หน้าหลัก / LGBTQ+ / ดลรวีที่รัก / บทสลับฉาก ๒ ดันทุรัง (๑๐๐%)

แชร์

บทสลับฉาก ๒ ดันทุรัง (๑๐๐%)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 18:00:51

“ไม่ต้องทำหรอก ถ้ามาช่วยทำงานของวัดแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลแม่ล่ะ มาเอาเงินกับตานี่มา”

“จริงเหรอจ๊ะ!?”

ด้วงดีใจจนล้นเอ่อ เมื่อหลวงตาเอื้อมมือไปหยิบกล่องไม้มาวางไว้บนหน้าตักของเขาหยิบซองปัจจัยขึ้นมาให้ดู ด้วงจับมือเหี่ยวย่นด้วยความตื้นตันพิงหลังมองจำนวนเงินที่ตนจะได้ไปซื้อยาโอสถมาให้มารดา เขาดีใจนักที่ยังได้รับการเอื้อเอ็นดู แม้จะโตขึ้นมามากแล้ว

“ได้แล้วก็เอาไปซื้อยา อย่าเอาไปซื้อขนมจนหมดล่ะ”

“หลานไม่ซื้อขนมหรอกจ้ะ เปลืองตังค์”

“ฮ่า ๆ เด็ก ๆ กินขนมบ้างก็ได้ อะนี่ ข้าได้มา เอาไปกินซะสิ”

ชายแก่หยิบห่อขนมสามห่อโต ๆ มายื่นให้เด็กชายบนตัก เจ้าตัวดูจะตื่นตาตื่นใจกับมันมาก รีบดึงไม้กลัดออกเปิดให้เห็นเป็นเนื้อแป้งสีเหลืองอร่ามโรยหน้าด้วยเนื้อมะพร้าวขูด เป็นขนมฟักทองที่เขาไม่เคยกินมาก่อน แม้ส่วนตัวจะไม่คุ้นเคยกับของหวานจนกลายเป็นไม่ถนัดทาน แต่หากมีเจ้ามะพร้าวเค็ม ๆ ก็พอกินได้

“เมื่อวานมีคนเอาม้วนผ้ามาถวาย แต่พวกข้ามีกันไม่กี่รูป เห็นเอ็งใส่แต่ผ้าเก่า ๆ เอาไปตัดทำเครื่องนุ่งห่มไป”

“ขอบคุณจ๊ะ!”

“เอ้อ ๆ เอ็งนั่งกินขนมต

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๓ บังคับขู่เข็ญ (๕๐%)

    ท้ายที่สุดเขาต้องยอมไปบวชเรียนเป็นคนที่หนึ่งร้อยหนึ่งด้วยเหตุผลประหลาด ๆ ที่เขาถูกกันออกมาจากผู้ใหญ่ทั้งสองและพี่อีกหนึ่งคน ทว่าอย่างไรเสียคนที่กันเขาก็เป็นตาลุงนั่น เพราะเขากับแม่มักจะเล่าเรื่องสู่กันฟังอย่างตรงไปตรงมาเสมอ มารดาหลังจากพูดคุยกันจนถึงเวลาทุ่มเศษจึงนำเรื่องราวข้อตกลงมาเล่าให้ฟัง“เฮ้อ...”เพราะนอนไม่หลับขึ้นมาจึงเดินมาที่สวนตั้งตะเกียงก่อนจะหยิบขนมจากเมื่อเช้าที่เหลืออีกหนึ่งห่อมานั่งแกะกินต่อให้หมดก่อนมันจะเสีย เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนพื้นที่หลังบ้านแม้จะรายล้อมด้วยป่าแต่ก็มีลานพืชผักกว้างพอจะให้ลมหนาวพัดผ่าน เด็กชายจึงสุมกิ่งไม้จุดไฟผิงไปพลาง เขาเผลอใช้ไม้ขีดจุดอีกแล้ว หากแม่มารู้ว่าเขาใช้ของสิ้นเปลืองคงจะโดนตำหนิเป็นแน่แก้มตอบตอนนี้อวบอิ่มไปด้วยเนื้อขนมสีเหลืองภายใน ดวงตากลมฉายแววเศร้าหมอง จิตใจห่อเหี่ยวจนอยากจะถอนหายใจออกมาอีกรอบถ้าไม่มีขนมอยู่ในปากเขาเห็นสายตามารดาเมื่อยามกลับมา มันฉายทั้งความรู้สึกเป็นสุข และความทุกข์ปนเปกัน เจ้าหล่อนไม่คิดจะปิดบัง พาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมานั่งจับเข่าคุย‘ในขณะที่เขากำลังบวช ฝ่าย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๓ บังคับขู่เข็ญ (๑๐๐%)

