คอนโดหรูกลางกรุง...
สายตาคมกล้าทอดมองแสงไฟบนท้องถนน เนื่องจากความสูงของตัวอาคาร จึงทำให้มองเห็นไฟจากหน้ารถยนต์ทอดยาว เหมือนลำแสง มันมีความสวยคลาสสิคแบบที่เขาชอบ มุมนี้จึงเป็นมุมโปรดที่ออสตินมักจะมาหยุดยืนมองเพื่อผ่อนคลายความหนักหน่วงในอก...
“ยืนดูอะไรเอ่ย?” เสียงหวานชะอ้อนถาม หล่อนเบียดกายกับแผ่นหลังหนั่นแน่น มือเรียวบางคล้องที่เหนือบ่า พร้อมกับการกระแซะใส่แบบยั่วเย้าอารมณ์
“เปล่า” เสียงตอบกลับแบบเลื่อนลอย เขาหมุนตัวกลับมา ตวัดมือโอบรัดเรือนร่างอวบอัดไว้ พร้อมทั้งกระตุกยิ้มเริงร่า
ในอ้อมกอดเขาเวลานี้คือผู้หญิงที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุด หล่อนกำลังดังดั่งพลุแตก หลังภาพยนตร์ที่หล่อนแสดงนำติดโผหนังทำเงิน หล่อนสวย...เขาไม่เถียง แต่หล่อนไม่ใช่คนที่เขา ‘รัก’ ออสตินเหยียดยิ้ม ความรัก...เป็นเช่นไร? เขาไม่อยากรู้จักและไม่ได้อยากสัมผัสมันสักนิด ความคิดไร้สาระนั่น ไม่เคยอยู่ในหัวสมอง...ความรู้สึกที่รังจะทำให้เขามีแต่ความอ่อนแอ...ความรู้สึกที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง...กลายเป็นคนโง่!!
เขาสาปส่งความรู้สึกเช่นนั้นทิ้ง...ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน...
ความรู้สึกอ่อนหวานเช่นนั้นเคยเกิดขึ้น...และมันก็ถูกฝังกลบไปด้วยกาลเวลา...
เมื่อเขาถูกหักหลัง....
ชายหนุ่มสะบัดศีรษะ เขาไล่เงาร่างใครบางคนที่ผุดพรายขึ้นมา ทุกครั้งที่นึกถึง...เงาของผู้หญิงที่ครั้งหนึ่ง...เขามั่นใจ...ว่าเขารักเธอ...แต่มันคืออดีต...
“ผมจะสนอย่างอื่นทำไมล่ะ ถ้ามีคนสวยๆ อย่างคุณอยู่ในอ้อมกอด ยะหยา” เสียงของชายหนุ่มแหบพร่า สายตาของเขาเปล่งประกายความปรารถนาจนหญิงสาวสะเทิ้น
“ขอให้จริงเถอะค่ะ อีกหน่อยคุณก็เบื่อ” หล่อนขยับเบียดร่างกายอีกนิด
และชายหนุ่มก็สนองตอบ เขาไม่ตอบปฏิเสธ...เพราะไม่อยากพูดโกหก เวลานี้เขาปรารถนาหล่อน แต่ในอนาคตเขาก็ต้องเบื่อหล่อน เหมือนเช่นผู้หญิงทุกคนที่เคยผ่านเข้ามา...
มันก็เป็นเหมือนทุกครั้ง!! ทุกครั้งที่เขาเสพสังวาสกับผู้หญิง พวกหล่อนคือที่ผ่อนคลาย ที่ระบายอารมณ์หนุ่ม ไม่มี ‘ใคร’ ทำให้เขารู้สึกอยากหยุด ไม่มีใครทำให้เขาสะดุด...ผู้หญิงทุกคนถูกกันเป็นแค่ไม้ประดับ หัวใจของออสตินแข็งกระด้าง เขาปิดกั้นตัวเอง...เพราะไม่อยากเสียใจอีกครั้ง...
อดีตเขาเคยเสียใจเหรอไงล่ะ....นั่นสินะ...ในเมื่อเจ้าตัวไม่เคยเปิดปากพูด แล้วใครล่ะจะรู้ หนุ่มหล่อน้องๆ เทพบุตร รวย เพอร์เฟคแบบนี้ มีผู้หญิงคนไหนถือดี กล้าทำให้เขาผิดหวังลงคอ...
