Beranda / รักโบราณ / ดอกไม้ในเปลวเพลิง / บทที่ 88 ข้าจะดูแลนางเอง

Share

บทที่ 88 ข้าจะดูแลนางเอง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-02 14:45:01

“ข้ามาขอทานข้าวด้วยนะ” โดยไม่รอคำเชิญ ฉินอ๋องนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งและชี้ให้สุ่ยฝานหรงนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัว นางกำนัลรีบนำข้าวและตะเกียบมาวางให้ นางกำนัลอีกคนนำอาหารมาวางเพิ่มให้อีกสามอย่างอย่างรวดเร็ว พวกเขาจำได้ดีว่าเมื่อทั้งสามคนรวมตัวกัน รัชทายาทจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ

“พวกเจ้าคงรู้ข่าวแล้วสินะว่าข้าไม่สามารถอภิเษกเฟิงเอ๋อร์เป็นพระชายาได้” เมื่อกล่าวประโยคนี้ออกมา รัชทายาทก็วางตะเกียบ ลำคอตีบตันขึ้นมาทันที ฉินอ๋องโบกมือให้นางกำนัลออกไปพ้นบริเวณนั้น รัชทายาทกล่าวต่อไปอย่างขมขื่นว่า “หากจะให้นางเป็นสนม นางคงไม่ยอม”

ฉินอ๋องคีบปลาทอดส่งเข้าปากตนเองอย่างสบายใจแล้วกล่าวว่า “นางไม่ยอมหรอก”

“เสด็จพ่อทรงกริ้วมากเพราะข่าวลือนั่น ข้าเถียงไปหลายคำทำให้ทรงกริ้วจนประชวร ตอนนี้พระอาการก็ไม่ดีขึ้น ข้าไม่กล้าทำให้กริ้วอีก แต่ข้าก็ทุกข์ใจมาก”

รัชทายาทหันมามองหน้าสุ่ยฝานหรงซึ่งนั่งฟังเงียบ ๆ อาหารก็ไม่แตะแม้แต่คำเดียว “ตอนนี้เฟิงเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่กล้าสู้หน้านาง”

ฉินอ๋องเป็นผู้ตอบว่า “นางสบายดี พี่สี่ไม่ต้องกังวล ท่านยังไม่เคยพูดเรื่องการแต่งงานกับคุณหนูสุ่ย จึงไม่ถือว่าผิดคำมั่นสัญญาอะไร”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 89 ค้นหาคนสร้างเรื่องอื้อฉาว

    ณ เรือนอักษรในจวนฉินอ๋อง สุ่ยฝานหรงวางหลักฐานชิ้นหนึ่งลงบนโต๊ะ ฉินอ๋องก้มลงอ่านเอกสาร พบว่าผู้ที่ถวายฎีกากล่าวหาว่าสุ่ยเฉินเฟิงขโมยบุตรีของเหอฮวามาเนื่องจากตัดใจจากเมิ่งหยางไม่ได้นั้นชื่อเปี้ยนวา“นางคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเมิ่งหยางหรือนางเหอฮวา”“นางเป็นสาวใช้ของนางเหอฮวาพ่ะย่ะค่ะ เป็นชาวเมืองซู่ที่นางเหอฮวาไปพักอาศัยอยู่ด้วยในตอนนี้”“ท่านจะไปนำตัวนางเหอฮวาที่เมืองซู่เมื่อไร”“พรุ่งนี้เช้าพ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้ว”“ท่านไม่ต้องเดินทางไกล เมื่อนางเปี้ยนวามาถวายฎีกาถึงเมืองหลวง ข้าคาดว่านางเหอฮวาก็น่าจะอยู่ในเมืองหลวง ท่านสั่งระดมกำลังจับตัวมาให้ได้”“พ่ะย่ะค่ะ”ไม่ถึงหนึ่งก้านธูปในเมืองหลวงก็เต็มไปด้วยกองกำลังทหาร เหอฮวาถูกพบได้ในโรงเตี้ยมขนาดเล็กใกล้ประตูเมือง ทหารมองภาพวาดที่นำมาเปรียบเทียบกับหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้า อีกคนเป็นหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่า ทหารจึงนำตัวทั้งสองคนไปที่กองบัญชาการทหารเมื่อเหอฮวามองเห็นสุ่ยฝานหรงก็เข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งกับพื้น นางเคยเห็นสุ่ยฝานหรงและรู้ดีว่าเขาเป็นพี่ชายของสุ่ยเฉินเฟิง แม่ทัพใหญ่มองหญิงสาวตรงหน้า เดิมนางไม่จัดว่าเป็นคนสวย แต่อ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 90 วิธีโน้มน้าวใจ

