"ยังไม่เลิกซื้อหวยอีกหรือไง"
"อะไรกันคะ เรียกมาพบก็เพราะเรื่องหวยเนี่ยนะ" ฉันดึงเก้าอี้ตรงหน้าแล้วหย่อนตัวลงนั่ง พี่ชายต่างแม่ของฉันคนนี้ทำหน้าซีเรียสแล้วสักพักก็ผ่อนคลายลงเมื่อเห็นหน้าเด็กหญิงไออุ่นที่วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงออดอ้อน
"พ่อพ่อขา"
"ไออุ่นของพ่อพ่อมาช่วยแม่ใช่มั้ย" เจ้าตัวอ้วนพยักหน้าแล้วโผเข้ากอดพ่อพ่อของเขา
หลังจากที่ฉันไปส่งไคล์ที่สนามบินวันนั้นเสร็จฉันก็รีบติดต่อหาพี่ตฤณทันที เขาคือพี่ชายต่างแม่และเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ชีวิตฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากพี่ชายคนนี้ ก่อนหน้าฉันคิดว่าตัวเองสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งพาใคร พอท้องก็เริ่มกังวลทีแรกฉันจะทำแท้งเพราะไม่พร้อมจริงๆ
แต่พี่ตฤณห้ามเอาไว้ ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ตฤณฟัง พี่ชายของฉันคนนี้เข้าใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่ลังเล ปกปิดที่อยู่และจัดการเรื่องชื่อนามสกุลให้จนเสร็จสรรพ อิงดาวได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้มีแค่ฟ้ารดาเท่านั้น ฟ้ารดา อักษรศิลากุล เป็นนามสกุลที่ฉันปฏิเสธมาตลอดสุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาพึ่งพานามสกุลนี้ ลดทิฐิในตัวลงเพื่อชีวิตน้อยๆ ที่ฉันเกือบจะตัดเขาออกจากตัวไป
"พ่อพ่อดุแม่อิงทำไมคะ" เราสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม พี่ตฤณมีพระคุณกับฉันแล้วก็ไออุ่นมาก ฉันก็เลยให้ไออุ่นเรียกพี่ตฤณว่าพ่อ สอนเขาแค่ครั้งเดียวไออุ่นก็เรียกพี่ตฤณว่าพ่อพ่อติดปากตลอดเลย
"แม่อิงดื้อ"
"ไม่ดื้อๆ อุ่นดื้อกว่าอีกนะ" ไออุ่นชี้ตัวเองจ้องหน้าพ่อพ่อของเขาจริงจัง ฉันหลงรักลูกตัวเองวันละหลายสิบรอบ พี่ตฤณก็เหมือนกันตามใจไออุ่นทุกอย่าง ไปไหนมาไหนก็หอบกันไปด้วยห้ามก็ไม่ยอมฟัง อายุปูนนี้แล้วสาว ๆ เห็นก็วิ่งหนีกันไปหมด
"ช่างพูดนะเรา พ่อพ่อไม่ได้ดุแม่อิงสักหน่อย พ่อพ่อมีงานให้แม่อิงทำครับ ไออุ่นไปอยู่กับป้าสุดใจก่อนนะ" ไออุ่นทำท่าจะไม่ยอม แต่สุดท้ายก็ต้องยอมโดยดีเพราะพ่อพ่อของแกยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้
"พ่อพ่อสัญญาแล้วนะคะ"
"พ่อพ่อเคยโกหกหรือเปล่า"
"อุ่นรักพ่อพ่อกับแม่อิงที่สุดเลยค่ะ" ทำเอาเราสองคนยิ้มไม่หุบ โดยเฉพาะพี่ตฤณที่หลงหลานสาวคนนี้หัวปัก ส่วนฉันก็ทั้งรักและหวงลูกมาก ๆ และรู้สึกผิดที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้ให้พ่อแท้ ๆ ของเขาได้รับรู้ด้วย
"พี่ตฤณมีงานอะไรจะให้อิงไปทำคะ"
"ไร่ของเราได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานจัดแสดง ฟาร์มตัวอย่าง พี่อยากให้อิงเข้ามาช่วย ทางไร่ต้องไปจัดบูธโชว์ผลงานในกรุงเทพ อิงจะพาอุ่นไปด้วยก็ได้เพราะพี่เตรียมที่พักไว้ให้แล้ว" ที่จริงฉันไม่อยากพาลูกไปเท่าไหร่แต่ก็อดคิดถึงไม่ได้ งานครั้งนี้คงใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ ฉันไม่อยากห่างลูก
"ได้ค่ะ งานเริ่มเมื่อไหร่คะอิงจะได้เตรียมตัว"
"อีกไม่กี่อาทิตย์ พี่เคลียร์งานเสร็จแล้วจะตามไปช่วย" ไออุ่นเพิ่งเข้าอนุบาลไม่มีปัญหาเรื่องการลาโรงเรียน พี่ตฤณให้ป้าสุดใจตามไปช่วยเลี้ยงไออุ่นด้วย ดีเลยฉันจะได้ทำงานได้เต็มที่ ป้าสุดใจคือทุกอย่างของฉันจริงๆ ถ้าไม่ได้ป้าสุดใจฉันก็คงแย่ ขอบคุณพี่ชายคนนี้ด้วยที่เตรียมพี่เลี้ยงเอาไว้เพื่อรอเด็กหญิงไออุ่น
"ได้เลยค่ะ อ่อ อาทิตย์หน้าที่โรงเรียนไออุ่นมีงานนะคะ"
