ถ้าไม่ใช่เพราะคุณฉินสงสัยว่าเสิ่นม่านกําลังใช้เส้นสายอยู่บวกกับเงินหมื่นล้านบาทที่หายไป เขาก็คงจะไม่โทรไปหรอกเมื่อลุงสองเสิ่นวางสายไป เสิ่นม่านก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาคาดไม่ถึงว่าคุณฉินจะคิดถึงมรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ตนแต่เช้าขนาดนี้ เพิ่งจะมีข่าวลือเล็กน้อยก็เร่งให้ลุงสองเสิ่นตรวจสอบบัตรเอทีเอ็มของเธออย่างอดใจไม่ไหวดูเหมือนว่าจะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วเสิ่นม่านกดโทรศัพท์สายพิเศษของธนาคาร ปลายสายก็รับสายอย่างรวดเร็ว "สวัสดีครับคุณเสิ่น มีอะไรให้ผมรับใช้ไหมครับ""ฉันต้องการโอนทรัพย์สินไปยังหมายเลขบัตรอื่น""ได้ครับคุณเสิ่น เราจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการคุณครับ"เสิ่นม่านพูดอย่างเย็นชาว่า "ถ้ามีคนในครอบครัวสอบถามเกี่ยวกับทรัพย์สินธนาคารของฉัน โปรดมาถามความคิดเห็นของฉันก่อน""ได้ครับคุณเสิ่น"เสิ่นม่านวางสายไป เธอใช้เงินหมื่นล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินผืนนั้น ทรัพย์สินในบัตรธนาคารมีไม่มากแล้ว เธอใช้หมายเลขบัตรนี้เก็บมรดกของพ่อไว้ตลอด มีเพียงลุงสองเสิ่นเท่านั้นที่รู้นึกไม่ถึงว่าเรื่องสําคัญเช่นนี้ลุงสองเสิ่นจะบอกกับคุณฉินด้วยคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆเมื่อถึงวันลงทะเบีย
ซื้อทั้งชุดทีเดียว มันจะไม่แพงได้ยังไง? นั่นไม่ใช่แค่บ้านในเขตโรงเรียนธรรมดา แต่มันอยู่ใกล้โรงเรียนของพวกชนชั้นสูง!คิดถึงเรื่องนี้ ฟู่ฉือโจวขับรถไปพลางจ้องเขม็งไปที่เซียวตั๋วในกระจกมองหลัง"นายพูดว่าอะไรนะ?”เสิ่นม่านได้ยินไม่ชัดเซียวตั๋วตอบว่า “เขาพูดว่า ยังดี ยังไม่ถือว่าแพงมากหรอก”ในขณะนั้น รถเลี้ยวอย่างกะทันหันและหยุดอย่างแรง เสิ่นม่านนั่งไม่ติดเบาะและอีกวินาทีต่อมาก็ล้มลงไปในอ้อมแขนกว้างที่แข็งแรงเสียงเย็นชาที่มั่นคงดังขึ้นที่เหนือหัวของเธอ “ฟู่ฉือโจว ขับรถให้ดีหน่อย”“รู้แล้ว!”จริงๆ เลย มีเมียแล้วลืมเพื่อน!รถจอดอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับหมู่บ้านหรูที่อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเอ เซียวตั๋วมอบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ให้เสิ่นม่าน "ข้อมูลของเธอถูกบันทึกเข้าไปแล้ว ต่อไปเข้าออกก็แค่แตะบัตร ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวสูง คนที่อยู่ที่นี่ส่วนมากก็เป็นคนในวงการที่มีชื่อเสียง มันก็สะดวกให้เธอหาเพื่อนใหม่ด้วย"เสิ่นม่านมองดูหมู่บ้านนี้ ตอนที่เธอจะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเอ เธอก็คิดจะเช่าบ้านที่นี่ แต่ว่าบ้านที่นี่ไม่ใช่แค่แพง แต่มันต้องผ่านการประเมินด้วยว่ามีคุณสมบัติพอที่จะอยู่ที่นี่ได้ เซีย