    “หากยังกล้าสร้างความเดือดร้อนให้น้องสาวของข้า ข้าจะตัดมือข้างที่เขียนสร้างความเดือดร้อนทิ้งเสีย ตัดลิ้นที่พูดจาให้ร้ายออกเสีย พวกเจ้าจำเป็นต้องอยู่ให้ดีดี เงินที่ให้ไปก็จงใช้เลี้ยงดูลูกของเจ้า แล้วต่อไปอย่าให้ข้าเห็นหน้าพวกเจ้าอีก”ตลอดเวลาฉินอ๋องนั่งฟังเงียบ ๆ แต่สีหน้าเย็นชาขั้นสุดทำให้ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นสบตาทหารเข้ามานำตัวหญิงสาวทั้งสองออกไปส่งตัวไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ความผิดของเหอฮวาและเปี้ยนวาเท่ากัน แม้เปี้ยนวาจะเป็นผู้ลงนามถวายฎีกา แต่ก็เป็นคำสั่งของเหอฮวา พวกนางถูกแห่ประจานรอบเมืองหลวง แล้วจึงถูกโบยหนักเจียนตาย ก่อนนำตัวไปทิ้งไว้นอกประตูเมืองหลวงฮูหยินเจียงจือไฉหอมแก้มทารกน้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาไหลออกมาเต็มตา สุ่ยเฉินเฟิงเองก็กอดเพียวเพียวอย่างอาลัยอาวรณ์จนกระทั่งพี่ชายต้องดึงตัวเด็กออกจากอ้อมกอดของน้องสาว แม้จะรักใคร่เอ็นดูทารกน้อยแต่ฮูหยินเจียงจือไฉและสุ่ยเฉินเฟิงรู้ดีว่านี่คือวิธีจบความวุ่นวายที่เหมาะสมเหอฮวาและเปี้ยนวาในสภาพถูกโบยบาดเจ็บสาหัสเดินทางกลับเมืองซู่ด้วยรถม้า มีทหารควบคุมขบวนและพี่เลี้ยงของเพียวเพียวก็ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงเพียวเพียวระหว่าง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 91 แม่สื่อกิตติมศักดิ์

    ณ ตำหนักบูรพา รัชทายาท ฉินอ๋อง และแม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรง นั่งร่วมโต๊ะกัน มีอาหารสองอย่างวางอยู่บนโต๊ะ ตรงหน้าฉินอ๋องและแม่ทัพใหญ่ย่อมมีสุรา และแน่นอนว่าตรงหน้ารัชทายาทย่อมมีน้ำชา ฉินอ๋องบอกกล่าวด้วยความดีใจว่าผู้เป็นมารดารับปากให้แต่งสุ่ยเฉินเฟิงเป็นพระชายาแล้ว รัชทายาทหน้าเผือดสีไปนิดหนึ่งก่อนกล่าวแสดงความยินดี ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรต่อไป ก็มีเสียงดังว่า“ฮองเฮาเสด็จ” ทั้งสามคนรีบลุกขึ้นทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง“คารวะเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”“คารวะเสด็จป้าสะใภ้พ่ะย่ะค่ะ”“คารวะฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาตรัสด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มว่า “ไม่ต้องมากพิธี เชิญนั่ง” และพระนางก็ตรงเข้าประทับบนเก้าอี้ที่ว่าง “เมื่อกี้ได้ยินแว่ว ๆ ว่าจื่อหยวนจะแต่งพระชายา ผู้โชคดีคือใครหรือ”“คุณหนูสุ่ยเฉินเฟิงพ่ะย่ะค่ะเสด็จป้าสะใภ้”ฮองเฮาเหลือบมองพระราชโอรสก็เห็นสีหน้าหม่นหมอง พระนางหวังว่าหากสุ่ยเฉินเฟิงแต่งงานไปโดยเร็ว พระราชโอรสก็จะสามารถตัดใจได้โดยเร็ว อีกทั้งพระนางยังเอ็นดูสุ่ยเฉินเฟิงมาก จึงตรัสว่า“เช่นนั้นป้าสะใภ้ก็ต้องแสดงความยินดีกับจื่อหยวนที่จะได้เฟิงเอ๋อร์มาเป็นพระชายา และต้องแสดงความยินดีกับซีซวนที่น้องสาวจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-04
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 92 ผลัดแผ่นดิน

