ตอนพิเศษ...พี่ตะวันกับน้องกระต่าย กำหนดการงานแต่งของลูกสาวเจ้าของไร่มีขึ้นสองเดือนข้างหน้า หล่อนตื่นเต้นยกใหญ่เตรียมงานแต่เนิ่นโดยมีมารดาคอยให้คำแนะนำ ต่างจากบิดาที่มักพูดว่าถ้ามันยากมากก็ไม่ต้องแต่งหรอกลูก พ่อไม่ได้อับอายสักนิดถ้าจะยกเลิก ทำเอาทั้งลูกทั้งแม่ต้องเล่นงานคนเป็นพ่อจนแทบไม่สามารถเข้าบ้านได้ ภูตะวันออกมาทำงานแต่เช้า เห็นว่าวันนี้มีกองละครมาถ่ายทำที่ไร่ ระยะเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ จึงได้จองทั้งไร่รุ่งอรุณและรีสอร์ทของไร่ที่สร้างมาสิบกว่าปี เป็นบ้านหลังเล็กอยู่ได้ประมาณสี่ถึงห้าคน ยาวเรียงกันกว่าสิบหลังทำให้เพียงพอต่อความต้องการ ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อม่อฮ่อมและกางเกงขาดเข่า หมวกสานปีกกว้างป้องกันใบหน้าคมจากแดดทำเอาคนมองแทบไม่รู้ว่าเป็นลูกชายเจ้าของไร่ที่จะมารับกิจการต่อจากบิดา การต้อนรับคนจากข้างนอกไม่ใช่งานของตนเองอยู่แล้วจึงไม่ได้ใส่ใจคนที่มาจากกองละครมากนัก ช่วงนี้ส้มกำลังออกผลเต็มต้นต้องเร่งตัดส่ง ส่วนมากจะวางขายในห้างสรรพสินค้าและส่งออกต่างประเทศ มีขายหน้าไร่บ้างและก็นำไปแปรรูป จะไม่มีผลไม้ตกค้างในสวนให้เน่าทิ้งหรือเสียเปล่า
บทนำบรรยากาศภายในห้องนอนที่เคยเป็นดั่งที่พักของคู่สามีภรรยา บัดนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้นอีกต่อไป บนเตียงกว้างที่เคยนอนกอดกัน หมอนที่เคยหนุน ผ้าห่มสีขาวที่เคยคลุมตัวยามหลับนอนดูไร้ค่าทันทีดวงตากลมโตมีน้ำใสคลอก่อนจะไหลลงมาช้าๆ แม้จะพยายามอดกลั้นไว้ก็ตาม ความเสียใจครั้งนี้มันยิ่งกว่ามีมีดมาแทงนับร้อยเล่ม มือเล็กกำเข้าหากันแน่น มองตรงไปยังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า ‘สามี’ร่างสูงยืนนิ่งไม่ต่างกัน จากที่เคยเปิดใจให้ผู้หญิงคนนี้ต้องกลับมาทบทวนใหม่ว่าจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ลุ่มๆ ดอนๆ และกำลังจะพังทลายลง บ้านหลังเล็กที่เคยอบอุ่น มีเสียงทะเลาะ เสียงหยอกล้อหรือรอยยิ้มพลันหายไปเหลือเพียงร่องรอยน้ำตา“ฉันต้องการหย่า” หลังจากเงียบมานานร่างบางจึงเอ่ยขึ้นเสียงสั่น หัวใจถูกบีบรัดทุกครั้งเมื่อคิดว่าจะต้องห่างจากผู้ชายคนนี้ ทั้งที่เคยเกลียด ทว่าเวลาผ่านไปเขากลับเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอทั้งดวงและตอนนี้เขาก็ทำลายมันลงด้วยมือคู่นั้น“นัดวันมาได้เลย ฉันพร้อมเสมอ”ภาพอดีตผุดขึ้นมาตอกย้ำให้หวนนึกถึงเรื่องราววันเก่า ครั้งแรกที่เจอกัน เหตุการณ์กดดันที่ต้องเผชิญร่วมกัน วันที่เขาทำหน้าบึ้งตึง