    “อย่ามาใส่ร้ายคนอื่นนะ!”ด้วงเปล่งเสียงดัง ทำไมพวกเขาจะไม่ใช่คนดี พวกเขาเป็นพระที่อยู่ในศีลในธรรมนะ แม่เขาก็พร่ำสอนมาตลอดว่าให้เคารพพระสงฆ์องค์เจ้า ทั้งพ่อเขาก็ดำรงพระธรรมอยู่ที่นี่จนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตโดยไม่มีเรื่องราวเสียหาย การบอกให้เขาปฏิเสธคนที่มีพระคุณ คอยเป็นเพื่อน เป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจไม่ต่างอะไรกับการดูถูกความเชื่อของเขาและมารดาสักนิดยิ่งคิดมากสมองก็โยงใยไปถึงเรื่องของตาลุงคนนั้นที่เข้าหาแม่เพราะจะเอาไปทำเมีย เขาไม่ชอบในสิ่งที่แม่ไม่ชอบ เพียงเพราะเข้าตาจน พวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์เลือกเขาเกลียดที่สุด พอได้เริ่มตั้งคำถาม ในหัวมันก็รู้สึกปั่นป่วนไปหมด แม่กำลังป่วยแต่หลังจากนั้นก็มีคนมาช่วยเพราะหวังผล ต้องมานั่งเรียนกับว่าที่พี่ชายถึงแม้ใจจะรู้สึกสนิทขึ้นมาบ้างแล้วทว่ายังไม่อาจเปิดใจได้ทั้งหมด ต้องมารับฟังว่าเหล่าคนที่เขาเชื่อใจมาตลอดเป็นคนไม่ดีจากปากคนอื่น ไหนจะอนาคตที่ไม่รู้เขาและแม่จะสามารถหาเงินมาใช้คืนตำรวจคนนั้นได้หรือเปล่า หากไม่ได้แม่จะต้องทำในสิ่งที่ใจไม่ได้ปรารถนา เขาจะต้องปรับตัว จะต้องทำสิ่งที่ต่างออกไปจากตอนนี้ จะต้องเข้าไปอยู่ในที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๔ สายตาที่มองมา (๕๐%)

    ด้วงเมื่อได้รับรู้ความจริงจากปากคนที่มองเข้ามาอย่างพี่ไกรก็เก็บมานั่งวิตก ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองคนนั้นจะกระทำสิ่งที่ผิดจารีต เด็กชายนั่งกอดเข่าครุ่นคิดอยู่มุมกระท่อมน้อยด้วยสายตาเหม่อลอย แม้จะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ร่างกายเขาดันออกตัวปฏิเสธกับคนเหล่านั้นไปเสียแล้วหลังจากบรรพชาแม้จะหลอกตัวเองว่าตนสนิทกับไอ้ทอง หรือหลวงตาขนาดไหนแต่เพราะเขาหันไปอยู่กับพี่ไกรมากกว่าการสุงสิงกับกลุ่มพี่เก่า‘ด้วง ไปกวาดลานตรงนั้นกันไหม’‘ฉะ...ฉันกวาดตรงนี้นี่แหละ’เขาเลือกที่จะยืนอยู่ข้างว่าที่พี่ชายตั้งใจก้มหน้าจับไม้กวาดทางมะพร้าวลาดปัดเศษใบไม้ เพราะไม่อยากมองหน้าสบตาพี่ทองที่คล้ายจะมองออกว่าเขากำลังตีตัวออกหาก ทว่าทำอย่างไรดี ความคิดภายในใจของเขามันดันสวนทางกัน เขาอยากสนิทกับทุกคนเหมือนเดิม แต่อบายมุขเหล่านั้นเป็นของต้องห้าม‘พี่ทอง...คือว่ายาสูบน่ะ มันไม่ดีนะ”เมื่อเขาทำใจกล้าจับมือพี่คนสนิทมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวพร้อมโพล่งประโยคนั้นออกไป เจ้าตัวก็หาได้มีทีท่าตกอกตกใจ แต่กลับส่งยิ้มมาทางเขาย่อตัวยกมือขึ้นลูบศีรษะแผ่วเบา‘ข้าเป็นพระ ใช้ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๔ สายตาที่มองมา (๑๐๐%)

