“ถ้าเกลียดฉัน... ก็กรุณาทำท่าทางให้มันสอดคล้องกับคำพูดหน่อยนะแม่หนูน้อย เพราะคนเกลียดกันเขาไม่มองอีกฝ่ายราวกับจะกลืนกินแบบที่เธอมองฉันเมื่อครู่นี้หรอก จำเอาไว้...”
“คนบ้า...!”
หยาดพิรุณแว้ดออกมา หน้าตาแดงก่ำ ก่อนจะรีบสาวเท้าหนีหายไปทางระเบียงไม้อย่างรวดเร็ว ณฉัตรมองตามร่างอรชรไปด้วยสายตาไร้ความรู้สึก
“ฉันจะต่อสู้กับความไร้เดียงสาของเธอได้นานแค่ไหนกันนะ... หยาดพิรุณ...” พึมพำออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน ขณะหมุนกายมุ่งหน้ากลับสู่ห้องพักของตนเองทันที
สิบนาทีต่อมาพอดิบพอดี ร่างสูงใหญ่ในชุดที่ดูมิดชิดกว่าตอนอยู่ตรงสระว่ายน้ำของณฉัตรก็ก้าวเข้ามา ห้องทำงานดูคับแคบลงไปถนัดตา และหล่อนก็ดูจะตัวเล็กเท่ามด เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น
หญิงสาวพยายามก้มหน้าก้มตาอ่านตำราให้มือนิ่ง แต่เจ้ากลิ่นบ้ากลิ่นบอที่ลอยมาจากร่างกายที่แสนเซ็กซี่เร้าใจของณฉัตรก็เด้งเข้ามาในจมูก และมันก็ทำให้เนื้อสาวของหล่อนเต้นระริก พยายามจะขจัดเจ้าความยั่วยวนใจนี่ไปแค่ไหน แต่มันก็ทำได้ยากลำบากนัก
นี่หล่อนคงไม่ได้หลงรักผู้ชายบ้าอำนาจ แถมยังเกลียดหล่อนเป็นชีวิตจิตใจแบบณฉัตรเข้าหรอกนะ ไม่นะ... ต้องไม่ใช่ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ความผิดหวังคือสิ่งแรกที่หล่อนจะได้รับกลับคืนมา
“เปิดหน้าสี่สิบหก แล้วอ่านให้เข้าใจ เดี๋ยวฉันจะถาม...”
เขาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หนังตรงหน้าหล่อน ถึงแม้จะมีโต๊ะไม้โบราณมันเงาขวางกั้นระหว่างหล่อนกับเขาอยู่ แต่อิทธิพลแห่งนักล่าในตัวของณฉัตรก็ยังอบอวลใส่หยาดพิรุณจนหญิงสาวมึนงง แทบจะทำอะไรไม่ถูกเลยก็ว่าได้...
นี่หล่อนเป็นหนักขึ้นทุกวันแล้วนะเนี่ย... สาวน้อยคร่ำครวญอยู่ภายในอกอย่างยอมรับชะตากรรม
“รับทราบค่ะ อาจารย์...”
และทุกสิ่งภายในห้องก็เงียบงัน ความวังเวงเต้นระริกอยู่ในบรรยากาศ สาวน้อยแอบชำเลืองมองพ่อคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงหน้าเป็นระยะ และก็ได้เห็นว่าเขากำลังนั่งดูอะไรสักอย่างในแฟ้มเอกสารอย่างจดจ่อ
เขาหล่อเหลา... หล่อระเบิดระเบ้อ ยิ่งยามที่เขาเผลอตัวแบบนี้ด้วยแล้ว ณฉัตรก็ยิ่งหน้าตาดี ท่วงท่าสง่างาม ไม่ว่าจะยืน จะเดิน จะนั่ง หรือแม้แต่ตอนทำงานแบบนี้
“บอกให้อ่านหนังสือไง แอบมองฉันอยู่ได้ จะสอบผ่านไหม...”
“คือ...”
