"ป้าสุดใจ ไออุ่นล่ะคะ ไออุ่นไปไหนคะ " ฉันรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วหันไปย้ำถามหาไออุ่นจากป้าสุดใจอีกครั้ง สีหน้าของป้าดูไม่ดีเลย มือไม้ของฉันมันสั่นไปหมด ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า
"คือป้า ป้าแค่หันไปหยิบของในกระเป๋า หันมาก็ไม่เห็นน้องแล้วค่ะ" ใจฉันกระตุกวูบเชื่อว่าสิ่งที่ป้าสุดใจพูดคือความจริง ท่านเองก็ทำท่าจะเป็นลมอยู่เหมือนกัน
"ป้านั่งพักก่อนนะคะ อิงจะไปประชาสัมพันธ์ อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลม"
"ได้ค่ะๆ คุณอิงป้าขอโทษนะคะ น้องเพิ่งหายไปเมื่อกี้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเครือนั่นทำให้ฉันแอบน้ำตาคลอไปด้วย ห่วงทั้งป้าสุดใจและลูกสาวเพียงคนเดียว
"ไม่เป็นไรค่ะ ไออุ่นคงซนตามประสา เดี๋ยวอิงกลับมานะคะ ป้ารออยู่ตรงนี้นะคะเผื่อไออุ่นกลับมา"
"ได้ค่ะๆ "
ฉันรีบวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน โดยไม่ลืมจะหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาพี่ตฤณ พอพี่ตฤณรู้เรื่องก็ร้อนใจไม่ต่างจากฉัน
"ใจเย็นๆ แล้วตอนนี้กำลังจะไปไหน"
"ประชาสัมพันธ์ค่ะ ถ้าวิ่งหากันคงไม่เจอ พี่ตฤณน้องกลัว ฮึก" ฉันกลัวตามหาลูกไม่เจอ กลัวไปหมด สนามบินทั้งใหญ่และกว้างขนาดนี้วิ่งตามหาวันก็คงไม่เจอ ไออุ่นหายไปไหน? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ้ำ ๆ ครั้งสุดท้ายที่ฉันมาสนามบินคือมาส่งไคล์ หลังจากนั้นฉันก็ย้ายไปอยู่ไร่พี่ตฤณไม่เคยออกไปไหนอีกเลย
ฉันเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง แต่ก็ยังพอจำได้ว่าประชาสัมพันธ์ของสนามบินอยู่ตรงไหน
"ไม่ต้องกลัวนะ ใจเย็น ๆ "
"อิงถึงประชาสัมพันธ์แล้วค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่ตฤณ"
"เสร็จแล้วโทรกลับมาหาพี่ด้วย พี่จองตั๋วแล้ว พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะ" ฉันพยักหน้าและตอบรับคำสั่งของพี่ชาย
"สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะคุณผู้หญิง ไหวมั้ยคะ แตงมียาดมมั้ย" ทุกคนวิ่งกันให้วุ่นเข้ามาประคองฉันที่กำลังจะหมดแรงล้มลงหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ฉันพยายามหายใจเข้ายาว ๆ สูดออกซิเจนและกลิ่นยาดมเข้าปอดให้ได้มากที่สุด
"โอเคค่ะ ฉันโอเคขึ้นแล้ว ช่วยใช้เสียงประกาศตามหาเด็กให้หน่อยได้มั้ยคะ ลูกฉันหายไปค่ะ"
"ได้ค่ะๆ "
"น้องชื่อ ไออุ่นค่ะ เด็กหญิงไออุ่น อักษรศิลากุล อายุ 3 ขวบ ใส่ชุดกระโปรงสีฟ้า น้องมัดผมแกะสองข้างค่ะ ช่วยประกาศให้หน่อยนะคะ" ฉันพยายามบอกข้อมูลของไออุ่นอย่างละเอียดเท่าที่สมองจะประมวลผลได้ในตอนนี้ให้กับพี่พนักงาน
"ได้ค่ะๆ สักครู่นะคะ แตงพี่ฝากด้วยนะ อย่าเพิ่งลุกนะคะคุณ" อาการของฉันน่าเป็นห่วงขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันคิดว่าตัวเองดีขึ้นแล้วนะ
"หน้าคุณเหลืองมากเลยค่ะ" ขนาดนั้นเชียว! ภาวนาขออย่าให้ตัวเองเป็นอะไรไปตอนนี้ ไออุ่นคงกำลังขวัญเสีย ลูกกำลังต้องการฉัน อาการของฉันแย่ขนาดนี้แล้วป้าสุดใจจะเป็นยังไงบ้าง ออกจากบ้านยังไม่ถึงวันก็เกิดปัญหาซะแล้ว
ประชาสัมพันธ์ใช้เสียงประกาศชื่อ ข้อมูลที่ฉันให้ไปประมาณสามรอบอีกทั้งยังแจ้งให้หน่วยรักษาความปลอดภัยภายในสนามบินช่วยกันตามหาอีกแรง ฉันไม่โทษป้าสุดใจ ไม่โทษลูกที่ชอบวิ่งซน ไม่โทษใครทั้งนั้นในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขและตามหาไออุ่น
ผ่านไปสิบนาทีก็ยังไม่มีวี่แวว แต่ว่าอยู่ ๆ ก็มีสายจากเบอร์ปริศนาเข้ามาในเครื่องของฉัน
"ฮัลโหลค่ะ"
"แม่อิงขา ไออุ่นเองนะคะ แม่อิงอยู่ไหนคะ" ฉันหลับตาแล้วถอนหายใจ พยายามกลั้นเสียงสะอื้นแล้วรีบให้คำตอบลูกสาวในสายทันที
"แม่อยู่ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ค่ะ อุ่นอยู่ไหนลูก ปลอดภัยใช่มั้ยคะ" ในความโชคร้ายก็ยังพอมีความโชคดีอยู่บ้าง ฉันทำป้ายคอนแท็กคล้องคอให้ไออุ่น มีเบอร์โทรและชื่อที่อยู่ รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