"ไม่พลาดอยู่แล้ว มาโม้ให้พี่ฟังทุกวัน ได้ข่าวว่าแสดงเป็นต้นไม้"ฉันหัวเราะคิก ลูกสาวคนนี้ขี้คุยเหมือนใครเนี่ย เลือดการแสดงฉายแววตั้งแต่ยังเล็ก นึกไปมาก็คงไม่พ้นพ่อของเขาที่ตอนนี้กำลังดังเป็นซุปตาร์อยู่ที่จีน ได้เลือดพ่อมานี่เอง
"คงได้เลือดพ่อมาเยอะ" ฉันยิ้มเจื่อนพูดไม่ออก
"งานที่จะให้อิงทำมีแค่นี้ใช่มั้ยคะ"
"มีแค่นี้แหละ พี่ไม่อยากให้น้องตัวเองเก็บกดมากจนเกินไป ออกไปเจอโลกภายนอกบ้างก็ดี" ตั้งแต่ท้องเริ่มโตฉันก็เก็บตัวเงียบอยู่ในฟาร์มของพี่ตฤณจนคลอดไออุ่นก็เริ่มออกไปข้างนอกบ้าง ข้างนอกที่ว่าคือตัวอำเภอเท่านั้นซื้อของใช้ลูกและของใช้ส่วนตัวที่อยากได้ ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น กลัวว่าเรื่องจะถึงหูไคล์
"ค่ะ อิงขอตัวไปดูอุ่นก่อนนะคะ"
"อืม เย็นนี้พี่จะแวะไปกินข้าวด้วยบอกป้าสุดใจด้วยนะให้ทำกับข้าวเผื่อพี่ด้วย"
"ได้เลยค่ะ" เราสองพี่น้องอยู่แยกบ้านกันอยู่ พี่ตฤณไม่อยากให้ฉันอึดอัดก็เลยยกเรือนไม้หลังกลาง ๆ ให้ฉันอยู่กับลูกและป้าสุดใจ พี่ตฤณจะแวะมากินข้าวด้วยเป็นบางวันเพราะงานค่อนข้างเยอะ แต่ก็จะพยายามมาให้ได้ทุกวันเพราะไออุ่นรอ
"ไออุ่นดูอะไรอยู่ลูก"
"ดูพี่คนนี้ร้องเพลงค่ะ " ลูกสาวของฉันชี้ไปที่หน้าจอทีวี ช่องวาไรตี้จากจีนกำลังออนแอร์รายการหนึ่งที่มีไคล์พ่อแท้ๆ ของลูกสาวฉันร้องเพลงอยู่ ไม่รู้ว่าใครเปิดให้ไออุ่นดู คงเป็นป้าสุดใจ
"ดูบ่อยเหรอเรา"
"ไม่บ่อยค่ะ ไม่เคยดูแต่เคยได้ยินเสียงแบบนี้" ตอนไออุ่นอยู่ในท้องคงได้ยินเสียงนี้ที่ฉันชอบเปิดฟังบ่อย ๆ
"ชอบเหรอคะ"
"ในนี้มันกำลังยิ้มค่ะ" ฉันดึงลูกสาวเข้ามากอด นิ้วเล็กๆ นั่นจิ้มลงตรงหน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง ทำให้ความรู้สึกผิดวิ่งขึ้นมาที่กระบอกตา ขอโทษนะลูกที่แม่ทำให้หนูขาดพ่อ ขอโทษพ่อของเขาด้วยที่ไม่มีโอกาสได้เจอหน้าลูกและไม่มีโอกาสได้รู้ด้วยว่าเขามีลูกสาวน่ารักมากขนาดนี้
----------------
"ดูนั่นสิ แสดงเป็นต้นไม้ซะสมจริงเลย""พี่ตฤณ หลานตั้งใจออก ดูสิคะจ้องพี่ตฤณไม่วางตาเลย" สิ่งที่ไออุ่นกังวลมากที่สุดคือกลัวพ่อพ่อของเขามาไม่ได้ พอได้เห็นว่าพ่อพ่อมาได้ก็จ้องตาไม่กะพริบเลย เอ็นดูเจ้าต้นไม้น้อยนั่น"พี่ผิดนัดครั้งก่อนคงกลัว" ครั้งนั้นเป็นงานวันเด็ก ไออุ่นได้ขึ้นแสดงเต้นประกอบเพลง แววตาเศร้าหมองในวันนั้นทำให้พี่ตฤณรู้สึกผิดไม่น้อย รูปที่ฉันตั้งใจถ่ายไปอวดกลายเป็นภาพแห่งความเจ็บปวดไปซะงั้น แต่พี่ตฤณก็สั่งให้คนไปอัดใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเอาไว้เตือนใจว่าไม่ควรผิดสัญญากับใครอีก"ครั้งนั้นเต้นเกือบไม่ออก เอาแต่มองหาพ่อพ่อ""พี่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อของไออุ่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะ" พี่ตฤณยื่นมือมาแตะบ่าฉันเบา ๆ แล้วหันไปมองลูกสาวที่กำลังทำการแสดงอยู่บนเวที วันนี้พ่อพ่อของไออุ่นออร่าจับมาก ๆ แม่ ๆ หลายคนมองตาไม่กะพริบ โดยเฉพาะแม่ของน้องอิ๊งที่นั่งอยู่ข้างหลัง เพราะไม่ค่อยได้เห็นพี่ตฤณสักเท่าไหร่"แสดงจบก็กลับบ้านได้เลย พี่ตฤณจะกลับก่อนก็ได้นะคะ" งานพี่ตฤณรออยู่อีกมาก ไออุ่นเห็นหน้าพี่ตฤณแล้วก็น่าจะพอใจแล้วล่ะ ได้ข่าวว่ามีประชุมอีก"รอกลับพร้อมกันนี่แหละ ถ่ายรูปกันก่อนสิ"
