Home / รักโบราณ / ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย / เจ้าฟังแล้วอย่าตกใจเล่า

Share

เจ้าฟังแล้วอย่าตกใจเล่า

Author: l3oonm@
last update Huling Na-update: 2025-02-18 00:37:31

สองพี่น้องยืนนิ่งมองกล่องรูปร่างแปลกๆที่อยู่ข้างเตียงของจือลู่ แต่จือลู่ย่อมรู้ดีว่ากล่องที่นางเห็นคือกล่องเครื่องสำอางของนาง เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำตามนางมาได้อย่างไร

สองพี่น้องนั่งลงที่ข้างกล่องใบใหญ่ จือลู่เปิดกล่องออกดูก็พบว่าของทั้งหมดของนางยังอยู่ภายในกล่องอย่างดี ของกินเล่นที่นางมักจะซื้อแล้วโยนไว้ภายในกล่องเครื่องสำอางก็ยังคงมีอยู่ 

หนิงเฉิงมองของต่างๆอย่างแปลกใจ เขาไม่เข้าใจว่าภายในกล่องที่เห็นคือสิ่งใด จือลู่ส่งแฮมเบอร์เกอร์ที่นางชอบซื้อระหว่างทางติดไว้ เพราะกินสะดวกส่งให้หนิงเฉิง เมื่อหยิบออกไปหนึ่งอย่าง ภายในกล่องก็ปรากฏของสิ่งเดิมขึ้นมาทดแทน

จือลู่หันไปสบตาของน้องชายอย่างตกใจ เพราะนางไม่คิดว่าจะเป็นเช่นที่เห็น ของกินไม่ได้มีเพียงแฮมเบอร์เกอร์เท่านั้น เพราะนางต้องวิ่งงานถึงสองงานในวันที่เกิดอุบัติเหตุจึงมีอาหารสำเร็จรูปอยู่หลายอย่าง ที่สามารถกินได้เลยหรือนำไปอุ่นก็กินได้ทันที

"กินก่อนเดี๋ยวค่อยคุย" จือลู่บอกน้องชายเมื่อเห็นสายตาของน้องชายมองมาที่นางเหมือนอยากจะถามสิ่งใด 

จือสู่หยิบซอสออกมาเทราดไปที่แฮมเบอร์เกอร์และกินเป็นตัวอย่างให้น้องชายดู หนิงเฉิงบอกพี่สาวอย่างอึ้งๆ เพราะจือลู่กำลังอ้าปากกว้างกัดลงไปที่ของกินคำโต หนิงเฉิงจึงลองทำตาม

คำแรกที่เข้าปาก รสชาติของเนื้อที่ไม่ได้ลิ้มลองมานาน ความกรอบของผัก ที่มีความเผ็ดเปรี้ยวของซอสที่ใส่ลงไป เพียงไม่นานสองพี่น้องก็กินหมดลงอย่างรวดเร็ว

จือลู่ส่งน้ำเปล่าให้หนิงเฉิงหนึ่งขวดและเปิดฝาน้ำให้เขาด้วย ทุกการกระทำของจือลู่ทำให้หนิงเฉิงอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เหมือนสิ่งที่พี่สาวเขาทำเป็นสิ่งที่นางทำเป็นประจำ

"พี่หญิงท่านจะเล่าให้ข้าฟังได้หรือยัง" หนิงเฉิงที่ดื่มน้ำลงได้ครึ่งขวด ก็จ้องมองขวดน้ำอย่างสงสัย จึงได้เอ่ยถามพี่สาวขึ้น

"เจ้าฟังแล้วอย่าตกใจเล่า" จือลู่เอ่ยเตือนน้องชายไว้ก่อน

จือลู่แต่งเรื่องแล้วเล่าให้หนิงเฉิงฟังว่า ช่วงที่นางโดนทุบตีนั้นวิญญาณของนางหลุดไปอีกมิติหนึ่ง นางได้ใช้ชีวิตร่ำเรียนจนอายุได้ยี่สิบหกหนาวและเกิดอุบัติเหตุขึ้น จือลู่บอกว่านางได้ทำอาชีพที่เรียกว่าช่างแต่งหน้า ที่หนิงเฉิงเห็นคือเครื่องมือที่นางใช้แต่งหน้าให้ลูกค้าที่มาจ้างงาน

"พี่หญิง" หนิงเฉิงจับมือพี่สาวแล้วร่ำไห้ออกมา จือลู่กล่าวขอโทษอยู่ภายในใจที่ต้องโกหกเขา

นางไม่อาจจะบอกความจริงได้ว่านางไม่ใช่พี่สาวของเขา นางเป็นเพียงวิญญาณที่มาอาศัยร่างของพี่สาวหนิงเฉิงและนางได้ตายไปแล้ว หากนางพูดออกไปเช่นนี้นางคงได้โดนเผาทั้งเป็น

"พี่ไม่เป็นอันใดแล้วเจ้าอย่าได้ร้องไห้อีกเลย" จือลู่ลูบหลังปลอบหนิงเฉิง

"วันนี้ขึ้นเขากันดีหรือไม่" นางเปลี่ยนไปเรื่องขึ้นเขาหาของป่าแทนเพื่อให้หนิงเฉิงลืมเรื่องที่นางวิญญาณหลุดออกจากร่าง

"ได้ท่านพี่ ท่านเก็บกล่องของท่านให้ดี อย่าให้ผู้ใดพบเห็นเข้า" หนิงเฉิงพูดกับจือลู่อย่างจริงจัง

"ได้ได้ ข้าจะเก็บประเดี๋ยวนี้" แต่ก่อนที่นางจะเก็บ นางนำของกินและน้ำออกมาอีกเพื่อนำไปเป็นเสบียงช่วงขึ้นเขา

