แต่...
“เดี๋ยวสิ...สนใจนั่งเป็นเพื่อนฉันไหม? ฉันจ่ายไม่อั้น!!” ไม่รู้เพราะอะไร เขาควรรังเกียจหล่อน แต่ปากเจ้ากรรมกลับรั้งไว้
ปูชิดาชะงัก เธอยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อช้อนสายตามองหน้าลูกค้าหนุ่ม หลังจากได้ยินคำพูดของเขา
ครั้งแรกเธอฉุนกึก!! เพราะคำพูดเหยียดหยามของอีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นหน้ากันจังๆ หญิงสาวกลับหวาดกลัวจนขนลุกชัน!!
คนที่เธออยากหนี...คนที่เธอไม่อยากเจอ เวลานี้เขานั่งอยู่ตรงหน้า และสายตาของเขาทำให้เธอเกือบน้ำตาร่วง!!
ไม่มีรอยพิศวาสเหมือนเก่า ไม่มีความอบอุ่นเหมือนเช่นเคย ในดวงตาคู่นั้นมีแต่รอยเหยียดหยาม...หญิงสาวตกตะลึงพรึงเพลิด!! เธอตัดพ้อออสตินในใจ เธอทำอะไรให้เขาล่ะ ทำไมถึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น เธอต่างหากเป็นฝ่ายถูกกระทำ เขาไม่รู้หรอก...เธอผ่านความลำบากอะไรมาบ้าง กว่าจะถึงวันนี้ได้...เธอผจญกับความเจ็บช้ำมาแค่ไหน? หญิงสาวกลืนน้ำตาเก็บไว้ในอก เธอเชิดหน้าขึ้น เค้นเสียงตอบแผ่วๆ...
“เดี๋ยวดิฉันตามคนอื่นให้นะคะ ดิฉันไม่ได้มีหน้าที่นั้น”
ชายหนุ่มแค่นยิ้ม “อย่าเล่นตัวเลยน่า ดูจากสภาพแล้วเธอน่าจะกำลังกรอบ!!”...เขาเอ่ยเสียงเข้ม ออสตินไม่ต้องการคำปฏิเสธ เขาต้องการหล่อนเวลานี้ และหากไม่ได้...งานนี้พัง!!
ปูชิดากัดกระพุ้งแก้มแรงๆ เธอรู้สึกถึงรสฝาดของลิ่มเลือด แต่ยังไม่เจ็บปวดเท่า คำพูดดูแคลนของคนคุ้นเคย...
เขาจำเธอไม่ได้...เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเธอ
“ฉันขายแค่แรงงานค่ะ คุณอาจจะกำลังเข้าใจผิด” เธอตอบเสียงเคร่ง เสก้มหน้าหลบ เมื่อเห็นว่าเขากำลังจ้องอย่างจริงจัง หากเขาจำได้ เธอคงไม่แคล้วถูกเขาดูแคลนซ้ำ
“หึ!! เหรอ...เงินใครบ้างไม่อยากได้ ฉันอาจจะให้มากกว่าผู้ชายทุกคนที่เคยให้เธอ” ทั้งที่ตัวเองเป็นคนพูด แต่ทำไมออสตินรู้สึกแปลบๆ เขาโกรธใคร? โกรธตัวเอง หรือโกรธคนตรงหน้า...หล่อนดูน่าเวทนา แต่เขาไม่ควรสงสาร หล่อนต้องรู้สึกเจ็บเหมือนที่เขาเคยรู้สึก หล่อนทิ้งความหวังดีของเขา เลือกกระโจนใส่ผู้ชายคนอื่น!!
“ขอบคุณค่ะ แต่ดิฉันไม่ต้องการ” ปูชิดาเชิดหน้าขึ้น เธอต้องรีบไปก่อนที่ความจะแตก ก่อนที่เขาจะจำเธอได้...
“ถ้าเธอขยับ ฉันจะให้ผู้จัดการไล่เธอออก!!”
ชายหนุ่มตวาดเสียงกร้าว ดูเหมือนว่าหล่อนจะไม่สนใจข้อเสนอของเขาเลย
ออสตินแสร้งขู่ หากหล่อนอับจนจริงๆ หล่อนต้องโผเข้ามาหาเขาสิ...
หญิงสาวตัวร้อนวาบ!! เธอกำลังทำให้เพื่อนเดือดร้อน แต่จะให้ยอมเดินเข้าไปหาเขา มันก็ไม่ใช่วิถีของเธอเช่นกัน
เธอควรทำอย่างไรดี? เธอจะจัดการกับปัญหาตรงหน้าแบบไหนถึงจะดีที่สุด...
“มีปัญหาอะไรไหมครับ ให้ผมช่วยดีไหมเอ่ย”
เก่งแทรกเข้ามาทันเวลา ปูชิดาเลยรีบเดินหนี เธอไม่สนใจเสียงโวยของคนๆ นั้น พยามเดินหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเธอกับเขาไม่สมควรเจอกันเลย เธอกลัวเขารู้ความลับที่เธอซ่อนไว้...