“อ่านไป แล้วถ้าฉันให้ทำข้อสอบแล้วทำไม่ได้ล่ะก็ ถูกทำโทษแน่...”
หยาดพิรุณได้แต่หน้าร้อนผ่าว ไร้สิ้นหนทางในการตอบโต้ จำต้องนั่งอ่านตำราตรงหน้าไปอย่างไม่มีทางเลือก แม้จะรู้ดีว่าตำราในมือช่างไม่มีอะไรน่าพิสมัยเหมือนมองใบหน้าของณฉัตรเลยก็ตาม
หยาดพิรุณเดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาใกล้ ๆ กับมารดาที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่ด้วยท่าทางอ่อนแรง จนคุณนายเพลินพิศต้องเอ่ยถาม
“ไปติวภาษาไม่ได้ไปเดินเขา ทำไมถึงทำท่าเหมือนจะตายแบบนั้นล่ะยายเอิง...”
หญิงสาวชำเลืองตามองมารดาตาละห้อย “ให้เดินขึ้นเขาสักร้อยลูกยังดีกว่าไปเรียนกับตานั่นเลยค่ะแม่ คนอะไรก็ไม่รู้บ้าอำนาจชะมัด เอิงแค่ทำผิดไปข้อเดียวเอง ให้เอิงท่องคำศัพท์ตั้งห้าสิบคำเป็นการลงโทษ...”
คุณนายเพลินพิศหัวเราะร่วน “ก็ดีแล้วนี่ แม่ดีใจจังเลยที่คุณฉัตรเขาปราบพยศแกได้ ต่อไปพ่อกับแม่จะได้หมดห่วง”
คำพูดของมารดาทำให้หยาดพิรุณมองอย่างแปลกใจ “แม่พูดแปลก ๆ นะคะ หมดห่วงอะไรกัน แล้วอีตานั่นมาเกี่ยวอะไรด้วย...”
“เอิงจำเรื่องที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟังตอนเด็กได้หรือเปล่าล่ะ เรื่องคู่หมั้นของเอิงน่ะ...”
“คู่หมั้นหรือคะ?”
ผู้เป็นมารดาพยักหน้า “ใช่จ้ะ ผู้ชายที่เอิงต้องแต่งงานด้วยไง”
หยาดพิรุณพยักหน้าจำได้ ก่อนจะรีบเบ้หน้า “จำได้ค่ะ แต่เอิงไม่แต่งนะคะ ใครก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นหน้า แล้วตอนนี้มีเมียไปหรือยังก็ไม่รู้...”
“เขายังไม่มีหรอก ยังรอเจ้าสาวของเขาอยู่...”
“ไม่นะแม่ เอิงไม่แต่ง! ยังไงก็ไม่แต่ง ถ้าทุกคนบังคับเอิง เอิงจะทำให้วุ่นวายกันไปให้หมดเลย...” สาวน้อยส่ายหน้าปฏิเสธ พลางทำเสียงจริงจัง ก่อนจะลุกขึ้นยืน ตาแดง ๆ จะร้องไห้
คุณนายเพลินพิศมองบุตรสาวอย่างรู้ทัน “ที่ไม่อยากแต่งนี่เพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว หรือว่าเพราะไม่อยากแต่งจริง ๆ”
คำถามของมารดาทำเอาหยาดพิรุณอึ้งไปชั่วขณะ ใบหน้าของณฉัตรลอยมาทันที แต่ก็จำต้องปฏิเสธออกไป หล่อนไม่มีทางยอมรับหรอกว่าชอบผู้ชายบ้าอำนาจคนนั้น
“ปะ... เปล่าค่ะ เอิงแค่ไม่อยากแต่ง เอิงยังอยากอยู่กับครอบครัว...”
“จริงเหรอ แล้วคุณฉัตรล่ะ เขาออกจะหล่อ รวยแบบนั้น เอิงไม่หวั่นไหวบ้างหรือลูก...”