"ปลอดภัยค่ะ อุ่นขอโทษนะคะ แม่อิงอย่าร้องไห้นะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นอะไรเลย ไออุ่นกลับมาหาแม่นะคะ แม่ขอคุยกับเจ้าของโทรศัพท์ได้มั้ยคะ"
"ได้ค่ะ" ฉันอยากขอบคุณ คุณพลดีมากจริง ๆ ถ้าไม่ได้เขาป่านนี้ฉันคงเป็นลมอีกรอบ
"สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ"
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
สายถูกตัดไปหรือว่าเขาตั้งใจวางสาย สรุปเขาคือพลเมืองดีหรือว่าคนร้ายความกังวลใจเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
สายเข้า
-พี่ตฤณ-
"ขอโทษค่ะพี่ตฤณ พอดีว่าอิงหน้ามืดไปซะก่อน" ฉันรีบรับสายพี่ชายพร้อมบอกเหตุผล
"เป็นยังไงบ้าง"
"มีพลเมืองดีเจอตัวไออุ่นแล้วค่ะ" ฉันรีบรายงานเรื่องไออุ่นทันที พี่ตฤณโทรมาเพราะเรื่องนี้ฉันรู้
"แล้วเราล่ะ เป็นยังไงบ้าง จะให้พี่ขับรถไปหาตอนนี้เลยมั้ย โอเคหรือเปล่า"
"อิงยังโอเคค่ะ แต่ป้าสุดใจตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง"
"พี่โทรไปหามาแล้วเมื่อกี้ ป้าแกโอเค นั่งรออยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน " ได้ยินแบบนั้นฉันก็วางใจ ตอนนี้แค่รอ รอให้พลเมืองดีคนนั้นพาไออุ่นมาส่ง
"อิงค่อยสบายใจหน่อยค่ะ"
"เจอไออุ่นแล้วโทรมาบอกพี่ด้วยนะ ไลน์มาก็ได้ อย่าลืม ดูแลตัวเองด้วยนะพี่เป็นห่วง" น้ำเสียงของพี่ตฤณฟังดูรีบ ๆ งานที่ไร่คงเยอะ ปกติก็เยอะทุกวันอยู่แล้ว
" ค่ะพี่ตฤณ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อิงจะทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด" ถึงเวลาที่ฉันต้องเข้มแข็ง เมื่อก่อนและตอนนี้พี่ตฤณก็ยังเป็นทุกอย่างให้กับฉันและไออุ่น พออยู่ห่างกันแล้วเกิดปัญหารู้สึกเคว้งยังไงก็ไม่รู้
"คุณผู้หญิงมี รปภ. แจ้งว่าพบน้องผู้หญิงตามข้อมูลที่คุณผู้หญิงให้มาค่ะ"
"อ่อ ค่ะ เมื่อกี้มีสายจากพลเมืองดีโทรเข้ามาเหมือนกันค่ะ"
"แม่อิง" ฉันรีบหันไปตามเสียงเรียกทันที เด็กผู้หญิงชุดกระโปรงสีฟ้าวิ่งเข้ามากอดฉันเต็มแรง อาการหน้ามืดเวียนหัวที่มีอยู่เมื่อสักครู่หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้กลิ่นและได้กอดลูกสาวสุดที่รัก
"ขวัญเอ๊ยขวัญมานะคะคนดี หายไปไหนมาคะแม่เป็นห่วงแทบแย่"
"อุ่นปวดฉี่ค่ะ " ฉันกอดลูกสาวแน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไปอีก
"ทีหลังต้องรอนะคะ ห้ามหายไปเองแบบนี้รู้มั้ย" ฉันดันไออุ่นออกจากอก ปาดน้ำตาที่กำลังไหลของตัวเองออกอย่างลวก ๆ
"ขอโทษนะคะ" ฉันไม่เคยโกรธเขาเลย น้ำเสียงไร้เดียงสานั่นเยียวยาจิตใจฉันได้ดีมากๆ เลยล่ะ
"ใครที่พามาส่ง คนไหนเอ่ย บอกแม่ได้มั้ยคะแม่จะได้ขอบคุณ"
"คุณลุงคนนั้นค่ะ" ไออุ่นชี้ไปที่ผู้ชายร่างสูง เขาใส่หมวกสีดำ ปิดแมสเห็นแต่ดวงตา แต่งกายพรางตัวเหมือนพวกดาราเกาหลีหนีออกนอกประเทศทำนองนั้น
"ขอบคุณนะคะที่พาไออุ่นมาส่ง ขอบคุณมากๆ ค่ะ" เขามองฉันนิ่ง ภายใต้แมสสีดำนั่นฉันไม่รู้เลยว่าเขากำลังยิ้ม หรือเม้มปากเป็นเส้นตรง
"คุณลุงใจดีบอกว่าจะพาอุ่นไปกินไอติม"
"เธอร้องไห้นี่" น้ำเสียงของเขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ได้โปรดสนใจคำขอบคุณของฉันก่อนได้มั้ย
"อุ่นหาแม่กับป้าสุดใจไม่เจอนี่คะ" ไออุ่นก้มหน้าทำท่าจะร้องไห้ฉันก็เลยดึงลูกมากอดปลอบอีกครั้ง
"ไม่เป็นไรนะคะ แม่อยู่นี่แล้วนะ"
"มีลูกแล้วทำไมต้องหนีกันด้วย" เสียงผู้ชายคนนั้นทำให้ฉันหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง คุณพลเมืองดีดึงแมสที่ใส่ออก ภายใต้แมสที่ใส่ริมฝีปากของเขากำลังเหยียดเป็นเส้นตรง บ่งบอกถึงความไม่พอใจเอามาก ๆ
"คุณไคล์ " ตามมาด้วยเสียงกระซิบของพนักงานประชาสัมพันธ์แถวนั้น
"ไคล์"
" มีเรื่องต้องคุยกันนะอิง" ฉันมองหน้าเขาสลับกับไออุ่น ลูกไม่รู้เรื่องอะไรด้วยอีกอย่างไคล์ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ ฉันที่เป็นกุญแจสำคัญจะหลุดความลับออกมาไม่ได้เด็ดขาด