สายตาดุดันมองตามแผ่นหลังบอบบางของปูชิดาจนหล่อนหายลับไปจากสายตา เขาตวัดสายตากลับมา และเค้นเสียงคลั่งแค้นจากภายในออกมาจนได้
“ฉันต้องการผู้หญิงคนนั้น หากฉันไม่ได้หล่อน ร้านนี้คงไม่จำเป็นต้องมี”
เก่งกลืนน้ำลายเอือกๆ เขาคุ้นหน้าลูกค้าหนุ่มหล่อคนนี้ดี คำขู่ของเขาไม่น่าจะเกินจริง เมื่อเขามีเงินในกระเป๋า ความต้องการของเขามักจะสัมฤทธิ์ผล และหากเป็นเช่นนั้น เก่งคงไม่แคล้วตกงาน...
เหงื่อตกเป็นเช่นนี้เอง เก่งร้อนในอก เขาจะหาวิธีไหนชักจูงให้ปูชิดาเล่นด้วย เมื่อหล่อนไม่ได้ขายร่างกาย หล่อนมาทำงานแทนคนอื่น
“ว่าไง ฉันให้เวลา30 นาที หวังว่าฉันคงไม่ได้ยินคำตอบปฏิเสธ” ออสตินดักทาง เขากำลังเดือดจัด หาก ‘คนๆนั้น’ ปฏิเสธจริง รับรองได้ ผับแห่งนี้จะถูกปิด เขาทุ่มไม่อั้น
“ครับ” สิ่งที่ทำได้เวลานี้ คือการรับคำ เก่งรีบเดินตามปูชิดาไป มีสายตาคลั่งแค้นของออสตินมองตาม
น้ำตาคือเพื่อนสนิทของปูชิดาเสียแล้ว ไม่ว่าเมื่อไร? สิ่งที่เธอทำได้...คือการร้องไห้เงียบๆ จะโทษใครล่ะ ทุกสิ่งเธอทำตัวเอง เริ่มจากความใจง่าย มันทำลายเธอ ตามติดด้วยการถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี แม้แต่ครอบครัวยังไม่ยอมรับ ‘เขา’ เป็นคนก่อ เขาไม่เคยรู้หรอกว่าเธอผ่านความเจ็บช้ำอะไรมาบ้าง เธอพยายามอยู่ในส่วนของเธอ เฝ้ามองเขาห่างๆ แล้วทำไมพระเจ้าใจร้ายนัก ใจร้ายขนาดส่งเขามาคุกคามเธอซ้ำ อยากเห็นเธอตายไปต่อหน้าหรือไร?
มือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ น้ำตาร้อนๆ ไหลปรี่ เป็นความอ่อนแอที่กลั้นเอาไว้ไม่ไหวเสียแล้ว
“ชิดา? พี่...”
เก่งทอดสายตามองไหลกลมกลึงที่สั่นไหว เขารู้ว่าหล่อนกำลังร้องไห้ มีผู้หญิงคนไหนเปรมปรีดิ์ล่ะ หากถูกผู้ชายซื้อด้วยเงิน...
“อย่าพูดอะไรเลยพี่เก่ง...ชิดาเสร็จงานแล้ว และชิดากำลังจะกลับ”
งานในหน้าที่ของเธอเสร็จลงตามเวลา เธอกำลังจะไป และจะไม่มีวันย้อนกลับมาเหยียบที่นี่อีก ที่ไหนมี ‘เขา’ ที่นั่นต้องไม่มีเธอ
“เห้ย!! ไม่ได้นะชิดา พี่ขอล่ะ... กลับไปนั่งคุยกับคุณเขาก่อน ไม่อย่างนั้นพังแน่!!”
เก่งโวยเสียงหลง...หากปูชิดาปฏิเสธ พายุทอร์นาโดคงถล่มที่ทำงานของเขาจนพังยับ
หญิงสาวหมุนตัวควับ ดวงตาของเธอลุกวาบและแข็งกร้าว...เขามีเงิน แต่เงินของเขาเธอไม่อยากได้...
“ไม่ค่ะ งานชิดาจบแล้ว...และชิดากำลังจะไป” เธอยืนกรานคำเดิม
เก่งหน้าซีด เขาไม่เคยหนักใจเท่าครั้งนี้มาก่อน “พี่รู้ชิดาร้อนเงิน งานนี้คงได้ก้อนใหญ่ล่ะ หากชิดายอม” เขาพยายามประนีประนอม...หนทางกำเงินก้อนโตอยู่ตรงหน้า คนหิวเงินอย่างปูชิดาจะปฏิเสธเหรอ หล่อนร้อนเงินเขารู้!!
ปูชิดาสูดลมหายใจแรงๆ หญิงสาวกำมือแน่น ใช่...ที่เธอทำงานเพราะอยากได้สตางค์เยอะๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าที่จะยอมขายศักดิ์ศรี สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นต้องการไม่ใช่แค่การนั่งคุย เธอรู้!! และหากเขาจำเธอได้...เธอจะถูกดูแคลนซ้ำ เศรษฐีอย่างเขาหาผู้หญิงได้ไม่ยาก คงมีใครๆ หลายๆ คนต้องการ...แต่คนๆ นั้นต้องไม่ใช่เธอ
“ไม่ค่ะ ขอตัวนะคะ” หญิงสาวตอบแบบไม่ใส่ใจ เธอฉวยกระเป๋าสะพายและเตรียมตัวกลับ
“ชิดา...ชิดา!!”
