แชร์

บทที่ 8

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-03 00:33:17

ภาพที่น้ำทิพย์กำลังกินอาหารและหยอกล้อกับใครอีกคน ใครอีกคนที่ว่าถ้าเป็นเพื่อน ๆ ของเธอผมจะไม่อะไรเลย แต่ภาพที่ผมเห็นตรงหน้ามันคือผู้ชาย!

ผมควรรู้สึกยังไง ดีใจเหรอที่แฟนตัวเองติดต่อไม่ได้แล้วยังมากินข้าวกับผู้ชายคนอื่น ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้พ่อพระขนาดนั้น...

ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาทั้งสอง โดยมีน้องดาเดินตามอยู่ข้างหลัง

กึก!

“ไง ติดต่อไม่ได้ แต่มานั่งกินข้าวกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ” ผมพูดพร้อมกับมองหน้าเธออย่างโกรธ ๆ

“แล้วยังไง” เธอพูดเสียงเรียบก่อนจะมองหน้าผม

“เหอะ ทิพย์ มันไม่ควรรึเปล่าวะ เธอมีแฟนอยู่แล้วนะเว้ย”

“มีแฟน? เหอะ ถ้ามีแล้วเหมือนไม่มีก็อย่ามีมันเลยดีกว่า”

“หมายความว่ายังไง” เธอไม่ตอบผม แต่เลือกที่จะไปคุยกับไอ้หน้าขาวนั่น เรียกเช็กบิลก่อนที่ทั้งคู่จะพยายามเดินออกไป

แต่จังหวะที่เธอจะเดินผ่านผมไปนั้น สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นน้องดาเข้าซะก่อน เธอหันมายิ้มเยาะเย้ยใส่ผมนิดหน่อยแล้วรีบเดินผละไป แต่มีหรือผมจะยอม

ผมรีบก้าวเดินตามคนทั้งสอง จนเราทั้งสี่คนมาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าความบังเอิญหรือว่าอะไร เพราะรถผมกับรถไอ้หน้าขาวนั่นมันจอดอยู่ข้างกันพอดีเลย!

“ทิพย์ คุยกันให้รู้เรื่อง”

“ไม่มีเรื่องอะไรจะคุย” เธอพูดพร้อมกับมองหน้าผมด้วยสายตาท้าทาย อารมณ์ที่ร้อนอยู่แล้วของผมยิ่งร้อนขึ้นไปอีก

“ที่หายไป คือไปอยู่กับมันมาสินะ” ผมรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นแบบนั้นแต่ปากผมก็ยังพูดออกไปอยู่ดี

เพียะ!

“อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนตัวเอง” ทันทีที่ผมพูดจบเธอก็ตวัดฝ่ามือตบลงบนหน้าผมอย่างแรง

“แล้วถ้าไม่ให้คิดแบบนี้จะให้คิดไงวะ ก็เห็นอยู่ว่าเธออยู่กับมัน ติดต่อก็ไม่ได้ ไปหาก็ไม่เจอ ถามจริงเถอะที่เธอระแวงฉันกับน้องดาอย่างนั้นอย่างนี้ก็เพราะแบบนี้ใช่ไหม” ผมพูดด้วยความโมโห

“แบบไหน” น้ำทิพย์ก็ตอบผมกลับด้วยความโมโหไม่แพ้กัน ส่วนน้องดากับไอ้หน้าขาวนั่นผมไม่สนใจมากนักว่าจะคิดอะไร เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมสนใจคือเคลียร์กับเธอให้รู้เรื่อง!

“ก็แบบนี้ไง มีคนอื่น เลยคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนเธอทั้ง ๆ ที่ฉันย้ำแล้วย้ำอีกว่าฉันกับน้องดาเป็นแค่พี่น้องกัน”

“เฮ้ย! มากไปปะวะ เห็นแค่นี้ก็คิดว่าฉันจะเป็นแบบนั้นไปแล้วเหรอ คิดว่าฉันง่ายมากสินะ”

“...” ผมไม่ตอบอะไร เพราะผมเองก็ตกใจกับคำพูดของตัวเองมากเหมือนกัน

“เหอะ ถามจริงเถอะตลอดเวลาที่คบกัน นายไม่รู้จักฉันจริง ๆ เหรอเหนือนที แล้วก็นะ พี่น้องบ้าอะไรวะจะไปรับไปส่งพาไปซื้อของ เทนัดแฟนแล้วไปอยู่กับคนที่เรียกว่าน้องสาว แบบนี้มันไม่เรียกว่าน้องแล้ว เอ็นดูหรือจะดูเอ็นกันแน่ ไงล่ะเด็ดพอไหม”

“น้ำทิพย์!” ผมตะคอกชื่อเธอออกมาด้วยความไม่พอใจ เพราะแรก ๆ เธอพูดกับผม ก่อนจะส่งสายตาและคำพูดถากถางไปหาน้องดาที่ตอนนี้ยืนน้ำตาคลออยู่

“ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้น”

“อ๋อ... เหรอ”

“...”

“งั้นตอบฉันหน่อยสิเหนือนที ว่าพี่น้องบ้านไหนเขาจูบกัน”

“...”

“ตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ หึ” ใช่ ผมตอบเธอไม่ได้ เพราะวันนั้นผมเป็นคนดึงน้องดาเข้ามาจูบเอง แต่นั่นก็เพราะต้องการประชดเธอทั้งนั้น

“พี่ทิพย์คะ น้องดากับพี่นะ..”