"เรื่องอะไร ก็เห็นแล้วนี่ว่ามีลูกแล้ว"
"ทำไมต้องหนี ทำไมไม่ติดต่อมา ทำไมหายไปแบบนั้น ทำไมวะ"
"ไคล์ ต่อหน้าลูกอิงพูดแบบนี้ไม่ได้นะ" ไออุ่นขยับเข้ามากอดฉันทันที
"ขอโทษที ขอคุยด้วยได้มั้ย ร้านไอติมก็ได้" ถ้าฉันหนี ไคล์จะสงสัยมากกว่านี้ ไหนๆ ก็หนีไม่พ้นแล้ว
"ขอเข้าโรงแรมเช็กอินก่อนนะ ไออุ่นคงอยากพัก อิงมีพี่เลี้ยงลูกมาด้วยแกก็คงอยากพักด้วย"
"ได้สิ เดี๋ยวโทรหา " พอพูดจบไคล์ก็รีบเดินหายไปทันที ซุปตาร์อ่ะเนอะ อยู่นานได้ที่ไหน
--------
พอเคลียร์เรื่องที่สนามบินเสร็จฉันก็รีบหยิบมือถือไลน์ไปแจ้งพี่ตฤณพร้อมกับถ่ายรูปไออุ่นส่งไป พี่ตฤณส่งสติ๊กเกอร์ปาดเหงื่อกลับมาตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ คงยุ่งอยู่จริง ๆ ถึงไม่โทรมาปกติพี่ตฤณจะต้องโทรกลับทุกครั้ง"กลับโรงแรมกันก่อนนะคะ""ดีเลยค่ะ เจ้าตัวแสบคงเหนื่อยแย่" ไออุ่นหลับไปแล้ว ป้าสุดใจอุ้มไออุ่นไม่ยอมวางจนขึ้นรถของโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ พอถึงห้องพักป้าสุดใจก็แยกพาไออุ่นไปนอน ห้องที่พี่ตฤณจองให้เป็นห้องคอนเน็กเชื่อมกันถึงสามห้องเหมาะสำหรับครอบครัวมาก ๆ เดาว่าพี่ตฤณคงมาพักที่นี่กับพวกเราด้วย"ป้าสุดใจก็ไปพักเถอะค่ะ""คุณอิงก็พักบ้างนะคะ" ฉันพยักหน้ารับ คงยังหลับตาไม่ลง สายตาของฉันจ้องไปที่หน้าจอมือถือตลอดเวลา เราได้เจอกันแล้วสินะ พ่อลูกได้เจอกันแล้ว จากนี้ไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาไว้เลย คนมีเป็นร้อยเป็นล้านทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ช่วยไออุ่นไว้ ฉันนั่งคิดเรื่องนี้นานนับชั่วโมงคิดเผื่อไปด้วยว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นจะเป็นยังไงเขาจะแย่งลูกไปจากอกฉันเหมือนในละครหรือว่าเราจะคุยตกลงรื่องลูกกันดี ๆ แบ่งเวลาให้กันอย่างเท่าเทียม อีกประเด็นที่ฉันคิดคือไคล์อาจ
"ทำงานดีมาก เร็วมาก อะไรวะเนี่ยอิง" ผมทั้งโกรธ โมโห แล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน ผมถูกอิงโกหกเรื่องท้องในวันนั้น ผิดที่ผมด้วยแหละที่ไม่เช็กให้ชัวร์ยอมปล่อยอิงไปง่าย ๆ เด็กที่ชื่อไออุ่นเป็นลูกของผมลูกของผมกับอิง ผลผลิตจากในคืนนั้นที่เราพลาดด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้เขาอายุสามขวบแล้ว ให้ตายสิกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีลูกใช้เวลาเกือบสามปีเลย ผมพลาดหลายๆ อย่างไปเยอะมาก"ผมช่วยได้เท่านี้นะครับ""ที่เหลือผมจัดการเอง เอาล่ะค่าจ้างที่เหลือผมจะโอนเข้าบริษัทให้ ทิ้งเลขบัญชีคุณไว้ให้ผมด้วย"ทำงานดีแบบนี้ไม่ให้พิเศษได้ยังไง และนี่คือเหตุผลที่ผมรีบโทรหาอิงแล้วนัดออกมาคุยข้างนอก แม้ว่ามันเสี่ยงมากก็ตามแต่ผมก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหลังจากกลับจากสนามบินผมก็ร้อนใจเรื่องของอิงกับเด็กคนนั้นมาก รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วก็มีจริง ๆ นักสืบโทรมารายงานเรื่องอิงให้ผมฟังอย่างละเอียดพร้อมส่งข้อมูลเท่าที่หามาได้เข้าไลน์ หลังจากวางสายผมก็โทรนัดอิงส่งโลเคชั่นไปให้แล้วนั่งมองรูปเด็กน้อยตากลมโตไปด้วย รอยยิ้มนั่นเหมือนอิง ไออุ่นคือลูกสาวของผม เธอน่ารักมาก มีบางส่วนที่เหมือนผม ปากมั้งไม่แน่ใจโรงแรม K INผ
ทุกคนหลับหมดแล้ว ป้าสุดใจ ไออุ่น เวลาพักผ่อนนี่เนอะเที่ยงคืนแล้วด้วยฉันเพิ่งกลับถึงห้อง กลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ เราเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ไคล์สัญญาแล้วว่าจะไม่ใช้ข้อกฎหมายมาต่อรองเรื่องลูก เรื่องอื่น ๆ เราก็ตกลงกันเรียบร้อยเพราะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ค่อยสบายใจ ไคล์เพิ่งเดินทางกลับมาแล้วเขาก็มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างลำบากเพราะแฟนคลับเยอะ ผู้หวังดีก็มีหวังร้ายก็คงมีเหมือนกันโดยเฉพาะพวกที่อยากได้เงินจากการขายรูปถ่ายให้กับสำนักข่าว