"ดูนั่นสิ แสดงเป็นต้นไม้ซะสมจริงเลย"
"พี่ตฤณ หลานตั้งใจออก ดูสิคะจ้องพี่ตฤณไม่วางตาเลย" สิ่งที่ไออุ่นกังวลมากที่สุดคือกลัวพ่อพ่อของเขามาไม่ได้ พอได้เห็นว่าพ่อพ่อมาได้ก็จ้องตาไม่กะพริบเลย เอ็นดูเจ้าต้นไม้น้อยนั่น
"พี่ผิดนัดครั้งก่อนคงกลัว" ครั้งนั้นเป็นงานวันเด็ก ไออุ่นได้ขึ้นแสดงเต้นประกอบเพลง แววตาเศร้าหมองในวันนั้นทำให้พี่ตฤณรู้สึกผิดไม่น้อย รูปที่ฉันตั้งใจถ่ายไปอวดกลายเป็นภาพแห่งความเจ็บปวดไปซะงั้น แต่พี่ตฤณก็สั่งให้คนไปอัดใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเอาไว้เตือนใจว่าไม่ควรผิดสัญญากับใครอีก
"ครั้งนั้นเต้นเกือบไม่ออก เอาแต่มองหาพ่อพ่อ"
"พี่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อของไออุ่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะ" พี่ตฤณยื่นมือมาแตะบ่าฉันเบา ๆ แล้วหันไปมองลูกสาวที่กำลังทำการแสดงอยู่บนเวที วันนี้พ่อพ่อของไออุ่นออร่าจับมาก ๆ แม่ ๆ หลายคนมองตาไม่กะพริบ โดยเฉพาะแม่ของน้องอิ๊งที่นั่งอยู่ข้างหลัง เพราะไม่ค่อยได้เห็นพี่ตฤณสักเท่าไหร่
"แสดงจบก็กลับบ้านได้เลย พี่ตฤณจะกลับก่อนก็ได้นะคะ" งานพี่ตฤณรออยู่อีกมาก ไออุ่นเห็นหน้าพี่ตฤณแล้วก็น่าจะพอใจแล้วล่ะ ได้ข่าวว่ามีประชุมอีก
"รอกลับพร้อมกันนี่แหละ ถ่ายรูปกันก่อนสิ" พี่ตฤณไม่ได้มองหน้าฉันเลยสักนิด ไม่คิดเหมือนกันว่าผู้ชายที่รักสันโดษและครองความโสดมาจนอายุสามสิบแปดปีจะรักเด็กได้มากขนาดนี้ พี่ชายของฉันทั้งหล่อและรวยทำงานเก่งทำไมกันถึงไม่ยอมมีครอบครัวสักที เลี้ยงไออุ่นได้ดีขนาดนี้ถ้ามีลูกเป็นของตัวเองน่าจะหลงจนไม่ยอมไปไหน
นี่แค่หลานยังขนาดนี้
"พี่ตฤณมีประชุมไม่ใช่หรือคะ"
"ไออุ่นคงไม่อยากให้พี่กลับ ดูสายตาเจ้าตัวเล็กนั่นสิ"
"พี่ตฤณจะไม่มีครอบครัวจริงๆ หรือคะ" ฉันหันไปถามพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจริงจัง บอกตามตรงฉันก็อยากเห็นพี่ชายคนนี้มีความสุข พี่ตฤณทำงานหนักมาตั้งแต่อายุยังน้อย ทำงานแทนพ่อสานต่อธุรกิจแทนพ่อทุกอย่าง พอพ่อเสียเวลาให้ตัวเองแทบไม่มี ชีวิตวัยรุ่นกินดื่มเที่ยวแทบไม่ได้เห็น
"แล้วทุกวันนี้พี่ไม่มีครอบครัวหรือไง"
"หมายถึงเมียค่ะ"
"เราเนี่ยนะ" โดนจิ้มหน้าผากแทบหงายหลัง
"ทำไมล่ะคะ อิงถามตรง ๆ แล้วนะ เมื่อไหร่พี่ตฤณจะมีเมีย"
"แล้วทำไมถึงอยากให้พี่มีเมีย พี่เลี้ยงเรากับไออุ่นก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว" ฉันทำปากคว่ำทันทีแต่พี่ตฤณน่ะรีบยกมือปิดปากกลั้นขำ สะใจหรือไงที่ทำให้ฉันโมโหได้ คอยดูเถอะจะฟ้องไออุ่น
"อะไรเล่า พี่ตฤณอย่าพูดแบบนี้นะ คอยดูจะบอกไออุ่นให้งอนด้วย"
"พี่ไม่ได้โหยหาคนอื่น ครอบครัวของเรามีแค่นี้ก็มีความสุขอยู่แล้ว"
"แต่ก็คิด ๆ ไว้บ้างใช่มั้ยคะว่าถ้ามีคนอื่นเข้ามาอาจจะทำให้ครอบเรามีความสุขมากกว่านี้"
"ไม่ต้องห่วงพี่หรอก ยังไงพี่ก็มีไออุ่น เรื่องสืบทอดมรดกหรือว่าเลี้ยงดูตอนแก่น่ะ อย่าห่วงพี่เลย" อ่านใจฉันออกหมดเลยเหรอเนี่ย นอกจากทำงานเก่งแล้วเรื่องดูแลเอาใจใส่เนี่ยพี่ตฤณไม่เป็นสองรองใครเลยจริงๆ ตั้งแต่เกิดมานอกจากแม่ก็มีพี่ตฤณนี่แหละที่รู้ใจฉัน
"ซึ้งจัง"
"ฟังแล้วจำ ไม่ต้องถามเรื่องนี้กับพี่อีกเข้าใจมั้ย"
"สามสิบแปดแล้วนะคะ"
"ยังไม่หยุดอีก"
#ไคล์
"นี่เก็บกระเป๋าจะไปไหน ไปตั้งอาทิตย์หน้าเชียวนะไคล์ แล้วนั่นกระเป๋าตั้งกี่ใบกะไปแล้วไม่กลับมาเลยหรือไง" พี่แคทมาถึงก็ต้องตกใจที่เห็นผมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเกือบห้าใบ
