Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2025-02-03 00:32:57

ผมมองตามรถที่ขับออกไปด้วยอารมณ์หลากหลายความรู้สึก มันรู้สึกหน่วง ๆ ในใจ เหมือนกับว่ากำลังจะสูญเสียของรัก! ก่อนจะสะบัดหัวขับไล่ความรู้สึกนึกคิดของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงเรียกของน้องดา

“พี่เหนือ พี่เหนือไม่เป็นไรนะคะ”

“ครับ พี่ต้องขอโทษแทนทิพย์ด้วยนะครับ แล้วก็ เอ่อ...เมื่อกี้พี่ไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่เหนือ อย่าใส่ใจเลยดาไม่คิดมากหรอกค่ะ พี่เหนือสิคะโดนตบไปสี่ครั้งติดคงเจ็บมาก”

“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ไกลหัวใจ”

“ค่ะ ถ้ายังไงก็สู้ ๆ นะคะ ปรับความเข้าใจกับพี่ทิพย์ให้ได้ น้องดาเป็นกำลังใจให้ค่ะ” ผมมองสบตากับน้องดาก่อนจะยิ้มให้เมื่อสายตาที่เธอมองมายังผมมันเต็มไปด้วยความใสซื่อและจริงใจ

ผมได้แต่รู้สึกผิดที่เมื่อครู่ดึงเธอมาจูบเพราะอยากประชดน้ำทิพย์ที่เธอไม่เชื่อใจผม

ผมรู้ว่าเธอขับรถตามผมมา ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าจะเป็นเธอเพราะผมไม่เคยเห็นเธอใช้รถคันนี้มาก่อน แต่เมื่อนึกไปนึกมาผมก็คิดได้ว่าบ้านของเธอจะส่งรถคันใหม่มาให้ การที่เธอใช้รถคันใหม่ขับตามผมแบบนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่าเธอไม่เคยไว้ใจผมเลย ผมถึงได้ดึงน้องดาเข้ามาจูบ!

“ครับ เข้าบ้านได้แล้วครับ พี่ก็จะกลับแล้วเช่นกัน” ผมยืนรอจนน้องดากลับเข้าบ้าน ถึงได้ขับรถออกมา

ตลอดเวลาที่ผมขับรถ ผมก็คิดเรื่องของผมกับน้ำทิพย์มาโดยตลอด ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้ระแวงผมนัก ทั้ง ๆ ที่ผมก็ย้ำกับเธอไปหลายครั้งแล้วว่า ระหว่างน้องดากับผมมันไม่มีอะไร ผมคิดกับเธอแค่น้องจริง ๆ แต่น้ำทิพย์ก็ยังไม่เชื่อ ยังคงหวาดระแวง และล่าสุดก็ขับรถมาตามจับผิดผมแบบนี้

ผมเบื่อนะครับ ที่ต้องมาคอยตอบคำถามกับเรื่องเดิม ๆ

บางทีการที่ผมกับเธอห่างกันอย่างที่ผมเคยพูดกับเธอไว้มันก็ดีจริง ๆ นั่นแหละกับสถานการณ์ตอนนี้

กริ๊ง... กริ๊ง...

“ว่าไงไอ้วิน มีอะไรถึงได้โทรหากู” ผมกดรับสายทันทีที่เห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา

“มึงอยู่ไหน”

“ขับรถอยู่กำลังกลับคอนโด มีอะไร”

“นี่ไอ้วินถ้าโทรมาแล้วไม่พูดกูวางนะ” ผมบอกเพราะมันไม่พูดอะไรสักที

“กูไม่ได้อยากยุ่งนะไอ้เหนือ แต่กูถามมึงจริง ๆ เถอะ มึงกับน้องข้างบ้านเด็กดารินอะไรนั่นนี่มันยังไงแน่วะ”

“ก็เป็นน้อง”

“มึงมั่นใจว่าแค่น้อง”

“เออ! มึงจะมาซักถามอะไรกูนักหนาเนี่ย” ผมบอกอย่างไม่สบอารมณ์เพราะนี่มันคือเรื่องส่วนตัว

“ถ้าเป็นน้องแล้วทำไมมึงเทนัดน้องทิพย์ตลอดเลยวะ”

“กูมีเหตุผล”

“เหอะ เหตุผลของมึงคืออะไรวะไอ้วิน ถ้าการพาเด็กดารินนั่นไปเที่ยว ไปซื้อของ กูว่ามันไม่ใช่นะเว้ยมันเกินไป แฟนก็ไม่ใช่ญาติก็ไม่ใช่ แค่เด็กข้างบ้านมึงจะดูแลอะไรนักหนาวะ”

“ไอ้วิน!” ผมพูดเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจ

“เหอะ มึงไม่ต้องมาทำเสียงเข้มใส่กูหรอก ที่กูถามเพราะกูเป็นห่วง มึงทำร้ายจิตใจน้องทิพย์เกินไป”

“พอเลยไอ้วิน เขาให้มึงมาพูดใช่ไหม กูบอกว่าไม่คิดอะไรก็ไม่เคยเชื่อกู นี่คงเล่าให้เพื่อน ๆ ของเธอฟังล่ะสิ”

“เปล่าเลยเว้ยไอ้เหนือ น้องทิพย์เขาไม่เคยมาพูดหรือฟ้องพวกกูเลย มีแต่กูนี่แหละที่สังเกตเห็น และไม่ใช่แค่กู ไอ้พายุไอ้ดินก็เห็นเหมือนกัน แต่พวกมันไม่พูด เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของมึง”

“แล้วมึงจะมาพูดทำไม”

“เพราะกูเป็นห่วง กลัวมึงพลาดเพชรแล้วไปคว้าก้อนกรวดไง มึงจำคำกูนะไอ้เหนือ น้องทิพย์เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน แต่ถ้าน้องมันตัดน้องมันตัดเลยนะเว้ย ถ้ามึงไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่า มึงก็จัดการเด็กข้างบ้านมึงซะ แค่นี้แหละ กูจะไปนอนกอดเมีย” ว่าจบมันก็ตัดสายไป

“หึ! น้ำตาเช็ดหัวเข่าเหรอ ไม่มีทาง!”

