอกมาว่าไปต่อทางไหน ฉันจะไปเองคนเดียว ส่วนนายไปตามสืบเรื่องที่ดินผืนนี้ว่ามีคนอื่นนอกจากเราสนใจจะซื้อบ้างหรือเปล่า ถ้ามีก็หาราคามาให้ได้แล้วโทรบอกฉันทันที”เขาออกคำสั่งน้ำเสียงเด็ดขาด แม้จะไม่รู้เหตุผล แต่ในฐานะลูกน้อง ทะนงมีแต่ต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น“เดี๋ยวนายหัวเดินไปจนสุดทางนะครับ จากนั้นเลี้ยวซ้ายจะเจอที่ดินที่เราต้องการ ส่วนที่ดินตรงที่นายหัวจะไปก็อยู่ติดกันเลยครับ”“โอเค นายไปได้แล้ว”ทะนงแยกตัวไปอีกทาง สหรัฐจึงไปต่อคนเดียวตามเส้นทางที่อีกฝ่ายบอก มือใหญ่กำรูปภาพที่คว้ามาด้วยแน่น ในอกร้อนรุ่มราวกับว่าบาดแผลและความเจ็บปวดในวันนั้นถาโถมกลับเ
บทที่ 3 ข้อเสนอ“แกเป็นใครวะ”หัวหน้าของพวกอันธพาลถามพลางหรี่ตามองสหรัฐอย่างพินิจพิจารณา ร่างสูงไม่ตอบอะไรแต่เดินเข้ามาพร้อมยื่นนามบัตรของตนให้“ไปที่เกาะมุกดา แล้วฉันจะจ่ายเงินสิบล้านนี้ให้แกเอง”“คะ...คุณเป็นใครครับ”เสียงแหบพร่าตามประสาคนสูงวัยเอ่ยถาม ‘พศิน’ บิดาของพิมพ์พธูจ้องมองผู้มาเยือนรายใหม่ด้วยความฉงน ต่างจากหญิงสาวที่แน่นิ่งไปราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้วนี่กำลังฝันอยู่ใช่ไหม...“ผมคือคนที่จะมาซื้อที่ดินตรงนี้ทั้งหมด รวมถึงที่ดินของคุณครับ ยังไง...เราไปคุยกันที่เกาะมุกดาดีมั้ย ส่วนพวกคุณที่มาทวงเงิน จะไปด้วยกันเลยก็ได้นะ”“ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนด้วยนะครับ”พวกทวงหนี้มีท่าทีเปลี่ยนไปเมื่อเห็นนามบัตร เขาคือเจ้าของโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเกาะมุกดาและทะเลแถบนี้“นายหัวครับ เรือพร้อมแล้วครับ”ทะนงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตามเขา ก่อนจะพูดต่อเมื่อนับจำนวนคนที่จะขึ้นเรือกลับไปที่เกาะมุกดาด้วยสายตา“เอ่อ...แต่ถ้าผู้โดยสารจะเยอะขนาดนี้ เกรงว่าเรือจะไม่พอนั่งนะครับ”“เอาแบบนี้ พวกแกรอฉันอยู่ที่นี่ทั้งหมดนั่นแหละ เดี๋ยวฉันไปเอง”เสียงของหัวหน้าแก๊งทวงหนี้ เอ่ยบอกลูกน้อง“ครับลูกพี่”พวกลู
บทที่ 4 ขอแต่งงาน“คะ...คุณว่ายังไงนะคะ”พิมพ์พธูเอ่ยถามทันทีพลางมองเขาอย่างตกใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีแผนอะไรก็ตาม แต่เธอจะไม่ยอมให้เขาสมหวังแน่ ๆ“คิดว่าคุณคงไม่เคยรู้ แต่ผมกับพิมพ์...