หนิงเฉิงที่รอบคอบกว่าจือลู่ก็นำของออกจากถุงและใส่ลงไปในห่อผ้าแทน ถุงขยะและขวดน้ำ จือลู่ลองใส่กลับเข้าไปในกล่องปรากฏว่าของที่เป็นขยะจะหายไป และเปลี่ยนเป็นของชิ้นใหม่ขึ้นมาแทน นางจึงไม่ต้องกังวลเรื่องของกินอีก แต่จะให้กินเพียงของไม่กี่อย่าง คงไม่นานได้เบื่อแน่ และนางก็ไม่คิดจะหวังพึ่งเพียงของกินในกล่องเท่านั้น

สองพี่น้องแบกตะกร้าขึ้นหลังในตะกร้านอกจากของกินแล้วยังมีมีดพร้าและของที่ไว้ขุดหาผักป่าได้อีกด้วย ทั้งคู่มุ่งหน้าขึ้นเขา ก็พบเจอชาวบ้านที่ออกมาทำไร่และหาของป่าเช่นเดียวกับทั้งคู่

"ลู่เออร์หายดีแล้วหรือ" เมื่อเห็นว่านางจะขึ้นเขาพร้อมหนิงเฉิงทุกคนต่างก็สอบถามทั้งคู่อย่างเป็นห่วงแล้วยังกำชับให้หนิงเฉิงดูแลพี่สาวที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บให้ดีด้วย ทั้งคู่กล่าวขอบคุณไปตลอดทาง

เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน จือลู่มองดูก็ไม่พบผักป่าหรือสิ่งใดให้นางเก็บได้ นางจึงชวนหนิงเฉิงแยกไปอีกทางที่ไม่มีชาวบ้านเดินเข้าไปมากนัก

"ท่านพี่ ฟากนั้นไม่มีใครไปกันนักขอรับ" หนิงเฉิงเอ่ยเตือนอย่างกังวลใจ เพราะพรานป่ามักจะบอกว่าด้านนั้นมีเสือ มีหมีป่า จึงไม่มีใครกล้าเข้าไป

"เข้าไปไม่ลึกนัก หากเดินไปทางที่ชาวบ้านคนอื่นเดินเจ้าก็ไม่พบของมีค่าหรือของที่กินได้แล้ว" จือลู่กล่าวแย้งและแยกตัวเดินนำไปอีกทาง

หนิงเฉิงที่ไม่อาจไม่เดินตามพี่สาวได้ก็รีบเร่งฝีเท้าตามจือลู่ไปอย่างรวดเร็ว ป่าอีกฟากเพราะไม่มีชาวบ้านเข้ามาหาของป่าจึงทำให้มีผักป่า ผลไม้ป่ามากว่าอีกด้าน หนิงเฉิงรีบเข้าไปเก็บอย่างดีใจ แต่จือลู่ดึงตัวเขาไว้เสียก่อน

"เดินเข้าไปอีกหน่อยเถิด หากไม่พบอะไรค่อยออกมาเก็บก็ยังได้" ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครมาแย่งพวกนาง หนิงเฉิงที่เห็นของป่ามากมายก็ใจกล้าขึ้น เดินตามจือลู่เข้าไปในส่วนที่ลึกขึ้น

อากาศในภูเขาเริ่มเย็นมากกว่าด้านนอก ป่าที่รกทึบทำให้แสงแดดส่องเข้ามาไม่ถึง จือลู่ใช้ไม้ที่นางหาได้เขี่ยไปตามพื้นดิน หากพบสมุนไพรมีค่าของนำไปขายได้เงินมากกว่าผักป่าหรือผลไม้ป่า

แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างสองพี่น้อง เดินมาจนแทบจะหมดแรงแต่ก็ยังไม่พบสิ่งใดที่มีค่านอกจาก ไข่ไก่ป่าสี่ห้าฟองเท่านั้น ต่อให้เจอไก่ป่าทั้งคู่ก็ไม่อาจจับได้ จือลู่ถอนหายใจอย่างสิ้นความหวัง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   หญ้าหนอน

    "พักกินอะไรเสียก่อนเถิด" นางบอกหนิงเฉิงที่ก้มๆเงยๆหาของป่าอยู่ทั้งคู่นั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะหยิบของในตะกร้าออกมาแล้วแบ่งกันกิน หนิงเฉิงที่ไม่เคยกินของเหล่านี้มาก่อนก็กินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งคุกกี้ ขนมปัง หนิงเฉิงกินไปมากกว่าจือลู่เสียอีก จือลู่ก็เริ่มจะเก็บของกลับลงตะกร้าเพื่อจะเดินย้อนกลับไปทางเดิม มือของนางก็กิ่งไม้เล็กๆที่โผล่ขึ้นมาจากดินเข้า เมื่อนางลองใช้มือแหวกกองใบไม้ออกก็พบถังเช่าที่อยู่ด้านใต้ จือลู่ที่ยังไม่แน่ใจก็หยิบเครื่องมือที่อยู่ในตะกร้าออกมาขุดดินรอบๆทันที"เฉิงเออร์ พวกเรารอดตายแล้ว" นางชูสิ่งที่อยู่ในมือขึ้นแล้วร้องออกมาอย่างดีใจ"กิ่งไม้เล็กเพียงนี้ ท่านจะนำไปทำอันใด" หนิงเฉิงที่ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในมืองของจือลู่ล่ำค่าเพียงใดก็เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย"นี่คือสมุนไพร เรียกว่าหญ้าหนอน" จือลู่อธิบายให้น้องชายฟัง ว่าราคาแพงกว่าโสมเสียอีกหนิงเฉิงที่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในมือพี่สาวแพงกว่าโสมก็รีบช่วยนางขุดหาอย่างรวดเร็ว จือลู่สอนให้หนิงเฉิงขุดขึ้นมาอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ถังเช่าได้รับความเสียหาย ถังเช่าที่นางพบมีขนาดใหญ่กว่าที่นางเคยเห็นในภพของนางเสียอีก จึงทำให้ขุดได