    ฮองเฮาและรัชทายาทรับฟังการตัดสินพระทัยของฮ่องเต้แล้วก็ไม่รู้สึกแปลกใจ รู้อยู่แล้วว่าสักวันเหตุการณ์นี้ต้องมาถึงอย่างแน่นอน เมื่อบอกกล่าวให้รู้ตัวแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นในที่ประชุมขุนนาง ฮ่องเต้ก็ประกาศสละราชบัลลังก์รัชทายาท เทียนตี้เต๋อ ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นพระเจ้าเต๋อหมิง มีการจัดพิธีฉลองราชสมบัติอย่างยิ่งใหญ่ แคว้นต้าเจียคึกคักไปทั่วทั้งแผ่นดิน ราษฎรล้วนแสดงความยินดีออกมาเฉลิมฉลองกันเจ็ดวันเจ็ดคืน มีการพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ที่กระทำความผิดไม่ร้ายแรงพระเจ้าเต๋อหมิงแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาพิเศษประจำพระองค์ขึ้นมาหนึ่งคณะ ให้ฉินอ๋องเป็นประธานที่ปรึกษา แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงเป็นรองประธานฝ่ายความมั่นคง อัครมหาเสนาบดีเป็นรองประธานฝ่ายกิจการภายใน มีขุนนางและทหารที่ทรงคัดเลือกเองทำหน้าที่ต่าง ๆ รวมแล้วสิบคนฉินอ๋องถอนหายใจ เขากำลังจัดเตรียมพิธีสมรสให้เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษา งานในหน้าที่ก็จะมากขึ้นหลายเท่าตัว อย่างไรก็ตามการขึ้นครองราชย์ของฮ่องเต้องค์ใหม่ในแต่ละรัชสมัยย่อมยังไม่มั่นคง อาจเป็นที่จับตาของแคว้นอื่นที่จ้องจะรุกรานดินแดน และอาจจะมี

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-04
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 93 พิธีมงคลสมรส

    ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ครุ่นคิดหนัก “สิ่งแรกคือแก้ไขกฎหมาย เด็กที่พ่อและแม่มิใช่ราษฎรต้าเจีย แม้จะคลอดบนดินแดนต้าเจียก็ไม่สามารถใช้สวัสดิการฟรีตลอดชีพเช่นเดียวกับราษฎรต้าเจียได้ แต่เพื่อมนุษยธรรม โรงหมอของรัฐก็จะยังคงช่วยทำคลอดให้พ่ะย่ะค่ะ” “ดีมาก เรื่องนี้ข้าเห็นด้วย”“อีกเรื่องคือการที่ชนกลุ่มน้อยโกวพ่างเข้ามารักษาจนล้นโรงหมอของรัฐจนกระทั่งราษฎรต้าเจียไม่สามารถใช้สิทธิของตนเองได้นั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขนานกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง กล่าวต่อไปว่า “ควรก่อสร้างโรงหมอของรัฐสักแห่งไว้ที่ชายแดนเพื่อมนุษยธรรม ไม่ว่าราษฎรต้าเจียหรือคนแคว้นอื่นเข้ารับการรักษาก็จะดูแลให้เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันพ่ะย่ะค่ะ แต่หากต้องการจะไปใช้โรงหมอของรัฐแห่งอื่นก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าราษฎรต้าเจีย เรื่องนี้จะช่วยคลายความคับข้องใจของราษฎรต้าเจียไปได้บ้าง”พระเจ้าเต๋อหมิงพยักพระพักตร์ “เรื่องนี้ไม่ว่าแก้ไขไปในแนวทางใด ก็จะต้องมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว การดำเนินการเช่นนี้ก็เป็นการดูแลราษฎรต้าเจียที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันก็มีมนุษยธรรมกับคนแคว้นอื่นด้วย เรื่องที่พวกเราหารือกันในว

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-05
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 94 หอมกลิ่นความรัก