"อุ่นอยากขึ้นเครื่องบิน เครื่องบิน เครื่องบิน""รู้แล้วค่ะ ดี๊ด๊าใหญ่เลยนะเรา ป้าสุดใจเอากระเป๋ามาครบแล้วใช่มั้ยคะ""เอามาครบแล้วค่ะ" ฉันตรวจเช็กความเรียบร้อยของทุกคน โดยเฉพาะเด็กหญิงไออุ่นเพราะเมื่อวานมีไข้ต่ำ ๆ กำหนดเดินทางวันนี้ตอนแรกจะเลื่อนไปก่อน แต่งานที่นู่นดันมีปัญหาก็เลยเลื่อนไม่ได้ ปรึกษาคุณหมอแล้วว่าอาการของไออุ่นไม่รุนแรงกินยาลดไข้และเช็ดตัวบ่อยๆก็จะดีขึ้นดีขึ้นจริง ๆ นั่นแหละ เสียงแจ๋วเชียว"ถึงแล้วก็โทรมาบอกพี่ด้วย ""พ่อพ่อจะตามไปวันไหนคะ""อีกสองวันครับ ไหนจับตัวสิ ตัวไม่ร้อนแล้วคนเก่ง" ไม่ใช่แค่พ่อพ่อหรอกที่เป็นห่วงอาการของไออุ่นฉันเองก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ กลัวว่าลูกจะเป็นหนักระหว่างนั่งเครื่อง แต่บินแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้วเมื่อกี้ก็เพิ่งป้อนยากันไปกว่ายาจะหมดฤทธิ์ก็ตั้งสี่ชั่วโมงถึงก่อนชัวร์อยู่แล้ว"ต้องกินยา อุ่นไม่ชอบเลย""ถ้าไม่กินยาก็จะอดขึ้นเครื่องบินนะ""กินก็ได้ค่ะ""กินไปแล้วค่ะ เมื่อกี้ให้ป้าสุดใจป้อนแล้ว" ฉันทำหน้าเหนื่อย ๆ ถ้าไม่ได้เดินทางไออุ่นคงไม่ยอมกินยาง่ายขนาดนี้ งานนี้ไม่ยากเลยอดเป็นห่วงไม่ได้"เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่สบายใจเรื่องลูกเ
"ป้าสุดใจ ไออุ่นล่ะคะ ไออุ่นไปไหนคะ " ฉันรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วหันไปย้ำถามหาไออุ่นจากป้าสุดใจอีกครั้ง สีหน้าของป้าดูไม่ดีเลย มือไม้ของฉันมันสั่นไปหมด ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า"คือป้า ป้าแค่หันไปหยิบของในกระเป๋า หันมาก็ไม่เห็นน้องแล้วค่ะ" ใจฉันกระตุกวูบเชื่อว่าสิ่งที่ป้าสุดใจพูดคือความจริง ท่านเองก็ทำท่าจะเป็นลมอยู่เหมือนกัน"ป้านั่งพักก่อนนะคะ อิงจะไปประชาสัมพันธ์ อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลม""ได้ค่ะๆ คุณอิงป้าขอโทษนะคะ น้องเพิ่งหายไปเมื่อกี้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเครือนั่นทำให้ฉันแอบน้ำตาคลอไปด้วย ห่วงทั้งป้าสุดใจและลูกสาวเพียงคนเดียว"ไม่เป็นไรค่ะ ไออุ่นคงซนตามประสา เดี๋ยวอิงกลับมานะคะ ป้ารออยู่ตรงนี้นะคะเผื่อไออุ่นกลับมา""ได้ค่ะๆ "ฉันรีบวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน โดยไม่ลืมจะหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาพี่ตฤณ พอพี่ตฤณรู้เรื่องก็ร้อนใจไม่ต่างจากฉัน"ใจเย็นๆ แล้วตอนนี้กำลังจะไปไหน""ประชาสัมพันธ์ค่ะ ถ้าวิ่งหากันคงไม่เจอ พี่ตฤณน้องกลัว ฮึก" ฉันกลัวตามหาลูกไม่เจอ กลัวไปหมด สนามบินทั้งใหญ่และกว้างขนาดนี้วิ่งตามหาวันก็คงไม่เจอ ไออุ่นหายไปไหน? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ
พอเคลียร์เรื่องที่สนามบินเสร็จฉันก็รีบหยิบมือถือไลน์ไปแจ้งพี่ตฤณพร้อมกับถ่ายรูปไออุ่นส่งไป พี่ตฤณส่งสติ๊กเกอร์ปาดเหงื่อกลับมาตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ คงยุ่งอยู่จริง ๆ ถึงไม่โทรมาปกติพี่ตฤณจะต้องโทรกลับทุกครั้ง"กลับโรงแรมกันก่อนนะคะ""ดีเลยค่ะ เจ้าตัวแสบคงเหนื่อยแย่" ไออุ่นหลับไปแล้ว ป้าสุดใจอุ้มไออุ่นไม่ยอมวางจนขึ้นรถของโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ พอถึงห้องพักป้าสุดใจก็แยกพาไออุ่นไปนอน ห้องที่พี่ตฤณจองให้เป็นห้องคอนเน็กเชื่อมกันถึงสามห้องเหมาะสำหรับครอบครัวมาก ๆ เดาว่าพี่ตฤณคงมาพักที่นี่กับพวกเราด้วย"ป้าสุดใจก็ไปพักเถอะค่ะ""คุณอิงก็พักบ้างนะคะ" ฉันพยักหน้ารับ คงยังหลับตาไม่ลง สายตาของฉันจ้องไปที่หน้าจอมือถือตลอดเวลา เราได้เจอกันแล้วสินะ พ่อลูกได้เจอกันแล้ว จากนี้ไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาไว้เลย คนมีเป็นร้อยเป็นล้านทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ช่วยไออุ่นไว้ ฉันนั่งคิดเรื่องนี้นานนับชั่วโมงคิดเผื่อไปด้วยว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นจะเป็นยังไงเขาจะแย่งลูกไปจากอกฉันเหมือนในละครหรือว่าเราจะคุยตกลงรื่องลูกกันดี ๆ แบ่งเวลาให้กันอย่างเท่าเทียม อีกประเด็นที่ฉันคิดคือไคล์อาจ
