ในขณะที่ปูชิดาพยายามจะลืม อีกคนกลับไม่คิดเช่นนั้น ออสตินนั่งบนเก้าอี้นวมเนื้อนุ่ม ในมือของเขามีบรั่นดีรสเลิศ ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วที่ขอบแก้วไปมา เขากำลังใช้ความคิด ความคิดในการวางแผนจัดการใครบางคน...
เทรย์เวอร์คอปเรชั่น...
ห้องทำงานของรองประธาน...ออสตินนั่งหน้านิ้วอยู่หัวโต๊ะ เบื้องหน้าของเขาคือนักวางแผนมือดี เขากำลังคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ และโครงงานอันนี้เขาลงมือทำด้วยตัวเอง เป็นการร่างแบบสร้างอาคารพาณิชย์บนเนื้อที่กว้างพอสมควร มีเสียงแย้งจากคนรอบข้าง เมื่อเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยของคนหาเช้ากินค่ำ มันจะเกิดความยุ่งยากและอาจจะใช้เวลานานกว่าเก่า ในการเคลียร์กับคนเก่าๆ ที่พักอาศัยอยู่
แล้วก็มีหลายเสียงเช่นกันที่เห็นด้วย...เพราะการเดินทางสะดวก อาคารที่สร้างจะถูกซื้อ-ขายได้ไม่อยาก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากสามารถเจรจาตกลงกับคนเก่าๆ ได้
&ldqu
“แม่จ๋าทำงานเพลินไปนิดจ้ะ กำลังจะนอนเดี๋ยวนี้แหละ” เธอเดินมาหยุดข้างเตียง ทิ้งตัวลงนั่ง พร้อมกับยกมือลูบไปบนศีรษะเล็กๆ ของบุตรสาว “มาค่ะ มานอนกอดกัน” เจ้าตัวเล็กยิ้มแป้น แม้จะอยู่ในอาการง่วงงุน แต่เมื่อมีมารดาอยู่ใกล้ๆ อัปสราก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม สองแม่ลูกนอนกอดกันกลมหลับสนิทบนเตียงขนาดเล็ก ในขณะที่ออสตินนอนกระสับกระส่ายบนเตียงขนาดใหญ่ เตียงนอนกว้างแต่คนนอนกลับรู้สึกไม่ใคร่สบาย ที่นอนราคาแพงกลับไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย มันแข็งกระด้างจนไม่อาจนอนทอดกายได้ เขาผุดลุกขึ้นนั่ง สบถงึมงำ!! “เป็นอะไรว่ะ!!” ชายหนุ่มหงุดหงิด เขาไม่รู้สาเหตุความวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น รู้แค่ว่ามันรุ่มร้อนไปทั้งกาย และใจ&n
แต่...นี่ไม่ใช่เวลามานั่งคร่ำครวญ หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาลวกๆ มีคนจับตัวบุตรสาวของเธอไป และผู้ต้องสงสัยคงไม่พ้น....ออสติน ผู้ชายที่ร้ายกาจคนนั้น!! “คนเลว...” เธอสบถครั้งแรก ดวงตาแข็งกร้าวเพราะจำต้องฮึดสู้... เขากับเธอคงได้แตกหัก แต่เธอจะไม่มีวันปริปากบอกเขาเป็นเด็ดขาด...ความลับจะยังคงเป็นความลับต่อไป!!ห้องทำงานของรองประธาน... ออสตินยกมือกุมขมับ เขาปวดหัวกับเสียงร้องวี้ดๆ ของยัยเด็กตัวกลมนี่เหลือเกิน ไม่ว่าจะดุ จะขู่ เด็กปีศาจนั่นก็ไม่ยอมหยุดร้อง ปากแดงๆ นั่นแผดเสียงลั่น ดวงตาคู่นั้นฉ่ำน้ำตาและไหลปริ่มเหมือนก๊อกแตก เขาปวดหัว...บอกเลย “ใคร-ก็-ได้ ทำให้เด็กปีศาจนั่นหยุดร้องสักที” ชายหนุ่มตะโกนลั่น!! เขายกมือขึ้นปิดหู หูเขากำลัง