    Huling Na-update : 2025-02-18
  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าขอออกจากตระกูล

    "รับเงินมาแล้วอย่างไร เจ้าก็คืนเงินพ่อหม้ายจงไปเสียก็สิ้นเรื่อง" ชาวบ้านพูดขึ้น"เรื่องภายในครอบครัวของข้าพวกเจ้ายุ่งอันใดด้วย" นางกงซื่อเถียงขึ้นอย่างไม่ยินยอม"ท่านปู่ผู้นำได้โปรดช่วยพวกข้าสองคนพี่น้องด้วยขอรับ" หนิงเฉิงคุกเข่าลงต่อหน้าผู้นำหมู่บ้าน"หากท่านป้าสะใภ้ยังต้องการขายพี่สาวข้าให้พ่อหม้ายจง เช่นนั้นพวกข้าขอออกจากตระกูลจางและจะเปลี่ยนไปใช้แซ่จ้าวของท่านแม่แทนขอรับ" จือลู่เงยหน้ามามองน้องชายอย่างตกใจ มิใช่แค่นางทุกคนก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าหนิงเฉิงจะกล้าพูดเรื่องออกจากตระกูลขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะเขาอดทนมามากพอแล้ว หรือสงสารที่พี่สาวต้องได้รับความอยุติธรรมจากคนในครอบครัว"เจ้าคิดดีแล้วหรือเฉิงเออร์" ผู้นำหมู่บ้านถามเขาอย่างจริงจังเพราะไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือทั้งคู่ด้วยวิธีใด หากพูดถึงเรื่องแต่งงานก็สมควรจะเป็นผู้อาวุโสในเรือนเป็นคนจัดการ แต่นางกงซื่อก็ทำกับหลานเกินไปที่เลือกคนเช่นพ่อหม้ายให้นาง"ข้าคิดดีแล้วขอรับ" หนิงเฉิงกัดฟันแน่นก่อนที่จะเอ่ยออกมา เขายอมให้พี่สาวแต่งออกไปกับพ่อหม้ายไม่ได้ "ได้ ไปเรียกต้าอู๋มา" นางกงซื่อจะเอ่ยแย้งก็ไม่กล้า เพราะสายตาที่เอาจริงของผู้นำหมู่บ้านคอย

    Huling Na-update : 2025-02-19
  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   อยู่ที่ท่านจะให้ราคาดีเพียงใด

    นางก็ไม่คิดที่จะอยู่หมู่บ้านนี้ไปตลอด หากขายถังเช่าได้ราคาดีนางคงจะพาหนิงเฉิงไปอยู่ที่ในเมืองเพื่อให้เขาได้กลับไปเรียนอีกครั้ง และนางจะได้ค้าขายหรือทำงานเพื่อหาเงินด้วย"เฉิงเออร์ พรุ่งนี้ขึ้นเขาอีกรอบ พวกเราเก็บมาทั้งหมดเลยจะได้เข้าเมืองไปขาย ถ้าได้ราคาดีข้าจะหาซื้อเรือนในเมือง ต่อไปเจ้าก็กลับไปเรียน" จือลู่ยกมือขึ้นห้ามเพื่อไม่ให้หนิงเฉิงขัดนาง"เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องทุกอย่างต่อไปข้าจะจัดการเอง เจ้าเพียงตั้งใจเรียน ข้าจะไม่ให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมเช่นในวันนี้อีกแล้ว" เมื่อจือลู่พูดจบหนิงเฉิงก็เงยหน้ามองนาง ดวงตาของเขาแดงกลำไปทั้งดวงเพราะกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา"พี่หญิง" พูดได้เพียงเท่านั้นหนิงเฉิงก็พุ่งตัวเข้ามากอดจือลู่ไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาเสียงดัง ต่อให้เก่งหรือฉลาดเพียงใด แต่เขาก็ยังเป็นเด็กที่อายุเพียงสิบสองหนาวเท่านั้น ย่อมเกิดความหวาดกลัวอยู่ในใจทั้งสองเมื่อปลอบประโลมกันแล้วก็แยกย้ายไปอาบน้ำเพราะพรุ่งนี้ยังต้องรีบขึ้นเขาก่อนฟ้าสว่าง จือลู่ล้มตัวลงนอน นางจ้องมองเพดานอย่างครุ่นคิด เหตุใดทะลุมิติมาถึงได้เจอแต่เรื่องวุ่นวายเช่นนี้ เหตุใดไม่ไปเกิดในวังหลวงมีทาสรับใช้ให้สบาย

    Huling Na-update : 2025-02-19
  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   มารดาของพวกเจ้าแซ่จ้าวเช่นนั้นรึ

    ท่านหมอโยวเมื่อหยิบถังเช่าที่หนิงเฉิงส่งมาให้ก็อดจะแปลกใจไม่ได้ ถังเช่าที่มีขนาดใหญ่ วิธีการเก็บก็สมบูรณ์ในสองคนนี้ต้องมีคนใดที่รู้วิธีเก็บเป็นแน่ แล้วยังทำความสะอาดมาเรียบร้อยแล้วด้วย"พวกเจ้ารู้วิธีเก็บ" เขาเงยหน้าขึ้นมาจากกองถังเช่า แล้วเอ่ยถามสองพี่น้อง"ข้าเพียงรู้มาเล็กน้อยเจ้าค่ะ ไม่กล้ารับคำชมของท่านหมอ" จือลู่ก้มศีรษะลงหมอโยวมองสองพี่น้องอย่างพิจารณา ใบหน้าของจือลู่เข้ารู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคุ้นเคยเช่นไร"ท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หนิงเฉิงที่เห็นสายตาของท่านหมอโยวจับจ้องพี่สาวของตนอย่างพิจารณาก็เอ่ยขัดขึ้น"ซื้อ ซื้อ เจ้ามีมากเพียงใด""ท่านซื้อเท่าใดเจ้าคะ" จือลู่ยังยืนยันว่านางต้องการที่จะฟังราคาก่อน"ข้าให้ชั่งละหนึ่งพันตำลึง" จือลู่ขมวดคิ้วคิด นางจับมือหนิงเฉิงที่ใต้โต๊ะเพื่อไม่ให้เขาแสดงอาการ (1=ชั่ง=500กรัม) หนึ่งชั่งหนึ่งพันตำลึงเท่ากับหนึ่งกิโลกรัมสองพันตำลึง จือลู่นางจึงหยุดคิด"เช่นนั้น หนึ่งพันห้าร้อยตำลึงทอง เจ้าพอใจหรือไม่" หมอโยวรีบเพิ่มราคาเมื่อเห็นว่าจือลู่เหมือนจะหยุดคิดแต่ที่จือลู่กำลังคิดคือทั้งหมดที่นางนำมาจะขายได้มากเพียงใด นาง

