มือเหี่ยวย่นคลี่ผ้าห่มผืนบางห่มคลุมให้เจ้าตัวเล็ก เปิดพัดลมปัดเป่าความอบอ้าวให้เด็กหญิงก่อนจะเดินถอยหลังกลับห้องพักตัวเอง นางยังมีงานเล็กๆ น้อยรอให้ไปจัดการ ก่อนจะได้พักผ่อนในราตรีอันแสนเงียบสงบ
“แพนด้า...ปะป๊านางฟ้าหน้าตาเป็นไงนะ?”
เพื่อนคุยยามความมืดเข้าครอบคลุมก็คงไม่พ้นตุ๊กตาตัวโปรด มันมีชื่อเสียเลิศหรู ‘แพนด้า’
“ยายชอบพูดบ่อยๆ นางฟ้าตาสวยเหมือนปะป๊า” ลูกเสี้ยวมักจะได้รับยีนส์บางตัวมาจากผู้ให้กำเนิด และอัปสราได้รับมาเธอมีดวงตาถอดมาจากออสติน ดวงตาของเธอสีคาราเมล ไม่ได้ดำสนิท แต่ออกเหลือบๆ สีน้ำตาล หวานซึ้งเหมือนมีน้ำเชื่อมลอยฟ่อง ส่วนโครงร่างอย่างอื่นถอดมารดามาทั้งกะบิ!!
“ปะป๊าของนางฟ้าต้องหล่อแน่ๆ เลย ใช่ไหม?” หางเสียงเริ่มอ่อย เมื่อเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจ ไม่มีรูปถ่ายบิดาสักใบ และเธอก็ไม่กล้าถามหาเพราะมารดามักจะดูเศร้าๆ อัปสราเลยไม่กล้าซักไซ้ มีบางครั้งเท่านั้นที่เผลอตัวหลุดปากพูด
“เห้อ!! ทำไมปะป๊าถึงเห็นงานดีกว่านางฟ้า ปะป๊าไม่คิดถึงนางฟ้าบ้างเหรอ”
เป็นคำพูดซื่อๆ ที่มันฝังอยู่ก้นบึ้งหัวใจ จะปริปากพูดแจ้วๆ ก็ต่อเมื่อได้อยู่กับเพื่อนสนิทที่ไม่มีปาก เพราะเจ้าตัวรู้ดี หากพูดเรื่องบิดา มารดามักจะมีแต่ความเศร้า และเธอไม่อยากให้มารดาเศร้าเสียใจอีก เลยเก็บงำไว้ในใจ
ร้านสะดวกซื้อริมถนนใหญ่มีผู้ใช้บริการเดินเข้าเดินออกไม่ขาดสาย เพราะฉะนั้นพนักงานในร้านจึงทำงานกันเป็นมือระวิง รวมทั้งปูชิดาด้วย
“รับขนมปังเพิ่มไหมคะ?” รอยยิ้มหวานจ๋อยกับคำถามติดปาก เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าตัวเอง
กรุ้งกริ้ง!! เสียงลูกกระพรวนเหนือประตูสั่นกราว มันถูกผลักให้เปิดด้วยฝีมือดรุณีนางหนึ่ง หล่อนสวยจนคนที่เห็นแอบอิจฉา ใบหน้าหวานสวยเด่น โดยเฉพาะริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด!! ใบหน้านั้นดูคุ้นตาจนปูชิดาต้องยอมเสียมารยาทเพ่งมอง ก่อนจะครางในลำคอเบาๆ เพราะไม่ใช่ใครที่ไหน สาวสวยนางนี้คือคนดังของสังคม หล่อนกำลังดังเปรี้ยง!! ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่บังเอิญภาพยนตร์ที่หล่อนเล่นกำลังฮอตในหมู่วัยรุ่น ‘ยานิสา แบลล์’ สาวน้อยยะหยา ดาราสาวสวยที่กำลังมาแรง!!
“เธอๆ ใช่ไหม?”
