Share

ตอนที่ 5 : เข้าถ้ำเสือทั้งที่ไม่ได้ลูกเสือ

last update Last Updated: 2025-04-08 23:09:01

ฮี้ๆๆๆ〜!!!

คลึ๊กๆๆๆๆ!!!

        เสียงของม้าที่กำลังลากเกวียนขนาดใหญ่ซึ่งสามารถบรรทุกคนสิบกว่าคนได้สบายๆดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอและเป็นจังหวะ เกวียนที่ม้าลากอยู่นี้มีลักษณะคล้ายกับที่ชาวนาใช้ขนฟาง แต่เนื่องจากมีหลังคาคลุมที่นั่งอย่างแน่นหนามันถึงได้ดูเหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล และหากสังเกตดูจะเห็นว่ามีเกวียนที่มีม้าลากแบบเดียวกันนี้เป็นจำนวนกว่า 30 เล่ม เคลื่อนที่ติดกันเป็นขบวนอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนม้าทุกตัวจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี มันจึงสามารถเดินตามกันได้โดยที่ไม่ต้องมีคนคุมบังเหียนด้วยซ้ำ ส่วนด้านหน้าของขบวนก็มีทหารชายวัยกลางคนคนนึงสวมชุดเกราะหนาทั้งตัว มีบริเวณเนื้อหนังโผล่ออกมาให้เห็นบางส่วนเท่านั้นกำลังนั่งบนหลังม้าแล้วนำขบวนอยู่ คนๆนั้นก็คือ ฮันซี่นั่นเอง ส่วนรอบเกวียนของคณะเดินทางก็มีทหารคุ้มกันที่สวมชุดเกราะแบบเดียวกัน แต่สวมหมวกเหล็กไว้ทุกคนต่างจากฮันซี่ที่เปิดใบหน้าให้เห็น กำลังเดินตรวจตราอยู่รอบๆเกวียนที่มีนักเรียนทุกคนนั่งอยู่ข้างใน ในขณะที่เดินทางไปพร้อมกัน

          ใช่แล้ว ตอนนี้นักเรียนทุกคนกำลังอยู่ในระหว่างเดินทางไปยังแถบชานเมืองเพื่อฝึกฝนการต่อสู้กับมอนสเตอร์นั่นเอง ซึ่งตำแหน่งที่ว่านั่นอยู่ห่างจากตัวเมืองชั้นในเกือบ 30 กิโลเมตรเลยทีเดียว เพราะการใช้ม้าลากเกวียนแบบนี้ แม้จะไม่ค่อยสะดวกสำหรับคนที่เพิ่งนั่งครั้งแรกเท่าไหร่ แต่เพราะเป็นการเดินทางที่เร็วที่สุดที่สามารถจัดหามาให้ได้ เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนบ่นมากนัก  

          และในเกวียนที่อยู่รั้งท้ายสุดนั้นมีกรและเพื่อนสนิททั้ง 4 คนนั่งอยู่ด้วยกัน ทุกคนสวมชุดเกราะเบาที่ใช้ฝึกก่อนที่จะออกเดินทางอยู่แล้ว เพียงแต่อาวุธไม่ใช่ดาบไม้ในตอนฝึกแต่เป็นดาบเหล็กที่มีความคมกว่ากันมา ทั้ง 5 คนตกลงกันว่าจะมาทีหลังสุดเพื่อให้ได้นั่งแยกตัวออกจากทุกคน เพราะหากทุกคนจัดที่นั่งได้ครบแล้วมีเกวียนเหลือ พวกกรก็จะได้นั่งอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่มีคนอื่นมานั่งด้วยนั่นเอง ถึงแม้อาจจะดูเหมือนเห็นแก่ตัวไปบ้างแต่เพราะเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ประกอบกับทัศนคติต่อกรดีขึ้นเล็กน้อย พวกนักเรียนทุกคนเลยไม่ติดใจอะไรกันนัก ส่วนคนที่บอกให้พวกรินทำแบบนั้นก็คือกรนั่นเอง แต่ที่ทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะต้องการปลีกวิเวกหรือต้องการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแต่อย่างใด หากแต่เป็นเพราะกรมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสนิททั้ง 4 โดยที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ต่างหาก

〝ทุกคน! อาจจะกะทันหันไปหน่อยแต่ว่า.... ฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย〞

〝〝〝〝 !!? 〞〞〞〞

            หลังจากที่ทุกคนได้ยินกรพูดตัดเข้าประเด็นสำคัญด้วยสีหน้าจริงจังทั้งที่ยังเดินทางอยู่ ทุกคนก็ทำหน้าแปลกใจกัน แต่ปฏิกิริยาของชาญนั้นดูจะน้อยกว่าทุกคน เพราะดูเหมือนชาญจะรู้เจตนาของกรตั้งแต่ที่บอกให้แยกออกจากทุกคนระหว่างเดินทางแล้ว  แล้วชาญก็ขยับแว่นตาให้ตรงเลนส์พลางถามขึ้นมาเพื่อความแน่ใจ

〝เรื่องอะไรงั้นเหรอ? เรื่องของพวกนักเรียนผู้กล้าทุกคน หรือว่า.....เรื่องของพวกเรา?〞

〝ทั้งสองอย่างนั่นแหละ...  แล้วก็เรื่องที่ฉันเล่านี่อาจจะฟังดูบ้าบอ  แต่ช่วยฟังเรื่องความฝันของฉันเมื่อคืนหน่อยจะได้รึเปล่า?〞

〝ความฝันงั้นเหรอ?〞

〝ใช่....  รู้รึเปล่าเพราะมีสุดยอดการประมวลผลฉันเลยสามารถแยกสิ่งที่สมองปรุงแต่งขึ้นมากับการจัดระเบียบความทรงจำขณะที่ฝันได้ เลยสามารถแยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฝันได้ว่าเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงหรือเป็นเรื่องที่คิดไปเอง... แต่ว่าเมื่อวาน ฉันก็ฝันถึงตอนที่เราไปเที่ยวเล่นในป่าตอนฤดูร้อนนั่น แล้วก็ไปเล่นไล่จับตรงเนินแถวๆนั้นหน่ะ จำได้รึเปล่า?〞

〝อื้ม  จำได้สิ….  ที่เราทุกคนนับเลขต่อกันนั่นสินะ….〞

          หลังจากที่ตอบคำถามของชาญแล้วพูดเชิงขอความเห็นกับทุกคนไป อลิซก็ถามกรกลับ แล้วพอกรอธิบายความฝันของตัวเองให้ฟัง โชตก็ถามกรกลับมาอีก เพราะทั้งอลิซและโชตถามกรด้วยเสียงที่เหมือนกับรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว เลยทำให้กรรู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเล่าความฝันของตัวเองต่อไป..