หวั่นไหวสิ หวั่นไหวจนใจเต้นระรัวทุกครั้งที่อยู่ใกล้ “ไม่ค่ะ เขาไม่ใช่สเป็กของเอิง...”
“แล้วใครล่ะสเป็กของลูกน่ะ”
หยาดพิรุณทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะพยายามตอบออกมาให้ดูตรงกันข้ามกับณฉัตรที่สุด “ขาว ๆ ค่ะ น่ารักเหมือนนักร้องเกาหลี”
คุณนายเพลินพิศดีดนิ้วเสียงดัง ก่อนจะหัวเราะออกมา “งั้นก็ตรงกับคู่หมั้นของเอิงเลยน่ะสิ ขาว ๆ หล่อ ๆ เหมือนนักร้องเกาหลีเลย...”
หยาดพิรุณหน้าซีดตกใจ “ไม่เอานะแม่... เอิงไม่เอาใครทั้งนั้นแหละ ไม่อยากแต่งงาน...”
“แต่ว่าที่เจ้าบ่าวของเอิงอยากแต่งมาก และหากเราผิดสัญญาเมื่อไหร่เราจะต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาลเลยนะ”
ตอนที่ 4.“อะไรนะคะ นี่มันสัญญาบ้าบออะไรกัน!” จากที่ลุกขึ้นจะเดินหนีตอนนี้กลับกระแทกตัวนั่งลงอีกครั้งผู้เป็นมารดาแสร้งทำหน้าเศร้าเล่าเรื่องที่หารือกับสามีเอาไว้แล้วต่อไป เพราะหากไม่ทำอย่างนี้แม่ลูกสาวตัวดีก็คงจะต้องปฏิเสธหัวชนฝา แล้วไหนจะพ่อณฉัตรอีก เพราะรายนั้นก็ปฏิเสธหัวชนฝาเช่นกัน“มันเป็นเรื่องในอดีตที่เราต้องรับผิดชอบ...”ยิ่งเห็นสีหน้าของมารดาเต็มไปด้วยความกังวล หยาดพิรุณก็ยิ่งไม่พอใจ “แล้วเรามีทางออกไหนบ้างคะ ที่จะทำให้ไม่ต้องเสียเงินมากมายแบบนี้...”คุณนายเพลินพิศลอบยิ้มอย่างสมใจ ก่อนจะเดินตามแผนต่อไป “มีทางเดียวจ้ะ...”“ทางไหนคะแม่ บอกเอิงมาเถอะเอิงยอมทำทุกอย่าง...” หญิงสาวทำตาโต ใบหน้ามีความหวังขึ้นมาทันปัจจุบันทันด่วน“เราต้องทำให้ฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายถอนหมั้นเราเอง...”“ทำให้เขาถอนหมั้นเอิง...” ทวนคำพูดของมารดาอย่างสับสน“แล้วเราจะทำยังไงล่ะคะ เขาถึงจะถอนหมั้น เอิงคิดไม่ออก...” หญิงสาวถามมารดาออกไปจากจนหนทาง“เท่าที่แม่รู้มานะ ฝ่ายนั้นเขารักชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลมาก หากใครในตระกูลทำให้เสื่อมเสียจะถูกขับไล่ออกไปทันที...”“แล้วยังไงต่อคะแม่...” เมื่อเห็นมารดาหยุดกลางคันจึงเร่งขึ
ตอนที่ 5.หญิงสาวรีบชักมือกลับทันที พลางค่อนขอดผู้ชายเย็นชาตรงหน้าในใจอย่างไม่สบอารมณ์นัก นี่ถ้าไม่อยากลบคำสบประมาทของมารดา และใช้พ่อรูปหล่อคนนี้เป็นเครื่องมือในการยุติการแต่งงานล่ะก็ หล่อนไม่มีวันทำหน้ายิ้มระรื่น ให้พ่อคนเผด็จการขั้นเทพอย่างณฉัตรได้เหยียดหยามแบบนี้หรอก“ก็ได้ แต่คุณอย่าพึ่งไปไหนสิ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย...”