เหนือนที
‘เลิกกันเถอะ ไม่อยากคบกับควาย!’
ประโยคสั้น ๆ ที่พูดง่าย ๆ หลุดออกจากปากของผู้หญิงที่ผมรักอย่างน้ำทิพย์
ตลกดีนะครับที่คำง่าย ๆ เหล่านี้ กลับทำให้ผมเจ็บทุกครั้งที่นึกถึงมัน คำพูดแสนเย็นชาที่เธอใช้พูดเพื่อบอกเลิกกับผม เลิกกับคนอย่างเหนือนที ที่ผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างเฝ้าร่ำร้องและเรียกหา คงมีแค่เธอเท่านั้นที่ตัดผมออกไปจากชีวิตอย่างง่ายดาย ทำราวกับว่าผมไม่ได้มีค่าหรือสำคัญมากพอที่จะอยู่ในชีวิตของเธอ
ควายงั้นเหรอ...
เห็น ๆ กันอยู่ว่าผมเป็นคน บอกเลิกผมยังไม่พอ! เธอยังกล้าเปรียบเทียบผมเป็นควาย! ทิ้งคำอันแสนเจ็บแสบเอาไว้ให้เจ็บใจเล่น
ถามว่าผมอยากสั่งสอนเธอไหม ตอบเลยว่ามาก แต่ผมไม่ได้ต้องการที่จะว่าเธอกลับ ผมอยากต่อว่าและสั่งสอนเธอด้วยการ ตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้น ให้เธออ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดของผม!
หึ!
เสียดายที่ผมไม่สามารถทำตามที่ใจคิดได้ ผู้หญิงอย่างน้ำทิพย์ เวลาร้อนจะร้อนดั่งไฟนรก เธอพร้อมจะแผดเผาทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเสมอ และใช่ ผมยังรักชีวิตตัวเอง ที่ผมปล่อยเธอไปใช่ว่าผมจะเลิกกับเธอสักหน่อย
ก็แค่ทำให้เธอตายใจเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่ผมรุกและเอาคืน ไฟนรกก็นรกเถอะ ผมจะหลอมรวมให้มันเป็นลาวา เป็นเชื้อเพลิงผลักดันให้สถานะแฟนเก่าอย่างผม กลับไปเป็นผัวในชีวิตจริงของเธอเอง
เลิกกันงั้นเหรอ... ฝันเกินไปแล้วล่ะ ในเมื่อเข้ามาในโลกของผมแล้ว ก็ยากที่จะก้าวออกไป ถ้าอยากเลิกกับผมนักคงต้องรอให้ผมตายเสียก่อน
‘เลิกกันเถอะ ไม่อยากคบกับควาย!’
คำพูดเสียงดังที่ออกมาจากปากเธอในวันนั้น มันจะเป็นเพียงแค่ลมปาก ที่ไม่สามารถมีวันเป็นจริงได้ ผมจะไม่มีวันเลิกกับเธอ ของของผม มันก็เป็นของของผมอยู่วันยังค่ำ ไอ้อีหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์! อยากเลิกก็เลิกไปดิ ให้มันรู้กันไปว่าเหนือนทีคนนี้จะเอาเธอคืนกลับมาไม่ได้! และถ้าใครมันกล้าคิดจะยุ่งกับเธอก็ลองดู สาบานได้เลยว่าผมจะบดขยี้มันให้จมดิน ให้มันได้รู้ว่า
ผู้หญิงของเหนือนทีใครก็ห้ามยุ่ง!