เราเคยคบกันสมัยเรียนมหาลัยครับ และผมยังรักเธออยู่ พอรู้ว่าเธอลำบากก็เลยอยากช่วยและฉวยโอกาสนี้ทำคะแนนให้เธอกลับมารักผมอีกครั้ง”สหรัฐปั้นหน้าเศร้าเมื่อพูดถึงเรื่องราวความหลังให้แก่ผู้เป็นพ่อของหญิงสาวฟัง และส่งสายตาเว้าวอนให้ชายสูงวัยตรงหน้ารับปากรับคำ“จริงเหรอครับ”ผู้เป็นพ่อตกใจไม่น้อยกับความจริงเรื่องนี้ แต่เมื่อไม่มีคำปฏิเสธจากบุตรสาวเขาจึงมั่นใจว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดนั้นจริงทุกประการ พศินครุ่นคิดอย่างหนักด้วยไม่ว่าจะมองมุมไหน สหรัฐก็ถือเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมและมีทุกอย่างให้พิมพ์พธูได้โดยที่หล่อนไม่ต้องทนกัดก้อนเกลือกิน อยู่อย่างลำบากเหมือนตอนอยู่กับพ่อแบบเขา“ลองคิดดูนะครับ ผมจะปลดหนี้ทั้งหมดและจะฝากงานให้คุณทำบนฝั่งด้วย ที่สำคัญ...พิมพ์จะปลอดภัยเมื่ออยู่กับผม ไม่มีนักเลงหรือพวกทวงหนี้ที่ไหนกล้ามาแตะต้องเธอแน่”“ไม่นะจ๊ะพ่อ หนูไม่เป็นไรเลย พ่ออย่านะ”หล่อนจับแขนบิดาแล้วอ้อนวอน เธอยอมลำบากแต่จะไม่ขอเลือ
บทที่ 5 เสแสร้งแกล้งทำพศินยิ้มคลี่กว้างอย่างสบายใจ เมื่อได้ยินคำตอบตกลงจากลูกสาว เขาหันไปมองหน้าชายหนุ่มที่แสดงออกชัดเจนว่าพึงพอใจในคำตอบไม่แพ้กันพิมพ์พธูต้องการรักษาชีวิตของบิดาเอาไว้จึงไม่มีทางเลือก เธอมั่นใจว่าเขารู้อยู่แล้ว…ว่าท้ายที่สุดเธอจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน“ดีแล้วล่ะลูกที่ตัดสินใจแบบนี้ ทั้งหมดก็เพื่อความสบายของตัวลูกเอง”บิดาเอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะของลูกสาว“ในเมื่อทุกอย่างลงตัวดีแล้วถ้าอย่างนั้น…ทะนงเอาเอกสารมา” “นี่ครับเจ้านาย”เลขาหนุ่มส่งเอกสารที่ตระเตรียมมาให้ ข้างในเป็นเอกสารซื้อขายที่ดินในราคาสิบล้านบาทพร้อมกับเช็คเงินสด “นอกจากสัญญาในการซื้อขายแล้ว ผมคงต้องขอทำสัญญาเพิ่มอีกหนึ่งฉบับนะครับ เป็นสัญญาที่ผมจะมั่นใจว่าหลังจ่ายเงินไปแล้วลูกสาวคุณจะไม่เบี้ยว”“ฉันไม่เบี้ยวหรอกค่ะ ฉันพูดคำไหนคำนั้น”หญิงสาวเอ่ยแทรกเมื่อเจอสายตาดูถูกราวกับว่าเธอเป็นพวกนักต้มตุ๋นที่จะมาหลอกเอาเงินแล้วก็เชิดหนีไปสหรัฐเหยียดยิ้มแล้วรับเอาโน้ตบุ๊คจากทะนงมา จากนั้นเขาก็จัดการพิมพ์สัญญาฉบับพิเศษลงไป ในสัญญาระบุชัดเจนว่าเธอจะต้องแต่งงานกับเขาโดยไม่มีข้อแม้ ทันทีที่ได้เงินสิบล้านบาทไป พ
บทที่ 6 รักมากเกลียดมาก“ปล่อยนะคะ ฉันเจ็บ!”ยิ่งบิดแขนออกมากเท่าไหร่ แรงบีบจากฝ่ามือของสหรัฐก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ความโกรธเกลียดที่ชายหนุ่มมีต่อเธอไม่เคยลดลงเลย มีแต่จะมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายมาอยู่ตรงหน้าแบบนี้รักมาก...ก็เกลียดมาก...และแค้นมาก...หลากหลายความรู้สึกตีกันจนยุ่งเหยิง เขาอยากทำให้เธอเจ็บเหมือนที่ครั้งหนึ่งพิมพ์พธูเคยยัดเยียดความทรมานเจียนตายนั้นให้กับเขา โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ทว่าเพียงแค่ได้สบตากัน...