เก่งกระโจนตาม...เขาพยายามรั้งหญิงสาวไว้สุดตัว เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง แต่หล่อนไม่ฟังเสียง...ปูชิดาเดินฉับๆ จนสุดที่เขาจะทานไว้ได้
สิ่งที่เก่งควรทำเวลานี้ ไหนๆ ปูชิดาก็ไม่สนข้อเสนอของลูกค้าหนุ่มสุดเอาแต่ใจ เขาต้องเปลี่ยนความคิดของลูกค้าบรรดาศักดิ์ ต้องหาทางจูงใจให้เขาเปลี่ยนความคิด ไม่อย่างนั้นเขาเดือดร้อนแน่
ออสตินกัดฟันกรอดๆ เขาทอดสายตามองข้างกายของบริกร ข้างกายของเขาว่างเปล่า!! ไม่มีเงาของคนที่เขาต้องการอยู่ด้วย หัวคิ้วเขากระตุก ผิวแก้มเขาเต้นยิกๆ มันโกรธจนแทบกระอัก...ผู้หญิงคนเดิม หล่อนกล้าเดินหนีเขา...ซ้ำอีกครั้ง
“อย่า-บอก-นะ ว่าหล่อน-ปฏิเสธ!!” เสียงเย็นเฉียบกดต่ำ เล่นเอาเก่งขนลุกซู่!!
“เอ่อ...” หนุ่มใหญ่เหงื่อตก เขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับเหงื่อ อากาศรอบตัวเหมือนจะลดน้อยลง เพียงแค่สายตาคู่คมจ้องมองมาที่ตัวเอง “คือ-อ่า-คือ”
“พูดมา!!” เพราะอาการกระอึกกระอักของคนตรงหน้า ต่อมความอดทนของออสตินจึงขาดผึ่ง!! เขากระแทกฝ่ามือกับผิวโต๊ะ เผลอหลุดการควบคุมตัวเอง ตะโกนลั่นร้าน ‘ปัง!!’
เสียงเพลงชะงัก ทุกคนในบริเวณที่กำลังสนุก หันมามองชายหนุ่มเป็นตาเดียว แต่เวลานี้องลงออสตินเสียแล้วสิ เขาโกรธจัด!! โกรธแบบที่ไม่สามารถควบคุมตัวเอง เพียงเพราะถูก ‘คนๆ เดิม’ ปฏิเสธ
“หล่อนไม่ได้เป็นพนักงานที่นี่ครับ ผมบังคับ ‘เค้า’ ไม่ได้” เก่งตอบตามจริง เหงื่อแตกพลั่กๆ
“หมายความว่าไง?” ออสตินหรี่เสียงลง แต่มันยังเคร่งเครียดเหมือนเดิม
ดนตรีบรรเลงต่อ คนที่ไม่เกี่ยวข้องหันไปสนุกกับเสียงเพลง เมื่อไม่ได้มีอะไรร้ายแรง...
เป็นภาวะที่น่าอึดอัด...มันบีบอัดเสียจนเก่งอยากจะเป็นลม เขาไม่เข้าใจลูกค้าหนุ่มสักนิด ปูชิดาสวยก็จริง...แต่เทียบกับสาวๆ คนอื่นที่เดินกรุยกรายอยู่ในบริเวณนี้ หล่อนจืดชืดจะตาย แถมหล่อนยังผ่านการมีลูกมาแล้ว น่าสนใจตรงไหน?
“ชิดาไม่ได้ทำงานประจำที่นี่หรอกครับ หล่อนมาเฉพาะกิจ มีสาวๆ คนอื่นน่าสนใจกว่าหล่อนอีกเยอะ หากคุณสน... ผมจะคิดราคาพิเศษให้” เก่งรีบตะล่อม...ผู้หญิงคนเดียวที่ไม่ได้สวยเลิศเลอ หากเขาหาคนอื่นมาทดแทนได้ ลูกค้าน่าจะพอใจมากกว่า
ออสตินสูดลมหายใจลึกๆ เขาถูกหล่อนฉีกหน้า และเขาไม่มีทางยอม...เรื่องนี้ต้องไม่จบแค่นี้
“หล่อนกลับไปแล้วรึ?” เขาสะกดความโกรธลง งานนี้ไม่ได้จบตรงเขาแพ้...
“ครับ...” เก่งรีบตอบ หนุ่มใหญ่ยิ้มประจบพร้อมกับโบกมือเรียกสาวๆ คนอื่น
“หาที่อยู่หล่อนให้ผม...ที่เหลือผมจะจัดการเอง”
บรั่นดีแก้วใหญ่ออสตินยกจ่อปากแล้วก็กระดกกลืนหน้าตาเฉย เขาคลี่ยิ้มดุๆ งานนี้เขากัดไม่ปล่อย เขาจะทำทุกทางให้หล่อนมาสยบตรงหน้า ให้ปูชิดาคลานเข้ามาหมอบแทบเท้า เขาเลยทีเดียว...