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูทำลายความคิดวุ่นวายในสมอง เขาเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มงานที่เปิดค้างไว้ แต่ตัวหนังสือ ตัวเลขในนั้น ไม่ได้เข้าหัวเขาเลยสักนิด
“คุณท่านเชิญที่ห้องค่ะ” เลขานุการสาวหน้าห้อง เยี่ยมหน้าเข้ามาพร้อมกับแจ้งให้เขาทราบ
“อืม...” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ เขาปิดแฟ้มงาน ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน ‘คุณท่าน’ จะใครล่ะ ก็มารดาของเขาไง ท่านคือผู้กุมบังเหียนใหญ่ของ ‘เทรย์เวอร์คอปเรชั่น’ อาณาจักรแห่งนี้นางพญาเป็นผู้ถือครอง แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เสียด้วยว่านางมีกึ๋นและเก่งจริง!!
มือแข็งแรงดันประตูหน้าห้อง ห้องที่มีป้ายสุดอลังติดไว้ ‘CC0’
“แม่ให้ผมมาพบ...มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ชายหนุ่มถาม เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้ เบื้องหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่แบบสบายๆ
พรึ่บ!!
ไม่มีคำตอบ คุณเยาวเรศเหวี่ยงหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยให้แทน คำตอบของนางอยู่ในนั้นทั้งหมด
ออสตินปรายตามอง เขาไม่ต้องหยิบมาเปิดดูก็พอรู้!! คงไม่พ้นข่าวฉาวๆ ของตัวเองเช่นเดิม
“เมื่อไรเราจะหยุดก่อเรื่องแบบนี้สักที ภาพลักษณ์ของเราป่นปี้หมด!!”
เสียงบ่นเคร่งเครียด นางไม่ใคร่จะพอใจ และเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่เห็นบุตรชายขึ้นหน้าหนึ่ง
“มันเกี่ยวกับการทำงานของผมเหรอไงครับแม่...ผมว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกันสักนิด”
ชายหนุ่มตอบแบบไม่ยี่หระ เขามั่วผู้หญิง ก็ไม่ได้ทำให้งานที่ทำเสียหายนี่
“อัศวิน!! แม่ขอ” นานๆ นางจะเรียกบุตรชายด้วยชื่อที่นางตั้งให้ แสดงว่าเวลานี้นางสุดทนแล้วจริงๆ
ไม่มีคำตอบจากบุตรชาย ไม่มีคำสัญญา เรียวปากสีเข้มเม้มแน่น และนางก็คงบังคับฝืนใจเขาไม่ได้อีกเช่นเคย “เมื่อไรจะลืมเด็กนั่นสักที ป่านนี้มีลูก มีผัวไปแล้วมั้ง!!” เสียงของนางอ่อนลง เมื่อพูดถึงอดีตของบุตรชาย อดีตที่ชายหนุ่มพยายามฝังกลบไว้ให้ลึกที่สุด
ชายหนุ่มตวัดสายตาแข็งกร้าวมองคุณเยาวเรศ เขารู้สึกเหมือนถูกจี้ที่แผลเก่า แผลที่กำลังตกสะเก็ด แต่มารดาย้ำ ทำให้แผลนั้นมีลิ่มเลือดผุดซึมขึ้นมา
“อย่า-พูด-ถึง-หล่อน!!”
ชายหนุ่มเค้นเสียงพูดออกมาแบบแข็งกร้าว ‘ผู้หญิง’ คนนั้นไม่ได้มีความสำคัญ และไม่ค่ากับการจำสักนิด เขาลืมหล่อนหมดสิ้นทั้งใจ ไม่มีเหลือแม้เพียงเศษเสี้ยว
“ไม่พูดก็ได้... แล้วเมื่อไรแกจะหยุดเหลวไหลล่ะหะ แกทำตัวแบบนี้... แม้แต่เด็กยังรู้เลยว่าแกกำลังประชดชีวิต...”
นางบ่น ยกมือขึ้นนวดคลึงระหว่างหัวคิ้ว ปวดศีรษะตุบๆ ขึ้นมาทันที เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบโต้ของบุตรชาย
ผ่านมา5 ปี...ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ‘เด็กนั่น’ ยังคงมีอิทธิพลกับบุตรชาย แม้หล่อนจะหายสาบสูญไป
“มันเป็นวิถีของผู้ชาย แม่อยากให้ผมเรียบร้อยแบบที่แม่คิด คงไม่ได้ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น”
ชายหนุ่มข่มอารมณ์โกรธ เขาตอบมารดาเสียงไม่สะทกสะท้าน
“มั่วราคะนะสิ แม่เห็นมีแต่ผู้หญิงเวียนเข้าเวียนออกรอบตัวแกไม่หยุด!! เมื่อไรจะลงหลักปักฐานจริงจังเสียทีล่ะออสติน อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วนะลูก”
คุณเยาวเรศกระแทกเสียงตอบ คำแก้ต่างให้ตัวเองของบุตรชาย มันช่างฟังแล้วระคายหูเหลือเกิน
“ถ้าแม่อยากอุ้มหลาน...คงต้องรออีกนาน ผมยังไม่พร้อมครับ” ชายหนุ่มตอบ เขาไม่พร้อม และไม่มีวันพร้อม!!