"ใจก็ไม่อยากกลับมาอีกหรอกครับพี่" พี่แคทถอนหายใจแล้วนั่งลงช่วยผมพับเสื้อที่พับยังไงมันก็ไม่เป็นทรงเรียบร้อยให้สักที
"มานี่พี่ทำให้ ในกระเป๋านั่นยัดหรือว่าพับ"
"พับๆ ยัดๆ ไปนั่นแหละครับพี่" ผมก็ยังเหมือนเดิม ความเรียบร้อยเรื่องแบบนี้มีที่ไหน
"แม่บ้านก็มีนะเธอ"
"พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของส่วนตัว" นอกจากพี่แคทก็มีแค่อิงเท่านั้นที่ผมยอมให้ยุ่งกับของส่วนตัว
"แน่ใจว่าจะไม่ต่อสัญญาแล้ว"
"อืม คิดมานานแล้ว พี่ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมผมเลยนะ ผมเบื่อ"
"เออๆ รู้แล้วว่าเบื่อจริง ฉันก็อยากกลับไปอยู่ไทยแย่ละ เบื่อแล้วเหมือนกัน" พี่แคทดูแลศิลปินดาราซุปตาร์มาแล้วเป็นสิบ บางคนก็เอาแต่ใจไม่สนสี่สนแปดหาแต่เรื่องมาให้ผู้จัดการอย่างเจ๊แกปวดหัว
"กลับไปใช้เงินบ้างก็ดีนะพี่"
"เงินก็อยากใช้งานก็ยังอยากทำอยู่ แต่ฉันเบื่อเด็กสมัยนี้เหลือเกิน เตือนอะไรมันไม่ค่อยจะฟัง ถ้ามีเด็กดีๆ หลุดมาฉันก็อาจจะรับงาน แต่ก็ ขอพักยาวๆ ก่อน เหนื่อย"
"อีกสองวันผมจะบินแล้วนะ"
"รีบเกินไปละ จะไปหาใคร"
"หาเมียสักคนมั้ง"
"ดูพูดเข้า เมียแมวอะไร " ผมพูดหยอกพี่แคทไปงั้น
"อยากมีเมียอะครับ อยากมีเมีย อยากมีเมีย"
"ปากแบบนี้นะ คอยดู " พี่แคทชี้หน้าผมแล้วถลึงตาใส่ อะไรกันก็แค่พูดเล่น
-------
"อุ่นอยากขึ้นเครื่องบิน เครื่องบิน เครื่องบิน""รู้แล้วค่ะ ดี๊ด๊าใหญ่เลยนะเรา ป้าสุดใจเอากระเป๋ามาครบแล้วใช่มั้ยคะ""เอามาครบแล้วค่ะ" ฉันตรวจเช็กความเรียบร้อยของทุกคน โดยเฉพาะเด็กหญิงไออุ่นเพราะเมื่อวานมีไข้ต่ำ ๆ กำหนดเดินทางวันนี้ตอนแรกจะเลื่อนไปก่อน แต่งานที่นู่นดันมีปัญหาก็เลยเลื่อนไม่ได้ ปรึกษาคุณหมอแล้วว่าอาการของไออุ่นไม่รุนแรงกินยาลดไข้และเช็ดตัวบ่อยๆก็จะดีขึ้นดีขึ้นจริง ๆ นั่นแหละ เสียงแจ๋วเชียว"ถึงแล้วก็โทรมาบอกพี่ด้วย ""พ่อพ่อจะตามไปวันไหนคะ""อีกสองวันครับ ไหนจับตัวสิ ตัวไม่ร้อนแล้วคนเก่ง" ไม่ใช่แค่พ่อพ่อหรอกที่เป็นห่วงอาการของไออุ่นฉันเองก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ กลัวว่าลูกจะเป็นหนักระหว่างนั่งเครื่อง แต่บินแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้วเมื่อกี้ก็เพิ่งป้อนยากันไปกว่ายาจะหมดฤทธิ์ก็ตั้งสี่ชั่วโมงถึงก่อนชัวร์อยู่แล้ว"ต้องกินยา อุ่นไม่ชอบเลย""ถ้าไม่กินยาก็จะอดขึ้นเครื่องบินนะ""กินก็ได้ค่ะ""กินไปแล้วค่ะ เมื่อกี้ให้ป้าสุดใจป้อนแล้ว" ฉันทำหน้าเหนื่อย ๆ ถ้าไม่ได้เดินทางไออุ่นคงไม่ยอมกินยาง่ายขนาดนี้ งานนี้ไม่ยากเลยอดเป็นห่วงไม่ได้"เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่สบายใจเรื่องลูกเ
"ป้าสุดใจ ไออุ่นล่ะคะ ไออุ่นไปไหนคะ " ฉันรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วหันไปย้ำถามหาไออุ่นจากป้าสุดใจอีกครั้ง สีหน้าของป้าดูไม่ดีเลย มือไม้ของฉันมันสั่นไปหมด ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า"คือป้า ป้าแค่หันไปหยิบของในกระเป๋า หันมาก็ไม่เห็นน้องแล้วค่ะ" ใจฉันกระตุกวูบเชื่อว่าสิ่งที่ป้าสุดใจพูดคือความจริง ท่านเองก็ทำท่าจะเป็นลมอยู่เหมือนกัน"ป้านั่งพักก่อนนะคะ อิงจะไปประชาสัมพันธ์ อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลม""ได้ค่ะๆ คุณอิงป้าขอโทษนะคะ น้องเพิ่งหายไปเมื่อกี้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเครือนั่นทำให้ฉันแอบน้ำตาคลอไปด้วย ห่วงทั้งป้าสุดใจและลูกสาวเพียงคนเดียว"ไม่เป็นไรค่ะ ไออุ่นคงซนตามประสา เดี๋ยวอิงกลับมานะคะ ป้ารออยู่ตรงนี้นะคะเผื่อไออุ่นกลับมา""ได้ค่ะๆ "ฉันรีบวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน โดยไม่ลืมจะหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาพี่ตฤณ พอพี่ตฤณรู้เรื่องก็ร้อนใจไม่ต่างจากฉัน"ใจเย็นๆ แล้วตอนนี้กำลังจะไปไหน""ประชาสัมพันธ์ค่ะ ถ้าวิ่งหากันคงไม่เจอ พี่ตฤณน้องกลัว ฮึก" ฉันกลัวตามหาลูกไม่เจอ กลัวไปหมด สนามบินทั้งใหญ่และกว้างขนาดนี้วิ่งตามหาวันก็คงไม่เจอ ไออุ่นหายไปไหน? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ
พอเคลียร์เรื่องที่สนามบินเสร็จฉันก็รีบหยิบมือถือไลน์ไปแจ้งพี่ตฤณพร้อมกับถ่ายรูปไออุ่นส่งไป พี่ตฤณส่งสติ๊กเกอร์ปาดเหงื่อกลับมาตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ คงยุ่งอยู่จริง ๆ ถึงไม่โทรมาปกติพี่ตฤณจะต้องโทรกลับทุกครั้ง"กลับโรงแรมกันก่อนนะคะ""ดีเลยค่ะ เจ้าตัวแสบคงเหนื่อยแย่" ไออุ่นหลับไปแล้ว ป้าสุดใจอุ้มไออุ่นไม่ยอมวางจนขึ้นรถของโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ พอถึงห้องพักป้าสุดใจก็แยกพาไออุ่นไปนอน ห้องที่พี่ตฤณจองให้เป็นห้องคอนเน็กเชื่อมกันถึงสามห้องเหมาะสำหรับครอบครัวมาก ๆ เดาว่าพี่ตฤณคงมาพักที่นี่กับพวกเราด้วย"ป้าสุดใจก็ไปพักเถอะค่ะ""คุณอิงก็พักบ้างนะคะ" ฉันพยักหน้ารับ คงยังหลับตาไม่ลง สายตาของฉันจ้องไปที่หน้าจอมือถือตลอดเวลา เราได้เจอกันแล้วสินะ พ่อลูกได้เจอกันแล้ว จากนี้ไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาไว้เลย คนมีเป็นร้อยเป็นล้านทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ช่วยไออุ่นไว้ ฉันนั่งคิดเรื่องนี้นานนับชั่วโมงคิดเผื่อไปด้วยว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นจะเป็นยังไงเขาจะแย่งลูกไปจากอกฉันเหมือนในละครหรือว่าเราจะคุยตกลงรื่องลูกกันดี ๆ แบ่งเวลาให้กันอย่างเท่าเทียม อีกประเด็นที่ฉันคิดคือไคล์อาจ
"ทำงานดีมาก เร็วมาก อะไรวะเนี่ยอิง" ผมทั้งโกรธ โมโห แล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน ผมถูกอิงโกหกเรื่องท้องในวันนั้น ผิดที่ผมด้วยแหละที่ไม่เช็กให้ชัวร์ยอมปล่อยอิงไปง่าย ๆ เด็กที่ชื่อไออุ่นเป็นลูกของผมลูกของผมกับอิง ผลผลิตจากในคืนนั้นที่เราพลาดด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้เขาอายุสามขวบแล้ว ให้ตายสิกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีลูกใช้เวลาเกือบสามปีเลย ผมพลาดหลายๆ อย่างไปเยอะมาก"ผมช่วยได้เท่านี้นะครับ""ที่เหลือผมจัดการเอง เอาล่ะค่าจ้างที่เหลือผมจะโอนเข้าบริษัทให้ ทิ้งเลขบัญชีคุณไว้ให้ผมด้วย"ทำงานดีแบบนี้ไม่ให้พิเศษได้ยังไง และนี่คือเหตุผลที่ผมรีบโทรหาอิงแล้วนัดออกมาคุยข้างนอก แม้ว่ามันเสี่ยงมากก็ตามแต่ผมก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหลังจากกลับจากสนามบินผมก็ร้อนใจเรื่องของอิงกับเด็กคนนั้นมาก รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วก็มีจริง ๆ นักสืบโทรมารายงานเรื่องอิงให้ผมฟังอย่างละเอียดพร้อมส่งข้อมูลเท่าที่หามาได้เข้าไลน์ หลังจากวางสายผมก็โทรนัดอิงส่งโลเคชั่นไปให้แล้วนั่งมองรูปเด็กน้อยตากลมโตไปด้วย รอยยิ้มนั่นเหมือนอิง ไออุ่นคือลูกสาวของผม เธอน่ารักมาก มีบางส่วนที่เหมือนผม ปากมั้งไม่แน่ใจโรงแรม K INผ