“ไม่ตลกค่ะคุ๊ณ!! เชิญไปเล่นปาหี่ที่อื่น คุณเป็นใคร? สำคัญแค่ไหนคะ จู่ๆ มาขอพบท่าน เห็นฉันว่างงานเหรอ ฉันไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกค่ะ” เจ้าหล่อนตวัดตามอง ก่อนจะตอบเสียงขุ่น ปรายตามองปูชิดาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แบบหมิ่นๆ ปัง!! ปูชิดาตบมือลงบนผิวเค้าน์เตอร์ เธอตวาดเสียงสั่น โกรธจัดจนตัวสั่นเทิ้ม “ฉันก็ไม่ตลกค่ะ และหากคุณกับทุกคนยังเฉยอยู่ ฉันจะแจ้งความ เจ้านายพวกคุณจับตัวลูกสาวของฉันมา จะให้ฉันนิ่งนอนใจเหรอไงคะ?” “ดูละครมากไปเหรอย่ะ ถึงได้มายืนละเมออยู่ตรงนี้ แม่คุ๊ณ!! มุขตื้นๆ แบบนี้เขาใช้กันให้เกร่อ แน่จริงแจ้งความเลยสิคะ อย่างคุณออสตินนะเหรอจะไปจับตัวลูกของเธอมา...เพื่อ!!” หลังจากหายตกใจ พนักงานสาวนางนั้นตวาดเสียงเกรี้ยวใส่!! ผู้หญิงตรงหน้ามอซอ สุดโทรม ชุดพนักงานที่หล่อนสวนนั่นเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ แล้วหล่อนมายืนปาวๆ อะไรอยู่ตรงนี้ แถมเรื่องที่หล่อนกุขึ้นมา มันเกินกว่าที่จะเชื่อลง!!&n
“เธอจะไปยังไงล่ะ เหาะไปเหรอ ฮ่าๆ” ชายหนุ่มพูดไปหัวเราะไป เขามีความสุข เมื่อเห็นความทุกข์ร้อนเกิดขึ้นบนใบหน้าของหล่อน สะใจว่ะ!! ‘โรคจิต!!’ หญิงสาวเม้มปากแอบค่อนว่าออสตินในใจ เขาไม่ใช่ผู้ชายแสนดีคนเดิม ผู้ชายที่เธอเคยรัก ความอบอุ่นที่เคยมีมันจางหายไปหมด ตรงหน้าเธอเวลานี้ คือออสติน แต่เขาไร้หัวใจเสียแล้ว!! ใช่...เธอรู้สึกว่าแขนตัวเองล้าๆ เพราะน้ำหนักเกินพิกัดของบุตรสาว หญิงสาวพยายามเกร็งแขน พยายามอุ้มอัปสราไว้แน่นๆ ต่อให้แขนหักเธอก็จะไม่ปล่อยลูกลงจากอ้อมแขนเด็ดขาด!! ออสตินเลิกปลายคิ้วขึ้นสูง เขาจงใจยียวน จนบรรดาการ์ดรอบตัวของชายหนุ่มพากันแปลกใจ บิ้กบอสไม่เคยเสวนากับคนที่ไม่รู้จัก? ยิ่งคนที่แทบไม่มีอะไรเลยอย่างผู้หญิงคนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ออสตินเจ้านายจะยอมลดตัว...แต่ที่พวกเขาเห็นคืออะไร? เหตุการณ์ตรงหน้านี่ เหมือนสามี-ภรรยาทะเลาะกัน!! เหมือนสามี
บทที่5.สมยอมหรือฝืนใจ กินอิ่ม นอนหลับเป็นคุณสมบัติพิเศษของอัปสรา เจ้าตัวตาปรือ พร้อมจะทิ้งตัวนอนทุกเมื่อ “แม่จ๋า...” เด็กหญิงเริ่มโยเย เมื่อง่วงเกินจะฝืน อัปสรามองหาที่ซุกตัว เจ้าตัวอ้วนปีนขึ้นไปนอนบนโซฟานิ่มๆ พร้อมกับปิดเปลือกตาลงหลับสนิทในเวลาต่อมา... ปูชิดาสูดลมหายใจแรงๆ หล่อนยกมือขึ้นกุมขมับ ทรุดนั่งด้านข้างบุตรสาวด้วยความอ่อนแรง ในสมองมีแต่ความกลัว ผสมกับความสับสน “คุณหนูคะ ‘เค้า’ ใช่ไหม?” นมแผ้วเดินกระย่องกระแย่งเข้ามาใกล้ นางกระซิบถามเสียงแผ่วๆ ชำเรืองมองออสตินด้วยสายตาปนความเคลือบแคลง ปูชิดาหน้าแหย...เธอไม่ตอบแต่กลับเสก้มหน้าหลบ เป็นการตอบคำถามในแบบที่นมแผ้วรู้ ปูชิดายอมรับแบบดุษฏี นางตวั
