บทที่22.คุณแม่ขอร้อง
เป็นอีกวันที่ออสตินเริ่มต้นวันทำงานด้วยความสุขเต็มเปี่ยม เดิมทีเขาเบื่อหน่ายหน้าที่ที่แบกรับไว้จนหนักบ่า แต่ทำไงได้เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเทรย์เวอร์ เวลานี้เขามีภาระที่หนักหน่วงให้แบกรับเพิ่มเติม แต่เป็นความเต็มใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่คลี่คลายปัญหาของตัวเองกับปูชิดาได้ เขากับปูชิดากลับมาเหมือนเดิม...เพิ่มเติมคือรักยิ่งกว่าเดิม ไม่มีความคลางแคลงในใจหลงเหลืออยู่ เหลือก็แค่ปัญหาหนักอกเพียงอย่างเดียว นั่นคือมารดา...
หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ในห้องทำงานสีขรึม ออสตินนั่งอยู่ตรงนั้น เขากำลังก้มหน้าอ่านเอกสารสำคัญ ก่อนจะลงนามเซ็นกำกับ หากเขาพอใจ...มันเป็นวันเรียบง่ายอีกหนึ่งวัน ไม่มีงานเร่งด่วนชวนให้ปวดหัว ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงให้ต้องแก้ปัญหา และในมือเขาคือแฟ้มงานของบริษัทไวศยปรานนท์
ผลกำไรเกินคาดของบริษัทนั้นเกินกว่าที่คาดไว้ เขาไม่คิดว่าคุณทรง
“แกใจดำมาก...ออสติน แกเป็นลูกอกตัญญู กล้าทิ้งฉันเพราะผู้หญิงคนเดียว” ชายหนุ่มถอนใจ เขาลุกจากที่นั่ง เดินมาทรุดตัวนั่งด้านหน้ามาดามเยาวเรศ ออสตินคุกเข่า เขาก้มลงกราบแทบปลายเท้านาง ก่อนจะยืดตัวขึ้นนั่ง มองสบนัยน์ตามารดาด้วยความเศร้า “ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยครับ ชิดาท้อง เธอเลี้ยงลูกคนเดียวมา4ปี โดยที่ไม่คิดบอกพวกเรา ผมผิด... ผมอยากชดเชยให้เธอ หากแม่จะบีบให้ผมทิ้งเธออีกครั้ง ผมคงทำไม่ได้ ผมไม่ได้เลือกนะครับ แต่ผมจำเป็นต้องทำ...ถ้ามันผิดต่อแม่ ผมก็จนใจ ผมไม่ได้ทิ้งแม่ ผมไม่ได้เลือกชิดา ผมทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุด” “เหอะ!! ต่อให้แกพูดอย่างสวยหรูยังไง เรื่องมันก็จบตรงที่แกเลือกแม่นั่น” นางถอยหลังสองก้าว มองสบนัยน์ตาบุตรชาย ดวงตาของนางแดงก่ำ เพราะกำลังเสียใจสุดขีด “แม่จะให้ผมทำยังไงครับ นั่นเมีย นี่แม่ ผมเลือกยืนข้างฝ่ายไหน ผมก็เป็นคนผิดอยู่ดี” 
“เอาเป็นว่า...ฉันยอมรับแม่นั่นก็ได้...แต่แกต้องให้สัญญา แกจะต้องมีหลานให้ฉันอีก5 คน” นางพูด หลังเงียบไปหนึ่งอึดใจ รอยยิ้มของมาดามเยาวเรศทำให้ออสตินหัวเราร่า คุณแม่ก็คือคุณแม่วันยังค่ำ หากอยากบีบให้นางก้มหัว หรืออ่อนให้ นางก็ต้องไว้เชิงบ้าง “ตามนั้นเลยครับ อีกแปดเดือนไม่เกินนั้น แม่ได้อุ้มหลานคนที่สองแน่!!” ออสตินคุยโอ่!! เขารวบกอดมารดาแน่นๆ “แม่ไม่ได้เป็นลมใช่ไหมครับเมื่อสักครู่?” ชายหนุ่มกระซิบถามปัญหาคาใจ เขาว่ามันแหม่งๆ พิกล “มันคือการแสดง แม่น่าจะได้ออสก้านะ...ว่าไหม?” นางยิ้ม สอดมือกอดเอวสอบของออสตินไว้ นางไม่ได้กอดบุตรชายนานเท่าไรแล้วนะ “ครับ...เนียนมาก” ชายหนุ่มหัวเราะ “อีกคำถามนะออสติน...นามสกุลนางฟ้า แกจั