    เนื่องด้วยเสียงตะโกนของเขาเมื่อครู่จึงทำให้ผู้คนโดยรอบหันมาสนใจ เขาและแม่จึงไม่มีทางเลือกต้องกลับมาสงบเสงี่ยมเพราะการที่ออกมาขายนอกพื้นที่ตลาดวางของขวางทางคนเดินแบบนี้มันผิดกฎหมายตามที่ตาลุงนั่นว่าจริงเด็กชายถูกจับจูงมาพูดคุยกันในจุดอับสายตาผู้คน ทำให้ด้วงไม่อาจลอบมองสถานการณ์ระหว่างแม่กับชายคนนั้นได้อย่างเต็มที่ เขาอยากจะเข้าไปเอากระจาดฟาดหัวตาแก่นั่นเหลือเกินแต่เพราะครอบครัวเขาได้รับการดูแลทั้งเรื่องการรักษาไข้มารดาและการบวชเรียนของเขาจึงขยับตัวไม่ได้มากประหนึ่งถูกกรงขังที่เรียกว่าหนี้บุญคุณครอบเอาไว้“พี่ พาน้องมาที่นี่ทำไม?”ด้วงเอ่ยถามแต่ไม่ได้มีสมาธิสักเท่าไรนักเพราะอยากให้ความสนใจ ณ มารดาด้านหลังรั้วเหล็กมากกว่า“ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน”“ทำไมพี่ต้องยอมผู้ชายคนนั้นไปซะทุกเรื่องเลย”“พี่...”ไกรวิชญ์นิ่งค้าง เขาไม่รู้จะตอบคำถามนั้นว่าอย่างไรไปนอกจากคำว่า ‘ขี้ขลาด’ กระนั้นหากพูดมันออกไป เขาจะกลายเป็นลูกแหง่ตัวหนึ่งที่ไม่แม้จะออกปากห้ามปรามสิ่งอันไม่เหมาะสม“แม่เขา...ไม่ได้อยากแต่งงานกับพ่อพี่”“เรื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๕ ความรู้สึกปั่นป่วน (๕๐%)

    “พี่ด้วง ๆ! ได้ยินว่ามีเด็กคนใหม่มาอยู่ด้วยล่ะ!”เด็กจิ๋วคนหนึ่งตะโกนขึ้นเรียกพี่โตสุดในกลุ่ม ผ่านมาเพียงครึ่งปีร่างกายของด้วงก็เติบใหญ่จนไม่สามารถใช้คำว่าเด็กชายได้อีกต่อไปกายสูงโปร่งผิวสีน้ำผึ้งมือชะงักจากการต้มทำยาหม้อเงยหน้าขึ้นสบตาเด็กชายตัวเล็กเท่าเอวซึ่งวิ่งเข้ามาหา คำรายงานสถานการณ์ทำให้แววตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นเพราะนั่นเป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะมีเพื่อนใหม่ใบหน้าอ่อนเปื้อนคราบดินดอนยกยิ้มก่อนจะจัดการข้าวของร้อนตรงหน้าให้พอเหมาะ หันไปสนทนากับเด็กจิ๋วคนสนิท“เป็นใครเหรอ!?”น้ำเสียงซึ่งพึ่งเริ่มทุ้มต่ำถามด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า จะเป็นคนที่เด็กกว่า รุ่นราวคราวเดียวกัน หรือแก่กว่ากันแน่นะ“เห็นว่าหนีออกจากบ้านแล้วไม่มีที่ไป... ได้ข่าวว่าเป็นลูกเศรษฐีด้วยนะ”เด็กน้อยกล่าวประโยคสุดท้ายพร้อมยกมือป้องปากกระซิบกระซาบ แล้วจึงเล่าความต่อว่าเจ้าตัวมีรูปพรรณสัณฐานอย่างไร นั่นยิ่งทำเขาสนอกสนใจเข้าไปใหญ่ลูกคุณหนูอย่างนั้นเหรอ ไม่ว่าจะเป็นใครถ้าจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่แล้วละก็ เขาอยากจะทำความรู้จักด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๕ ความรู้สึกปั่นป่วน (๑๐๐%)