ฉันไม่สบายใจเรื่องนี้เอามาก ๆME: ถึงห้องแล้วKAI : โอเค ถึงแล้วเหมือนกัน อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเลยนะฉันไม่ใช่ไออุ่นนะแต่ก็ทำให้เผลอยิ้มแล้วพิมพ์ตอบกลับไปME : เรื่องคำตอบ คือว่าKAI : ไม่รีบ ค่อย ๆ คิด ไคล์จะจีบอิงทุกวันใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าไคล์จะทำแบบนี้ เขาขอคบโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดบอกว่าจะจีบทุกวันจนกว่าฉันจะใจอ่อน ดูพ่อไออุ่นสิตลกชะมัดME : ตื่นเต้นจัง มีซุปตาร์มาตามจีบ ต้องเล่นตัวหน่อยแล้ว ^^KAI : เอาเลยตามสบาย แบบนี้ไคล์ชอบเขาหน่ะตัวร้ายเรื่องผู้หญิงเลย มีข่าวไ
เราไม่พูดถึงเรื่องล็อกจัดบูธกันอีก ผมรู้ว่าอิงเครียดเรื่องนี้มาก ผมตัดบทและแก้ปัญหาด้วยการอาสาช่วยเรื่องนี้เอง ส่วนเรื่องฝ่ายจัดงานผมคงเฉยไม่ได้ทำแบบนี้ได้ยังไงทิ้งงานที่กำลังจะจัดขึ้นแล้วโยนให้ฝ่ายอื่นจัดการแทนแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน "แม่อิงกลับมาแล้ว เอ๋ ""สวัสดีเด็กน้อย จำกันได้มั้ยเอ่ย"ไออุ่นเอียงคอสงสัย ตาแป๋วมากเลยลูกสาวผม"ไออุ่นสวัสดีค่ะก่อนลูก ""สวัสดีค่ะคุณลุง อุ่นจำได้ คุณลุงช่วยอุ่นพามาส่งคุณแม่" มันสุขใจอย่างบอกไม่ถูก แค่นี้ก็ทำให้ผมใจฟูมาก ๆ แล้ว คุณป้าที่กำลังเก็บกระเป๋าคงเป็นพี่เลี้ยงของไออุ่นที่อิงเล่าให้ฟัง"เป็นไงบ้าง หายกลัวหรือยัง""กลายเป็นว่ากลัวคนเยอะไปแล้ว ป้าสุดใจจะไปเลยใช่มั้ยคะ""ใช่ค่ะ ป้าอาจจะต้องค้างนะคะ คุณอิงไหวมั้ยคะ""ไหวค่ะ ป้าสุดใจไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ใช้เวลาให้เต็มที่ได้เลยค่ะ""ขอบคุณมากนะคะคุณอิง ป้าไปก่อนนะคะ ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกนะคะ" ผมยิ้มให้กับคำชมพร้อมกับยกมือไหว้ ป้าสุดใจเดินออกจากห้องไปตอนนี้ก็เหลือแค่ผม ลูกสาว แล้วก็แม่ของลูก"พ่อพ่ออยู่ไหนคะ""พ่อพ่อนอนหลับค่ะ พ่อพ่อเหนื่อยมาก""ไออุ่นเรียกพี่ตฤณว่าพ่อพ่อน่ะ" ไออุ่นเรียกลุงของเขาว่าพ่
"ผมต้องการให้นอนโรงพยาบาลครับ""ได้ค่ะ""ไคล์ อิงอยากกลับมากกว่า""ดูอาการก่อนนะ เผื่อแผลติดเชื้อ อยู่ใกล้หมอโอเคกว่า" ฉันถอนหายใจ ที่จริงฉันอ้อนวอนหมอขอกลับแล้วจะมาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน แผลไม่ได้ลึกแค่เฉียดเท่านั้นแต่ก็ทำให้ฉันเจ็บมากเหมือนกัน ตอนนี้ฉันอยากเจอลูกมากกว่าเถียงกับไคล์แล้ว"โอเคได้ ลูกอยู่ไหน""อยู่กับย่าของเขา" เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วหันไปแจ้งพยาบาลอีกครั้งว่าต้องการห้องพิเศษที่ดีที่สุดไออุ่นอยู่กับย่าก็ต้องเป็นแม่ของไคล์ เร็วเกินไปมั้ยแล้วฉันจะทำยังไงถ้าพวกท่านรู้ว่าฉันจงใจโกหกไคล์เรื่องลูก ฉันจะต้องถูกสาปแน่ๆ"ไคล์""ไม่ต้องกลัว ม๊าเป็นคนมีเหตุผล ตอนนี้กำลังเห่อหลานมาก ๆ""ก็ยังกลัวอยู่ดี""เอาเถอะอย่าเพิ่งคิดมาก ตอนนี้พักผ่อนก่อนนะ นอนก่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องลูก" ฉันพยักหน้า อยากนอนอยู่เหมือนกันฉันรู้สึกตัวอีกทีช่วงเย็น ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอหน้าพี่ตฤณก่อนเลย ส่วนไคล์ไม่เห็นแล้ว"ไงเรา""เจ็บค่ะ แค่เฉียดๆ""พี่รู้จากหมอแล้วล่ะ เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่ให้คนอื่นมาจัดการแทนแล้ว" ฉันเสียดายมาก ๆ อยากรั้นแต่คงไม่ได้เพราะพี่ตฤณพูดออกมาแบบนี้แล้ว คำสั่งของพี่ตฤณคือประกา
