แชร์

บทที่ 10

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-03 00:34:00

“รักแล้วมึงทำให้เขาเสียใจทำไม ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเขาทำไม ปล่อยมือเขาทำไม ไอ้เหนือนะไอ้เหนือ กูว่ามึงพลาดแล้วล่ะ”

“ยังไง” ผมถามไอ้ดินที่ยังคงพูดอะไรกำกวมในประโยคสุดท้าย แต่มันก็ไม่ยอมพูดอะไร ผมจึงเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง

“มึงคิดว่ากูอยากปล่อยมือเขาเหรอ เป็นเขาที่บอกเลิกกู เป็นเขาที่หันหลังให้กู ทุกวันนี้กูก็พยายามตามง้อขอคืนดีอยู่พวกมึงก็เห็น”ผมพูดออกมาอย่างอัดอั้น

ผมยอมรับว่าผมผิดที่ละเลยเธอ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้องดากลับเข้ามาในชีวิตผมใหม่ ๆ ด้วยความที่ผมไปอยู่คอนโดไม่ได้อยู่บ้าน บวกกับการที่ผมเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ทำให้น้องดาติดต่อผมไม่ได้

แต่เมื่องานวันเกิดแม่ผมปีนั้นผมกลับไปหาท่านที่บ้าน จึงทำให้เจอน้องดาอยู่ที่นั่นด้วย น้องดาจึงขอแลกเปลี่ยนเบอร์กับผม ผมเห็นว่าเป็นน้องจึงให้ไปด้วยความที่ไม่คิดอะไร หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ติดต่อกันบ่อยขึ้นและก็ทำให้ผมต้องทะเลาะกับน้ำทิพย์อย่างที่ทุกคนทราบนั่นแหละ

“กูถึงบอกไงว่ามึงพลาด” ไอ้ดินยังคงพูดประโยคเดิม

“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ กูคงไม่ให้มันเป็นแบบนี้หรอก” ผมพูดเศร้า ๆ กับตัวเอง เพื่อน ๆ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พวกมันนั่งเงียบ ๆ เท่านั้น

“แล้วมึงจะทำยังไงต่อไป” ไอ้วินเป็นคนพูด ซึ่งเพื่อนอีกสองคนที่เหลือก็มองผมด้วยสายตาตั้งคำถามไม่แพ้กัน

“ถามได้ กูก็จะไปทวงของของกูคืนสิ” ผมตอบพวกมันด้วยความไม่พอใจ ช่างกล้าตั้งคำถามกับผมจริง ๆ ถามไม่คิด!

“มึงมั่นใจว่าจะทวงคืนมาได้” ผมพยักหน้าให้ไอ้วิน

“แต่น้องทิพย์บอกเลิกมึงนะ”

“แล้วไง ของของกูยังไงก็เป็นของกูอยู่วันยังค่ำ แล้วที่สำคัญน้องมันบอกเลิกกูแต่ไม่ได้หมายความว่ากูจะเลิกด้วยสักหน่อยนี่” ผมตอบไอ้ดินไปตามที่คิด

“หน้าด้านจริง ๆ” ผมตวัดสายตาไปมองไอ้พายุแล้วสะบัดหน้าหนีมัน

เหอะ ผมควรน้อยใจไหม เพื่อนแต่ละคนช่างให้กำลังใจผมกันเหลือเกิน

“หวังว่าจะทันนะไอ้เหนือ” ผมขมวดคิ้วมองไอ้ดินด้วยความไม่เข้าใจกับคำพูดของมัน

“พวกมึงหมายความว่ายังไง มีอะไรก็บอกกูมาตรง ๆ ไม่ใช่พูดให้กูสงสัยและไม่เข้าใจแบบนี้”

ผมถามพวกมันด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เพราะพวกมันพูดกำกวมกับผมมาสองครั้งแล้ว เหมือนพวกมันรู้อะไรแต่พวกมันไม่บอกผม

“เอาไว้มึงจะรู้เอง พวกกูไม่พูดหรอก แล้วก็นะ หวังว่ามึงจะมีสติ กูกลับละ ฝันดีนะมึงไอ้เหนือ”

ไอ้วินพูดจบพวกมันก็ออกจากห้องผมไป    

เข้าใจถูกแล้ว พวกเราทั้งหมดเข้ามาพูดคุยกันที่คอนโดของผม เมื่อพวกมันได้คำตอบที่มันอยากรู้แล้วก็แยกย้ายกลับไปหาคนที่พวกมันรัก เหอะ อิจฉาจริง!

ตอนนี้ภายในห้องจึงเหลือผมอยู่คนเดียว...

เมื่อไม่รู้จะทำอะไร จึงตัดสินใจเข้าไปอาบน้ำก่อนจะกลับออกมานอนที่เตียงกว้างของผม มองไปที่ด้านข้างของเตียงที่เคยมีร่างของใครบางคนนอนอยู่ตรงนี้ก็ยิ่งคิดถึงคืนวันเก่า ๆ วันที่เรายังคบกันอยู่

แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะไม่ว่าอย่างไรผมก็จะทวงเธอกลับมาอยู่ข้างกายให้ได้ ต่อให้เธอจะบอกเลิกอีกกี่พันครั้งก็ตาม

ก็อย่างที่ผมเคยพูดกับเพื่อนไป เธอบอกเลิกผมใช่ว่าผมจะเลิกกับเธอสักหน่อย เป็นเธอที่คิดเองเออเอง

ตอนนี้ก็ให้เวลาเธอได้อิสระกับชีวิตบ้าง เพราะถ้าผมได้เธอคืนกลับมาเมื่อไหร่ วันนั้นผมจะขังเธอไว้ติดกับตัวเองแน่ ผมรับรอง!