หัวใจแข็งกระด้างของชายหนุ่มแทบจะอ่อนยวบแล้วลืมสิ้นถึงสิ่งที่อีกฝ่ายเคยทำเอาไว้“เจ็บแค่นี้มันยังน้อยไป อย่ามาสำออย!”พลั่ก!เขาสะบัดเธอทิ้งจนคนตัวเล็กล้มถลาลงไปกองกับพื้นทราย พิมพ์พธูพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ด้วยคิดว่ามันคือสิ่งที่ต้องชดใช้ให้กับชายหนุ่ม ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเริ่มมาจากที่เธอทิ้งเขาไป แล้วจะเรียกร้องเอาอะไรได้ หากจะถูกเขาเกลียดชังมากขนาดนี้มันก็สมควรแล้ว“เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เถอะ พองานแต่งงานเสร็จสิ้นลง เธอจะไม่ต่างอะไรกับลูกนกในกำมือของฉัน จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด”“ค่ะ”หญิงสาวรับคำโดยไม่เงยหน้ามองเขา เธอรอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ทิ้งห่างออกไปจึงเริ่ม
บทที่ 7 ของเคย ๆ NCคนงานของโรงแรมถูกเกณฑ์ให้มารับจ๊อบพิเศษ ด้วยการช่วยเตรียมงานแต่งแบบเรียบง่ายที่บ้านของนายหัวผู้เป็นเจ้าของเกาะ มีซุ้มทำจากเปลือกหอยและปะการังสำหรับให้คู่บ่าวสาวเดินผ่านไปยังแท่นทำพิธีของคนบนเกาะ มันเป็นแท่นที่ทำขึ้นมาจากหินอ่อนและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ“ความเชื่อของคนบนเกาะมุกดาคือ…หากคู่แต่งงานเดินลอดซุ้มเปลือกหอยและปะการังพวกนี้ไปจนถึงบนแท่นทำพิธีแล้วจุมพิตกัน พวกเขาจะเป็นเนื้อคู่ตลอดไป”สหรัฐอธิบายให้หญิงสาวฟังเมื่อเห็นสีหน้าแสดงถึงความสงสัยของเธอขณะกำลังมองดูทุกคนพยายามลากแท่นหินอ่อนไปไว้ตรงปากทางออกของซุ้ม“โรแมนติกจังเลยนะคะ”เธอยิ้มฝันหวานเมื่อได้ยินเรื่องเล่าตำนานแบบนี้ ผู้หญิงทุกคนชอบเรื่องโรแมนติกอยู่แล้ว พิมพ์พธูก็เป็นอีกคนที่ต้องการเรื่องแบบนี้ในชีวิต“สำนึกเอาไว้ซะล่ะ ว่าคนระดับฉันกำลังจะทำเรื่องโรแมนติกขนาดนี้กับเธอ”“ค่ะ ฉันจะสำนึกเอาไว้”หน้าหวานที่เพิ่งปรือตาคลี่ยิ้มก็ต้องรีบหุบมันลงทันที เพ้อฝันอยู่ได้ไม่นานก็ถูกคำพูดเสียดสีของชายหนุ่มดับฝันอีกจนได้ เงียบปากสักสิบนาทีมันคงนานเกินไปสำหรับเขาสินะ“บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่คิดจะจดทะเบียนสมรส”“ฉันก็ไม่ได้
บทที่ 8 เรื่องน่าอายหมับ!มือใหญ่คว้าต้นแขนหล่อนเต็มแรง แล้วเหวี่ยงให้มาหลบอยู่หลังต้นไม้พร้อมดึงกางเกงขึ้นมาใส่ตามเดิม เขาจำต้องหยุดทุกอย่างเอาไว้ทั้งที่อารมณ์ยังค้างคาอยู่ ชายหนุ่มต้องรอให้มันสงบลงเสียก่อน จึงจะปรากฏตัวออกไปหาทะนงได้ เพราะขืนออกไปทั้งที่เจ้าลูกชายยังเคารพธงชาติชี้หน้าคนอื่นอยู่ละก็มีหวัง...