บ่ายวันนั้น เสิ่นม่านไปมหาวิทยาลัยเพื่อรายงานตัว เธอใส่ชุดลำลองธรรมดา ๆ แต่กลับโดดเด่นจนกลายเป็นที่สนใจของทุกคนในมหาวิทยาลัย"เธอสวยจริงๆ นะ เป็นนักศึกษาใหม่หรือเปล่า?""เคยเห็นมาก่อนไหม? เธอเป็นนักศึกษาที่นี่หรือเปล่า?""เหมือนเคยเห็นตอนสอบเข้า น่าจะเป็นนักศึกษาใหม่นะ"รอบ ๆ ตัวมีแต่คนพูดคุยกันพร้อมแอบมองเสิ่นม่านอย่างสนใจข้าง ๆ มีรุ่นพี่ที่ดูดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอและถามว่า “น้องใหม่ เป็นนักเรียนใหม่ที่นี่ใช่ไหม?”เสิ่นม่านพยักหน้า “ก็ประมาณนั้นค่ะ”“หอพักของเราอยู่ไหนเหรอ? ให้พี่ไปส่งไหม?”“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่ได้พักที่หอ”“งั้นให้พี่พาไปที่รายงานตัวไหม? พี่เรียนปีสาม การรายงานตัวปีหนึ่งน่าจะอยู่ที่อาคารหนึ่ง”“ไม่ล่ะ ฉันต้องไปอาคารสอง”“อาคารสอง?”รุ่นพี่ทำหน้างงเสิ่นม่านพยักหน้าแล้วบอกว่า “ฉันต้องไปอาคารสอง”“แต่ว่าอาคารสอง...”ไม่ใช่ที่รายงานตัวของนักศึกษาปริญญาโทหรือ?รุ่นพี่มองดูเสิ่นม่านจากหัวจรดเท้าเสิ่นม่านดูเหมือนสาววัยยี่สิบต้น ๆ หน้าตายังเด็กมาก การเข้าปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเอนั้นต้องเตรียมตัวกันหลายปี เขามองอย่างไรก็ไม่เห็นเสิ่นม่านเหมือนนักศึกษาปริญญาโ
สวยขนาดนี้จะไปที่ไหนก็ได้ ทำไมต้องมาเรียนการเงินที่มหาวิทยาลัยเอด้วย?หวังถิงพูดกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน “ดูสิ ฉันว่าเธอคงตั้งใจมาขโมยแฟนของเธอนะเฉี่ยนเฉี่ยน”ใบหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนซีดลง เธอไม่ได้ฟังที่ทั้งสองคนพูดเลยสักคำเสิ่นม่านมาแล้ว ความจริงที่เธอโกหกไว้จะถูกเปิดโปงง่าย ๆ ไหมนะ?“เฉี่ยนเฉี่ยน? เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”หลิวจิงจิงยื่นมือมาโบกหน้าซูเฉี่ยนเฉี่ยนซูเฉี่ยนเฉี่ยนสะดุ้งและพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร แค่รู้สึกไม่สบาย คาบเรียนตอนบ่ายฉันไม่ปเรียนนะ”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนนอนอยู่บนเตียง คิดถึงแต่เรื่องที่เสิ่นม่านสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอได้อย่างไรหรือว่าเสิ่นม่านไม่ได้พึ่งป๋อซือเหยียน แต่ยัดเงินใต้โต๊ะ?คิดถึงตรงนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำผ้าห่มแน่นเธอตั้งใจเรียนและใช้เวลาหลายปีเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยเอ แต่คนรวยอย่างเสิ่นม่านเกิดมาก็มีทุกอย่าง เพียงแค่ใช้เงินก็สามารถทำความฝันของเธอให้เป็นจริงได้อะไรกัน?เธอไม่ยอม!หลังจากเพื่อน ๆ ออกจากห้องไปหมดแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็โทรหาป๋อซือเหยียนต่างจากครั้งก่อน ๆ ครั้งนี้เธอรอนานกว่าปกติกว่าจะรับสายเมื่อก่อนป๋อซือเหยียนไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็จะรับสายเธอทัน