〝ชะ...ใช่แล้ว  แต่ว่าตอนที่นับเลขอยู่นั่นก็....〞

〝ก็มีเสียงของคนสองคนที่ไม่น่าจะมีอยู่  ขึ้นมาล่ะสินะ〞

〝!!?〞

          แล้วชาญก็พูดเรื่องที่น่าเหลือเชื่อขึ้นมา นั่นทำให้กรตกใจกับคำพูดดักทางนั่นมากเลยทีเดียว

〝ชะ  ชาญ!  โกหกน่า!! ทำไม่ถึงรู้เรื่องในความฝันของฉัน....〞

〝ถ้าบอกว่า  ฉันเองก็ฝันแบบเดียวกันเนี่ย จะเชื่อรึเปล่า?〞

〝!!?〞

          แล้วกรที่ได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิดจากชาญกลับมา ก็มีเรื่องให้ตกใจเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว  และพอหันไปมองริน โชตและอลิซที่นั่งฟังอยู่ก็ทำให้นึกถึงปฏิกิริยาของทุกคนที่ไม่ค่อยตกใจกับเรื่องความฝันที่ตัวเองเล่าซักเท่าไหร่ เลยทำให้เกิดความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ขึ้นมาอย่างนึง แล้วก็เอ่ยถามทุกคนออกไปด้วยอาการกล้าๆกลัวๆ

〝ระ หรือว่า!!!  ทุกคนเองก็ฝันแบบเดียวกันงั้นเหรอ!?〞

〝........อืม〞

          แล้วทุกคนก็ตอบออกมาแบบนั้นพร้อมกันเบาๆ

โกหกน่า ทำไมทุกคนถึงฝันแบบเดียวกันหมด  นี่มันเรื่องตลกบ้าอะไรกันเนี่ย?

อ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อน...

〝ละ แล้วทุกคน  รู้รึเปล่าว่าเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง 2 คนนั้นเป็นใคร...〞

〝ก็....พอจะจำหน้าได้บ้างอยู่หรอก  แต่ไม่รู้เลยว่าเป็นใคร〞

〝ผมเองก็เหมือนกัน...  แล้วรินหล่ะ?〞

〝ฉันก็จำไม่ได้เหมือนกัน....  แต่ไม่รู้ทำไม...พอนึกถึงใบหน้าของสองคนนั้น  ฉันถึง...รู้สึกคิดถึงแปลกๆ〞

          พอกรถามออกไปแบบนั้น โชต ชาญและรินก็ตอบกลับมาแบบเดียวกัน  เพราะกรมีสุดยอดการประมวลผลเลยทำให้ความทรงจำของตัวเองดีกว่าคนทั่วไป เพราะงั้นทุกคนเลยอาจจะจำเรื่องของ 2 คนนั้นไม่ได้ ขณะที่กรคิดแบบนั้นก็สังเกตท่าทางแปลกๆของอลิซได้

〝............〞

〝อลิซ?〞

〝ชะ...ฉันรู้จัก! เด็กผู้ชายผมสีบลอนด์ทองคนนั้น.... มะ...ไม่สิ... เด็กที่ชื่อ『ศร』นั่น  ฉันคิดว่าเป็น.... น้องชายของฉันเอง!!!〞

ถูกต้องตามนั้นเลย...

          ความทรงจำของกรเกี่ยวกับทั้ง 2 คนนั้นกลับมาหมดแล้ว เพราะอย่างนั้นเลยทำให้รู้ตัวจริงของทั้งสองคนนั้นอยู่ก่อนแล้ว เด็กผู้ชายผมสีบลอนด์ทองเข้มในฝันนั้นคือ『ไกรศร  ศิริการกุล』 เด็กคนนั้นเป็นน้องชายจริงๆของอลิซ  ส่วนเด็กผู้หญิงผมยาวสีดำที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่มคนนั้นก็คือ『มาริสา  วัชรวิรุฬห์』 พี่สาวแท้ๆของเขานั่นเอง แม้กรจะรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้บอกทุกคนไป ทั้งนี้เป็นเพราะกรอยากพิสูจน์ว่าทุกคนจำเรื่องของทั้งสองคนนั้นได้รึเปล่า แล้วอลิซก็ตอบข้อสงสัยของกรได้ เลยทำให้กรมีข้อสันนิษฐานมากมายผุดขึ้นมาในหัว

ดูเหมือนโชต ชาญและรินจะจำ『ศร』กับ『พี่มารี』ไม่ได้  แต่ว่าอลิซกลับยังจำศรที่เป็นน้องชายของตัวเองได้อยู่  นี่มันหมายความว่ายังไงเนี่ย?

ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีใครจำได้ด้วยซ้ำ...  แต่ดูเหมือนคนที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดแบบอลิซก็ยังจำได้อยู่แฮะ....  ถ้างั้นเธอคงจะไม่รู้จักพี่มารีละมั้ง

〝อลิซ...  แล้วรู้จักเด็กผู้หญิงคนนั้นรึเปล่า?〞

〝เอ่อ ไม่นะ ถึงจะรู้สึกคุ้นเคยก็จริง แต่จำไม่ได้เลยหล่ะว่าเป็นใคร... ทำไมงั้นเหรอ?〞

          แล้วอลิซก็ตอบคำถามของกรพลางเอียงคอไปทางซ้ายเล็กน้อย

อืม... งั้นก็ชัดแล้วหล่ะนะ  ถ้างั้นก็ไม่เกี่ยวกับสุดยอดการประมวลผล.... แต่ฉันก็ยังจำเรื่องของศรได้อยู่เลยนี่นา...  งั้นคงเป็นแค่ฉันคนเดียวละมั้ง

          แล้วหลังจากนั้น กรก็เล่าเรื่องของมาริสา พี่สาวแท้ๆของตนให้ทุกคนฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องของศรกับอลิซ  ซึ่งปรากฏว่าข้อมูลทุกอย่างตรงกัน แต่จากที่เล่าไปก็ไม่มีทีท่าว่าทุกคนจะจำได้ขึ้นมาเลย

〝สรุปก็คือ... นายจะบอกว่าทั้งสองคนที่พวกเราฝันถึงนั่นมีตัวตนอยู่จริง และทั้ง 2 คนนั้นก็เป็นพี่น้องของนายกับอลิซสินะ...  นี่ผมเข้าใจถูกรึเปล่า?〞

〝อืม... ก็ตามนั้นแหละ〞

〝ก็... ถึงจะฟังดูน่าเชื่อถือก็เถอะนะ  แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับพวกนักเรียนทุกคนด้วยงั้นเหรอ?〞