“ฉันไม่ใช่พี่เธอ ไม่ต้องมาสะเออะเรียก”

น้องดายังพูดไม่ทันจบประโยคน้ำทิพย์ก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ทำให้จากตอนแรกที่น้องดาน้ำตาคลอ ตอนนี้ยืนร้องไห้แล้ว

“พูดกับน้องมันดี ๆ หน่อยทิพย์ น้องมันยังเด็ก”

“ผมว่าคุณควรเข้าข้างคนที่คุณเรียกว่าแฟนมากกว่าน้องนะครับ”

“เสือกอะไรด้วย” ผมหันไปต่อว่าไอ้หน้าขาวทันทีที่มันเอ่ยปาก และนั่นทำให้น้ำทิพย์ตวัดสายตามองผมด้วยความไม่พอใจ

เราสองคนยืนจ้องตากันแต่ไม่มีใครพูดอะไร

“ฮึก คุณทิพย์คะน้องดาขอโทษถ้าทำให้คุณทิพย์เข้าใจผิด แต่น้องดากับพี่เหนือไม่มีอะไรกันจริง ๆ นะคะ”

“โอ๊ย ตอแหลเก่ง! นี่ ถามจริงเถอะนะ ไม่เหนื่อยเหรอ แอ๊บเก่ง ดรามาเก่ง เล่นละครเก่ง ปรบมือ”

แปะ แปะ แปะ

น้ำทิพย์พูดพร้อมกับปรบมือไปด้วย ผมมองการกระทำของเธอด้วยความผิดหวัง ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้

“เลิกด่าว่าน้องดาและฉันสักทีทิพย์ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”

“ฮะ ฮะ ฮะ หมดความอดทน? กล้าพูดเนอะ คนที่ต้องพูดประโยคนั้นคือฉันนี่ คืออีน้ำทิพย์คนนี้!” เธอพูดพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาอกตัวเอง สายตาที่เธอมองมาที่ผมมันเต็มไปด้วยความเสียใจ ผิดหวัง

“ทิพย์ใจเย็น”

“ไม่เย็นมันแล้วค่ะพี่วี ทิพย์ทนมานานเกินพอละ ถ้ามันจะแตกก็ให้มันแตกหักกันไปวันนี้แหละ ทิพย์เหนื่อย!” เธอพูดกับไอ้หน้าขาวที่ชื่อวีพร้อมกับมองหน้าผม สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวจนผมรู้สึกหวั่นใจ

“นายจำวันที่นายขอฉันเป็นแฟนได้ไหมเหนือนที นายพูดว่าอะไร นายบอกว่าจะทำให้ฉันมีความสุข จะไม่เห็นใครสำคัญไปกว่าฉัน แล้วนี่อะไร ตอบสิ ตอบ!!”

เธอพูดด้วยความโมโห เสียงของเธอทั้งสั่นทั้งดัง ผมก้มหน้าหลบสายตาเธอ เพราะผมตอบเธอไม่ได้เนื่องจากผมเคยพูดไว้แบบนั้นจริง ๆ

“ตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ หึ! ฉันเชื่อใจนายมาตลอดจนกระทั่งมันเข้ามา” เธอพูดพร้อมกับมองไปที่น้องดา

“ฉันกับน้องดาไม่..”

“พอ! เลิกพูดว่าไม่ได้เป็นอะไรกันสักที ปากนายพูดว่าไม่แต่การกระทำไม่ใช่ นายอาจไม่รู้ตัวแต่ไม่ใช่กับฉัน มันไม่เหมือนเดิมเว้ย นายไม่เหมือนเดิม”

“ทิพย์” ผมเรียกชื่อเธอเสียงอ่อย เพราะตอนนี้เธอพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา

“ฉันเชื่อใจนายแต่นายไม่เคยเชื่อใจฉัน ตลอดเวลาที่เราคบกัน ไม่มีเลยสักนิดที่นายจะนึกถึงความรู้สึกฉันเลยเหนือนที คนรอมันเหนื่อยนะเว้ย แล้วฉันก็อึดอัดมากด้วย” ผมมองดูเธอเงียบ ๆ ใจก็อยากเข้าไปปลอบแต่ขากับก้าวไม่ออก ได้แต่ยืนมองเธออยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคนอยู่แบบนั้น

“นายกับฉันทะเลาะกันบ่อยขึ้นตั้งแต่เด็กดารินนี่เข้ามา ลองคิดดูเหนือนทีว่าเราคุยกันเรื่องนี้ไปมากเท่าไหร่” มันก็จริงของเธอ ระยะหลังเราทะเลาะกันบ่อยขึ้นด้วยเรื่องเดิม ๆ ที่เกี่ยวกับน้องดา

“บอกตรง ๆ นะ ฉันว่าเราตกลงคบกันเร็วเกินไป เราควรพอแค่นี้เถอะ พักไว้แค่ตรงนี้ อย่าฝืนอีกเลย”

“ไม่นะน้ำทิพย์ เธอเป็นแฟนฉัน เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้สถานะนั้น”

“ถ้ามีสถานะแฟนแล้วนายไม่ได้ใส่ใจดูแลมัน ฉันว่าฉันไม่ต้องการว่ะ หึ อยากได้มากใช่ไหม ฉันยกให้!”

“ฉันเป็นคน เธอไม่มีสิทธิ์ยกฉันให้ใครนะน้ำทิพย์ อ้อ ที่พยายามพูดมาทั้งหมดทั้งมวลเนี่ย เพราะเธออยากไปเริ่มต้นใหม่กับมันใช่ไหม” ผมพูดออกมาด้วยความโมโห เธอพูดออกมาได้ยังไงว่าจะยกผมให้คนอื่น

“จะใช่หรือไม่มันก็เรื่องของฉัน!”

“...” แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะเจ็บจนจุกในประโยคต่อมา

“เลิกกันเถอะ ไม่อยากคบกับควาย!”

ไม่มีแม้แต่น้ำตา ไม่มีแม้แต่สายตาของความอาลัยอาวรณ์ เสียงเรียบ ๆ ติดจะเย็นชาของน้ำทิพย์พูดมันออกมาจนทำให้ผมเจ็บไปทั้งหัวใจ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะดึงรั้งเธอไว้ให้ฟังที่ผมจะพูด

ทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังบางที่เดินหันหลังไปกับผู้ชายที่ชื่อวีนั้นอย่างหมดแรง เธอจากผมไปแล้ว...