“เห้อ!! ออสติน...ผู้หญิงไม่ได้เหมือนกันทุกคนนะลูก ลองใช้ใจมองสิ แกอาจจะเจอคนๆ นั้น”
บทที่2.เงาอดีต!! เหมือนโลกหยุดหมุน เหมือนเวลาบนโลกจะหยุดเดิน เพียงแค่เห็น ‘เขา’ คนเดิมปรากฏกายอยู่ตรงหน้า เหมือนฝัน เป็นความอัศจรรย์ที่ไม่คาดคิด แต่ให้ตายเถอะ!! สายตาคู่เดิมของเขา ไม่ได้มีไว้เพื่อมองเธออีกต่อไปแล้ว ปูชิดาทอดสายตามองตาม เธอจึงเห็นว่า... เวลานี้สายตาคู่นั้นของออสตินกำลังโฟกัสอยู่ที่ใด!! เขายังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนทุกกะบิในความทรงจำของเธอ ที่เพิ่มเติมคือดูดีขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า!! ในขณะที่เธอทรุดโทรมลง ไม่ได้มีค่าควรคู่กับเขาเหมือนเมื่อก่อน เธอเป็นแค่คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่ไม่มีสามี ถึงจะยังคงใช้นามสกุลเดิม แต่เธอเป็นแค่ลูกที่ถูกเสือกไสออกจากบ้าน ไม่มีสมบัติติดกาย เป็นคนมีตำหนิ แม้ตำหนินั้นเขาจะมีส่วนร่วมในการก่อ แต่เขาไม่รู้นี่สิ!! “ดาร์ลิ่ง!! คุณมาช้า” เสียงหวานชะอ้อนพูด พร้อมกับสาวเท้าเร็วๆ เข้าไปหา “คนสวย คุณต้องเข้าใจว่าผมงานยุ่งแค่ไหน?” ออสตินไม่ได้แก้ตัว หล่อนควรรู้ว่าเขามีภารกิจมากมายก่ายกอง หากไม่ติดใจว่าหล่อนลีลาเด็ด!! เขาคงไม่ตามมาแบบนี้หรอก ใช่ว่าเขาไม่มีผู้หญิงข้างกายเมื่อไร เขามีจนจำหน้าไม่หมดเลยแหละ เพีย
นางเตือนด้วยความหวังดี ผิดหวังกับผู้หญิงเพียงคนเดียว บุตรชายของนางถึงกับปิดประตูใจ เขาประชดชีวิตทำตัวเป็นเพลย์บอย เพียงเพราะไม่อยาก ‘รัก’ ใครอีก ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ เขาข่มความโกรธไว้ในอก ไม่มีวันยอมให้ใครย่างกรายเข้ามาในหัวใจ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอ “แม่มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมครับ ผมงานยุ่ง ผมขอตัวก่อน” เขาเปรยเสียงแผ่ว ผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินจากไป แบบไม่ให้ท่านมีโอกาสได้รั้งไว้อีก มืออวบอูมยกขึ้นกดลงบนอกข้างซ้าย เปลือกตาหลุบลง รีบเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบๆ ขึ้นมาในบริเวณนั้น “แม่ผิดเหรอออสติน? แม่ผิดเหรอที่อยากให้ลูกประสบความสำเร็จ โดยไม่มีเรื่องกวนใจ” มีบางสิ่งที่เป็นความลับ!! มีเรื่องบางเรื่องที่นางทำ เพื่อให้บุตรชายไร้ความกังวล นางไม่คิดว่ามันจะมีผลทำให้เขากลายเป็นคนกระด้างเย็นชาแบบนี้ ช
บทที่3.เป็นการพบเจอของโชคชะตาหรือความซวย!! อาจจะเป็นเพราะปูชิดาต้องสำรองเงินไว้ให้บุตรสาวมากกว่านี้อีกสักหน่อย เธอจึงยอมรับการจ้างวานของเพื่อน โดยไร้ข้อแม้ การทำงานค่าเวลา กับการต้องมานั่งคิดสตางค์แทนเจ้าหล่อน สาเหตุเพราะสามีของเธอก่อเรื่อง จนต้องขึ้นโรงพัก...เป็นคดีความที่ต้องเจรจา รำเพยจึงจำใจลางาน... “นะชิดา แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง นึกว่าช่วยรำเพย เธอก็ได้สตางค์ด้วย” เสียงเพื่อนคะยั้นคะยอ แถมควักสตางค์ยัดใส่มือเธอเสียอีก เป็นการบีบบังคับแบบอ้อมๆ “แล้วคนที่ทำงานของรำเพยจะไม่ว่าเอาเหรอ?” หญิงสาวติงเสียงอ่อนๆ กำธนบัตรนั่นจนแน่น แม้จะไม่เยอะ แต่หากสะสมไว้มันก็มากพอที่ทำให้ตัวเองอุ่นใจเพิ่มขึ้น