“ให้ฉันออกไปรับหน้าก่อนมั้ยคะ”“ไม่ต้อง”เขาตอบกลับเสียงแข็งพลางมองเธอด้วยสายตาดุดัน พิมพ์พธูทำได้เพียงถอนหายใจแล้วหลุบตาลงต่ำ ยอมมองพื้นดินเสียยังจะดีกว่ามองหน้าคนพาลทะนงพาบิดาของเธอเดินมาทางนี้ หญิงสาวเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อจึงลืมตัวอ้าปากจะตะโกนเรียกออกไป แต่กลับถูกสหรัฐเอามืออุดปากไว้พร้อมกระชากเข้าไปกอดหลบทั้งสองคนแนบแน่น ใบหน้าเล็กซุกอยู่บนอกกว้าง ขณะที่ส่วนนั้นของหล่อนถูกกลางกายที่ยังไม่สงบของชายหนุ่มดุนดันแก้มขาวร้อนผ่าวเพราะสถานการณ์มันช่างล่อแหลมเหลือเกิน“นายหัวอาจพาคุณพิมพ์เข้าไปในหมู่บ้านก็ได้ครับ ยังไงเราลองไปดูในหมู่บ้านกันก่อนนะครับ”“ข้างในมีหมู่บ้านด้วยเหรอ”พศินและทะนงเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่หญิงสาวและชายหนุ่มหลบอยู่เพื่อไปทางหมู่บ้าน ทั้งคู่ทำตัวราวกับไกด์และนักท่
บทส่งท้ายสิบสองปีต่อมา"ลม ไปตามคลื่นกับทรายเข้ามากินข้าวได้แล้ว"เสียงหวานของพิมพ์พธูในวัยสี่สิบปีตะโกนเรียกลูกชายคนโต'สายลม' วัยสิบขวบที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเล่นหุ้นอยู่ในห้องรับแขกคนถูกเรียกหันมามองมารดาแต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาวางหนังสือในมือลง ก่อนจะลุกขึ้นยืน สายลมเดินไปเรียกน้องฝาแฝดทั้งสองคนตามที่ผู้เป็นแม่สั่ง"คลื่น ทราย คุณแม่เรียกให้มากินข้าวได้แล้ว หยุดเล่นน้ำแล้วขึ้นมาก่อนคุณแม่จะออกมาเรียกเอง"เสียงของเด็กสิบขวบที่ยืนอยู่บนหาดทรายขาว ตะโกนเรียกเด็กสองคนที่กำลังเล่นน้ำอยู่"กำลังสนุกอยู่เลยพี่ลม"คนพูดหน้างอง้ำ 'คลื่นน้ำ' วัยเก้าขวบเป็นแฝดชายของ 'ผืนทราย' ซึ่งเป็นแฝดหญิง ที่แม้จะหน้าตาไม่เหมือนกัน หากแต่ก็เป็นฝาแฝดที่เกิดไล่กันมา คลื่นน้ำเกิดมาก่อนผืนทรายสิบวินาทีเท่านั้น"ไปเถอะพี่คลื่น เดี๋ยวคุณแม่ก็โมโหหรอก"ผืนทรายตรงเข้าไปดึงมือพี่ชายที่ทำท่าจะไม่ขึ้นจากทะเล ทะนงซึ่งคอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลาเมื่อเห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งที่กำลังดื้อ จึงเดินเข้าไปอุ้มคุณหนูของตนตอนนี้เขาเปลี่ยนหน้าที่จากเลขาของสหรัฐ ไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูก ๆ ทั้งสามคนของนายหัวเรียบร้อยแล้วสายลมได
บทที่ 37 โงหัวไม่ขึ้น 🔥🔥ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ ช่วงเวลาของฤดูท่องเที่ยวมาถึง และสหรัฐต้องไปทำงานทุกวันจนแทบไม่มีเวลาว่าง เช่นเดียวกับหญิงสาวที่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลด้านของที่ระลึกอื่น ๆ เพิ่มเติม จนเธอต้องเกณฑ์ชาวบ้านหลายคนมาช่วยกันทำ ตอนนี้รายได้กระจายอย่างทั่วถึงให้กับคนบนเกาะพิมพ์พธูเห็นว่าลูกหลานของชาวบ้านในเกาะหลายคนการศึกษายังเข้าไม่ถึง