บทที่23.มหาเศรษฐีสิ้นลาย... ประตูห้องนอนถูกปิดและล็อกเพื่อกันคนภายนอกเข้ามาภายใน ในเวลาที่ไม่เหมาะสม วันนี้ออสตินอารมณ์ดี เขามีแผนเด็ด แผนเด็ดที่ทำให้เขากระชุ่มกระชวย จนปูชิดาเริ่มระแวง สายตาของสามีฉ่ำวาวจนหล่อนขนลุก “อาบน้ำด้วยกันนะ...ทูนหัว” น่านไง!! เสียงออดๆ ของออสติน เขาเดินย่างสามขุมเข้าหา และเธอก็คงไม่สามารถปฏิเสธความตั้งใจของเขาได้ มันจึงลงเอ่ยในอ่างน้ำกุชชี่ ขนาดใหญ่ในห้องน้ำภายในห้องนอน“โอย...แสบตา” ออสตินแสร้งโวย วันนี้เขาอ้อนเมียสำเร็จ เป็นการอาบน้ำด้วยกันครั้งแรก หลังจากหอบหิ้วกันมาอยู่ใต้ชายคาคฤหาสน์เทรย์เวอร์เกือบ1 อาทิตย์ โดยที่มาดามเยาวเรศอ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ “ขอโทษค่ะ ชิดามือลื่น...”เพราะเธอเขินจัด เลยหลับหูหลับตาถูฟองน้
หญิงสาวซุกหน้ากับแผงอกอุ่น “อ๋อ!! ทุกวันนี้ชิดาขี้เหร่งั้นสิ” เธอตอบเสียงแผ่ว “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น ความหมายของฉัน คืออยากเห็นชิดาดูดีไม่มีที่ติต่างหาก” ออสตินรีบแก้ตัว “เรื่องพิธีมันสมควรมีก็จริงค่ะ เมื่อมันเป็นประเพณีการทางสังคม และเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง...ชิดารักคุณ ชิดาไม่เคยหวังไกล...ทุกครั้งที่ชิดาหลับ ชิดาจะภาวนาก่อนหลับ ขอให้เวลาที่ชิดาลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างจะยังคงเหมือนเดิม” หญิงสาวช้อนนัยน์ตาหวานฉ่ำมองสบตาสามี เธอไม่เคยหวังไกลถึงขนาดนั้น ขอแค่ความเมตตาของเขาบ้าง แค่นั้นก็คือสิ่งที่ปูชิดาปรารถนา ออสตินกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาเปรยเบาๆ “ฉันเป็นคนโง่ ที่แสร้งทำเป็นคนฉลาด อวดตัวว่าข้าเก่ง ข้ามีดีจนใครๆ ก็อยากได้ แต่ไม่เลย...ฉันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่ร่ำร้องหาความรัก ความรักที่เคยเกิดขึ้น