    ด้วงเดินมาด้อม ๆ มอง ๆ เงยหน้าจากพื้นมองขึ้นไปยังหน้าต่างกุฏิเก่าด้วยความตื่นเต้น เมื่อคล้ายว่าได้ยินคำกล่าวลาเขาจึงเดินไปแอบแถวหลังพุ่มไม้ส่วนหน้าเรือน เห็นว่าเด็กคนนั้นเดินลงมาคนเดียวพร้อมกล่องเครื่องไม้เครื่องมือ จึงอาศัยจังหวะนี้เดินเข้าไปทักทาย“นี่เอ็งน่ะ!”“เฮือก!!... นายเป็นใคร!”เมื่อหันมามองหน้าชัด ๆ และได้ฟังเสียงที่เริ่มทุ้มต่ำไม่ต่างกันยิ่งยืนยันว่าเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันน่าจะเข้ากันได้ ทว่าสีหน้าแววตาที่ถึงจะสะสวยน่ารักแต่คิ้วกลับขมวดจ้องเขาอย่างกับเป็นศัตรูคู่แค้นมาแต่ชาติปางไหน“เอ่อ...ข้าชื่อด้วง เป็นเด็กวัดที่นี่ แล้วเอ็งชื่ออะไร”“แก้ว”อีกฝ่ายตอบเสียงแข็ง แสดงออกว่าไม่อยากคบหาสมาคมด้วยเป็นที่สุด โฉมงามกอดตะกร้าสานในมือแน่นยืนเก็บเนื้อเก็บตัวแต่แววตายังคงมุ่งร้าย จนด้วงทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่“เอ็งเป็นลูกคุณหนูไม่ใช่เหรอ แล้วมาอยู่ที่นี่ทำไม?”เขาถามออกไปตามสิ่งที่อยู่ในหัวทว่าคู่สนทนากลับไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม ขบเม้มริมฝีปากและคราวนี้คล้ายจะน้ำตาคลอเบ้าอีกเสียด้วย“ฮึก! เป็นใครก็ไม่รู้ ยะ...ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๖ โชยกลิ่นหอม (๕๐%)

    เวลาไหลผ่านมาจวบจนเข้าปีที่สาม ตำรวจคนนั้นก็ยังไม่ยอมลดราวาศอกกับผู้เป็นมารดาเสียทีทั้งยังคงยืนกรานว่าแม่เขาน่ะ ไม่สามารถฝืนโชคชะตาได้หรอกด้วงนำมันมาคิดแล้วก็ได้แต่กัดฟัน หากโชคชะตามีจริงทำไมต้องเล่นตลกกับพวกเขาสองแม่ลูกได้ถึงขนาดนี้ ใจเขาไม่ได้เกลียดพี่ไกรแม้สักนิดกลับมีแต่ความรู้สึกดีให้กันเสียด้วยซ้ำแต่สำหรับตาแก่นั่นแค่เขาเห็นก็อยากจะเข้าไปปะทะให้หน้าหงายเด็กหนุ่มในเสื้อผ้าเย็บใหม่ออกมานั่งปาหินเล่นที่ริมลำธารพลอยนึกถึงเมื่อหลายปีก่อนที่ตนเองได้รับโอกาสบรรพชาอย่างบ้านอื่นเขา ทิวทัศน์ลำธารใสฝั่งตรงข้ามฉายภาพตึกรามบ้านช่องเรียงเป็นแนวยาวโดยมีท่าเรือน้อยใหญ่ให้เห็นประปราย ผืนน้ำสะท้อนแสงระยิบระยับยิ่งชวนให้หน้าเจ้าพี่ลอยเข้ามา เขาไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่าเมื่อใดที่เป็นทุกข์เพียงนึกถึงก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้เสียอย่างนั้นด้วงนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำแกว่งรับความเย็นผ่านผิวกาย บัดนี้ผ่านมาหลักปีเด็กหนุ่มแม้เมื่อเทียบกับคนเมืองจะยังดูผอมกะหร่องทว่าหากเทียบเมื่อครั้งอดีตกลับอุดมสมบูรณ์ขึ้นผิดหูผิดตา ยามแตกเนื้อหนุ่มย่อมมีสิวมีกระขึ้นเป็นบางจุดกระนั้นผ่านไปเพี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ดลรวีที่รัก   บทสลับฉาก ๖ โชยกลิ่นหอม (๑๐๐%)

    ในวันรุ่งขึ้นด้วงซึ่งพึ่งเดินกลับมาจากการทำงานก็วิ่งแทด ๆ มุ่งตรงเข้ามาในกระท่อมเพื่อล้างหน้าล้างตัวและเหงื่อไคลจากการทำงานตลอดครึ่งวัน แล้วจึงมุ่งตรงไปหยิบเจ้าถุงหอมถุงน้อยขึ้นมาดมตรวจทานกลิ่น เมื่อเห็นเป็นแม่นเหมาะจึงพาตัวเองออกมาคีบรองเท้าแตะเดินหาเจ้าแก้วหวังจะให้สิ่งนี้เพื่อเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์นั่งรออยู่ที่ม้าหินเขตลานวัด มองไปยังศาลาการเปรียญเห็นเหล่าเด็กน้อยวิ่งไล่จับกันสนุกสนานเขาในฐานะคนเป็นพี่ใหญ่จึงยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างเป็นไปเอง พอโตขึ้นเพียงได้มองภาพเด็ก ๆ วิ่งเล่นยิ้มแย้มกันเขาก็รู้สึกสนุกไปด้วยแล้ว นี่หรือช่วงเวลาที่เขากำลังค่อย ๆ โตเป็นผู้ใหญ่ไม่นานเพื่อนโฉมงามก็เดินผ่านซุ้มประตูวัดเข้ามาพร้อมกับตะกร้าของฝากที่คงจะเป็นสิ่งของจากเหล่าพี่สาวพี่ชายชาวลิเกแก้วเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้ามาก่อนจะต้องหยุดเดิน จากที่ทำหน้าตาดี ๆ อยู่ก็ต้องหุบยิ้มเพราะเจอเจ้าด้วง ซึ่งส่วนตัวแล้วเคมีไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไรนักเพราะเจ้าตัวชอบเข้าหาเขาแบบแปลก ๆ ทำหน้าทำตาเหมือนคนปวดท้องถ่ายอยู่ตลอดเวลา กล่าววาจาก็โผงผางไม่รื่นหูสักนิด“แก้ว”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๑๐๐%)