“คุณแม่ขา ที่บ้านคุณย่ามีรูปคุณลุงเต็มไปหมดเลย”“คุณย่าเป็นแม่ของคุณลุงค่ะ” ไออุ่นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเพราะตั้งแต่เกิดมาก็รู้จักแค่ตากับยายที่อยู่ในรูปเท่านั้น“ทำไมอุ่นต้องเรียกแม่ของคุณลุงว่าคุณย่าด้วยคะ เรียกคุณป้าไม่ได้เหรอคะ” ฉันยังไม่พร้อมอธิบายให้ลูกฟังตอนนี้เพราะยังเจ็บแผลและรู้สึกเพลียๆ อยู่ รอให้พ่อของเขามาก่อนดีกว่าค่อยปรึกษากันอีกครั้งว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้“ท่านอายุมากแล้วค่ะ เรียกคุณย่านั่นแหละถูกต้องแล้ว”“เมื่อไหร่คุณแม่จะหายคะ อุ่นกลัวมากๆ เลย”“เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวแล้วนะคะ จะไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว”“จริงนะคะ”“คุณลุงสัญญากับคุณแม่ด้วยตัวเองเลยนะ” เขาเป็นพ่อของลูกนี่เนอะ ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องใส่ร้ายและพูดถึงเขาในทางไม่ดีให้ไออุ่นได้ยิน“คุณแม่หายเร็วๆ นะคะ เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน”“ไม่คิดถึงพ่อพ่อเหรอคะ”“พ่อพ่อบอกว่าให้อุ่นดูแลคุณแม่ให้ดี อุ่นให้กำลังใจพ่อพ่อไปแล้วค่ะ กอดแน่นๆ หอมแก้มสองข้างเลย” พี่ตฤณต้องจัดการทุกอย่างแทนฉันหมด คงเหนื่อยแย่เลย“เก่งจังเลยลูกสาวแม่อิงเนี่ย”“เราจะกลับบ้านกันวันไหนคะคุณแม่”“รอให้คุณแม่หายก่อนนะคะ”“อุ่นจะได้เจอคุณ
คนบ้า ประสาท คิดว่ามีเงินแล้วจะพูด จะทำอะไรก็ได้ ผลของการมั่นหน้าทำให้ฉันเสียงานนอนเจ็บอยู่หลายวันยังไม่สำนึกอีก กระแสตอนนี้มีผลกระทบกับไคล์ทั้งดีและไม่ดี วงการนี้มันประสาทมากต้องจิตแข็งมากขนาดไหนถึงปล่อยจอยอดทนกว่าจะประสบความสำเร็จได้“คุณแม่ขา คุณลุงจะโทรมาหาอุ่นมั้ยคะ” หลังกลับมาจากกรุงเทพ คุณพ่อก็ทำคะแนนไม่พัก รู้เวลาโทรหาลูกสาวพร้อมอัปเดตความคืบหน้าห้องนอนส่วนตัวด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้คุณลุงงานเยอะ” ฉันตอบลูกพร้อมกับจัดที่นอน ไออุ่นต้องรีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน“คุณลุงบอกอุ่นว่าถึงงานเยอะก็จะไม่ลืมอุ่นค่ะ”“ตั้งตารอขนาดนั้นเชียวเหรอ”“อุ่นอยากให้คุณลุงเล่านิทานให้ฟังค่ะ”“เดี๋ยวคุณลุงก็โทรมาค่ะ แต่ถ้าอุ่นง่วงก็นอนก่อนนะคะไม่ต้องรอ” ฉันไม่ค่อยได้คุยกับไคล์ส่วนใหญ่จะส่งโทรศัพท์ให้ลูกคุยมากกว่า เรื่องการฟ้องร้องคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอกอยู่ที่ว่าไคล์จะรับมือยังไง ส่วนเรื่องแฟนคลับก็ยังมีบางส่วนที่รับไม่ได้ที่ไอดอลของเขาจะโบกมือลาวงการวางทิ้งงานทุกอย่างลง วุ่นวายจนฉันปวดหัวแทน“ค่ะ อุ่นจะรอ” ฉันตามใจลูกแต่ก็ต้องไม่เกินเวลานอนไออุ่นเอาแต่จ้องหน้าจอรอพ่อของเขาตาไม
2 เดือนต่อมา“แบบนี้ป้าคงคิดถึงแย่เลย”“ไปไม่นานหรอกค่ะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว” มีคนทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอหนึ่งอัตรา“ป้าสุดใจอย่าร้องไห้นะคะ อุ่นไปไม่นานค่ะ จะโทรมาหาบ่อยๆ ด้วยนะคะ”นั่นยิ่งทำให้คนแก่อาการหนัก ป้าสุดใจกอดไออุ่นแน่นทำให้ฉันยิ้มตามไม่หุบ ไม่ได้รู้สึกเศร้าแต่ปลื้มใจมากกว่า ใครๆ ก็รักและเอ็นดูไออุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ คนเป็นแม่มีแต่ปลื้มใจและหายเหนื่อย“เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาได้ตลอด เข้าใจมั้ย” พี่ตฤณเป็นคนขับรถมาส่งเราที่สนามบินด้วยตัวเอง“ค่ะ พี่ตฤณไม่ต้องห่วงอิงกับอุ่นนะคะ มีอะไรอิงจะรีบโทรหาพี่ตฤณทันที”“ไออุ่นครับ อย่าลืมโทรหาพ่อพ่อนะดูแลแม่อิงด้วย”“ค่ะพ่อพ่อ อุ่นจะดูแลแม่อิงเองค่ะ พ่อพ่ออย่าทำงานหนักมากนะคะอุ่นเป็นห่วง”“ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”“อิงไปก่อนนะคะ ถึงแล้วจะโทรหา ไปก่อนนะคะป้าสุดใจ”“เดินทางปลอดภัยนะคะ ทั้งคู่เลย”ไออุ่นดี๊ด๊าที่จะได้เจอคุณลุงของเขา (พ่อไคล์) นับวันรออยากให้ปิดเทอมเร็วๆ จนในที่สุดก็มาถึงวันนี้ ไคล์ออกค่าเครื่องบินให้และตอนนี้ก็คงรอรับเราทั้งคู่อยู่ที่สนามบิน“คุณลุง”“ว่าไงตัวเล็ก” เชื่อแล้วว่าคิดถึงกันจริง เ