แต่... “เดี๋ยวสิ...สนใจนั่งเป็นเพื่อนฉันไหม? ฉันจ่ายไม่อั้น!!” ไม่รู้เพราะอะไร เขาควรรังเกียจหล่อน แต่ปากเจ้ากรรมกลับรั้งไว้ ปูชิดาชะงัก เธอยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อช้อนสายตามองหน้าลูกค้าหนุ่ม หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ครั้งแรกเธอฉุนกึก!! เพราะคำพูดเหยียดหยามของอีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นหน้ากันจังๆ หญิงสาวกลับหวาดกลัวจนขนลุกชัน!! คนที่เธออยากหนี...คนที่เธอไม่อยากเจอ เวลานี้เขานั่งอยู่ตรงหน้า และสายตาของเขาทำให้เธอเกือบน้ำตาร่วง!! ไม่มีรอยพิศวาสเหมือนเก่า ไม่มีความอบอุ่นเหมือนเช่นเคย ในดวงตาคู่นั้นมีแต่รอยเหยียดหยาม...หญิงสาวตกตะลึงพรึงเพลิด!! เธอตัดพ้อออสตินในใจ เธอทำอะไรให้เขาล่ะ ทำไมถึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น เธอต่างหากเป็นฝ่ายถูกกระทำ เขาไม่รู้หรอก...เธอผ่านความลำบากอะไ
บทที่4.ผู้ชายอย่างเขามันปีศาจชัดๆ “ซวยชิปหาย!! มันอยากได้อะไรว่ะ ผู้หญิงมีลูก มีผัวแล้ว สวยๆ ดันไม่ชอบ!!” เก่งบ่นอุบ เขาเดินหาที่เหมาะๆ เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวของปูชิดาจากรำเพย เมื่อลูกค้าต้องการรู้และไอ้หมอนั่นคงเปย์ไม่อั้นเพราะกระเป๋าออสตินตุงพอตัว “รำเพย...พี่มีเรื่องอยากถาม?...” หนุ่มใหญ่รีบกรอกเสียงถาม หลังปลายสายกดรับ “มีอะไรเหรอพี่เก่ง หนูกำลังยุ๊งยุ่ง!!” หญิงสาวบ่นอุบ หล่อนกำลังวุ่นวายกับเรื่องสามี เธอจึงตอบเสียงเคร่งๆ เกือบจะกดวางสาย หากฝ่ายนั้นไม่รีบกรอกเสียงตอบกลับมา“อย่าเพิ่งวางนะโว้ย!! อีเพย...นี่เรื่องคอขาด หากแกตัดสายพี่ พรุ่งนี้แกเตรียมตัวตกงาน”เก่งไม่ได้ขู่ ไอ้หนุ่มนั่นดูจริงจัง เขาเชื่อว่าหมอนั่นทำได้ หากไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้อง
ในขณะที่ปูชิดาพยายามจะลืม อีกคนกลับไม่คิดเช่นนั้น ออสตินนั่งบนเก้าอี้นวมเนื้อนุ่ม ในมือของเขามีบรั่นดีรสเลิศ ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วที่ขอบแก้วไปมา เขากำลังใช้ความคิด ความคิดในการวางแผนจัดการใครบางคน...เทรย์เวอร์คอปเรชั่น... ห้องทำงานของรองประธาน...ออสตินนั่งหน้านิ้วอยู่หัวโต๊ะ เบื้องหน้าของเขาคือนักวางแผนมือดี เขากำลังคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ และโครงงานอันนี้เขาลงมือทำด้วยตัวเอง เป็นการร่างแบบสร้างอาคารพาณิชย์บนเนื้อที่กว้างพอสมควร มีเสียงแย้งจากคนรอบข้าง เมื่อเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยของคนหาเช้ากินค่ำ มันจะเกิดความยุ่งยากและอาจจะใช้เวลานานกว่าเก่า ในการเคลียร์กับคนเก่าๆ ที่พักอาศัยอยู่ แล้วก็มีหลายเสียงเช่นกันที่เห็นด้วย...เพราะการเดินทางสะดวก อาคารที่สร้างจะถูกซื้อ-ขายได้ไม่อยาก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากสามารถเจรจาตกลงกับคนเก่าๆ ได้ &ldqu