    Huling Na-update : 2025-02-20
  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   หาซื้อเรือน

    เมื่อเดินสำรวจไปตามถนนเส้นต่างๆเพื่อดูการค้าและความเป็นอยู่ จือลู่อยากได้เรือนที่ไม่วุ่นวายนักและอยากให้อยู่ไม่ห่างจากสำนักศึกษาที่จะให้หนิงเฉิงได้เข้าเรียนเพราะเจ้าหน้าที่ทางการไม่ยอมให้สองพี่น้องเข้าไปเพื่อติดต่อซื้อเรือน จือลู่จึงหารือกับหนิงเฉิงว่าพวกเขาควรจะขอความช่วยเหลือจากท่านหมอโยว อย่างไรก็ทำการค้าด้วยกัน ท่านหมอโยวคงจะไม่ใจร้ายกับพวกตนนัก"พี่ชายพวกข้ามาขอพบท่านหมอโยวเจ้าค่ะ" จือลู่บอกเสี่ยวเอ้อที่อยู่หน้าร้านเพียงไม่นานทั้งคู่ก็ถูกเชิญเข้าไปด้านในเพื่อพบท่านหมอโยวที่ห้องรับรอง"พวกเจ้านำหญ้าหนอนมาขายอีกแล้วหรือ" ท่านหมอโยวพูดอย่างตกใจ จือลู่มองเขาด้วยสายตาเหมือนมองคนสติไม่ดี"หากหาง่ายเช่นนั้น ท่านคงไม่ซื้อในราคาที่แสนแพงเช่นนี้" จือลู่เอ่ยขึ้น"เช่นนั้นพวกเจ้ามาพบข้าด้วยเรื่องอันใด"จือลู่เล่าเรื่องที่นางต้องการขอความช่วยเหลือจากท่านหมอโยว ให้ช่วยออกหน้าเรื่องซื้อเรือนในเมืองให้นาง และยังเล่าว่าพวกตนโดนไล่ออกมาจากที่ว่าการจึงต้องแบกหน้ามาขอความเมตตาจากท่านหมอโยวหมอโยวลูบเคราอย่างใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้น"เรื่องนี้ไม่ได้ยากอันใด ข้ามีเรือนอยู่หลังไม่มีผู้ใดอาศัย

    Huling Na-update : 2025-02-20
  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ช่วยเหลือชาวบ้าน

    "พรุ่งนี้ขึ้นเขาไปดูเสียก่อนว่ายังมีอีกหรือไม่ แล้วข้าค่อยเข้าเมืองไปคุยกับท่านหมอโยว" ท่านผู้นำจึงได้ขอตัวกลับไปเรียกชาวบ้านมารวมตัวเพื่อจะแจ้งเรื่องที่พาขึ้นเขาหาหญ้าหนอน"พวกเจ้าสองพี่น้องนับว่ามีบุญคุณช่วยให้ชาวบ้านผ่านหน้าหนาวนี้ไปได้แล้ว" เพราะชาวบ้านได้แต่ทำไร่ และหาผักป่าไปขาย ในช่วงหน้าหนาวผู้เฒ่าและเด็กเล็กจึงมักเสียชีวิตลงก่อนฟ้าจะสว่างจือลู่และลู่เสียนก็เตรียมตัวพร้อมอยู่ที่หน้าเรือน แต่ชาวบ้านมารวมตัวกันเร็วกว่าสองพี่น้องเสียอีก "ท่านลุง ท่านป้าทั้งหลายเจ้าคะ ข้าขอพูดกับพวกท่านเสียก่อน" จือลู่กล่าวด้วยเสียงอันดังจือลู่นางบอกเรื่องที่อาจจะมีหญ้าหนอนไม่มาก และนางอยากให้ทุกคนช่วยกันเก็บแล้วขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน เพราะจะได้ไม่เกิดปัญหาการแย่งชิง"ข้าและเฉิงเออร์หวังว่าพวกท่านจะไม่ต่อว่าข้าสองคนพี่น้องหากพบน้อยหรือไม่พบเลย" ทั้งคู่ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษทุกคนล่วงหน้า จากนั้นทั้งหมดก็เดินขึ้นเขาไปอย่างมีความหวัง เสียงด่าทอพึมพำของนางกงซื่อที่ต่อว่าสองพี่สองก็ได้ยิน"นางกงซื่อหากเจ้ายังไม่หยุดพูดก็กลับเรือนไปเสีย" ผู้นำหมู่บ้านตวาดนางกงซื่อ ชาวบ้านก็ส่งเสียงต่อว่าจนนางกงซื่อต้อ