    วันนี้เป็นวันที่ไกรวิชญ์อารมณ์ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี ไม่ว่าเรื่องอะไรหรือปัญหาแบบไหนล้วนผ่านไปได้ด้วยดีเหลือเกินนายตำรวจในผ้านุ่งเปลือยท่อนบนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เสียงพรูลมหายใจเพราะความโล่งสบายถูกขับออกมาเมื่อเจ้าของห้องเดินมาพาดผ้าขนหนูกับราวไม้ในห้องตอนนี้เรียกได้ว่าเขาได้โอกาสกลับมาแล้วได้ไหมนะ... ตลอดมาด้วงปฏิเสธเขาตัวโยน ทั้งเขายังเผลอทำอะไรไม่ยั้งคิดลงไปตั้งหลายครั้ง ไม่รู้ป่านนี้เขาจะได้รับการให้อภัยแล้วรึยัง*ก๊อก ก๊อก*‘ผมเอง’เพียงแค่สองพยางค์ไกรวิชญ์ละมือจากราวผ้าเช็ดตัวเดินไปเปิดประตูให้ในทันทีโดยลืมไปว่าตัวเองลืมสวมเสื้อ แต่ด้วงนั้นไม่ได้คิดอะไรเดินเข้ามาแบบสบายใจพร้อมกล่าวหัวข้อการสนทนา โดยเป็นไกรวิชญ์เองที่ล่กเอื้อมมือไปหยิบเสื้อที่พาดอยู่มาสวมแทบไม่ทัน“พี่รู้เรื่องครูอุ่นเขารึยัง?”“หมายถึงเรื่องที่เขาเป็นทหารเหรอ?”“ใช่”ไกรวิชญ์เก็บสีหน้าเพราะเหมือนด้วงจะเข้ามาคุยเรื่องอนาคตการเรียนของลูกชายเขา ไกรวิชญ์จึงเดินไปเร่งไฟตะเกียงหัวเตียงให้สว่างพอที่จะทำการสนทนาอย่างเป็นกิจจะล

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๕๐%)

    การกระทำที่ไม่เป็นตัวเองล้วนเกิดมาจากความกลัวภายใต้จิตสำนึกโดยที่เจ้าของร่างไม่อาจควบคุมได้ เหมือนกับการพยายามเปล่งเสียงตะโกนขอร้องความช่วยเหลือในกล่องมืดที่ไร้ซึ่งผู้คน น้องชายเขาคงเป็นเช่นนี้มาตลอด บอกใครไม่ได้เพราะกลัว หนีไม่ได้เพราะใจยังห่วง ทว่ากลับอ่อนแอจนไม่อาจมีแรงยืนหยัด ดังนั้นหนทางเดียวคือการสร้างเกราะ กีดกันทุกอย่างที่จิตใต้สำนึกสั่งให้เอาออกไปจากชีวิต‘แค่พูดคำไม่กี่คำ...’นั่นคือสาเหตุว่าทำไมน้องชายถึงได้ปฏิเสธเขาหนักหนา ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลและสถานการณ์อันบีบคั้นส่งผลให้เด็กคนนั้นจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้รักกันไม่ได้เพราะกลัวมารดาจะเป็นอันตรายรักกันไม่ได้เพราะกลัวทำครอบครัวคนอื่นแตกแยกรักกันไม่ได้เพราะกลัวหลานชายที่กำเนิดมาจะผิดหวังมันเป็นปัญหาลูกโซ่ที่สืบเนื่องมาจากคำขู่ไม่กี่คำในวัยเยาว์ ค่อย ๆ ซึมลึกลงไปยังก้นบึ้ง แตกหน่อออกผลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างเงียบ ๆ กัดกินจิตใจเป็นอาหาร ประหนึ่งมีดคมที่ค่อย ๆ เฉือนเนื้อออกไปทีละนิดอย่างประณีตบรรจงเสียงร่ำไห้ที่เขาได้ยินเหมือนมันเป็นความโศกเศร้าตลอดร่วมสิบปี