"ทำงานดีมาก เร็วมาก อะไรวะเนี่ยอิง" ผมทั้งโกรธ โมโห แล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน ผมถูกอิงโกหกเรื่องท้องในวันนั้น ผิดที่ผมด้วยแหละที่ไม่เช็กให้ชัวร์ยอมปล่อยอิงไปง่าย ๆ เด็กที่ชื่อไออุ่นเป็นลูกของผมลูกของผมกับอิง ผลผลิตจากในคืนนั้นที่เราพลาดด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้เขาอายุสามขวบแล้ว ให้ตายสิกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีลูกใช้เวลาเกือบสามปีเลย ผมพลาดหลายๆ อย่างไปเยอะมาก"ผมช่วยได้เท่านี้นะครับ""ที่เหลือผมจัดการเอง เอาล่ะค่าจ้างที่เหลือผมจะโอนเข้าบริษัทให้ ทิ้งเลขบัญชีคุณไว้ให้ผมด้วย"ทำงานดีแบบนี้ไม่ให้พิเศษได้ยังไง และนี่คือเหตุผลที่ผมรีบโทรหาอิงแล้วนัดออกมาคุยข้างนอก แม้ว่ามันเสี่ยงมากก็ตามแต่ผมก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหลังจากกลับจากสนามบินผมก็ร้อนใจเรื่องของอิงกับเด็กคนนั้นมาก รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วก็มีจริง ๆ นักสืบโทรมารายงานเรื่องอิงให้ผมฟังอย่างละเอียดพร้อมส่งข้อมูลเท่าที่หามาได้เข้าไลน์ หลังจากวางสายผมก็โทรนัดอิงส่งโลเคชั่นไปให้แล้วนั่งมองรูปเด็กน้อยตากลมโตไปด้วย รอยยิ้มนั่นเหมือนอิง ไออุ่นคือลูกสาวของผม เธอน่ารักมาก มีบางส่วนที่เหมือนผม ปากมั้งไม่แน่ใจโรงแรม K INผ
ทุกคนหลับหมดแล้ว ป้าสุดใจ ไออุ่น เวลาพักผ่อนนี่เนอะเที่ยงคืนแล้วด้วยฉันเพิ่งกลับถึงห้อง กลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ เราเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ไคล์สัญญาแล้วว่าจะไม่ใช้ข้อกฎหมายมาต่อรองเรื่องลูก เรื่องอื่น ๆ เราก็ตกลงกันเรียบร้อยเพราะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ค่อยสบายใจ ไคล์เพิ่งเดินทางกลับมาแล้วเขาก็มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างลำบากเพราะแฟนคลับเยอะ ผู้หวังดีก็มีหวังร้ายก็คงมีเหมือนกันโดยเฉพาะพวกที่อยากได้เงินจากการขายรูปถ่ายให้กับสำนักข่าว ฉันไม่สบายใจเรื่องนี้เอามาก ๆME: ถึงห้องแล้วKAI : โอเค ถึงแล้วเหมือนกัน อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเลยนะฉันไม่ใช่ไออุ่นนะแต่ก็ทำให้เผลอยิ้มแล้วพิมพ์ตอบกลับไปME : เรื่องคำตอบ คือว่าKAI : ไม่รีบ ค่อย ๆ คิด ไคล์จะจีบอิงทุกวันใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าไคล์จะทำแบบนี้ เขาขอคบโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดบอกว่าจะจีบทุกวันจนกว่าฉันจะใจอ่อน ดูพ่อไออุ่นสิตลกชะมัดME : ตื่นเต้นจัง มีซุปตาร์มาตามจีบ ต้องเล่นตัวหน่อยแล้ว ^^KAI : เอาเลยตามสบาย แบบนี้ไคล์ชอบเขาหน่ะตัวร้ายเรื่องผู้หญิงเลย มีข่าวไ
ปัง ปัง ปัง!!!"อิง เสร็จยังวะ เข้าไปนานแล้วนะเว้ย ""อย่าเร่งดิฉี่ไม่ออก " ผลตรวจออกแล้วต่างหากแต่ฉันไม่กล้ายอมรับความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนี้ไปฉันจะอยู่ยังไง ต้องทำตัวแบบไหน แล้วต้องตอบคำถามคนอื่นๆ ยังไง มันเครียดไปหมด! เครียดจนไม่กล้ายอมรับว่านี่มันคือเรื่องจริงเรื่องเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน ฉันกับไคล์เกิดพลาดมีอะไรกัน อยากตบหน้าตัวเองแรงๆ ต้องไม่ใช่แบบนี้ ต้องไม่ใช่ไคล์นั่นมันเพื่อนรักของฉัน"อิง! " เสียงตะโกนของไคล์ดังเข้ามาอีกครั้ง ฉันคงหนีไม่พ้น ความจริงก็คือความจริงแต่ฉันไม่อยากให้เรื่องมันออกมาแบบนี้ ฉันไม่อยากท้อง