มีเสียงกระซิบดังเบาๆ พอให้ได้ยินกับอาการตื่นเต้นเมื่อตัวเป็นๆ ของดาราในฝันมายืนอยู่ในที่ที่เดียวกัน
หล่อนเดินมาหยุดหน้าเค้าน์เตอร์พร้อมกับเปิดปากถาม “มีบุหรี่...ไหม?” เป็นคำถามที่ผิดกับภาพลักษณ์ที่เจ้าหล่อนสร้างไว้ลวงตาผู้คน กับความใสซื่ออินโนเซ้นต์
“มีค่ะเอากี่ซองดีคะ” ปูชิดาตอบ หล่อนคลี่ยิ้มนิดๆ แอบชื่นชมหล่อนในใจ หล่อนสวยสมกับเป็นนักแสดง
“ซองเดียว เท่าไรล่ะ” คำพูดฟังดูห้วนๆ แต่ปูชิดาไม่เก็บมาใส่ใจเมื่อเธอเป็นแค่พนักงานขาย นักแสดงใหญ่แบบยานิสาคงไม่เห็นความสำคัญ
หญิงสาวบอกราคาก่อนจะรับธนบัตรที่ดาราดังส่งให้มาใส่เก๊ะ ทอนสตางค์ตามหน้าที่ มันคงจบแค่นั้น ถ้า....
เธอมัวแต่ตื่นตะลึงเลยไม่ได้สนใจความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
แฟนคลับของยานิสารีบแสดงตัว พวกเขากรี๊ดเสียงดังๆ เพราะได้เจอะเจอนักแสดงที่ตัวเองชื่นชอบตัวเป็นๆ เสียงดังกระหึม แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูของปูชิดา เธอตื่นตกใจกับใครบางคนมากกว่า ใครบางคนที่เธอจำได้แบบไม่มีวันลืม แม้จะท่องจำไว้ในใจ เขาเป็นแค่ความทรงจำ ที่ไม่มีทางหวนคืนกลับมา เธอคือก้อนกรวด ในขณะที่เขาเป็นดาวจรัสฟ้า
“คุณยะหยาใช่ไหมคะ? พวกพี่เป็นแฟนคลับ ติดตามผลงานของน้องมาตลอด ตั้งแต่ยังเป็นแค่เอ็กตร้า!!”
สาวใหญ่สองนาง กับสาวน้อยวัยรุ่นอีกหนึ่ง พวกเขาดาหน้าเขาไปรุมล้อม พร้อมกับแสดงความชื่นชม
สาวสะคราญแอบเบ้ปาก เบื่อกับการโอบล้อมของคนที่ไม่มีความสำคัญ แต่อาชีพของเธอต้องอาศัยคนพวกนี้ และที่สำคัญเลย เธอไม่ชอบให้ใครพูดถึงอดีต อดีตที่ต้องกระเสือกกระสนแทบตายกว่าจะมายืนตรงจุดนี้ได้
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” หล่อนตอบแบบเสียไม่ได้ พยายามปั้นหน้าให้ดูดีที่สุด ทั้งๆ ที่หงุดหงิดจนอยากอาละวาด
“มีผลงานใหม่ๆ อีกไหมคะ พวกเราชมอยู่”
พวกเขายังไม่หยุดความพยายาม นานๆ จะมีโอกาสได้ชิดใกล้นักแสดงดังตัวเป็นๆ สักที
ยานิสาเผลอไหวไหล่...ช่วงนี้เธอไม่มีเวลาหรอก คิวงานทั้งหมดถูกยกเลิก เพราะเธอทุมเทเวลาทั้งหมดของตัวเองตามติดหนุ่มมหาเศรษฐี บุคคลผู้นี้เธอตั้งใจมั่น ไม่มีทางปล่อยให้เขาหลุดมือเป็นเด็ดขาด เมื่อโปรไฟล์พ่อคุณล้นเหลือ ไม่ว่าจะนามสกุลดัง กับสมบัติที่พ่วงท้ายมาด้วย ที่สำคัญเขา ‘โสด’ ถึงเขาจะเป็นคาสโนว่าตัวพ่อมาก่อน แต่หล่อนมั่นใจว่าสามารถจับเขาอยู่มือในเมื่อเขาคือ...ออสติน อัศวิน เทรย์เวอร์
“ช่วงนี้ซาๆ ค่ะ ยะหยาขอพักก่อน กรำงานติดๆ กันมาเป็นปีๆ ไม่ได้พักเลย” หล่อนตอบพร้อมกับคลี่ยิ้มมุมปากนิดๆ เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดเกิน
“กำลังขาขึ้น ทำไมไม่รีบโกยไว้ก่อนล่ะคะ” เสียงแย้งยิ่งทำให้เธอไม่พอใจเหมือนกับพวกเขากำลังเตือน ก่อนที่เธอจะกลายเป็นดาวร่วง มันไม่มีวันนั้นแน่!!