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๑๐๐%)

    สองชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นตำรวจคนหนึ่งเป็นอาจารย์พากันมานั่งรอรับยาหน้าโรงพยาบาล เพราะหลังจากเมื่อคืนที่ตากฝนกันไปร่วมชั่วโมงก็พลอยทำให้เชื้อหวัดลงปอดไอกะด้อกะเดี้ย น้ำมูกไหลจมูกแดงไปตาม ๆ กันไกรวิชญ์รู้เรื่องจากปากอาจารย์เจ้าว่าวันนั้นได้ทำอะไรกับน้องชายเขาไปบ้างก็มีน้ำโห กล้าทำกับผิวอันบอบบางแบบนั้นไปได้อย่างไรถึงมันจะเป็นการแสดงเพื่อให้ด้วงเลิกกับตัวเองก็เถอะดันกิเองเมื่อจัดการศัตรูที่เข้ามาและฝังกลบดินไปแล้วก็หันมามองเขม่นใส่นายตำรวจคนที่คุณดลรวีหลงนักหลงหนาแล้วมาใช้เขาเป็นตัวแทนเพื่อตัดใจ“ผมโคตรอยากต่อยคุณเลย”“เอาเข้าจริงผมก็อยากต่อยคุณเหมือนกัน”“…”“…”“สนใจมาแลกกันคนละหมัดไหม?”“ผมก็คิดอยู่แต่แบบนั้นคุณดลรวีน่าจะไม่ชอบ”“ผมก็ว่างั้น”‘ขอเชิญหมายเลข ๒๒๓ รับยาที่ช่องเจ็ดค่ะ’ ดันกิถอนหายใจออกมาพลางลุกขึ้นไปรับยาพร้อมถือกระเป๋าติดตัวไปด้วย เมื่อรับยาเสร็จทีแรกที่คุยกับไกรวิชญ์เขาว่าจะขึ้นไปเยี่ยมคุณดลรวีด้วยกัน แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้วคนที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าตัวได้อย่างเขาไม่มีสิทธิ์ไ

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๕๐%)

    เสียงพื้นรองเท้ากระทบฝนยังคงไม่หายไปแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ไกรวิชญ์ได้รับโทรศัพท์มาจากแม่เลี้ยงแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังคงสวมเครื่องแบบตำรวจวิ่งตามหาไปทั่วอยู่อย่างนั้น รวมไปถึงอาจารย์ชาวญี่ปุ่นด้วยเช่นกันชายสองคนวิ่งกลับมาเจอกัน ณ หน้าจุดนัดพบหน้าบ้านเมื่อแยกกันไปหาคนละทางแต่ยังไม่พบวี่แววของคนน้องแม้สักนิด ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ทั้งนายตำรวจและอาจารย์เป็นห่วงขึ้นไปอีก“ผม...ขอโทษ”ดันกิกล่าวขออภัยด้วยใจรู้สึกผิด หากเขาไม่ทำแบบนั้นบางทีคุณดลรวีคงจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่หากเขาทำหน้าหนาตามมาส่งสักหน่อยเรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้“คำนั้นเอาไว้พูดหลังหาด้วงเจอก็แล้วกัน”ไกรวิชญ์พูดด้วยความร้อนรน พลางมองหาเบาะแสที่เขาอาจพลาดไป เมื่อสักครู่เขาแยกไปดูยังเส้นทางอื่นที่น้องชายสามารถเดินกลับบ้านได้แต่ก็ไม่เจอ จึงคิดจะวกกลับไปดูอีกครั้งยังทางเข้าหลักหน้าหมู่บ้านเป็นครั้งที่สองนายตำรวจก้าวขาเดินออกไปโดยไม่ได้บอกกล่าวอาจารย์ที่อาสาตามหาเจ้าน้องด้วยกัน ทว

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๑๐๐%)

    เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมนักโทษที่หลบหนีได้ทั้งหมด แม้มันจะเหลือเพียงส่วนน้อยแล้วก็ตามแต่อย่างไรเพื่อความปลอดภัยของผู้คนในเขตนั้น ๆ เมื่อได้เบาะแสอะไรมาพวกเขาจึงต้องเอามาร่วมพิจารณา ยิ่งไปกว่านั้นคดีที่ค้างคาอยู่ก็ยังต้องนำมาพูดถึงเป็นลำดับไปสำหรับการวางแผนในอนาคตอีก“ขอบคุณทุกคนมาก กลับบ้านได้”เป็นไกรวิชญ์ที่กล่าวประโยคนั้น แม้เพื่อนร่วมงานสน.นี้จะขยันขันแข็งกันขนาดไหน แต่เขาก็เข้าใจหัวอกบางคนที่มีลูกมีเมียอยู่บ้าน หากเขารั้งไว้คงจะไม่เป็นการดีนัก“ไอ้ไกร วันนี้ไม่ใช่เวรเอ็งไม่ใช่เหรอ?”พูนกลับมาจากโต๊ะประชุมพร้อมเพื่อนในขณะที่เขาเก็บของลงกระเป๋า แต่ไกรมันกลับนั่งลงหยิบสำนวนขึ้นมาเปิดไปมาเสียอย่างนั้น“ขอทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน”“ขี้เกียจบ้างเถอะพ่อคุณ”“ไว้ค่อยทีหลัง”“แบบนี้น้องไม่ห่วงแย่แล้วรึ?”“ด้วงจะมาห่วงอะไรฉัน”“ใช่ว่าเขามีชิ้นแล้วจะเมินเอ็งสักหน่อย”“ช่างฉันเถอะน่ะ”เพราะรำคาญเสียงจ้อกแจ้กของเพื่อนจึงบอกปัดไป ก่อนจะต่างฝ่ายต่างโบกมือลา ไกรวิชญ์จึงได้กลับมาตั้งสมาธิก

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๕๐%)

    “แหม ถือร่มมารับเลยนะครับ”“ก็ฝนตกมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับ”แผนซึ่งมาโบกธงเจอหน้าคนรักของเพื่อนพอดีจึงถือโอกาสสนทนาระหว่างด้วงมันกลับมาจากห้องน้ำ หลังจากวันที่ไอ้ด้วงเป็นลม อาจารย์คนนี้คล้ายจะประคบประหงมเป็นพิเศษเพราะรถไฟพึ่งออกและยังอยากตากลมเย็นจึงนั่งบนเก้าอี้รอไอ้ด้วงเป็นเพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่น เรื่องราวที่เขาเข้าใจกับที่เกิดขึ้นมันย้อนแย้งกันไปคนละทิศละทาง แต่อย่างไรก็โต ๆ กันแล้ว หากเพื่อนเขาตัดสินใจแบบไหนเขาก็ตามนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอกเพียงแต่...เขาในฐานะเพื่อนจริง ๆ ก็คอยจับสังเกตมาตลอด เคยลองเซ้าซี้ทว่ามันกลับเอาแต่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่นู่น ไม่นี่จนเขาเหนื่อยหน่าย ทำได้เพียงมองเมียงกลัวมันจะเป็นอะไรเข้าในสักวัน และก็เป็นไปตามคาดจริง ๆ ไม่รู้มันไปเอาความเครียดมาจากไหนเยอะแยะจนแต่ละวันน้อยครั้งนักที่จะเห็นมันยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ขนาดคนรักเจ้าตัวมาพูดคุยด้วยก็ยังคงทำหน้านิ่งเฉย ต่างจากสมัยยังเป็นเพื่อนผู้โดยสารลิบลับ“ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไรครับ”แผนโบกมือลาเจ้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายของวันเพรา

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๑๐๐%)

    “ขี้เกียจทำงานแล้ว...เฮ้อ”เสียงบ่นอิดออดนั่นออกมาจากปากเพื่อนเพียงคนเดียวของไกรวิชญ์อย่างเจ้าพูนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะทำงาน ไกรวิชญ์ซึ่งชินชากับนิสัยนั้นแล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปหลังไม่ได้แตะปากกากับกระดาษมานานหลักเดือนพันโทหรี่ตามองคุณพ่อตำรวจทำงานไฟลุกด้วยหน้าตาอันเรียบเฉย ถ้าเป็นเขาโดนหักเงินเดือนคงไม่มานั่งตั้งใจทำงานเกินค่าจ้างแบบนี้หรอก ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้งเป็นการพ่นความเครียดที่ไม่มีอยู่จริงออกมา‘เมื่อไหร่จะจับพวกมันให้หมดสักที รู้ไหมพวกฉันกังวลแค่ไหน!?’‘ทำงานให้มันดี ๆ หน่อย!’‘ถ้าจะชักช้ายืดยาดแบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นหรอกตำรวจน่ะ!!’พูนได้ยินเสียงโวยวายของชาวบ้านแว่วมาจากทางด้านนอกก็เอือมระอา ในตอนที่ไกรมันไม่อยู่ก็เป็นเขาที่บากหน้าออกไปรับคำดุด่าว่ากล่าวแทน เอาเข้าจริงใช่ว่าพวกเขาตลอดทั้งเดือนที่พยายามสืบหากันมาก็ทยอยจับมาได้เรื่อย ๆ แต่เพราะนี่เป็นข่าวใหญ่ที่ยังลงสื่อวิทยุและหนังสือพิมพ์ทางการ ไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสนใจและเพ่งเล็งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างพวกเขาขนาดนี้“เมื่อวานก็มา พวกป้