บทที่4.ผู้ชายอย่างเขามันปีศาจชัดๆ “ซวยชิปหาย!! มันอยากได้อะไรว่ะ ผู้หญิงมีลูก มีผัวแล้ว สวยๆ ดันไม่ชอบ!!” เก่งบ่นอุบ เขาเดินหาที่เหมาะๆ เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวของปูชิดาจากรำเพย เมื่อลูกค้าต้องการรู้และไอ้หมอนั่นคงเปย์ไม่อั้นเพราะกระเป๋าออสตินตุงพอตัว “รำเพย...พี่มีเรื่องอยากถาม?...” หนุ่มใหญ่รีบกรอกเสียงถาม หลังปลายสายกดรับ “มีอะไรเหรอพี่เก่ง หนูกำลังยุ๊งยุ่ง!!” หญิงสาวบ่นอุบ หล่อนกำลังวุ่นวายกับเรื่องสามี เธอจึงตอบเสียงเคร่งๆ เกือบจะกดวางสาย หากฝ่ายนั้นไม่รีบกรอกเสียงตอบกลับมา“อย่าเพิ่งวางนะโว้ย!! อีเพย...นี่เรื่องคอขาด หากแกตัดสายพี่ พรุ่งนี้แกเตรียมตัวตกงาน”เก่งไม่ได้ขู่ ไอ้หนุ่มนั่นดูจริงจัง เขาเชื่อว่าหมอนั่นทำได้ หากไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้อง
ในขณะที่ปูชิดาพยายามจะลืม อีกคนกลับไม่คิดเช่นนั้น ออสตินนั่งบนเก้าอี้นวมเนื้อนุ่ม ในมือของเขามีบรั่นดีรสเลิศ ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วที่ขอบแก้วไปมา เขากำลังใช้ความคิด ความคิดในการวางแผนจัดการใครบางคน...เทรย์เวอร์คอปเรชั่น... ห้องทำงานของรองประธาน...ออสตินนั่งหน้านิ้วอยู่หัวโต๊ะ เบื้องหน้าของเขาคือนักวางแผนมือดี เขากำลังคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ และโครงงานอันนี้เขาลงมือทำด้วยตัวเอง เป็นการร่างแบบสร้างอาคารพาณิชย์บนเนื้อที่กว้างพอสมควร มีเสียงแย้งจากคนรอบข้าง เมื่อเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยของคนหาเช้ากินค่ำ มันจะเกิดความยุ่งยากและอาจจะใช้เวลานานกว่าเก่า ในการเคลียร์กับคนเก่าๆ ที่พักอาศัยอยู่ แล้วก็มีหลายเสียงเช่นกันที่เห็นด้วย...เพราะการเดินทางสะดวก อาคารที่สร้างจะถูกซื้อ-ขายได้ไม่อยาก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากสามารถเจรจาตกลงกับคนเก่าๆ ได้ &ldqu
“แม่จ๋าทำงานเพลินไปนิดจ้ะ กำลังจะนอนเดี๋ยวนี้แหละ” เธอเดินมาหยุดข้างเตียง ทิ้งตัวลงนั่ง พร้อมกับยกมือลูบไปบนศีรษะเล็กๆ ของบุตรสาว “มาค่ะ มานอนกอดกัน” เจ้าตัวเล็กยิ้มแป้น แม้จะอยู่ในอาการง่วงงุน แต่เมื่อมีมารดาอยู่ใกล้ๆ อัปสราก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม สองแม่ลูกนอนกอดกันกลมหลับสนิทบนเตียงขนาดเล็ก ในขณะที่ออสตินนอนกระสับกระส่ายบนเตียงขนาดใหญ่ เตียงนอนกว้างแต่คนนอนกลับรู้สึกไม่ใคร่สบาย ที่นอนราคาแพงกลับไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย มันแข็งกระด้างจนไม่อาจนอนทอดกายได้ เขาผุดลุกขึ้นนั่ง สบถงึมงำ!! “เป็นอะไรว่ะ!!” ชายหนุ่มหงุดหงิด เขาไม่รู้สาเหตุความวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น รู้แค่ว่ามันรุ่มร้อนไปทั้งกาย และใจ&n