แต่ตอนนี้...เป็นเพราะเสิ่นม่านหรือเปล่า?ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจำได้ว่า ป๋อซือเหยียนเคยเกลียดเสิ่นม่านมาก“ไม่ ฉันจะไม่ยอมให้เธอแย่งป๋อซือเหยียนไปเด็ดขาด...”เสิ่นม่านมาถึงห้องเรียนตั้งแต่เช้า นักศึกษาปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเอมีไม่มากนัก และคณะการเงินในแต่ละปีก็มีเพียงแค่ห้องเดียวคนในห้องนี้ส่วนใหญ่มีแต่คนรวยหรือไม่ก็ฉลาดเกินมนุษย์เสิ่นม่านนั่งที่แถวหลังสุด เพิ่งเริ่มเรียน เธอไม่อยากเป็นที่สนใจมากนัก ถ้าคุณนายป๋อรู้ว่าเธอมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเอ คุณนายป๋อคงจะมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่แน่'ปัง——'ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกเตะเปิดออกนักศึกษาชายที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างหน้าหลายคนขมวดคิ้ว เตรียมจะโวยวาย แต่พอเห็นคนที่เข้ามาก็เงียบไปเสิ่นม่านเงยหน้าขึ้นตามสายตาของทุกคนไปที่ประตูเห็นฮั่วหยุนเซียวใส่ชุดกีฬาแบบสบาย ๆ ยืนอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่าเขาจะผ่อนคลายและไม่ใส่ใจอะไรเสิ่นม่านขมวดคิ้วฮั่วหยุนเซียวมาทำอะไรที่นี่?เสิ่นม่านจำได้ชัดเจนว่าในวันที่สอบ ฮั่วหยุนเซียวส่งกระดาษเปล่าหัวหน้าฝ่ายการศึกษาที่ประตูพูดกับฮั่วหยุนเซียวอย่างสุภาพมาก “คุณชายฮั่ว เชิญนั่งข้างหน้าก็ได้ครับ วิวข้างหน
เมื่อเห็นฮั่วหยุนเซียวที่ทำท่าทางลึกลับ เสิ่นม่านตอบอย่างเย็นชา “ไม่อยากรู้”คำตอบนี้ทำให้ฮั่วหยุนเซียวแปลกใจ“เธอไม่อยากรู้?”“ไม่สนใจ”ไม่ว่าใครจะเป็นคนสอน เธอก็แค่ต้องเป็นนักเรียนที่ดีและเรียนจบไปอย่างราบรื่นก็พอแล้ว“แล้วเธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“คุณชายฮั่ว ก็เมื่อกี้หัวหน้าฝ่ายการศึกษาเพิ่งบอก”“แล้วเธอยังกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับฉัน?”เสิ่นม่านหันไปมองฮั่วหยุนเซียวอย่างจริงจัง “ขอโทษนะ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่”สายตาของฮั่วหยุนเซียวเต็มไปด้วยความสงสัย เขากำลังจะเข้าใกล้เสิ่นม่านเพื่อคุยต่อ แต่ฟู่ฉือโจวบนเวทีก็ขยับแว่นตาแล้วชี้ไปที่ฮั่วหยุนเซียวที่นั่งหลังสุด “นักเรียนคนนั้น อย่าจีบเพื่อนนักเรียนในระหว่างเรียน!”ล้อเล่นหรือไง พี่ชายของตัวเองชอบผู้หญิงคนนี้ ก็ต้องปกป้องให้ดีสิ!ฮั่วหยุนเซียวขมวดคิ้วไม่พอใจ แต่เมื่อมองไปที่ฟู่ฉือโจว กลับไม่โกรธแต่อย่างใดทุกคนเข้าใจโดยไม่ต้องพูดอะไร มหาวิทยาลัยเอก็ไม่ใช่เสือกระดาษ พวกเขารู้ว่าคนกลุ่มนี้ยากที่จะคุมได้ด้วยอาจารย์ทั่วไป จึงจ้างฟู่ฉือโจวที่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งมาแทนต้องรู้ว่าฟู่ฉือโจวมีเซียวตั๋วอยู่เบื้องหลังเซียวตั๋วดูเห
“ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ดี ขอบคุณนะ”เสิ่นม่านสะพายกระเป๋าขึ้นแล้วเดินออกจากห้องเรียนที่ฟู่ฉือโจวพูดมาก็ถูก เธอตั้งใจจะเข้าใกล้ฮั่วหยุนเซียวจริง ๆถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าฮั่วหยุนเหลียนเป็นคนที่แข็งกร้าว แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องชายของเขาเป็นคนยากที่จะรับมือยิ่งกว่า ถ้าเธอสามารถสร้างมิตรภาพกับฮั่วหยุนเซียวได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อนาคตของเธอก็จะราบรื่นมากขึ้นแต่ลักษณะนิสัยของฮั่วหยุนเซียวนั้นไม่เหมือนใคร หากอ้อนวอนประจบประแจงจะยิ่งถูกเกลียดแท้จริงแล้วฮั่วหยุนเซียวกับป๋อซือเหยียนมีนิสัยคล้ายกัน ชาติก่อนเธอพยายามประจบป๋อซือเหยียน แต่สุดท้ายกลับถูกเขารังเกียจจนถึงขนาดที่เขาไม่ยอมมองเธอแม้แต่นิดเดียวก่อนเธอจะตายแต่ถ้าเธอไม่สนใจเขา เขาก็จะคอยตามเธอไม่หยุดเสิ่นม่านเลยเลี่ยงไม่เข้าไปทางประตูหน้าของตึกสองเพื่อไม่ให้พบกับฮั่วหยุนเซียวท้องฟ้าเริ่มมืด เสิ่นม่านตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกมึนหัว เธอลุกขึ้นมาดูก็พบว่าข้างนอกฝนตกหนักเธอร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก ๆ พอฝนตกก็จะมีอาการไข้ขึ้นเธอกำลังจะไปซื้อยามากิน แต่เหลือบไปเห็นที่ตู้ข้างเตียงมีโน้ตสีขาวเขียนไว้ว่ามียาอยู่ในลิ้นชักเสิ่นม่านเปิดลิ้นชักและพบว่ามียา
ฮั่วหยุนเซียวขมวดคิ้ว เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นป๋อซือเหยียนยืนกางร่มอยู่นอกจากพี่ชายของเขาแล้ว ไม่มีใครในเมืองไห่เฉิงที่มีบารมีแบบนี้“ป๋อซือเหยียน?”ฮั่วหยุนเซียวหัวร่อ “ทำไมฉันต้องวาง?”“เพราะฉันเป็นสามีของเธอ”สายตาของป๋อซือเหยียนแฝงไปด้วยความอันตรายเมื่อได้ยินคำว่าสามี ฮั่วหยุนเซียวก็ชะงักไปป๋อซือเหยียนโยนร่มทิ้ง รับเสิ่นม่านจากอ้อมแขนของฮั่วหยุนเซียว เลขาหลี่ก็ยกกางร่มตามหลังป๋อซือเหยียนมีเพียงฮั่วหยุนเซียวที่ยังยืนงงอยู่ที่เดิมเสิ่นม่าน...เป็นภรรยาของป๋อซือเหยียน?ที่โรงพยาบาล เสิ่นม่านค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมา ข้างนอกยังคงมีฝนตกเธอจำได้ว่าเธอถูกฮั่วหยุนเซียวขวางที่หน้าอาคารสอง แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?เสิ่นม่านพยายามลุกขึ้นนั่ง เห็นป๋อซือเหยียนนั่งพิงข้างเตียงหลับอยู่“คุณเสิ่น คุณตื่นแล้วเหรอครับ?”เลขาหลี่ถือกระเป๋าเอกสารเข้ามาป๋อซือเหยียนลืมตาขึ้น เห็นเสิ่นม่านฟื้นตัวในเตียงเสิ่นม่านเห็นใบหน้าของป๋อซือเหยียนที่ดูเหนื่อยล้า แล้วถามว่า “คุณพาฉันมาที่โรงพยาบาลเหรอ?”ป๋อซือเหยียนไม่ตอบเลขาหลี่ส่งคอมพิวเตอร์จากกระเป๋าเอกสารให้ป๋อซือเหยียนแล้วบอกว่า “คุณผู้หญิง