    เมื่อขบวนรับเจ้าสาวเดินทางมาถึงจวนอ๋อง สุ่ยเฉินเฟิงซึ่งนั่งอยู่ในเกี้ยวขนาดใหญ่ก็สูดลมหายใจเข้าอย่างตื่นเต้น ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ลงจากหลังอาชาแล้วมารับเจ้าสาวด้วยตนเอง พระชายากู้ชุนฉือรออยู่ในโถงหลักของจวน นางแต่งกายอย่างหรูหราสวยงาม สวมใส่เครื่องประดับอัญมณีล้ำค่าเข้าชุดกันทั้งคอ แขน และนิ้วมือ มวยผมที่เกล้าอย่างประณีตปักปิ่นล้ำค่าสะดุดตาของบรรดาผู้สูงศักดิ์ที่มาร่วมงาน พระชายากู้ชุนฉือยิ้มรับลูกสะใภ้อวดให้เห็นความสามัคคีกลมเกลียวของแม่สามีและลูกสะใภ้จวนอ๋อง ลบล้างคำกล่าวหาว่านางหวงแหนโอรสจนเกินพอดีสุ่ยเฉินเฟิงรวบรวมสติทำตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง วันนี้แขกเหรื่อมากันมากมาย ทั้งบรรดาเชื้อพระวงศ์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ นายทหารระดับสูง พร้อมกับครอบครัวของพวกเขาทั้งหลาย ทุกพื้นที่มีเสียงพูดคุยอย่างร่าเริง กลิ่นดอกไม้ที่ประดับอยู่ทั่วจวนทำให้อากาศมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อาหารชั้นเลิศนานาชนิดและสุราอย่างดีถูกนำมาต้อนรับเลี้ยงแขก งานสมรสพระราชทานนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการกว่าที่ทุกคนจะเคยพบเห็นมาก่อนในที่สุดสุ่ยเฉินเฟิงก็ถูกนำตัวมาที่เรือนหอ เมื่อฉินอ๋องเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก ก็เผยให้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-05
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 95 ข้ออ้างไม่กลับเมืองซู่

    หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระบรมศพของไท่ซ่างหวงเทียนตี้อันแล้ว เทียนตี้ฮุ่ยก็ไม่มีทีท่าจะเดินทางกลับไปอยู่ในเมืองซู่แต่อย่างใด เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน พระเจ้าเต๋อหมิงจึงให้คนตามเทียนตี้ฮุ่ยเข้าเฝ้า ตั้งพระทัยว่าจะต้องบอกให้กลับเมืองซู่ได้แล้ว แต่ผู้ที่ไปตามกลับมาทูลว่า“กระหม่อมไม่ได้พบองค์ชายรองพ่ะย่ะค่ะ แต่พระชายาบอกว่าองค์ชายรองป่วยหนัก ไม่สามารถลุกขึ้นได้ จึงให้กระหม่อมมากราบทูลว่า หากอาการทุเลาลงสักหน่อยจะรีบมาเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”“เขาเป็นโรคอะไร” พระเจ้าเต๋อหมิงตรัสถาม“พระชายาแจ้งว่าเป็นโรคเกี่ยวกับการอักเสบภายในช่องท้องพ่ะย่ะค่ะ”พระเจ้าเต๋อหมิงรับทราบแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะห่วงดีหรือไม่ พี่รองของเขาอาจจะใช้เล่ห์เจ็บป่วยเป็นข้ออ้างไม่ยอมเดินทางกลับเมืองซู่ แต่หากเจ็บป่วยจริงก็สมควรจะรักษา ตรึกตรองแล้วพระเจ้าเต๋อหมิงจึงสั่งให้สำนักหมอหลวงส่งหมอไปที่จวนองค์ชายรอง ไม่นานนักหมอหลวงก็กลับมารายงานว่า“องค์ชายรองไม่ยินยอมให้พวกกระหม่อมตรวจพ่ะย่ะค่ะ มีเหตุผลว่าที่จวนมีหมอประจำจวนตรวจอยู่แล้ว หากต้องใช้ยาของหมอหลายคน ฤทธิ์ของยาอาจตีกันส่งผลร้ายต่อการรักษาได้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินอ๋อง เทียนตี้ห