“งานก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ แหละค่ะ แต่ยะหยาขอพัก ยะหยาเหนื่อย!!”
หญิงสาวเริ่มอารมณ์ไม่ดี เธอแค่นตอบแบบเสียไม่ได้ เพราะหากจับคู่ควงคนล่าสุดอยู่หมัด เธอจะได้นั่งกินนอนกิน แบบไม่ต้องแตะต้องงานการตลอดชีวิต
“น้องยะหยาทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ ป่านนี้ยังไม่มีแฟนอีกเหรอคะ?”
“ก็มีคนคุยนะคะ แต่ยังไม่ชัวร์” หญิงสาวตอบพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น
“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?” คนถาม ถามแบบเหนียมๆ
“ได้สิคะ” แม้จะไม่มีอารมณ์ แต่ฐานแฟนคลับเธอจำต้องรักษาเอาไว้
“แล้วคนที่คุยๆ อยู่ ใช่คนที่เป็นข่าวด้วยหรือเปล่าเอ่ย?”
มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่คนวงนอกอยากรู้ที่สุด ก็นางเอกแสนสวยมีข่าวกับผู้ชายหลายคน แต่ยังไม่เคยลงเอยกับใครสักที ได้แต่ลอยไปลอยมา แต่ก็มีกระแสไม่หยุด ล่าสุดคือนักธุรกิจไฟแรง ลูกหลานไฮโซ ทั้งหล่อและรวย
หญิงสาวคลี่ยิ้มเต็มหน้า เธอไม่ตอบแต่เสเดินหนีหลังแค่นยิ้มถ่ายรูปกับพวกเขา ที่สำคัญเป้าหมายที่เธอกำลังรอผ่านเข้ามาในสายตาพอดี ผู้ชายคนนี้แหละที่ทำให้เธอหงุดหงิด เขาผิดนัดเธอ จนต้องมาหาอะไรระบายอารมณ์
คอนโดหรูกลางกรุง... สายตาคมกล้าทอดมองแสงไฟบนท้องถนน เนื่องจากความสูงของตัวอาคาร จึงทำให้มองเห็นไฟจากหน้ารถยนต์ทอดยาว เหมือนลำแสง มันมีความสวยคลาสสิคแบบที่เขาชอบ มุมนี้จึงเป็นมุมโปรดที่ออสตินมักจะมาหยุดยืนมองเพื่อผ่อนคลายความหนักหน่วงในอก... “ยืนดูอะไรเอ่ย?” เสียงหวานชะอ้อนถาม หล่อนเบียดกายกับแผ่นหลังหนั่นแน่น มือเรียวบางคล้องที่เหนือบ่า พร้อมกับการกระแซะใส่แบบยั่วเย้าอารมณ์ “เปล่า” เสียงตอบกลับแบบเลื่อนลอย เขาหมุนตัวกลับมา ตวัดมือโอบรัดเรือนร่างอวบอัดไว้ พร้อมทั้งกระตุกยิ้มเริงร่า ในอ้อมกอดเขาเวลานี้คือผู้หญิงที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุด หล่อนกำลังดังดั่งพลุแตก หลังภาพยนตร์ที่หล่อนแสดงนำติดโผหนังทำเงิน หล่อนสวย...เขาไม่เถียง แต่หล่อนไม่ใช่คนที่เขา ‘รัก’ ออสตินเหยียดยิ้ม ความรัก...เป็นเช่นไร? เขาไม่อยากรู้จักและไม่ได้อยากสัมผัสมันสักนิด ความคิดไร้สาระนั่น ไม่เคยอยู่ในหัวสมอง...ความรู้สึกที่รังจะทำให้เขามีแต่ความอ่อนแอ...ความรู้สึกที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง...กลายเป็นคนโง่!! เขาสาปส่งความรู้สึกเช่นนั้นทิ้ง...ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน... คว