ทุกคนหลับหมดแล้ว ป้าสุดใจ ไออุ่น เวลาพักผ่อนนี่เนอะเที่ยงคืนแล้วด้วยฉันเพิ่งกลับถึงห้อง กลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ เราเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ไคล์สัญญาแล้วว่าจะไม่ใช้ข้อกฎหมายมาต่อรองเรื่องลูก เรื่องอื่น ๆ เราก็ตกลงกันเรียบร้อยเพราะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ค่อยสบายใจ ไคล์เพิ่งเดินทางกลับมาแล้วเขาก็มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างลำบากเพราะแฟนคลับเยอะ ผู้หวังดีก็มีหวังร้ายก็คงมีเหมือนกันโดยเฉพาะพวกที่อยากได้เงินจากการขายรูปถ่ายให้กับสำนักข่าว ฉันไม่สบายใจเรื่องนี้เอามาก ๆME: ถึงห้องแล้วKAI : โอเค ถึงแล้วเหมือนกัน อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเลยนะฉันไม่ใช่ไออุ่นนะแต่ก็ทำให้เผลอยิ้มแล้วพิมพ์ตอบกลับไปME : เรื่องคำตอบ คือว่าKAI : ไม่รีบ ค่อย ๆ คิด ไคล์จะจีบอิงทุกวันใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าไคล์จะทำแบบนี้ เขาขอคบโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดบอกว่าจะจีบทุกวันจนกว่าฉันจะใจอ่อน ดูพ่อไออุ่นสิตลกชะมัดME : ตื่นเต้นจัง มีซุปตาร์มาตามจีบ ต้องเล่นตัวหน่อยแล้ว ^^KAI : เอาเลยตามสบาย แบบนี้ไคล์ชอบเขาหน่ะตัวร้ายเรื่องผู้หญิงเลย มีข่าวไ
เราไม่พูดถึงเรื่องล็อกจัดบูธกันอีก ผมรู้ว่าอิงเครียดเรื่องนี้มาก ผมตัดบทและแก้ปัญหาด้วยการอาสาช่วยเรื่องนี้เอง ส่วนเรื่องฝ่ายจัดงานผมคงเฉยไม่ได้ทำแบบนี้ได้ยังไงทิ้งงานที่กำลังจะจัดขึ้นแล้วโยนให้ฝ่ายอื่นจัดการแทนแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน "แม่อิงกลับมาแล้ว เอ๋ ""สวัสดีเด็กน้อย จำกันได้มั้ยเอ่ย"ไออุ่นเอียงคอสงสัย ตาแป๋วมากเลยลูกสาวผม"ไออุ่นสวัสดีค่ะก่อนลูก ""สวัสดีค่ะคุณลุง อุ่นจำได้ คุณลุงช่วยอุ่นพามาส่งคุณแม่" มันสุขใจอย่างบอกไม่ถูก แค่นี้ก็ทำให้ผมใจฟูมาก ๆ แล้ว คุณป้าที่กำลังเก็บกระเป๋าคงเป็นพี่เลี้ยงของไออุ่นที่อิงเล่าให้ฟัง"เป็นไงบ้าง หายกลัวหรือยัง""กลายเป็นว่ากลัวคนเยอะไปแล้ว ป้าสุดใจจะไปเลยใช่มั้ยคะ""ใช่ค่ะ ป้าอาจจะต้องค้างนะคะ คุณอิงไหวมั้ยคะ""ไหวค่ะ ป้าสุดใจไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ใช้เวลาให้เต็มที่ได้เลยค่ะ""ขอบคุณมากนะคะคุณอิง ป้าไปก่อนนะคะ ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกนะคะ" ผมยิ้มให้กับคำชมพร้อมกับยกมือไหว้ ป้าสุดใจเดินออกจากห้องไปตอนนี้ก็เหลือแค่ผม ลูกสาว แล้วก็แม่ของลูก"พ่อพ่ออยู่ไหนคะ""พ่อพ่อนอนหลับค่ะ พ่อพ่อเหนื่อยมาก""ไออุ่นเรียกพี่ตฤณว่าพ่อพ่อน่ะ" ไออุ่นเรียกลุงของเขาว่าพ่
"ผมต้องการให้นอนโรงพยาบาลครับ""ได้ค่ะ""ไคล์ อิงอยากกลับมากกว่า""ดูอาการก่อนนะ เผื่อแผลติดเชื้อ อยู่ใกล้หมอโอเคกว่า" ฉันถอนหายใจ ที่จริงฉันอ้อนวอนหมอขอกลับแล้วจะมาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน แผลไม่ได้ลึกแค่เฉียดเท่านั้นแต่ก็ทำให้ฉันเจ็บมากเหมือนกัน ตอนนี้ฉันอยากเจอลูกมากกว่าเถียงกับไคล์แล้ว"โอเคได้ ลูกอยู่ไหน""อยู่กับย่าของเขา" เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วหันไปแจ้งพยาบาลอีกครั้งว่าต้องการห้องพิเศษที่ดีที่สุดไออุ่นอยู่กับย่าก็ต้องเป็นแม่ของไคล์ เร็วเกินไปมั้ยแล้วฉันจะทำยังไงถ้าพวกท่านรู้ว่าฉันจงใจโกหกไคล์เรื่องลูก ฉันจะต้องถูกสาปแน่ๆ"ไคล์""ไม่ต้องกลัว ม๊าเป็นคนมีเหตุผล ตอนนี้กำลังเห่อหลานมาก ๆ""ก็ยังกลัวอยู่ดี""เอาเถอะอย่าเพิ่งคิดมาก ตอนนี้พักผ่อนก่อนนะ นอนก่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องลูก" ฉันพยักหน้า อยากนอนอยู่เหมือนกันฉันรู้สึกตัวอีกทีช่วงเย็น ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอหน้าพี่ตฤณก่อนเลย ส่วนไคล์ไม่เห็นแล้ว"ไงเรา""เจ็บค่ะ แค่เฉียดๆ""พี่รู้จากหมอแล้วล่ะ เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่ให้คนอื่นมาจัดการแทนแล้ว" ฉันเสียดายมาก ๆ อยากรั้นแต่คงไม่ได้เพราะพี่ตฤณพูดออกมาแบบนี้แล้ว คำสั่งของพี่ตฤณคือประกา