น้ำทิพย์‘เลิกกันเถอะ ไม่อยากคบกับควาย!’ประโยคบอกเลิกที่ฉันใช้พูดกับเขาคนนั้น เหนือนที ผู้ชายที่ได้ชื่อว่า ‘แฟนเก่า’ ผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาแต่โง่ยิ่งกว่าควาย!ไม่ใช่ว่าอยากเลิก ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ถ้าการคบกับเขา มันเหมือนฉันคบกับควาย ฉันขอตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่าน้ำทิพย์ ชื่อนี้ถูกใครหลาย ๆ คนนิยาม ว่าเป็นผู้หญิงแกร่ง แรง สาวมั่นไม่แคร์ใคร มันก็ดีนะที่ใครหลายคนคิดแบบนั้น เพราะสิ่งเหล่านี้แหละ ที่เป็นเหมือนเกราะกำบังที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง เหมือนเป็นกำแพงหนา ๆ ที่กั้นฉันออกจากความเจ็บปวดทั้งปวง ก่อนหน้านี้ชีวิตฉันมีแต่ความสุข จนเมื่อเขาก้าวเข้ามา ความสุขของฉันก็เริ่มหายไป หายไปเพราะความโง่เง่าของเขาบางทีคบกับควายยังดีกว่าคบกับคนอย่างเขาเลย หึ!วันที่ฉันบอกเลิกเขาในวันนั้น เขาไม่คัดค้านฉันสักคำ นิ่งเงียบและปล่อยให้ฉันเดินหันหลังให้ โดยที่เขาไม่คิดที่จะเรียกร้องอะไรเลย ฉันรู้ได้ทันทีว่าตลอดระยะเวลาที่เราคบกันมันคงมีแค่ฉันคนเดียวที่คิดไปเองก็ได้แต่ก็เอาเถอะ การตัดควายออกจากชีวิตได้นับเป็นเรื่องที่ดี มาคิดดูแล้วฉันไม่เสียดายเลยที่พูดคำว่าเลิกออกไปวันนั้น
‘พี่เหนือคะ เสื้อตัวนี้น่ารักไหมคะ’ ‘น่ารักครับ เหมาะกับน้องดานะ เอาไหมพี่ซื้อให้’‘ขอบคุณนะคะ พี่เหนือน่ารักกับน้องดาที่สุดเลย’นั่นคือคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างพี่เหนือกับเด็กคนนั้น ดารินหรือน้องดา น้องข้างบ้านที่ไม่ได้อยากเป็นแค่น้อง คลิปเสียงเหล่านี้ส่งมาหาฉันเกือบจะทุกวัน แรก ๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่พอนานวันเข้าที่ต้องได้ ฟังแบบนี้แทบทุกวัน มันก็ไม่ไหวปะ ใครไม่หึงก็บ้าแล้วมีใครบ้างจะใจดีให้แฟนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ?เขาบอกไม่ได้คิดอะไรแค่เอ็นดูเหมือนน้องสาว แต่นี่มันมากไปไหม ลืมนัดฉันแล้วพาเด็กคนนั้นไปเที่ยวแบบนี้มันใช้ได้เหรอ หรือเห็นว่าฉันไม่ว่าอะไรเขาเลยได้ใจ จะต้องร้ายใช่ไหม...พี่เหนือคนดีคนเดิมของฉันถึงจะกลับมาเหนื่อยเหมือนกันนะที่ต้องคอยตามตลอดแบบนี้ ผลัดนัด มาสาย เมื่อก่อนโคตรจะตรงเวลา เผลอ ๆ มาก่อนฉันด้วยซ้ำ เดี๋ยวนี้สิหน้ามือเป็นหลังมือเชียว หรือจะเป็นเหมือนที่คนเขาว่า แรก ๆ อะไรก็ดี แต่พอนานวันจะถึงจุดอิ่มตัว หรือที่ใคร ๆ เรียกกันว่า หมดโปรฉันกับพี่เหนือก็คบกันมานานแล้วนะคะ ประมาณหนึ่งปีได้แล้ว เราคบกันก่อนที่พี่พายุจะขอน้ำมนต์เป็นแฟนซะอีก พูดไปก็อิจฉาเพื่อนคนนี้เหมือน
“เฮ้ ยายทิพย์มองเพลินเลยนะ”“กว่าจะมา”“อย่าให้พูดเลย นู่น!” ฉันมองไปตามสายตาของน้ำพิ้งค์ ก่อนจะเห็นพี่วินเดินเข้ามา“ทำไมมาด้วยล่ะ บอกแล้วนี่ว่าแค่สองคน” ฉันถามเพื่อนอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์“ขืนไม่ให้มาด้วยกลับไปฉันก็ตายน่ะสิ”“...”