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 96 เห็ดเมา

    “ข้านึกไม่ถึงเลยจะว่าพี่รองจะใช้วิธีนี้หาเงิน หากเสด็จพ่อยังมีพระชนม์ชีพจะต้องเศร้าโศกแน่นอน ข้าจะให้พี่คนไปทำลายเห็ดเมาที่จวนพี่รองให้สิ้น”“แล้วพี่สี่จะทำอย่างไรกับพี่รองพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าจะคาดโทษเขา แต่เรื่องนี้ไม่อยากให้อื้อฉาว คงต้องทำอย่างเงียบ ๆ ราชวงศ์มีเรื่องวุ่นวายมากพอแล้ว หากเพิ่มเรื่องนี้อีกราษฎรจะเสื่อมศรัทธาเอาได้”จวนองค์ชายรองต้องตกตะลึงเมื่อทหารจำนวนหนึ่งบุกเข้ามาในจวน ก็ต้องเรียกว่าบุกเพราะเมื่อเรียกแล้วไม่มีคนมาเปิดประตู พวกเขาก็ถีบจนดาลประตูเสียหาย เมื่อเข้ามาในจวนได้แล้วพวกเขาก็ใช้กิ่งไม้เสียบแทนดาลประตู หัวหน้าชุดเข้าไปแจ้งแก่พระชายาว่าพระเจ้าเต๋อหมิงให้นำคนมาทำลายเห็ดเมา แน่นอนว่าพวกเขาสืบรู้แน่ชัดมาก่อนแล้วว่าแปลงผักในลานหลังจวนล้วนแต่เป็นที่เพาะปลูกเห็ดเมา เมื่อทำลายแล้วพวกเขาก็เผาทิ้งไม่ให้นำไปเพาะปลูกใหม่ได้พระชายาองค์ชายรองได้แต่นิ่งเฉย นางเองก็ไม่ชื่นชอบวิธีหาเงินเช่นนี้ของสวามี ความคิดที่เลวร้ายเช่นนี้เป็นความร่วมมือขององค์ชายรองและเหอฮวา เมื่อทำลายเห็ดเมาราบคาบแล้ว ทหารก็ยกกำลังกลับไปองค์ชายรองจึงเดินออกมาที่โถงกลางพร้อมกับเหอฮวา เขาจ้องมองพระชายาอย่างโก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07

Bab terbaru

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 114 ใต้หล้าล้วนสงบสุข

    สิบปีผ่านไป ณ ตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง นั่งดื่มชาในสวนดอกไม้ อากาศอบอุ่น มีลมพัดผ่านเบา ๆ นึกถึงชะตาชีวิตที่แปลกประหลาด ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่มีชีวิตสงบสุขเหมือนคุณหนูสูงศักดิ์ทั่วไป แต่เมื่อถึงวัยมีคู่ครองก็มีเรื่องเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้น ชีวิตเหมือนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง กว่าจะฝ่าฟันมาถึงวันนี้ก็ได้รับประคับประคองจากพระสวามีผู้สง่างามและครอบครัวเดิม สุ่ยเฉินเฟิงสัญญากับตนเองว่าจะทะนุถนอมความรักของพวกเขาไว้อย่างดีฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง และฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมห้าองค์ องค์ชายหย่งเฉิงคล้ายเสด็จพ่อมากที่สุดทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย และความรู้ความสามารถ องค์ชายหย่งเฉิงชื่นชอบการฝึกซ้อมอาวุธทุกประเภท อีกทั้งยังชำนาญหมากล้อมและการฝึกเชาว์ปัญญาต่าง ๆ เรียกว่าเก่งทั้งบู๊และบุ๋นองค์หญิงเฟิงซินหน้าตาคล้ายเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ ทำให้นางเป็นที่โปรดปรานของเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือยิ่งนัก บางครั้งฮ่องเต้ยังจำใจต้องอนุญาตให้องค์หญิงเฟิงซินไปพักค้างที่ตำหนักนอกวังบ้างเพราะทนการรบเร้าของผู้เป็นมารดาไม่ไหว แรก ๆ ก็ไปพักค้างครั้งละหนึ่งคืน พอนานเข้าเสด็จย่าไทเฮา

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 113 ราษฎรกินอิ่มนอนอุ่น

    ราษฎรต้อนรับการประสูติขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงอย่างเอิกเกริก ร้านค้าในตลาดและบ้านเรือนราษฎรปักธงถวายพระพร เหลาเฉียนจัดทำอาหารพิเศษแจกจ่ายให้ลูกค้าโดยไม่คิดเงิน ร้านขายผลไม้ก็นำส้มมงคลมาแจกจ่ายให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเมื่อครั้งเทียนตี้หย่งยังดำรงตำแหน่งฉินอ๋อง ราษฎรก็รักใคร่ชื่นชม แม้ในจวนอ๋องจะไม่มีพระชายา พระชายารอง หรืออนุ ก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจ ต่อมาขึ้นครองราชย์ ราษฎรก็ปลื้มปิติ แต่ก็กังวลเพราะฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ลั่นวาจาไว้ว่าจะมีฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิงเพียงพระองค์เดียวแม้ในขณะที่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฮองเฮา พระนางจะตั้งครรภ์แล้วก็ตาม หากเป็นพระราชธิดาพวกเขาก็ยังไม่วางใจ ดังนั้นเมื่อองค์ชายน้อยหย่งเฉิงประสูติ จึงเป็นทั้งความยินดีและความโล่งใจของราษฎรทั้งหลาย อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่า แคว้นต้าเจียมีผู้สืบทอดบัลลังก์มังกรแล้วในแต่ละวันขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงมีเสด็จย่าทั้งสองและท่านยายผลัดกันมาดูแล คือเสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้ เสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ และท่านยายเจียงจือไฉ แต่เสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้จะได้เปรียบมากกว่าเพราะประทับในวังเช่นเดียวกัน จึงมาดูแลเกือบทุกวัน เว้นแต่วันที่เสด็จย่าไทเฮ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 112 เจ้าก้อนแป้งตัวน้อยน่ารัก

    พระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามความประสงค์ของสุ่ยเฉินเฟิง ตำหนักคุนหนิงของฮองเฮาได้รับการปรับปรุงใหม่ มีห้องสำหรับทารกติดกับห้องบรรทมของฮองเฮา สำหรับฮ่องเต้เทียนคงอิงฉงนั้นแม้จะมีตำหนักเฉียนชิง แต่พระองค์ก็จะมาบรรทมที่ตำหนักคุนหนิงเป็นประจำ เว้นแต่ช่วงที่ทรงงานดึกจึงจะพักผ่อนที่ตำหนักเฉียนชิงเพื่อให้ฮองเฮาพักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องตื่นกลางดึกสุ่ยฝานหรงซึ่งบัดนี้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีนั้น บางวันจะพาเหมยกุ้ยเข้าวังมาส่งที่ตำหนักคุนหนิงในช่วงเช้า และมารับกลับหลังจากประชุมขุนนางเสร็จ ชีวิตของสุ่ยเฉินเฟิงจึงไม่เงียบเหงาเกินไป ส่วนถิงถิงซึ่งบัดนี้เป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาก็ช่างมีเรื่องซุบซิบมาเล่าให้ฟัง แม้กระทั่งองค์หญิงนาราที่เสวยผลไป่เซียงกั่วเพื่อให้เกิดผื่นจะได้ยืดเวลาการอยู่ในวังหลวงเพื่อมีเวลาขอถวายตัวเป็นสนมก็มาเล่าให้ฟัง เรียกได้ว่าทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ถิงถิงไม่ค่อยจะพลาดข่าว ถิงถิงมีความเห็นว่ารู้มากหน่อยดีกว่ารู้น้อยไปเมื่อสุ่ยฝานหรงเข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแล้ว ฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ก็ต้องวางกำลังคนที่ไว้ใจให้ควบคุมหน่วยกำลัง

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 111 เข้าวัง

    ไทเฮาสือจินอวี้ลุกขึ้นจากที่ประทับ ตรงไปยังองค์หญิงนาราที่นั่งคุกเข่า ใช้สองพระหัตถ์แตะไหล่ประคองให้องค์หญิงน้อยลุกขึ้นยืน แล้วตรัสว่า “องค์หญิงนารามีหน้าตาสวยงามและเพียบพร้อมด้วยความรู้ ไม่ควรจะมาเป็นสนม ความหวังดีนี้ไม่อาจรับไว้ได้ ขอให้แคว้นต้าเจียและเผ่าตู้ผูกพันเป็นมิตรที่ดีต่อกันเถิด”ภายนอกมีเสียงดังขึ้นว่า “ฮ่องเต้เสด็จ”เมื่อร่างสูงสง่าของฮ่องเต้ก้าวเข้ามาในโถงกลางของวังหลัง พระองค์ทำความเคารพไทเฮาก่อน แล้วจึงหันไปตรัสแก่ผู้อื่นที่ทำความเคารพว่า “ไม่ต้องมากพิธี” องค์หญิงน้อยมองด้วยสายตาหลงใหลเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยแล้วตรัสด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เจิ้นขอบใจในน้ำใจของถู่ซือและองค์หญิง แต่ไม่อาจรับไว้ได้ ต้าเจียและเผ่าตู้ไม่จำเป็นต้องผูกพันกันด้วยการอภิเษกหรือการเป็นสนม แต่ยังเป็นพันธมิตรกันต่อไปได้”องค์หญิงน้อยทำได้เพียงกล่าวเสียงเบาว่า “เพคะ” รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดิน ไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกปฏิเสธแม้แต่การเป็นสนม เทียนตี้หย่งหันไปทางทูตเผ่าตู้แล้วตรัสว่า “เผ่าตู้มีสินค้าหายากหลายอย่างที่ต้าเจียไม่มี เจิ้นจะให้ทูตการค้าต้าเจียหารือเรื่องการพัฒนาการค้าขายระหว่างกันดีห

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 110 ใคร ๆ ก็หลงรักฮ่องเต้ผู้สง่างาม