“แม่จ๋าทำงานเพลินไปนิดจ้ะ กำลังจะนอนเดี๋ยวนี้แหละ” เธอเดินมาหยุดข้างเตียง ทิ้งตัวลงนั่ง พร้อมกับยกมือลูบไปบนศีรษะเล็กๆ ของบุตรสาว “มาค่ะ มานอนกอดกัน” เจ้าตัวเล็กยิ้มแป้น แม้จะอยู่ในอาการง่วงงุน แต่เมื่อมีมารดาอยู่ใกล้ๆ อัปสราก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม สองแม่ลูกนอนกอดกันกลมหลับสนิทบนเตียงขนาดเล็ก ในขณะที่ออสตินนอนกระสับกระส่ายบนเตียงขนาดใหญ่ เตียงนอนกว้างแต่คนนอนกลับรู้สึกไม่ใคร่สบาย ที่นอนราคาแพงกลับไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย มันแข็งกระด้างจนไม่อาจนอนทอดกายได้ เขาผุดลุกขึ้นนั่ง สบถงึมงำ!! “เป็นอะไรว่ะ!!” ชายหนุ่มหงุดหงิด เขาไม่รู้สาเหตุความวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น รู้แค่ว่ามันรุ่มร้อนไปทั้งกาย และใจ&n
แต่...นี่ไม่ใช่เวลามานั่งคร่ำครวญ หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาลวกๆ มีคนจับตัวบุตรสาวของเธอไป และผู้ต้องสงสัยคงไม่พ้น....ออสติน ผู้ชายที่ร้ายกาจคนนั้น!! “คนเลว...” เธอสบถครั้งแรก ดวงตาแข็งกร้าวเพราะจำต้องฮึดสู้... เขากับเธอคงได้แตกหัก แต่เธอจะไม่มีวันปริปากบอกเขาเป็นเด็ดขาด...ความลับจะยังคงเป็นความลับต่อไป!!ห้องทำงานของรองประธาน... ออสตินยกมือกุมขมับ เขาปวดหัวกับเสียงร้องวี้ดๆ ของยัยเด็กตัวกลมนี่เหลือเกิน ไม่ว่าจะดุ จะขู่ เด็กปีศาจนั่นก็ไม่ยอมหยุดร้อง ปากแดงๆ นั่นแผดเสียงลั่น ดวงตาคู่นั้นฉ่ำน้ำตาและไหลปริ่มเหมือนก๊อกแตก เขาปวดหัว...บอกเลย “ใคร-ก็-ได้ ทำให้เด็กปีศาจนั่นหยุดร้องสักที” ชายหนุ่มตะโกนลั่น!! เขายกมือขึ้นปิดหู หูเขากำลัง
“ขอบคุณค่ะ” ปูชิดาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของหล่อนมีความยินดีเต็มเปี่ยม “แต่มีข้อแม้นะ...เธอต้องทำให้ฉันมีความสุข...ทุกคืน” ชายหนุ่มพูด เสียงเขาผสมความเหยียดหยาม ปูชิดารับรู้ เธอเจ็บแทบกระอัก แต่ทำได้แค่ฝืนยิ้ม “ต่อไป ฉันจะนอนเฉยๆ รอให้เธอทำทุกอย่างกับฉัน อยากแสดงฝีมือที่เธอฝึกกับ ‘ผัว’ จนเชี่ยว เวลานี้เธอมีโอกาสแล้วนะ...ชิดา” เขาว่ากระทบหญิงสาว แต่ทำไมกลับรู้สึกเจ็บเสียเอง เพียงแค่คิดว่าหล่อน...ครั้งหนึ่งเคยนอนครางใต้ร่างผู้ชายคนอื่น เขารังเกียจหล่อน เขาควรขยะแขยงหล่อน แต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยมือล่ะ เขารั้งคนที่ตัวเองเกลียดไว้ทำไม ‘หึ’ ปูชิดาเสก้มหน้าหลบ เธอกระทดตัวลงจากเตียง แต่ก็ต้องชะงักกึก!! 