คิ้วเข้มที่ยาวเป็นปื้นดกดำอยู่เหนือดวงตาคมรียาวหวานซึ้งเลิกขึ้นสูง ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา “นึกอยู่แล้วเชียวว่าการมาเช้าของเธอต้องมีแผน... มีอะไรก็ว่ามาสิ ฉันจะลองฟังดู...” ชายหนุ่มทำท่าจะเดินไปนั่งที่โซฟา แต่สาวน้อยรีบร้องห้าม“มันเป็นความลับสุดยอด เราไปคุยกันในห้องทำงานของคุณไม่ได้เหรอคะ”สายตาสาววิบวับอ้อนวอนจนณฉัตรรู้สึกสะท้านในอกแปลกประหลาด แต่ก็พยายามข่มเอาไว้ และทำสีหน้าไร้ความรู้สึกดังเดิมตอนที่ตอบโต้ออกไป“เรื่องมาก...”แม้จะต่อว่าออกไป แต่ร่างสูงใหญ่ที่ถึงแม้จะอยู่ในชุดลำลอง แต่ก็สง่างามไม่แพ้ตอนที่อยู่ในชุดสูทแสนหรูราคาแพงของเขาแม้แต่น้อยก็เดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานตามคำขอร้องของหญิงสาวหัวใจสาวเต้นระรัว เท้าก้าวตาม แต่สายตาไม่เคลื่อนจากความสมบูรณ์แบบดุจเทพบุ
ตอนที่ 1 เสียงลมหายใจที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายถูกปล่อยออกมาจากปลายจมูกโด่งเชิดของหยาดพิรุณอย่างต่อเนื่องเมื่อเจ้าตัวพาร่างอรชรมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องเรียนหรือจะเรียกให้ถูกมันคือห้องทำงานของณฉัตรที่ดัดแปลงเป็นห้องติวภาษาให้หล่อนเสียมากกว่า หญิงสาวก้มมองนาฬิกาเรือนเล็กที่สวมใส่อยู่ที่ข้อมือด้านขวาขึ้นมามอง ใบหน้างามเต็มไปด้วยความกังวลใจอย่างชัดเจนเมื่อหล่อนมาสายกว่าเวลาเรียนไปเกือบสิบนาที “ตานั่นจะพ่นไฟใส่เราไหมนะ...”พึมพำออกมาแผ่วเบา ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปโดยไม่คิดจะเคาะเตือนให้เสียเวลา แต่พอบานประตูไม้แกะสลักสุดหรูเปิดออกจากกัน ความว่างเปล่าก็พุ่งเข้าใส่สายตาทันที คิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากันยุ่ง ความมึนงงสาดซัดเข้าใส่สมอง“หายไปไหน หรือว่ายังไม่ตื่น สงสัยเมื่อคืนคงจะทั้งคืน...”หญิงสาวยิ้มเยาะอยู่ภายในใจ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกมา สมองนึกภาพผู้หญิงที่โชคดีได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของณฉัตรไม่หยุดจะเป็นยายฝรั่งหัวทองแสนอึ๋มคนนั้น... หรือว่าจะเป็นแม่นางแบบก้านยาวแต่พกส้มโอลูกใหญ่ไว้ที่หน้าอก หรือบางทีอาจจะเป็นแม่ผู้หญิงผมดำแสนสวยที่หล่อนเคยเห็นในรูปที่นักข่าวแอ
ตอนที่ 2.หยาดพิรุณคิดอย่างนั้น พลางพยายามกลืนน้ำลายที่เหนียวไม่ต่างจากแป้งเปียกลงไปให้ความชุ่มชื่นกับลำคอที่กำลังแห้งเป็นผุยผงนั้นด้วยความยากลำบาก สายตาละจากเป้ากางเกงจากพ่อคนตัวโตที่กำลังยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าไม่ได้เลยมือใหญ่ที่กำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดศีรษะที่เปียกน้ำอยู่นั้นทำงานได้อย่างคล่องแคล่วไม่ติดขัด