เธอจึงปรึกษากับสหรัฐว่าอยากจะเปิดโรงเรียนเอกชนเล็ก ๆ บนเกาะแห่งนี้ และจ้างคุณครูจำนวนหนึ่งให้มาคอยสอนความรู้ให้กับเด็ก ๆ เหล่านั้น แน่นอนว่าเขาไม่มีทางขัดความต้องการของภรรยา จึงเตรียมให้ทะนงดำเนินการหารือกับทางอำเภอรวมถึงทุกคนบนเกาะ"หลับแล้วหรือครับ"ร่างสูงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินขึ้นมาบนเตียงแล้วกอดหญิงสาวจากด้านหลัง ก่อนจะพรมจูบไปตามเส้นผมอ่อนนุ่มของภรรยาอย่างรักใคร่"ยังค่ะ พิมพ์กำลังอ่านเรซูเม่ของคนที่ส่งใบสมัครอยากเป็นครูในโรงเรียนของเราอยู่ค่ะ""มีคนที่เข้าตาบ้างมั้ย"หล่อนพยักหน้ารับ หลังจากอ่านใบสมัครทั้งหมดมาแล้วก็เจอที่เข้าตาอยู่สองสามคน อาจจะต้องมีการเรียกมาสัมภาษณ์ดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พักหรืออาหารการกินต่าง ๆ ชายหนุ่มจะเป็
บทที่ 36 ยินดีต้อนรับกลับบ้านหมับ!“จับตัวคนร้ายได้แล้ว!”เจ้าหน้าที่ตำรวจที่แอบซุ่มอยู่กระโจนเข้ามาจับตัวเข็มจิราแล้วกดลงกับพื้นพร้อมกับแย่งปืนไป หากแต่หล่อนไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เอาแต่มองไปทางพิมพ์พธูที่ฟุบลงไปกับพื้นด้วยความสะใจก่อนจะหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ขอแค่ฆ่าเธอได้ก็พอแล้ว“พิมพ์! พิมพ์! เป็นอะไรมั้ย”“คุณรัฐ...”ทว่าชายหนุ่มกลับปรากฏตัวออกมา เขาวิ่งหน้าตั้งเข้าไปดูหญิงสาวด้วยท่าทางเป็นห่วง หากแต่พิมพ์พธูกลับลุกขึ้นมานั่งหน้าตาเฉย ทำเอาคนที่คิดว่าแผนการกำจัดศัตรูเป็นไปได้ด้วยดีอย่างเข็มจิราถึงกับช็อกตาตั้งเป็นไปได้อย่างไรกัน เธอยิงเข้าเต็ม ๆ ที่กลางลำตัวเลยไม่ใช่หรือ!“ไม่เป็นไรค่ะพี่รัฐ สบายมาก แต่แอบจุกนิดหน่อย”พิมพ์พธูตอบพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อที่สวมใส่อยู่ลง เผยให้เห็นเสื้อเกราะกันกระสุนที่ซ่อนอยู่ด้านใน“มะ...หมายความว่าพวกแก...”“เธอยังไม่ชินกับแผนล่อแม่เสือออกจากถ้ำของพวกเราอีกเหรอ พิมพ์รู้ว่าเป้าหมายอีกคนที่เธออยากจะกำจัดก็คือตัวพิมพ์ เลยยอมเอาตัวเองมาเป็นเป้าเพื่อล่อเธอออกมา แล้วพิมพ์ก็คิดถูก คนที่โดนความแค้นบังตาอย่างเธอมองไม่เห็นอะไรนอกจากเป้าหมายของตัวเองอยู่แ
บทที่ 35 เป้าหมายที่แท้จริงเมื่อเซ็นเอกสารทุกอย่างเพื่อขอนำตัวศพของบิดาไปทำพิธีเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินออกมาคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รออยู่ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่การยิงผิดตัวหรือการปล้นธรรมดาทั่วไปอย่างที่คิดในตอนแรก"นี่เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านที่คุณพ่อคุณอาศัยอยู่ครับ ในกล้องจับภาพคนคนหนึ่งไว้ได้ พวกเราเลยมั่นใจว่าไม่ใช่การปล้นหรือว่ายิงผิดตัว"ตำรวจส่งแท็บเล็ตที่บันทึกสำเนาคลิปวิดีโอให้หญิงสาวและสหรัฐดู แม้จะยังไม่ซูมเข้าไป แต่ทั้งสองคนก็จำได้ดีว่าผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในคลิปนั้นคือใคร"เข็มจิรา!""