คิดได้ดังนั้นจึงหลับไปด้วยความสบายใจ...

เช้าวันใหม่

ผมตื่นขึ้นมาด้วยความสบายใจและสดชื่นเป็นอย่างมาก เพราะผมมั่นใจว่าวันนี้ผมต้องเจอกับน้ำทิพย์อย่างแน่นอน

ผมอาบน้ำกินข้าวก่อนออกจากคอนโดและขับรถตรงไปที่มหาวิทยาลัยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผมไม่ได้บ้า เพียงแต่ว่ามันมีความสุขที่กำลังจะได้เจอคนที่ผมรักและคิดถึงเท่านั้นเอง

ถามว่าทำไมผมถึงมั่นใจว่าวันนี้จะเจอเธอ เพราะวันนี้เธอลงเรียนวิชาเลือกไว้ และผมก็เลือกลงด้วยเช่นกัน แม้ว่าผมจะอยู่ปี 4 ที่ต้องออกฝึกงาน แต่อย่าลืมนะว่าปี 4 ก็ยังคงมีคาบวิชาที่ต้องเข้าเรียนเช่นกัน

คาบวิชาเรียนที่ว่าเป็นการเรียนรวมไม่จำกัดระดับชั้น เป็นวิชาเสรี และผมรู้มาว่าในเทอมสองนี้ น้ำทิพย์และเพื่อนได้ลงเรียนวิชานี้ด้วย ซึ่งผมก็ตัดสินใจลงตาม อ้อ ไม่ใช่แค่ผมหรอกนะที่ลงวิชานี้ เพื่อนอีกสามตัวของผมก็เช่นกัน ถึงบางคนคะแนนเกรดจะครบแล้วบ้าง แต่ก็ยังเลือกลงเรียนอยู่ดี

เพราะอะไร? คำตอบคือตามมาเฝ้าแฟน!

เมื่อถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ผมจึงได้เดินไปที่ห้องเรียนดังกล่าว ภายในห้องยังเรียนมีนักศึกษาอยู่สามสี่คน เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาสอนคนยังไม่มาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ผมเลือกไปนั่งอยู่ด้านหลังห้องมุมลับสายตาสักหน่อย แต่จับจ้องไปทางเข้าประตูได้ง่าย เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการมองหาคนที่ผมแสนคิดถึง

เวลาล่วงเลยเกือบจะถึงเวลาสอน ในที่สุดคนที่ผมเฝ้ารอก็มาถึง เธอเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนผมและเพื่อนเธอ แน่นอนว่าเธอไม่เห็นผม หรือเห็นแต่ไม่สนใจผมก็ไม่สามารถทราบได้

กลุ่มของพวกเธอทั้งหมดไปนั่งช่วงกลางห้อง ผมเห็นข้าง ๆ เธอมีโต๊ะว่างอยู่ จึงได้ทำเนียนเดินเข้าไปนั่งและรวมกลุ่มด้วย

แต่ถึงแม้ว่าผมจะมานั่งอยู่ข้าง ๆ เธอแล้ว เธอก็ยังคงไม่สนใจผมอยู่ดี ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกเสียใจนิดหน่อย ย้ำว่านิดหน่อย แค่รู้สึกน้อยใจเล็ก ๆ เท่านั้น

เวลาดำเนินไปเรื่อย ๆ จนอาจารย์ผู้สอนเข้ามาและสอนจนหมดคาบ ผมก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากเธอ!

หมับ!

และเมื่อเห็นว่าเธอลุกจากโต๊ะและกำลังจะเดินออกไปหลังจากที่อาจารย์สอนจบแล้ว ผมจึงได้คว้าหมับที่ข้อมือของเธอ เธอหันมามองผมด้วยสายตาว่างเปล่าเรียบเฉย ใจผมกระตุกวูบ แต่ก็ยังพยายามทำใจดีสู้เสือ

จนกระทั่งสายตาเห็นบางอย่างสวมอยู่ที่นิ้วของเธอ นิ้วนางข้างซ้าย!

คำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกไปกลับถูกกลืนลงลำคออย่างรวดเร็ว มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอสวมแหวนนิ้วนางข้างซ้าย นี่ผมพลาดอะไรไป...  

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 11

    ฉันมองคนที่จับข้อมือฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังนิ้วเรียวของฉันที่มีแหวนสวมใส่ไว้อยู่“ปล่อย” ฉันพูดออกไปนิ่ง ๆ พลันสายตาของเขาก็หันกลับมาจ้องตาฉัน ภาพที่สะท้อนในดวงตาของฉันคือ เขากำลังสงสัยและต้องการคำตอบ แต่ถามว่าฉันต้องสนใจไหม บอกเลยว่าไม่อะไรที่ตัดแล้วมันก็ควรตัดเลยสิ แม้ว่าเราจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้างแต่ฉันเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างย่อมดีขึ้น เมื่อนั้นที่เราหันกลับมามองสิ่งที่เราเคยตัดทิ้ง ที่ครั้งหนึ่งทำให้เราเจ็บปวด มันคงกลายเป็นขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้นถึงตอนนี้ฉันจะยังรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มากเท่าช่วงแรกที่ตัดสินใจตัดเขาออกจากชีวิตหรอก“ปล่อย” ฉันพูดออกมาอีกครั้ง เมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยข้อมือฉันเลย“ขอคุยด้วยหน่อย” เขาพูดพร้อมกับทำตาละห้อยส่งมาให้ฉัน“ไม่มีอะไรต้องคุย ปล่อย”“ขอร้อง ขอคุยด้วยหน่อย นะครับ” คราวนี้เขาทั้งพูดขอร้องและส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ แน่นอนว่าท่าทางแบบนี้ของเขามันยังมีผลกับฉันอยู่ แต่ก็นั่นแหละ เมื่อคิดว่าตัดแล้วมันก็ไม่ควรจะแสดงอะไรออกไปใช่หรือไม่ ฉันจึงทำเป็นเพียงมองเขานิ่ง ๆ และยืนยันความต้องการของตัวเองเท่านั้น“ปล่อย”“ทิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 12