บทที่1.ความทรงจำสีเทา...‘อย่าทิ้งชิดาไป ได้โปรด?!!’ เสียงคร่ำครวญประหนึ่งจะขาดใจ ได้ฟังแล้วชวนให้สงสารเป็นอย่างยิ่ง เด็กสาวร่างเล็กคนหนึ่ง...หล่อนกำลังสะอื้นไห้จนตัวสั่นระริก เธอคร่ำครวญเหมือนกำลังขาดใจตายในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ใบหน้าฉ่ำน้ำตาแหงนเงย ทอดสายตาปวดร้าวมองตามเครื่องบินลำใหญ่...ที่ทะยานขึ้นเหนือน่านฟ้า จนกระทั่ง...มันหายลับหายไปจากสายตา บนเครื่องบินลำนั้น...มีบุคคลที่เธอ ‘รัก’ รักจนยอมมอบสิ่งล้ำค่าของตัวเองให้กับเขา ‘ความสาว’ สิ่งล้ำค่าที่บุพกาลีพยายามสั่งสอนให้จดจำ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นผิด แต่...ไม่อาจห้ามความปรารถนาที่ก่อเกิดขึ้นในใจได้ วังวนหวามๆ นั่นทำให้เธอลุ่มหลง มันเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน และวันนี้... ผลของมันนั้นกำลังก่อเกิดในร่างกายเธอ แต่...เขาคนนั้น กลับไม่ได้อยู่ร่วมรับผิดชอบผลงานของตัวเองร่วมกับเธอเสียนี่ และเธอเองก็ปากหนักเกินกว่าจะรั้งเขาเอาไว้ เมื่อเขากำลังไปดี ไปศึกษาหาความรู้ เพื่อกลับมาสานต่อกิจการงานที่บ้านของตัวเอง ปูชิดา ไวศยปรานนท์ เด็กสาววัย17 ปีเธอเติบโตผลิบานและสวยสมวัยแรกรุ่น แต่ใครจะคิดล่ะว่าเธอกำลังผจญกับเรื่องราวท
หน้าที่ทำงานหาสตางค์คือหน้าที่ของเธอ หลังจากฝืนกล้ำกลืนเรียนจนจบในชั้นอนุปริญญาแบบเลือดตาแทบกระเด็น เมื่อต้องทำงานด้วย เรียนด้วย เลี้ยงลูกด้วย ฝ่าฟันกันมากับนมแผ้วแบบที่ไม่เคยย่อท้อเช่นกัน ไม่ว่าจะทุกข์เข็ญ ลำบากสาหัส ปูชิดาไม่เคยปริปากบ่น ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตนเองอย่างภาคภูมิ ในวันที่เธอประสบความสำเร็จ เธอจึงยิ้มได้เต็มหน้า มีนมแผ้วคอยให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง “ยายจ๋าบอกว่าน้ำพริกค่ะ กินแล้วจะได้สวยๆ” เด็กช่างประจบรีบพูดสอดและตอบแทนหญิงชรา อัปสราเลยได้รับรอยยิ้มหวานของทั้งมารดาและคุณยายเป็นรางวัล “เก่งค่ะ จำแม่น...ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะคุณหนู จะได้มาทานข้าวร้อนๆ พร้อมกัน” นางชมหลานสาวตัวน้อย แล้วจึงหันไปคะยั้นคะยอบุตรสาวเจ้านาย ปูชิดาทำงานหนัก ทำทุกอย่างที่ได้เงิน ไม่เคยมีวันหยุดเมื่อต้องเร่งหาเงินไว้สำหรับบุตรสาว เพราะอายุถึงเกณฑ์ที่จะได้เข้าเรียน “แม่จ๋าเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ นางฟ้าอย่ากวนคุณยายนะจ้ะ” ปูชิดาเอ่ยกับบุตรสาว เจ้าตัวรับรู้ ก่อนจะวิ่งตื้อตามหลังนมแผ้วไปติดๆ หญิงสาวจึงเดินไปทางห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้