〝อืม.... คืองี้นะ ชาญ นายยังจำคำพูดของพระราชาในตอนที่โน้มน้าวเราได้อยู่รึเปล่า?〞

〝คำพูด?〞

〝ใช่... ที่บอกว่า〖เราไม่อาจปล่อยให้พวกท่านไปเผชิญหน้ากับศัตรูในสงครามทั้งที่ยังไม่เคยจับอาวุธมาก่อนได้หรอก〗นั่นแหล่ะ〞

〝ไอ้คำพูดนั่นผมเองก็คาใจอยู่เหมือนกัน  แต่ผมก็ตัดสินใจไปแล้วว่าเป็นแค่การคาดเดาส่งเดชของพระราชาเท่านั้นหน่ะนะ〞

〝ตอนแรกฉันเองก็คิดแบบนั้นอยู่เหมือนกันนั่นแหละ  แล้วก็ยังมีคำพูดของ ไอ้แก่——พระเจ้าที่บอกว่า〖ข้าได้ลบความทรงจำของคนรู้จักพวกเจ้าในโลกเดิม ทั้งพ่อแม่  ญาติพี่น้อง  เพื่อนฝูง ออกหมดแล้ว〗นั่นก็ด้วย  แล้วพอฝันแบบนั้นเข้าไปอีก... นายไม่คิดบ้างเหรอว่าทั้งสามเรื่องมันมีบางอย่างเกี่ยวโยงกันอยู่〞

〝〝〝〝!!!!!!!!!!!〞〞〞〞

            เพราะกรที่เผลอเรียกพระเจ้าไปแบบนั้นจึงรีบกลืนคำพูดของตัวเองทันที แล้วในขณะที่กำลังพูดคุยอยู่กับชาญแบบนั้นแค่สองคน คนอื่นๆก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี พอกรบอกว่ามีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น ทุกคนถึงได้ตกใจขึ้นมา

〝ระ เรื่องแบบนั้นมันบ้าชัดๆ!!!〞

〝ใช่แล้ว! มันอาจจะฟังดูบ้า...  แต่ฉันคิดว่าความจริงนี้ไม่ผิดแน่นอน ที่จริงแล้วฉันแอบตรวจสอบบทสนทนาของพวกขุนนางตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงก่อนที่จะเดินทางมาแล้วหล่ะนะ...〞

〝ละ แล้วผลลัพธ์หล่ะ?〞

         

ใช่แล้ว... ถ้าฉันคิดดูดีๆซักหน่อยละก็  น่าจะใช้วิธีนี้หาข้อมูลของโลกนี้ได้เร็วกว่านี้แล้วแท้ๆ...  แต่ลึกๆแล้วในใจฉันคงแค่ไม่อยากทำเรื่องยุ่งยากเท่านั้นเอง..  ฉันนี่มันจะประมาทไปถึงไหนกันเนี่ย...

          ดูเหมือนชาญพอจะเข้าใจเรื่องที่กรต้องการจะสื่อแล้ว และคิดว่าเรื่องที่ว่านั่นมันเป็นไปไม่ได้ เลยตะโกนออกมาแบบนั้น แล้วกรที่กำลังโทษตัวเองแบบนั้นอยู่ในใจพลางตอบคำถามของชาญไปพร้อมกันนั้น ก็ยิ่งทำให้ทุกคนตกใจและลุ้นระทึกกับผลลัพธ์ที่กรตรวจสอบมากยิ่งขึ้นไปอีก

〝เป็นอย่างที่คิดนั่นแหละ... ใช่แล้ว! การอัญเชิญผู้กล้ามาต่างโลกนี่ ครั้งนี้มันไม่ใช่ครั้งแรก! 〞

〝!!!!!!!!!!!〞

          เป็นอย่างที่กรคาด ทุกคนรู้สึกตกใจกันมาก แต่กรก็บอกข้อมูลที่ตนเองรู้ต่อไปอีกโดยไม่ให้ทุกคนหยุดพัก

〝และจากที่ฉันตรวจสอบ  รูปแบบการอัญเชิญของพวกเรานั้นเป็นแบบเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลกในเวลาเดียวกัน  ดูเหมือนว่าทุกอาณาจักรจะอาศัยการส่งตัวมายังโลกนี้ของพระเจ้านั่นเป็นสื่อเรียกตัวพวกเราด้วยล่ะนะ แต่ฉันไม่เข้าใจหลักการของมันซักนิด  แล้วที่น่าตกใจกว่าก็คือ การอัญเชิญที่ว่านั่นเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ 2 ครั้งแล้ว... ถ้ารวมครั้งของพวกเราด้วยก็เป็นทั้งหมด 3 ครั้งเลยเชียวหล่ะ〞

          หลังจากบอกไปแบบนั้นทุกคนก็ยิ่งอยู่ในอาการสับสนงุนงงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก...

〝ความน่าเชื่อถือของข้อมูลหล่ะกร? 〞

〝ทุกอย่างเป็นความจริงแน่นอน.....〞

〝.............งั้นเหรอ〞

          หลังจากที่ตอบชาญออกไปแบบนั้น บรรยากาศในเกวียนก็เลยดูตึงเครียดขึ้นมา

〝แสดงว่ามีคนอื่นอยู่ก่อนแล้วสินะ... จะ จริงสิ! แล้วคนพวกนั้นตอนนี้เป็นยังไงบ้างเหรอ? 〞

〝รู้สึกว่า  ส่วนใหญ่ทุกคนจะอยู่ระหว่างพิชิตดันเจี้ยน ไม่ก็รับตำแหน่งสำคัญในอาณาจักร เช่นเป็นแม่ทัพ หรือพวกทูตอะไรแบบนั้นนั่นแหละ.... 〞

〝งะ งั้นเหรอ  ค่อยยังชั่ว.... 〞

          รินถามกรออกไปแบบนั้น แล้วก็ทำสีหน้าโล่งอกหลังจากได้ยินคำตอบของกร

แต่ว่า... ที่ตายไปแล้วหน่ะมีมากกว่าซะอีก...  แต่ฉันคงบอกเรื่องนั้นกับทุกคนในตอนนี้ไม่ได้...

〝แล้วจะเอาไงดี... จะบอกทุกคนรึเปล่า?〞

〝ไม่ได้หรอก...  ผมว่าบอกไปมีแต่จะวุ่นวายซะเปล่า แล้วอีกอย่างทุกคนอาจจะไม่เชื่อกันก็ได้ เพราะคนที่รู้ความสามารถของกรมีแค่พวกเรานี่นา...〞

          ส่วนชาญที่ตอบคำถามของโชตไปแทนกร ก็ทำให้โชตที่กำลังครุ่นคิดอยู่ถามกรขึ้นมาอีก

〝แล้วกร... นายหน่ะจะทำยังไงต่อไปเหรอ?〞

ชอบถามฉันแบบนี้ซะจริงนะโชตเอ๋ย  แต่เอาเถอะไม่ใช่เรื่องต้องปิดบังกับทุกคนนี่นะ.....