แต่...นี่ไม่ใช่เวลามานั่งคร่ำครวญ หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาลวกๆ มีคนจับตัวบุตรสาวของเธอไป และผู้ต้องสงสัยคงไม่พ้น....ออสติน ผู้ชายที่ร้ายกาจคนนั้น!! “คนเลว...” เธอสบถครั้งแรก ดวงตาแข็งกร้าวเพราะจำต้องฮึดสู้... เขากับเธอคงได้แตกหัก แต่เธอจะไม่มีวันปริปากบอกเขาเป็นเด็ดขาด...ความลับจะยังคงเป็นความลับต่อไป!!ห้องทำงานของรองประธาน... ออสตินยกมือกุมขมับ เขาปวดหัวกับเสียงร้องวี้ดๆ ของยัยเด็กตัวกลมนี่เหลือเกิน ไม่ว่าจะดุ จะขู่ เด็กปีศาจนั่นก็ไม่ยอมหยุดร้อง ปากแดงๆ นั่นแผดเสียงลั่น ดวงตาคู่นั้นฉ่ำน้ำตาและไหลปริ่มเหมือนก๊อกแตก เขาปวดหัว...บอกเลย “ใคร-ก็-ได้ ทำให้เด็กปีศาจนั่นหยุดร้องสักที” ชายหนุ่มตะโกนลั่น!! เขายกมือขึ้นปิดหู หูเขากำลัง
“ไม่ตลกค่ะคุ๊ณ!! เชิญไปเล่นปาหี่ที่อื่น คุณเป็นใคร? สำคัญแค่ไหนคะ จู่ๆ มาขอพบท่าน เห็นฉันว่างงานเหรอ ฉันไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกค่ะ” เจ้าหล่อนตวัดตามอง ก่อนจะตอบเสียงขุ่น ปรายตามองปูชิดาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แบบหมิ่นๆ ปัง!! ปูชิดาตบมือลงบนผิวเค้าน์เตอร์ เธอตวาดเสียงสั่น โกรธจัดจนตัวสั่นเทิ้ม “ฉันก็ไม่ตลกค่ะ และหากคุณกับทุกคนยังเฉยอยู่ ฉันจะแจ้งความ เจ้านายพวกคุณจับตัวลูกสาวของฉันมา จะให้ฉันนิ่งนอนใจเหรอไงคะ?” “ดูละครมากไปเหรอย่ะ ถึงได้มายืนละเมออยู่ตรงนี้ แม่คุ๊ณ!! มุขตื้นๆ แบบนี้เขาใช้กันให้เกร่อ แน่จริงแจ้งความเลยสิคะ อย่างคุณออสตินนะเหรอจะไปจับตัวลูกของเธอมา...เพื่อ!!” หลังจากหายตกใจ พนักงานสาวนางนั้นตวาดเสียงเกรี้ยวใส่!! ผู้หญิงตรงหน้ามอซอ สุดโทรม ชุดพนักงานที่หล่อนสวนนั่นเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ แล้วหล่อนมายืนปาวๆ อะไรอยู่ตรงนี้ แถมเรื่องที่หล่อนกุขึ้นมา มันเกินกว่าที่จะเชื่อลง!!&n
“เธอจะไปยังไงล่ะ เหาะไปเหรอ ฮ่าๆ” ชายหนุ่มพูดไปหัวเราะไป เขามีความสุข เมื่อเห็นความทุกข์ร้อนเกิดขึ้นบนใบหน้าของหล่อน สะใจว่ะ!! ‘โรคจิต!!’ หญิงสาวเม้มปากแอบค่อนว่าออสตินในใจ เขาไม่ใช่ผู้ชายแสนดีคนเดิม ผู้ชายที่เธอเคยรัก ความอบอุ่นที่เคยมีมันจางหายไปหมด ตรงหน้าเธอเวลานี้ คือออสติน แต่เขาไร้หัวใจเสียแล้ว!! ใช่...เธอรู้สึกว่าแขนตัวเองล้าๆ เพราะน้ำหนักเกินพิกัดของบุตรสาว หญิงสาวพยายามเกร็งแขน พยายามอุ้มอัปสราไว้แน่นๆ ต่อให้แขนหักเธอก็จะไม่ปล่อยลูกลงจากอ้อมแขนเด็ดขาด!! ออสตินเลิกปลายคิ้วขึ้นสูง เขาจงใจยียวน จนบรรดาการ์ดรอบตัวของชายหนุ่มพากันแปลกใจ บิ้กบอสไม่เคยเสวนากับคนที่ไม่รู้จัก? ยิ่งคนที่แทบไม่มีอะไรเลยอย่างผู้หญิงคนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ออสตินเจ้านายจะยอมลดตัว...แต่ที่พวกเขาเห็นคืออะไร? เหตุการณ์ตรงหน้านี่ เหมือนสามี-ภรรยาทะเลาะกัน!! เหมือนสามี
บทที่5.สมยอมหรือฝืนใจ กินอิ่ม นอนหลับเป็นคุณสมบัติพิเศษของอัปสรา เจ้าตัวตาปรือ พร้อมจะทิ้งตัวนอนทุกเมื่อ “แม่จ๋า...” เด็กหญิงเริ่มโยเย เมื่อง่วงเกินจะฝืน อัปสรามองหาที่ซุกตัว เจ้าตัวอ้วนปีนขึ้นไปนอนบนโซฟานิ่มๆ พร้อมกับปิดเปลือกตาลงหลับสนิทในเวลาต่อมา... ปูชิดาสูดลมหายใจแรงๆ หล่อนยกมือขึ้นกุมขมับ ทรุดนั่งด้านข้างบุตรสาวด้วยความอ่อนแรง ในสมองมีแต่ความกลัว ผสมกับความสับสน “คุณหนูคะ ‘เค้า’ ใช่ไหม?” นมแผ้วเดินกระย่องกระแย่งเข้ามาใกล้ นางกระซิบถามเสียงแผ่วๆ ชำเรืองมองออสตินด้วยสายตาปนความเคลือบแคลง ปูชิดาหน้าแหย...เธอไม่ตอบแต่กลับเสก้มหน้าหลบ เป็นการตอบคำถามในแบบที่นมแผ้วรู้ ปูชิดายอมรับแบบดุษฏี นางตวั