เข็มจิรา!"ทั้งคู่เอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน ในคลิปแม้เธอจะพยายามปกปิดใบหน้าด้วยการสวมหมวกแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีจังหวะที่พลาดทำให้ใบหน้าถูกตรวจจับเอาไว้ได้ พอได้มารู้ว่าคนที่ฆ่าพ่อของเธอคือผู้หญิงคนนั้น พิมพ์พธูก็ยิ่งสงสารและรู้สึกผิดต่อบิดา ที่ต้องมารับเคราะห์แทนจากความแค้นที่คนอื่นมีต่อตนเอง"จับตัวได้มั้ยครับ""ยังครับ แต่กำลังแกะรอยเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ทั่ว คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงหาตัวเจอครับ"สหรัฐเริ่มกังวล หล่อนไม่ได้แค่ตั้งใจจะฆ่าพ่อของเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้ยังลง
บทที่ 34 ไม่เหลือใครพิมพ์พธูและสหรัฐกลับมานอนค้างที่บ้านของสัญชัย โดยจ้างพยาบาลพิเศษกับส่งคนงานไปเฝ้าที่หน้าห้องถึงสามคน ส่วนบริเวณรอบ ๆ บ้านก็เต็มไปด้วยคนจากเกาะมุกดาที่มาคอยดูแลและเป็นเวรยามให้ตลอดทั้งคืนหญิงสาวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อเตรียมอาหารให้กับสามีก่อนจะออกไปโรงพยาบาลอย่างเช่นทุกวัน ทั้งคู่ทิ้งเกาะมานานมีเพียงสหรัฐที่กลับไปสะสางงานบ้างเป็นครั้งคราว และเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ก็จะถึงช่วงไฮซีซั่นที่แสนวุ่นวาย หล่อนได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เบาะแสของเข็มจิรา"อาหารเช้าให้แม่บ้านทำบ้างก็ได้ พิมพ์จะได้ไม่ต้องตื่นเช้าทุกวัน""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมพ์อยากเป็นคนทำอาหารให้พี่รัฐเองมากกว่า"เธอยิ้มกว้าง ไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อนอะไรเลย ทั้งที่คอยอยู่ข้าง ๆ เขาทช่วยจัดการหลาย ๆ สิ่งตั้งแต่เกิดเรื่องแท้ ๆ พิมพ์พธูตักข้าวต้มกุ้งของโปรดให้สหรัฐถ้วยหนึ่ง ก่อนจะตักให้ตัวเองแล้วเดินมานั่งลงที่ฝั่งตรงกันข้าม"จริงสิ เมื่อคืนพิมพ์ฝันแปลก ๆ ด้วยค่ะ พิมพ์ฝันว่าพ่อมาหา แต่ในฝันพ่อมากับแม่ด้วยนะคะ ทั้งสองคนยิ้มอย่างมีความสุข แล้วก็ขอให้พิมพ์มีความสุขด้วยล่ะค่ะ"เรื่