“คุณแม่ขา ที่บ้านคุณย่ามีรูปคุณลุงเต็มไปหมดเลย”“คุณย่าเป็นแม่ของคุณลุงค่ะ” ไออุ่นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเพราะตั้งแต่เกิดมาก็รู้จักแค่ตากับยายที่อยู่ในรูปเท่านั้น“ทำไมอุ่นต้องเรียกแม่ของคุณลุงว่าคุณย่าด้วยคะ เรียกคุณป้าไม่ได้เหรอคะ” ฉันยังไม่พร้อมอธิบายให้ลูกฟังตอนนี้เพราะยังเจ็บแผลและรู้สึกเพลียๆ อยู่ รอให้พ่อของเขามาก่อนดีกว่าค่อยปรึกษากันอีกครั้งว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้“ท่านอายุมากแล้วค่ะ เรียกคุณย่านั่นแหละถูกต้องแล้ว”“เมื่อไหร่คุณแม่จะหายคะ อุ่นกลัวมากๆ เลย”“เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวแล้วนะคะ จะไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว”“จริงนะคะ”“คุณลุงสัญญากับคุณแม่ด้วยตัวเองเลยนะ” เขาเป็นพ่อของลูกนี่เนอะ ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องใส่ร้ายและพูดถึงเขาในทางไม่ดีให้ไออุ่นได้ยิน“คุณแม่หายเร็วๆ นะคะ เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน”“ไม่คิดถึงพ่อพ่อเหรอคะ”“พ่อพ่อบอกว่าให้อุ่นดูแลคุณแม่ให้ดี อุ่นให้กำลังใจพ่อพ่อไปแล้วค่ะ กอดแน่นๆ หอมแก้มสองข้างเลย” พี่ตฤณต้องจัดการทุกอย่างแทนฉันหมด คงเหนื่อยแย่เลย“เก่งจังเลยลูกสาวแม่อิงเนี่ย”“เราจะกลับบ้านกันวันไหนคะคุณแม่”“รอให้คุณแม่หายก่อนนะคะ”“อุ่นจะได้เจอคุณ
2 เดือนต่อมา“แบบนี้ป้าคงคิดถึงแย่เลย”“ไปไม่นานหรอกค่ะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว” มีคนทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอหนึ่งอัตรา“ป้าสุดใจอย่าร้องไห้นะคะ อุ่นไปไม่นานค่ะ จะโทรมาหาบ่อยๆ ด้วยนะคะ”นั่นยิ่งทำให้คนแก่อาการหนัก ป้าสุดใจกอดไออุ่นแน่นทำให้ฉันยิ้มตามไม่หุบ ไม่ได้รู้สึกเศร้าแต่ปลื้มใจมากกว่า ใครๆ ก็รักและเอ็นดูไออุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ คนเป็นแม่มีแต่ปลื้มใจและหายเหนื่อย“เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาได้ตลอด เข้าใจมั้ย” พี่ตฤณเป็นคนขับรถมาส่งเราที่สนามบินด้วยตัวเอง“ค่ะ พี่ตฤณไม่ต้องห่วงอิงกับอุ่นนะคะ มีอะไรอิงจะรีบโทรหาพี่ตฤณทันที”“ไออุ่นครับ อย่าลืมโทรหาพ่อพ่อนะดูแลแม่อิงด้วย”“ค่ะพ่อพ่อ อุ่นจะดูแลแม่อิงเองค่ะ พ่อพ่ออย่าทำงานหนักมากนะคะอุ่นเป็นห่วง”“ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”“อิงไปก่อนนะคะ ถึงแล้วจะโทรหา ไปก่อนนะคะป้าสุดใจ”“เดินทางปลอดภัยนะคะ ทั้งคู่เลย”ไออุ่นดี๊ด๊าที่จะได้เจอคุณลุงของเขา (พ่อไคล์) นับวันรออยากให้ปิดเทอมเร็วๆ จนในที่สุดก็มาถึงวันนี้ ไคล์ออกค่าเครื่องบินให้และตอนนี้ก็คงรอรับเราทั้งคู่อยู่ที่สนามบิน“คุณลุง”“ว่าไงตัวเล็ก” เชื่อแล้วว่าคิดถึงกันจริง เ