    “โชคดีนะ” ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ กับการตัดสินใจของตัวเอง ก่อนจะพูดกับเขาแล้วหันหลังจะเดินออกไป“เดี๋ยวก่อน ขอถามอะไรหน่อย” ฉันหยุดเท้าที่กำลังจะก้าวไปด้านหน้า แต่ไม่หันหลังมามองเขา เพราะกลัวจะทนมองสายตาที่ไหวระริกนั่นของเขาไม่ไหว“ต้องเลิกกันแบบนี้เจ็บปวดไหม” เขาถามเสียงเบาหวิว คำถามของเขาแน่นอนว่าฉันย่อมเจ็บปวด ฉันเงยหน้ามองบนเพดาน เพื่อที่จะไม่ให้น้ำตาไหลลงมา“อืม เจ็บสิ”“เจ็บแล้วทำไมไม่กลับมา”“เพราะการคบกับนายมันทำให้ฉันเจ็บมากกว่า” จบคำพูดของฉันทุกอย่างก็เงียบอีกครั้ง“แล้ว... แล้วแหวนนั่นล่ะ แหวนอะไร ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้ายด้วย”“แหวนหมั้น!” พูดจบฉันก็ไม่รีรออะไรอีก เพราะตอนนี้น้ำตาที่กักเก็บไว้มันจวนจะไหลเต็มทน ฉันรีบเดินออกจากห้องเรียนรวมก่อนที่เขาจะเห็นความอ่อนแอของฉัน เมื่อออกมาถึงหน้าห้องฉันก็เห็นเพื่อนของฉันและเขายืนรออยู่ฉันมองหน้าเพื่อนทั้งสาม ก่อนที่น้ำตาที่กักเก็บไว้จะพรั่งพรูออกมา“ฮึก ฮือ... แก มันเจ็บ ฮึก” ฉันร้องออกมาอย่างไม่อายใคร เพราะที่ตรงนี้ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากพวกฉัน ส่วนเพื่อนของเขาก็เดินเข้าไปในห้องเหมือนกัน“ไม่เป็นไรนะแก ไม่เป็นไร”“ฮึก ฮือ... ฉันไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 13

    “แหวนหมั้น!” คำคำนี้ติดอยู่ในใจผมมาหลายวันแล้ว นับตั้งแต่วันที่ผมได้พบและคุยกับเธอเมื่อคลาสเรียนรวมครั้งแรกที่ได้ยินเธอพูดคำคำนี้ ใจผมมันชาไปหมด พูดอะไรไม่ออก เพราะมัวแต่ตกใจกับคำพูดของเธอ จนกระทั่งเธอเดินออกไปและเพื่อนผมเข้ามาผมก็ยังไม่รู้ตัวคำว่าแหวนหมั้นมันลอยวนอยู่ในหัวผมไม่จางหาย กระทั่งเพื่อนทั้งสามของผมสะกิดเรียกผมนั่นแหละผมถึงได้รู้สึกตัวเมื่อตั้งสติได้ผมก็ถามพวกมันทั้งสามทันทีว่าพวกมันรู้เรื่องที่น้ำทิพย์หมั้นหมายหรือเปล่า หมั้นกับใครเมื่อไหร่ ตอนที่ผมถามพวกมันผมยังคาดหวังกับคำตอบว่าเธอคงไม่ได้หมั้นจริง ๆ เธอคงแค่โกหกผมเพื่อที่จะไม่ให้ผมเข้าไปข้องเกี่ยวกับชีวิตเธออีกแต่เมื่อได้ฟังคำตอบของพวกมันความหวังของผมก็ดับวูบ ใจผมตกลงไปที่ตาตุ่ม ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้ว่าเธอหมั้นกับใคร แต่พวกหมั้นบอกได้ว่าเธอหมั้นแล้วจริง ๆ เพราะเรื่องนี้แฟนของพวกมันทั้งสามคนเพิ่งเป็นคนบอกพวกมันก่อนที่พวกมันจะเข้ามาหาผมด้านในห้องเองผมจำได้ว่า ตอนนั้นผมเหม่อลอยไปทันทีที่ได้ยินคำตอบจากทั้งสามทั้งนี้พวกมันยังขอโทษผมด้วยที่ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้ และไม่ได้บอกเรื่องการหมั้นหมายของน้ำทิพย์ เพราะมันก็เพิ่งร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 14