บทที่ 33 แผนซ้อนแผนเมื่อได้รู้ความจริงว่าที่ผ่านมาถูกหลอกให้ตายใจมาโดยตลอด เข็มจิราก็หันไปมองสหรัฐที่ลุกขึ้นมานั่งหลังจากปลอมตัวเป็นบิดานอนอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้เธอพยายามลงมือฆ่าอยู่นานสองนาน"คุณ..คุณหลอกฉัน""ฉันแค่กระตุ้นให้เธอลงมือเร็วขึ้น เพราะฉันทนหายใจร่วมกับผู้หญิงใจร้ายอย่างเธอต่อไปไม่ไหว เธอทำได้ไงเข็มจิรา พ่อฉันทั้งรักและดีกับเธอขนาดนี้ แต่เธอก็ยังคิดฆ่าท่านได้ลงคอ!"เขาตวาดเสียงสั่นดังลั่นด้วยความโกรธ ดวงตาแดงก่ำฉายความชิงชังที่มีต่อคนตรงหน้ามากเกินกว่าจะอดทนอดกลั้นไว้ได้"ถึงยังไงพ่อคุณก็ต้องตายอยู่แล้ว ฉันก็แค่ช่วยให้เขาตายเร็วขึ้น ฉันผิดด้วยเหรอ""ถ้าเธอหมายถึงเรื่องยาพิษละก็...มันถูกเปลี่ยนเป็นผงวิตามินตั้งแต่วันที่ฉันทำชามข้าวต้มแตกแล้วล่ะค่ะ"พิมพ์พธูโยนซองที่มีผงสีขาวไปตรงหน้าของหล่อน ในวันที่ชายหนุ่มล่อเธอออกไป หญิงสาวก็ไปค้นห้องของเข็มจิราจนเจอซองยาพิษ แล้วเอาผงวิตามินที่มีลักษณะคล้ายกันมาเปลี่ยนแทน เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้สัญชัยปลอดภัยระหว่างต้องหาหลักฐานเพิ่มคนถูกตลบหลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ยิ่งมารู้ว่าทุกคำพูดทุกการกระทำที่สหรัฐเคยทำกับหล่อนก่อนหน้านี้ เป
บทที่ 32 เจ้าแผนการ"เราต้องมีหลักฐานมากกว่านี้ แค่นี้คงเอาผิดอะไรไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดพี่จะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอทำอะไรกับคุณพ่อ ทำไมจู่ ๆ คุณพ่อถึงกลายเป็นแบบนี้""แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ เธอคงไม่พูดออกมาง่าย ๆ หรอก นอกซะจากเธอจะหลุดเผยไต๋ออกมาหรือไม่ก็ต้องมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอตอนเธอทำผิดชัดเจนมากกว่านี้ จะทำแบบนั้นได้ก็คงต้องติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านเท่านั้นล่ะค่ะ"แต่ถ้าจะติดกล้องวงจรปิดอีกฝ่ายคงไม่ยอมแน่ หรือถึงจะยอมก็คงจะต้องหาทางหลบเลี่ยงกล้องไม่ให้ตัวเองถูกจับภาพเอาไว้ได้อย่างแน่นอน"งั้นเราก็ต้องติดกล้องวงจรปิดโดยไม่ให้เข็มจิรารู้ตัว""จะทำได้ยังไงคะ เธออยู่บ้านตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เฝ้าคุณพ่อแทบจะตลอดเวลา ไม่ยอมออกไปไหนเลย"ทั้งสองคนเงียบไป รู้สึกเหมือนมืดแปดด้าน เพราะเข็มจิราคงระวังตัวมากเหมือนกัน ยิ่งตอนนี้มีสหรัฐและพิมพ์พธูมาพักอาศัยอยู่ด้วย"ต้องมีสักคนสิ...ที่ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ระวังตัว และสามารถพาเธอออกไปข้างนอกได้โดยที่เธอไม่สงสัย"ร่างสูงขมวดคิ้วแน่น พยายามใช้ความคิด"มีนะคะ"คนตัวเล็กยิ้มพราวเมื่อนึกถึงแผนการหนึ่งขึ้นมาได้ เธอหันไปมองร่างสูงข้างตัว ไม่จำเป็นต้องไปหาค