    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เทียนตี้หย่ง ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง ราษฎรทั่วแคว้นต้าเจียเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเขาล้วนมีความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยหวัง ต่างแคว้นล้วนส่งทูตมาแสดงความยินดี ไม่มีแคว้นใดหาญกล้าทดสอบความแข็งแกร่งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เผ่าตู้เป็นชนเผ่าที่เคยถูกแคว้นต้าเลี่ยงรุกรานและสร้างความอัปยศให้แก่องค์หญิงหลายองค์จนปลิดชีพตนเอง เมื่อแคว้นต้าเจียปราบปรามแคว้นต้าเลี่ยงทำให้เผ่าตู้ได้รับอิสระอีกครั้ง เมื่อมาแสดงความยินดีในครั้งนี้ มีองค์หญิงน้อยเผ่าตู้ร่วมเดินทางมาด้วย องค์หญิงนาราเป็นองค์หญิงองค์เดียวที่ปลอดภัยจากการรุกราน เนื่องจากช่วงเวลานั้นไม่ได้อยู่ในดินแดนเผ่าตู้ ในท้องพระโรง พระเจ้าเทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ขาวใส ดวงตาดำขลับยาวรีปลายชี้ฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ช่างสง่างามเหลือเกิน องค์หญิงน้อยมองดูด้วยความตะลึง หลงรักบุรุษผู้สง่างามนี้ทันทีเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์ขอบคุณแคว้นต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี และเชิญทูตทุกแคว้นทุกชนเผ่าเข้าร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 109 เทพสงครามครองบัลลังก์มังกร

    หลังจากพระเจ้าเต๋อหมิงได้รับบาดเจ็บ คณะหมอหลวงก็พยายามทุกวิธีในการรักษา เพราะฤทธิ์ยาระงับความเจ็บปวดที่หมอหลวงปรุงขึ้น แม้พระพักตร์จะขาวซีดแต่ก็ไม่แสดงถึงความเจ็บปวด เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน ลมหายใจที่แผ่วเบานั้นก็หยุดนิ่ง หัวหน้าหมอหลวงตรวจชีพจรอีกครั้งก่อนจะหันมาทูลต่อไทเฮาสือจินอวี้ว่า“พระองค์กลับคืนสู่สวรรค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาสือจินอวี้ตัวอ่อน เป็นลมล้มพับ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กันรับตัวเสด็จป้าสะใภ้ไว้ทันก่อนพระวรกายกระทบพื้น หมอหลวงแบ่งคนมาปฐมพยาบาลไทเฮา ความเศร้าโศกเสียใจล้นห้องบรรทมออกไปครอบคลุมวังหลวงและกระจายออกไปทั่วแคว้น พระเจ้าเต๋อหมิงเป็นผู้ปกครองใต้หล้าด้วยความเมตตา จึงเป็นที่รักใคร่ของราษฎร ในช่วงเวลาอันเศร้าหมอง ฉินอ๋องเป็นกำลังหลักในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป ไทเฮาสือจินอวี้ก็เรียกฉินอ๋องเข้าเฝ้า สุ่ยเฉินเฟิงดูแลเครื่องแต่งกายให้พระสวามี ฉินอ๋องใช้นิ้วดันคางของนางให้เงยหน้าขึ้น“เฟิงเอ๋อร์ เจ้ากังวลอะไรหรือ”สุ่ยเฉินเฟิงถอนหายใจ “ไม่แน่ว่าการเรียกตัวเข้าเฝ้าในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัลลังก์ที่ว่างอยู่เพ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 108 ศาสตร์และศิลป์ในการปกครอง

    พระเจ้าเต๋อหมิงบาดเจ็บสาหัส นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุพระองค์ก็ยังไม่ลืมพระเนตรขึ้นมา มีเพียงชีพจรและลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ เกิดความโกลาหลในการบริหารงานเล็กน้อย ไทเฮาสือจินอวี้ต้องออกนั่งเป็นประธานการประชุมขุนนางในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระนางไม่ประทับบนบัลลังก์มังกร แต่กลับให้คนนำเก้าอี้หงส์จากตำหนักของพระนางมาใช้ประทับเป็นการชั่วคราวแม้ว่าปกติไม่ว่าไทเฮาหรือฮองเฮาพระองค์ใดก็ตาม ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของวังหลวงได้ ผู้เป็นมารดาของแผ่นดินมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลวังหลังให้เป็นไปโดยเรียบร้อย แต่สถานการณ์ของแคว้นต้าเจียในคราวนี้แตกต่างออกไป พระเจ้าเต๋อหมิงไม่ได้อภิเษกสมรสเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ให้กับไท่ซ่างหวงซึ่งก็คือเสด็จพ่อของพระองค์นั่นเอง อีกทั้งพระเจ้าเต๋อหมิงก็ไม่มีสนมจึงยังไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาแม้แต่พระองค์เดียว แคว้นต้าเจียจึงยังไม่มีรัชทายาทเดิมทีเหล่าขุนนางตั้งใจว่าหลังจากพ้นการไว้ทุกข์ให้ไท่ซ่างหวงแล้ว พวกเขาจะกดดันให้พระเจ้าเต๋อหมิงอภิเษกสมรสและแต่งตั้งฮองเฮา รวมทั้งให้เริ่มการคัดเลือกสนมเข้ามาปรนนิบัติตามธรรมเนียมท