    “พวกกูมีคำถาม” ผมมองหน้าไอ้ดินพร้อมกับเลิกคิวให้หนึ่งข้าง“วันที่มึงเจอน้องทิพย์วันสุดท้าย มึงได้ขอโอกาสจากน้องเขารึเปล่า”“แน่นอนสิ ถามอะไรโง่ ๆ”“น้องเข้าไม่ให้ใช่ไหม”“อืม แต่ว่า”“แต่ว่าอะไร”“เธอบอกว่าถ้ากูยังไม่เลิกยุ่งกับน้องดา เธอก็ไม่มีวันกลับมา” ผมพูดพร้อมกับทำท่าคิดหนัก“เหอะ เห็นท่าทางมึงกูก็รู้แล้วว่ามึงยังตัดสินใจไม่ได้” ผมเหลือบสายตาไปมองไอ้วินเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร“มึงลองเปิดหูเปิดตาอย่างที่พวกกูเคยบอก มึงจะเห็นในสิ่งที่พวกกูและน้อง ๆ เห็นว่าคนที่มึงรักและเอ็นดูเหมือนน้องสาวมันไม่ได้ใสอย่างที่มึงคิด”“...”“เอาละ พวกกูแค่มาดูมึงเท่านั้น จากนี้มึงก็ตัดสินใจเองแล้วกัน พวกกูกลับก่อน”หลังจากที่เพื่อน ๆ ผมกลับไป ผมก็มาคิดตามคำพูดของไอ้พายุ และเพื่อเป็นการไม่ปรักปรำหรือใส่ร้ายน้องดา ผมจะยังคงไม่เชื่อใครทั้งนั้นจนกว่าจะเห็นด้วยตาหรือได้ยินด้วยหูของตัวเองผมพยักหน้าพอใจกับความคิดของตัวเอง แล้วกดเข้าไปอ่านข้อความล่าสุดในกล่องข้อความไลน์ที่น้องดาส่งมาทันทีในข้อความบอกว่าให้ผมช่วยไปรับเธอที่ห้าง แถมยังบอกผมอีกว่ามีอะไรบางอย่างอยากให้ผมดู เห็นดังนั้นผมก็กดตกลงส่งไปหาเธอทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 15

    หลังจากวันที่ฉันตัดขาดกับเขาครั้งนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย แต่มันก็ดีแล้วล่ะ ในเมื่อเลิกกันแล้วจะยากเจอไปทำไม จริงไหม?กริ๊ง... กริ๊ง...“สวัสดีค่ะพี่ไฟ”‘สวัสดีครับน้องทิพย์ วันนี้เรามาเจอกันหน่อยดีไหมครับ’“ได้ค่ะ ว่าแต่เราจะเจอกันที่ไหนดีคะ”‘อืม...เอาเป็นคาเฟ่แถว ๆ คอนโดทิพย์ก็ได้’“โอเคค่ะ ไว้เจอกันนะคะ บายค่ะ” พูดจบก็วางสายไปคนที่โทรเข้ามาคนนี้คือพี่ไฟหรืออัคคี เขาเป็นคู่หมั้นคู่หมายของฉัน เราสองคนเพิ่งตกลงหมั้นหมายกันเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ไม่ได้หมั้นแบบเป็นทางการนะ การหมั้นครั้งนี้รู้กันเพียงในครอบครัวและเพื่อนสาวทั้งสามของฉันเท่านั้น ที่เราตกลงหมั้นกันเพราะว่ามันมีเหตุจำเป็น เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลาทุกคนก็จะรู้เองส่วนพี่วีที่ฉันไปกินข้าวด้วย ที่พี่เหนือหรือนายเหนือนทีไปพบและทะเลาะกันวันนั้น ความจริงแล้วมันก็ไม่มีอะไร เรารู้จักและสนิทกันในระดับหนึ่ง จึงไปด้วยกันเฉย ๆ“พี่ไฟโทรมาชวนไปไหนอะ ไปด้วยดิ” เป็นน้ำพิ้งค์ที่เอ่ยถาม“ไปได้เหรอ หลัวแกอะเขาไม่ห้ามไง”ฉันถามอย่างหยอกล้อ เพราะช่วงนี้ไม่รู้ว่าพี่วินเป็นอะไรแต่ค่อนข้างที่จะหวงน้ำพิ้งค์มาก วันวันนี่แทบจะเกาะติดเพื่อนฉันเหมือน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 16

    ติ๊ง!ฉันเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ ดูนั่นดูนี่ฆ่าเวลาระหว่างรอพี่ไฟไป เพื่อที่สายตาและหูจะได้ไม่ต้องสนใจคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม และระหว่างที่ไถโทรศัพท์อยู่เนี่ย เสียงข้อความไลน์ก็เด้งเข้ามา เมื่อกดดูจึงได้รู้ว่าเป็นพี่ไฟส่งข้อความเข้ามาหาข้อความบอกว่าพี่เขาขอเลทไปอีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวจะรีบเข้ามา ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ไหน ๆ ก็มานั่งรอแล้วให้รออีกครึ่งชั่วโมงก็ได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองต้องนั่งรอในสถานการณ์แบบนี้อีกครึ่งชั่วโมง จึงได้หยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์โดยไม่สนใจคนที่ทำหน้าตาจะเป็นจะตายเลยสักนิดดูนั่นสิครับ ยายตัวร้ายของผมเธอไม่แม้แต่จะสนใจผมเลยสักนิด แถมตอนนี้ก็หยิบหูฟังเสียบหูเรียบร้อย ทำราวกับว่าผมไม่ได้นั่งอยู่นี่ เหมือนเธอไม่เห็นผมอยู่ในสายตา! ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงนั่งเงียบ ๆ มองดูเธอเท่านั้น ตอนเห็นมีข้อความไลน์เข้ามาหาเธอ ใจผมร้อนรุ่มแทบอยากจะฉวยโทรศัพท์เข้ามาดูเองว่าใครกันที่ส่งข้อความเข้ามา แต่มันติดที่ว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าผมทำเธอคงไม่ให้อภัยผมแน่ ๆ เผลอ ๆ อาจจะเกลียดผมมากกว่าเดิมด้วยซ้ำตอนแรกผมไม่รู้หรอกว่าเธออยู่ที่นี่ แต่อยู่ดี ๆ ไอ้วินมันก็ส่งข้อควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 17

    ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วที่ผมหลบมาเลียแผลใจตัวเอง ทุกคำพูด ของน้ำทิพย์ยังก้องกังวานในหัวผมไม่เสื่อมคลาย ยิ่งนึกถึงคำพูดพวกนั้นผมก็ยิ่งเจ็บผมไม่รู้หรอกว่าเธอจะรู้ไหมว่าคำพูดไม่กี่คำของเธอทำผมเสียใจแค่ไหน สิ่งที่ผมรับรู้ได้คือทุกคำที่เธอพูดเธอกลั่นกรองมาแล้วทั้งนั้น สิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมเสียใจอยู่แบบนี้ถ้าเธอพูดออกมาแบบไม่คิดผมก็จะไม่เสียใจนานเท่าไหร่ แต่นี่ไม่ว่าจะมองมุมไหนล้วนเป็นเธอที่กลั่นกรองมันอย่างดีแล้วถึงได้พูดออกมา เมื่อเป็นแบบนั้นผมก็ยิ่งเสียใจยากนักที่จะทำใจให้ชินกับความไม่สนใจผมของเธอได้...ผมคิดอยากจะปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนของตัวเอง แต่ว่าพวกมันไม่ค่อยว่างมาคุยกับผมสักคน ซึ่งความไม่ว่างของพวกมันนั้นไม่ได้ทำงานหรือมีธุระที่ไหน แต่เป็นการเอาเวลาไปอยู่กับคู่ของตัวเองในเมื่อเพื่อนผมออกจะทุ่มเทความรักให้แฟนตัวเองขนาดนี้ ผมจะกล้าออกปากเรียกพวกมันมาได้ยังไงล่ะครับ คงทำได้เพียงปรึกษาทางข้อความไลน์เท่านั้นแหละติ๊ง!ดาริน : พี่เหนือว่างไหมคะ น้องดามีเรื่องจะปรึกษาดาริน : ช่วงนี้น้องดาไม่ค่อยได้เจอพี่เหนือเลย พี่เหนือเป็นอะไรหรือเปล่าคะ บอกน้องดาได้นะ น้องดาเป็นห่วงเหนือนที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 18

    “นาย!!”แน่นอนว่าในเมื่อผมพอใจก็ย่อมต้องมีคนไม่พอใจรวมอยู่ด้วย และเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ ผมอยู่ตอนนี้ผมหันไปยิ้มแห้งให้เธอก่อนจะพูดว่า“เราไม่ได้ดูหนังด้วยกันนานแล้ว นั่งดูด้วยกันนะครับ” พูดพร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนหวังให้เธอเห็นใจไปด้วย“ไม่ เป็นบ้าเหรอ! ลุกออกไปจากที่นั่งพี่ไฟเดี๋ยวนี้” เธอพูดเสียงแข็ง“นี่ไงก็ให้เขานั่งข้าง ๆ พี่ไงครับไม่เห็นเป็นไรเลย”“เหนือนที!”“โอ๊ย! จะยืนอีกนานไหมครับเมื่อไหร่จะนั่ง เห็นไหมว่าคนอื่นเขายืนรอเพื่อเดินไปหาที่นั่งอยู่” และก่อนที่เธอจะได้ด่าผมไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงต่อว่าจากคนที่เข้ามาดูหนังซะก่อน ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ผู้ชายที่ชื่อว่าไฟนั่งลงข้างผมทันที ผมดีใจมากส่วนคนตัวเล็กนั้นต่อให้เธอไม่พอใจแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องทิพย์ พี่นั่งตรงนี้ก็ได้” ผมตวัดสายตาไปมองคนที่พูดด้วยความไม่พอใจที่มันกล้าเรียกเธอว่า น้องทิพย์!ฮึ่ย! ขัดใจผมจริง ๆ“ขอโทษด้วยนะคะพี่ไฟ แทนที่จะได้ดูกันอย่างสงบดันมีคนมากวนซะนี่”“ไม่เป็นไรครับ ถึงยังไงเราก็นั่งใกล้กันอยู่ดี ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ทน ๆ นั่งไปก่อนแล้วกันนะครับ”“ค่ะ”ระหว่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 62 จบ

    ฉันผละออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของพี่เหนือ ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขที่สุดตอนแรกที่เขาบอกว่าอย่าร้อง ฉันก็กะว่าจะไม่ร้องไห้นั่นแหละ แต่ใครมันจะไปอดทนได้เล่า ในเมื่อเขาน่ารักขนาดนี้คิดดูสิบรรยากาศภายในร้าน และอะไรต่าง ๆ ที่เขาทำวันนี้เป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงทั้งสิ้นว่าเขาจะทำ เพราะสิ่งที่เขาทำวันนี้มันตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิญพี่เหนือไม่ใช่คนที่โรแมนติก เขาค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ยอมคน สายเอาแต่ใจ ที่สำคัญเขาหื่นมาก เพราะฉะนั้นการจัดตกแต่งร้านแบบน่ารัก ๆ ที่ฉันเห็นนี่มันสวนทางกับพี่เหนืออย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ที่ฉันเดินลงจากรถและเดินเข้ามา สองข้างทางล้วนประดับประดาไปด้วยหลอดไฟเล็ก ๆ น่ารัก ๆ หน้าประตูถูกประดับไปด้วยดอกไม้ที่ฉันชื่นชอบ ยิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน ฉันยิ่งรู้สึกประทับใจ เพราะมันเต็มไปด้วยดอกไม้ ลูกโป่ง และรูปของเรา ที่ขาดไม่ได้เลยคือป้ายคำว่า‘Anniversary 2 years’หลังจากที่เห็นทุกอย่างแล้ว และคิดถึงนิสัยของเขามันเลยทำให้ฉันตื้นตันใจจนอยากร้องออกมาแต่ก็ต้องกลั้นไว้เมื่อเขาห้าม แต่พอฟังเขาพูดประโยคพวกนั้นจบฉันก็ไม่สามารถกักเก็บความรู้สึ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 61