〝ตอนที่รู้ว่าเธอมีตัวตนอยู่ฉันดีใจมากเลยหล่ะ ที่ยังมีครอบครัวหลงเหลืออยู่... เพราะงั้น... ฉันจะออกตามหาพี่มารีให้เจอให้ได้!!!〞

ใช่แล้ว.... หลังจากที่คิดทั้งคืน  คำตอบที่ออกมาก็เป็นแบบนั้น…. เพราะพ่อกับแม่เองเสียก็ไปแล้วด้วย เลยทำให้ฉันไม่เหลือครอบครัวอยู่เลย....

แม้ว่าปลายทางของคำตอบอาจเป็นสิ่งโหดร้าย... อย่างร้ายสุดพี่มารีก็อาจจะตายไปแล้ว...ไม่อยากจะคิดถึงกรณีนั้นเท่าไหร่เลยแฮะ...  แต่ในเมื่อเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้อุตส่าห์ปรากฏออกมาทั้งที งั้นฉันก็ต้องวิ่งตามมันให้ถึงที่สุดสิ!

〝แล้วเธอหล่ะอลิซ?〞

〝ชะ ฉันเองก็จะตามหาน้องชายด้วยเหมือนกัน!!!〞

น่าตกใจจริงๆฉันต้องใช้เวลาคิดทั้งคืนแท้ๆ แต่อลิซดันตอบออกมาแทบจะทันทีเลยแฮะ

〝งั้นก็เป็นอันตกลง... ฉันกับอลิซจะตามหาครอบครัวไปพร้อมกับหาทางกลับโลกเดิม  แล้วพวกนายหล่ะจะเอายังไง?〞

〝อะไรกันฟะพวกนายเนี่ย...  จนป่านนี้แล้วจะมาเกรงใจกันทำไม!〞

〝ถ้าคิดจะไปกันแค่สองคนละก็  ฉันจะโกรธจริงๆด้วยนะ!!!〞

〝ปล่อยให้ทั้งสองคนไปตามหาเองก็น่าเป็นห่วงซะเปล่าๆ ผมเองก็จะช่วยด้วยเหมือนกัน〞

          แล้วก็เป็นอย่างที่กรคาด โชต รินและชาญตอบกลับมาอย่างไร้ความลังเลในทันที

〝ทะ ทุกคน!  ขอบใจมากเลยนะ!!〞

〝อ้ายยย!!!  ทนไม่ไหวแล้ว รักทุกคนที่สุดเลยยยย!!!!!〞

          เพราะทุกคนตอบกลับมาแทบจะทันที เลยทำให้กรกับอลิซดีใจมาก อลิซก็ดีใจมากจนถึงกับกระโดดเข้าไปกอดรินจนเกวียนเอียงไปเอียงมาเลยทีเดียว  ต้องขอบคุณอลิซจึงทำให้บรรยากาศกลับมาครึกครื้นสมเป็นการเดินทางอีกครั้ง แล้วทั้ง 5 คนก็เพิ่มเป้าหมายในการตามหาศรและมาริสาลงไปในการเดินทางต่อจากนี้

ตื้นตันใจจริงๆแฮะ รู้สึกเสียดายเลยหล่ะที่เจ้าพวกนี้เป็นเพื่อนกับคนอย่างฉัน...  แต่ถึงอย่างงั้นก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่เลยแฮะที่ต้องลากทุกคนไปด้วยเพียงเพื่อความเอาแต่ใจของตัวเองเนี่ย

แต่จะว่าไป...  ยังไม่รู้เหตุผลที่ทุกคนฝันแบบเดียวกันเลยแฮะ... อยากรู้ชะมัดเลยว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกันรึเปล่า... แต่ฉันก็ดันไม่มีคนที่รู้จักคนอื่นซะด้วย ...แล้วถ้าจะหาเหตุผลอธิบายในตอนนี้ละก็  มันคงเป็น.... เพราะที่นี่เป็นโลกแฟนตาซีละมั้ง?

ก็แหม... ไม่ว่าจะคิดจนหัวระเบิดขนาดไหนก็ใช้ทฤษฎีของโลกเดิมอธิบายไม่ได้นี่นา... เพราะงั้นตอนนี้ก็ช่างมันก่อนแล้วกัน....

〝ชาญ...  ถ้าเกิดฉันไม่สามารถเดินทางไปกับทุกคนได้ละก็  ฝากดูแลเจ้าพวกนี้แทนฉันทีนะ....〞

〝..............〞

          แล้วกรที่คิดว่าบางทีตนอาจจะเป็นตัวถ่วงในการเดินทางไปกับทุกคน จึงได้เพิ่มความเป็นไปได้อย่างนึงให้กับตนเอง นั่นก็คือการออกตามหาพี่สาวตามลำพัง... แม้มันอาจจะทำให้ทุกคนต้องเสียใจและโมโหตนทีหลังก็ตาม แต่ก็จะทำให้ทุกคนตามหาได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า แม้ตัวเองจะต้องโดดเดี่ยวก็ตามที จึงได้กระซิบบอกชาญไปแบบนั้น  แต่ว่า....

〝เฮ้อ〜 ให้ตายสิ  อย่าพูดอะไรที่มันเป็นลางแบบนั้นจะได้ไหมเนี่ย...〞

          กรที่พูดแบบนั้นออกไปกลับไม่ได้รู้สึกตัวเลย  ว่าคำพูดของตัวเองนั้นเป็นเดธแฟล็ก(Death Flag)รูปแบบหนึ่ง...

❖❖❖❖❖

〝เอาหล่ะทุกคน! ก่อนที่จะไปล่ามอนสเตอร์  เรามาแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า อ๊ะ...ส่วนฉันชื่อ『ฮาวลี่』นะ เรียกฉันว่าคุณฮาวได้เลย!〞