บทที่13.รักปนแค้น!!“คุณ!” ดวงตื่นๆ เหลียวมามองเมื่อจู่ๆ ก็ถูกกระชากจนตัวปลิว“เธอคิดเหรอว่าจะหนีจากฉันพ้น!! ไม่รู้เป็นไงสิพอเผลอหน่อย หายทุกที” ออสตินตวาดลั่น จนปูชิดาคอหดด้วยความกลัว“ปล่อยชิดาสิคะ ปล่อยนะชิดาเจ็บ!!” มือแกร่งกำแน่นที่ข้อมือเรียวของเธอ มันเจ็บจี๊ดๆ เหมือนกระดูกของเธอจะแหลกเป็นผุย เมื่อชายหนุ่มลงน้ำหนักมือกดเต็มแรง เขากำลังโมโหจนฟิวส์ขาด“แค่นี้ไม่ตายหรอก แล้วก็ไม่เจ็บเท่าที่ฉันเจ็บด้วย” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เขาอยากตะโกนด่าแต่เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วหวิวออสตินสะบัดมือจนหลุด แรงเหวี่ยงทำให้คนไม่มีเรี่ยวแรง ถลาลงไปนอนกองกับพื้นหญ้า ปูชิดากลืนน้ำตาไว้ในอก เธอเม้มปากแน่น กลั้นเสียงอ้อนวอนของตัวเอง พรางกระทดหนีถอยหลัง เมื่อไม่สามารถต้านทานแรงอันมากมายมหาศาลได้ของชายหนุ่มได้“ฉันยังไม่เอ่ยปาก เธอไม่มีสิทธิ์คลานลงจากเตียง!!” ชายหนุ่มยอมเฉลยความไม่พอใจ เขาโกรธจนแทบกระอักเมื่อลืมตาตื่น แต่คนข้างกายหายจ้อย“ชิดารีบมาดู
บทที่12.มากกว่ารักคือ...ชัง “คุณสนุกไหมคะ กับการบีบคนไม่มีทางสู้” เสียงแหบเครือของนมแผ้วเอ่ยเบาๆ นางจัดการถุงอาหารที่เหลือ เก็บเข้าที่เข้าทาง มือที่กำลังตักโจ๊กใส่ปากชะงัก เขาหลุบเปลือกตาลง ข่มความโกรธไว้ ไม่อยากอาละวาดที่บ้านหลังนี้เพราะหากอัปสราเห็น เขาจะเสียคะแนนนิยม “ไม่รู้อะไร...อย่าเสนอความเห็นดีกว่ายาย” ชายหนุ่มตักโจ๊กกินต่อ หลังจากพูดจบ... “คนที่ไม่รู้อะไรเลยคือคุณต่างหากค่ะ...ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณไม่รู้” นมแผ้วเหยียดยิ้ม รอยจีบมุมปากกดลึกเผยให้เห็นความร่วงโรย ออสตินกรอกตา เขาค่อน
บทที่11.วิหคคืนรัง ความจริงออสตินไม่อยากปล่อยผู้หญิงอวดดีคนนี้กลับบ้านไปเลย แต่เพราะมีใครบางคนรออยู่ ใครคนนั้นก็เป็นคนสำคัญเสียด้วย ออสตินจึงตัดใจพาปูชิดากลับแบบอ้อยอิ่ง... ภายในรถยนต์เงียบกริบ มีแค่เพียงเสียงแอร์คอนนิชั่นที่ทำงานสมราคา มันเบากริบแต่เวลานี้กลับดังจนสารถีคนขับรำคาญ “ไม่คิดจะพูดอะไรเลยเหรอ?” ชายหนุ่มเปรย สายตาของเขามองที่ถนน แต่หัวใจของเขาเฝ้าจับตามองคนข้างตัว ริมฝีปากบวมเจ่อเพราะฤทธิ์จูบ!! เม้มจนเป็นเส้นตรง เธอแทบหมดแรงยืนกับพายุสวาทที่ออสตินสาดใส่ เขาทำเหมือนอดอยากปากแห้งมาจากไหน เขากวนเธอทั้งคืน... ไม่ได้หลับได้นอน ทำซ้ำซากจนหญิงสาวสลบคาอก ผิวกายของเธอทุกตารางนิ้วมีแต่ร่องรอยของเขาฝากไว้เต็มไปหมด ทั้งรอยฟัน รอยข่วน รอยนิ้วมือ นาทีแรกที่มองเห็นตัวเองผ่านกระจกเงา เ