“ไม่ต้องทำหน้ายุ่งหรอก ฉันคุยแล้วเขาไม่บอกพี่เหนือหรอกน่า” คำพูดของยายพิ้งค์ทำให้ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นมานิดหนึ่ง แค่นิดเดียวจริง ๆ“สวัสดีครับน้องทิพย์ ไม่ชวนเลยนะ”“หึ นี่ขนาดไม่ชวนพี่วินยังมาเลยค่ะ”“เจ็บนะครับเนี่ย” หลังถูกพี่วินตัดพ้อ ฉันก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะสั่งพนักงานให้เอาแก้วมาเพิ่มเราทั้งสามคนนั่งดื่มเบียร์สามขวดหมดไปอย่างรวดเร็ว และสั่งมาเพิ่มอีกสองถึงสามชุด ต่างคนก็ต่างคุย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องจิปาถะในชีวิตซะมากกว่า“แล้วนี่ขึ้นปีสองเป็นยังไงบ้างครับ เรียนหนักไหม”“ไม่เท่าไหร่ค่ะพี่วิน ยังสบาย ๆ อยู่”“แล้วพี่วินล่ะคะ ขึ้นปีสี่แล้วแถมยังต้องฝึกงานมีเวลามาเฝ้าเพื่อนทิพย์เหรอคะ”“คนของใจนี่ครับ ไม่มีก็หาเวลามีจนได้แหละ” พี่วินตอบฉันยิ้ม ๆ พลางหันไปมองหน้าน้ำพิ้งค์ด้วยสายตาที่อบอุ่นอ่อนโยน“...”ฉันมองเขาทั้งสองคนด้วยแววตาเศร้าเล็กน้อย ทำไมเพื่อนฉั
“สวัสดีค่ะพี่น้ำทิพย์ หนูชื่อดารินนะคะ” “ทิพย์นี่ดารินนะ น้องพี่เอง”“ค่ะ” ย้อนกลับไปในวันแรกที่เขาพาผู้หญิงคนนี้มาแนะนำให้ฉันรู้จัก ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรหรอก อายุสิบแปดหน้าตาน่ารักดี ก็คิดว่าจะใส ๆ แต่ที่ไหนได้...กลับไสยศาสตร์! ฉันรู้เพราะอะไรรู้ไหม นางมาบอกฉันตรง ๆ เลยจ้า คำพูดวันนั้นยังจำได้ดี“พี่เป็นแฟนพี่เหนือใช่ไหมคะ”“ค่ะ น้องมีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ”“ต้องการจะสื่ออะไร” แต่ในใจก็ดูออกแล้วแหละว่าเธอต้องการอะไร แต่ต้องการความมั่นใจมากกว่านี้“ฉันต้องการพี่เหนือ”“ฝันไปหรือเปล่า”“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะเอาพี่เหนือมาเป็นของฉันแน่ ระวังไว้ให้ดี ๆ ก็แล้วกัน หึ”ประโยคสนทนาระหว่างฉันกับเด็กนั่น และเธอก็ทำตามที่เคยพูดไว้จริง ๆ นะ ถึงตอนนี้ฉันกับพี่เหนือจะยังไม่เลิกกัน แต่ความสัมพันธ์ก็ไม่เหมือนเดิม เขาใส่ใจฉันน้อยลง แม้ว่าวันที่เราทะเลาะกันคราวก่อนจะทำให้เขาใส่ใจฉันมากขึ้น แต่มันก็ไม่เท่าเดิม ไม่เท่าก่อนที่จะมีเด็กดารินนั่นเข้ามาที่สำคัญเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา เธอชอบหาลู่ทางในการเข้าใกล้พี่เหนือและยุแยงให้เราทะเลาะกันตลอดเวลาที่มีโอกาส ทุกครั้งที่ฉันพูด
นี่เขาคงคิดว่าฉันทำร้ายดารินจริง ๆ สินะ...“ทำร้ายดารินทำไม” เข้ามาภายในห้องยังไม่ทันจะนั่ง คำถามเสียดแทงความรู้สึกก็ดังเข้ามาในโสตประสาทหูทันที ฉันมองคนถามด้วยสายตาที่คาดไม่ถึง“ตอบมาสิน้ำทิพย์ ทำแบบนั้นทำไม”“ทิพย์ไม่ได้ทำ”“ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วน้องดาจะเป็นแบบนั้นไหมวะ!”เพียะ!ทันทีที่เขาตะคอกฉัน ฝ่ามือของฉันก็กระทบหน้าเขาทันที พร้อมกับน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมา“อย่ามาบีบน้ำตา ครั้งนี้มันไม่ได้ผล บอกมาว่าทำร้ายน้องดาทำไม!”“ก็บอกว่าไม่ได้ทำไง เคยเชื่อใจกันบ้างไหมวะ”“จะให้เชื่อใจเหรอน้ำทิพย์ ทีเธอยังไม่เชื่อใจฉันเลย”“...”“ฉันบอกว่าฉันคิดกับน้องดาแค่น้อง เธอเคยเชื่อฉันไหม ฉันก็แค่สงสารที่เธอไม่มีพ่อก็แค่นั้นอะ ทำไมวะ ทำไมชอบทำให้เป็นเรื่องอยู่เรื่อยเลย”“ทิพย์ทำเหรอ ทิพย์ยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ มีไหมที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น มีไหมที่จะหาเหตุผล นี่อะไรมาถึงก็หาว่าทิพย์ทำมัน แบบนั้นมันใช่เหรอ” พูดพร้อมกับปาดน้ำตาไปด้วย“ก็ถึงได้ถามไงว่าทำไปทำไม”“ถ้าจะถามแบบนี้อย่าถามเลยดีกว่า พี่จะถามทำไมถ้าพี่เชื่อยายดาริน ถ้าพี่จะปักใจเชื่อว่าทิพย์ผิดไปแล้ว พี่จะถามทำไม”“น้ำทิพย์ฉันถามเธอดี ๆ นะ อย