บทที่ 31 คนร้ายตัวจริงกว่าหนึ่งอาทิตย์แล้วพี่พิมพ์พธูกับสหรัฐมาพักอยู่ที่บ้านบนฝั่งเพื่อคอยดูแลสัญชัย และดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้ชายหนุ่มกับเข็มจิรามีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะต้องคอยปรึกษากันเรื่องอาการป่วยของผู้เป็นพ่อภาระหน้าที่ในการดูแลสัญชัย ส่วนใหญ่จะตกเป็นหน้าที่ของพิมพ์พธูโดยปริยาย มีเพียงเรื่องอาหารการกินและยาเท่านั้นที่เข็มจิรายังคอยกำกับไม่ขาดตกบกพร่อง นอกเหนือจากนั้นเธอเอาแต่คอยตามติดสหรัฐเฉกเช่นวันนี้ พิมพ์พธูยกข้าวต้มที่เข็มจิราเตรียมไว้ให้ขึ้นมาให้พ่อสามีด้วยตัวเอง"กินข้าวก่อนนะคะคุณพ่อ"เมื่อจัดการกับข้าวต้มในชามเสร็จ หญิงสาวก็วางมันลงในถาด ก่อนจะลุกเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงเช้าของวันให้มากขึ้น สายตาหม่นมองทอดออกไปด้านนอก ด้วยเธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนภายในห้องนี้มีคนอุดอู้ เหี่ยวเฉาถึงสองคน ในขณะที่เธอดูแลพ่อสามี เข็มจิราก็กำลังเอาใจใส่สามีของเธออยู่นี่เรากำลังสลับหน้าที่กันอยู่หรอกหรือ….เธอถอนหายใจทิ้งเบา ๆ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วหมุนเดินกลับมาทางสัญชัย"อากาศตอนนี้ดีมากเลยค่ะ คุณพ่อต้องรีบหายเร็ว ๆ จะได้ออกไปสูดอากาศข้างนอ
บทที่ 30 งูพิษ (2)เข็มจิรานั่งบีบน้ำตามาตลอดทางตั้งแต่ขึ้นรถมา เธอต้องการให้เขาเห็นว่าตนเองกำลังเสียใจมากแค่ไหนที่สามีต้องมาเป็นแบบนี้ ด้วยหวังว่าความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันจะทำให้เขาเริ่มใจอ่อน เหมือนอย่างเมื่อคืนนี้ แค่เธอทำเป็นร้องไห้นิดหน่อย ก็สามารถทำให้เขากอดปลอบได้แล้วมารยาหญิงมีเป็นร้อยเล่มเกวียน ไม่มีทางที่หล่อนจะอ่อยเขาไม่สำเร็จ"ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่าเพิ่งคิดมาก ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ไปคุยกับคุณหมอก่อนจะได้หารือกันว่าจะช่วยคุณพ่อได้ยังไง""ฉันรู้ค่ะ ฉันพยายามแล้ว แต่ฉันก็อดเป็นห่วงคุณสัญชัยไม่ได้จริง ๆ ฮึก..."หญิงสาวทำเป็นก้มหน้าปาดน้ำตา หากแต่กำลังแอบยิ้มดีใจเพราะรู้ดีว่าชะตาชีวิตของสัญชัยอยู่ได้นานแค่ไหน ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับความพอใจของเธอ"คุณพ่อยังไม่ตายสักหน่อย เลิกร้องไห้สักที"รถจอดติดไฟแดงพอดี เขาจึงหันไปเชยคางหล่อนขึ้นแล้วใช้นิ้วปาดน้ำตาให้ การกระทำของชายหนุ่มสร้างความสุขให้กับเข็มจิราเป็นอย่างมาก หัวใจของเธอเต้นแรง เฝ้ารอที่จะได้สมรักกับเขาจนแทบทนไม่ไหวขอแค่บิดาของอีกฝ่ายตายไปเสียก็จะไม่มีใครมาว่าได้ หากเธอกับเขาจะรักและอยู่กินกันอย่างฉันผัวเมีย เข็มจิราใน