เสียงตอบโต้แทบทำให้ออสตินสติหลุด ปูชิดายังไม่ยอมสยบแม้ตัวหล่อนจะสั่นระริก“ก็ลองดูกัน เธอจะทานฉันได้อีกแค่ไหนกัน?” ชายหนุ่มสวนกลับอย่างหงุดหงิด เขาตวัดอุ้มหล่อนขึ้นพาดบ่า พร้อมกับเดินย่างสามขุมเข้าห้องนอนกว้างเบื้องหน้า“ปล่อยๆ คนอย่างคุณคงไม่ใช้กำลังกับชิดาใช่ไหมค่ะ ปล่อยสิๆ ทำให้ชิดายอมคุณสิคะ หากคุณมั่นใจว่าคุณเก่งจริง” หญิงสาวตะโกนลั่น เธอแผดเสียงดังๆ หนทางรอดของเธอเหลืออีกแค่นิดเดียว หากออสตินรักศักดิ์ศรีเขาจะต้องปล่อยเธอแต่ปูชิดาคิดผิด!! เวลานี้ออสตินหน้ามืดเสียแล้ว เขาโยนศักดิ์ศรีบนบ่าทิ้ง “เธอจะเสียใจที่ลองดีกับคนอย่างฉัน!”ตุ๊บ!! ออสตินเหวี่ยงปูชิดาขึ้นไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงกว้าง หล่อนกระทดตัวหนีพร้อมกับตะโกนสวน “คุณเองก็จะเสียใจเช่นกันที่ทำกับชิดาแบบนี้”“ไม่เลยชิดา ฉันจะหัวเราะให้ก้องกับการลงมือปลุกปล้ำเธอ มีแค่เธอกับฉัน ใครล่ะจะรู้ล่ะว่าฉันใช้วิธีต่ำทราม”ความโกรธและหยิ่งทะนงตน ทำให้ออสตินไม่รอช้าที่จะซ้ำเต
บทที่10.บทลงทัณฑ์ที่แฝงด้วยความรู้สึกบางอย่าง... สันกรามข้างแก้มเป็นรอยนูนเด่น เพราะเจ้าตัวของขึ้น!! มันขึ้นปุบปับแบบที่ออสตินยังตระหนก เขาควรดีใจสิ!! วันที่รอคอยมาถึงจนได้ เขาสามารถบีบต้อนจนปูชิดาจนมุม หล่อนต้องยอมสยบให้ หากชายหนุ่มบอกให้คลานเข่ามากราบกราน ปูชิดาก็คงทำ... “ฉันจะไม่ ‘ฟัน’ เธอที่นี่ อาบน้ำแต่งตัวรอล่ะ ฉันจะส่งคนมารับ” เสียงพูดแหบพร่า ไม่ใช่เพราะความกระสัน เขากำลังโกรธ!! โกรธอะไรไม่รู้ ออสตินไม่กล้าค้นหา ชายหนุ่มเดินเร็วๆ จากไป จากที่อารมณ์ดีๆ เวลานี้เขากำลังเดือดคลั่ก!! “โว้ย!!” เสียงออสตินตะโกนลั่น แม้แต่อัปสรายังโผล่หน้ามาดู เด็กแสบเห็นแค่เพียงแผ่นหลังคุณลุงใจดี หายลับเข้าไปในตอนหลังรถยนต์คันโปรด ก่อนที่ตัวรถยนต์จะทะยานออกไปเหมือนติดปีก
“โหแม่!! พรรณไม่โง่หรอก...ไม่มีวันนั้นแน่” หญิงสาวครางเสียงหลง ผู้หญิงยุคใหม่รักสนุก ต้องสตรองและไม่โง่ การตั้งครรภ์คือหายนะของชีวิต เธอไม่ยอมเสียทรงหรอก หากฝ่ายชายไม่รวยจริง “ก็ดี เกิดเป็นผู้หญิงต้องฉลาด อย่ารักใครมากกว่าตัวเอง ความรักมันกินไม่ได้!!” ฟังแล้วรู้สึกอนาถใจแทน เป็นคำสอนของมารดาที่ค่อนไปทางเห็นแก่ตัว สรุปนางรักเงิน มากกว่าความรักที่พูดถึง เป็นเวรกรรมของทรงธรรมล่ะมั้งที่คว้าก้อนกรวดขึ้นมายกเชิดชู