แต่ว่านะคำพูดของไอ้วินก็น่าคิด น้ำทิพย์เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน แต่ถ้าได้ตัดก็ตัดเลย แต่มันก็ไม่ใช่แค่น้ำทิพย์หรอกไอ้นิสัยแบบนี้มันเป็นกันทั้งกลุ่มเธอนั่นแหละ    

ติ๊ง!

น้องดา : กลับถึงคอนโดหรือยังคะ

เหนือนที : ถึงแล้วครับ

และก็มีอีกหลายข้อความไลน์จากน้องดา ผมหยิบขึ้นมาอ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะตอนนี้ผมถึงคอนโดแล้วและต้องการที่จะพักผ่อนเต็มที จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพียงอ่านและปล่อยผ่านไป

ผ่านมาได้หลายวันแล้วตั้งแต่ที่ผมโดนน้ำทิพย์ตบวันนั้น ผมก็ยังไม่ได้คุยกับเธออีกเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยแต่เป็นเพราะว่าผมติดต่อเธอไม่ได้ ไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่ราวกับว่าเธอกำลังหลบหน้าผม

หลบได้หลบไป เจอเมื่อไหร่จะได้รู้กัน...

ติ๊ง!

น้องดา : พี่เหนือเจอกันที่ห้างเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องวนรถมารับ เดี๋ยวดาไปเองค่ะ

เหนือนที : โอเคครับ

ผมกดตอบข้อความไลน์น้องดา ก่อนจะกดปิดแอปพลิเคชัน และเตรียมตัวไปห้างสรรพสินค้าตามเวลานัด

วันนี้ผมมีนัดกับดาริน เนื่องจากว่าเธอขอให้ผมช่วยไปซื้อของเป็นเพื่อน ผมเห็นว่าไม่ได้มีอะไรเสียหายจึงตกลงไปกับน้องมัน ที่สำคัญเลยผมเอ็นดูดารินเหมือนน้องสาวจริง ๆ

ด้วยผมอยากมีน้องสาวตั้งแต่เด็กแต่คุณพ่อคุณแม่ผมมีผมแค่คนเดียว พอได้มาเจอน้องดาที่น่ารัก ขี้อ้อน ทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูเธอได้ไม่ยาก

ผมรู้จักกับน้องดามาหลายปีแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิดตอนที่ผมรู้จักกับน้องดาครั้งแรกผมน่าจะอายุราว ๆ 15 ปี ส่วนน้องดาก็น่าจะ 12 ปี ตอนนั้นเธอเพิ่งย้ายมาอยู่ข้าง ๆ บ้านผมกับแม่ของเธอ หลังจากสูญเสียเสาหลักอย่างคุณพ่อของเธอไป ทำให้แม่เธอต้องกลายเป็นหัวหน้าครอบครัว

ผมไม่ได้รู้อะไรมากนัก รู้เพียงแค่ว่าตอนที่เธอย้ายมาอยู่บ้านข้าง ๆ นั้นพ่อของเธอก็เสียแล้ว ด้วยความที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ แม่เธอจึงชอบทำขนมหรืออาหารมาฝากบ้านผมอยู่เสมอ นั่นจึงทำให้คนในบ้านรู้จักและสนิทสนมกับครอบครัวของเธอ

น้องดาเป็นผู้หญิงน่ารัก นิสัยดี เก่งและฉลาด เสียอย่างเดียวไม่ค่อยทันคนเท่าไหร่ ช่วงแรก ๆ ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ มักถูกเด็กภายในหมู่บ้านกลั่นแกล้งเสมอ จนผมสงสารจึงได้เข้าไปช่วยเหลือ หลังจากวันนั้นเธอก็ตัวติดผมตลอดเวลา และด้วยนิสัยขี้อ้อนเอาใจเก่งกับความที่ผมอยากมีน้องสาวมาตลอด จึงทำให้ผมค่อย ๆ ให้ความสนิทสนมกับเธอและเอ็นดูเธอในฐานะน้องสาว

ผมไม่เคยคิดเป็นอื่นเลย สำหรับผมถ้าขีดสถานะให้ใครไว้ตรงไหนแล้ว นั่นเท่ากับว่าคนคนนั้นจะเป็นได้แค่นั้น ไม่มีวันพัฒนาได้!

ซึ่งน้องดาก็อยู่ในสถานะน้องสาวที่ผมเอ็นดูมาตลอด ข้อนี้เธอรู้ดี และผมก็ไม่เห็นว่าเธอจะชอบผมที่ตรงไหน น้ำทิพย์อะคิดมากเกินไป

ผมว่าผมก็ชัดเจนนะ สถานะแฟนที่เธอได้รับไปก็น่าจะยืนยันได้แล้วรึเปล่าว่าผมค่อนข้างจริงจังกับเธอมากแค่ไหน ตลอดชีวิตของผมมีใครที่ไหนบ้างที่ได้รับสถานะนั้น

เฮ้อ ช่างเถอะ ไว้ค่อยปรับความเข้าใจกันใหม่

“พี่เหนือคะ น้องดาอยู่นี่ค่ะ” ผมหันไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะเจอน้องดายืนยิ้มสดใสให้ ผมส่ายหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอทำตัวไม่สมกับอายุที่เพิ่มขึ้นเอาเสียเลย

“ไม่ใช่เด็กแล้วนะ ยืนโบกไม้โบกมือได้ยังไง ไม่อายคนรึไง”

“โธ่... พี่เหนือคะ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คิกคิก” เธอพูดก่อนจะหัวเราะออกมาด้วย เห็นไหมล่ะผมบอกแล้วเธอน่ารักจะตาย

“ไปครับ ไปซื้อของเสร็จแล้วจะได้ไปกินข้าวกัน”

“โอเคค่า”

จากนั้นทั้งผมและน้องดาก็เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อสิ่งของที่เธอต้องการ เธอและผมเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ได้ของติดไม้ติดมือออกมาเป็นว่าเล่น

ในขณะที่ผมกับน้องดากำลังจะเดินไปหาอะไรกินนั้นก็ต้องหยุดลง เพราะสายตาผมเหลือบไปเห็นจี้สร้อยเพชรรูปดาวเล็ก ๆ ความสวยของมันสะท้อนเข้าตาทำให้ผมนึกถึงใครบางคนที่ช่วงนี้ติดต่อไม่ได้