          คนที่กำลังแนะนำตัวอย่างร่าเริงอยู่ต่อหน้ากรกับผู้กล้าคนอื่นอีก 3 คนอยู่นี้เป็นหนึ่งในทหารฝีมือดีในกองอัศวินของฮันซี่นั่นเอง หลังจากที่มาถึงบริเวณที่มีมอนสเตอร์ปรากฏ ทุกกลุ่มก็แยกย้ายกันไป ส่วนฮาวลี่ที่เป็นหัวหน้าปาร์ตี้ของกรนั้น ได้เลือกที่ล่าในบริเวณป่าเพราะมีมอนสเตอร์ประเภทที่มือใหม่ล่าได้ง่าย  แล้วในการปะทะกับมอนสเตอร์นั้น ถึงแม้จะเป็นผู้กล้าที่มีสเตตัสสุดโกงอยู่ก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจนเป็นอันตรายกับเหล่าผู้กล้าวัยเยาว์ ฮันซี่จึงได้ให้ทหารฝีมือดีในกองของตนรับหน้าที่เป็นหัวหน้าปาร์ตี้ให้กับเหล่าผู้กล้านั่นเอง โดยปาร์ตี้หนึ่งจะมีสมาชิก 5 คนรวมทหารที่เป็นหัวหน้า ส่วนสมาชิกผู้กล้าอีก 4 คน ฮันซี่กับพวกเป็นคนจัดให้ด้วยตัวเอง โดยคำนึงถึงความสมดุลและความสามารถของทุกคนให้เข้ากันมากที่สุด เพราะฮันซี่ดูการฝึกฝนของทุกคนอยู่ตลอดเลยทำให้พอมองการเคลื่อนไหวของทุกคนออก จึงสามารถจัดได้อย่างดีนั่นเอง

          แต่ที่ฮันซี่ลืมคิดไปก็คือ ความเข้ากันได้ของนิสัยนั่นเอง เพราะเจ้าตัวเป็นคนดิบเถื่อน เลยไม่ละเอียดกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่เพราะเป็นคนเด็ดขาด? จึงมีความน่าเชื่อถืออยู่ เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนกล้าเถียงสักเท่าไหร่ และเพราะแบบนั้นจึงทำให้กรต้องตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย...

〝งั้นก็เริ่มจากนายก็แล้วกัน  บอกแค่ชื่อที่ใช้เรียกก็พอ...  แล้วก็บอกอาชีพมาด้วยหล่ะ!〞

          แล้วฮาวลี่ก็ชี้นิ้วมาทางกร

〝เอ่อ...  ฉันชื่อกร  ส่วนอาชีพของฉัน เอ่อ...ยังไม่มี〞

〝อ๋อ!?  นายคือคนที่คุณฮันซี่บอกนี่เอง...  เอิ่ม... งั้นเธอก็ไปเป็นคนคุ้มกันให้แนวหลังก็แล้วกัน ฝากด้วยหล่ะ!〞

〝คะ ครับ!〞

ก็... กะแล้วหล่ะว่าต้องเป็นแบบนี้...  ก็นะฉันไม่ได้เศร้าอะไรเท่าไหร่หรอก... 

นั่นเพราะฉันในตอนนี้ กำลังเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองมากกว่าต่างหากหล่ะ....

          ขณะที่กรกำลังวิตกกังวลกับสมาชิกปาร์ตี้อยู่นั้น การแนะนำก็ผ่านไปเรื่อยๆ...

〝ผะ ผมชื่อ『เชษฐ์』ครับ  เป็นจอมเวทย์  ฝากตัวด้วย〞

〝โอ้ว! จอมเวทย์งั้นเหรอ?  งั้นก็ดีเลย เธอไปอยู่แนวกลางก็แล้วกัน คอยโจมตีมอนสเตอร์ตามจังหวะที่ฉันบอกด้วยนะ〞

〝คะ ครับผม〞

          เด็กผู้ชายที่ดูไม่มีความมั่นใจในตัวเองคนนี้ ชื่อ『เชษฐ์』เป็นคนตัวเล็ก ที่ไว้ผมทรงกะลาครอบสีดำ หากยังจำได้ เขาคนนี้ก็คือคนที่ชนะในการประลองก่อนหน้าคู่ของรินกับกรนั่นเอง แม้ภายนอกจะดูอ่อนแอ แต่แท้จริงอาจจะซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ก็ได้ กรที่คิดแบบนั้นก็ลิสต์เขาไว้ในรายชื่อคนที่ต้องระวังไปแบบไม่รู้ตัว หน้าตาเองก็อยู่ในเกณฑ์ธรรมดาแบบสุดๆ ส่วนเหตุผลที่เขาตัวเล็กนั่น เป็นเพราะในตอนที่อยู่โลกเดิมเขากำลังศึกษาอยู่ในชั้น ม.2 นั่นเอง

〝ฉันชื่อ『ลินดา』เป็นฮีลเลอร์และเอนชานเตอร์...  ฝากตัวด้วยค่ะ〞

〝ใช้ได้ทั้งเวทย์ฟื้นฟูและเวทย์สนับสนุนเลยสินะ อื้ม! ยอดเยี่ยม!  เธอคอยอยู่แนวหลังกับกรละกันนะ〞

〝เข้าใจแล้วค่ะ...〞

          ส่วนผู้หญิงที่ดูเงียบขรึม แต่มีความมั่นใจแตกต่างจากเด็กผู้ชายเมื่อครู่คนนี้ มีชื่อว่า『ลินดา』เธอคนนี้ไว้ผมทรงบ๊อบสั้น แต่ปล่อยผมด้านหน้าและความยาวเองก็ประมาณบ่าเท่านั้น พอบอกให้ไปอยู่แนวเดียวกับกร เธอก็หันไปหากรพลางพยักหน้าครั้งนึงอย่างเรียบร้อยโดยไม่มีทีท่ารังเกียจ ส่วนกรก็พยักหน้าเล็กน้อยกลับอย่างสุภาพเช่นกัน หน้าตานั้นก็ดูสละสลวยหากเทียบจากเกณฑ์ปกติ  แต่ก็ยังไม่พอหากเทียบกับรินและอลิซที่เป็นไอดอลของโรงเรียน แต่กริยาที่นอบน้อมนั้นก็มากพอจะทดแทนกันได้เลยทีเดียว

การจัดสมาชิกปาร์ตี้มีความสมดุลแบบสุดๆ เรื่องนั้นเถียงไม่ออกเลยหล่ะ...

ถ้าไม่นับฉันแล้ว...  ทุกคนก็เป็นจอมเวทย์สายโจมตีกับเวทย์สนับสนุนที่ทำให้ปาร์ตี้มีประสิทธิภาพในการสู้รบดีเยี่ยม... ทหารที่เป็นหัวหน้าปาร์ตี้คนนี้เองก็เป็นแนวหน้าฝีมือดี...

การจัดปาร์ตี้โดยเน้นความสมดุลแบบนี้มันก็ดีอยู่หรอก  แต่ว่านะ....