เจ็บจนอยากจะร้องไห้ แต่ทำได้แค่กลืนก้อนสะอื้นลงคอไปเท่านั้น ยิ่งมองตามรถที่ขับออกไปไกลเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผมรู้ว่านับจากวันนี้ผมคงไม่มีเธอมาคอยกอด มาคอยอ้อนผมอีกแล้ว ไม่มี...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 9

    “ไง ไอ้เหนือ ยังมีสภาพหมาหงอยเหมือนเดิมเลยนะ”ผมมองคนพูด มันคือไอ้วิน“โอ้ ทำไมตาเขียวใส่ฉันขนาดนั้นล่ะ” มันยังกวนผมไม่เลิกโดยการพูดพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้“มึงก็ไปกวนมันไอ้วิน นี่มันโดนน้องทิพย์ทิ้งมาหลายเดือนละ จวบจนเปิดเทอมสองแล้วมันยังตามง้อน้องทิพย์ไม่ได้สักที” รอบนี้เป็นไอ้ดินพูด“จะพูดว่าตามง้อไม่ได้นะไอ้ดิน ในเมื่อหน้ามันน้องเขายังไม่อยากจะมอง แล้วมันจะเอาเวลาที่ไหนตามคุยตามง้อครับ” ไอ้วินพูด“หึ สมน้ำหน้า” ผมมองหน้าพวกมันด้วยความไม่พอใจ“ไม่ต้องมาทำตาขวางใส่พวกกู มึงทำตัวเองทั้งนั้น เตือนไม่ฟัง” คนที่พูดประโยคนี้และประโยคก่อนหน้าไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือไอ้พายุ!พวกมันพูดถูกครับ ตอนนี้ผมพยายามตามตื๊อตามง้อน้ำทิพย์อยู่ แต่ทุกอย่างก็ไม่คืบหน้าเพราะผมติดต่อเธอไม่ได้เลย ไปหาที่คณะเธอก็ไม่เจอเพราะเพื่อนเธอกันเธอออกจากผมตลอด หรือถ้าผมเจอเธอ เธอก็จะเมินเฉยทุกครั้ง ทำราวกับผมเป็นอากาศธาตุ ไม่มีค่าพอที่เธอจะเสวนาด้วยบอกเลยว่าเจ็บ เจ็บโคตร ๆผมพยายามที่จะเข้าไปปรับความเข้าใจกับเธอมาตลอด จนตอนนี้ผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เธอบอกเลิกผม นับตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวเธอได้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-03
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 10

    “รักแล้วมึงทำให้เขาเสียใจทำไม ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเขาทำไม ปล่อยมือเขาทำไม ไอ้เหนือนะไอ้เหนือ กูว่ามึงพลาดแล้วล่ะ”“ยังไง” ผมถามไอ้ดินที่ยังคงพูดอะไรกำกวมในประโยคสุดท้าย แต่มันก็ไม่ยอมพูดอะไร ผมจึงเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง“มึงคิดว่ากูอยากปล่อยมือเขาเหรอ เป็นเขาที่บอกเลิกกู เป็นเขาที่หันหลังให้กู ทุกวันนี้กูก็พยายามตามง้อขอคืนดีอยู่พวกมึงก็เห็น”ผมพูดออกมาอย่างอัดอั้นผมยอมรับว่าผมผิดที่ละเลยเธอ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้องดากลับเข้ามาในชีวิตผมใหม่ ๆ ด้วยความที่ผมไปอยู่คอนโดไม่ได้อยู่บ้าน บวกกับการที่ผมเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ทำให้น้องดาติดต่อผมไม่ได้แต่เมื่องานวันเกิดแม่ผมปีนั้นผมกลับไปหาท่านที่บ้าน จึงทำให้เจอน้องดาอยู่ที่นั่นด้วย น้องดาจึงขอแลกเปลี่ยนเบอร์กับผม ผมเห็นว่าเป็นน้องจึงให้ไปด้วยความที่ไม่คิดอะไร หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ติดต่อกันบ่อยขึ้นและก็ทำให้ผมต้องทะเลาะกับน้ำทิพย์อย่างที่ทุกคนทราบนั่นแหละ“กูถึงบอกไงว่ามึงพลาด” ไอ้ดินยังคงพูดประโยคเดิม“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ กูคงไม่ให้มันเป็นแบบนี้หรอก” ผมพูดเศร้า ๆ กับตัวเอง เพื่อน ๆ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พวกมันนั่งเงียบ ๆ เท่านั้น“แล้วมึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-03
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 11

    ฉันมองคนที่จับข้อมือฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังนิ้วเรียวของฉันที่มีแหวนสวมใส่ไว้อยู่“ปล่อย” ฉันพูดออกไปนิ่ง ๆ พลันสายตาของเขาก็หันกลับมาจ้องตาฉัน ภาพที่สะท้อนในดวงตาของฉันคือ เขากำลังสงสัยและต้องการคำตอบ แต่ถามว่าฉันต้องสนใจไหม บอกเลยว่าไม่อะไรที่ตัดแล้วมันก็ควรตัดเลยสิ แม้ว่าเราจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้างแต่ฉันเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างย่อมดีขึ้น เมื่อนั้นที่เราหันกลับมามองสิ่งที่เราเคยตัดทิ้ง ที่ครั้งหนึ่งทำให้เราเจ็บปวด มันคงกลายเป็นขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้นถึงตอนนี้ฉันจะยังรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มากเท่าช่วงแรกที่ตัดสินใจตัดเขาออกจากชีวิตหรอก“ปล่อย” ฉันพูดออกมาอีกครั้ง เมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยข้อมือฉันเลย“ขอคุยด้วยหน่อย” เขาพูดพร้อมกับทำตาละห้อยส่งมาให้ฉัน“ไม่มีอะไรต้องคุย ปล่อย”“ขอร้อง ขอคุยด้วยหน่อย นะครับ” คราวนี้เขาทั้งพูดขอร้องและส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ แน่นอนว่าท่าทางแบบนี้ของเขามันยังมีผลกับฉันอยู่ แต่ก็นั่นแหละ เมื่อคิดว่าตัดแล้วมันก็ไม่ควรจะแสดงอะไรออกไปใช่หรือไม่ ฉันจึงทำเป็นเพียงมองเขานิ่ง ๆ และยืนยันความต้องการของตัวเองเท่านั้น“ปล่อย”“ทิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 12