บทที่6.ความลับ ปูชิดาแทบจะไม่มีปากตั้งแต่เธอตอบตกลง ‘เป็นอะไรไม่รู้’ สำหรับเขา หญิงสาวได้แต่กล้ำกลืนน้ำตา ห่วงบุตรสาวสุดหัวใจ เธอจะยอมตกขุมนรก ยอมเป็น ‘ทาส’ ให้ออสตินย่ำยี เพื่อวันหนึ่งเธอจะเป็นอิสระ เพราะหากถึงวันนั้น เธอจะหนีเขาไปให้ไกลสุดขอบโลก ชาตินี้ไม่ต้องพบต้องเจอกันอีกทีเดียว ที่สำคัญ ความลับย่อมเป็นความลับตลอดไป เขาจะไม่มีทางได้รู้!! “บ้านใหม่เธอ...น่าจะพออยู่ได้นะ” บ้านหลังขนาดกะทัดรัด พออยู่ได้3ชีวิต มีเครื่องอำนวยความสะดวกตามอัตภาพ เพราะเป็นคำสั่งเร่งด่วน คนของออสตินจึงหาได้แค่นี้ แต่ก็เป็นที่พอใจของชายหนุ่มพอสมควร “เป็นไงตัวแสบ ดีไหม?” ชายหนุ่มหันไปถามคนร่วมทาง อัปสราลืมต
“ขอบคุณค่ะ” ปูชิดาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของหล่อนมีความยินดีเต็มเปี่ยม “แต่มีข้อแม้นะ...เธอต้องทำให้ฉันมีความสุข...ทุกคืน” ชายหนุ่มพูด เสียงเขาผสมความเหยียดหยาม ปูชิดารับรู้ เธอเจ็บแทบกระอัก แต่ทำได้แค่ฝืนยิ้ม “ต่อไป ฉันจะนอนเฉยๆ รอให้เธอทำทุกอย่างกับฉัน อยากแสดงฝีมือที่เธอฝึกกับ ‘ผัว’ จนเชี่ยว เวลานี้เธอมีโอกาสแล้วนะ...ชิดา” เขาว่ากระทบหญิงสาว แต่ทำไมกลับรู้สึกเจ็บเสียเอง เพียงแค่คิดว่าหล่อน...ครั้งหนึ่งเคยนอนครางใต้ร่างผู้ชายคนอื่น เขารังเกียจหล่อน เขาควรขยะแขยงหล่อน แต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยมือล่ะ เขารั้งคนที่ตัวเองเกลียดไว้ทำไม ‘หึ’ ปูชิดาเสก้มหน้าหลบ เธอกระทดตัวลงจากเตียง แต่ก็ต้องชะงักกึก!! 
บทที่13.รักปนแค้น!!“คุณ!” ดวงตื่นๆ เหลียวมามองเมื่อจู่ๆ ก็ถูกกระชากจนตัวปลิว“เธอคิดเหรอว่าจะหนีจากฉันพ้น!! ไม่รู้เป็นไงสิพอเผลอหน่อย หายทุกที” ออสตินตวาดลั่น จนปูชิดาคอหดด้วยความกลัว“ปล่อยชิดาสิคะ ปล่อยนะชิดาเจ็บ!!” มือแกร่งกำแน่นที่ข้อมือเรียวของเธอ มันเจ็บจี๊ดๆ เหมือนกระดูกของเธอจะแหลกเป็นผุย เมื่อชายหนุ่มลงน้ำหนักมือกดเต็มแรง เขากำลังโมโหจนฟิวส์ขาด“แค่นี้ไม่ตายหรอก แล้วก็ไม่เจ็บเท่าที่ฉันเจ็บด้วย” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เขาอยากตะโกนด่าแต่เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วหวิวออสตินสะบัดมือจนหลุด แรงเหวี่ยงทำให้คนไม่มีเรี่ยวแรง ถลาลงไปนอนกองกับพื้นหญ้า ปูชิดากลืนน้ำตาไว้ในอก เธอเม้มปากแน่น กลั้นเสียงอ้อนวอนของตัวเอง พรางกระทดหนีถอยหลัง เมื่อไม่สามารถต้านทานแรงอันมากมายมหาศาลได้ของชายหนุ่มได้“ฉันยังไม่เอ่ยปาก เธอไม่มีสิทธิ์คลานลงจากเตียง!!” ชายหนุ่มยอมเฉลยความไม่พอใจ เขาโกรธจนแทบกระอักเมื่อลืมตาตื่น แต่คนข้างกายหายจ้อย“ชิดารีบมาดู