จนเจ้าสมองไม่รักดีคิดไม่ถึงตอนที่เขาใช้มือใหญ่สีแทนสวยคู่นี้เคลื่อนไหวไปตามร่างกายของผู้หญิงที่แสนจะโชคดีพวกนั้น และความอิจฉาก็ดาหน้าเข้าใส่ไม่หยุด“ก็มีดีแค่หล่ออย่างเดียวเท่านั้นแหละ...!” เผลอพูดออกไปเสียงดัง และนั่นก็ทำให้ณฉัตรรู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมองจากสาวน้อยที่เขาพยายามหลีกหนีสุดชีวิตกรามแกร่งขบกันแน่น เมื่อสายตาคมกล้ารียาวตวัดไปที่ศาลาข้างสระน้ำ ร่างอรชรในชุดกางเกงขาสั้นแสนธรรมดา แต่ทำไมนะ ทำไมมันถึงได้เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งของหยาดพิรุณได้มากถึงเพียงนี้และสิ่งที่เขาพยายามปฏิเสธมาตลอดเวลาก็คือ... ถึงแม้หยาดพิรุณจะยังไม่เต็มยี่สิบ แต่ร่างกายของหล่อนก็งามสะพรั่งเป็นผู้หญิงที่น่าปรารถนาไปทั้งเนื้อทั้งตัวแต่ให้ตายเถอะ...! เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสาวพรหมจารีคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต แ
ตอนที่ 5.หญิงสาวรีบชักมือกลับทันที พลางค่อนขอดผู้ชายเย็นชาตรงหน้าในใจอย่างไม่สบอารมณ์นัก นี่ถ้าไม่อยากลบคำสบประมาทของมารดา และใช้พ่อรูปหล่อคนนี้เป็นเครื่องมือในการยุติการแต่งงานล่ะก็ หล่อนไม่มีวันทำหน้ายิ้มระรื่น ให้พ่อคนเผด็จการขั้นเทพอย่างณฉัตรได้เหยียดหยามแบบนี้หรอก“ก็ได้ แต่คุณอย่าพึ่งไปไหนสิ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย...”คิ้วเข้มที่ยาวเป็นปื้นดกดำอยู่เหนือดวงตาคมรียาวหวานซึ้งเลิกขึ้นสูง ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา “นึกอยู่แล้วเชียวว่าการมาเช้าของเธอต้องมีแผน... มีอะไรก็ว่ามาสิ ฉันจะลองฟังดู...” ชายหนุ่มทำท่าจะเดินไปนั่งที่โซฟา แต่สาวน้อยรีบร้องห้าม“มันเป็นความลับสุดยอด เราไปคุยกันในห้องทำงานของคุณไม่ได้เหรอคะ”สายตาสาววิบวับอ้อนวอนจนณฉัตรรู้สึกสะท้านในอกแปลกประหลาด แต่ก็พยายามข่มเอาไว้ และทำสีหน้าไร้ความรู้สึกดังเดิมตอนที่ตอบโต้ออกไป“เรื่องมาก...”แม้จะต่อว่าออกไป แต่ร่างสูงใหญ่ที่ถึงแม้จะอยู่ในชุดลำลอง แต่ก็สง่างามไม่แพ้ตอนที่อยู่ในชุดสูทแสนหรูราคาแพงของเขาแม้แต่น้อยก็เดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานตามคำขอร้องของหญิงสาวหัวใจสาวเต้นระรัว เท้าก้าวตาม แต่สายตาไม่เคลื่อนจากความสมบูรณ์แบบดุจเทพบุ