บทที่6.ความลับ ปูชิดาแทบจะไม่มีปากตั้งแต่เธอตอบตกลง ‘เป็นอะไรไม่รู้’ สำหรับเขา หญิงสาวได้แต่กล้ำกลืนน้ำตา ห่วงบุตรสาวสุดหัวใจ เธอจะยอมตกขุมนรก ยอมเป็น ‘ทาส’ ให้ออสตินย่ำยี เพื่อวันหนึ่งเธอจะเป็นอิสระ เพราะหากถึงวันนั้น เธอจะหนีเขาไปให้ไกลสุดขอบโลก ชาตินี้ไม่ต้องพบต้องเจอกันอีกทีเดียว ที่สำคัญ ความลับย่อมเป็นความลับตลอดไป เขาจะไม่มีทางได้รู้!! “บ้านใหม่เธอ...น่าจะพออยู่ได้นะ” บ้านหลังขนาดกะทัดรัด พออยู่ได้3ชีวิต มีเครื่องอำนวยความสะดวกตามอัตภาพ เพราะเป็นคำสั่งเร่งด่วน คนของออสตินจึงหาได้แค่นี้ แต่ก็เป็นที่พอใจของชายหนุ่มพอสมควร “เป็นไงตัวแสบ ดีไหม?” ชายหนุ่มหันไปถามคนร่วมทาง อัปสราลืมต
“ช่างเถอะค่ะคุณหนู คิดเสียว่าเป็นกรรมเวรของเรา ไหนๆ พระพรหมท่านก็คงนึกสนุกขึ้นมา เลยจูงคนที่ไม่ควรมาเจอกัน ให้มาอยู่ใกล้กัน เก็บเกี่ยวความสุขไว้เยอะๆ เถอะค่ะในวันที่เจ็บหนัก เราจะได้มีสิ่งปลอบประโลมใจ”“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าตอบ เธอเห็นด้วยกับนมแผ้ว ช่วงเวลานี้เธอควรมีความสุข เมื่อเธอได้แอบมองคนที่เธอรัก แถมอัปสรายังได้อยู่ใกล้บิดา... หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ เธอกลั้นน้ำตาไว้ เงยหน้าขึ้นยิ้มเซียวๆ ให้คนข้างตัว นมแผ้วยิ้มอ่อนๆ นางภาวนาในใจและหากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนขลัง นางไม่รอช้าที่จะบนบาน หากสำเร็จจะให้นางทำอะไรก็ได้ ขอแค่คุณหนูได้ยิ้มเต็มหน้า มีคนเคียงข้างและคอยดูแลสองแม่-ลูก สืบต่อไปในอนาคตก็พอ ต้นไม้ใบหญ้างดงามสดชื่น แย่งกันผลิดอกออกผล เพราะมีคนดูแลเอาใจใส่ กลิ่นดอกไม้หอมๆ โชยกรุ่นไปทั่ว ทำให้บรรยากาศโดยรอบน่าอยู่กว่าเก่าเป็นกอง&
‘เอาน่า’ ปูชิดาปลอบใจตัวเอง...ยังมีเวลาอีกต้อง3 วัน เธอไม่ควรตีตนไปก่อนไข้ ถึงเวลานั้น เธออาจจะ...อาจจะนะ อาจจะหาทางเลี่ยงสวยๆ ให้ตัวเองได้ จานกับข้าวถูกลำเลียงไปวางบนโต๊ะอาหารเล็กๆ เธอจัดจาน ช้อนแบบไม่รีบ เมื่อมีเรื่องคิดอยู่ในหัวตลอดเวลา “วันนี้ทำอะไรทานคะคุณหนู” นมแผ้วเดินเข้ามากระซิบถามใกล้ๆ ปูชิดาสะดุ้ง!! เธอหันไปยิ้มแหยๆ ให้กับหญิงชรา “ต้มจืด ผัดผักรวม หมูทอดค่ะนม” อาหารง่ายๆ แต่เป็นของโปรดของอัปสรา ไม่ว่าเมื่อไหร ปูชิดาจะนึกถึงลูกสาวก่อนอื่น “นมไปทานในครัวนะคุณหนู” นางเหลือบมองออสติน เขายังนั่งกักท่าอยู่ และไม่มีทีท่าจะกลับ อาหารมื้อนี้คงมีอาคันตุกะไม่รับเชิญรวมวง