ฉันยังอยากใช้ชีวิตอิสระอยู่เลย เราทั้งคู่ไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้ ฉันยกมือขึ้นมาลูบท้องเบาๆ แล้วพูดในใจว่าเขาไม่ผิดเหมือนกัน เราทั้งคู่ต่างหากที่ใช้ชีวิตประมาทขาดสติ"จะออกไปแล้ว""เร็วๆ ดิวะ " น้ำเสียงรีบเร่งเจือกังวลนั้นทำให้ความเครียดที่มีสะสมมากขึ้น ถ้าไคล์รู้ว่าฉันท้อง เขาคงผิดหวังมากเพราะอนาคตที่กำลังจะไปได้สวยคงดับวูบ เพื่อนสนิทของฉันคนนี้กำลังจะบินไปเป็นซุป'ตาร์ที่เมืองจีน ใครกันอยากตัดอนาคตเพื่อน ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ"เออ ๆ ""ว่ายังไง ท้องม
สาธารณรัฐประชาชนจีน"ได้เรื่องบ้างมั้ย""ยังเลยครับ ค้นจากประวัติที่คุณไคล์ให้มาไม่พบประวัติของผู้หญิงที่ชื่ออิงฟ้าเลยครับ ที่อยู่ ชื่อและนามสกุลก็ไม่ปรากฏในทะเบียนราษฎร์เลยครับ" ผมถอนหายใจอีกครั้งเมื่อเรียกนักสืบมาถามความคืบหน้าการตามหาเพื่อนสนิทที่มีเพียงคนเดียว สองปีกว่าแล้วที่ผมไม่ได้รับข่าวและการติดต่อจากเพื่อนคนนี้อีกเลยเพราะอะไรวะอิง ทำไมถึงหายไปจนทำให้ใจหายแบบนี้"ตามหาต่อไป ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานการเสียชีวิต ผมเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่" นักสืบเอกชนหลายต่อหลายบริษัทที่ผมว่าจ้างทำงานไม่ได้เรื่องเลยสักบริษัท จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาผู้ใหญ่คนหนึ่งแนะนำบริษัทนี้มา ผ่านไปสองอาทิตย์ก็ยังไร้วี่แวว"เป็นไปได้มั้ยครับว่าเธอจะเปลี่ยนชื่อ" ผมชะงักแล้วหันไปมองหน้านักสืบ ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่อิงจะเปลี่ยนชื่อ"อิงจะเปลี่ยนชื่อเพื่ออะไร""หนีคุณไงครับ""หนีผม" ผมชี้ตัวเองอย่างงงๆ เป็นไปไม่ได้หรอก เราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย ก่อนบินอิงก็มาส่งผมที่สนามบิน ช่วงต้นปีแรกเราก็ยังคุยกันปกติ แล้วหลังจากนั้นผมก็ติดต่ออิงไม่ได้อีกเลยไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร"เป็นไปได้ครั
ทุกคนหลับหมดแล้ว ป้าสุดใจ ไออุ่น เวลาพักผ่อนนี่เนอะเที่ยงคืนแล้วด้วยฉันเพิ่งกลับถึงห้อง กลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ เราเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ไคล์สัญญาแล้วว่าจะไม่ใช้ข้อกฎหมายมาต่อรองเรื่องลูก เรื่องอื่น ๆ เราก็ตกลงกันเรียบร้อยเพราะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ค่อยสบายใจ ไคล์เพิ่งเดินทางกลับมาแล้วเขาก็มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างลำบากเพราะแฟนคลับเยอะ ผู้หวังดีก็มีหวังร้ายก็คงมีเหมือนกันโดยเฉพาะพวกที่อยากได้เงินจากการขายรูปถ่ายให้กับสำนักข่าว ฉันไม่สบายใจเรื่องนี้เอามาก ๆME: ถึงห้องแล้วKAI : โอเค ถึงแล้วเหมือนกัน อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเลยนะฉันไม่ใช่ไออุ่นนะแต่ก็ทำให้เผลอยิ้มแล้วพิมพ์ตอบกลับไปME : เรื่องคำตอบ คือว่าKAI : ไม่รีบ ค่อย ๆ คิด ไคล์จะจีบอิงทุกวันใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าไคล์จะทำแบบนี้ เขาขอคบโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดบอกว่าจะจีบทุกวันจนกว่าฉันจะใจอ่อน ดูพ่อไออุ่นสิตลกชะมัดME : ตื่นเต้นจัง มีซุปตาร์มาตามจีบ ต้องเล่นตัวหน่อยแล้ว ^^KAI : เอาเลยตามสบาย แบบนี้ไคล์ชอบเขาหน่ะตัวร้ายเรื่องผู้หญิงเลย มีข่าวไ