บทที่12.มากกว่ารักคือ...ชัง “คุณสนุกไหมคะ กับการบีบคนไม่มีทางสู้” เสียงแหบเครือของนมแผ้วเอ่ยเบาๆ นางจัดการถุงอาหารที่เหลือ เก็บเข้าที่เข้าทาง มือที่กำลังตักโจ๊กใส่ปากชะงัก เขาหลุบเปลือกตาลง ข่มความโกรธไว้ ไม่อยากอาละวาดที่บ้านหลังนี้เพราะหากอัปสราเห็น เขาจะเสียคะแนนนิยม “ไม่รู้อะไร...อย่าเสนอความเห็นดีกว่ายาย” ชายหนุ่มตักโจ๊กกินต่อ หลังจากพูดจบ... “คนที่ไม่รู้อะไรเลยคือคุณต่างหากค่ะ...ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณไม่รู้” นมแผ้วเหยียดยิ้ม รอยจีบมุมปากกดลึกเผยให้เห็นความร่วงโรย ออสตินกรอกตา เขาค่อน
บทที่11.วิหคคืนรัง ความจริงออสตินไม่อยากปล่อยผู้หญิงอวดดีคนนี้กลับบ้านไปเลย แต่เพราะมีใครบางคนรออยู่ ใครคนนั้นก็เป็นคนสำคัญเสียด้วย ออสตินจึงตัดใจพาปูชิดากลับแบบอ้อยอิ่ง... ภายในรถยนต์เงียบกริบ มีแค่เพียงเสียงแอร์คอนนิชั่นที่ทำงานสมราคา มันเบากริบแต่เวลานี้กลับดังจนสารถีคนขับรำคาญ “ไม่คิดจะพูดอะไรเลยเหรอ?” ชายหนุ่มเปรย สายตาของเขามองที่ถนน แต่หัวใจของเขาเฝ้าจับตามองคนข้างตัว ริมฝีปากบวมเจ่อเพราะฤทธิ์จูบ!! เม้มจนเป็นเส้นตรง เธอแทบหมดแรงยืนกับพายุสวาทที่ออสตินสาดใส่ เขาทำเหมือนอดอยากปากแห้งมาจากไหน เขากวนเธอทั้งคืน... ไม่ได้หลับได้นอน ทำซ้ำซากจนหญิงสาวสลบคาอก ผิวกายของเธอทุกตารางนิ้วมีแต่ร่องรอยของเขาฝากไว้เต็มไปหมด ทั้งรอยฟัน รอยข่วน รอยนิ้วมือ นาทีแรกที่มองเห็นตัวเองผ่านกระจกเงา เ
เสียงตอบโต้แทบทำให้ออสตินสติหลุด ปูชิดายังไม่ยอมสยบแม้ตัวหล่อนจะสั่นระริก“ก็ลองดูกัน เธอจะทานฉันได้อีกแค่ไหนกัน?” ชายหนุ่มสวนกลับอย่างหงุดหงิด เขาตวัดอุ้มหล่อนขึ้นพาดบ่า พร้อมกับเดินย่างสามขุมเข้าห้องนอนกว้างเบื้องหน้า“ปล่อยๆ คนอย่างคุณคงไม่ใช้กำลังกับชิดาใช่ไหมค่ะ ปล่อยสิๆ ทำให้ชิดายอมคุณสิคะ หากคุณมั่นใจว่าคุณเก่งจริง” หญิงสาวตะโกนลั่น เธอแผดเสียงดังๆ หนทางรอดของเธอเหลืออีกแค่นิดเดียว หากออสตินรักศักดิ์ศรีเขาจะต้องปล่อยเธอแต่ปูชิดาคิดผิด!! เวลานี้ออสตินหน้ามืดเสียแล้ว เขาโยนศักดิ์ศรีบนบ่าทิ้ง “เธอจะเสียใจที่ลองดีกับคนอย่างฉัน!”ตุ๊บ!! ออสตินเหวี่ยงปูชิดาขึ้นไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงกว้าง หล่อนกระทดตัวหนีพร้อมกับตะโกนสวน “คุณเองก็จะเสียใจเช่นกันที่ทำกับชิดาแบบนี้”“ไม่เลยชิดา ฉันจะหัวเราะให้ก้องกับการลงมือปลุกปล้ำเธอ มีแค่เธอกับฉัน ใครล่ะจะรู้ล่ะว่าฉันใช้วิธีต่ำทราม”ความโกรธและหยิ่งทะนงตน ทำให้ออสตินไม่รอช้าที่จะซ้ำเต
บทที่10.บทลงทัณฑ์ที่แฝงด้วยความรู้สึกบางอย่าง... สันกรามข้างแก้มเป็นรอยนูนเด่น เพราะเจ้าตัวของขึ้น!! มันขึ้นปุบปับแบบที่ออสตินยังตระหนก เขาควรดีใจสิ!! วันที่รอคอยมาถึงจนได้ เขาสามารถบีบต้อนจนปูชิดาจนมุม หล่อนต้องยอมสยบให้ หากชายหนุ่มบอกให้คลานเข่ามากราบกราน ปูชิดาก็คงทำ... “ฉันจะไม่ ‘ฟัน’ เธอที่นี่ อาบน้ำแต่งตัวรอล่ะ ฉันจะส่งคนมารับ” เสียงพูดแหบพร่า ไม่ใช่เพราะความกระสัน เขากำลังโกรธ!! โกรธอะไรไม่รู้ ออสตินไม่กล้าค้นหา ชายหนุ่มเดินเร็วๆ จากไป จากที่อารมณ์ดีๆ เวลานี้เขากำลังเดือดคลั่ก!! “โว้ย!!” เสียงออสตินตะโกนลั่น แม้แต่อัปสรายังโผล่หน้ามาดู เด็กแสบเห็นแค่เพียงแผ่นหลังคุณลุงใจดี หายลับเข้าไปในตอนหลังรถยนต์คันโปรด ก่อนที่ตัวรถยนต์จะทะยานออกไปเหมือนติดปีก