“พี่เหนือมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“พี่ขอดูของในร้านนี้สักครู่นะครับ” ผมตอบน้องดาแต่ไม่ได้หันไปมองเธอ เลือกที่จะเดินนำเข้าไปในร้านแทน

“พี่เหนือจะซื้อให้พี่ทิพย์เหรอคะ”

“ครับ พี่เห็นมันสวยดีทิพย์น่าจะชอบ”

“น้องดาว่าพี่ทิพย์ต้องชอบมากแน่ ๆ เลยค่ะ” ผมหันไปมองคนพูดที่ส่งยิ้มใสซื่อให้ผมอย่างน่ารัก อดไม่ได้จนต้องยกมือลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดู

ผมยืนเลือกสร้อยและจี้อยู่หลายลายโดยมีน้องดายืนเล่นโทรศัพท์และให้คำแนะนำอยู่ข้าง ๆ  แต่ไม่ว่าจะเลือกดูเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจเท่าสร้อยเส้นแรกที่ผมเห็น ผมจึงตัดสินใจซื้อสร้อยรูปดาวมา

“ไปกินข้าวกันเถอะค่ะ น้องดาหิวแล้ว”

“โอเคครับ” ผมตอบรับน้องดายิ้ม ๆ แล้วจึงเดินออกจากร้านขายสร้อยไป  

“เอ่อ...พี่เหนือคะ เราไปกินร้านอื่นดีไหมคะ”

“อ้าว ไหนน้องดาบอกอย่างกินราเมงไม่ใช่เหรอ กินร้านนี้แหละ”

“แต่ว่า...”

“มีอะไรครับ” ผมเห็นสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูกของเธอ บวกกับพยายามชวนผมไปร้านอื่นก็อดสงสัยไม่ได้ว่าภายในร้านมีอะไรที่ผมไม่ควรรู้เห็นหรือเปล่า ผมตัดสินใจมองเข้าไปในร้าน ก่อนจะเห็นภาพที่ทำให้ผมแทบอยากจะเผาร้านอาหารร้านนี้ทิ้ง!

Related chapters

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 8

    ภาพที่น้ำทิพย์กำลังกินอาหารและหยอกล้อกับใครอีกคน ใครอีกคนที่ว่าถ้าเป็นเพื่อน ๆ ของเธอผมจะไม่อะไรเลย แต่ภาพที่ผมเห็นตรงหน้ามันคือผู้ชาย!ผมควรรู้สึกยังไง ดีใจเหรอที่แฟนตัวเองติดต่อไม่ได้แล้วยังมากินข้าวกับผู้ชายคนอื่น ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้พ่อพระขนาดนั้น...ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาทั้งสอง โดยมีน้องดาเดินตามอยู่ข้างหลังกึก!“ไง ติดต่อไม่ได้ แต่มานั่งกินข้าวกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ” ผมพูดพร้อมกับมองหน้าเธออย่างโกรธ ๆ“แล้วยังไง” เธอพูดเสียงเรียบก่อนจะมองหน้าผม“เหอะ ทิพย์ มันไม่ควรรึเปล่าวะ เธอมีแฟนอยู่แล้วนะเว้ย”“มีแฟน? เหอะ ถ้ามีแล้วเหมือนไม่มีก็อย่ามีมันเลยดีกว่า”“หมายความว่ายังไง” เธอไม่ตอบผม แต่เลือกที่จะไปคุยกับไอ้หน้าขาวนั่น เรียกเช็กบิลก่อนที่ทั้งคู่จะพยายามเดินออกไปแต่จังหวะที่เธอจะเดินผ่านผมไปนั้น สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นน้องดาเข้าซะก่อน เธอหันมายิ้มเยาะเย้ยใส่ผมนิดหน่อยแล้วรีบเดินผละไป แต่มีหรือผมจะยอมผมรีบก้าวเดินตามคนทั้งสอง จนเราทั้งสี่คนมาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าความบังเอิญหรือว่าอะไร เพราะรถผมกับรถไอ้หน้าขาวนั่นมันจอดอยู่ข้างกันพอดีเลย!“ทิพย์ คุยกันให้รู้เรื่

    Last Updated : 2025-02-03
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 9

    “ไง ไอ้เหนือ ยังมีสภาพหมาหงอยเหมือนเดิมเลยนะ”ผมมองคนพูด มันคือไอ้วิน“โอ้ ทำไมตาเขียวใส่ฉันขนาดนั้นล่ะ” มันยังกวนผมไม่เลิกโดยการพูดพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้“มึงก็ไปกวนมันไอ้วิน นี่มันโดนน้องทิพย์ทิ้งมาหลายเดือนละ จวบจนเปิดเทอมสองแล้วมันยังตามง้อน้องทิพย์ไม่ได้สักที” รอบนี้เป็นไอ้ดินพูด“จะพูดว่าตามง้อไม่ได้นะไอ้ดิน ในเมื่อหน้ามันน้องเขายังไม่อยากจะมอง แล้วมันจะเอาเวลาที่ไหนตามคุยตามง้อครับ” ไอ้วินพูด“หึ สมน้ำหน้า” ผมมองหน้าพวกมันด้วยความไม่พอใจ“ไม่ต้องมาทำตาขวางใส่พวกกู มึงทำตัวเองทั้งนั้น เตือนไม่ฟัง” คนที่พูดประโยคนี้และประโยคก่อนหน้าไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือไอ้พายุ!พวกมันพูดถูกครับ ตอนนี้ผมพยายามตามตื๊อตามง้อน้ำทิพย์อยู่ แต่ทุกอย่างก็ไม่คืบหน้าเพราะผมติดต่อเธอไม่ได้เลย ไปหาที่คณะเธอก็ไม่เจอเพราะเพื่อนเธอกันเธอออกจากผมตลอด หรือถ้าผมเจอเธอ เธอก็จะเมินเฉยทุกครั้ง ทำราวกับผมเป็นอากาศธาตุ ไม่มีค่าพอที่เธอจะเสวนาด้วยบอกเลยว่าเจ็บ เจ็บโคตร ๆผมพยายามที่จะเข้าไปปรับความเข้าใจกับเธอมาตลอด จนตอนนี้ผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เธอบอกเลิกผม นับตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวเธอได้อ

    Last Updated : 2025-02-03
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 10