๑คนนี้แหละใช่เลยแสงแดดจากภายนอกส่องเข้ามาถึงเตียงกว้างที่มีหญิงสาวร่างบางยังคงนอนหลับอยู่ในห้วงนิทราอย่างมีความสุข เธอฝันว่ากำลังเดินเล่นท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว มีแกะอยู่รายรอบ เดินเข้ามาดมกลิ่นแล้วก็เลียมือราวกับว่ามันคือของกิน จนอดจั๊กจี้ไม่ได้ ใบหน้าหวานแย้มยิ้มมีความสุขหลังจากนั้นก็มีแกะนอกคอกตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาเธอ หมายจะเอาชีวิตเสียให้ได้ดวงตาของมันจ้องมาที่ร่างบางเขม็งจนรู้สึกชาวาบไปทั่วร่าง หุ่นของมันจากตัวเล็กค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งกลายเป็นคนที่หน้าตาชั่วร้ายราวโจรห้าร้อย หล่อนก้าวขาถอยหลัง ส่ายหน้าไปมาภายในใจก็ภาวนาให้คุณพระ คุณเจ้าได้โปรดช่วยลูกด้วยทว่าดูเหมือนสิ่งที่ขอจะไม่เป็นผลเพราะมันวิ่งเข้าหาเธออีกทั้งในมือมีแสงเงาวับจากมีดซึ่งง้างขึ้นเหนือหัวหมายจะแทงมาที่หน้าอกข้างซ้าย วินาทีนั้นคิดแล้วว่าอย่างไรก็ไม่รอดเป็นแน่ เธอหันหน้าหนี หลับตาแน่นสนิทโดยมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความกลัวแต่แล้วกลับมีอ้อมกอดหนึ่งคว้าเธอเข้าที่เอวให้ลอยขึ้นไปบนหลังม้าด้วยกัน..เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเป็นใคร“ย๊า ย๊า”แรงกระตุกที่บังเหียนทั้งเสียงที่เปล่งออกจากปากทำเอาร่างกายของหล่อนอ่อนร
๒หมายหัวไร่รุ่งอรุณ & ฟาร์มสายรุ้งมีเนื้อที่ทั้งหมด 2000 ไร่โดยแยกเป็นสวนองุ่น สวนส้ม สวนสตรอว์เบอร์รี่ สวนลิ้นจี่และพื้นที่สำหรับปลูกข้าว โดยแยกสัดส่วนตามความเหมาะสม ผลไม้ขึ้นชื่อของไร่จะผลัดเปลี่ยนตามฤดูกาล หากช่วงหน้าหนาวคนก็จะชอบมาเที่ยวที่ไร่เก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆ จากสวน ช่วงที่ส้มออกผลก็เปิดให้นั่งรถรางชมสวน หรือองุ่นออกผลเต็มต้นนักท่องเที่ยวก็สามารถเข้ามาตัดได้ถึงต้นและไร่พืชผักที่ปลูกก็เอาไปขายตลาดหรือไม่ก็ทำการวิจัยเพื่อเพาะพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นผักที่ปลอดสารพิษแต่ขายในราคาถูกกว่าท้องตลาดฟาร์มสายรุ้งจะเน้นที่สัตว์เนื้อส่งออก กลุ่มสัตว์เนื้อที่เลี้ยงก็มีวัวและหมู ทำกำไรให้ฟาร์มได้มากพอๆกับสวนผลไม้ เมื่อไม่นานมานี้ทางฟาร์มก็ได้นำม้ามาเลี้ยง มีทั้งม้าสำหรับขี่ชมสวนหรือคนที่ต้องการหัดขี่ม้าและม้าสำหรับแข่งใช้งบประมาณไปหลายล้านบาทเพื่อซื้อตัวเจ้าแห่งความเร็วจากต่างประเทศรถมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่แล่นไปตามทางดินลูกรังซึ่งมีต้นสักทอดยาวให้ร่มเงาตลอดเส้นทางไปหน้าไร่ ร่างบางที่ซ้อนหลังพยายามจับตะกร้าไม่ให้ตกแล้วยังต้องจับหมวกตนเองไม่ให้ปลิวตกรถแล้วในใจก็ก่นด่าคนขับต