มือเหี่ยวย่นคลี่ผ้าห่มผืนบางห่มคลุมให้เจ้าตัวเล็ก เปิดพัดลมปัดเป่าความอบอ้าวให้เด็กหญิงก่อนจะเดินถอยหลังกลับห้องพักตัวเอง นางยังมีงานเล็กๆ น้อยรอให้ไปจัดการ ก่อนจะได้พักผ่อนในราตรีอันแสนเงียบสงบ “แพนด้า...ปะป๊านางฟ้าหน้าตาเป็นไงนะ?” เพื่อนคุยยามความมืดเข้าครอบคลุมก็คงไม่พ้นตุ๊กตาตัวโปรด มันมีชื่อเสียเลิศหรู ‘แพนด้า’ “ยายชอบพูดบ่อยๆ นางฟ้าตาสวยเหมือนปะป๊า” ลูกเสี้ยวมักจะได้รับยีนส์บางตัวมาจากผู้ให้กำเนิด และอัปสราได้รับมาเธอมีดวงตาถอดมาจากออสติน ดวงตาของเธอสีคาราเมล ไม่ได้ดำสนิท แต่ออกเหลือบๆ สีน้ำตาล หวานซึ้งเหมือนมีน้ำเชื่อมลอยฟ่อง ส่วนโครงร่างอย่างอื่นถอดมารดามาทั้งกะบิ!! “ปะป๊าของนางฟ้าต้องหล่อแน่ๆ เลย ใช่ไหม?” หางเสียงเริ่มอ่อย เมื่อเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจ ไม่มีรูปถ่ายบิดาสักใบ และเธอก็ไม่กล้าถามหาเพราะมารดามักจะดูเศร้าๆ อัปสราเลยไม่กล้าซักไซ้ มีบางครั้งเท่านั้นที่เผลอตัวหลุดปากพูด “เห้อ!! ทำไมปะป๊าถึงเห็นงานดีกว่านางฟ้า ปะป๊าไม่คิดถึงนางฟ้าบ้างเหรอ” เป็นคำพูดซื่อๆ ที่มันฝังอยู่ก้นบึ้งหัวใจ จะปริปากพูดแจ้วๆ ก็ต่อเมื่อได้อยู่
คอนโดหรูกลางกรุง... สายตาคมกล้าทอดมองแสงไฟบนท้องถนน เนื่องจากความสูงของตัวอาคาร จึงทำให้มองเห็นไฟจากหน้ารถยนต์ทอดยาว เหมือนลำแสง มันมีความสวยคลาสสิคแบบที่เขาชอบ มุมนี้จึงเป็นมุมโปรดที่ออสตินมักจะมาหยุดยืนมองเพื่อผ่อนคลายความหนักหน่วงในอก... “ยืนดูอะไรเอ่ย?” เสียงหวานชะอ้อนถาม หล่อนเบียดกายกับแผ่นหลังหนั่นแน่น มือเรียวบางคล้องที่เหนือบ่า พร้อมกับการกระแซะใส่แบบยั่วเย้าอารมณ์ “เปล่า” เสียงตอบกลับแบบเลื่อนลอย เขาหมุนตัวกลับมา ตวัดมือโอบรัดเรือนร่างอวบอัดไว้ พร้อมทั้งกระตุกยิ้มเริงร่า ในอ้อมกอดเขาเวลานี้คือผู้หญิงที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุด หล่อนกำลังดังดั่งพลุแตก หลังภาพยนตร์ที่หล่อนแสดงนำติดโผหนังทำเงิน หล่อนสวย...เขาไม่เถียง แต่หล่อนไม่ใช่คนที่เขา ‘รัก’ ออสตินเหยียดยิ้ม ความรัก...เป็นเช่นไร? เขาไม่อยากรู้จักและไม่ได้อยากสัมผัสมันสักนิด ความคิดไร้สาระนั่น ไม่เคยอยู่ในหัวสมอง...ความรู้สึกที่รังจะทำให้เขามีแต่ความอ่อนแอ...ความรู้สึกที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง...กลายเป็นคนโง่!! เขาสาปส่งความรู้สึกเช่นนั้นทิ้ง...ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน... คว
หญิงสาวซุกหน้ากับแผงอกอุ่น “อ๋อ!! ทุกวันนี้ชิดาขี้เหร่งั้นสิ” เธอตอบเสียงแผ่ว “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น ความหมายของฉัน คืออยากเห็นชิดาดูดีไม่มีที่ติต่างหาก” ออสตินรีบแก้ตัว “เรื่องพิธีมันสมควรมีก็จริงค่ะ เมื่อมันเป็นประเพณีการทางสังคม และเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง...ชิดารักคุณ ชิดาไม่เคยหวังไกล...ทุกครั้งที่ชิดาหลับ ชิดาจะภาวนาก่อนหลับ ขอให้เวลาที่ชิดาลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างจะยังคงเหมือนเดิม” หญิงสาวช้อนนัยน์ตาหวานฉ่ำมองสบตาสามี เธอไม่เคยหวังไกลถึงขนาดนั้น ขอแค่ความเมตตาของเขาบ้าง แค่นั้นก็คือสิ่งที่ปูชิดาปรารถนา ออสตินกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาเปรยเบาๆ “ฉันเป็นคนโง่ ที่แสร้งทำเป็นคนฉลาด อวดตัวว่าข้าเก่ง ข้ามีดีจนใครๆ ก็อยากได้ แต่ไม่เลย...ฉันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่ร่ำร้องหาความรัก ความรักที่เคยเกิดขึ้น
บทที่23.มหาเศรษฐีสิ้นลาย... ประตูห้องนอนถูกปิดและล็อกเพื่อกันคนภายนอกเข้ามาภายใน ในเวลาที่ไม่เหมาะสม วันนี้ออสตินอารมณ์ดี เขามีแผนเด็ด แผนเด็ดที่ทำให้เขากระชุ่มกระชวย จนปูชิดาเริ่มระแวง สายตาของสามีฉ่ำวาวจนหล่อนขนลุก “อาบน้ำด้วยกันนะ...ทูนหัว” น่านไง!! เสียงออดๆ ของออสติน เขาเดินย่างสามขุมเข้าหา และเธอก็คงไม่สามารถปฏิเสธความตั้งใจของเขาได้ มันจึงลงเอ่ยในอ่างน้ำกุชชี่ ขนาดใหญ่ในห้องน้ำภายในห้องนอน“โอย...แสบตา” ออสตินแสร้งโวย วันนี้เขาอ้อนเมียสำเร็จ เป็นการอาบน้ำด้วยกันครั้งแรก หลังจากหอบหิ้วกันมาอยู่ใต้ชายคาคฤหาสน์เทรย์เวอร์เกือบ1 อาทิตย์ โดยที่มาดามเยาวเรศอ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ “ขอโทษค่ะ ชิดามือลื่น...”เพราะเธอเขินจัด เลยหลับหูหลับตาถูฟองน้
“เอาเป็นว่า...ฉันยอมรับแม่นั่นก็ได้...แต่แกต้องให้สัญญา แกจะต้องมีหลานให้ฉันอีก5 คน” นางพูด หลังเงียบไปหนึ่งอึดใจ รอยยิ้มของมาดามเยาวเรศทำให้ออสตินหัวเราร่า คุณแม่ก็คือคุณแม่วันยังค่ำ หากอยากบีบให้นางก้มหัว หรืออ่อนให้ นางก็ต้องไว้เชิงบ้าง “ตามนั้นเลยครับ อีกแปดเดือนไม่เกินนั้น แม่ได้อุ้มหลานคนที่สองแน่!!” ออสตินคุยโอ่!! เขารวบกอดมารดาแน่นๆ “แม่ไม่ได้เป็นลมใช่ไหมครับเมื่อสักครู่?” ชายหนุ่มกระซิบถามปัญหาคาใจ เขาว่ามันแหม่งๆ พิกล “มันคือการแสดง แม่น่าจะได้ออสก้านะ...ว่าไหม?” นางยิ้ม สอดมือกอดเอวสอบของออสตินไว้ นางไม่ได้กอดบุตรชายนานเท่าไรแล้วนะ “ครับ...เนียนมาก” ชายหนุ่มหัวเราะ “อีกคำถามนะออสติน...นามสกุลนางฟ้า แกจั