2 เดือนต่อมา“แบบนี้ป้าคงคิดถึงแย่เลย”“ไปไม่นานหรอกค่ะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว” มีคนทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอหนึ่งอัตรา“ป้าสุดใจอย่าร้องไห้นะคะ อุ่นไปไม่นานค่ะ จะโทรมาหาบ่อยๆ ด้วยนะคะ”นั่นยิ่งทำให้คนแก่อาการหนัก ป้าสุดใจกอดไออุ่นแน่นทำให้ฉันยิ้มตามไม่หุบ ไม่ได้รู้สึกเศร้าแต่ปลื้มใจมากกว่า ใครๆ ก็รักและเอ็นดูไออุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ คนเป็นแม่มีแต่ปลื้มใจและหายเหนื่อย“เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาได้ตลอด เข้าใจมั้ย” พี่ตฤณเป็นคนขับรถมาส่งเราที่สนามบินด้วยตัวเอง“ค่ะ พี่ตฤณไม่ต้องห่วงอิงกับอุ่นนะคะ มีอะไรอิงจะรีบโทรหาพี่ตฤณทันที”“ไออุ่นครับ อย่าลืมโทรหาพ่อพ่อนะดูแลแม่อิงด้วย”“ค่ะพ่อพ่อ อุ่นจะดูแลแม่อิงเองค่ะ พ่อพ่ออย่าทำงานหนักมากนะคะอุ่นเป็นห่วง”“ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”“อิงไปก่อนนะคะ ถึงแล้วจะโทรหา ไปก่อนนะคะป้าสุดใจ”“เดินทางปลอดภัยนะคะ ทั้งคู่เลย”ไออุ่นดี๊ด๊าที่จะได้เจอคุณลุงของเขา (พ่อไคล์) นับวันรออยากให้ปิดเทอมเร็วๆ จนในที่สุดก็มาถึงวันนี้ ไคล์ออกค่าเครื่องบินให้และตอนนี้ก็คงรอรับเราทั้งคู่อยู่ที่สนามบิน“คุณลุง”“ว่าไงตัวเล็ก” เชื่อแล้วว่าคิดถึงกันจริง เ
คนบ้า ประสาท คิดว่ามีเงินแล้วจะพูด จะทำอะไรก็ได้ ผลของการมั่นหน้าทำให้ฉันเสียงานนอนเจ็บอยู่หลายวันยังไม่สำนึกอีก กระแสตอนนี้มีผลกระทบกับไคล์ทั้งดีและไม่ดี วงการนี้มันประสาทมากต้องจิตแข็งมากขนาดไหนถึงปล่อยจอยอดทนกว่าจะประสบความสำเร็จได้“คุณแม่ขา คุณลุงจะโทรมาหาอุ่นมั้ยคะ” หลังกลับมาจากกรุงเทพ คุณพ่อก็ทำคะแนนไม่พัก รู้เวลาโทรหาลูกสาวพร้อมอัปเดตความคืบหน้าห้องนอนส่วนตัวด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้คุณลุงงานเยอะ” ฉันตอบลูกพร้อมกับจัดที่นอน ไออุ่นต้องรีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน“คุณลุงบอกอุ่นว่าถึงงานเยอะก็จะไม่ลืมอุ่นค่ะ”“ตั้งตารอขนาดนั้นเชียวเหรอ”“อุ่นอยากให้คุณลุงเล่านิทานให้ฟังค่ะ”“เดี๋ยวคุณลุงก็โทรมาค่ะ แต่ถ้าอุ่นง่วงก็นอนก่อนนะคะไม่ต้องรอ” ฉันไม่ค่อยได้คุยกับไคล์ส่วนใหญ่จะส่งโทรศัพท์ให้ลูกคุยมากกว่า เรื่องการฟ้องร้องคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอกอยู่ที่ว่าไคล์จะรับมือยังไง ส่วนเรื่องแฟนคลับก็ยังมีบางส่วนที่รับไม่ได้ที่ไอดอลของเขาจะโบกมือลาวงการวางทิ้งงานทุกอย่างลง วุ่นวายจนฉันปวดหัวแทน“ค่ะ อุ่นจะรอ” ฉันตามใจลูกแต่ก็ต้องไม่เกินเวลานอนไออุ่นเอาแต่จ้องหน้าจอรอพ่อของเขาตาไม
“คุณแม่ขา ที่บ้านคุณย่ามีรูปคุณลุงเต็มไปหมดเลย”“คุณย่าเป็นแม่ของคุณลุงค่ะ” ไออุ่นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเพราะตั้งแต่เกิดมาก็รู้จักแค่ตากับยายที่อยู่ในรูปเท่านั้น“ทำไมอุ่นต้องเรียกแม่ของคุณลุงว่าคุณย่าด้วยคะ เรียกคุณป้าไม่ได้เหรอคะ” ฉันยังไม่พร้อมอธิบายให้ลูกฟังตอนนี้เพราะยังเจ็บแผลและรู้สึกเพลียๆ อยู่ รอให้พ่อของเขามาก่อนดีกว่าค่อยปรึกษากันอีกครั้งว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้“ท่านอายุมากแล้วค่ะ เรียกคุณย่านั่นแหละถูกต้องแล้ว”“เมื่อไหร่คุณแม่จะหายคะ อุ่นกลัวมากๆ เลย”“เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวแล้วนะคะ จะไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว”“จริงนะคะ”“คุณลุงสัญญากับคุณแม่ด้วยตัวเองเลยนะ” เขาเป็นพ่อของลูกนี่เนอะ ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องใส่ร้ายและพูดถึงเขาในทางไม่ดีให้ไออุ่นได้ยิน“คุณแม่หายเร็วๆ นะคะ เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน”“ไม่คิดถึงพ่อพ่อเหรอคะ”“พ่อพ่อบอกว่าให้อุ่นดูแลคุณแม่ให้ดี อุ่นให้กำลังใจพ่อพ่อไปแล้วค่ะ กอดแน่นๆ หอมแก้มสองข้างเลย” พี่ตฤณต้องจัดการทุกอย่างแทนฉันหมด คงเหนื่อยแย่เลย“เก่งจังเลยลูกสาวแม่อิงเนี่ย”“เราจะกลับบ้านกันวันไหนคะคุณแม่”“รอให้คุณแม่หายก่อนนะคะ”“อุ่นจะได้เจอคุณ