    “รักแล้วมึงทำให้เขาเสียใจทำไม ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเขาทำไม ปล่อยมือเขาทำไม ไอ้เหนือนะไอ้เหนือ กูว่ามึงพลาดแล้วล่ะ”“ยังไง” ผมถามไอ้ดินที่ยังคงพูดอะไรกำกวมในประโยคสุดท้าย แต่มันก็ไม่ยอมพูดอะไร ผมจึงเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง“มึงคิดว่ากูอยากปล่อยมือเขาเหรอ เป็นเขาที่บอกเลิกกู เป็นเขาที่หันหลังให้กู ทุกวันนี้กูก็พยายามตามง้อขอคืนดีอยู่พวกมึงก็เห็น”ผมพูดออกมาอย่างอัดอั้นผมยอมรับว่าผมผิดที่ละเลยเธอ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้องดากลับเข้ามาในชีวิตผมใหม่ ๆ ด้วยความที่ผมไปอยู่คอนโดไม่ได้อยู่บ้าน บวกกับการที่ผมเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ทำให้น้องดาติดต่อผมไม่ได้แต่เมื่องานวันเกิดแม่ผมปีนั้นผมกลับไปหาท่านที่บ้าน จึงทำให้เจอน้องดาอยู่ที่นั่นด้วย น้องดาจึงขอแลกเปลี่ยนเบอร์กับผม ผมเห็นว่าเป็นน้องจึงให้ไปด้วยความที่ไม่คิดอะไร หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ติดต่อกันบ่อยขึ้นและก็ทำให้ผมต้องทะเลาะกับน้ำทิพย์อย่างที่ทุกคนทราบนั่นแหละ“กูถึงบอกไงว่ามึงพลาด” ไอ้ดินยังคงพูดประโยคเดิม“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ กูคงไม่ให้มันเป็นแบบนี้หรอก” ผมพูดเศร้า ๆ กับตัวเอง เพื่อน ๆ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พวกมันนั่งเงียบ ๆ เท่านั้น“แล้วมึง

    Last Updated : 2025-02-03
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 11

    ฉันมองคนที่จับข้อมือฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังนิ้วเรียวของฉันที่มีแหวนสวมใส่ไว้อยู่“ปล่อย” ฉันพูดออกไปนิ่ง ๆ พลันสายตาของเขาก็หันกลับมาจ้องตาฉัน ภาพที่สะท้อนในดวงตาของฉันคือ เขากำลังสงสัยและต้องการคำตอบ แต่ถามว่าฉันต้องสนใจไหม บอกเลยว่าไม่อะไรที่ตัดแล้วมันก็ควรตัดเลยสิ แม้ว่าเราจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้างแต่ฉันเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างย่อมดีขึ้น เมื่อนั้นที่เราหันกลับมามองสิ่งที่เราเคยตัดทิ้ง ที่ครั้งหนึ่งทำให้เราเจ็บปวด มันคงกลายเป็นขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้นถึงตอนนี้ฉันจะยังรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มากเท่าช่วงแรกที่ตัดสินใจตัดเขาออกจากชีวิตหรอก“ปล่อย” ฉันพูดออกมาอีกครั้ง เมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยข้อมือฉันเลย“ขอคุยด้วยหน่อย” เขาพูดพร้อมกับทำตาละห้อยส่งมาให้ฉัน“ไม่มีอะไรต้องคุย ปล่อย”“ขอร้อง ขอคุยด้วยหน่อย นะครับ” คราวนี้เขาทั้งพูดขอร้องและส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ แน่นอนว่าท่าทางแบบนี้ของเขามันยังมีผลกับฉันอยู่ แต่ก็นั่นแหละ เมื่อคิดว่าตัดแล้วมันก็ไม่ควรจะแสดงอะไรออกไปใช่หรือไม่ ฉันจึงทำเป็นเพียงมองเขานิ่ง ๆ และยืนยันความต้องการของตัวเองเท่านั้น“ปล่อย”“ทิ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 12

    “โชคดีนะ” ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ กับการตัดสินใจของตัวเอง ก่อนจะพูดกับเขาแล้วหันหลังจะเดินออกไป“เดี๋ยวก่อน ขอถามอะไรหน่อย” ฉันหยุดเท้าที่กำลังจะก้าวไปด้านหน้า แต่ไม่หันหลังมามองเขา เพราะกลัวจะทนมองสายตาที่ไหวระริกนั่นของเขาไม่ไหว“ต้องเลิกกันแบบนี้เจ็บปวดไหม” เขาถามเสียงเบาหวิว คำถามของเขาแน่นอนว่าฉันย่อมเจ็บปวด ฉันเงยหน้ามองบนเพดาน เพื่อที่จะไม่ให้น้ำตาไหลลงมา“อืม เจ็บสิ”“เจ็บแล้วทำไมไม่กลับมา”“เพราะการคบกับนายมันทำให้ฉันเจ็บมากกว่า” จบคำพูดของฉันทุกอย่างก็เงียบอีกครั้ง“แล้ว... แล้วแหวนนั่นล่ะ แหวนอะไร ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้ายด้วย”“แหวนหมั้น!” พูดจบฉันก็ไม่รีรออะไรอีก เพราะตอนนี้น้ำตาที่กักเก็บไว้มันจวนจะไหลเต็มทน ฉันรีบเดินออกจากห้องเรียนรวมก่อนที่เขาจะเห็นความอ่อนแอของฉัน เมื่อออกมาถึงหน้าห้องฉันก็เห็นเพื่อนของฉันและเขายืนรออยู่ฉันมองหน้าเพื่อนทั้งสาม ก่อนที่น้ำตาที่กักเก็บไว้จะพรั่งพรูออกมา“ฮึก ฮือ... แก มันเจ็บ ฮึก” ฉันร้องออกมาอย่างไม่อายใคร เพราะที่ตรงนี้ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากพวกฉัน ส่วนเพื่อนของเขาก็เดินเข้าไปในห้องเหมือนกัน“ไม่เป็นไรนะแก ไม่เป็นไร”“ฮึก ฮือ... ฉันไม