บทที่2.เงาอดีต!! เหมือนโลกหยุดหมุน เหมือนเวลาบนโลกจะหยุดเดิน เพียงแค่เห็น ‘เขา’ คนเดิมปรากฏกายอยู่ตรงหน้า เหมือนฝัน เป็นความอัศจรรย์ที่ไม่คาดคิด แต่ให้ตายเถอะ!! สายตาคู่เดิมของเขา ไม่ได้มีไว้เพื่อมองเธออีกต่อไปแล้ว ปูชิดาทอดสายตามองตาม เธอจึงเห็นว่า... เวลานี้สายตาคู่นั้นของออสตินกำลังโฟกัสอยู่ที่ใด!! เขายังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนทุกกะบิในความทรงจำของเธอ ที่เพิ่มเติมคือดูดีขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า!! ในขณะที่เธอทรุดโทรมลง ไม่ได้มีค่าควรคู่กับเขาเหมือนเมื่อก่อน เธอเป็นแค่คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่ไม่มีสามี ถึงจะยังคงใช้นามสกุลเดิม แต่เธอเป็นแค่ลูกที่ถูกเสือกไสออกจากบ้าน ไม่มีสมบัติติดกาย เป็นคนมีตำหนิ แม้ตำหนินั้นเขาจะมีส่วนร่วมในการก่อ แต่เขาไม่รู้นี่สิ!! “ดาร์ลิ่ง!! คุณมาช้า” เสียงหวานชะอ้อนพูด พร้อมกับสาวเท้าเร็วๆ เข้าไปหา “คนสวย คุณต้องเข้าใจว่าผมงานยุ่งแค่ไหน?” ออสตินไม่ได้แก้ตัว หล่อนควรรู้ว่าเขามีภารกิจมากมายก่ายกอง หากไม่ติดใจว่าหล่อนลีลาเด็ด!! เขาคงไม่ตามมาแบบนี้หรอก ใช่ว่าเขาไม่มีผู้หญิงข้างกายเมื่อไร เขามีจนจำหน้าไม่หมดเลยแหละ เพีย
นางเตือนด้วยความหวังดี ผิดหวังกับผู้หญิงเพียงคนเดียว บุตรชายของนางถึงกับปิดประตูใจ เขาประชดชีวิตทำตัวเป็นเพลย์บอย เพียงเพราะไม่อยาก ‘รัก’ ใครอีก ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ เขาข่มความโกรธไว้ในอก ไม่มีวันยอมให้ใครย่างกรายเข้ามาในหัวใจ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอ “แม่มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมครับ ผมงานยุ่ง ผมขอตัวก่อน” เขาเปรยเสียงแผ่ว ผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินจากไป แบบไม่ให้ท่านมีโอกาสได้รั้งไว้อีก มืออวบอูมยกขึ้นกดลงบนอกข้างซ้าย เปลือกตาหลุบลง รีบเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบๆ ขึ้นมาในบริเวณนั้น “แม่ผิดเหรอออสติน? แม่ผิดเหรอที่อยากให้ลูกประสบความสำเร็จ โดยไม่มีเรื่องกวนใจ” มีบางสิ่งที่เป็นความลับ!! มีเรื่องบางเรื่องที่นางทำ เพื่อให้บุตรชายไร้ความกังวล นางไม่คิดว่ามันจะมีผลทำให้เขากลายเป็นคนกระด้างเย็นชาแบบนี้ ช