คนบ้า ประสาท คิดว่ามีเงินแล้วจะพูด จะทำอะไรก็ได้ ผลของการมั่นหน้าทำให้ฉันเสียงานนอนเจ็บอยู่หลายวันยังไม่สำนึกอีก กระแสตอนนี้มีผลกระทบกับไคล์ทั้งดีและไม่ดี วงการนี้มันประสาทมากต้องจิตแข็งมากขนาดไหนถึงปล่อยจอยอดทนกว่าจะประสบความสำเร็จได้“คุณแม่ขา คุณลุงจะโทรมาหาอุ่นมั้ยคะ” หลังกลับมาจากกรุงเทพ คุณพ่อก็ทำคะแนนไม่พัก รู้เวลาโทรหาลูกสาวพร้อมอัปเดตความคืบหน้าห้องนอนส่วนตัวด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้คุณลุงงานเยอะ” ฉันตอบลูกพร้อมกับจัดที่นอน ไออุ่นต้องรีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน“คุณลุงบอกอุ่นว่าถึงงานเยอะก็จะไม่ลืมอุ่นค่ะ”“ตั้งตารอขนาดนั้นเชียวเหรอ”“อุ่นอยากให้คุณลุงเล่านิทานให้ฟังค่ะ”“เดี๋ยวคุณลุงก็โทรมาค่ะ แต่ถ้าอุ่นง่วงก็นอนก่อนนะคะไม่ต้องรอ” ฉันไม่ค่อยได้คุยกับไคล์ส่วนใหญ่จะส่งโทรศัพท์ให้ลูกคุยมากกว่า เรื่องการฟ้องร้องคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอกอยู่ที่ว่าไคล์จะรับมือยังไง ส่วนเรื่องแฟนคลับก็ยังมีบางส่วนที่รับไม่ได้ที่ไอดอลของเขาจะโบกมือลาวงการวางทิ้งงานทุกอย่างลง วุ่นวายจนฉันปวดหัวแทน“ค่ะ อุ่นจะรอ” ฉันตามใจลูกแต่ก็ต้องไม่เกินเวลานอนไออุ่นเอาแต่จ้องหน้าจอรอพ่อของเขาตาไม
“คุณแม่ขา ที่บ้านคุณย่ามีรูปคุณลุงเต็มไปหมดเลย”“คุณย่าเป็นแม่ของคุณลุงค่ะ” ไออุ่นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเพราะตั้งแต่เกิดมาก็รู้จักแค่ตากับยายที่อยู่ในรูปเท่านั้น“ทำไมอุ่นต้องเรียกแม่ของคุณลุงว่าคุณย่าด้วยคะ เรียกคุณป้าไม่ได้เหรอคะ” ฉันยังไม่พร้อมอธิบายให้ลูกฟังตอนนี้เพราะยังเจ็บแผลและรู้สึกเพลียๆ อยู่ รอให้พ่อของเขามาก่อนดีกว่าค่อยปรึกษากันอีกครั้งว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้“ท่านอายุมากแล้วค่ะ เรียกคุณย่านั่นแหละถูกต้องแล้ว”“เมื่อไหร่คุณแม่จะหายคะ อุ่นกลัวมากๆ เลย”“เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวแล้วนะคะ จะไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว”“จริงนะคะ”“คุณลุงสัญญากับคุณแม่ด้วยตัวเองเลยนะ” เขาเป็นพ่อของลูกนี่เนอะ ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องใส่ร้ายและพูดถึงเขาในทางไม่ดีให้ไออุ่นได้ยิน“คุณแม่หายเร็วๆ นะคะ เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน”“ไม่คิดถึงพ่อพ่อเหรอคะ”“พ่อพ่อบอกว่าให้อุ่นดูแลคุณแม่ให้ดี อุ่นให้กำลังใจพ่อพ่อไปแล้วค่ะ กอดแน่นๆ หอมแก้มสองข้างเลย” พี่ตฤณต้องจัดการทุกอย่างแทนฉันหมด คงเหนื่อยแย่เลย“เก่งจังเลยลูกสาวแม่อิงเนี่ย”“เราจะกลับบ้านกันวันไหนคะคุณแม่”“รอให้คุณแม่หายก่อนนะคะ”“อุ่นจะได้เจอคุณ
"ผมต้องการให้นอนโรงพยาบาลครับ""ได้ค่ะ""ไคล์ อิงอยากกลับมากกว่า""ดูอาการก่อนนะ เผื่อแผลติดเชื้อ อยู่ใกล้หมอโอเคกว่า" ฉันถอนหายใจ ที่จริงฉันอ้อนวอนหมอขอกลับแล้วจะมาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน แผลไม่ได้ลึกแค่เฉียดเท่านั้นแต่ก็ทำให้ฉันเจ็บมากเหมือนกัน ตอนนี้ฉันอยากเจอลูกมากกว่าเถียงกับไคล์แล้ว"โอเคได้ ลูกอยู่ไหน""อยู่กับย่าของเขา" เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วหันไปแจ้งพยาบาลอีกครั้งว่าต้องการห้องพิเศษที่ดีที่สุดไออุ่นอยู่กับย่าก็ต้องเป็นแม่ของไคล์ เร็วเกินไปมั้ยแล้วฉันจะทำยังไงถ้าพวกท่านรู้ว่าฉันจงใจโกหกไคล์เรื่องลูก ฉันจะต้องถูกสาปแน่ๆ"ไคล์""ไม่ต้องกลัว ม๊าเป็นคนมีเหตุผล ตอนนี้กำลังเห่อหลานมาก ๆ""ก็ยังกลัวอยู่ดี""เอาเถอะอย่าเพิ่งคิดมาก ตอนนี้พักผ่อนก่อนนะ นอนก่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องลูก" ฉันพยักหน้า อยากนอนอยู่เหมือนกันฉันรู้สึกตัวอีกทีช่วงเย็น ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอหน้าพี่ตฤณก่อนเลย ส่วนไคล์ไม่เห็นแล้ว"ไงเรา""เจ็บค่ะ แค่เฉียดๆ""พี่รู้จากหมอแล้วล่ะ เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่ให้คนอื่นมาจัดการแทนแล้ว" ฉันเสียดายมาก ๆ อยากรั้นแต่คงไม่ได้เพราะพี่ตฤณพูดออกมาแบบนี้แล้ว คำสั่งของพี่ตฤณคือประกา