"ผมต้องการให้นอนโรงพยาบาลครับ""ได้ค่ะ""ไคล์ อิงอยากกลับมากกว่า""ดูอาการก่อนนะ เผื่อแผลติดเชื้อ อยู่ใกล้หมอโอเคกว่า" ฉันถอนหายใจ ที่จริงฉันอ้อนวอนหมอขอกลับแล้วจะมาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน แผลไม่ได้ลึกแค่เฉียดเท่านั้นแต่ก็ทำให้ฉันเจ็บมากเหมือนกัน ตอนนี้ฉันอยากเจอลูกมากกว่าเถียงกับไคล์แล้ว"โอเคได้ ลูกอยู่ไหน""อยู่กับย่าของเขา" เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วหันไปแจ้งพยาบาลอีกครั้งว่าต้องการห้องพิเศษที่ดีที่สุดไออุ่นอยู่กับย่าก็ต้องเป็นแม่ของไคล์ เร็วเกินไปมั้ยแล้วฉันจะทำยังไงถ้าพวกท่านรู้ว่าฉันจงใจโกหกไคล์เรื่องลูก ฉันจะต้องถูกสาปแน่ๆ"ไคล์""ไม่ต้องกลัว ม๊าเป็นคนมีเหตุผล ตอนนี้กำลังเห่อหลานมาก ๆ""ก็ยังกลัวอยู่ดี""เอาเถอะอย่าเพิ่งคิดมาก ตอนนี้พักผ่อนก่อนนะ นอนก่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องลูก" ฉันพยักหน้า อยากนอนอยู่เหมือนกันฉันรู้สึกตัวอีกทีช่วงเย็น ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอหน้าพี่ตฤณก่อนเลย ส่วนไคล์ไม่เห็นแล้ว"ไงเรา""เจ็บค่ะ แค่เฉียดๆ""พี่รู้จากหมอแล้วล่ะ เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่ให้คนอื่นมาจัดการแทนแล้ว" ฉันเสียดายมาก ๆ อยากรั้นแต่คงไม่ได้เพราะพี่ตฤณพูดออกมาแบบนี้แล้ว คำสั่งของพี่ตฤณคือประกา
เราไม่พูดถึงเรื่องล็อกจัดบูธกันอีก ผมรู้ว่าอิงเครียดเรื่องนี้มาก ผมตัดบทและแก้ปัญหาด้วยการอาสาช่วยเรื่องนี้เอง ส่วนเรื่องฝ่ายจัดงานผมคงเฉยไม่ได้ทำแบบนี้ได้ยังไงทิ้งงานที่กำลังจะจัดขึ้นแล้วโยนให้ฝ่ายอื่นจัดการแทนแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน "แม่อิงกลับมาแล้ว เอ๋ ""สวัสดีเด็กน้อย จำกันได้มั้ยเอ่ย"ไออุ่นเอียงคอสงสัย ตาแป๋วมากเลยลูกสาวผม"ไออุ่นสวัสดีค่ะก่อนลูก ""สวัสดีค่ะคุณลุง อุ่นจำได้ คุณลุงช่วยอุ่นพามาส่งคุณแม่" มันสุขใจอย่างบอกไม่ถูก แค่นี้ก็ทำให้ผมใจฟูมาก ๆ แล้ว คุณป้าที่กำลังเก็บกระเป๋าคงเป็นพี่เลี้ยงของไออุ่นที่อิงเล่าให้ฟัง"เป็นไงบ้าง หายกลัวหรือยัง""กลายเป็นว่ากลัวคนเยอะไปแล้ว ป้าสุดใจจะไปเลยใช่มั้ยคะ""ใช่ค่ะ ป้าอาจจะต้องค้างนะคะ คุณอิงไหวมั้ยคะ""ไหวค่ะ ป้าสุดใจไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ใช้เวลาให้เต็มที่ได้เลยค่ะ""ขอบคุณมากนะคะคุณอิง ป้าไปก่อนนะคะ ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกนะคะ" ผมยิ้มให้กับคำชมพร้อมกับยกมือไหว้ ป้าสุดใจเดินออกจากห้องไปตอนนี้ก็เหลือแค่ผม ลูกสาว แล้วก็แม่ของลูก"พ่อพ่ออยู่ไหนคะ""พ่อพ่อนอนหลับค่ะ พ่อพ่อเหนื่อยมาก""ไออุ่นเรียกพี่ตฤณว่าพ่อพ่อน่ะ" ไออุ่นเรียกลุงของเขาว่าพ่
ทุกคนหลับหมดแล้ว ป้าสุดใจ ไออุ่น เวลาพักผ่อนนี่เนอะเที่ยงคืนแล้วด้วยฉันเพิ่งกลับถึงห้อง กลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ เราเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ไคล์สัญญาแล้วว่าจะไม่ใช้ข้อกฎหมายมาต่อรองเรื่องลูก เรื่องอื่น ๆ เราก็ตกลงกันเรียบร้อยเพราะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ค่อยสบายใจ ไคล์เพิ่งเดินทางกลับมาแล้วเขาก็มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างลำบากเพราะแฟนคลับเยอะ ผู้หวังดีก็มีหวังร้ายก็คงมีเหมือนกันโดยเฉพาะพวกที่อยากได้เงินจากการขายรูปถ่ายให้กับสำนักข่าว ฉันไม่สบายใจเรื่องนี้เอามาก ๆME: ถึงห้องแล้วKAI : โอเค ถึงแล้วเหมือนกัน อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเลยนะฉันไม่ใช่ไออุ่นนะแต่ก็ทำให้เผลอยิ้มแล้วพิมพ์ตอบกลับไปME : เรื่องคำตอบ คือว่าKAI : ไม่รีบ ค่อย ๆ คิด ไคล์จะจีบอิงทุกวันใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าไคล์จะทำแบบนี้ เขาขอคบโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดบอกว่าจะจีบทุกวันจนกว่าฉันจะใจอ่อน ดูพ่อไออุ่นสิตลกชะมัดME : ตื่นเต้นจัง มีซุปตาร์มาตามจีบ ต้องเล่นตัวหน่อยแล้ว ^^KAI : เอาเลยตามสบาย แบบนี้ไคล์ชอบเขาหน่ะตัวร้ายเรื่องผู้หญิงเลย มีข่าวไ