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   แสดงฝีมือ

    เมื่อเสร็จเรื่องทั้งหมด ผู้นำหมู่บ้านจึงชวนจือลู่ให้อยู่ทานข้าวที่เรือนของตน สองพี่น้องก็มิได้ปฏิเสธ จือลู่เห็นบุตรสาวคนเล็กของท่านปู่ชุยกำลังเย็บผ้าคลุมหน้านางจึงเดินเข้าไปดูอย่างสนใจ"พี่เหมยท่านกำลังปักอันใดหรือ" "ข้ากำลังปักผ้าคลุมหน้า" นางแสดงสีหน้าเขินอาย"เหมยเออร์ใกล้ออกเรือนแล้ว เงินที่ขายหญ้าหนอนมาได้ข้าก็จะแบ่งให้เป็นสินเดิมของนาง" ย่าชุยพูดขึ้น ท่านปู่ชุยมีบุตรชายที่ออกเรือนแล้วสองคนนำว่าเรือนตระกูลชุยของเขาได้เงินถึงหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึงทอง"ขอบใจเจ้ามากลู่เออร์" ชุยเหมยจับมือของจือลู่ไว้"ข้ามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากท่านย่าชุยด้วยเจ้าค่ะ" จือลู่เอ่ยขึ้น เพราะนางอยากหาคนเย็บหมอนให้นาง แต่นางไม่รู้ว่าจะขอให้ใครช่วยลำพังให้นางทำเองก็คงจะเย็บไม่ได้แน่"เรื่องอันใด มีสิ่งใดที่ข้าจะช่วยเจ้าได้" พ่อท่านย่าชุยได้ยินก็หัวเราะอย่างขบขัน นางรีบให้จือลู่นำผ้ามาให้นางทันที จือลู่ส่งผ้าให้และบอกว่านางต้องการหมอนขนาดเท่าใด และนางขอให้เย็บให้นางถึงสี่ใบ ท่านย่าชุยจะช่วยเย็บผ้าห่มให้นางด้วยแต่นางปฏิเสธไปและจะนำนุ่นไปยัดใส่เอง เพราะนางให้ทางร้านผ้าในเมืองทำผ้าห่มไว้ให้นางแล้วทั้งหมดก

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ได้คนมาช่วยงาน

    เพราะไม่คิดว่าหญิงสาวชาวบ้านเช่นนางจะก่อฟืนแล้วจะมีสภาพเช่นนี้ หนิงเฉิงจึงเอ่ยถามถึงเรื่องหาซื้อคนกับท่านหมอโยว"เรื่องนี้ข้าจัดการให้ พวกเจ้าอยากได้กี่คน" ทั้งสองสบตากันอย่างไม่รู้ว่าจะหาคนกี่คนดี หมอโยวจึงโบกมือ เขาเรียกบ่าวที่ติดตามเข้ามาและสั่งให้ไปหาคนมาหนึ่งครอบครัว"หาคนจากที่ใดเจ้าคะ" จือลู่ถามขึ้นอย่างสงสัย"ทาสหลวงมีขายอยู่ที่ตลาดค้าทาส พวกเจ้าไม่เหมาะที่จะเข้าไปให้คนของข้าไปจัดการก็พอ" จือลู่ลืมไปเลยว่ายุคนี้ยังมีการซื้อขายทาสกันอยู่ นางจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้จะไม่อยากได้ทาสแต่ก็คงต้องยอมรับตามวิถีของคนยุคนี้ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยามบ่าวของท่านหมอโยวก็พาคนมาหกคน มีบุรุษสามคนและสตรีสามคน "มากถึงเพียงนี้เลยหรือเจ้าค่ะ"จือลู่เอ่ยขึ้น"ไม่มาก ไม่มาก เรือนของเจ้าใหญ่โต มีคนช่วยเท่านี้ก็นับว่าเพียงพอ" หมอโยวส่งหนังสือสัญญาให้จือลู่ นางจึงให้หนิงเฉิงนำเงินมาให้ท่านหมอโยว เมื่อเห็นว่าหมดเรื่องท่านหมอโยวจึงได้ขอตัวกลับไป "พวกท่านลุกขึ้นเถิดเจ้าค่ะ" จือลู่กล่าวอย่างเกรงใจ เพราะพวกเขาล้วนอายุมากกว่านางกับน้องชายเสียอีก คงมีเพียงบุตรทั้งสองชายหญิงที่มีอายุใกล้เคียงกับทั้งคู่แต่ก็มา

    Huling Na-update : 2025-02-22

Pinakabagong kabanata

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ตอนจบ

    ภายในคุกที่ว่าการเมืองเป่ยหาน ต้าอู๋และนางกงซื่อมิรู้ว่าพวกตนถูกจับมาได้อย่างไร ชินอ๋องที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ภายนอก ก็เดินปรากฏตัวเขาไปด้านในต้าอู๋และกงซื่อเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนคนใหม่คือชินอ๋องสามีที่แท้จริงของจ้าวเหยียนก็รีบคุกเข่าโขกศีรษะอย่างร้อนตัวชินอ๋องพูดเรื่องที่ทั้งคู่ทุบตีจือลู่และหนิงเฉิงทั้งยังจะยกจือลู่ให้พ่อหม้ายจง ต้าอู๋กับนางกงซื่อเงยหน้ามองชินอ๋องอย่างแปลกใจ แม้นางกงซื่อจะเคยคิดเช่นที่ชินอ๋องพูด แต่นางก็ไม่ได้ทำและไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนชินอ๋องมิรอฟังคำแก้ตัวของต้าอู๋และนางกงซื่อ เขาสั่งให้ทหารโบยทั้งคู่คนละสามสิบไม้ก่อนจะเนรเทศไปใช้แรงงานที่เหมืองทางตอนใต้ของแคว้นขบวนเดินทางของชินอ๋องเสียเวลาอยู่ที่เมืองเป่ยหานเพียงห้าวันเท่านั้น นอกจากที่เขาจัดการเรื่องของต้าอู๋และนางกงซื่อแล้ว ยังให้จือลู่จัดการเรื่องร้านค้าของนาง และเติมสินค้าอย่างเต็มที่หลังจากออกเดินทางจากเมืองเป่ยหานมาได้ห้าวันก็ถึงเมืองเป่ยโจว จือลู่นางต้องไปอยู่ที่จวนของเว่ยหยาง แต่เพราะต้องปรับปรุงจวนเสียใหม่นางกับเว่ยหยางจึงอาศัยอยู่ในตำหนักเสียก่อนผ่านมาได้ครึ่งปีเรื่องมงคลของตำหนักอ๋องก็มีมาเยือน เ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   กลับเป่ยโจว