〝เอาหล่ะคนสุดท้าย..แนะนำตัวซะสิ!〞

〝ฉันชื่อ 『เสือ』เป็นนักดาบมนต์ดำ ฝากตัวด้วย!〞

〝นักดาบมนต์ดำเหรอ?〞

〝เป็นนักดาบที่มีเวทย์สายสถานะผิดปกติอยู่หน่ะ〞

〝โอ้ว  งั้นเหรอ! พอดีเลย...งั้นเธอมาเป็นแนวหน้าคู่กับฉันนะ〞

〝คร้าบๆ〞

          หลังจากที่เสือแนะนำอาชีพของตัวเองไป เพราะเป็นอาชีพที่ไม่เคยได้ยิน จึงทำให้ฮาวลี่ตกใจเล็กน้อย และถึงเสือจะตอบฮาวลี่กลับไปอย่างหน่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฮาวลี่หงุดหงิดแม้แต่น้อย ดูเหมือนเขาจะเป็นใจกว้างกว่าที่คิด และในขณะเดียวกันกรเองก็กำลังตกใจเล็กน้อยเช่นเดียวกัน หากแต่เป็นคนละความหมายกับฮาวลี่

          ใช่แล้ว... เรื่องที่กรกำลังกังวลอยู่นี้ก็คือ เรื่องที่เสือเป็นสมาชิกปาร์ตี้เดียวกันนั่นเอง แม้ตอนแรกเพื่อนสนิททั้ง 4 ของกรจะค้านหัวชนฝา จนถึงขั้นจะพากันไปขอร้องฮันซี่ให้แก้ไขสมาชิกเลยทีเดียว  แต่เพราะกรห้ามไว้ด้วยเพราะการทำแบบนั้นมันเป็นการข้ามหน้าข้ามตาฮันซี่บวกกับตัวเองจะมีสิทธิพิเศษในการเปลี่ยนปาร์ตี้ตามใจอยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะงั้นทั้ง 4 คนเลยไม่มีทางเลือกจึงต้องทำตาม แต่ถึงกรที่เป็นคนพูดแบบนั้นเองก็ยังกังวลกับสถานการณ์แบบนี้อยู่ตั้งแต่ที่สมาชิกถูกประกาศจนถึงตอนนี้เลยทีเดียว

อะไรกันฟะไอ้คุณฮันซี่เนี่ย...  จำเรื่องตอนที่ฉันตีกับเสือมันไม่ได้รึไงฟะไอ้ลุงนี่!  ไม่สิ... ไอ้ลุงนี่คงลืมอีกเหมือนเคยนั่นแหละ

เฮ้อ... น่าปวดหัวจริง... อยากดูอนิเมะแก้เซ็งชะมัดยาดเลย

          กรที่ปลงตกจนถึงขั้นหลีกหนีความเป็นจริงไปแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางคิดแบบนั้นอยู่ในใจ

❖❖❖❖❖

〝ตอนนี้แหล่ะเชษฐ์!  เตรียมใช้เวทย์ไฟกำจัดมันลงซะเลย!!!〞

〝ขะ เข้าใจแล้วครับ คุณฮาว!〞

〝เสือ! เข้าไปโจมตีมันจากทางซ้ายซะ ส่วนฉันจะล่อมันไว้เอง〞

〝เข้าใจแล้ว〞

〝ลินดาก็ใช้เวทย์เพิ่มพลังกายภาพให้กับทุกคนต่อไปแบบนั้นแหล่ะ คอยฟื้นพลังเวทย์ให้เชษฐ์ด้วย! ส่วนกรก็คอยสังเกตการณ์รอบๆ ว่ามีศัตรูเพิ่มเข้ามารึเปล่าด้วยหล่ะ!!! 〞

〝〝ค่ะ/ครับ!!!〞〞

          ในตอนนี้ทั้ง 5 คนอันประกอบไปด้วยฮาวลี่ เสือ เชษฐ์ ลินดาและกร กำลังเข้าปะทะกับหมีป่าที่มีชื่อว่า『หมีเนตรเพลิงป่า』อยู่ ขนของมันมีสีน้ำตาลเข้มมันวาว มีอุ้งมือที่มีกรงเล็บแหลมคม ความยาวของเล็บนั่นพอๆกับใบดาบที่ทุกคนมี แต่ความคมของมันนั้นมีมากกว่าโข ดวงตาของมันเป็นสีแดงเพลิงดูน่าเกรงขามประกอบกับขนาดของมันที่สูงกว่า 4 เมตรของมันด้วยแล้ว หากเปรียบให้มันเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าของแถบนี้ก็ไม่เกินไปเลย   

          หลังจากที่ฮาวลี่สั่งการณ์ไปแบบนั้นทุกคนก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแม้แต่เสือเองก็ตาม ขณะที่เชษฐ์ใช้เวลาร่ายเวทย์ไฟขั้นกลางอยู่ ฮาวลี่ก็คอยโจมตีหลอกล่อเพื่อเบนความสนใจของมัน ทำให้เสือเข้าประชิดตัวหมีได้อย่างรวดเร็วและใช้ดาบฟันเข้าไปบริเวณสีข้างและหลังของมันได้สำเร็จ

〝ทุกคนครับ! เวทย์ของผมเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว!!!〞

〝เข้าใจแล้ว! ทุกคนรีบออกให้ห่างจากตัวหมีนั่นเร็วเข้า! เชษฐ์กำลังจะปล่อยเวทย์แล้ว!〞

〝เอาหล่ะนะครับ!【ไฟเยอร์  สตอร์ม】!!!〞

ซู่มมมมมม!!!!!!!!!!!!

โฮรกกกกกก!!!!!!!!!!

          หลังจากที่ทุกคนออกห่างจากเจ้าหมี  เชษฐ์ก็ปล่อยบอลเพลิงที่มีขนาดเท่าลูกเทนนิสของตัวเองออกไป  หากดูเพียงผิวเผินจะเห็นว่าเชษฐ์นั้นไม่ได้ร่ายเวทย์ก่อน แต่แท้จริงแล้วเขานั้นหน่วงเวทย์ไว้ต่างหาก ซึ่งสกิลหน่วงเวทย์ของเขานี้ก็มีติดตัวมาตั้งแต่แรกแล้วด้วย และที่เชษฐ์ใช้เวทย์เพลิงกับหมีเนตรเพลิงป่าไปนั้น เป็นเพราะแม้ในชื่อของหมีจะติดคำว่า『เพลิง』อยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เป็นมอนสเตอร์ธาตุไฟแต่อย่างใด ที่เรียกเช่นนั้นเป็นเพราะเรียกจากลักษณะภายนอกที่มีดวงตาคล้ายเปลวเพลิงของเจ้านั่นล้วนๆ และเจ้าหมีที่ว่านั่นกลับเป็นเผ่าสัตว์ป่าที่มีความต้านทานต่อธาตุไฟต่ำ ฮาวลี่จึงให้เชษฐ์โจมตีด้วยเวทย์เพลิงนั่นเอง

          แล้วหลังจากที่เจ้าหมีถูกลูกบอลเพลิงลอยเข้าใส่ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อจนยากจะหลบเข้าไป ก็ทำให้มันร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวดอยู่ในพายุเพลิงที่หมุนวนรอบตัวมันนานกว่า 2 นาที จนในที่สุดมันก็หมดสภาพและตายไปในที่สุด