หญิงสาวซุกหน้ากับแผงอกอุ่น “อ๋อ!! ทุกวันนี้ชิดาขี้เหร่งั้นสิ” เธอตอบเสียงแผ่ว “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น ความหมายของฉัน คืออยากเห็นชิดาดูดีไม่มีที่ติต่างหาก” ออสตินรีบแก้ตัว “เรื่องพิธีมันสมควรมีก็จริงค่ะ เมื่อมันเป็นประเพณีการทางสังคม และเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง...ชิดารักคุณ ชิดาไม่เคยหวังไกล...ทุกครั้งที่ชิดาหลับ ชิดาจะภาวนาก่อนหลับ ขอให้เวลาที่ชิดาลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างจะยังคงเหมือนเดิม” หญิงสาวช้อนนัยน์ตาหวานฉ่ำมองสบตาสามี เธอไม่เคยหวังไกลถึงขนาดนั้น ขอแค่ความเมตตาของเขาบ้าง แค่นั้นก็คือสิ่งที่ปูชิดาปรารถนา ออสตินกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาเปรยเบาๆ “ฉันเป็นคนโง่ ที่แสร้งทำเป็นคนฉลาด อวดตัวว่าข้าเก่ง ข้ามีดีจนใครๆ ก็อยากได้ แต่ไม่เลย...ฉันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่ร่ำร้องหาความรัก ความรักที่เคยเกิดขึ้น
บทที่23.มหาเศรษฐีสิ้นลาย... ประตูห้องนอนถูกปิดและล็อกเพื่อกันคนภายนอกเข้ามาภายใน ในเวลาที่ไม่เหมาะสม วันนี้ออสตินอารมณ์ดี เขามีแผนเด็ด แผนเด็ดที่ทำให้เขากระชุ่มกระชวย จนปูชิดาเริ่มระแวง สายตาของสามีฉ่ำวาวจนหล่อนขนลุก “อาบน้ำด้วยกันนะ...ทูนหัว” น่านไง!! เสียงออดๆ ของออสติน เขาเดินย่างสามขุมเข้าหา และเธอก็คงไม่สามารถปฏิเสธความตั้งใจของเขาได้ มันจึงลงเอ่ยในอ่างน้ำกุชชี่ ขนาดใหญ่ในห้องน้ำภายในห้องนอน“โอย...แสบตา” ออสตินแสร้งโวย วันนี้เขาอ้อนเมียสำเร็จ เป็นการอาบน้ำด้วยกันครั้งแรก หลังจากหอบหิ้วกันมาอยู่ใต้ชายคาคฤหาสน์เทรย์เวอร์เกือบ1 อาทิตย์ โดยที่มาดามเยาวเรศอ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ “ขอโทษค่ะ ชิดามือลื่น...”เพราะเธอเขินจัด เลยหลับหูหลับตาถูฟองน้
“เอาเป็นว่า...ฉันยอมรับแม่นั่นก็ได้...แต่แกต้องให้สัญญา แกจะต้องมีหลานให้ฉันอีก5 คน” นางพูด หลังเงียบไปหนึ่งอึดใจ รอยยิ้มของมาดามเยาวเรศทำให้ออสตินหัวเราร่า คุณแม่ก็คือคุณแม่วันยังค่ำ หากอยากบีบให้นางก้มหัว หรืออ่อนให้ นางก็ต้องไว้เชิงบ้าง “ตามนั้นเลยครับ อีกแปดเดือนไม่เกินนั้น แม่ได้อุ้มหลานคนที่สองแน่!!” ออสตินคุยโอ่!! เขารวบกอดมารดาแน่นๆ “แม่ไม่ได้เป็นลมใช่ไหมครับเมื่อสักครู่?” ชายหนุ่มกระซิบถามปัญหาคาใจ เขาว่ามันแหม่งๆ พิกล “มันคือการแสดง แม่น่าจะได้ออสก้านะ...ว่าไหม?” นางยิ้ม สอดมือกอดเอวสอบของออสตินไว้ นางไม่ได้กอดบุตรชายนานเท่าไรแล้วนะ “ครับ...เนียนมาก” ชายหนุ่มหัวเราะ “อีกคำถามนะออสติน...นามสกุลนางฟ้า แกจั