ตอนที่ 4.“อะไรนะคะ นี่มันสัญญาบ้าบออะไรกัน!” จากที่ลุกขึ้นจะเดินหนีตอนนี้กลับกระแทกตัวนั่งลงอีกครั้งผู้เป็นมารดาแสร้งทำหน้าเศร้าเล่าเรื่องที่หารือกับสามีเอาไว้แล้วต่อไป เพราะหากไม่ทำอย่างนี้แม่ลูกสาวตัวดีก็คงจะต้องปฏิเสธหัวชนฝา แล้วไหนจะพ่อณฉัตรอีก เพราะรายนั้นก็ปฏิเสธหัวชนฝาเช่นกัน“มันเป็นเรื่องในอดีตที่เราต้องรับผิดชอบ...”ยิ่งเห็นสีหน้าของมารดาเต็มไปด้วยความกังวล หยาดพิรุณก็ยิ่งไม่พอใจ “แล้วเรามีทางออกไหนบ้างคะ ที่จะทำให้ไม่ต้องเสียเงินมากมายแบบนี้...”คุณนายเพลินพิศลอบยิ้มอย่างสมใจ ก่อนจะเดินตามแผนต่อไป “มีทางเดียวจ้ะ...”“ทางไหนคะแม่ บอกเอิงมาเถอะเอิงยอมทำทุกอย่าง...” หญิงสาวทำตาโต ใบหน้ามีความหวังขึ้นมาทันปัจจุบันทันด่วน“เราต้องทำให้ฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายถอนหมั้นเราเอง...”“ทำให้เขาถอนหมั้นเอิง...” ทวนคำพูดของมารดาอย่างสับสน“แล้วเราจะทำยังไงล่ะคะ เขาถึงจะถอนหมั้น เอิงคิดไม่ออก...” หญิงสาวถามมารดาออกไปจากจนหนทาง“เท่าที่แม่รู้มานะ ฝ่ายนั้นเขารักชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลมาก หากใครในตระกูลทำให้เสื่อมเสียจะถูกขับไล่ออกไปทันที...”“แล้วยังไงต่อคะแม่...” เมื่อเห็นมารดาหยุดกลางคันจึงเร่งขึ
ตอนที่ 3.“ถ้าเกลียดฉัน... ก็กรุณาทำท่าทางให้มันสอดคล้องกับคำพูดหน่อยนะแม่หนูน้อย เพราะคนเกลียดกันเขาไม่มองอีกฝ่ายราวกับจะกลืนกินแบบที่เธอมองฉันเมื่อครู่นี้หรอก จำเอาไว้...”“คนบ้า...!”หยาดพิรุณแว้ดออกมา หน้าตาแดงก่ำ ก่อนจะรีบสาวเท้าหนีหายไปทางระเบียงไม้อย่างรวดเร็ว ณฉัตรมองตามร่างอรชรไปด้วยสายตาไร้ความรู้สึก“ฉันจะต่อสู้กับความไร้เดียงสาของเธอได้นานแค่ไหนกันนะ... หยาดพิรุณ...” พึมพำออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน ขณะหมุนกายมุ่งหน้ากลับสู่ห้องพักของตนเองทันทีสิบนาทีต่อมาพอดิบพอดี ร่างสูงใหญ่ในชุดที่ดูมิดชิดกว่าตอนอยู่ตรงสระว่ายน้ำของณฉัตรก็ก้าวเข้ามา ห้องทำงานดูคับแคบลงไปถนัดตา และหล่อนก็ดูจะตัวเล็กเท่ามด เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นหญิงสาวพยายามก้มหน้าก้มตาอ่านตำราให้มือนิ่ง แต่เจ้ากลิ่นบ้ากลิ่นบอที่ลอยมาจากร่างกายที่แสนเซ็กซี่เร้าใจของณฉัตรก็เด้งเข้ามาในจมูก และมันก็ทำให้เนื้อสาวของหล่อนเต้นระริก พยายามจะขจัดเจ้าความยั่วยวนใจนี่ไปแค่ไหน แต่มันก็ทำได้ยากลำบากนักนี่หล่อนคงไม่ได้หลงรักผู้ชายบ้าอำนาจ แถมยังเกลียดหล่อนเป็นชีวิตจิตใจแบบณฉัตรเข้าหรอกนะ ไม่นะ... ต้องไม่ใช่ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ความผิด