เราไม่พูดถึงเรื่องล็อกจัดบูธกันอีก ผมรู้ว่าอิงเครียดเรื่องนี้มาก ผมตัดบทและแก้ปัญหาด้วยการอาสาช่วยเรื่องนี้เอง ส่วนเรื่องฝ่ายจัดงานผมคงเฉยไม่ได้ทำแบบนี้ได้ยังไงทิ้งงานที่กำลังจะจัดขึ้นแล้วโยนให้ฝ่ายอื่นจัดการแทนแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน "แม่อิงกลับมาแล้ว เอ๋ ""สวัสดีเด็กน้อย จำกันได้มั้ยเอ่ย"ไออุ่นเอียงคอสงสัย ตาแป๋วมากเลยลูกสาวผม"ไออุ่นสวัสดีค่ะก่อนลูก ""สวัสดีค่ะคุณลุง อุ่นจำได้ คุณลุงช่วยอุ่นพามาส่งคุณแม่" มันสุขใจอย่างบอกไม่ถูก แค่นี้ก็ทำให้ผมใจฟูมาก ๆ แล้ว คุณป้าที่กำลังเก็บกระเป๋าคงเป็นพี่เลี้ยงของไออุ่นที่อิงเล่าให้ฟัง"เป็นไงบ้าง หายกลัวหรือยัง""กลายเป็นว่ากลัวคนเยอะไปแล้ว ป้าสุดใจจะไปเลยใช่มั้ยคะ""ใช่ค่ะ ป้าอาจจะต้องค้างนะคะ คุณอิงไหวมั้ยคะ""ไหวค่ะ ป้าสุดใจไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ใช้เวลาให้เต็มที่ได้เลยค่ะ""ขอบคุณมากนะคะคุณอิง ป้าไปก่อนนะคะ ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกนะคะ" ผมยิ้มให้กับคำชมพร้อมกับยกมือไหว้ ป้าสุดใจเดินออกจากห้องไปตอนนี้ก็เหลือแค่ผม ลูกสาว แล้วก็แม่ของลูก"พ่อพ่ออยู่ไหนคะ""พ่อพ่อนอนหลับค่ะ พ่อพ่อเหนื่อยมาก""ไออุ่นเรียกพี่ตฤณว่าพ่อพ่อน่ะ" ไออุ่นเรียกลุงของเขาว่าพ่
ทุกคนหลับหมดแล้ว ป้าสุดใจ ไออุ่น เวลาพักผ่อนนี่เนอะเที่ยงคืนแล้วด้วยฉันเพิ่งกลับถึงห้อง กลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ เราเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ไคล์สัญญาแล้วว่าจะไม่ใช้ข้อกฎหมายมาต่อรองเรื่องลูก เรื่องอื่น ๆ เราก็ตกลงกันเรียบร้อยเพราะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ค่อยสบายใจ ไคล์เพิ่งเดินทางกลับมาแล้วเขาก็มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างลำบากเพราะแฟนคลับเยอะ ผู้หวังดีก็มีหวังร้ายก็คงมีเหมือนกันโดยเฉพาะพวกที่อยากได้เงินจากการขายรูปถ่ายให้กับสำนักข่าว ฉันไม่สบายใจเรื่องนี้เอามาก ๆME: ถึงห้องแล้วKAI : โอเค ถึงแล้วเหมือนกัน อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเลยนะฉันไม่ใช่ไออุ่นนะแต่ก็ทำให้เผลอยิ้มแล้วพิมพ์ตอบกลับไปME : เรื่องคำตอบ คือว่าKAI : ไม่รีบ ค่อย ๆ คิด ไคล์จะจีบอิงทุกวันใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าไคล์จะทำแบบนี้ เขาขอคบโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดบอกว่าจะจีบทุกวันจนกว่าฉันจะใจอ่อน ดูพ่อไออุ่นสิตลกชะมัดME : ตื่นเต้นจัง มีซุปตาร์มาตามจีบ ต้องเล่นตัวหน่อยแล้ว ^^KAI : เอาเลยตามสบาย แบบนี้ไคล์ชอบเขาหน่ะตัวร้ายเรื่องผู้หญิงเลย มีข่าวไ
"ทำงานดีมาก เร็วมาก อะไรวะเนี่ยอิง" ผมทั้งโกรธ โมโห แล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน ผมถูกอิงโกหกเรื่องท้องในวันนั้น ผิดที่ผมด้วยแหละที่ไม่เช็กให้ชัวร์ยอมปล่อยอิงไปง่าย ๆ เด็กที่ชื่อไออุ่นเป็นลูกของผมลูกของผมกับอิง ผลผลิตจากในคืนนั้นที่เราพลาดด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้เขาอายุสามขวบแล้ว ให้ตายสิกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีลูกใช้เวลาเกือบสามปีเลย ผมพลาดหลายๆ อย่างไปเยอะมาก"ผมช่วยได้เท่านี้นะครับ""ที่เหลือผมจัดการเอง เอาล่ะค่าจ้างที่เหลือผมจะโอนเข้าบริษัทให้ ทิ้งเลขบัญชีคุณไว้ให้ผมด้วย"ทำงานดีแบบนี้ไม่ให้พิเศษได้ยังไง และนี่คือเหตุผลที่ผมรีบโทรหาอิงแล้วนัดออกมาคุยข้างนอก แม้ว่ามันเสี่ยงมากก็ตามแต่ผมก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหลังจากกลับจากสนามบินผมก็ร้อนใจเรื่องของอิงกับเด็กคนนั้นมาก รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วก็มีจริง ๆ นักสืบโทรมารายงานเรื่องอิงให้ผมฟังอย่างละเอียดพร้อมส่งข้อมูลเท่าที่หามาได้เข้าไลน์ หลังจากวางสายผมก็โทรนัดอิงส่งโลเคชั่นไปให้แล้วนั่งมองรูปเด็กน้อยตากลมโตไปด้วย รอยยิ้มนั่นเหมือนอิง ไออุ่นคือลูกสาวของผม เธอน่ารักมาก มีบางส่วนที่เหมือนผม ปากมั้งไม่แน่ใจโรงแรม K INผ
พอเคลียร์เรื่องที่สนามบินเสร็จฉันก็รีบหยิบมือถือไลน์ไปแจ้งพี่ตฤณพร้อมกับถ่ายรูปไออุ่นส่งไป พี่ตฤณส่งสติ๊กเกอร์ปาดเหงื่อกลับมาตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ คงยุ่งอยู่จริง ๆ ถึงไม่โทรมาปกติพี่ตฤณจะต้องโทรกลับทุกครั้ง"กลับโรงแรมกันก่อนนะคะ""ดีเลยค่ะ เจ้าตัวแสบคงเหนื่อยแย่" ไออุ่นหลับไปแล้ว ป้าสุดใจอุ้มไออุ่นไม่ยอมวางจนขึ้นรถของโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ พอถึงห้องพักป้าสุดใจก็แยกพาไออุ่นไปนอน ห้องที่พี่ตฤณจองให้เป็นห้องคอนเน็กเชื่อมกันถึงสามห้องเหมาะสำหรับครอบครัวมาก ๆ เดาว่าพี่ตฤณคงมาพักที่นี่กับพวกเราด้วย"ป้าสุดใจก็ไปพักเถอะค่ะ""คุณอิงก็พักบ้างนะคะ" ฉันพยักหน้ารับ คงยังหลับตาไม่ลง สายตาของฉันจ้องไปที่หน้าจอมือถือตลอดเวลา เราได้เจอกันแล้วสินะ พ่อลูกได้เจอกันแล้ว จากนี้ไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาไว้เลย คนมีเป็นร้อยเป็นล้านทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ช่วยไออุ่นไว้ ฉันนั่งคิดเรื่องนี้นานนับชั่วโมงคิดเผื่อไปด้วยว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นจะเป็นยังไงเขาจะแย่งลูกไปจากอกฉันเหมือนในละครหรือว่าเราจะคุยตกลงรื่องลูกกันดี ๆ แบ่งเวลาให้กันอย่างเท่าเทียม อีกประเด็นที่ฉันคิดคือไคล์อาจ
"ป้าสุดใจ ไออุ่นล่ะคะ ไออุ่นไปไหนคะ " ฉันรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วหันไปย้ำถามหาไออุ่นจากป้าสุดใจอีกครั้ง สีหน้าของป้าดูไม่ดีเลย มือไม้ของฉันมันสั่นไปหมด ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า"คือป้า ป้าแค่หันไปหยิบของในกระเป๋า หันมาก็ไม่เห็นน้องแล้วค่ะ" ใจฉันกระตุกวูบเชื่อว่าสิ่งที่ป้าสุดใจพูดคือความจริง ท่านเองก็ทำท่าจะเป็นลมอยู่เหมือนกัน"ป้านั่งพักก่อนนะคะ อิงจะไปประชาสัมพันธ์ อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลม""ได้ค่ะๆ คุณอิงป้าขอโทษนะคะ น้องเพิ่งหายไปเมื่อกี้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเครือนั่นทำให้ฉันแอบน้ำตาคลอไปด้วย ห่วงทั้งป้าสุดใจและลูกสาวเพียงคนเดียว"ไม่เป็นไรค่ะ ไออุ่นคงซนตามประสา เดี๋ยวอิงกลับมานะคะ ป้ารออยู่ตรงนี้นะคะเผื่อไออุ่นกลับมา""ได้ค่ะๆ "ฉันรีบวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน โดยไม่ลืมจะหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาพี่ตฤณ พอพี่ตฤณรู้เรื่องก็ร้อนใจไม่ต่างจากฉัน"ใจเย็นๆ แล้วตอนนี้กำลังจะไปไหน""ประชาสัมพันธ์ค่ะ ถ้าวิ่งหากันคงไม่เจอ พี่ตฤณน้องกลัว ฮึก" ฉันกลัวตามหาลูกไม่เจอ กลัวไปหมด สนามบินทั้งใหญ่และกว้างขนาดนี้วิ่งตามหาวันก็คงไม่เจอ ไออุ่นหายไปไหน? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