บทที่1.ความทรงจำสีเทา...‘อย่าทิ้งชิดาไป ได้โปรด?!!’ เสียงคร่ำครวญประหนึ่งจะขาดใจ ได้ฟังแล้วชวนให้สงสารเป็นอย่างยิ่ง เด็กสาวร่างเล็กคนหนึ่ง...หล่อนกำลังสะอื้นไห้จนตัวสั่นระริก เธอคร่ำครวญเหมือนกำลังขาดใจตายในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ใบหน้าฉ่ำน้ำตาแหงนเงย ทอดสายตาปวดร้าวมองตามเครื่องบินลำใหญ่...ที่ทะยานขึ้นเหนือน่านฟ้า จนกระทั่ง...มันหายลับหายไปจากสายตา บนเครื่องบินลำนั้น...มีบุคคลที่เธอ ‘รัก’ รักจนยอมมอบสิ่งล้ำค่าของตัวเองให้กับเขา ‘ความสาว’ สิ่งล้ำค่าที่บุพกาลีพยายามสั่งสอนให้จดจำ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นผิด แต่...ไม่อาจห้ามความปรารถนาที่ก่อเกิดขึ้นในใจได้ วังวนหวามๆ นั่นทำให้เธอลุ่มหลง มันเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน และวันนี้... ผลของมันนั้นกำลังก่อเกิดในร่างกายเธอ แต่...เขาคนนั้น กลับไม่ได้อยู่ร่วมรับผิดชอบผลงานของตัวเองร่วมกับเธอเสียนี่ และเธอเองก็ปากหนักเกินกว่าจะรั้งเขาเอาไว้ เมื่อเขากำลังไปดี ไปศึกษาหาความรู้ เพื่อกลับมาสานต่อกิจการงานที่บ้านของตัวเอง ปูชิดา ไวศยปรานนท์ เด็กสาววัย17 ปีเธอเติบโตผลิบานและสวยสมวัยแรกรุ่น แต่ใครจะคิดล่ะว่าเธอกำลังผจญกับเรื่องราวท
หน้าที่ทำงานหาสตางค์คือหน้าที่ของเธอ หลังจากฝืนกล้ำกลืนเรียนจนจบในชั้นอนุปริญญาแบบเลือดตาแทบกระเด็น เมื่อต้องทำงานด้วย เรียนด้วย เลี้ยงลูกด้วย ฝ่าฟันกันมากับนมแผ้วแบบที่ไม่เคยย่อท้อเช่นกัน ไม่ว่าจะทุกข์เข็ญ ลำบากสาหัส ปูชิดาไม่เคยปริปากบ่น ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตนเองอย่างภาคภูมิ ในวันที่เธอประสบความสำเร็จ เธอจึงยิ้มได้เต็มหน้า มีนมแผ้วคอยให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง “ยายจ๋าบอกว่าน้ำพริกค่ะ กินแล้วจะได้สวยๆ” เด็กช่างประจบรีบพูดสอดและตอบแทนหญิงชรา อัปสราเลยได้รับรอยยิ้มหวานของทั้งมารดาและคุณยายเป็นรางวัล “เก่งค่ะ จำแม่น...ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะคุณหนู จะได้มาทานข้าวร้อนๆ พร้อมกัน” นางชมหลานสาวตัวน้อย แล้วจึงหันไปคะยั้นคะยอบุตรสาวเจ้านาย ปูชิดาทำงานหนัก ทำทุกอย่างที่ได้เงิน ไม่เคยมีวันหยุดเมื่อต้องเร่งหาเงินไว้สำหรับบุตรสาว เพราะอายุถึงเกณฑ์ที่จะได้เข้าเรียน “แม่จ๋าเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ นางฟ้าอย่ากวนคุณยายนะจ้ะ” ปูชิดาเอ่ยกับบุตรสาว เจ้าตัวรับรู้ ก่อนจะวิ่งตื้อตามหลังนมแผ้วไปติดๆ หญิงสาวจึงเดินไปทางห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้