“โหแม่!! พรรณไม่โง่หรอก...ไม่มีวันนั้นแน่” หญิงสาวครางเสียงหลง ผู้หญิงยุคใหม่รักสนุก ต้องสตรองและไม่โง่ การตั้งครรภ์คือหายนะของชีวิต เธอไม่ยอมเสียทรงหรอก หากฝ่ายชายไม่รวยจริง “ก็ดี เกิดเป็นผู้หญิงต้องฉลาด อย่ารักใครมากกว่าตัวเอง ความรักมันกินไม่ได้!!” ฟังแล้วรู้สึกอนาถใจแทน เป็นคำสอนของมารดาที่ค่อนไปทางเห็นแก่ตัว สรุปนางรักเงิน มากกว่าความรักที่พูดถึง เป็นเวรกรรมของทรงธรรมล่ะมั้งที่คว้าก้อนกรวดขึ้นมายกเชิดชู ทิ้งเพชรเลอค่าให้ตรอมใจตาย... พรรณนารายหลุบเปลือกตาลงอีกครั้ง หล่อนฝันหวานถึงออสติน จากความทรงจำในวัยเยาว์ ผู้ชายที่เด่นสุดคงไม่พ้นเขา แต่สายตาคู่นั้น กลับมีไว้ให้แค่ปูชิดาพี่สาว เป็นความแค้นส่วนตัวที่เธอไม่มีวันลืม พอเกิดเรื่องกับพี่สาวต่างมารดา พรรณนารายเลยเลือกที่จะนิ่งเฉย เธอไม่ได้สงสารปูชิดา ออกจะสมเพชด้วยซ้ำ คิดจะรัก ก็ต้องรู้จักป้องกัน ไม่มีใครสอนเธอ พรรณนารายเรียนร
“อย่าบอกนะว่าเพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้นะลูก!!” ท่านติงเสียงเข้ม กวาดตามองบุตรสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพราะสภาพพรรณนารายมันชวนให้คิดเช่นนั้น เสื้อผ้าที่สมอยู่ยับยุ่ง ขอบตาดำคล้ำ ดวงตาปรือเหมือนจะหลับ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง “โธ่!! เกินไปค่ะคุณพ่อ ปาร์ตี้เลิกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่พรรณขับรถไม่ไหว เลยแวะนอนที่คอนโดเพื่อน” สาวสะคราญแก้ตัว พร้อมกับเสหลบตา เมื่อเจ้าหล่อนพูดโกหก ความจริงคือพรรณนารายมั่ว SEX กับคู่ขาหนุ่มจวบจนเช้าก่อนจะโผเผกลับรังนอน เพราะไม่อยากถูกสื่อโจมตีหากกระเซอะกระเซิงออกมาจากโรมแรมตอนเช้าตรู่ “ให้มันเบาๆ หน่อยสิลูก เป็นสาวเป็นแซ่ แบบนี้จะพลอยเสียชื่อ มันไม่งาม” สาววัยละอ่อนแอบเบ้ปาก คำสอนโบราณคร่ำครึ!! หากเธอเชื่อฟังก็จะเป็นสาวทึนทึก!! อดสนุก อดได้รับสิ่งบันเทิงเริงรมย์ “แค่สนุกในกลุ่มน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก นานๆ ครั้ง” หล่อนจึงแก้ตัวแบบขอไปที
หนุ่มใหญ่มองตามภรรยาคู่ทุกข์ไปด้วยความไม่สบายใจ ความรู้สึกละอายใจเกาะกุมใจ เมื่อหันมามองบุตรสาวคนโต เขาทำไม่ถูกต้องนักในอดีต ใจดำแม้กระทั่งลูกในไส้ เพียงเพื่อหน้าตาชื่อเสียง ปล่อยให้บุตรสาวตกระกำลำบาก รู้ทั้งรู้ว่าปูชิดาไม่มีที่พึ่ง เขายังแสร้งใจดำเมินเฉยได้ลงคอ ในวันที่ตัวเองตกที่นั่งลำบาก กลับมีหน้าย้อนกลับมาหาบุตรสาว ครั้นจะอ้าปากพูดโต้งๆ ก็ให้นึกละอายใจ จึงได้แต่กระอึก กระอักเหมือนน้ำท่วมปาก... “คือ...” หญิงชราแอบเบ้ปาก นางเอ่ยปากขอตัว แต่ก็ไม่วายเหน็บอดีตเจ้านายนิดๆ หน่อยๆ “รักตัวเองให้มากๆ นะคุณหนู ไม่มีใครรักเราจริง แม้แต่พ่อ แม่” แล้วนางก็เดินหายลับไปด้านหลังบ้าน เปิดโอกาสให้พ่อ-ลูก ได้คุยกัน หนุ่มใหญ่สะอึก!! ถูกอดีตคนรับใช้ถอนหงอกจนแสบๆ คันๆ แต่จะให้ถอยทัพ ก็ไม่ได้ เมื่อแบกภาระคือหน้าตาทางสังคมไว้เต็มบ่า หากเขาถอย ก็เท่ากับปล่อยให้ตระกูลล้มคลื่น&nb