ตอนที่ 2.หยาดพิรุณคิดอย่างนั้น พลางพยายามกลืนน้ำลายที่เหนียวไม่ต่างจากแป้งเปียกลงไปให้ความชุ่มชื่นกับลำคอที่กำลังแห้งเป็นผุยผงนั้นด้วยความยากลำบาก สายตาละจากเป้ากางเกงจากพ่อคนตัวโตที่กำลังยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าไม่ได้เลยมือใหญ่ที่กำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดศีรษะที่เปียกน้ำอยู่นั้นทำงานได้อย่างคล่องแคล่วไม่ติดขัด จนเจ้าสมองไม่รักดีคิดไม่ถึงตอนที่เขาใช้มือใหญ่สีแทนสวยคู่นี้เคลื่อนไหวไปตามร่างกายของผู้หญิงที่แสนจะโชคดีพวกนั้น และความอิจฉาก็ดาหน้าเข้าใส่ไม่หยุด“ก็มีดีแค่หล่ออย่างเดียวเท่านั้นแหละ...!” เผลอพูดออกไปเสียงดัง และนั่นก็ทำให้ณฉัตรรู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมองจากสาวน้อยที่เขาพยายามหลีกหนีสุดชีวิตกรามแกร่งขบกันแน่น เมื่อสายตาคมกล้ารียาวตวัดไปที่ศาลาข้างสระน้ำ ร่างอรชรในชุดกางเกงขาสั้นแสนธรรมดา แต่ทำไมนะ ทำไมมันถึงได้เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งของหยาดพิรุณได้มากถึงเพียงนี้และสิ่งที่เขาพยายามปฏิเสธมาตลอดเวลาก็คือ... ถึงแม้หยาดพิรุณจะยังไม่เต็มยี่สิบ แต่ร่างกายของหล่อนก็งามสะพรั่งเป็นผู้หญิงที่น่าปรารถนาไปทั้งเนื้อทั้งตัวแต่ให้ตายเถอะ...! เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสาวพรหมจารีคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต แ
ตอนที่ 1 เสียงลมหายใจที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายถูกปล่อยออกมาจากปลายจมูกโด่งเชิดของหยาดพิรุณอย่างต่อเนื่องเมื่อเจ้าตัวพาร่างอรชรมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องเรียนหรือจะเรียกให้ถูกมันคือห้องทำงานของณฉัตรที่ดัดแปลงเป็นห้องติวภาษาให้หล่อนเสียมากกว่า หญิงสาวก้มมองนาฬิกาเรือนเล็กที่สวมใส่อยู่ที่ข้อมือด้านขวาขึ้นมามอง ใบหน้างามเต็มไปด้วยความกังวลใจอย่างชัดเจนเมื่อหล่อนมาสายกว่าเวลาเรียนไปเกือบสิบนาที “ตานั่นจะพ่นไฟใส่เราไหมนะ...”พึมพำออกมาแผ่วเบา ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปโดยไม่คิดจะเคาะเตือนให้เสียเวลา แต่พอบานประตูไม้แกะสลักสุดหรูเปิดออกจากกัน ความว่างเปล่าก็พุ่งเข้าใส่สายตาทันที คิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากันยุ่ง ความมึนงงสาดซัดเข้าใส่สมอง“หายไปไหน หรือว่ายังไม่ตื่น สงสัยเมื่อคืนคงจะทั้งคืน...”หญิงสาวยิ้มเยาะอยู่ภายในใจ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกมา สมองนึกภาพผู้หญิงที่โชคดีได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของณฉัตรไม่หยุดจะเป็นยายฝรั่งหัวทองแสนอึ๋มคนนั้น... หรือว่าจะเป็นแม่นางแบบก้านยาวแต่พกส้มโอลูกใหญ่ไว้ที่หน้าอก หรือบางทีอาจจะเป็นแม่ผู้หญิงผมดำแสนสวยที่หล่อนเคยเห็นในรูปที่นักข่าวแอ