๓โรงเก็บหญ้ากับคนเมาพณณกรจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ริมถนนแล้วเดินมายังลานกลางสนามหญ้าด้วยใบหน้านิ่งขรึมและดวงตาวาวโรจน์ราวมีเปลวเพลิงอยู่ในนั้นผู้หญิงที่ยังสาวและไร้คู่ต่างเมียงมองมาที่หนุ่มสัตวแพทย์อย่างเอียงอาย ไม่กล้าเข้าไปทักกลัวเจอฤทธิ์พ่อเจ้าประคุณเข้าให้“อ้าวนาย ทำไมคราวนี้มาเร็วครับผม” ลูกน้องคนสนิทอย่าง‘โอ้’ เอ่ยถามด้วยแววตากรุ่มกริ่มในขณะที่เพื่อนสนิทอีกคนก็เสริมทัพทันที“ปกติถ้าตะวันไม่ตกดินมีเหรอที่นายจะปรากฏตัว หรือว่า..มาหาใครครับ” กล่าวพลางมองไปโดยรอบหวังให้คนเป็นเจ้านายโดยตรงออกอาการเขินบ้างแต่ดูเหมือนว่า ‘อาร์ต’ จะต้องผิดหวังเพราะนอกจากจะไม่อายแล้วกลับมีความคุกรุ่นอยู่ในแววตานั้นแทน“มาเอาตีนประเคนหน้าพวกมึงนี่ไง”สองหนุ่มดูโอ้หลบแทบไม่ทันเมื่อเท้าของนายพุ่งเข้าหาพร้อมใบหน้าบูดบึ้งมองปราดเดียวก็รู้ว่าอารมณ์เสียร่างสูงหายใจฮึดฮัดมองทุกสิ่งขวางหูขวางตาไปเสียหมด ไม่รู้ทำไมถึงได้ติดใจกับผู้หญิงคนนั้นนักหนาทั้งที่จริงหากเขาต้องการใครสักคนก็แค่ชายตามองคนเหล่านั้นก็แทบจะวิ่งเข้ามาหาโดยไม่ต้องเอ่ยปากด้วยซ้ำ แล้วทำไมบุลลาถึงเอาแต่วิ่งหนีหึ..ถ้ารู้ตัวจริงว่าเขาก็มีเงินไม่ต่างจาก
๔คนซาเบิ่ดบ้าน (ตกเป็นประเด็นคนทั้งหมู่บ้าน)เวลาผ่านไปหลายนาทีร่างบางก็ยังคงนั่งกำชายกระโปรงแน่นโดยที่มืออีกข้างถือชั้นในชิ้นน้อยเอาไว้กัดริมฝีปากจนห้อเลือดเพราะแค้นใจที่ถูกล้วงล้ำเข้ามาภายในกายแม้จะไม่ได้ตกเป็นของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยคนที่แสนเกลียดขี้หน้าก็ได้เห็นเรือนกายขาวผ่องจนหมดทว่านั่นยังไม่น่าแค้นใจเท่าหัวใจเจ้ากรรมดันคล้อยตามการกระทำนั้นอย่างน่าอับอาย อยากจะแทรกแผ่นดินหนีเหลือเกิน ช่างไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ทำตัวราวคนใจง่าย ใครจับจูงไปไหนก็ตามได้ง่ายดวงตากลมโตมีหยาดน้ำใสไหลลงมาก่อนจะรีบเช็ดออกไม่อยากถูกเยาะเย้ย“เลิกร้องไห้แล้วช่วยใส่เสื้อผ้าให้มันมิดชิดสักที เห็นแล้วทุเรศตา” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นขณะที่เอนกายพิงก้อนหญ้าอัด ปรายตามองคนที่เอาแต่นั่งหันหลังให้“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” อยากหันไปตะคอกเขาแต่ก็กลัวว่าตนเองจะต้องพบเหตุการณ์น่าอับอายอีกครั้งทำได้เพียงพึมพำในลำคอ แฝงกายอยู่ข้างหลังหญ้าฟางบรรจงใส่บราพร้อมสวมจีสตริงอย่างรวดเร็ว ไม่อาจรู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเกิดอาการบ้าจับเธอปล้ำตอนไหนมันไม่เหมือนที่คิดเอาไว้สักนิด ไม่ใกล้เคียงเลย.. ผู้ชายที่ควรอยู่ที่นี่คือชลธีสิ เจ้าของ