    “โชคดีนะ” ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ กับการตัดสินใจของตัวเอง ก่อนจะพูดกับเขาแล้วหันหลังจะเดินออกไป“เดี๋ยวก่อน ขอถามอะไรหน่อย” ฉันหยุดเท้าที่กำลังจะก้าวไปด้านหน้า แต่ไม่หันหลังมามองเขา เพราะกลัวจะทนมองสายตาที่ไหวระริกนั่นของเขาไม่ไหว“ต้องเลิกกันแบบนี้เจ็บปวดไหม” เขาถามเสียงเบาหวิว คำถามของเขาแน่นอนว่าฉันย่อมเจ็บปวด ฉันเงยหน้ามองบนเพดาน เพื่อที่จะไม่ให้น้ำตาไหลลงมา“อืม เจ็บสิ”“เจ็บแล้วทำไมไม่กลับมา”“เพราะการคบกับนายมันทำให้ฉันเจ็บมากกว่า” จบคำพูดของฉันทุกอย่างก็เงียบอีกครั้ง“แล้ว... แล้วแหวนนั่นล่ะ แหวนอะไร ทำไมต้องใส่นิ้วนางข้างซ้ายด้วย”“แหวนหมั้น!” พูดจบฉันก็ไม่รีรออะไรอีก เพราะตอนนี้น้ำตาที่กักเก็บไว้มันจวนจะไหลเต็มทน ฉันรีบเดินออกจากห้องเรียนรวมก่อนที่เขาจะเห็นความอ่อนแอของฉัน เมื่อออกมาถึงหน้าห้องฉันก็เห็นเพื่อนของฉันและเขายืนรออยู่ฉันมองหน้าเพื่อนทั้งสาม ก่อนที่น้ำตาที่กักเก็บไว้จะพรั่งพรูออกมา“ฮึก ฮือ... แก มันเจ็บ ฮึก” ฉันร้องออกมาอย่างไม่อายใคร เพราะที่ตรงนี้ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากพวกฉัน ส่วนเพื่อนของเขาก็เดินเข้าไปในห้องเหมือนกัน“ไม่เป็นไรนะแก ไม่เป็นไร”“ฮึก ฮือ... ฉันไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 13

    “แหวนหมั้น!” คำคำนี้ติดอยู่ในใจผมมาหลายวันแล้ว นับตั้งแต่วันที่ผมได้พบและคุยกับเธอเมื่อคลาสเรียนรวมครั้งแรกที่ได้ยินเธอพูดคำคำนี้ ใจผมมันชาไปหมด พูดอะไรไม่ออก เพราะมัวแต่ตกใจกับคำพูดของเธอ จนกระทั่งเธอเดินออกไปและเพื่อนผมเข้ามาผมก็ยังไม่รู้ตัวคำว่าแหวนหมั้นมันลอยวนอยู่ในหัวผมไม่จางหาย กระทั่งเพื่อนทั้งสามของผมสะกิดเรียกผมนั่นแหละผมถึงได้รู้สึกตัวเมื่อตั้งสติได้ผมก็ถามพวกมันทั้งสามทันทีว่าพวกมันรู้เรื่องที่น้ำทิพย์หมั้นหมายหรือเปล่า หมั้นกับใครเมื่อไหร่ ตอนที่ผมถามพวกมันผมยังคาดหวังกับคำตอบว่าเธอคงไม่ได้หมั้นจริง ๆ เธอคงแค่โกหกผมเพื่อที่จะไม่ให้ผมเข้าไปข้องเกี่ยวกับชีวิตเธออีกแต่เมื่อได้ฟังคำตอบของพวกมันความหวังของผมก็ดับวูบ ใจผมตกลงไปที่ตาตุ่ม ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้ว่าเธอหมั้นกับใคร แต่พวกหมั้นบอกได้ว่าเธอหมั้นแล้วจริง ๆ เพราะเรื่องนี้แฟนของพวกมันทั้งสามคนเพิ่งเป็นคนบอกพวกมันก่อนที่พวกมันจะเข้ามาหาผมด้านในห้องเองผมจำได้ว่า ตอนนั้นผมเหม่อลอยไปทันทีที่ได้ยินคำตอบจากทั้งสามทั้งนี้พวกมันยังขอโทษผมด้วยที่ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้ และไม่ได้บอกเรื่องการหมั้นหมายของน้ำทิพย์ เพราะมันก็เพิ่งร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 14

    “พวกกูมีคำถาม” ผมมองหน้าไอ้ดินพร้อมกับเลิกคิวให้หนึ่งข้าง“วันที่มึงเจอน้องทิพย์วันสุดท้าย มึงได้ขอโอกาสจากน้องเขารึเปล่า”“แน่นอนสิ ถามอะไรโง่ ๆ”“น้องเข้าไม่ให้ใช่ไหม”“อืม แต่ว่า”“แต่ว่าอะไร”“เธอบอกว่าถ้ากูยังไม่เลิกยุ่งกับน้องดา เธอก็ไม่มีวันกลับมา” ผมพูดพร้อมกับทำท่าคิดหนัก“เหอะ เห็นท่าทางมึงกูก็รู้แล้วว่ามึงยังตัดสินใจไม่ได้” ผมเหลือบสายตาไปมองไอ้วินเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร“มึงลองเปิดหูเปิดตาอย่างที่พวกกูเคยบอก มึงจะเห็นในสิ่งที่พวกกูและน้อง ๆ เห็นว่าคนที่มึงรักและเอ็นดูเหมือนน้องสาวมันไม่ได้ใสอย่างที่มึงคิด”“...”“เอาละ พวกกูแค่มาดูมึงเท่านั้น จากนี้มึงก็ตัดสินใจเองแล้วกัน พวกกูกลับก่อน”หลังจากที่เพื่อน ๆ ผมกลับไป ผมก็มาคิดตามคำพูดของไอ้พายุ และเพื่อเป็นการไม่ปรักปรำหรือใส่ร้ายน้องดา ผมจะยังคงไม่เชื่อใครทั้งนั้นจนกว่าจะเห็นด้วยตาหรือได้ยินด้วยหูของตัวเองผมพยักหน้าพอใจกับความคิดของตัวเอง แล้วกดเข้าไปอ่านข้อความล่าสุดในกล่องข้อความไลน์ที่น้องดาส่งมาทันทีในข้อความบอกว่าให้ผมช่วยไปรับเธอที่ห้าง แถมยังบอกผมอีกว่ามีอะไรบางอย่างอยากให้ผมดู เห็นดังนั้นผมก็กดตกลงส่งไปหาเธอทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 15