"ทำงานดีมาก เร็วมาก อะไรวะเนี่ยอิง" ผมทั้งโกรธ โมโห แล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน ผมถูกอิงโกหกเรื่องท้องในวันนั้น ผิดที่ผมด้วยแหละที่ไม่เช็กให้ชัวร์ยอมปล่อยอิงไปง่าย ๆ เด็กที่ชื่อไออุ่นเป็นลูกของผมลูกของผมกับอิง ผลผลิตจากในคืนนั้นที่เราพลาดด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้เขาอายุสามขวบแล้ว ให้ตายสิกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีลูกใช้เวลาเกือบสามปีเลย ผมพลาดหลายๆ อย่างไปเยอะมาก"ผมช่วยได้เท่านี้นะครับ""ที่เหลือผมจัดการเอง เอาล่ะค่าจ้างที่เหลือผมจะโอนเข้าบริษัทให้ ทิ้งเลขบัญชีคุณไว้ให้ผมด้วย"ทำงานดีแบบนี้ไม่ให้พิเศษได้ยังไง และนี่คือเหตุผลที่ผมรีบโทรหาอิงแล้วนัดออกมาคุยข้างนอก แม้ว่ามันเสี่ยงมากก็ตามแต่ผมก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหลังจากกลับจากสนามบินผมก็ร้อนใจเรื่องของอิงกับเด็กคนนั้นมาก รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วก็มีจริง ๆ นักสืบโทรมารายงานเรื่องอิงให้ผมฟังอย่างละเอียดพร้อมส่งข้อมูลเท่าที่หามาได้เข้าไลน์ หลังจากวางสายผมก็โทรนัดอิงส่งโลเคชั่นไปให้แล้วนั่งมองรูปเด็กน้อยตากลมโตไปด้วย รอยยิ้มนั่นเหมือนอิง ไออุ่นคือลูกสาวของผม เธอน่ารักมาก มีบางส่วนที่เหมือนผม ปากมั้งไม่แน่ใจโรงแรม K INผ
พอเคลียร์เรื่องที่สนามบินเสร็จฉันก็รีบหยิบมือถือไลน์ไปแจ้งพี่ตฤณพร้อมกับถ่ายรูปไออุ่นส่งไป พี่ตฤณส่งสติ๊กเกอร์ปาดเหงื่อกลับมาตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ คงยุ่งอยู่จริง ๆ ถึงไม่โทรมาปกติพี่ตฤณจะต้องโทรกลับทุกครั้ง"กลับโรงแรมกันก่อนนะคะ""ดีเลยค่ะ เจ้าตัวแสบคงเหนื่อยแย่" ไออุ่นหลับไปแล้ว ป้าสุดใจอุ้มไออุ่นไม่ยอมวางจนขึ้นรถของโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ พอถึงห้องพักป้าสุดใจก็แยกพาไออุ่นไปนอน ห้องที่พี่ตฤณจองให้เป็นห้องคอนเน็กเชื่อมกันถึงสามห้องเหมาะสำหรับครอบครัวมาก ๆ เดาว่าพี่ตฤณคงมาพักที่นี่กับพวกเราด้วย"ป้าสุดใจก็ไปพักเถอะค่ะ""คุณอิงก็พักบ้างนะคะ" ฉันพยักหน้ารับ คงยังหลับตาไม่ลง สายตาของฉันจ้องไปที่หน้าจอมือถือตลอดเวลา เราได้เจอกันแล้วสินะ พ่อลูกได้เจอกันแล้ว จากนี้ไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาไว้เลย คนมีเป็นร้อยเป็นล้านทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ช่วยไออุ่นไว้ ฉันนั่งคิดเรื่องนี้นานนับชั่วโมงคิดเผื่อไปด้วยว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นจะเป็นยังไงเขาจะแย่งลูกไปจากอกฉันเหมือนในละครหรือว่าเราจะคุยตกลงรื่องลูกกันดี ๆ แบ่งเวลาให้กันอย่างเท่าเทียม อีกประเด็นที่ฉันคิดคือไคล์อาจ
"ป้าสุดใจ ไออุ่นล่ะคะ ไออุ่นไปไหนคะ " ฉันรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วหันไปย้ำถามหาไออุ่นจากป้าสุดใจอีกครั้ง สีหน้าของป้าดูไม่ดีเลย มือไม้ของฉันมันสั่นไปหมด ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า"คือป้า ป้าแค่หันไปหยิบของในกระเป๋า หันมาก็ไม่เห็นน้องแล้วค่ะ" ใจฉันกระตุกวูบเชื่อว่าสิ่งที่ป้าสุดใจพูดคือความจริง ท่านเองก็ทำท่าจะเป็นลมอยู่เหมือนกัน"ป้านั่งพักก่อนนะคะ อิงจะไปประชาสัมพันธ์ อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลม""ได้ค่ะๆ คุณอิงป้าขอโทษนะคะ น้องเพิ่งหายไปเมื่อกี้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเครือนั่นทำให้ฉันแอบน้ำตาคลอไปด้วย ห่วงทั้งป้าสุดใจและลูกสาวเพียงคนเดียว"ไม่เป็นไรค่ะ ไออุ่นคงซนตามประสา เดี๋ยวอิงกลับมานะคะ ป้ารออยู่ตรงนี้นะคะเผื่อไออุ่นกลับมา""ได้ค่ะๆ "ฉันรีบวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน โดยไม่ลืมจะหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาพี่ตฤณ พอพี่ตฤณรู้เรื่องก็ร้อนใจไม่ต่างจากฉัน"ใจเย็นๆ แล้วตอนนี้กำลังจะไปไหน""ประชาสัมพันธ์ค่ะ ถ้าวิ่งหากันคงไม่เจอ พี่ตฤณน้องกลัว ฮึก" ฉันกลัวตามหาลูกไม่เจอ กลัวไปหมด สนามบินทั้งใหญ่และกว้างขนาดนี้วิ่งตามหาวันก็คงไม่เจอ ไออุ่นหายไปไหน? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