ผมมองตามรถที่ขับออกไปด้วยอารมณ์หลากหลายความรู้สึก มันรู้สึกหน่วง ๆ ในใจ เหมือนกับว่ากำลังจะสูญเสียของรัก! ก่อนจะสะบัดหัวขับไล่ความรู้สึกนึกคิดของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงเรียกของน้องดา“พี่เหนือ พี่เหนือไม่เป็นไรนะคะ”“ครับ พี่ต้องขอโทษแทนทิพย์ด้วยนะครับ แล้วก็ เอ่อ...เมื่อกี้พี่ไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะพี่เหนือ อย่าใส่ใจเลยดาไม่คิดมากหรอกค่ะ พี่เหนือสิคะโดนตบไปสี่ครั้งติดคงเจ็บมาก”“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ไกลหัวใจ”“ค่ะ ถ้ายังไงก็สู้ ๆ นะคะ ปรับความเข้าใจกับพี่ทิพย์ให้ได้ น้องดาเป็นกำลังใจให้ค่ะ” ผมมองสบตากับน้องดาก่อนจะยิ้มให้เมื่อสายตาที่เธอมองมายังผมมันเต็มไปด้วยความใสซื่อและจริงใจผมได้แต่รู้สึกผิดที่เมื่อครู่ดึงเธอมาจูบเพราะอยากประชดน้ำทิพย์ที่เธอไม่เชื่อใจผมผมรู้ว่าเธอขับรถตามผมมา ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าจะเป็นเธอเพราะผมไม่เคยเห็นเธอใช้รถคันนี้มาก่อน แต่เมื่อนึกไปนึกมาผมก็คิดได้ว่าบ้านของเธอจะส่งรถคันใหม่มาให้ การที่เธอใช้รถคันใหม่ขับตามผมแบบนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่าเธอไม่เคยไว้ใจผมเลย ผมถึงได้ดึงน้องดาเข้ามาจูบ!“ครับ เข้าบ้านได้แล้วครับ พี่ก็จะกลับแล้วเช่นกัน” ผมยืนรอจนน้องดา
ภาพที่น้ำทิพย์กำลังกินอาหารและหยอกล้อกับใครอีกคน ใครอีกคนที่ว่าถ้าเป็นเพื่อน ๆ ของเธอผมจะไม่อะไรเลย แต่ภาพที่ผมเห็นตรงหน้ามันคือผู้ชาย!ผมควรรู้สึกยังไง ดีใจเหรอที่แฟนตัวเองติดต่อไม่ได้แล้วยังมากินข้าวกับผู้ชายคนอื่น ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้พ่อพระขนาดนั้น...ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาทั้งสอง โดยมีน้องดาเดินตามอยู่ข้างหลังกึก!“ไง ติดต่อไม่ได้ แต่มานั่งกินข้าวกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ” ผมพูดพร้อมกับมองหน้าเธออย่างโกรธ ๆ“แล้วยังไง” เธอพูดเสียงเรียบก่อนจะมองหน้าผม“เหอะ ทิพย์ มันไม่ควรรึเปล่าวะ เธอมีแฟนอยู่แล้วนะเว้ย”“มีแฟน? เหอะ ถ้ามีแล้วเหมือนไม่มีก็อย่ามีมันเลยดีกว่า”“หมายความว่ายังไง” เธอไม่ตอบผม แต่เลือกที่จะไปคุยกับไอ้หน้าขาวนั่น เรียกเช็กบิลก่อนที่ทั้งคู่จะพยายามเดินออกไปแต่จังหวะที่เธอจะเดินผ่านผมไปนั้น สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นน้องดาเข้าซะก่อน เธอหันมายิ้มเยาะเย้ยใส่ผมนิดหน่อยแล้วรีบเดินผละไป แต่มีหรือผมจะยอมผมรีบก้าวเดินตามคนทั้งสอง จนเราทั้งสี่คนมาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าความบังเอิญหรือว่าอะไร เพราะรถผมกับรถไอ้หน้าขาวนั่นมันจอดอยู่ข้างกันพอดีเลย!“ทิพย์ คุยกันให้รู้เรื่