    “พี่เหนือ นี่จะพาทิพย์ไปไหนคะ ไม่เห็นบอกเลยอยู่ดี ๆ ก็บอกให้แต่งตัว”น้ำทิพย์ถามผม เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของเรา ผมจึงจะพาเธอไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่คอนโดครับ ผมกับน้ำทิพย์กลับมาจากบ้านสวนได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว กลับมากรุงเทพเราก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอ้อ ผมไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเวลานะครับ เพื่อเป็นการให้เกียรติเธอและทางครอบครัว ผมจะมานอนกับเธอที่ห้องหรือให้เธอไปนอนที่ห้องกับผมแค่อาทิตย์ละสามวันเท่านั้นนอกจากนี้ผมยังให้คุณแม่ของผมคุยเรื่องการหมั้นหมายของผมกับเธอไปคร่าว ๆ ทางโทรศัพท์กับคุณพ่อคุณแม่ของเธอแล้วด้วยก่อนผมจะกลับกรุงเทพนั่นเองซึ่งผลจากการที่ผู้ใหญ่คุยกันเรื่องนี้นั้นได้ข้อสรุปว่า หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่กลับกรุงเทพแล้ว พวกท่านจะคุยเรื่องนี้และข้อตกลงกันต่าง ๆ กันอีกที ซึ่งผมและน้ำทิพย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะถือว่าได้บอกความต้องการของตัวเองออกไปแล้ว ต่อไปก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขาคุยและตกลงกัน“อ้าวพี่เหนือถามไม่ได้ยินเหรอคะ จะไปไหน” น้ำทิพย์ถามผมหน้ายุ่ง“พาไปที่ที่สำคัญของเราสองคนไงครับ”ผมตอบเธอพร้อมกับยิ้ม น้ำทิพย์ย่นคิ้วคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า“จะพา

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 60

    ระหว่างทาผมก็ถามพนักงานชายไปด้วยว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคำตอบที่ได้รับทำให้ผมตาโตด้วยความไม่เชื่อ เพราะพนักงานคนนั้นบอกว่าถ้าทาแป้งและขี้เถ้าแล้วมดแดงมันจะไม่กัด เป็นความเชื่อที่คนโบราณทำสืบต่อกันมา ซึ่งพอเวลาผ่านไปการทำแบบนี้ก็เริ่มไม่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพนักงานของที่นี่เขาค่อนข้างจะเชื่อคำคนโบราณจึงได้เอามาทำที่ไร่นี้ พอว่าที่พ่อตามาเห็นและรู้ว่าได้ผลจึงไม่ได้ห้ามตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะได้ผลจริง แต่พอขึ้นไปบนต้นมะม่วงแล้วก็ต้องชะงัก เพราะสิ่งที่ผมไม่เชื่อกลับสามารถได้ผลดี แต่ใช่ว่าจะไม่โดนกัดเลย มันก็มีกัดบ้างแต่ไม่เท่ากับสามต้นแรกที่ผมไม่ได้ทาพวกมันแล้วขึ้นไปเก็บเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล สำหรับผมแล้วผมเชื่อครับเพราะมันใช้ได้จริงหลังจากเก็บมะม่วงสองต้นสุดท้ายเสร็จแล้วผมกับว่าที่พ่อตาก็กลับมาอาบน้ำที่บ้านก่อนจะมานั่งทานข้าวที่ถูกเตรียมไว้แล้วมื้ออาหารกลางวันเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ไม่มีเสียงกระทบกระทั่งกันไปมาของผมและคุณพ่อของน้ำทิพย์ถึงผมจะค่อนข้างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะไม่ต้องการจุดฉนวนให้ตัวเองโดนเล่นง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 59

    หลังจากที่เมื่อวานได้เปิดอกเปิดใจคุยกับคุณพ่อของน้ำทิพย์แล้ว วันนี้ผมก็ต้องมาทำงานใช้แรงงาน เพราะว่าที่พ่อตาท่านบอกว่าจะมานั่งกินนอนกินไม่ได้ จะมาอยู่ก็ต้องมาช่วยกันทำงาน แม้ว่าที่บ้านสวนจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของพวกท่านก็ตามแต่พวกท่านก็ไม่ได้พักอย่างที่ใครคิด การพักผ่อนของพวกท่านคือการใช้ชีวิตชาวสวน วันนี้ผมจึงต้องมายืนสอยมะม่วงบ้าง ปีนต้นมะม่วงจนมดแดงกัดอยู่แบบนี้ไงครับ“ใช่ ๆ พวงนั้นแหละ ลูกมันดก ขนาดกำลังกิน”เสียงของว่าที่พ่อตาตะโกนส่งมาไม่ขาดสาย ในขณะที่ผมทั้งตัดพวงมะม่วง ทั้งปัดป่ายมดแดงที่ขึ้นอยู่ตามตัวและก็ไอ้มดแดงที่กำลังกัดผมอยู่นี่แหละ ที่ผมกินไข่ของพวกมันเมื่อวานนี้เห็นแบบนี้ก็อดยอมรับนับถือคนงานไม่ได้ที่ต้องมายืนแหงนคอสอยรังของมดแดง เพื่อที่จะนำไข่ของมันไปประกอบอาหารขนาดผมปีนต้นไม้เพื่อเก็บมะม่วงยังโดนกัดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่ากว่าพวกเขาจะสอยได้แต่ละรังกว่าจะได้ไข่มาต้องลำบากกันขนาดไหน“มัวคิดอะไรอยู่ บอกเอาพวงนั้น พวงนั้น”“ผมก็ตัดอยู่นี่ไงครับว่าที่พ่อตา อย่าเร่งสิครับ มดมันกัดผมอยู่” ผมตะโกนโต้กลับกับคนที่ยืนชี้นิ้วสั่งผมอยู่ด้านล่าง“ผิวหนังด้าน ๆ อย่าง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 58