    หลังจากวันที่ฉันตัดขาดกับเขาครั้งนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย แต่มันก็ดีแล้วล่ะ ในเมื่อเลิกกันแล้วจะยากเจอไปทำไม จริงไหม?กริ๊ง... กริ๊ง...“สวัสดีค่ะพี่ไฟ”‘สวัสดีครับน้องทิพย์ วันนี้เรามาเจอกันหน่อยดีไหมครับ’“ได้ค่ะ ว่าแต่เราจะเจอกันที่ไหนดีคะ”‘อืม...เอาเป็นคาเฟ่แถว ๆ คอนโดทิพย์ก็ได้’“โอเคค่ะ ไว้เจอกันนะคะ บายค่ะ” พูดจบก็วางสายไปคนที่โทรเข้ามาคนนี้คือพี่ไฟหรืออัคคี เขาเป็นคู่หมั้นคู่หมายของฉัน เราสองคนเพิ่งตกลงหมั้นหมายกันเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ไม่ได้หมั้นแบบเป็นทางการนะ การหมั้นครั้งนี้รู้กันเพียงในครอบครัวและเพื่อนสาวทั้งสามของฉันเท่านั้น ที่เราตกลงหมั้นกันเพราะว่ามันมีเหตุจำเป็น เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลาทุกคนก็จะรู้เองส่วนพี่วีที่ฉันไปกินข้าวด้วย ที่พี่เหนือหรือนายเหนือนทีไปพบและทะเลาะกันวันนั้น ความจริงแล้วมันก็ไม่มีอะไร เรารู้จักและสนิทกันในระดับหนึ่ง จึงไปด้วยกันเฉย ๆ“พี่ไฟโทรมาชวนไปไหนอะ ไปด้วยดิ” เป็นน้ำพิ้งค์ที่เอ่ยถาม“ไปได้เหรอ หลัวแกอะเขาไม่ห้ามไง”ฉันถามอย่างหยอกล้อ เพราะช่วงนี้ไม่รู้ว่าพี่วินเป็นอะไรแต่ค่อนข้างที่จะหวงน้ำพิ้งค์มาก วันวันนี่แทบจะเกาะติดเพื่อนฉันเหมือน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 16

    ติ๊ง!ฉันเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ ดูนั่นดูนี่ฆ่าเวลาระหว่างรอพี่ไฟไป เพื่อที่สายตาและหูจะได้ไม่ต้องสนใจคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม และระหว่างที่ไถโทรศัพท์อยู่เนี่ย เสียงข้อความไลน์ก็เด้งเข้ามา เมื่อกดดูจึงได้รู้ว่าเป็นพี่ไฟส่งข้อความเข้ามาหาข้อความบอกว่าพี่เขาขอเลทไปอีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวจะรีบเข้ามา ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ไหน ๆ ก็มานั่งรอแล้วให้รออีกครึ่งชั่วโมงก็ได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองต้องนั่งรอในสถานการณ์แบบนี้อีกครึ่งชั่วโมง จึงได้หยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์โดยไม่สนใจคนที่ทำหน้าตาจะเป็นจะตายเลยสักนิดดูนั่นสิครับ ยายตัวร้ายของผมเธอไม่แม้แต่จะสนใจผมเลยสักนิด แถมตอนนี้ก็หยิบหูฟังเสียบหูเรียบร้อย ทำราวกับว่าผมไม่ได้นั่งอยู่นี่ เหมือนเธอไม่เห็นผมอยู่ในสายตา! ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงนั่งเงียบ ๆ มองดูเธอเท่านั้น ตอนเห็นมีข้อความไลน์เข้ามาหาเธอ ใจผมร้อนรุ่มแทบอยากจะฉวยโทรศัพท์เข้ามาดูเองว่าใครกันที่ส่งข้อความเข้ามา แต่มันติดที่ว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าผมทำเธอคงไม่ให้อภัยผมแน่ ๆ เผลอ ๆ อาจจะเกลียดผมมากกว่าเดิมด้วยซ้ำตอนแรกผมไม่รู้หรอกว่าเธออยู่ที่นี่ แต่อยู่ดี ๆ ไอ้วินมันก็ส่งข้อควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 62 จบ

    ฉันผละออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของพี่เหนือ ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขที่สุดตอนแรกที่เขาบอกว่าอย่าร้อง ฉันก็กะว่าจะไม่ร้องไห้นั่นแหละ แต่ใครมันจะไปอดทนได้เล่า ในเมื่อเขาน่ารักขนาดนี้คิดดูสิบรรยากาศภายในร้าน และอะไรต่าง ๆ ที่เขาทำวันนี้เป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงทั้งสิ้นว่าเขาจะทำ เพราะสิ่งที่เขาทำวันนี้มันตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิญพี่เหนือไม่ใช่คนที่โรแมนติก เขาค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ยอมคน สายเอาแต่ใจ ที่สำคัญเขาหื่นมาก เพราะฉะนั้นการจัดตกแต่งร้านแบบน่ารัก ๆ ที่ฉันเห็นนี่มันสวนทางกับพี่เหนืออย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ที่ฉันเดินลงจากรถและเดินเข้ามา สองข้างทางล้วนประดับประดาไปด้วยหลอดไฟเล็ก ๆ น่ารัก ๆ หน้าประตูถูกประดับไปด้วยดอกไม้ที่ฉันชื่นชอบ ยิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน ฉันยิ่งรู้สึกประทับใจ เพราะมันเต็มไปด้วยดอกไม้ ลูกโป่ง และรูปของเรา ที่ขาดไม่ได้เลยคือป้ายคำว่า‘Anniversary 2 years’หลังจากที่เห็นทุกอย่างแล้ว และคิดถึงนิสัยของเขามันเลยทำให้ฉันตื้นตันใจจนอยากร้องออกมาแต่ก็ต้องกลั้นไว้เมื่อเขาห้าม แต่พอฟังเขาพูดประโยคพวกนั้นจบฉันก็ไม่สามารถกักเก็บความรู้สึ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 61

    “พี่เหนือ นี่จะพาทิพย์ไปไหนคะ ไม่เห็นบอกเลยอยู่ดี ๆ ก็บอกให้แต่งตัว”น้ำทิพย์ถามผม เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของเรา ผมจึงจะพาเธอไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่คอนโดครับ ผมกับน้ำทิพย์กลับมาจากบ้านสวนได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว กลับมากรุงเทพเราก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอ้อ ผมไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเวลานะครับ เพื่อเป็นการให้เกียรติเธอและทางครอบครัว ผมจะมานอนกับเธอที่ห้องหรือให้เธอไปนอนที่ห้องกับผมแค่อาทิตย์ละสามวันเท่านั้นนอกจากนี้ผมยังให้คุณแม่ของผมคุยเรื่องการหมั้นหมายของผมกับเธอไปคร่าว ๆ ทางโทรศัพท์กับคุณพ่อคุณแม่ของเธอแล้วด้วยก่อนผมจะกลับกรุงเทพนั่นเองซึ่งผลจากการที่ผู้ใหญ่คุยกันเรื่องนี้นั้นได้ข้อสรุปว่า หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่กลับกรุงเทพแล้ว พวกท่านจะคุยเรื่องนี้และข้อตกลงกันต่าง ๆ กันอีกที ซึ่งผมและน้ำทิพย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะถือว่าได้บอกความต้องการของตัวเองออกไปแล้ว ต่อไปก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขาคุยและตกลงกัน“อ้าวพี่เหนือถามไม่ได้ยินเหรอคะ จะไปไหน” น้ำทิพย์ถามผมหน้ายุ่ง“พาไปที่ที่สำคัญของเราสองคนไงครับ”ผมตอบเธอพร้อมกับยิ้ม น้ำทิพย์ย่นคิ้วคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า“จะพา

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 60

    ระหว่างทาผมก็ถามพนักงานชายไปด้วยว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคำตอบที่ได้รับทำให้ผมตาโตด้วยความไม่เชื่อ เพราะพนักงานคนนั้นบอกว่าถ้าทาแป้งและขี้เถ้าแล้วมดแดงมันจะไม่กัด เป็นความเชื่อที่คนโบราณทำสืบต่อกันมา ซึ่งพอเวลาผ่านไปการทำแบบนี้ก็เริ่มไม่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพนักงานของที่นี่เขาค่อนข้างจะเชื่อคำคนโบราณจึงได้เอามาทำที่ไร่นี้ พอว่าที่พ่อตามาเห็นและรู้ว่าได้ผลจึงไม่ได้ห้ามตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะได้ผลจริง แต่พอขึ้นไปบนต้นมะม่วงแล้วก็ต้องชะงัก เพราะสิ่งที่ผมไม่เชื่อกลับสามารถได้ผลดี แต่ใช่ว่าจะไม่โดนกัดเลย มันก็มีกัดบ้างแต่ไม่เท่ากับสามต้นแรกที่ผมไม่ได้ทาพวกมันแล้วขึ้นไปเก็บเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล สำหรับผมแล้วผมเชื่อครับเพราะมันใช้ได้จริงหลังจากเก็บมะม่วงสองต้นสุดท้ายเสร็จแล้วผมกับว่าที่พ่อตาก็กลับมาอาบน้ำที่บ้านก่อนจะมานั่งทานข้าวที่ถูกเตรียมไว้แล้วมื้ออาหารกลางวันเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ไม่มีเสียงกระทบกระทั่งกันไปมาของผมและคุณพ่อของน้ำทิพย์ถึงผมจะค่อนข้างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะไม่ต้องการจุดฉนวนให้ตัวเองโดนเล่นง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 59

    หลังจากที่เมื่อวานได้เปิดอกเปิดใจคุยกับคุณพ่อของน้ำทิพย์แล้ว วันนี้ผมก็ต้องมาทำงานใช้แรงงาน เพราะว่าที่พ่อตาท่านบอกว่าจะมานั่งกินนอนกินไม่ได้ จะมาอยู่ก็ต้องมาช่วยกันทำงาน แม้ว่าที่บ้านสวนจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของพวกท่านก็ตามแต่พวกท่านก็ไม่ได้พักอย่างที่ใครคิด การพักผ่อนของพวกท่านคือการใช้ชีวิตชาวสวน วันนี้ผมจึงต้องมายืนสอยมะม่วงบ้าง ปีนต้นมะม่วงจนมดแดงกัดอยู่แบบนี้ไงครับ“ใช่ ๆ พวงนั้นแหละ ลูกมันดก ขนาดกำลังกิน”เสียงของว่าที่พ่อตาตะโกนส่งมาไม่ขาดสาย ในขณะที่ผมทั้งตัดพวงมะม่วง ทั้งปัดป่ายมดแดงที่ขึ้นอยู่ตามตัวและก็ไอ้มดแดงที่กำลังกัดผมอยู่นี่แหละ ที่ผมกินไข่ของพวกมันเมื่อวานนี้เห็นแบบนี้ก็อดยอมรับนับถือคนงานไม่ได้ที่ต้องมายืนแหงนคอสอยรังของมดแดง เพื่อที่จะนำไข่ของมันไปประกอบอาหารขนาดผมปีนต้นไม้เพื่อเก็บมะม่วงยังโดนกัดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่ากว่าพวกเขาจะสอยได้แต่ละรังกว่าจะได้ไข่มาต้องลำบากกันขนาดไหน“มัวคิดอะไรอยู่ บอกเอาพวงนั้น พวงนั้น”“ผมก็ตัดอยู่นี่ไงครับว่าที่พ่อตา อย่าเร่งสิครับ มดมันกัดผมอยู่” ผมตะโกนโต้กลับกับคนที่ยืนชี้นิ้วสั่งผมอยู่ด้านล่าง“ผิวหนังด้าน ๆ อย่าง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 58