“แกใจดำมาก...ออสติน แกเป็นลูกอกตัญญู กล้าทิ้งฉันเพราะผู้หญิงคนเดียว” ชายหนุ่มถอนใจ เขาลุกจากที่นั่ง เดินมาทรุดตัวนั่งด้านหน้ามาดามเยาวเรศ ออสตินคุกเข่า เขาก้มลงกราบแทบปลายเท้านาง ก่อนจะยืดตัวขึ้นนั่ง มองสบนัยน์ตามารดาด้วยความเศร้า “ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยครับ ชิดาท้อง เธอเลี้ยงลูกคนเดียวมา4ปี โดยที่ไม่คิดบอกพวกเรา ผมผิด... ผมอยากชดเชยให้เธอ หากแม่จะบีบให้ผมทิ้งเธออีกครั้ง ผมคงทำไม่ได้ ผมไม่ได้เลือกนะครับ แต่ผมจำเป็นต้องทำ...ถ้ามันผิดต่อแม่ ผมก็จนใจ ผมไม่ได้ทิ้งแม่ ผมไม่ได้เลือกชิดา ผมทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุด” “เหอะ!! ต่อให้แกพูดอย่างสวยหรูยังไง เรื่องมันก็จบตรงที่แกเลือกแม่นั่น” นางถอยหลังสองก้าว มองสบนัยน์ตาบุตรชาย ดวงตาของนางแดงก่ำ เพราะกำลังเสียใจสุดขีด “แม่จะให้ผมทำยังไงครับ นั่นเมีย นี่แม่ ผมเลือกยืนข้างฝ่ายไหน ผมก็เป็นคนผิดอยู่ดี” 
บทที่22.คุณแม่ขอร้อง เป็นอีกวันที่ออสตินเริ่มต้นวันทำงานด้วยความสุขเต็มเปี่ยม เดิมทีเขาเบื่อหน่ายหน้าที่ที่แบกรับไว้จนหนักบ่า แต่ทำไงได้เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเทรย์เวอร์ เวลานี้เขามีภาระที่หนักหน่วงให้แบกรับเพิ่มเติม แต่เป็นความเต็มใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่คลี่คลายปัญหาของตัวเองกับปูชิดาได้ เขากับปูชิดากลับมาเหมือนเดิม...เพิ่มเติมคือรักยิ่งกว่าเดิม ไม่มีความคลางแคลงในใจหลงเหลืออยู่ เหลือก็แค่ปัญหาหนักอกเพียงอย่างเดียว นั่นคือมารดา... หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ในห้องทำงานสีขรึม ออสตินนั่งอยู่ตรงนั้น เขากำลังก้มหน้าอ่านเอกสารสำคัญ ก่อนจะลงนามเซ็นกำกับ หากเขาพอใจ...มันเป็นวันเรียบง่ายอีกหนึ่งวัน ไม่มีงานเร่งด่วนชวนให้ปวดหัว ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงให้ต้องแก้ปัญหา และในมือเขาคือแฟ้มงานของบริษัทไวศยปรานนท์ ผลกำไรเกินคาดของบริษัทนั้นเกินกว่าที่คาดไว้ เขาไม่คิดว่าคุณทรง
“อืม...ดี ฉันมีโปรแกรมให้เธอเรียนรู้อีกเยอะ” เรียวไม่ได้ขยาย โปรแกรมที่แป้งหอมต้องเรียนคืออะไร เพราะที่เขาวางแพลนไว้คร่าวๆ คือการทำให้แป้งหอมเพอร์เฟคที่สุด สำหรับการเป็นภรรยาใครสักคน... และเมื่อแป้งหอมกับเรียว เดินเข้ามาในสถานที่ทำงานพร้อมกัน หญิงสาวจึงตกเป็นเป้าสายตา พร้อมกับคำนินทา ที่ตามมาในไม่ช้า เป็นเพราะแป้งหอมอยู่ไม่สุข เธอขยันทำงาน จนทำให้ในวันทำงานวันที่2 เธอก็ได้ยินเรื่องที่ขาเม้าทั้งหลายซุบซิบกันเข้าพอดี “เธอๆ ว่าไหม ยัยคนที่เดินตามคุณเรียวต้อยๆ ไม่พ้น เมียน้อยคุณเรียวแหงๆ” แป้งหอมสะดุดกึก...เธอรีบหลบหลังซอกตู้ มือเรียวกำแน่น “พูดแบบนั้นได้ไง คุณเรียวยังโสด อย่างแม่นั่นก็แค่เมียเก็บ ทำกำแหงชูคอ อีโธ่!!” 