“แกใจดำมาก...ออสติน แกเป็นลูกอกตัญญู กล้าทิ้งฉันเพราะผู้หญิงคนเดียว” ชายหนุ่มถอนใจ เขาลุกจากที่นั่ง เดินมาทรุดตัวนั่งด้านหน้ามาดามเยาวเรศ ออสตินคุกเข่า เขาก้มลงกราบแทบปลายเท้านาง ก่อนจะยืดตัวขึ้นนั่ง มองสบนัยน์ตามารดาด้วยความเศร้า “ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยครับ ชิดาท้อง เธอเลี้ยงลูกคนเดียวมา4ปี โดยที่ไม่คิดบอกพวกเรา ผมผิด... ผมอยากชดเชยให้เธอ หากแม่จะบีบให้ผมทิ้งเธออีกครั้ง ผมคงทำไม่ได้ ผมไม่ได้เลือกนะครับ แต่ผมจำเป็นต้องทำ...ถ้ามันผิดต่อแม่ ผมก็จนใจ ผมไม่ได้ทิ้งแม่ ผมไม่ได้เลือกชิดา ผมทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุด” “เหอะ!! ต่อให้แกพูดอย่างสวยหรูยังไง เรื่องมันก็จบตรงที่แกเลือกแม่นั่น” นางถอยหลังสองก้าว มองสบนัยน์ตาบุตรชาย ดวงตาของนางแดงก่ำ เพราะกำลังเสียใจสุดขีด “แม่จะให้ผมทำยังไงครับ นั่นเมีย นี่แม่ ผมเลือกยืนข้างฝ่ายไหน ผมก็เป็นคนผิดอยู่ดี” 
บทที่22.คุณแม่ขอร้อง เป็นอีกวันที่ออสตินเริ่มต้นวันทำงานด้วยความสุขเต็มเปี่ยม เดิมทีเขาเบื่อหน่ายหน้าที่ที่แบกรับไว้จนหนักบ่า แต่ทำไงได้เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเทรย์เวอร์ เวลานี้เขามีภาระที่หนักหน่วงให้แบกรับเพิ่มเติม แต่เป็นความเต็มใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่คลี่คลายปัญหาของตัวเองกับปูชิดาได้ เขากับปูชิดากลับมาเหมือนเดิม...เพิ่มเติมคือรักยิ่งกว่าเดิม ไม่มีความคลางแคลงในใจหลงเหลืออยู่ เหลือก็แค่ปัญหาหนักอกเพียงอย่างเดียว นั่นคือมารดา... หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ในห้องทำงานสีขรึม ออสตินนั่งอยู่ตรงนั้น เขากำลังก้มหน้าอ่านเอกสารสำคัญ ก่อนจะลงนามเซ็นกำกับ หากเขาพอใจ...มันเป็นวันเรียบง่ายอีกหนึ่งวัน ไม่มีงานเร่งด่วนชวนให้ปวดหัว ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงให้ต้องแก้ปัญหา และในมือเขาคือแฟ้มงานของบริษัทไวศยปรานนท์ ผลกำไรเกินคาดของบริษัทนั้นเกินกว่าที่คาดไว้ เขาไม่คิดว่าคุณทรง
“อืม...ดี ฉันมีโปรแกรมให้เธอเรียนรู้อีกเยอะ” เรียวไม่ได้ขยาย โปรแกรมที่แป้งหอมต้องเรียนคืออะไร เพราะที่เขาวางแพลนไว้คร่าวๆ คือการทำให้แป้งหอมเพอร์เฟคที่สุด สำหรับการเป็นภรรยาใครสักคน... และเมื่อแป้งหอมกับเรียว เดินเข้ามาในสถานที่ทำงานพร้อมกัน หญิงสาวจึงตกเป็นเป้าสายตา พร้อมกับคำนินทา ที่ตามมาในไม่ช้า เป็นเพราะแป้งหอมอยู่ไม่สุข เธอขยันทำงาน จนทำให้ในวันทำงานวันที่2 เธอก็ได้ยินเรื่องที่ขาเม้าทั้งหลายซุบซิบกันเข้าพอดี “เธอๆ ว่าไหม ยัยคนที่เดินตามคุณเรียวต้อยๆ ไม่พ้น เมียน้อยคุณเรียวแหงๆ” แป้งหอมสะดุดกึก...เธอรีบหลบหลังซอกตู้ มือเรียวกำแน่น “พูดแบบนั้นได้ไง คุณเรียวยังโสด อย่างแม่นั่นก็แค่เมียเก็บ ทำกำแหงชูคอ อีโธ่!!” 