    บ้านสวนของน้ำทิพย์มีคนอยู่ไม่มากนัก จะมีแค่คุณพ่อคุณแม่ของเธอที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจตามเวลาที่สะดวก มีน้ำทิพย์ และคนสวนที่ดูแลที่นี่เพียงสองคน คนดูแลบ้านอีกสองคน หลัก ๆ แล้วคนที่อยู่ที่นี่แค่สี่คนเท่านั้น ส่วนลุงเชิดกับป้าชมนั้นเป็นสามีภรรยากัน ลุงเชิดเป็นคนขับรถส่วนป้าชมเป็นหัวหน้าแม่บ้านและเป็นคนสนิทของคุณแม่ของน้ำทิพย์ด้วยเช่นกันอ้อ ผมลืมบอกไปที่เรียกว่าบ้านสวน เพราะบริเวณรอบบ้านของเธอล้วนปลูกผักผลไม้ทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเป็นที่ดินด้านหลังบ้านที่ถัดออกไปอีกไม่ไกล มีเพียงคลองส่งน้ำเล็ก ๆ ขวางกั้นเท่านั้นเพียงก้าวข้าวสะพานไม้ที่ทำไว้ก็จะเจอกับสวนมะม่วงที่ให้คนงานลงปลูกไว้ขึ้นเต็มไปหมดผมโชคดีที่หน้านี้มะม่วงกำลังติดลูก คิดว่าคงจะได้เดินไปชมสวนของบ้านเธอแน่ ๆ ครับ เพราะนอกจากจะปลูกไว้กินแล้วเนี่ย ทางบ้านของน้ำทิพย์ยังส่งมะม่วงให้ตลาดในตัวอำเภอเพื่อขายอีกด้วย“เหม่ออะไรอยู่ ไปได้แล้วลูกเมียฉันรอ ไร้มารยาทจริง”ผมหลุดจากความนึกคิดของตัวเองแล้วเขม่นตามองว่าที่พ่อตาที่เดินนำออกไปไกลแล้ว จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินตามท่านไปบ้าง“ขอโทษที่มาช้าครับ” ผมรีบพูดทันที เพราะคุณแม่ของน้ำทิพย์กำลังนั่งรออยู่จ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 57

    “เจ้าบ้านเขาไม่ต้อนรับก็ยังจะหน้าด้านอยู่อีก” คำกล่าวทักทายแรกหลังจากที่ออกมาจากห้องพัก ก็โดนพ่อตากระแหนะกระแหนใส่ซะแล้ว“คุณพ่อครับ ถ้าไม่เต็มใจต้อนรับผมจะได้พักที่ห้องข้าง ๆ ทิพย์เหรอครับ”“ใครพ่อแก!”“อา... ลืมไปว่าไม่ใช่ งั้นคงต้องเรียกว่า...”“ว่าอะไร”“พ่อตา”“ไอ้เหนือ!”ผมพูดเสร็จก็รีบพาตัวเองเดินลงมายังชั้นล่างของบ้านทันที โดยไม่สนใจคนที่กำลังทำหน้าราวกับจะฆ่าคนของคุณพ่อตาสักนิด แถมยังมียิ้มให้ก่อนจะเดินออกมาด้วย“คุณนทีเป็นอะไรคะ เสียงดังมาถึงข้างล่าง” คุณแม่ของน้ำทิพย์เดินมาชะเง้อขอถามตรงตีนบันได ซึ่งสวนกับที่ผมเดินลงไปพอดีผมยิ้มให้ท่านแล้วเดินจากมา แต่พอมาถึงโซฟาก็เจอน้ำทิพย์ยืนกอดอกขมวดคิ้วอยู่“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“ทิพย์ต่างหากที่ควรถามพี่เหนือว่าเป็นอะไรถึงได้กวนคุณพ่อ จนคุณพ่อเสียงดังแบบนี้”“พี่เปล่าทำอะไรสักหน่อยนะครับ” ผมตีหน้าซื่อตาใสไม่ยอมรับ“พี่เหนือ เราคบกันอยู่แล้วทำไมทิพย์จะไม่รู้สันดาน เอ๊ย!นิสัยของพี่เหนือล่ะคะ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงหน่อยสิคะ”“โธ่... ที่รักก็คุณพ่อของทิพย์ท่านชอบว่าพี่นี่”“แต่ถ้าพี่เหนือยอมท่านปล่อยเวลาไปสักพัก ให้ท่านได้มีเวลายอมร