〝ฟู่〜 เอาหล่ะมันตายสนิทแล้ว ยินดีด้วยพวกเราชนะอีกแล้วหล่ะ!〞

〝นะ นี่เป็นตัวที่เท่าไหร่ แล้วงั้นเหรอครับ〞

〝อืม... รู้สึกว่านี่จะเป็นตัวที่ 14 แล้วนะ  ว่าแต่นี่จะไม่ดีใจกันหน่อยเหรอ?〞

〝ดีใจจนเหนื่อยแล้วหล่ะครับ หะหะห่ะ〞

          หลังจากที่การต่อสู้จบลงฮาวลี่ก็ยืนยันในชัยชนะของปาร์ตี้ แต่เพราะเป็นการต่อสู้อย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนอ่อนล้าจนแทบไม่มีแรงจะดีใจกัน แต่สำหรับฮาวลี่นั้นยังร่าเริงอยู่ได้ก็เป็นเพราะเขาเป็นทหารที่ผ่านการฝึกฝนและเอาชีวิตรอดมาแล้วมากมายนั่นเอง แต่หลังจากที่กรตอบฮาวลี่ไปแบบนั้นก็.....

〝เฮอะ! ดีใจงั้นเหรอไอ้โอตาคุสวะ?  แกยังไม่ได้ช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำ!〞

          คนที่ประชดประชันกรอยู่นี่นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเสือนั่นเอง

เอาจนได้นะเรา...   ทั้งที่ก่อนหน้าก็พยายามทำตัวสงบเสงี่ยมแล้วเชียวนะ... หรือเพราะหมอนี่มันคิดหาเรื่องชวนทะเลาะอยู่แล้วกันฟะ!

แต่ก็จริงของมันนั่นแหล่ะนะ เถียงไม่ออกเลยแฮะ... เพราะงั้นไม่ตอบกลับไปจะดีกว่า

〝เฮ้ๆ ไม่เอาน่าทั้งสองคน  อุตส่าห์ได้มาล่าด้วยกัน ดีกันไว้เถอะนะ!〞

〝ชิ!〞

          หลังจากที่ฮาวลี่พูดเกลี่ยกล่อมทั้งสองคน เสือก็เดาะลิ้นขึ้นมาเสียงดัง เพราะบรรยากาศเริ่มดูไม่ค่อยดี ลินดาจึงได้เอ่ยถามฮาวลี่ขึ้นมา

〝จะว่าไปนะคะคุณฮาว....  ทั้งที่ฆ่ามันไปตั้ง 14 ตัวแล้วแท้ๆ แต่ทำไม『เลือดของหมีเนตรเพลิงป่า』กลับดรอปมาแค่ขวดเดียวเองหล่ะคะ?〞

〝โอ้ ถามได้ดี! ที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะว่า มอนสเตอร์นอกดันเจี้ยนนั้นจะอ่อนแอกว่าในดันเจี้ยนหน่ะ เลยทำให้อัตราดรอปต่ำกว่าในดันเจี้ยนมาก แต่ถึงหมีเนตรเพลิงป่าที่เราสู้ด้วยจะไม่ใช่พวกกระจอกก็เถอะ แต่ความแข็งแกร่งของมันก็ยังไม่ถึงครึ่ง ถ้าเทียบกับมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนใกล้ๆนี้เลยหล่ะนะ〞

          ในตอนแรกนั้น ฮาวลี่คิดจะให้พวกกรฝึกสู้กับพวกหมูป่าเพียงเท่านั้น  แต่เพราะพวกนั้นอ่อนแอเกินไป เพราะตายด้วยการโจมตีครั้งเดียวทุกตัว นั่นทำให้เสือไม่พอใจเป็นอย่างมาก ฮาวลี่จึงได้เลือกเป้าหมายที่มีระดับสูงพอที่จะให้พวกกรฝึกได้นั่นเอง ซึ่งหากเปรียบเทียบความแข็งแกร่งกันแล้ว หมูป่านั้นต้องใช้คน 3 คนในการล้ม ส่วนหมีเนตรเพลิงป่านั้นต้องใช้คนถึง 56 คนในการสู้ด้วยอาวุธครบมือเลยทีเดียว แต่เพราะทุกคนมีฉายา〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙อยู่ ประกอบกับสเตตัสสุดโกงที่มี เลยทำให้ต่อสู้กับหมีได้อย่างสบายๆ ผลก็คือสามารถจัดการหมีเนตรเพลิงไปได้ถึง 14 ตัวในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเองและผลจากการฝึกเองก็เยี่ยมยอดทีเดียว เพราะทำให้เลเวลของกรเพิ่มขึ้นมาก

ก็นะโดยผลลัพธ์แล้ว การจัดปาร์ตี้แบบนี้มันก็ดีจริงๆนั่นแหละ...  ถ้าไม่ติดตรงที่ว่ามาอยู่กับไอ้เสือนี่หน่ะนะ

แต่ฉันก็ไม่อยากบ่นมากซะด้วย... เพราะที่เสือพูดเองนั่นก็เป็นความจริง ที่ฉันทำได้แค่สังเกตการณ์เท่านั้น...  แต่เพราะต่อสู้เป็นปาร์ตี้เลยทำให้ฉันได้ค่าประสบการณ์แบ่งมาเท่าๆกันกับของทุกคน เรานี่เหมือนปลิงเลยแฮะ...

ส่วนสกิลของทุกคนนั้นไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นมา รวมถึงของฉันด้วย  ส่วนสเตตัสของฉันตอนนี้ก็ราวๆนี้นี่แหล่ะ

     ข้อมูลสเตตัส

อุษณกร  วัชรวิรุฬห์ 』เพศ  ชาย   อายุ  17   เผ่าพันธุ์  มนุษย์  

อาชีพ                 ว่าง                    เลเวล     12

ฉายา     〘การใช้ชีวิตที่ผิดพลาด〙

《พลังโจมตี》                  160                        《พลังป้องกัน》                       139

《พลังเวทย์》                     97                       《ความต้านทานเวทย์》              139

《ความว่องไว》               118                        《พละกำลัง》                       160

เพิ่มขึ้นมาเยอะเลยใช่ไหมล่า!  ก็นะ ถ้าเทียบกับตอนแรกเนี่ยเก่งขึ้นแบบสุดเลยหล่ะ  ฉันเองยังรู้สึกได้เลยว่าเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น....  แต่ว่าตัวฉันกลับไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่เลย... 

ทำไมงั้นเหรอ?  ก็ลองดูสเตตัสของไอ้เสือมันสิแล้วจะรู้...