"ทำงานดีมาก เร็วมาก อะไรวะเนี่ยอิง" ผมทั้งโกรธ โมโห แล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน ผมถูกอิงโกหกเรื่องท้องในวันนั้น ผิดที่ผมด้วยแหละที่ไม่เช็กให้ชัวร์ยอมปล่อยอิงไปง่าย ๆ เด็กที่ชื่อไออุ่นเป็นลูกของผมลูกของผมกับอิง ผลผลิตจากในคืนนั้นที่เราพลาดด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้เขาอายุสามขวบแล้ว ให้ตายสิกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีลูกใช้เวลาเกือบสามปีเลย ผมพลาดหลายๆ อย่างไปเยอะมาก"ผมช่วยได้เท่านี้นะครับ""ที่เหลือผมจัดการเอง เอาล่ะค่าจ้างที่เหลือผมจะโอนเข้าบริษัทให้ ทิ้งเลขบัญชีคุณไว้ให้ผมด้วย"ทำงานดีแบบนี้ไม่ให้พิเศษได้ยังไง และนี่คือเหตุผลที่ผมรีบโทรหาอิงแล้วนัดออกมาคุยข้างนอก แม้ว่ามันเสี่ยงมากก็ตามแต่ผมก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหลังจากกลับจากสนามบินผมก็ร้อนใจเรื่องของอิงกับเด็กคนนั้นมาก รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วก็มีจริง ๆ นักสืบโทรมารายงานเรื่องอิงให้ผมฟังอย่างละเอียดพร้อมส่งข้อมูลเท่าที่หามาได้เข้าไลน์ หลังจากวางสายผมก็โทรนัดอิงส่งโลเคชั่นไปให้แล้วนั่งมองรูปเด็กน้อยตากลมโตไปด้วย รอยยิ้มนั่นเหมือนอิง ไออุ่นคือลูกสาวของผม เธอน่ารักมาก มีบางส่วนที่เหมือนผม ปากมั้งไม่แน่ใจโรงแรม K INผ
พอเคลียร์เรื่องที่สนามบินเสร็จฉันก็รีบหยิบมือถือไลน์ไปแจ้งพี่ตฤณพร้อมกับถ่ายรูปไออุ่นส่งไป พี่ตฤณส่งสติ๊กเกอร์ปาดเหงื่อกลับมาตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ คงยุ่งอยู่จริง ๆ ถึงไม่โทรมาปกติพี่ตฤณจะต้องโทรกลับทุกครั้ง"กลับโรงแรมกันก่อนนะคะ""ดีเลยค่ะ เจ้าตัวแสบคงเหนื่อยแย่" ไออุ่นหลับไปแล้ว ป้าสุดใจอุ้มไออุ่นไม่ยอมวางจนขึ้นรถของโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ พอถึงห้องพักป้าสุดใจก็แยกพาไออุ่นไปนอน ห้องที่พี่ตฤณจองให้เป็นห้องคอนเน็กเชื่อมกันถึงสามห้องเหมาะสำหรับครอบครัวมาก ๆ เดาว่าพี่ตฤณคงมาพักที่นี่กับพวกเราด้วย"ป้าสุดใจก็ไปพักเถอะค่ะ""คุณอิงก็พักบ้างนะคะ" ฉันพยักหน้ารับ คงยังหลับตาไม่ลง สายตาของฉันจ้องไปที่หน้าจอมือถือตลอดเวลา เราได้เจอกันแล้วสินะ พ่อลูกได้เจอกันแล้ว จากนี้ไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาไว้เลย คนมีเป็นร้อยเป็นล้านทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ช่วยไออุ่นไว้ ฉันนั่งคิดเรื่องนี้นานนับชั่วโมงคิดเผื่อไปด้วยว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นจะเป็นยังไงเขาจะแย่งลูกไปจากอกฉันเหมือนในละครหรือว่าเราจะคุยตกลงรื่องลูกกันดี ๆ แบ่งเวลาให้กันอย่างเท่าเทียม อีกประเด็นที่ฉันคิดคือไคล์อาจ
"ป้าสุดใจ ไออุ่นล่ะคะ ไออุ่นไปไหนคะ " ฉันรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วหันไปย้ำถามหาไออุ่นจากป้าสุดใจอีกครั้ง สีหน้าของป้าดูไม่ดีเลย มือไม้ของฉันมันสั่นไปหมด ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า"คือป้า ป้าแค่หันไปหยิบของในกระเป๋า หันมาก็ไม่เห็นน้องแล้วค่ะ" ใจฉันกระตุกวูบเชื่อว่าสิ่งที่ป้าสุดใจพูดคือความจริง ท่านเองก็ทำท่าจะเป็นลมอยู่เหมือนกัน"ป้านั่งพักก่อนนะคะ อิงจะไปประชาสัมพันธ์ อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลม""ได้ค่ะๆ คุณอิงป้าขอโทษนะคะ น้องเพิ่งหายไปเมื่อกี้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเครือนั่นทำให้ฉันแอบน้ำตาคลอไปด้วย ห่วงทั้งป้าสุดใจและลูกสาวเพียงคนเดียว"ไม่เป็นไรค่ะ ไออุ่นคงซนตามประสา เดี๋ยวอิงกลับมานะคะ ป้ารออยู่ตรงนี้นะคะเผื่อไออุ่นกลับมา""ได้ค่ะๆ "ฉันรีบวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน โดยไม่ลืมจะหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาพี่ตฤณ พอพี่ตฤณรู้เรื่องก็ร้อนใจไม่ต่างจากฉัน"ใจเย็นๆ แล้วตอนนี้กำลังจะไปไหน""ประชาสัมพันธ์ค่ะ ถ้าวิ่งหากันคงไม่เจอ พี่ตฤณน้องกลัว ฮึก" ฉันกลัวตามหาลูกไม่เจอ กลัวไปหมด สนามบินทั้งใหญ่และกว้างขนาดนี้วิ่งตามหาวันก็คงไม่เจอ ไออุ่นหายไปไหน? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ
"อุ่นอยากขึ้นเครื่องบิน เครื่องบิน เครื่องบิน""รู้แล้วค่ะ ดี๊ด๊าใหญ่เลยนะเรา ป้าสุดใจเอากระเป๋ามาครบแล้วใช่มั้ยคะ""เอามาครบแล้วค่ะ" ฉันตรวจเช็กความเรียบร้อยของทุกคน โดยเฉพาะเด็กหญิงไออุ่นเพราะเมื่อวานมีไข้ต่ำ ๆ กำหนดเดินทางวันนี้ตอนแรกจะเลื่อนไปก่อน แต่งานที่นู่นดันมีปัญหาก็เลยเลื่อนไม่ได้ ปรึกษาคุณหมอแล้วว่าอาการของไออุ่นไม่รุนแรงกินยาลดไข้และเช็ดตัวบ่อยๆก็จะดีขึ้นดีขึ้นจริง ๆ นั่นแหละ เสียงแจ๋วเชียว"ถึงแล้วก็โทรมาบอกพี่ด้วย ""พ่อพ่อจะตามไปวันไหนคะ""อีกสองวันครับ ไหนจับตัวสิ ตัวไม่ร้อนแล้วคนเก่ง" ไม่ใช่แค่พ่อพ่อหรอกที่เป็นห่วงอาการของไออุ่นฉันเองก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ กลัวว่าลูกจะเป็นหนักระหว่างนั่งเครื่อง แต่บินแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้วเมื่อกี้ก็เพิ่งป้อนยากันไปกว่ายาจะหมดฤทธิ์ก็ตั้งสี่ชั่วโมงถึงก่อนชัวร์อยู่แล้ว"ต้องกินยา อุ่นไม่ชอบเลย""ถ้าไม่กินยาก็จะอดขึ้นเครื่องบินนะ""กินก็ได้ค่ะ""กินไปแล้วค่ะ เมื่อกี้ให้ป้าสุดใจป้อนแล้ว" ฉันทำหน้าเหนื่อย ๆ ถ้าไม่ได้เดินทางไออุ่นคงไม่ยอมกินยาง่ายขนาดนี้ งานนี้ไม่ยากเลยอดเป็นห่วงไม่ได้"เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่สบายใจเรื่องลูกเ
"ดูนั่นสิ แสดงเป็นต้นไม้ซะสมจริงเลย""พี่ตฤณ หลานตั้งใจออก ดูสิคะจ้องพี่ตฤณไม่วางตาเลย" สิ่งที่ไออุ่นกังวลมากที่สุดคือกลัวพ่อพ่อของเขามาไม่ได้ พอได้เห็นว่าพ่อพ่อมาได้ก็จ้องตาไม่กะพริบเลย เอ็นดูเจ้าต้นไม้น้อยนั่น"พี่ผิดนัดครั้งก่อนคงกลัว" ครั้งนั้นเป็นงานวันเด็ก ไออุ่นได้ขึ้นแสดงเต้นประกอบเพลง แววตาเศร้าหมองในวันนั้นทำให้พี่ตฤณรู้สึกผิดไม่น้อย รูปที่ฉันตั้งใจถ่ายไปอวดกลายเป็นภาพแห่งความเจ็บปวดไปซะงั้น แต่พี่ตฤณก็สั่งให้คนไปอัดใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเอาไว้เตือนใจว่าไม่ควรผิดสัญญากับใครอีก"ครั้งนั้นเต้นเกือบไม่ออก เอาแต่มองหาพ่อพ่อ""พี่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อของไออุ่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะ" พี่ตฤณยื่นมือมาแตะบ่าฉันเบา ๆ แล้วหันไปมองลูกสาวที่กำลังทำการแสดงอยู่บนเวที วันนี้พ่อพ่อของไออุ่นออร่าจับมาก ๆ แม่ ๆ หลายคนมองตาไม่กะพริบ โดยเฉพาะแม่ของน้องอิ๊งที่นั่งอยู่ข้างหลัง เพราะไม่ค่อยได้เห็นพี่ตฤณสักเท่าไหร่"แสดงจบก็กลับบ้านได้เลย พี่ตฤณจะกลับก่อนก็ได้นะคะ" งานพี่ตฤณรออยู่อีกมาก ไออุ่นเห็นหน้าพี่ตฤณแล้วก็น่าจะพอใจแล้วล่ะ ได้ข่าวว่ามีประชุมอีก"รอกลับพร้อมกันนี่แหละ ถ่ายรูปกันก่อนสิ"
"ยังไม่เลิกซื้อหวยอีกหรือไง""อะไรกันคะ เรียกมาพบก็เพราะเรื่องหวยเนี่ยนะ" ฉันดึงเก้าอี้ตรงหน้าแล้วหย่อนตัวลงนั่ง พี่ชายต่างแม่ของฉันคนนี้ทำหน้าซีเรียสแล้วสักพักก็ผ่อนคลายลงเมื่อเห็นหน้าเด็กหญิงไออุ่นที่วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงออดอ้อน"พ่อพ่อขา""ไออุ่นของพ่อพ่อมาช่วยแม่ใช่มั้ย" เจ้าตัวอ้วนพยักหน้าแล้วโผเข้ากอดพ่อพ่อของเขาหลังจากที่ฉันไปส่งไคล์ที่สนามบินวันนั้นเสร็จฉันก็รีบติดต่อหาพี่ตฤณทันที