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๕๐%)

    ‘แม่พึ่งถักแล้วซักเสร็จ ลูกเอาไปใส่ด้วยนะ’แม่บอกเขามาเช่นนั้นพร้อมมอบผ้าพันคอไหมพรมสีเทามาให้ ปกติแล้วบ้านเราไม่ค่อยมีของพวกนี้เท่าไรนักเพราะหน้าหนาวประเทศไทยก็ใช่ว่าจะหนาวมากมาย เผลอ ๆ บางวันร้อนเหมือนเตาถ่าน ทว่าวันนี้เพียงตื่นมาก็ต้องขนลุกซู่เพราะลมหวิวที่แทรกเข้ามาตามช่องไม้ เขาจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะรับมันมานายสถานีหลังทานข้าวต้มมื้อเช้าเสร็จก็ผูกผ้าพันคอเดินลงมาสวมรองเท้าคู่ใจออกจากบ้านตามปกติ บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างอึมครึมพิกล ทั้งมือเขายังรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ทุกครั้งที่ขยับ อาจเพราะความเย็นกัดผิวก็เป็นได้ เขาหวังว่าเจ็ดโมงที่สถานีจะมีคนต้มน้ำอุ่นเอาไว้จิบคลายความหนาวเดินไปเรื่อยจู่ ๆ ก็รู้สึกหิวทั้งที่พึ่งกินมา จะว่าไปเมื่อเช้าแทบไม่ได้แตะอะไรไปเท่าไรนัก ข้าวในถ้วยก็น้อยนิดแต่กว่าจะฝืนกินจนหมดก็นานโข กินอะไรไม่ลงแบบนี้ค่อนข้างส่งผลร้ายต่อร่างกายหลายด้านเลยเชียวยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเขาก็ดันฝันถึงเรื่องเดิม ๆ จนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกอีกแล้ว ตอนแรกคิดว่าอาจเพราะชอบนอนคุดคู้เอาหน้าซุกผ้าห่มจนหายใจไม่ออกแต่มันไม่ใช่เลย ที่ฝันร้ายนั่นกลับม

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๖ ยินดี (๑๐๐%)

    “เครื่องแบบไม่มีที่เป็นแขนยาวสำหรับหน้าหนาวเหรอครับ?”“พวกเราใส่แบบเดียวกันตลอดทั้งปี ไม่มีแยกตามฤดูกาลหรอกครับ”“แบบนี้ก็ไม่ดีน่ะสิ”“ฮ่า ๆ ประเทศนี้ถ้าหนาวมาทีก็ถือว่าบุญส่งแล้วครับ ปกติร้อนเกือบทั้งปี”ด้วงรู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไรเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทั้งตอนนี้คุณอุ่นยังเป็นคนเริ่มบทสนทนาอยู่ฝ่ายเดียว เขากลัวอีกฝ่ายจะตั้งแง่สงสัย อย่างน้อยเขาก็ควรเป็นฝ่ายถามกลับไปบ้าง“ถุงหอมที่ให้ไปเป็นยังไงบ้างครับ?”“หอมผ่อนคลายมากเลยครับ ผมห้อยติดกระเป๋าไว้ตลอดเลย”ว่าแล้วอาจารย์แกก็ยกกระเป๋าถือขึ้นมาให้เขาดู บริเวณโลหะข้อต่อหูกระเป๋ามีตาข่ายถุงหอมห้อยอยู่ ด้วงเห็นแล้วก็สะกิดใจ ทั้งที่มันแขวนให้เขาเห็นมาตลอดแต่กลับไม่ได้สังเกตเลย สงสัยต่อจากนี้เขาควรใส่ใจคุณอุ่นให้มากกว่าที่เป็นอยู่เสียแล้ว“ขอบคุณที่เดินมาส่งถึงหน้าบ้านอีกแล้วนะครับ”“ผมก็ขอบคุณที่ให้ผมเดินมาส่งเช่นกันครับ”ก่อนที่อาจารย์เจ้าจะไป ด้วงก็บังเอิญสังเกตไปยังสีท้องฟ้าวันนี้ แล้วจึงหันมาแอบมองนาฬิกาข้อมือของอาจารย์ ไหน ๆ

DMCA.com Protection Status