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 56

    ปัง!“กรี๊ดดด! หยุดค่ะคุณพ่อ หยุดก่อน”ปัง!“แกหลบไปยายทิพย์ หลบไปก่อนพ่อจะเอาเลือดหัวมันออก”“ถ้าเอาแค่เลือดหัวผมออกไม่ต้องใช้ปืนก็ได้ครับ เอาเป็นไม้หรืออย่างอื่นก็ได้ เป็นปืนแบบนี้ถ้าคุณพ่อพลาดยิงผมตายขึ้นมานอกจากจะติดคุกแล้ว น้ำทิพย์ยังจะเสียใจอีกนะครับ”“ฮึ่ม ไม่โว้ย ลูกสาวฉันไม่เสียใจนานหรอก เดี๋ยวฉันหาผู้ชายคนใหม่มาดามใจให้เอง แล้วก็นะฉันไม่ใช่พ่อแก!”คุณพ่อของน้ำทิพย์พูดก่อนจะทำท่ายกปืนเล็กอีกครั้ง แต่มีหรือที่ผมจะยอม ผมรีบเอาตัวน้ำทิพย์เข้ามาบังตัวผมไว้ แล้วโผล่หน้าไปท้าทายท่านอีกครั้ง“พี่เหนือ ทิพย์บอกแล้วไงว่าอย่าไปตีรวนท่าน”“ก็ดูคุณพ่อทิพย์สิ มาถึงยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านก็เอาปืนมาไล่ยิงกันซะแล้ว แบบนี้จะให้พี่อยู่เฉย ๆ ได้ไงครับ” ผมพูดอย่างไม่ยินยอม พร้อมกับหลบอยู่หลังเธอใช่แล้วล่ะครับ ตั้งแต่มาถึงและลงจากรถขณะที่ผมกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน คุณพ่อของน้ำทิพย์ก็วิ่งออกมาพร้อมปืนยาวหนึ่งกระบอกและยิงทันทียิงแบบไม่สนใจด้วยว่าจะถูกหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าท่านคงไม่กล้ายิงตรง ๆ นอกจากยิงขู่ ผมถึงได้กล้าตีฝีปากกับท่านนั่นเอง“มึง! ไอ้เหนือ ตายซะเถอะ”“โอ๊ย หยุดได้แล้วค่ะคุณ พอไ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 55

    “บอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับว่าพี่ขอไปด้วย” “พี่เหนือจะไปทำไมคะ” ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของผม น้ำทิพย์ก็ถามกลับมาทันที พร้อมมองผมขึ้น ๆ ลง ๆ“จะไปบ้านเมีย”“พี่เหนือ”“ก็พี่อยากไปด้วยนี่ พี่อยากเจอคุณพ่อคุณแม่ของทิพย์นี่ครับ ทิพย์ก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่พี่แล้ว ให้พี่ไปเจอพวกท่านบ้างสิเราจะได้เท่าเทียมกัน”“แต่คุณพ่อของทิพย์ไม่ชอบพี่เหนือ”“ก็ยิ่งไม่ชอบนั่นแหละครับ พี่ถึงต้องไป”ผมพูดออกมาด้วยความจริงจัง และใช่ครับ คุณพ่อของเธอไม่ค่อยชอบผม ย้อนกลับไปสามวันที่แล้ว ที่ผมพาน้ำทิพย์และคนอื่น ๆ ไปเที่ยวน้ำตกวันที่สองของการอยู่ที่นั่น คุณพ่อของเธอก็โทรเข้ามา แต่บังเอิญว่าน้ำทิพย์หลับอยู่ และผมก็อยู่ตรงนั้นพอดี จึงได้ถือวิสาสะรับสายท่านไป แค่ท่านได้ยินเสียงผม ก็โวยวายออกมายกใหญ่เลยครับผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ต่อว่าท่านกลับหรอกนะครับ ผมยังคงรู้จักมารยาท แต่ว่าการตอบกลับของผมค่อนข้างที่จะรวนท่านนิดหน่อยจนเดือดร้อนให้คุณแม่ของเธอเข้ามาห้ามปรามและรับโทรศัพท์ไปคุยเอง เราถึงพูดกันรู้เรื่อง ความว่าคุณแม่และพ่อของเธอไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่เดินทางไปบ้านสวน ให้น้ำทิพย์ตามไปที่นั่นเพื่อพักผ่อน เพราะเห็

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 54

    “แค่ก แค่ก กดหัวทำไมหายใจไม่ออก” ฉันไอหน้าดำหน้าแดง ส่วนคนที่ถูกต่อว่าก็ทำเพียงแค่ส่งสายตาสำนึกผิดมาให้“ขอโทษครับ”“เหอะ” ฉันส่งเสียงอย่างไม่พอใจ แล้วทำท่าจะลุกหนี“ไปไหนครับ” เขาคว้าจับแขนฉันไว้ โดยมีสายตาไม่พอใจของฉันจับจ้องอยู่“เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ ก็ไปอาบน้ำสิ ถามมาได้” ฉันที่ไม่พอใจกับการที่ถูกเขากระแทกน้องชายเข้าปากอยู่แล้วก็ตอบกลับเขาไปอย่างอารมณ์เสีย“หืม ใครบอก เมื่อกี้แค่ยกแรกครับ เขาเรียกว่าของกินเล่น จากนี้ต่างหากของจริง”“ไม่”“ไม่ทันแล้วครับ ยังไงวันนี้ทิพย์ก็หนีไม่รอด”“ไม่นะพี่เหนือ มะ อื้อ”ฉันตกใจตาเบิกโพลง คำพูดที่ฉันจะพูดไม่ถูกพูดออกมาด้วยซ้ำ เพราะพี่เหนือที่ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน อยู่ดี ๆ ก็จับฉันนั่งตักและแทงน้องชายของเขาเข้ามาทีเดียวมิดโคนตอนนี้ฉันทั้งเสียว ทั้งจุก ทำได้แค่กอดเขาแน่น ๆ เท่านั้นเพื่อหวังว่ามันจะระบายอาการพวกนี้ออกไปได้บ้างพี่เหนือก็เหมือนรู้ เขาไม่ได้ขยับตัว แต่กลับยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังปลอบโยนฉันอยู่เรานั่งกันแบบนั้นอยู่ราว ๆ สองนาที ก่อนที่พี่เหนือจะเริ่มขยับตัว มือที่ลูบไล้แผ่นหลังบางของฉันทีแรกก็กลับกลายเป็นบีบขยำเนื้อหนังด้านหลัง ก่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status