เขาคือพี่ชายต่างแม่และเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ชีวิตฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากพี่ชายคนนี้ ก่อนหน้าฉันคิดว่าตัวเองสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งพาใคร พอท้องก็เริ่มกังวลทีแรกฉันจะทำแท้งเพราะไม่พร้อมจริงๆแต่พี่ตฤณห้ามเอาไว้ ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ตฤณฟัง พี่ชายของฉันคนนี้เข้าใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่ลังเล ปกปิดที่อยู่และจัดการเรื่องชื่อนามสกุลให้จนเสร็จสรรพ อิงดาวได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้มีแค่ฟ้ารดาเท่านั้น ฟ้ารดา อักษรศิลากุล เป็นนามสกุลที่ฉันปฏิเสธมาตลอดสุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาพึ่งพานามสกุลนี้ ลดทิฐิในตัวลงเพื่อชีวิตน้อยๆ ที่ฉันเกือบจะตัดเขาออกจากตัวไป"พ่อพ่อดุแ
สาธารณรัฐประชาชนจีน"ได้เรื่องบ้างมั้ย""ยังเลยครับ ค้นจากประวัติที่คุณไคล์ให้มาไม่พบประวัติของผู้หญิงที่ชื่ออิงฟ้าเลยครับ ที่อยู่ ชื่อและนามสกุลก็ไม่ปรากฏในทะเบียนราษฎร์เลยครับ" ผมถอนหายใจอีกครั้งเมื่อเรียกนักสืบมาถามความคืบหน้าการตามหาเพื่อนสนิทที่มีเพียงคนเดียว สองปีกว่าแล้วที่ผมไม่ได้รับข่าวและการติดต่อจากเพื่อนคนนี้อีกเลยเพราะอะไรวะอิง ทำไมถึงหายไปจนทำให้ใจหายแบบนี้"ตามหาต่อไป ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานการเสียชีวิต ผมเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่" นักสืบเอกชนหลายต่อหลายบริษัทที่ผมว่าจ้างทำงานไม่ได้เรื่องเลยสักบริษัท จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาผู้ใหญ่คนหนึ่งแนะนำบริษัทนี้มา ผ่านไปสองอาทิตย์ก็ยังไร้วี่แวว"เป็นไปได้มั้ยครับว่าเธอจะเปลี่ยนชื่อ" ผมชะงักแล้วหันไปมองหน้านักสืบ ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่อิงจะเปลี่ยนชื่อ"อิงจะเปลี่ยนชื่อเพื่ออะไร""หนีคุณไงครับ""หนีผม" ผมชี้ตัวเองอย่างงงๆ เป็นไปไม่ได้หรอก เราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย ก่อนบินอิงก็มาส่งผมที่สนามบิน ช่วงต้นปีแรกเราก็ยังคุยกันปกติ แล้วหลังจากนั้นผมก็ติดต่ออิงไม่ได้อีกเลยไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร"เป็นไปได้ครั
ปัง ปัง ปัง!!!"อิง เสร็จยังวะ เข้าไปนานแล้วนะเว้ย ""อย่าเร่งดิฉี่ไม่ออก " ผลตรวจออกแล้วต่างหากแต่ฉันไม่กล้ายอมรับความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนี้ไปฉันจะอยู่ยังไง ต้องทำตัวแบบไหน แล้วต้องตอบคำถามคนอื่นๆ ยังไง มันเครียดไปหมด! เครียดจนไม่กล้ายอมรับว่านี่มันคือเรื่องจริงเรื่องเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน ฉันกับไคล์เกิดพลาดมีอะไรกัน อยากตบหน้าตัวเองแรงๆ ต้องไม่ใช่แบบนี้ ต้องไม่ใช่ไคล์นั่นมันเพื่อนรักของฉัน"อิง! " เสียงตะโกนของไคล์ดังเข้ามาอีกครั้ง ฉันคงหนีไม่พ้น ความจริงก็คือความจริงแต่ฉันไม่อยากให้เรื่องมันออกมาแบบนี้ ฉันไม่อยากท้อง ฉันยังอยากใช้ชีวิตอิสระอยู่เลย เราทั้งคู่ไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้ ฉันยกมือขึ้นมาลูบท้องเบาๆ แล้วพูดในใจว่าเขาไม่ผิดเหมือนกัน เราทั้งคู่ต่างหากที่ใช้ชีวิตประมาทขาดสติ"จะออกไปแล้ว""เร็วๆ ดิวะ " น้ำเสียงรีบเร่งเจือกังวลนั้นทำให้ความเครียดที่มีสะสมมากขึ้น ถ้าไคล์รู้ว่าฉันท้อง เขาคงผิดหวังมากเพราะอนาคตที่กำลังจะไปได้สวยคงดับวูบ เพื่อนสนิทของฉันคนนี้กำลังจะบินไปเป็นซุป'ตาร์ที่เมืองจีน ใครกันอยากตัดอนาคตเพื่อน ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ"เออ ๆ ""ว่ายังไง ท้องม