    วันต่อมา จือลู่ถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง จ้าวเหยียนก็มาที่เรือนของนางเพื่อช่วยนางแต่งตัว วันงานจือลู่มิได้แต่งหน้าเอง แต่คนที่แต่งให้ก็เป็นมือหนึ่งในร้านอ้ายเสิ่นของนาง นับว่าฝีมือที่แต่งออกมาใกล้เคียงกับของจือลู่ยิ่งนักจ้าวเหยียนเป็นคนหวีผลให้จือลู่และสวมผ้าคลุมหน้าให้นาง จ้าวเหยียนหันไปปาดน้ำตา เพราะเป็นงานมงคลไม่อาจหลั่งน้ำตาออกมาได้"ลู่เออร์ ไม่ว่าเจ้าจะออกเรือนไปแล้ว อย่างไรก็เป็นลูกของข้าอยู่เสมอ" จือลู่เงยหน้ามองจ้าวเหยียนที่ดวงตาแดงก่ำจากการกลั้นน้ำตาไว้"ท่านแม่ ท่านก็คือมารดาของข้าเช่นกันเจ้าค่ะ" คำพูดของนางหากคนนอกฟังอาจจะดูแปลกๆ แต่สองคนแม่ลูกล้วนเข้าใจกันอย่างดี จือลู่กอดเอวของจ้าวเหยียนแน่น ก่อนจะปล่อยให้นางได้ออกไปจัดการเรื่องด้านหน้าตำหนักเสียงฆ้องดังมาแต่ไกล ขบวนเจ้าบ่าวที่มารับเจ้าสาวยาวเหยียดจะมองไม่เห็นท้ายขบวน สินเดิมของเจ้าสาวที่กองไว้เพื่อนำออกจากตำหนักก็มากมายเสียทำให้คนอิจฉาตาร้อนเว่ยหยางพาจือลู่คำนับชินอ๋องกับจ้าวเหยียนก่อนจะพานางออกไปจากตำหนัก หนิงเฉิงแบกพี่สาวไปส่งที่เกี้ยวแปดคนหามหลังงาม จ้าวเหยียนยืนมองส่งจือลู่ด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตา ชินอ๋องจึ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าควรจะจัดการเจ้านานแล้ว

    ชินอ๋องเมื่อเห็นจ้าวเหยียนปลอดภัยแล้ว นางเพียงหลับไปเพราะอ่อนเพลียจึงได้ออกมาดูบุตรทั้งสาม ก็เห็นว่าจือลู่และหนิงเฉิงเฝ้าน้องของพวกเขาอยู่"ท่านพ่อ ดูน้องของข้า เหตุใดถึงได้น่าเกลียดเช่นนี้ขอรับ" หนิงเฉิงใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าน้องสาวคนเล็กเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ส่วนน้องชายทั้งสองล้วนแล้วแต่น่าเกลียดในสายตาของเขา"ตอนเจ้าเกิดเจ้าก็น่าเกลียดเช่นนี้" จือลู่หยอกเย้าน้องชายของตน นางก็กำลังเขี่ยแก้มของเด็กแฝดทั้งสามชินอ๋องมองลูกทั้งสามที่นอนหลับอยู่อย่างรักใคร่ ก่อนที่เขาจะอุ้มบุตรสาวคนเล็กขึ้นมา "ฉีซิงเยียน""ซิงเยียน น้องต้องงดงามกว่าพี่หญิงแน่นอนขอรับ" หนิงเฉิงพูดขึ้น จือลู่หันไปมองสองพ่อลูกที่เห่อน้องสาวคนเล็กของบ้านอย่างเอือมๆแฝดคนโตชื่อ หนิงเทียน คนรองชื่อหนิงหวง ทั้งคู่มีคำว่าหนิงเช่นเดียวกับพี่ชายของเขา"ท่านพี่ ลูกเล่าเจ้าคะ" กว่าจ้าวเหยียนจะตื่นก็เข้าสู่อีกวันแล้ว นางลืมตาก็ถามหาบุตรทั้งสามที่นางเพิ่งคลอด เพราะก่อนที่จะหมดสติไปนางรู้เพียงว่าเด็กทั้งสามล้วนแล้วแต่แข็งแรงดีชินอ๋องให้แม่นมพาบุตรทั้งสามเข้ามาให้จ้าวเหยียนได้ดู และบอกนางถึงชื่อที่เขาตั้งให้บุตรทั้งสาม"เจ้าพักผ่อนเสียให้