ทิ้งเพชรเลอค่าให้ตรอมใจตาย... พรรณนารายหลุบเปลือกตาลงอีกครั้ง หล่อนฝันหวานถึงออสติน จากความทรงจำในวัยเยาว์ ผู้ชายที่เด่นสุดคงไม่พ้นเขา แต่สายตาคู่นั้น กลับมีไว้ให้แค่ปูชิดาพี่สาว เป็นความแค้นส่วนตัวที่เธอไม่มีวันลืม พอเกิดเรื่องกับพี่สาวต่างมารดา พรรณนารายเลยเลือกที่จะนิ่งเฉย เธอไม่ได้สงสารปูชิดา ออกจะสมเพชด้วยซ้ำ คิดจะรัก ก็ต้องรู้จักป้องกัน ไม่มีใครสอนเธอ พรรณนารายเรียนร
“อย่าบอกนะว่าเพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้นะลูก!!” ท่านติงเสียงเข้ม กวาดตามองบุตรสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพราะสภาพพรรณนารายมันชวนให้คิดเช่นนั้น เสื้อผ้าที่สมอยู่ยับยุ่ง ขอบตาดำคล้ำ ดวงตาปรือเหมือนจะหลับ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง “โธ่!! เกินไปค่ะคุณพ่อ ปาร์ตี้เลิกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่พรรณขับรถไม่ไหว เลยแวะนอนที่คอนโดเพื่อน” สาวสะคราญแก้ตัว พร้อมกับเสหลบตา เมื่อเจ้าหล่อนพูดโกหก ความจริงคือพรรณนารายมั่ว SEX กับคู่ขาหนุ่มจวบจนเช้าก่อนจะโผเผกลับรังนอน เพราะไม่อยากถูกสื่อโจมตีหากกระเซอะกระเซิงออกมาจากโรมแรมตอนเช้าตรู่ “ให้มันเบาๆ หน่อยสิลูก เป็นสาวเป็นแซ่ แบบนี้จะพลอยเสียชื่อ มันไม่งาม” สาววัยละอ่อนแอบเบ้ปาก คำสอนโบราณคร่ำครึ!! หากเธอเชื่อฟังก็จะเป็นสาวทึนทึก!! อดสนุก อดได้รับสิ่งบันเทิงเริงรมย์ “แค่สนุกในกลุ่มน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก นานๆ ครั้ง” หล่อนจึงแก้ตัวแบบขอไปที
หนุ่มใหญ่มองตามภรรยาคู่ทุกข์ไปด้วยความไม่สบายใจ ความรู้สึกละอายใจเกาะกุมใจ เมื่อหันมามองบุตรสาวคนโต เขาทำไม่ถูกต้องนักในอดีต ใจดำแม้กระทั่งลูกในไส้ เพียงเพื่อหน้าตาชื่อเสียง ปล่อยให้บุตรสาวตกระกำลำบาก รู้ทั้งรู้ว่าปูชิดาไม่มีที่พึ่ง เขายังแสร้งใจดำเมินเฉยได้ลงคอ ในวันที่ตัวเองตกที่นั่งลำบาก กลับมีหน้าย้อนกลับมาหาบุตรสาว ครั้นจะอ้าปากพูดโต้งๆ ก็ให้นึกละอายใจ จึงได้แต่กระอึก กระอักเหมือนน้ำท่วมปาก... “คือ...” หญิงชราแอบเบ้ปาก นางเอ่ยปากขอตัว แต่ก็ไม่วายเหน็บอดีตเจ้านายนิดๆ หน่อยๆ “รักตัวเองให้มากๆ นะคุณหนู ไม่มีใครรักเราจริง แม้แต่พ่อ แม่” แล้วนางก็เดินหายลับไปด้านหลังบ้าน เปิดโอกาสให้พ่อ-ลูก ได้คุยกัน หนุ่มใหญ่สะอึก!! ถูกอดีตคนรับใช้ถอนหงอกจนแสบๆ คันๆ แต่จะให้ถอยทัพ ก็ไม่ได้ เมื่อแบกภาระคือหน้าตาทางสังคมไว้เต็มบ่า หากเขาถอย ก็เท่ากับปล่อยให้ตระกูลล้มคลื่น&nb