“ไง ไอ้เหนือ ยังมีสภาพหมาหงอยเหมือนเดิมเลยนะ”ผมมองคนพูด มันคือไอ้วิน“โอ้ ทำไมตาเขียวใส่ฉันขนาดนั้นล่ะ” มันยังกวนผมไม่เลิกโดยการพูดพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้“มึงก็ไปกวนมันไอ้วิน นี่มันโดนน้องทิพย์ทิ้งมาหลายเดือนละ จวบจนเปิดเทอมสองแล้วมันยังตามง้อน้องทิพย์ไม่ได้สักที” รอบนี้เป็นไอ้ดินพูด“จะพูดว่าตามง้อไม่ได้นะไอ้ดิน ในเมื่อหน้ามันน้องเขายังไม่อยากจะมอง แล้วมันจะเอาเวลาที่ไหนตามคุยตามง้อครับ” ไอ้วินพูด“หึ สมน้ำหน้า” ผมมองหน้าพวกมันด้วยความไม่พอใจ“ไม่ต้องมาทำตาขวางใส่พวกกู มึงทำตัวเองทั้งนั้น เตือนไม่ฟัง” คนที่พูดประโยคนี้และประโยคก่อนหน้าไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือไอ้พายุ!พวกมันพูดถูกครับ ตอนนี้ผมพยายามตามตื๊อตามง้อน้ำทิพย์อยู่ แต่ทุกอย่างก็ไม่คืบหน้าเพราะผมติดต่อเธอไม่ได้เลย ไปหาที่คณะเธอก็ไม่เจอเพราะเพื่อนเธอกันเธอออกจากผมตลอด หรือถ้าผมเจอเธอ เธอก็จะเมินเฉยทุกครั้ง ทำราวกับผมเป็นอากาศธาตุ ไม่มีค่าพอที่เธอจะเสวนาด้วยบอกเลยว่าเจ็บ เจ็บโคตร ๆผมพยายามที่จะเข้าไปปรับความเข้าใจกับเธอมาตลอด จนตอนนี้ผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เธอบอกเลิกผม นับตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวเธอได้อ
ฉันผละออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของพี่เหนือ ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขที่สุดตอนแรกที่เขาบอกว่าอย่าร้อง ฉันก็กะว่าจะไม่ร้องไห้นั่นแหละ แต่ใครมันจะไปอดทนได้เล่า ในเมื่อเขาน่ารักขนาดนี้คิดดูสิบรรยากาศภายในร้าน และอะไรต่าง ๆ ที่เขาทำวันนี้เป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงทั้งสิ้นว่าเขาจะทำ เพราะสิ่งที่เขาทำวันนี้มันตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิญพี่เหนือไม่ใช่คนที่โรแมนติก เขาค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ยอมคน สายเอาแต่ใจ ที่สำคัญเขาหื่นมาก เพราะฉะนั้นการจัดตกแต่งร้านแบบน่ารัก ๆ ที่ฉันเห็นนี่มันสวนทางกับพี่เหนืออย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ที่ฉันเดินลงจากรถและเดินเข้ามา สองข้างทางล้วนประดับประดาไปด้วยหลอดไฟเล็ก ๆ น่ารัก ๆ หน้าประตูถูกประดับไปด้วยดอกไม้ที่ฉันชื่นชอบ ยิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน ฉันยิ่งรู้สึกประทับใจ เพราะมันเต็มไปด้วยดอกไม้ ลูกโป่ง และรูปของเรา ที่ขาดไม่ได้เลยคือป้ายคำว่า‘Anniversary 2 years’หลังจากที่เห็นทุกอย่างแล้ว และคิดถึงนิสัยของเขามันเลยทำให้ฉันตื้นตันใจจนอยากร้องออกมาแต่ก็ต้องกลั้นไว้เมื่อเขาห้าม แต่พอฟังเขาพูดประโยคพวกนั้นจบฉันก็ไม่สามารถกักเก็บความรู้สึ
“พี่เหนือ นี่จะพาทิพย์ไปไหนคะ ไม่เห็นบอกเลยอยู่ดี ๆ ก็บอกให้แต่งตัว”น้ำทิพย์ถามผม เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของเรา ผมจึงจะพาเธอไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่คอนโดครับ ผมกับน้ำทิพย์กลับมาจากบ้านสวนได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว กลับมากรุงเทพเราก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอ้อ ผมไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเวลานะครับ เพื่อเป็นการให้เกียรติเธอและทางครอบครัว ผมจะมานอนกับเธอที่ห้องหรือให้เธอไปนอนที่ห้องกับผมแค่อาทิตย์ละสามวันเท่านั้นนอกจากนี้ผมยังให้คุณแม่ของผมคุยเรื่องการหมั้นหมายของผมกับเธอไปคร่าว ๆ ทางโทรศัพท์กับคุณพ่อคุณแม่ของเธอแล้วด้วยก่อนผมจะกลับกรุงเทพนั่นเองซึ่งผลจากการที่ผู้ใหญ่คุยกันเรื่องนี้นั้นได้ข้อสรุปว่า หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่กลับกรุงเทพแล้ว พวกท่านจะคุยเรื่องนี้และข้อตกลงกันต่าง ๆ กันอีกที ซึ่งผมและน้ำทิพย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะถือว่าได้บอกความต้องการของตัวเองออกไปแล้ว ต่อไปก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขาคุยและตกลงกัน“อ้าวพี่เหนือถามไม่ได้ยินเหรอคะ จะไปไหน” น้ำทิพย์ถามผมหน้ายุ่ง“พาไปที่ที่สำคัญของเราสองคนไงครับ”ผมตอบเธอพร้อมกับยิ้ม น้ำทิพย์ย่นคิ้วคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า“จะพา
ระหว่างทาผมก็ถามพนักงานชายไปด้วยว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคำตอบที่ได้รับทำให้ผมตาโตด้วยความไม่เชื่อ เพราะพนักงานคนนั้นบอกว่าถ้าทาแป้งและขี้เถ้าแล้วมดแดงมันจะไม่กัด เป็นความเชื่อที่คนโบราณทำสืบต่อกันมา ซึ่งพอเวลาผ่านไปการทำแบบนี้ก็เริ่มไม่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพนักงานของที่นี่เขาค่อนข้างจะเชื่อคำคนโบราณจึงได้เอามาทำที่ไร่นี้ พอว่าที่พ่อตามาเห็นและรู้ว่าได้ผลจึงไม่ได้ห้ามตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะได้ผลจริง แต่พอขึ้นไปบนต้นมะม่วงแล้วก็ต้องชะงัก เพราะสิ่งที่ผมไม่เชื่อกลับสามารถได้ผลดี แต่ใช่ว่าจะไม่โดนกัดเลย มันก็มีกัดบ้างแต่ไม่เท่ากับสามต้นแรกที่ผมไม่ได้ทาพวกมันแล้วขึ้นไปเก็บเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล สำหรับผมแล้วผมเชื่อครับเพราะมันใช้ได้จริงหลังจากเก็บมะม่วงสองต้นสุดท้ายเสร็จแล้วผมกับว่าที่พ่อตาก็กลับมาอาบน้ำที่บ้านก่อนจะมานั่งทานข้าวที่ถูกเตรียมไว้แล้วมื้ออาหารกลางวันเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ไม่มีเสียงกระทบกระทั่งกันไปมาของผมและคุณพ่อของน้ำทิพย์ถึงผมจะค่อนข้างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะไม่ต้องการจุดฉนวนให้ตัวเองโดนเล่นง
หลังจากที่เมื่อวานได้เปิดอกเปิดใจคุยกับคุณพ่อของน้ำทิพย์แล้ว วันนี้ผมก็ต้องมาทำงานใช้แรงงาน เพราะว่าที่พ่อตาท่านบอกว่าจะมานั่งกินนอนกินไม่ได้ จะมาอยู่ก็ต้องมาช่วยกันทำงาน แม้ว่าที่บ้านสวนจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของพวกท่านก็ตามแต่พวกท่านก็ไม่ได้พักอย่างที่ใครคิด การพักผ่อนของพวกท่านคือการใช้ชีวิตชาวสวน วันนี้ผมจึงต้องมายืนสอยมะม่วงบ้าง ปีนต้นมะม่วงจนมดแดงกัดอยู่แบบนี้ไงครับ“ใช่ ๆ พวงนั้นแหละ ลูกมันดก ขนาดกำลังกิน”เสียงของว่าที่พ่อตาตะโกนส่งมาไม่ขาดสาย ในขณะที่ผมทั้งตัดพวงมะม่วง ทั้งปัดป่ายมดแดงที่ขึ้นอยู่ตามตัวและก็ไอ้มดแดงที่กำลังกัดผมอยู่นี่แหละ ที่ผมกินไข่ของพวกมันเมื่อวานนี้เห็นแบบนี้ก็อดยอมรับนับถือคนงานไม่ได้ที่ต้องมายืนแหงนคอสอยรังของมดแดง เพื่อที่จะนำไข่ของมันไปประกอบอาหารขนาดผมปีนต้นไม้เพื่อเก็บมะม่วงยังโดนกัดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่ากว่าพวกเขาจะสอยได้แต่ละรังกว่าจะได้ไข่มาต้องลำบากกันขนาดไหน“มัวคิดอะไรอยู่ บอกเอาพวงนั้น พวงนั้น”“ผมก็ตัดอยู่นี่ไงครับว่าที่พ่อตา อย่าเร่งสิครับ มดมันกัดผมอยู่” ผมตะโกนโต้กลับกับคนที่ยืนชี้นิ้วสั่งผมอยู่ด้านล่าง“ผิวหนังด้าน ๆ อย่าง