นางเตือนด้วยความหวังดี ผิดหวังกับผู้หญิงเพียงคนเดียว บุตรชายของนางถึงกับปิดประตูใจ เขาประชดชีวิตทำตัวเป็นเพลย์บอย เพียงเพราะไม่อยาก ‘รัก’ ใครอีก ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ เขาข่มความโกรธไว้ในอก ไม่มีวันยอมให้ใครย่างกรายเข้ามาในหัวใจ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอ “แม่มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมครับ ผมงานยุ่ง ผมขอตัวก่อน” เขาเปรยเสียงแผ่ว ผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินจากไป แบบไม่ให้ท่านมีโอกาสได้รั้งไว้อีก มืออวบอูมยกขึ้นกดลงบนอกข้างซ้าย เปลือกตาหลุบลง รีบเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบๆ ขึ้นมาในบริเวณนั้น “แม่ผิดเหรอออสติน? แม่ผิดเหรอที่อยากให้ลูกประสบความสำเร็จ โดยไม่มีเรื่องกวนใจ” มีบางสิ่งที่เป็นความลับ!! มีเรื่องบางเรื่องที่นางทำ เพื่อให้บุตรชายไร้ความกังวล นางไม่คิดว่ามันจะมีผลทำให้เขากลายเป็นคนกระด้างเย็นชาแบบนี้ ช
บทที่2.เงาอดีต!! เหมือนโลกหยุดหมุน เหมือนเวลาบนโลกจะหยุดเดิน เพียงแค่เห็น ‘เขา’ คนเดิมปรากฏกายอยู่ตรงหน้า เหมือนฝัน เป็นความอัศจรรย์ที่ไม่คาดคิด แต่ให้ตายเถอะ!! สายตาคู่เดิมของเขา ไม่ได้มีไว้เพื่อมองเธออีกต่อไปแล้ว ปูชิดาทอดสายตามองตาม เธอจึงเห็นว่า... เวลานี้สายตาคู่นั้นของออสตินกำลังโฟกัสอยู่ที่ใด!! เขายังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนทุกกะบิในความทรงจำของเธอ ที่เพิ่มเติมคือดูดีขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า!! ในขณะที่เธอทรุดโทรมลง ไม่ได้มีค่าควรคู่กับเขาเหมือนเมื่อก่อน เธอเป็นแค่คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่ไม่มีสามี ถึงจะยังคงใช้นามสกุลเดิม แต่เธอเป็นแค่ลูกที่ถูกเสือกไสออกจากบ้าน ไม่มีสมบัติติดกาย เป็นคนมีตำหนิ แม้ตำหนินั้นเขาจะมีส่วนร่วมในการก่อ แต่เขาไม่รู้นี่สิ!! “ดาร์ลิ่ง!! คุณมาช้า” เสียงหวานชะอ้อนพูด พร้อมกับสาวเท้าเร็วๆ เข้าไปหา “คนสวย คุณต้องเข้าใจว่าผมงานยุ่งแค่ไหน?” ออสตินไม่ได้แก้ตัว หล่อนควรรู้ว่าเขามีภารกิจมากมายก่ายกอง หากไม่ติดใจว่าหล่อนลีลาเด็ด!! เขาคงไม่ตามมาแบบนี้หรอก ใช่ว่าเขาไม่มีผู้หญิงข้างกายเมื่อไร เขามีจนจำหน้าไม่หมดเลยแหละ เพีย