๕คืนเข้าหอบานเย็นมีสีหน้าสดชื่นเมื่อมาทำงาน สร้างความสงสัยแก่คนอื่นทว่าแม้จะเพียรถามถึงสาเหตุก็ไม่ได้รับคำตอบต่างจากพณณกรซึ่งมีสีหน้าซึมกะทือแทบไม่เป็นอันทำงาน จนลูกน้องต้องมองกันด้วยความสงสัย..ขนาดเรื่องที่เขาเล่ากันปากต่อปากยังไม่สะเทือนนาย แล้วมันมีเรื่องอะไรถึงทำให้คนไม่สนโลกต้องมาทำหน้าเบื่อหน่ายด้วยพลบค่ำร่างสูงก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปยังบ้านเจ้าของไร่ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสวนส้มเท่าไหร่ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้เบื้องหลังมีขุนเขาเป็นฉากประกอบ ตัวบ้านเป็นไม้สองชั้นเคลือบแว็กซ์เงางามราวบ้านในฝันที่มีอยู่จริง เดินเข้ามาภายในก็พบโถงกว้างซึ่งมีโต๊ะสำหรับวางแจกันตั้งไว้อย่างสวยงามทั้งยังปักดอกไม้ซึ่งส่งกลิ่นหอมทั่วบ้านทางด้านขวาเป็นห้องรับแขกและผู้มาเยือนก็เลือกจะเข้าไปรอที่ห้องนั้น พอดีกับมีคนเดินเข้ามาทักทาย“อ้าวคุณเอิร์ธ มารับประทานอาหารเย็นกับคุณธีหรือคะ” ป้าจิตแม่บ้านร่างท้วมท่าทางใจดีมีใบหน้ายิ้มแย้มเป็นนิจ ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับตระกูลของเพื่อนสนิทมานับยี่สิบปีก่อนจะย้ายมาอาศัยที่นี่เพื่อคอยรับใช้ชลธีอย่างใกล้ชิดรู้ดีถึงสถานะอันแท้จริงของพณณกรแต่ไม่ได้ปริปากบอกใคร“ครับ
๖ปรับตัวความเงียบของห้องทำให้ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ อาการตกใจกลัวแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อมีอาวุธลับของชายหนุ่มดันที่หน้าขา ใบหน้าหวานแดงซ่านทั้งยังเม้มปากแน่น เธอควรจะผละหนีแล้วระดมทุบตีร่างสูงแต่ก็ไม่อาจทำได้เนื่องจากโดนรัดแน่นจากตัวต้นเหตุ..หน้าสิ่วหน้าขวานยังมาคิดลามกอีก“อะ ไอ้บ้ากาม” เสียงเล็กเอ่ยติดขัดแล้วดันแผ่นอกหนาเพื่อเอาตัวออกห่างทว่าสายไปเสียแล้วในเมื่อเสือตื่นมีหรือจะปล่อยให้เหยื่อรอดพ้นไป ได้ง่าย“เธอเป็นฝ่ายกระโดดมาหาฉันเองนะ” กลิ่นสบู่ของหญิงสาวโชยเข้าจมูกอีกครั้ง ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่ไวต่อกลิ่น หากวันนี้ต่างออกไป..ไม่รู้ว่าบุลลาใช้สบู่หรือยาสระผมยี่ห้ออะไรถึงได้ทำให้เป็นบ้าได้ขนาดนี้“ก็ฉันกลัว ใครจะไปรู้ว่านายจะ จะเป็นแบบนี้เล่า!” สัมผัสได้ถึงการขยาย ตัวใหญ่ขึ้นของส่วนนั้นจึงใช้ความพยายามดันตนเองออกโดยไม่รู้เลยว่า ยิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของบุรุษเพศเพิ่มขึ้นและตอนนั้นเองที่เขาไม่สามารถกักเก็บความต้องการที่มีต่อหล่อนเอาไว้ได้“เรามาทำคืนเข้าหอให้สมบูรณ์แบบกันเถอะ” ร่างหนาพลิกกายขึ้นทาบทับคนตัวเล็กอย่างรวดเร็วพร้อมถอดเสื้อกล้ามออกแล้วเหวี่ยงไปตกพื้นห้องก่อนจะโน