บ้านสวนของน้ำทิพย์มีคนอยู่ไม่มากนัก จะมีแค่คุณพ่อคุณแม่ของเธอที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจตามเวลาที่สะดวก มีน้ำทิพย์ และคนสวนที่ดูแลที่นี่เพียงสองคน คนดูแลบ้านอีกสองคน หลัก ๆ แล้วคนที่อยู่ที่นี่แค่สี่คนเท่านั้น ส่วนลุงเชิดกับป้าชมนั้นเป็นสามีภรรยากัน ลุงเชิดเป็นคนขับรถส่วนป้าชมเป็นหัวหน้าแม่บ้านและเป็นคนสนิทของคุณแม่ของน้ำทิพย์ด้วยเช่นกันอ้อ ผมลืมบอกไปที่เรียกว่าบ้านสวน เพราะบริเวณรอบบ้านของเธอล้วนปลูกผักผลไม้ทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเป็นที่ดินด้านหลังบ้านที่ถัดออกไปอีกไม่ไกล มีเพียงคลองส่งน้ำเล็ก ๆ ขวางกั้นเท่านั้นเพียงก้าวข้าวสะพานไม้ที่ทำไว้ก็จะเจอกับสวนมะม่วงที่ให้คนงานลงปลูกไว้ขึ้นเต็มไปหมดผมโชคดีที่หน้านี้มะม่วงกำลังติดลูก คิดว่าคงจะได้เดินไปชมสวนของบ้านเธอแน่ ๆ ครับ เพราะนอกจากจะปลูกไว้กินแล้วเนี่ย ทางบ้านของน้ำทิพย์ยังส่งมะม่วงให้ตลาดในตัวอำเภอเพื่อขายอีกด้วย“เหม่ออะไรอยู่ ไปได้แล้วลูกเมียฉันรอ ไร้มารยาทจริง”ผมหลุดจากความนึกคิดของตัวเองแล้วเขม่นตามองว่าที่พ่อตาที่เดินนำออกไปไกลแล้ว จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินตามท่านไปบ้าง“ขอโทษที่มาช้าครับ” ผมรีบพูดทันที เพราะคุณแม่ของน้ำทิพย์กำลังนั่งรออยู่จ
“เจ้าบ้านเขาไม่ต้อนรับก็ยังจะหน้าด้านอยู่อีก” คำกล่าวทักทายแรกหลังจากที่ออกมาจากห้องพัก ก็โดนพ่อตากระแหนะกระแหนใส่ซะแล้ว“คุณพ่อครับ ถ้าไม่เต็มใจต้อนรับผมจะได้พักที่ห้องข้าง ๆ ทิพย์เหรอครับ”“ใครพ่อแก!”“อา... ลืมไปว่าไม่ใช่ งั้นคงต้องเรียกว่า...”“ว่าอะไร”“พ่อตา”“ไอ้เหนือ!”ผมพูดเสร็จก็รีบพาตัวเองเดินลงมายังชั้นล่างของบ้านทันที โดยไม่สนใจคนที่กำลังทำหน้าราวกับจะฆ่าคนของคุณพ่อตาสักนิด แถมยังมียิ้มให้ก่อนจะเดินออกมาด้วย“คุณนทีเป็นอะไรคะ เสียงดังมาถึงข้างล่าง” คุณแม่ของน้ำทิพย์เดินมาชะเง้อขอถามตรงตีนบันได ซึ่งสวนกับที่ผมเดินลงไปพอดีผมยิ้มให้ท่านแล้วเดินจากมา แต่พอมาถึงโซฟาก็เจอน้ำทิพย์ยืนกอดอกขมวดคิ้วอยู่“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“ทิพย์ต่างหากที่ควรถามพี่เหนือว่าเป็นอะไรถึงได้กวนคุณพ่อ จนคุณพ่อเสียงดังแบบนี้”“พี่เปล่าทำอะไรสักหน่อยนะครับ” ผมตีหน้าซื่อตาใสไม่ยอมรับ“พี่เหนือ เราคบกันอยู่แล้วทำไมทิพย์จะไม่รู้สันดาน เอ๊ย!นิสัยของพี่เหนือล่ะคะ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงหน่อยสิคะ”“โธ่... ที่รักก็คุณพ่อของทิพย์ท่านชอบว่าพี่นี่”“แต่ถ้าพี่เหนือยอมท่านปล่อยเวลาไปสักพัก ให้ท่านได้มีเวลายอมร
ปัง!“กรี๊ดดด! หยุดค่ะคุณพ่อ หยุดก่อน”ปัง!“แกหลบไปยายทิพย์ หลบไปก่อนพ่อจะเอาเลือดหัวมันออก”“ถ้าเอาแค่เลือดหัวผมออกไม่ต้องใช้ปืนก็ได้ครับ เอาเป็นไม้หรืออย่างอื่นก็ได้ เป็นปืนแบบนี้ถ้าคุณพ่อพลาดยิงผมตายขึ้นมานอกจากจะติดคุกแล้ว น้ำทิพย์ยังจะเสียใจอีกนะครับ”“ฮึ่ม ไม่โว้ย ลูกสาวฉันไม่เสียใจนานหรอก เดี๋ยวฉันหาผู้ชายคนใหม่มาดามใจให้เอง แล้วก็นะฉันไม่ใช่พ่อแก!”