    Last Updated : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 13

    “แหวนหมั้น!” คำคำนี้ติดอยู่ในใจผมมาหลายวันแล้ว นับตั้งแต่วันที่ผมได้พบและคุยกับเธอเมื่อคลาสเรียนรวมครั้งแรกที่ได้ยินเธอพูดคำคำนี้ ใจผมมันชาไปหมด พูดอะไรไม่ออก เพราะมัวแต่ตกใจกับคำพูดของเธอ จนกระทั่งเธอเดินออกไปและเพื่อนผมเข้ามาผมก็ยังไม่รู้ตัวคำว่าแหวนหมั้นมันลอยวนอยู่ในหัวผมไม่จางหาย กระทั่งเพื่อนทั้งสามของผมสะกิดเรียกผมนั่นแหละผมถึงได้รู้สึกตัวเมื่อตั้งสติได้ผมก็ถามพวกมันทั้งสามทันทีว่าพวกมันรู้เรื่องที่น้ำทิพย์หมั้นหมายหรือเปล่า หมั้นกับใครเมื่อไหร่ ตอนที่ผมถามพวกมันผมยังคาดหวังกับคำตอบว่าเธอคงไม่ได้หมั้นจริง ๆ เธอคงแค่โกหกผมเพื่อที่จะไม่ให้ผมเข้าไปข้องเกี่ยวกับชีวิตเธออีกแต่เมื่อได้ฟังคำตอบของพวกมันความหวังของผมก็ดับวูบ ใจผมตกลงไปที่ตาตุ่ม ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้ว่าเธอหมั้นกับใคร แต่พวกหมั้นบอกได้ว่าเธอหมั้นแล้วจริง ๆ เพราะเรื่องนี้แฟนของพวกมันทั้งสามคนเพิ่งเป็นคนบอกพวกมันก่อนที่พวกมันจะเข้ามาหาผมด้านในห้องเองผมจำได้ว่า ตอนนั้นผมเหม่อลอยไปทันทีที่ได้ยินคำตอบจากทั้งสามทั้งนี้พวกมันยังขอโทษผมด้วยที่ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้ และไม่ได้บอกเรื่องการหมั้นหมายของน้ำทิพย์ เพราะมันก็เพิ่งร

    Last Updated : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 14

    “พวกกูมีคำถาม” ผมมองหน้าไอ้ดินพร้อมกับเลิกคิวให้หนึ่งข้าง“วันที่มึงเจอน้องทิพย์วันสุดท้าย มึงได้ขอโอกาสจากน้องเขารึเปล่า”“แน่นอนสิ ถามอะไรโง่ ๆ”“น้องเข้าไม่ให้ใช่ไหม”“อืม แต่ว่า”“แต่ว่าอะไร”“เธอบอกว่าถ้ากูยังไม่เลิกยุ่งกับน้องดา เธอก็ไม่มีวันกลับมา” ผมพูดพร้อมกับทำท่าคิดหนัก“เหอะ เห็นท่าทางมึงกูก็รู้แล้วว่ามึงยังตัดสินใจไม่ได้” ผมเหลือบสายตาไปมองไอ้วินเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร“มึงลองเปิดหูเปิดตาอย่างที่พวกกูเคยบอก มึงจะเห็นในสิ่งที่พวกกูและน้อง ๆ เห็นว่าคนที่มึงรักและเอ็นดูเหมือนน้องสาวมันไม่ได้ใสอย่างที่มึงคิด”“...”“เอาละ พวกกูแค่มาดูมึงเท่านั้น จากนี้มึงก็ตัดสินใจเองแล้วกัน พวกกูกลับก่อน”หลังจากที่เพื่อน ๆ ผมกลับไป ผมก็มาคิดตามคำพูดของไอ้พายุ และเพื่อเป็นการไม่ปรักปรำหรือใส่ร้ายน้องดา ผมจะยังคงไม่เชื่อใครทั้งนั้นจนกว่าจะเห็นด้วยตาหรือได้ยินด้วยหูของตัวเองผมพยักหน้าพอใจกับความคิดของตัวเอง แล้วกดเข้าไปอ่านข้อความล่าสุดในกล่องข้อความไลน์ที่น้องดาส่งมาทันทีในข้อความบอกว่าให้ผมช่วยไปรับเธอที่ห้าง แถมยังบอกผมอีกว่ามีอะไรบางอย่างอยากให้ผมดู เห็นดังนั้นผมก็กดตกลงส่งไปหาเธอทันที

    Last Updated : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 15

    หลังจากวันที่ฉันตัดขาดกับเขาครั้งนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย แต่มันก็ดีแล้วล่ะ ในเมื่อเลิกกันแล้วจะยากเจอไปทำไม จริงไหม?กริ๊ง... กริ๊ง...“สวัสดีค่ะพี่ไฟ”‘สวัสดีครับน้องทิพย์ วันนี้เรามาเจอกันหน่อยดีไหมครับ’“ได้ค่ะ ว่าแต่เราจะเจอกันที่ไหนดีคะ”‘อืม...เอาเป็นคาเฟ่แถว ๆ คอนโดทิพย์ก็ได้’“โอเคค่ะ ไว้เจอกันนะคะ บายค่ะ” พูดจบก็วางสายไปคนที่โทรเข้ามาคนนี้คือพี่ไฟหรืออัคคี เขาเป็นคู่หมั้นคู่หมายของฉัน เราสองคนเพิ่งตกลงหมั้นหมายกันเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ไม่ได้หมั้นแบบเป็นทางการนะ การหมั้นครั้งนี้รู้กันเพียงในครอบครัวและเพื่อนสาวทั้งสามของฉันเท่านั้น ที่เราตกลงหมั้นกันเพราะว่ามันมีเหตุจำเป็น เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลาทุกคนก็จะรู้เองส่วนพี่วีที่ฉันไปกินข้าวด้วย ที่พี่เหนือหรือนายเหนือนทีไปพบและทะเลาะกันวันนั้น ความจริงแล้วมันก็ไม่มีอะไร เรารู้จักและสนิทกันในระดับหนึ่ง จึงไปด้วยกันเฉย ๆ“พี่ไฟโทรมาชวนไปไหนอะ ไปด้วยดิ” เป็นน้ำพิ้งค์ที่เอ่ยถาม“ไปได้เหรอ หลัวแกอะเขาไม่ห้ามไง”ฉันถามอย่างหยอกล้อ เพราะช่วงนี้ไม่รู้ว่าพี่วินเป็นอะไรแต่ค่อนข้างที่จะหวงน้ำพิ้งค์มาก วันวันนี่แทบจะเกาะติดเพื่อนฉันเหมือน