คอนโดหรูกลางกรุง... สายตาคมกล้าทอดมองแสงไฟบนท้องถนน เนื่องจากความสูงของตัวอาคาร จึงทำให้มองเห็นไฟจากหน้ารถยนต์ทอดยาว เหมือนลำแสง มันมีความสวยคลาสสิคแบบที่เขาชอบ มุมนี้จึงเป็นมุมโปรดที่ออสตินมักจะมาหยุดยืนมองเพื่อผ่อนคลายความหนักหน่วงในอก... “ยืนดูอะไรเอ่ย?” เสียงหวานชะอ้อนถาม หล่อนเบียดกายกับแผ่นหลังหนั่นแน่น มือเรียวบางคล้องที่เหนือบ่า พร้อมกับการกระแซะใส่แบบยั่วเย้าอารมณ์ “เปล่า” เสียงตอบกลับแบบเลื่อนลอย เขาหมุนตัวกลับมา ตวัดมือโอบรัดเรือนร่างอวบอัดไว้ พร้อมทั้งกระตุกยิ้มเริงร่า ในอ้อมกอดเขาเวลานี้คือผู้หญิงที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุด หล่อนกำลังดังดั่งพลุแตก หลังภาพยนตร์ที่หล่อนแสดงนำติดโผหนังทำเงิน หล่อนสวย...เขาไม่เถียง แต่หล่อนไม่ใช่คนที่เขา ‘รัก’ ออสตินเหยียดยิ้ม ความรัก...เป็นเช่นไร? เขาไม่อยากรู้จักและไม่ได้อยากสัมผัสมันสักนิด ความคิดไร้สาระนั่น ไม่เคยอยู่ในหัวสมอง...ความรู้สึกที่รังจะทำให้เขามีแต่ความอ่อนแอ...ความรู้สึกที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง...กลายเป็นคนโง่!! เขาสาปส่งความรู้สึกเช่นนั้นทิ้ง...ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน... คว
มือเหี่ยวย่นคลี่ผ้าห่มผืนบางห่มคลุมให้เจ้าตัวเล็ก เปิดพัดลมปัดเป่าความอบอ้าวให้เด็กหญิงก่อนจะเดินถอยหลังกลับห้องพักตัวเอง นางยังมีงานเล็กๆ น้อยรอให้ไปจัดการ ก่อนจะได้พักผ่อนในราตรีอันแสนเงียบสงบ “แพนด้า...ปะป๊านางฟ้าหน้าตาเป็นไงนะ?” เพื่อนคุยยามความมืดเข้าครอบคลุมก็คงไม่พ้นตุ๊กตาตัวโปรด มันมีชื่อเสียเลิศหรู ‘แพนด้า’ “ยายชอบพูดบ่อยๆ นางฟ้าตาสวยเหมือนปะป๊า” ลูกเสี้ยวมักจะได้รับยีนส์บางตัวมาจากผู้ให้กำเนิด และอัปสราได้รับมาเธอมีดวงตาถอดมาจากออสติน ดวงตาของเธอสีคาราเมล ไม่ได้ดำสนิท แต่ออกเหลือบๆ สีน้ำตาล หวานซึ้งเหมือนมีน้ำเชื่อมลอยฟ่อง ส่วนโครงร่างอย่างอื่นถอดมารดามาทั้งกะบิ!! “ปะป๊าของนางฟ้าต้องหล่อแน่ๆ เลย ใช่ไหม?” หางเสียงเริ่มอ่อย เมื่อเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจ ไม่มีรูปถ่ายบิดาสักใบ และเธอก็ไม่กล้าถามหาเพราะมารดามักจะดูเศร้าๆ อัปสราเลยไม่กล้าซักไซ้ มีบางครั้งเท่านั้นที่เผลอตัวหลุดปากพูด “เห้อ!! ทำไมปะป๊าถึงเห็นงานดีกว่านางฟ้า ปะป๊าไม่คิดถึงนางฟ้าบ้างเหรอ” เป็นคำพูดซื่อๆ ที่มันฝังอยู่ก้นบึ้งหัวใจ จะปริปากพูดแจ้วๆ ก็ต่อเมื่อได้อยู่