เรียวกดปิดทีวีจอยักษ์ ภาพดับวูบไป เขาหันมาหาแป้งหอมพร้อมกับเริ่มต้นอธิบายเนื้องานช้าๆ ระหว่างนั้น แป้งหอมแทรกถามเป็นระยะ หล่อนจริงจัง ใส่ใจ จดรายละเอียดไว้ได้เกือบหมด จนเรียวเองยังทึ่ง หลังแป้งหอมเข้าใจเนื้องานทั้งหมดเธอปิดสมุด เตรียมตัวถอยหลังกลับเข้าห้องพักเหมือนเดิม เรียวถามก่อนที่หญิงสาวจะผุดลุกขึ้นยืน “เธอจบอะไรมา?” เขาไม่ได้ดูแคลนหล่อน เรียวอยากรู้เรื่องของแป้งหอมบ้าง แป้งหอมชะงัก เธอตอบกลับเสียงแผ่วๆ “หอมกำลังเรียนในวิทยาลัย’ เปิดแห่งหนึ่งค่ะ ยังไม่จบ” เพราะการทำงานกินเวลาเธอไปเกือบหมด ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ แต่เธอก็ไม่เคยท้อ ปริญญาคือเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของแป้งหอม เธอจะทำให้คนรอบตัวเห็น เด็กคนหนึ่งที่ไม่มีใครเลย ก็ประสบความสำเร็จได้ เรียวพยักหน้าทำเหมือนเข้าใจ เขาสอดมือล้วงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเครดิตกา
บทที่21.จับคู่ชู้ชื่น เปรียวเปิดประตูห้องพักของแป้งหอม เขานำอาหารตามสั่งมาส่งให้เจ้านาย พร้อมกับโทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยม ชายหนุ่มถอยหลังกลับ เขาเดินไปชะโงกหน้าดูหมายเลขห้อง เขามาไม่ผิดห้องนี่นา แต่ที่เขาเห็นมันคืออะไร? เรียวนอนเอนๆ ดูภาพยนตร์ โดยมีแป้งหอมนั่งอยู่ใกล้ๆ เจ้านาย ขยันส่งข้าวโพคั่วให้คนข้างๆ และหล่อนก็อ้าปากงับโดยไม่แย้ง เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น...มันไม่ใช่วิถีคาสโนว่า เปรียวคาดเดาว่า เจ้านายอาจจะกำลังสะบึมแป้งหอม เมื่อเรียวทุ่มทุ่นสร้างขนาดนี้ เขาจึงไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็น “ฮ่าๆ คุณตลกบ้าๆ หอมไม่เคยดูหนังอะไรตลกเท่านี้เลย” ถ้าว่ากันตามจริง แป้งหอมไม่เคยชมภาพยนตร์เลยด้วยซ้ำ เธอไม่มีเวลาว่าง ทุกนาทีของเธอคือการทำงาน 
“มันดีมาก ดีเกินจนหอมกลัว” หญิงสาวนั่งคอห้อย เกิดมาเธอไม่เคยสบายแบบนี้ ตอนอยู่ในสถานสงเคราะห์ นอนรวมๆ กันใช้สอยพื้นที่ห้องร่วมกัน แต่ต้องคอยระวังสมบัติส่วนตัว ถึงถูกอบรมมาอย่างดี แต่เมื่อพวกเขาขาด ก็จำเป็นต้องไขว่คว้า ความอดยากนำมาซึ่งการทำผิด แม้จะไม่ตั้งใจ...แต่ก็คือก้าวแรกที่ทำให้ติดเป็นนิสัย เธอไม่โทษพวกเขา หากพอแบ่งปันได้ แป้งหอมก็จะทำเป็นลืมๆ แต่หากสิ่งนั้นสำคัญมาก เธอจะเก็บรักษาและระวังเป็นอย่างดี “กลัว?” เรียวเลิกปลายคิ้วขึ้นสูง เขากดปิดทีวีจอยักษ์ หันมาสนใจคนข้างตัว ที่นั่งหัวห้อยเหมือนกำลังคิดหนัก “ใช่ค่ะ...ขอหอมไปอยู่ห้องอื่นได้ไหมคะ ที่นี่มันเหมือนสวรรค์ และหอมไม่ใช่นางฟ้า” ของอ้างของหล่อน ทำเอาเรียวเกือบขำ...แป้งหอมช่างสรรหาคำมาแก้ต่าง เป็นข้ออ้างที่ฟังแล้วอารมณ์ดี “ลองดู...ไม่ใช่นางฟ้