    Last Updated : 2025-02-10

Latest chapter

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 62 จบ

    ฉันผละออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของพี่เหนือ ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขที่สุดตอนแรกที่เขาบอกว่าอย่าร้อง ฉันก็กะว่าจะไม่ร้องไห้นั่นแหละ แต่ใครมันจะไปอดทนได้เล่า ในเมื่อเขาน่ารักขนาดนี้คิดดูสิบรรยากาศภายในร้าน และอะไรต่าง ๆ ที่เขาทำวันนี้เป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงทั้งสิ้นว่าเขาจะทำ เพราะสิ่งที่เขาทำวันนี้มันตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิญพี่เหนือไม่ใช่คนที่โรแมนติก เขาค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ยอมคน สายเอาแต่ใจ ที่สำคัญเขาหื่นมาก เพราะฉะนั้นการจัดตกแต่งร้านแบบน่ารัก ๆ ที่ฉันเห็นนี่มันสวนทางกับพี่เหนืออย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ที่ฉันเดินลงจากรถและเดินเข้ามา สองข้างทางล้วนประดับประดาไปด้วยหลอดไฟเล็ก ๆ น่ารัก ๆ หน้าประตูถูกประดับไปด้วยดอกไม้ที่ฉันชื่นชอบ ยิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน ฉันยิ่งรู้สึกประทับใจ เพราะมันเต็มไปด้วยดอกไม้ ลูกโป่ง และรูปของเรา ที่ขาดไม่ได้เลยคือป้ายคำว่า‘Anniversary 2 years’หลังจากที่เห็นทุกอย่างแล้ว และคิดถึงนิสัยของเขามันเลยทำให้ฉันตื้นตันใจจนอยากร้องออกมาแต่ก็ต้องกลั้นไว้เมื่อเขาห้าม แต่พอฟังเขาพูดประโยคพวกนั้นจบฉันก็ไม่สามารถกักเก็บความรู้สึ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 61

    “พี่เหนือ นี่จะพาทิพย์ไปไหนคะ ไม่เห็นบอกเลยอยู่ดี ๆ ก็บอกให้แต่งตัว”น้ำทิพย์ถามผม เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของเรา ผมจึงจะพาเธอไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่คอนโดครับ ผมกับน้ำทิพย์กลับมาจากบ้านสวนได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว กลับมากรุงเทพเราก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอ้อ ผมไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเวลานะครับ เพื่อเป็นการให้เกียรติเธอและทางครอบครัว ผมจะมานอนกับเธอที่ห้องหรือให้เธอไปนอนที่ห้องกับผมแค่อาทิตย์ละสามวันเท่านั้นนอกจากนี้ผมยังให้คุณแม่ของผมคุยเรื่องการหมั้นหมายของผมกับเธอไปคร่าว ๆ ทางโทรศัพท์กับคุณพ่อคุณแม่ของเธอแล้วด้วยก่อนผมจะกลับกรุงเทพนั่นเองซึ่งผลจากการที่ผู้ใหญ่คุยกันเรื่องนี้นั้นได้ข้อสรุปว่า หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่กลับกรุงเทพแล้ว พวกท่านจะคุยเรื่องนี้และข้อตกลงกันต่าง ๆ กันอีกที ซึ่งผมและน้ำทิพย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะถือว่าได้บอกความต้องการของตัวเองออกไปแล้ว ต่อไปก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขาคุยและตกลงกัน“อ้าวพี่เหนือถามไม่ได้ยินเหรอคะ จะไปไหน” น้ำทิพย์ถามผมหน้ายุ่ง“พาไปที่ที่สำคัญของเราสองคนไงครับ”ผมตอบเธอพร้อมกับยิ้ม น้ำทิพย์ย่นคิ้วคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า“จะพา

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 60

    ระหว่างทาผมก็ถามพนักงานชายไปด้วยว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคำตอบที่ได้รับทำให้ผมตาโตด้วยความไม่เชื่อ เพราะพนักงานคนนั้นบอกว่าถ้าทาแป้งและขี้เถ้าแล้วมดแดงมันจะไม่กัด เป็นความเชื่อที่คนโบราณทำสืบต่อกันมา ซึ่งพอเวลาผ่านไปการทำแบบนี้ก็เริ่มไม่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพนักงานของที่นี่เขาค่อนข้างจะเชื่อคำคนโบราณจึงได้เอามาทำที่ไร่นี้ พอว่าที่พ่อตามาเห็นและรู้ว่าได้ผลจึงไม่ได้ห้ามตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะได้ผลจริง แต่พอขึ้นไปบนต้นมะม่วงแล้วก็ต้องชะงัก เพราะสิ่งที่ผมไม่เชื่อกลับสามารถได้ผลดี แต่ใช่ว่าจะไม่โดนกัดเลย มันก็มีกัดบ้างแต่ไม่เท่ากับสามต้นแรกที่ผมไม่ได้ทาพวกมันแล้วขึ้นไปเก็บเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล สำหรับผมแล้วผมเชื่อครับเพราะมันใช้ได้จริงหลังจากเก็บมะม่วงสองต้นสุดท้ายเสร็จแล้วผมกับว่าที่พ่อตาก็กลับมาอาบน้ำที่บ้านก่อนจะมานั่งทานข้าวที่ถูกเตรียมไว้แล้วมื้ออาหารกลางวันเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ไม่มีเสียงกระทบกระทั่งกันไปมาของผมและคุณพ่อของน้ำทิพย์ถึงผมจะค่อนข้างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะไม่ต้องการจุดฉนวนให้ตัวเองโดนเล่นง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 59