หน้าที่ทำงานหาสตางค์คือหน้าที่ของเธอ หลังจากฝืนกล้ำกลืนเรียนจนจบในชั้นอนุปริญญาแบบเลือดตาแทบกระเด็น เมื่อต้องทำงานด้วย เรียนด้วย เลี้ยงลูกด้วย ฝ่าฟันกันมากับนมแผ้วแบบที่ไม่เคยย่อท้อเช่นกัน ไม่ว่าจะทุกข์เข็ญ ลำบากสาหัส ปูชิดาไม่เคยปริปากบ่น ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตนเองอย่างภาคภูมิ ในวันที่เธอประสบความสำเร็จ เธอจึงยิ้มได้เต็มหน้า มีนมแผ้วคอยให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง “ยายจ๋าบอกว่าน้ำพริกค่ะ กินแล้วจะได้สวยๆ” เด็กช่างประจบรีบพูดสอดและตอบแทนหญิงชรา อัปสราเลยได้รับรอยยิ้มหวานของทั้งมารดาและคุณยายเป็นรางวัล “เก่งค่ะ จำแม่น...ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะคุณหนู จะได้มาทานข้าวร้อนๆ พร้อมกัน” นางชมหลานสาวตัวน้อย แล้วจึงหันไปคะยั้นคะยอบุตรสาวเจ้านาย ปูชิดาทำงานหนัก ทำทุกอย่างที่ได้เงิน ไม่เคยมีวันหยุดเมื่อต้องเร่งหาเงินไว้สำหรับบุตรสาว เพราะอายุถึงเกณฑ์ที่จะได้เข้าเรียน “แม่จ๋าเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ นางฟ้าอย่ากวนคุณยายนะจ้ะ” ปูชิดาเอ่ยกับบุตรสาว เจ้าตัวรับรู้ ก่อนจะวิ่งตื้อตามหลังนมแผ้วไปติดๆ หญิงสาวจึงเดินไปทางห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้
บทที่1.ความทรงจำสีเทา...‘อย่าทิ้งชิดาไป ได้โปรด?!!’ เสียงคร่ำครวญประหนึ่งจะขาดใจ ได้ฟังแล้วชวนให้สงสารเป็นอย่างยิ่ง เด็กสาวร่างเล็กคนหนึ่ง...หล่อนกำลังสะอื้นไห้จนตัวสั่นระริก เธอคร่ำครวญเหมือนกำลังขาดใจตายในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ใบหน้าฉ่ำน้ำตาแหงนเงย ทอดสายตาปวดร้าวมองตามเครื่องบินลำใหญ่...ที่ทะยานขึ้นเหนือน่านฟ้า จนกระทั่ง...มันหายลับหายไปจากสายตา บนเครื่องบินลำนั้น...มีบุคคลที่เธอ ‘รัก’ รักจนยอมมอบสิ่งล้ำค่าของตัวเองให้กับเขา ‘ความสาว’ สิ่งล้ำค่าที่บุพกาลีพยายามสั่งสอนให้จดจำ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นผิด แต่...ไม่อาจห้ามความปรารถนาที่ก่อเกิดขึ้นในใจได้ วังวนหวามๆ นั่นทำให้เธอลุ่มหลง มันเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน และวันนี้... ผลของมันนั้นกำลังก่อเกิดในร่างกายเธอ แต่...เขาคนนั้น กลับไม่ได้อยู่ร่วมรับผิดชอบผลงานของตัวเองร่วมกับเธอเสียนี่ และเธอเองก็ปากหนักเกินกว่าจะรั้งเขาเอาไว้ เมื่อเขากำลังไปดี ไปศึกษาหาความรู้ เพื่อกลับมาสานต่อกิจการงานที่บ้านของตัวเอง ปูชิดา ไวศยปรานนท์ เด็กสาววัย17 ปีเธอเติบโตผลิบานและสวยสมวัยแรกรุ่น แต่ใครจะคิดล่ะว่าเธอกำลังผจญกับเรื่องราวท