    บ้านสวนของน้ำทิพย์มีคนอยู่ไม่มากนัก จะมีแค่คุณพ่อคุณแม่ของเธอที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจตามเวลาที่สะดวก มีน้ำทิพย์ และคนสวนที่ดูแลที่นี่เพียงสองคน คนดูแลบ้านอีกสองคน หลัก ๆ แล้วคนที่อยู่ที่นี่แค่สี่คนเท่านั้น ส่วนลุงเชิดกับป้าชมนั้นเป็นสามีภรรยากัน ลุงเชิดเป็นคนขับรถส่วนป้าชมเป็นหัวหน้าแม่บ้านและเป็นคนสนิทของคุณแม่ของน้ำทิพย์ด้วยเช่นกันอ้อ ผมลืมบอกไปที่เรียกว่าบ้านสวน เพราะบริเวณรอบบ้านของเธอล้วนปลูกผักผลไม้ทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเป็นที่ดินด้านหลังบ้านที่ถัดออกไปอีกไม่ไกล มีเพียงคลองส่งน้ำเล็ก ๆ ขวางกั้นเท่านั้นเพียงก้าวข้าวสะพานไม้ที่ทำไว้ก็จะเจอกับสวนมะม่วงที่ให้คนงานลงปลูกไว้ขึ้นเต็มไปหมดผมโชคดีที่หน้านี้มะม่วงกำลังติดลูก คิดว่าคงจะได้เดินไปชมสวนของบ้านเธอแน่ ๆ ครับ เพราะนอกจากจะปลูกไว้กินแล้วเนี่ย ทางบ้านของน้ำทิพย์ยังส่งมะม่วงให้ตลาดในตัวอำเภอเพื่อขายอีกด้วย“เหม่ออะไรอยู่ ไปได้แล้วลูกเมียฉันรอ ไร้มารยาทจริง”ผมหลุดจากความนึกคิดของตัวเองแล้วเขม่นตามองว่าที่พ่อตาที่เดินนำออกไปไกลแล้ว จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินตามท่านไปบ้าง“ขอโทษที่มาช้าครับ” ผมรีบพูดทันที เพราะคุณแม่ของน้ำทิพย์กำลังนั่งรออยู่จ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 57

    “เจ้าบ้านเขาไม่ต้อนรับก็ยังจะหน้าด้านอยู่อีก” คำกล่าวทักทายแรกหลังจากที่ออกมาจากห้องพัก ก็โดนพ่อตากระแหนะกระแหนใส่ซะแล้ว“คุณพ่อครับ ถ้าไม่เต็มใจต้อนรับผมจะได้พักที่ห้องข้าง ๆ ทิพย์เหรอครับ”“ใครพ่อแก!”“อา... ลืมไปว่าไม่ใช่ งั้นคงต้องเรียกว่า...”“ว่าอะไร”“พ่อตา”“ไอ้เหนือ!”ผมพูดเสร็จก็รีบพาตัวเองเดินลงมายังชั้นล่างของบ้านทันที โดยไม่สนใจคนที่กำลังทำหน้าราวกับจะฆ่าคนของคุณพ่อตาสักนิด แถมยังมียิ้มให้ก่อนจะเดินออกมาด้วย“คุณนทีเป็นอะไรคะ เสียงดังมาถึงข้างล่าง” คุณแม่ของน้ำทิพย์เดินมาชะเง้อขอถามตรงตีนบันได ซึ่งสวนกับที่ผมเดินลงไปพอดีผมยิ้มให้ท่านแล้วเดินจากมา แต่พอมาถึงโซฟาก็เจอน้ำทิพย์ยืนกอดอกขมวดคิ้วอยู่“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“ทิพย์ต่างหากที่ควรถามพี่เหนือว่าเป็นอะไรถึงได้กวนคุณพ่อ จนคุณพ่อเสียงดังแบบนี้”“พี่เปล่าทำอะไรสักหน่อยนะครับ” ผมตีหน้าซื่อตาใสไม่ยอมรับ“พี่เหนือ เราคบกันอยู่แล้วทำไมทิพย์จะไม่รู้สันดาน เอ๊ย!นิสัยของพี่เหนือล่ะคะ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงหน่อยสิคะ”“โธ่... ที่รักก็คุณพ่อของทิพย์ท่านชอบว่าพี่นี่”“แต่ถ้าพี่เหนือยอมท่านปล่อยเวลาไปสักพัก ให้ท่านได้มีเวลายอมร