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   คลอดบุตร

    เว่ยหยางรีบกลับจวนพร้อมนำข่าวไปแจ้งให้บิดามารดาส่งแม่สื่อไปที่ตำหนักอ๋องข่าวเรื่องที่ตระกูลเว่ยส่งแม่สื่อล่วงรู้ไปถึงองค์ชายรอง ก่อนที่เขาจะออกจากวังไปจัดการกับเว่ยหยางก็โดนฮ่องเต้เรียกตัวเข้าพบ"เจ้ารอง เจ้ามั่นใจมากเพียงใดที่จะจัดการกับแม่ทัพเว่ย" ฮ่องเต้ยกชาขึ้นดื่มอย่างใจเย็น เหมือนเรื่องที่พระองค์ถามบุตรเป็นเพียงเรื่องดินฟ้าอากาศ"เสด็จพ่อ ท่านพระราชทานสมรสให้ลูกได้" เขาเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ"เจ้ากล้ามีเรื่องกับชินอ๋องใช่หรือไม่" ฮ่องเต้จ้องบุตรชายอย่างดุดัน"ลูก ลูก เสด็จพ่อเป็นถึงฮ่องเต้ ชินอ๋องจะมีอำนาจมากกว่าท่านได้อย่างไร""โง่เขลานัก" ฮ่องเต้ขว้างถ้วยน้ำชาลงพื้นอย่างมีโทสะ"หากน้องห้าต้องการบัลลังก์ เจ้าคิดหรือว่าเจิ้นจะได้นั่งเช่นทุกวันนี้" เพราะน้องชายของเขามิคิดจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ และช่วยเหลือเขาจนได้นั่งบัลลังก์เช่นทุกวันนี้ เรื่องทุกเรื่องชินอ๋องไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่ง หากพระองค์เข้าไปจัดการเรื่องในตำหนักคงได้เกิดปัญหาแน่"หากเจ้ายังคิดว่าตนเองต่อกรได้ เจิ้นก็ไม่ห้าม ไม่ว่าเกิดอันใดขึ้นเจิ้นมิอาจช่วยเหลือเจ้าได้""เสด็จพ่อ" องค์ชายรองตกใจ เพราะไม่ว่าสิ่งใดเสด็จพ่อเสด็จแ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าสาบานด้วยชีวิต

    ฮองเฮาที่ต้องการผูกสัมพันธ์กับชินอ๋องจึงอยากได้จือลู่มาเป็นพระชายาให้กับองค์ชายรอง เพราะฮ่องเต้ย่อมถามความคิดเห็นของชินอ๋องเรื่องแต่งตั้งองค์รัชทายาทหากองค์ชายรองได้แต่งจือลู่ ชินอ๋องย่อมต้องเข้าข้างบุตรเขยของตนเพื่อให้บุตรสาวได้ขึ้นเป็นฮองเฮาในอนาคต เมื่อเห็นว่าชินอ๋องจะขอตัวกลับแล้ว ฮองเฮาจึงพูดเรื่องหมั้นหมายขึ้นมาอีกครั้ง"กระหม่อมยังมิคิดให้ลู่เออร์ออกเรือนพ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องตัดบทด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนจะพาจ้าวเหยียนและบุตรทั้งสองกลับตำหนัก"ท่านพี่ข้าคิดว่าฮองเฮาคงไม่ยอมหยุดเรื่องของลู่เออร์" จ้าวเหยียนเอ่ยด้วยความกังวล"มีข้าอยู่นางจะทำอันใดได้" ชินอ๋องกอดปลอบจ้าวเหยียน เขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างรถม้าอย่างใช่ความคิดเว่ยหยางที่รู้เรื่องฮองเฮาต้องการทาบทามจือลู่ให้องค์ชายรองก็ร้อนใจจนมาที่ตำหนักอ๋องแต่เช้า"เปิ่นหวางไม่ได้เรียกเจ้ามิใช่หรือท่านแม่ทัพเว่ย" เขาปรายตามองบุรุษหน้าหนาที่ร้อนใจมาที่ตำหนักแต่เช้า"กระหม่อมมีเรื่องอยากทูลพระองค์พ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องเดินนำเว่ยหยางไปที่ห้องตำรา เพราะเขารู้ดีว่าเว่ยหยางมาด้วยเรื่องอันใด"ว่ามา" ชินอ๋องนั่งลงแล้วเอ่ยถามโดยไม่ได้หันไปมองเว่ย

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   จัดการตระกูลเซี่ย

    วิญญาณดวงใหม่เข้ามาแทนที่ ชินอ๋องจ้องมองภาพตรงหน้าอยากแปลกใจ เมื่อจือลู่ที่มาจากอีกภพลืมตาขึ้น สิ่งที่นางพึมพำออกมาชินอ๋องรู้ได้ทันทีว่านี่คือจือลู่ที่มาอีกภพหนึ่ง"ท่านพี่ ท่านพี่" เสียงเรียกของจ้าวเหยียนปลุกให้ชินอ๋องตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายของเขา"เหยียนเหยียน" ชินอ๋องลูบไปที่ใบหน้าของนาง ก่อนจะดึงนางเข้ามาสวมกอดแล้วร้องไห้เงียบๆ"ท่านเป็นอันใดไปเจ้าคะ ฝันเรื่องอันใดถึงได้เป็นเช่นนี้" จ้าวเหยียนมองชินอ๋องอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาทั้งร้องไห้ทั้งตะโกนจึงทำให้นางตื่นขึ้นมาชินอ๋องเล่าเรื่องความฝันของเขาให้จ้าวเหยียนฟัง พอถึงตอนที่ต้องเสียน้องและจือลู่เสียงของเขาสั่นขึ้นด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะเป็นเรื่องจริง"ท่านพี่หากข้าบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่ท่านฝันคือเรื่องจริงท่านจะเชื่อหรือไม่" จ้าวเหยียนจับใบหน้าของชินอ๋องแล้วจ้องมองเขาอย่างจริงจังนางเล่าเรื่องที่นางเสียชีวิตลง และได้ไปอยู่ที่ภพใหม่ แม้ชินอ๋องจะรู้แล้ว แต่เรื่องที่นางรู้ว่าเรื่องทั้งหมดของพวกเขาเป็นเพียงแค่นิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางจบชีวิตลงเป็นเช่นที่เขาเห็นความรันทดของบุตรทั้งสองเป็นเรื่องจริง ที่ครั้