เรียวกดปิดทีวีจอยักษ์ ภาพดับวูบไป เขาหันมาหาแป้งหอมพร้อมกับเริ่มต้นอธิบายเนื้องานช้าๆ ระหว่างนั้น แป้งหอมแทรกถามเป็นระยะ หล่อนจริงจัง ใส่ใจ จดรายละเอียดไว้ได้เกือบหมด จนเรียวเองยังทึ่ง หลังแป้งหอมเข้าใจเนื้องานทั้งหมดเธอปิดสมุด เตรียมตัวถอยหลังกลับเข้าห้องพักเหมือนเดิม เรียวถามก่อนที่หญิงสาวจะผุดลุกขึ้นยืน “เธอจบอะไรมา?” เขาไม่ได้ดูแคลนหล่อน เรียวอยากรู้เรื่องของแป้งหอมบ้าง แป้งหอมชะงัก เธอตอบกลับเสียงแผ่วๆ “หอมกำลังเรียนในวิทยาลัย’ เปิดแห่งหนึ่งค่ะ ยังไม่จบ” เพราะการทำงานกินเวลาเธอไปเกือบหมด ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ แต่เธอก็ไม่เคยท้อ ปริญญาคือเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของแป้งหอม เธอจะทำให้คนรอบตัวเห็น เด็กคนหนึ่งที่ไม่มีใครเลย ก็ประสบความสำเร็จได้ เรียวพยักหน้าทำเหมือนเข้าใจ เขาสอดมือล้วงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเครดิตกา
บทที่21.จับคู่ชู้ชื่น เปรียวเปิดประตูห้องพักของแป้งหอม เขานำอาหารตามสั่งมาส่งให้เจ้านาย พร้อมกับโทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยม ชายหนุ่มถอยหลังกลับ เขาเดินไปชะโงกหน้าดูหมายเลขห้อง เขามาไม่ผิดห้องนี่นา แต่ที่เขาเห็นมันคืออะไร? เรียวนอนเอนๆ ดูภาพยนตร์ โดยมีแป้งหอมนั่งอยู่ใกล้ๆ เจ้านาย ขยันส่งข้าวโพคั่วให้คนข้างๆ และหล่อนก็อ้าปากงับโดยไม่แย้ง เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น...มันไม่ใช่วิถีคาสโนว่า เปรียวคาดเดาว่า เจ้านายอาจจะกำลังสะบึมแป้งหอม เมื่อเรียวทุ่มทุ่นสร้างขนาดนี้ เขาจึงไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็น “ฮ่าๆ คุณตลกบ้าๆ หอมไม่เคยดูหนังอะไรตลกเท่านี้เลย” ถ้าว่ากันตามจริง แป้งหอมไม่เคยชมภาพยนตร์เลยด้วยซ้ำ เธอไม่มีเวลาว่าง ทุกนาทีของเธอคือการทำงาน 
“มันดีมาก ดีเกินจนหอมกลัว” หญิงสาวนั่งคอห้อย เกิดมาเธอไม่เคยสบายแบบนี้ ตอนอยู่ในสถานสงเคราะห์ นอนรวมๆ กันใช้สอยพื้นที่ห้องร่วมกัน แต่ต้องคอยระวังสมบัติส่วนตัว ถึงถูกอบรมมาอย่างดี แต่เมื่อพวกเขาขาด ก็จำเป็นต้องไขว่คว้า ความอดยากนำมาซึ่งการทำผิด แม้จะไม่ตั้งใจ...แต่ก็คือก้าวแรกที่ทำให้ติดเป็นนิสัย เธอไม่โทษพวกเขา หากพอแบ่งปันได้ แป้งหอมก็จะทำเป็นลืมๆ แต่หากสิ่งนั้นสำคัญมาก เธอจะเก็บรักษาและระวังเป็นอย่างดี “กลัว?” เรียวเลิกปลายคิ้วขึ้นสูง เขากดปิดทีวีจอยักษ์ หันมาสนใจคนข้างตัว ที่นั่งหัวห้อยเหมือนกำลังคิดหนัก “ใช่ค่ะ...ขอหอมไปอยู่ห้องอื่นได้ไหมคะ ที่นี่มันเหมือนสวรรค์ และหอมไม่ใช่นางฟ้า” ของอ้างของหล่อน ทำเอาเรียวเกือบขำ...แป้งหอมช่างสรรหาคำมาแก้ต่าง เป็นข้ออ้างที่ฟังแล้วอารมณ์ดี “ลองดู...ไม่ใช่นางฟ้