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 56

    ปัง!“กรี๊ดดด! หยุดค่ะคุณพ่อ หยุดก่อน”ปัง!“แกหลบไปยายทิพย์ หลบไปก่อนพ่อจะเอาเลือดหัวมันออก”“ถ้าเอาแค่เลือดหัวผมออกไม่ต้องใช้ปืนก็ได้ครับ เอาเป็นไม้หรืออย่างอื่นก็ได้ เป็นปืนแบบนี้ถ้าคุณพ่อพลาดยิงผมตายขึ้นมานอกจากจะติดคุกแล้ว น้ำทิพย์ยังจะเสียใจอีกนะครับ”“ฮึ่ม ไม่โว้ย ลูกสาวฉันไม่เสียใจนานหรอก เดี๋ยวฉันหาผู้ชายคนใหม่มาดามใจให้เอง แล้วก็นะฉันไม่ใช่พ่อแก!”คุณพ่อของน้ำทิพย์พูดก่อนจะทำท่ายกปืนเล็กอีกครั้ง แต่มีหรือที่ผมจะยอม ผมรีบเอาตัวน้ำทิพย์เข้ามาบังตัวผมไว้ แล้วโผล่หน้าไปท้าทายท่านอีกครั้ง“พี่เหนือ ทิพย์บอกแล้วไงว่าอย่าไปตีรวนท่าน”“ก็ดูคุณพ่อทิพย์สิ มาถึงยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านก็เอาปืนมาไล่ยิงกันซะแล้ว แบบนี้จะให้พี่อยู่เฉย ๆ ได้ไงครับ” ผมพูดอย่างไม่ยินยอม พร้อมกับหลบอยู่หลังเธอใช่แล้วล่ะครับ ตั้งแต่มาถึงและลงจากรถขณะที่ผมกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน คุณพ่อของน้ำทิพย์ก็วิ่งออกมาพร้อมปืนยาวหนึ่งกระบอกและยิงทันทียิงแบบไม่สนใจด้วยว่าจะถูกหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าท่านคงไม่กล้ายิงตรง ๆ นอกจากยิงขู่ ผมถึงได้กล้าตีฝีปากกับท่านนั่นเอง“มึง! ไอ้เหนือ ตายซะเถอะ”“โอ๊ย หยุดได้แล้วค่ะคุณ พอไ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 55

    “บอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับว่าพี่ขอไปด้วย” “พี่เหนือจะไปทำไมคะ” ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของผม น้ำทิพย์ก็ถามกลับมาทันที พร้อมมองผมขึ้น ๆ ลง ๆ“จะไปบ้านเมีย”“พี่เหนือ”“ก็พี่อยากไปด้วยนี่ พี่อยากเจอคุณพ่อคุณแม่ของทิพย์นี่ครับ ทิพย์ก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่พี่แล้ว ให้พี่ไปเจอพวกท่านบ้างสิเราจะได้เท่าเทียมกัน”“แต่คุณพ่อของทิพย์ไม่ชอบพี่เหนือ”“ก็ยิ่งไม่ชอบนั่นแหละครับ พี่ถึงต้องไป”ผมพูดออกมาด้วยความจริงจัง และใช่ครับ คุณพ่อของเธอไม่ค่อยชอบผม ย้อนกลับไปสามวันที่แล้ว ที่ผมพาน้ำทิพย์และคนอื่น ๆ ไปเที่ยวน้ำตกวันที่สองของการอยู่ที่นั่น คุณพ่อของเธอก็โทรเข้ามา แต่บังเอิญว่าน้ำทิพย์หลับอยู่ และผมก็อยู่ตรงนั้นพอดี จึงได้ถือวิสาสะรับสายท่านไป แค่ท่านได้ยินเสียงผม ก็โวยวายออกมายกใหญ่เลยครับผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ต่อว่าท่านกลับหรอกนะครับ ผมยังคงรู้จักมารยาท แต่ว่าการตอบกลับของผมค่อนข้างที่จะรวนท่านนิดหน่อยจนเดือดร้อนให้คุณแม่ของเธอเข้ามาห้ามปรามและรับโทรศัพท์ไปคุยเอง เราถึงพูดกันรู้เรื่อง ความว่าคุณแม่และพ่อของเธอไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่เดินทางไปบ้านสวน ให้น้ำทิพย์ตามไปที่นั่นเพื่อพักผ่อน เพราะเห็

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 54

    “แค่ก แค่ก กดหัวทำไมหายใจไม่ออก” ฉันไอหน้าดำหน้าแดง ส่วนคนที่ถูกต่อว่าก็ทำเพียงแค่ส่งสายตาสำนึกผิดมาให้“ขอโทษครับ”“เหอะ” ฉันส่งเสียงอย่างไม่พอใจ แล้วทำท่าจะลุกหนี“ไปไหนครับ” เขาคว้าจับแขนฉันไว้ โดยมีสายตาไม่พอใจของฉันจับจ้องอยู่“เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ ก็ไปอาบน้ำสิ ถามมาได้” ฉันที่ไม่พอใจกับการที่ถูกเขากระแทกน้องชายเข้าปากอยู่แล้วก็ตอบกลับเขาไปอย่างอารมณ์เสีย“หืม ใครบอก เมื่อกี้แค่ยกแรกครับ เขาเรียกว่าของกินเล่น จากนี้ต่างหากของจริง”“ไม่”“ไม่ทันแล้วครับ ยังไงวันนี้ทิพย์ก็หนีไม่รอด”“ไม่นะพี่เหนือ มะ อื้อ”ฉันตกใจตาเบิกโพลง คำพูดที่ฉันจะพูดไม่ถูกพูดออกมาด้วยซ้ำ เพราะพี่เหนือที่ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน อยู่ดี ๆ ก็จับฉันนั่งตักและแทงน้องชายของเขาเข้ามาทีเดียวมิดโคนตอนนี้ฉันทั้งเสียว ทั้งจุก ทำได้แค่กอดเขาแน่น ๆ เท่านั้นเพื่อหวังว่ามันจะระบายอาการพวกนี้ออกไปได้บ้างพี่เหนือก็เหมือนรู้ เขาไม่ได้ขยับตัว แต่กลับยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังปลอบโยนฉันอยู่เรานั่งกันแบบนั้นอยู่ราว ๆ สองนาที ก่อนที่พี่เหนือจะเริ่มขยับตัว มือที่ลูบไล้แผ่นหลังบางของฉันทีแรกก็กลับกลายเป็นบีบขยำเนื้อหนังด้านหลัง ก่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status