คุณพ่อของน้ำทิพย์พูดก่อนจะทำท่ายกปืนเล็กอีกครั้ง แต่มีหรือที่ผมจะยอม ผมรีบเอาตัวน้ำทิพย์เข้ามาบังตัวผมไว้ แล้วโผล่หน้าไปท้าทายท่านอีกครั้ง“พี่เหนือ ทิพย์บอกแล้วไงว่าอย่าไปตีรวนท่าน”“ก็ดูคุณพ่อทิพย์สิ มาถึงยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านก็เอาปืนมาไล่ยิงกันซะแล้ว แบบนี้จะให้พี่อยู่เฉย ๆ ได้ไงครับ” ผมพูดอย่างไม่ยินยอม พร้อมกับหลบอยู่หลังเธอใช่แล้วล่ะครับ ตั้งแต่มาถึงและลงจากรถขณะที่ผมกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน คุณพ่อของน้ำทิพย์ก็วิ่งออกมาพร้อมปืนยาวหนึ่งกระบอกและยิงทันทียิงแบบไม่สนใจด้วยว่าจะถูกหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าท่านคงไม่กล้ายิงตรง ๆ นอกจากยิงขู่ ผมถึงได้กล้าตีฝีปากกับท่านนั่นเอง“มึง! ไอ้เหนือ ตายซะเถอะ”“โอ๊ย หยุดได้แล้วค่ะคุณ พอไ
“บอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับว่าพี่ขอไปด้วย” “พี่เหนือจะไปทำไมคะ” ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของผม น้ำทิพย์ก็ถามกลับมาทันที พร้อมมองผมขึ้น ๆ ลง ๆ“จะไปบ้านเมีย”“พี่เหนือ”“ก็พี่อยากไปด้วยนี่ พี่อยากเจอคุณพ่อคุณแม่ของทิพย์นี่ครับ ทิพย์ก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่พี่แล้ว ให้พี่ไปเจอพวกท่านบ้างสิเราจะได้เท่าเทียมกัน”“แต่คุณพ่อของทิพย์ไม่ชอบพี่เหนือ”“ก็ยิ่งไม่ชอบนั่นแหละครับ พี่ถึงต้องไป”ผมพูดออกมาด้วยความจริงจัง และใช่ครับ คุณพ่อของเธอไม่ค่อยชอบผม ย้อนกลับไปสามวันที่แล้ว ที่ผมพาน้ำทิพย์และคนอื่น ๆ ไปเที่ยวน้ำตกวันที่สองของการอยู่ที่นั่น คุณพ่อของเธอก็โทรเข้ามา แต่บังเอิญว่าน้ำทิพย์หลับอยู่ และผมก็อยู่ตรงนั้นพอดี จึงได้ถือวิสาสะรับสายท่านไป แค่ท่านได้ยินเสียงผม ก็โวยวายออกมายกใหญ่เลยครับผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ต่อว่าท่านกลับหรอกนะครับ ผมยังคงรู้จักมารยาท แต่ว่าการตอบกลับของผมค่อนข้างที่จะรวนท่านนิดหน่อยจนเดือดร้อนให้คุณแม่ของเธอเข้ามาห้ามปรามและรับโทรศัพท์ไปคุยเอง เราถึงพูดกันรู้เรื่อง ความว่าคุณแม่และพ่อของเธอไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่เดินทางไปบ้านสวน ให้น้ำทิพย์ตามไปที่นั่นเพื่อพักผ่อน เพราะเห็
“แค่ก แค่ก กดหัวทำไมหายใจไม่ออก” ฉันไอหน้าดำหน้าแดง ส่วนคนที่ถูกต่อว่าก็ทำเพียงแค่ส่งสายตาสำนึกผิดมาให้“ขอโทษครับ”“เหอะ” ฉันส่งเสียงอย่างไม่พอใจ แล้วทำท่าจะลุกหนี“ไปไหนครับ” เขาคว้าจับแขนฉันไว้ โดยมีสายตาไม่พอใจของฉันจับจ้องอยู่“เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ ก็ไปอาบน้ำสิ ถามมาได้” ฉันที่ไม่พอใจกับการที่ถูกเขากระแทกน้องชายเข้าปากอยู่แล้วก็ตอบกลับเขาไปอย่างอารมณ์เสีย“หืม ใครบอก เมื่อกี้แค่ยกแรกครับ เขาเรียกว่าของกินเล่น จากนี้ต่างหากของจริง”“ไม่”“ไม่ทันแล้วครับ ยังไงวันนี้ทิพย์ก็หนีไม่รอด”“ไม่นะพี่เหนือ มะ อื้อ”ฉันตกใจตาเบิกโพลง คำพูดที่ฉันจะพูดไม่ถูกพูดออกมาด้วยซ้ำ เพราะพี่เหนือที่ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน อยู่ดี ๆ ก็จับฉันนั่งตักและแทงน้องชายของเขาเข้ามาทีเดียวมิดโคนตอนนี้ฉันทั้งเสียว ทั้งจุก ทำได้แค่กอดเขาแน่น ๆ เท่านั้นเพื่อหวังว่ามันจะระบายอาการพวกนี้ออกไปได้บ้างพี่เหนือก็เหมือนรู้ เขาไม่ได้ขยับตัว แต่กลับยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังปลอบโยนฉันอยู่เรานั่งกันแบบนั้นอยู่ราว ๆ สองนาที ก่อนที่พี่เหนือจะเริ่มขยับตัว มือที่ลูบไล้แผ่นหลังบางของฉันทีแรกก็กลับกลายเป็นบีบขยำเนื้อหนังด้านหลัง ก่