    หลังจากที่เมื่อวานได้เปิดอกเปิดใจคุยกับคุณพ่อของน้ำทิพย์แล้ว วันนี้ผมก็ต้องมาทำงานใช้แรงงาน เพราะว่าที่พ่อตาท่านบอกว่าจะมานั่งกินนอนกินไม่ได้ จะมาอยู่ก็ต้องมาช่วยกันทำงาน แม้ว่าที่บ้านสวนจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของพวกท่านก็ตามแต่พวกท่านก็ไม่ได้พักอย่างที่ใครคิด การพักผ่อนของพวกท่านคือการใช้ชีวิตชาวสวน วันนี้ผมจึงต้องมายืนสอยมะม่วงบ้าง ปีนต้นมะม่วงจนมดแดงกัดอยู่แบบนี้ไงครับ“ใช่ ๆ พวงนั้นแหละ ลูกมันดก ขนาดกำลังกิน”เสียงของว่าที่พ่อตาตะโกนส่งมาไม่ขาดสาย ในขณะที่ผมทั้งตัดพวงมะม่วง ทั้งปัดป่ายมดแดงที่ขึ้นอยู่ตามตัวและก็ไอ้มดแดงที่กำลังกัดผมอยู่นี่แหละ ที่ผมกินไข่ของพวกมันเมื่อวานนี้เห็นแบบนี้ก็อดยอมรับนับถือคนงานไม่ได้ที่ต้องมายืนแหงนคอสอยรังของมดแดง เพื่อที่จะนำไข่ของมันไปประกอบอาหารขนาดผมปีนต้นไม้เพื่อเก็บมะม่วงยังโดนกัดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่ากว่าพวกเขาจะสอยได้แต่ละรังกว่าจะได้ไข่มาต้องลำบากกันขนาดไหน“มัวคิดอะไรอยู่ บอกเอาพวงนั้น พวงนั้น”“ผมก็ตัดอยู่นี่ไงครับว่าที่พ่อตา อย่าเร่งสิครับ มดมันกัดผมอยู่” ผมตะโกนโต้กลับกับคนที่ยืนชี้นิ้วสั่งผมอยู่ด้านล่าง“ผิวหนังด้าน ๆ อย่าง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 58

    บ้านสวนของน้ำทิพย์มีคนอยู่ไม่มากนัก จะมีแค่คุณพ่อคุณแม่ของเธอที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจตามเวลาที่สะดวก มีน้ำทิพย์ และคนสวนที่ดูแลที่นี่เพียงสองคน คนดูแลบ้านอีกสองคน หลัก ๆ แล้วคนที่อยู่ที่นี่แค่สี่คนเท่านั้น ส่วนลุงเชิดกับป้าชมนั้นเป็นสามีภรรยากัน ลุงเชิดเป็นคนขับรถส่วนป้าชมเป็นหัวหน้าแม่บ้านและเป็นคนสนิทของคุณแม่ของน้ำทิพย์ด้วยเช่นกันอ้อ ผมลืมบอกไปที่เรียกว่าบ้านสวน เพราะบริเวณรอบบ้านของเธอล้วนปลูกผักผลไม้ทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเป็นที่ดินด้านหลังบ้านที่ถัดออกไปอีกไม่ไกล มีเพียงคลองส่งน้ำเล็ก ๆ ขวางกั้นเท่านั้นเพียงก้าวข้าวสะพานไม้ที่ทำไว้ก็จะเจอกับสวนมะม่วงที่ให้คนงานลงปลูกไว้ขึ้นเต็มไปหมดผมโชคดีที่หน้านี้มะม่วงกำลังติดลูก คิดว่าคงจะได้เดินไปชมสวนของบ้านเธอแน่ ๆ ครับ เพราะนอกจากจะปลูกไว้กินแล้วเนี่ย ทางบ้านของน้ำทิพย์ยังส่งมะม่วงให้ตลาดในตัวอำเภอเพื่อขายอีกด้วย“เหม่ออะไรอยู่ ไปได้แล้วลูกเมียฉันรอ ไร้มารยาทจริง”ผมหลุดจากความนึกคิดของตัวเองแล้วเขม่นตามองว่าที่พ่อตาที่เดินนำออกไปไกลแล้ว จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินตามท่านไปบ้าง“ขอโทษที่มาช้าครับ” ผมรีบพูดทันที เพราะคุณแม่ของน้ำทิพย์กำลังนั่งรออยู่จ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 57

    “เจ้าบ้านเขาไม่ต้อนรับก็ยังจะหน้าด้านอยู่อีก” คำกล่าวทักทายแรกหลังจากที่ออกมาจากห้องพัก ก็โดนพ่อตากระแหนะกระแหนใส่ซะแล้ว“คุณพ่อครับ ถ้าไม่เต็มใจต้อนรับผมจะได้พักที่ห้องข้าง ๆ ทิพย์เหรอครับ”“ใครพ่อแก!”“อา... ลืมไปว่าไม่ใช่ งั้นคงต้องเรียกว่า...”“ว่าอะไร”“พ่อตา”“ไอ้เหนือ!”ผมพูดเสร็จก็รีบพาตัวเองเดินลงมายังชั้นล่างของบ้านทันที โดยไม่สนใจคนที่กำลังทำหน้าราวกับจะฆ่าคนของคุณพ่อตาสักนิด แถมยังมียิ้มให้ก่อนจะเดินออกมาด้วย“คุณนทีเป็นอะไรคะ เสียงดังมาถึงข้างล่าง” คุณแม่ของน้ำทิพย์เดินมาชะเง้อขอถามตรงตีนบันได ซึ่งสวนกับที่ผมเดินลงไปพอดีผมยิ้มให้ท่านแล้วเดินจากมา แต่พอมาถึงโซฟาก็เจอน้ำทิพย์ยืนกอดอกขมวดคิ้วอยู่“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“ทิพย์ต่างหากที่ควรถามพี่เหนือว่าเป็นอะไรถึงได้กวนคุณพ่อ จนคุณพ่อเสียงดังแบบนี้”“พี่เปล่าทำอะไรสักหน่อยนะครับ” ผมตีหน้าซื่อตาใสไม่ยอมรับ“พี่เหนือ เราคบกันอยู่แล้วทำไมทิพย์จะไม่รู้สันดาน เอ๊ย!นิสัยของพี่เหนือล่ะคะ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงหน่อยสิคะ”“โธ่... ที่รักก็คุณพ่อของทิพย์ท่านชอบว่าพี่นี่”“แต่ถ้าพี่เหนือยอมท่านปล่อยเวลาไปสักพัก ให้ท่านได้มีเวลายอมร