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ภาพฝัน

    เมื่อถึงห้องทรงอักษรของฮ่องเต้ หวังกงกงก็รีบพาชินอ๋องเข้าไปด้านใน ฮ่องเต้ที่เห็นน้องชายที่ไม่ได้พบหลายปีก็เรียกให้เข้าไปหาอย่างเร็ว แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้พูดคุยกัน เสียงร้องของเสียนเฟยที่ดังอยู่หน้าตำหนักก็ดังเข้ามาถึงด้านใน"พระองค์จะทำให้นางเงียบเสียงลงหรือให้กระหม่อมช่วยทำให้นางเงียบ" ชินอ๋องหมุนจอกน้ำชาเล่นแล้วถามด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย"หวังกงกง" ฮ่องเต้รีบโบกมือให้หวังกงกงไปจัดการส่งเสียนเฟยกลับตำหนักและอย่าได้เสนอหน้ามาอีก"เกิดเรื่องอันใดขึ้นน้องห้า" ชินอ๋องเล่าเรื่องที่เสนาบดีเกาส่งมือสังหารไปลอบทำร้ายเขาและครอบครัวให้ฮ่องเต้ฟัง"เหอะ โง่เขลานัก" ฮ่องเต้สบถขึ้นเสียงดัง เพราะเหตุการณ์แย่งชิงบัลลังก์ทำให้เสนาบดีเการอดพ้นหายนะมาได้ แต่ดันหาเรื่องตายไม่เลิกฮ่องเต้เขียนพระราชโองการสั่งให้ประหารเสนาบดีเกา และยึดทรัพย์จวนเกาพร้อมทั้งเนรเทศคนในตระกูลทั้งหมด โทษฐานลอบสังหารเชื้อพระวงศ์เมื่อได้ยินราชโองการของฮ่องเต้ ชินอ๋องก็มีสีหน้าที่ดีขึ้น เขายังร่วมดื่มสุรากับพี่ชายอยู่นานสองนาน พูดคุยเรื่องที่ผ่านมาและเรื่องที่หาจ้าวเหยียนและบุตรทั้งสองพบกลับถึงตำหนักก็พบว่าจ้าวเหยียนนางเข้านอนเร

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   เยือนจวนตระกูลเกา

    ชินอ๋องที่อยู่ด้านนอกก็คลายความกังวลลง และเปลี่ยนมาเป็นยินดีแทน เพราะเขาที่ชนะสงครามแล้วยังมีข่าวมงคลเกิดขึ้นอีก จึงให้กุนซือไปประกาศเมื่อกลับถึงค่ายทหารที่เมืองเป่ยโจว พระองค์จะเลี้ยงมื้อใหญ่ให้กับทหารทุกนายเพราะจ้าวเหยียนตั้งครรภ์ คนขับรถมาจำต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น การเดินทางจากที่สองวันต้องถึงจึงช้าออกไปเป็นถึงในวันที่สาม จือลู่และหนิงเฉิงก็ได้ออกมารอรับบิดามารดาอยู่ที่หน้าประตูเมืองเมื่อทั้งคู่ได้รู้เรื่องที่มารดาตั้งครรภ์ก็รีบไปดูนางที่รถม้าด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของมารดาที่ปกติต่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ"ท่านแม่ ท่านเรียกให้หมอมาจ่ายยาดีหรือไม่ขอรับ" หนิงเฉิงที่เป็นกังวลกลัวว่าน้องของตนจะไม่แข็งแรง"เฉิงเออร์เจ้าลืมไปหรือไร ว่าท่านแม่มียาของนางเอง" จือลู่เอ่ยขึ้น และเป็นเช่นที่นางพูด เพราะภายในกล่องของจ้าวเหยียนเวลานี้มียาบำรุงครรภ์ให้นางมากมาย"ข้าลืมไปขอรับ" เขาเกาหัวอย่างแก้เก้อ"ลู่เออร์ เฉิงเออร์ เจ้าพามารดากลับตำหนักไปเสียก่อน พ่อมีเรื่องที่ต้องหารือเพิ่มประเดี๋ยวตามพวกเจ้าไปทีหลัง" ชินอ๋องส่งลูกกับเมียกลับตำหนักก็ต้องมาหารือเรื่องที่ต้องเดินทางเข้าเมืองหลว

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   จะเกิดอันตรายหรือไม่

    ชินอ๋องไม่รอคำตอบเขาดึงจ้าวเหยียนเข้ามาในอ้อมอก และชักกระบี่และฟันลงไปที่แขนของทหารที่ลอบเข้ามาทั้งสองข้าง เสียงร้องของทั้งสองคนเรียกให้คนอื่นรีบมาดู"ลากพวกมันไป" องครักษ์ของชินอ๋องเข้าไปถอดกรามก่อนที่ทั้งคู่จะกัดพิษในปากชินอ๋องพาจ้าวเหยียนไปส่งที่กระโจมและกำชับให้องครักษ์ของตนคอยดูแลนางที่หน้ากระโจมก่อนที่เขาจะไปสอบสวนสายลับของแคว้นหนานทั้งสองคนนับจากนั้นจ้าวเหยียนนอกจากมีพานเยว่ติดตามแล้วก็มีองครักษ์ของชินอ๋องอีกสองคนค่อยติดตามนาง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชินอ๋องจึงเร่งออกรบเร็วขึ้น เรื่องเสบียงก็ไม่ต้องกังวล จือลู่นางส่งมาให้ไม่ขาด แถมยังมีของบิดามารดาและเว่ยหยางอีกสองคันรถด้วยจ้าวเหยียนเมื่อเห็นของที่จือลู่ส่งมาให้ก็หลุดหัวเราะออกมา เพราะนางส่งกันแดดและครีมบำรุงมาให้จ้าวเหยียนด้วยเสียมากมาย ชินอ๋องมองพระชายาของตนดูของที่บุตรีฝากมาให้อย่างมึนงง เมื่อรู้ว่าคือสิ่งใดเขาก็อดที่จะส่ายหัวไม่ได้แต่ที่เขาไม่พอใจคือนอกจากตนและจ้าวเหยียนจะได้ของจากจือลู่แล้ว เว่ยหยางก็ยังได้ด้วย เพียงแต่ของเว่ยหยางเป็นเสื้อกันหนาวและผ้าห่ม ชินอ๋องที่เห็นก็แทบจะเข้าไปแย่งมาเก็บไว้แต่ก็โดนจ้าวเหยียนดึงรั

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status