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 107 ขบวนการทำลายแคว้นจบสิ้น

    ก่อนที่สุ่ยฝานหรงจะออกไป ฉินอ๋องสั่งการเพิ่มเติมว่า “ตอนที่จับกุมเมิ่งกุ้ยเฟย คนที่สุสานบรรพชนล้วนถูกลงโทษ นางกำนัลอู่ก็ติดตามกุ้ยเฟยไปที่สุสานด้วย ท่านตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดช่วยเหลือให้นางหลบหนีจนรอดพ้นได้” “พ่ะย่ะค่ะ”สุ่ยฝานหรงออกไปแล้ว ฉินอ๋องกลับเข้าไปในห้องบรรทมของพระเจ้าเต๋อหมิง มีโต๊ะวางไว้มุมห้อง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ จางชุนรินน้ำชาส่งให้ เขารับมาถือไว้นิ่ง ๆ มองตรงไปก็เห็นญาติผู้พี่นอนนิ่ง พระพักตร์ซีดเซียว นี่คือสิ่งที่เขากังวลอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้น และแล้วก็เกิดขึ้นจริง พี่สี่ของเขาพระทัยอ่อน ใช้สายพระเนตรที่เมตตามองผู้คนโดยรอบ ใช้พระคุณแต่เพียงอย่างเดียวในการปกครองเวลาผ่านไป แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงกลับมาอีกครั้งเมื่อเข้ายามอิ๋น เขาสีหน้าไม่ดีนัก รายงานว่า“ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลอู่ไม่ถูกจับกุมเพราะนางลากลับบ้านเดิมเพื่อจัดการงานศพของมารดา เมื่องานศพเสร็จแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางกลับเมืองหลวง ก็ได้ข่าวว่าคนที่สุสานบรรพชนถูกจับกุม นางจึงซ่อนเร้นตัว เมื่อทหารที่ไปตรวจค้นสุสานบรรพชนและทำลายเห็ดเมากลับไปแล้ว นางก็ลักลอบเข้าไปในสุสานบรรพชน เพราะนางอยู่ที่นั่นกั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 106 บาดเจ็บสาหัส

    “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ หลานจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สภาพในคุกไม่เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บ” เขาหันถามหัวหน้าหมอหลวงว่า “จะเคลื่อนย้ายฝ่าบาทได้หรือไม่ หรือต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน”หัวหน้าหมอหลวงตอบว่า “สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คุกหลวงไม่เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุด พระเจ้าเต๋อหมิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำหนักเฉียนชิง ฉินอ๋องประคองไทเฮา สือจินอวี้ไปพร้อมกัน โดยให้สุ่ยฝานหรงซึ่งตามมาถึงแล้ว ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไทเฮานั่งกุมพระหัตถ์พระราชโอรส พระพักตร์ของพระองค์และพระเจ้าเต๋อหมิงซีดขาวพอกัน"เสด็จป้าสะใภ้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ไทเฮาสือจินอวี้ส่ายพระพักตร์ “ป้าสะใภ้จะเฝ้าเต๋อเอ๋อร์ เมื่อเขาฟื้นจะได้เห็นหน้าแม่เป็นคนแรก”“ถ้าเช่นนั้นหลานจะให้คนจัดห้องด้านข้างเป็นที่บรรทมชั่วคราวดีไหมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน มิฉะนั้นอาจจะประชวรไปอีกพระองค์ หากพี่สี่รู้สึกตัวแม้เพียงเล็กน้อยจะให้คนไปทูลให้ทรงทราบทันที”ไทเฮาพยักพระพักตร์ ฉินอ๋องจึงสั่งให้ขันทีประจำตำหนักเฉียนชิงเร่งจัดห้องบรรทมช

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status