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 56

    ปัง!“กรี๊ดดด! หยุดค่ะคุณพ่อ หยุดก่อน”ปัง!“แกหลบไปยายทิพย์ หลบไปก่อนพ่อจะเอาเลือดหัวมันออก”“ถ้าเอาแค่เลือดหัวผมออกไม่ต้องใช้ปืนก็ได้ครับ เอาเป็นไม้หรืออย่างอื่นก็ได้ เป็นปืนแบบนี้ถ้าคุณพ่อพลาดยิงผมตายขึ้นมานอกจากจะติดคุกแล้ว น้ำทิพย์ยังจะเสียใจอีกนะครับ”“ฮึ่ม ไม่โว้ย ลูกสาวฉันไม่เสียใจนานหรอก เดี๋ยวฉันหาผู้ชายคนใหม่มาดามใจให้เอง แล้วก็นะฉันไม่ใช่พ่อแก!”คุณพ่อของน้ำทิพย์พูดก่อนจะทำท่ายกปืนเล็กอีกครั้ง แต่มีหรือที่ผมจะยอม ผมรีบเอาตัวน้ำทิพย์เข้ามาบังตัวผมไว้ แล้วโผล่หน้าไปท้าทายท่านอีกครั้ง“พี่เหนือ ทิพย์บอกแล้วไงว่าอย่าไปตีรวนท่าน”“ก็ดูคุณพ่อทิพย์สิ มาถึงยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านก็เอาปืนมาไล่ยิงกันซะแล้ว แบบนี้จะให้พี่อยู่เฉย ๆ ได้ไงครับ” ผมพูดอย่างไม่ยินยอม พร้อมกับหลบอยู่หลังเธอใช่แล้วล่ะครับ ตั้งแต่มาถึงและลงจากรถขณะที่ผมกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน คุณพ่อของน้ำทิพย์ก็วิ่งออกมาพร้อมปืนยาวหนึ่งกระบอกและยิงทันทียิงแบบไม่สนใจด้วยว่าจะถูกหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าท่านคงไม่กล้ายิงตรง ๆ นอกจากยิงขู่ ผมถึงได้กล้าตีฝีปากกับท่านนั่นเอง“มึง! ไอ้เหนือ ตายซะเถอะ”“โอ๊ย หยุดได้แล้วค่ะคุณ พอไ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 55

    “บอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับว่าพี่ขอไปด้วย” “พี่เหนือจะไปทำไมคะ” ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของผม น้ำทิพย์ก็ถามกลับมาทันที พร้อมมองผมขึ้น ๆ ลง ๆ“จะไปบ้านเมีย”“พี่เหนือ”“ก็พี่อยากไปด้วยนี่ พี่อยากเจอคุณพ่อคุณแม่ของทิพย์นี่ครับ ทิพย์ก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่พี่แล้ว ให้พี่ไปเจอพวกท่านบ้างสิเราจะได้เท่าเทียมกัน”“แต่คุณพ่อของทิพย์ไม่ชอบพี่เหนือ”“ก็ยิ่งไม่ชอบนั่นแหละครับ พี่ถึงต้องไป”ผมพูดออกมาด้วยความจริงจัง และใช่ครับ คุณพ่อของเธอไม่ค่อยชอบผม ย้อนกลับไปสามวันที่แล้ว ที่ผมพาน้ำทิพย์และคนอื่น ๆ ไปเที่ยวน้ำตกวันที่สองของการอยู่ที่นั่น คุณพ่อของเธอก็โทรเข้ามา แต่บังเอิญว่าน้ำทิพย์หลับอยู่ และผมก็อยู่ตรงนั้นพอดี จึงได้ถือวิสาสะรับสายท่านไป แค่ท่านได้ยินเสียงผม ก็โวยวายออกมายกใหญ่เลยครับผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ต่อว่าท่านกลับหรอกนะครับ ผมยังคงรู้จักมารยาท แต่ว่าการตอบกลับของผมค่อนข้างที่จะรวนท่านนิดหน่อยจนเดือดร้อนให้คุณแม่ของเธอเข้ามาห้ามปรามและรับโทรศัพท์ไปคุยเอง เราถึงพูดกันรู้เรื่อง ความว่าคุณแม่และพ่อของเธอไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่เดินทางไปบ้านสวน ให้น้ำทิพย์ตามไปที่นั่นเพื่อพักผ่อน เพราะเห็

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 54

    “แค่ก แค่ก กดหัวทำไมหายใจไม่ออก” ฉันไอหน้าดำหน้าแดง ส่วนคนที่ถูกต่อว่าก็ทำเพียงแค่ส่งสายตาสำนึกผิดมาให้“ขอโทษครับ”“เหอะ” ฉันส่งเสียงอย่างไม่พอใจ แล้วทำท่าจะลุกหนี“ไปไหนครับ” เขาคว้าจับแขนฉันไว้ โดยมีสายตาไม่พอใจของฉันจับจ้องอยู่“เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ ก็ไปอาบน้ำสิ ถามมาได้” ฉันที่ไม่พอใจกับการที่ถูกเขากระแทกน้องชายเข้าปากอยู่แล้วก็ตอบกลับเขาไปอย่างอารมณ์เสีย“หืม ใครบอก เมื่อกี้แค่ยกแรกครับ เขาเรียกว่าของกินเล่น จากนี้ต่างหากของจริง”“ไม่”“ไม่ทันแล้วครับ ยังไงวันนี้ทิพย์ก็หนีไม่รอด”“ไม่นะพี่เหนือ มะ อื้อ”ฉันตกใจตาเบิกโพลง คำพูดที่ฉันจะพูดไม่ถูกพูดออกมาด้วยซ้ำ เพราะพี่เหนือที่ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน อยู่ดี ๆ ก็จับฉันนั่งตักและแทงน้องชายของเขาเข้ามาทีเดียวมิดโคนตอนนี้ฉันทั้งเสียว ทั้งจุก ทำได้แค่กอดเขาแน่น ๆ เท่านั้นเพื่อหวังว่ามันจะระบายอาการพวกนี้ออกไปได้บ้างพี่เหนือก็เหมือนรู้ เขาไม่ได้ขยับตัว แต่กลับยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังปลอบโยนฉันอยู่เรานั่งกันแบบนั้นอยู่ราว ๆ สองนาที ก่อนที่พี่เหนือจะเริ่มขยับตัว มือที่ลูบไล้แผ่นหลังบางของฉันทีแรกก็กลับกลายเป็นบีบขยำเนื้อหนังด้านหลัง ก่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status