     ข้อมูลสเตตัส

กฤษณะ  ฤทธิ์เดชา 』เพศ  ชาย   อายุ  17   เผ่าพันธุ์  มนุษย์  

อาชีพ       นักดาบมนต์ดำ               เลเวล     10

ฉายา     〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙, 〘กษัตริย์ดาบมาร〙

《พลังโจมตี》                  885                       《พลังป้องกัน》                       773

《พลังเวทย์》                   941                       《ความต้านทานเวทย์》              829

《ความว่องไว》               773                       《พละกำลัง》                       829

นี่มันอะไรกันฟะเนี่ย!!!!

ไอ้หมอนี่เลเวลน้อยกว่าฉันตั้ง 2 เลเวลเลยนะเฟ้ย!  แต่สเตตัสทำไมถึงทิ้งห่างกับฉันเกือบ 8 เท่าเลยเนี่ย?  บัคงั้นเหรอ?  นี่ต้องเป็นบัคแน่ๆ! 

ไหงไอ้พวกนี้ที่โกงอยู่แล้ว มันดันโกงขึ้นเรื่อยๆได้กัน?

แล้วทำไมเลเวลของฉันมันถึงได้มากกว่าพวกแกกันล่ะเนี่ย  ฉันแค่ดูอยู่เฉยๆเองนะ  ปกติก็ต้องได้น้อยกว่าคนที่ออกไปสู้ไม่ใช่เหรอ 

ระ..หรือว่า  ค่าประสบการณ์ในการอัพเลเวลจะแตกต่างกัน....  เฮ้ยๆ  ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายความว่าที่ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์ในการอัพเลเวลมาก ก็เป็นเพราะฉันกระจอกมาตั้งแต่แรกหน่ะสิ 

〝เอาหล่ะทุกคน!!! พักกันพอแล้ว ไปล่ามอนสเตอร์แถวๆนี้กันอีกซักหน่อยแล้วค่อยกลับละกัน !〞

〝คะ ครับ〞

〝เข้าใจแล้วค่ะ〞

          กรที่กำลังคิดไปเรื่อยเปื่อยรู้สึกตัวขึ้นมาจากที่ฮาวลี่ตะโกนเรียกเดินทางต่อ จึงลุกขึ้นอย่างหน่ายๆ แล้วเดินตามทั้ง 4 คนในปาร์ตี้ของตัวเองไป แต่ขณะที่ทุกคนลุกขึ้นและกำลังเดินไปล่าต่ออยู่นั่นเอง......

  

วูมมมมมม!!!!!!!!!

          หลังจากเสียงปริศนาดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่าง ก็มีวงเวทย์ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถครอบคลุมบริเวณใกล้ๆกันได้ทั่วถึง ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับการสั่นสะเทือนบริเวนใต้เท้าของสมาชิกปาร์ตี้ของกรทุกคน

〝คะ คุณฮาวลี่นี่มัน!?〞

〝นะ นี่มัน『กับดักดันเจี้ยน』งั้นเหรอ!!? ทำไมถึงมาอยู่แถวนี้ได้กัน!?〞

          กรที่ตะโกนออกไปถามฮาวลี่ด้วยอาการร้อนรนก็ต้องตกใจกับคำตอบของเขา อาณาเขตของมันกว้างพอที่จะไม่ให้ทุกคนหนีออกจากมันได้ทัน แม้กรจะรู้ตัวก่อนใครเพราะมีสุดยอดการประมวลผลก็ตาม แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเสียจนตั้งตัวไม่ทัน แล้วพอแสงสว่างรอบตัวของกรจางหายไปสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนก็หายไปจากบริเวณนั้นพร้อมกัน

❖❖❖❖❖

ที่นี่มัน!?.....

          หลังจากสมาชิกในปาร์ตี้อันประกอบไปด้วยฮาวลี่ เสือ เชษฐ์ ลินดาและกรถูกกับดักดันเจี้ยนวาร์ปมายังสถานที่ที่ไม่เคยเห็น กรก็เอ่ยถามกับตัวเองออกมาเบาๆ  ในตอนนี้ทั้ง 5 คนถูกวาร์ปมาอยู่บนทางเดินที่เป็นดินแต่ไม่ทราบส่วนประกอบ เป็นทางทอดยาวไปจนสุดสายตาที่มีแต่ความมืดมิด และตลอดทางก็มีกำแพงหินอยู่ตลอดแนวทั้งสองข้างทาง ด้านบนก็เป็นหลังคาปิดที่คาดว่ามีส่วนประกอบเป็นดินเช่นเดียวกันกับพื้น แม้จะไม่มีต้นกำเนิดของแสงเช่นคบเพลิงเลยซักนิด แต่บริเวณที่อยู่โดยรอบกลับมองเห็นได้ชัดเจนเหมือนข้างนอกไม่มีผิด

ทุกคนยังอยู่กันครบเลยแฮะ...  ก็ยังดีที่ไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกนะ

ว่าแต่... เป็นที่ๆแปลกชะมัดเลย  ทั้งที่รอบๆก็เป็นกำแพงหินปิดตายแท้ๆ แต่ทำไมขอบเขตการมองถึงได้กว้างแบบนี้เนี่ย

แล้วก็รู้สึกหลอนชะมัด...   มีเสียงคล้ายๆฝีเท้าอยู่รอบๆเต็มไปหมดเลย

แต่ว่าไอ้บรรยากาศที่น่าคุ้นเคยนี่มันอะไรกันเนี่ย...  ทั้งที่ไม่เคยมาที่แบบนี้มาก่อนแท้ๆเชียว...

〝คะ คุณฮาวลี่ นะ นี่มัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับเนี่ย  ละ แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน!?〞

          ในขณะที่กรกำลังคิดหาเหตุผลของถสานการณ์นี้อยู่ เชษฐ์ที่กระวนกระวายกับสถานการณ์ตรงหน้าแบบสุดๆ ก็ได้เอ่ยถามฮาวลี่ขึ้นมา แต่หากกรได้ฟังคำตอบ ก็จะเข้าใจได้ในทันทีว่าความคุ้นเคยของเขามาจากเกม RPG สมัยก่อนที่เขาเล่นบ่อยๆนั่นเอง

〝นะ นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!!!! โกหก....นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ〞

          ฮาวลี่ที่ตะโกนแบบนั้นออกมา ทำให้เชษฐ์ตกใจมากเลยทีเดียว ทั้งที่ปกติเขาเป็นคนร่าเริงแท้ๆ แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้กลับทำให้ทหารฝีมือดีเช่นเขาแสดงอาการหวาดกลัวออกมาได้

〝ทะ ทุกคน  ใจเย็นๆแล้วก็ฟังให้ดีนะ!!!〞

〝คะ คุณฮาวลี่!?〞

          ดูเหมือนฮาวลี่จะใจเย็นลงแล้ว?  เพราะตัวเขาตอนนี้เป็นหัวหน้าปาร์ตี้ จึงต้องเยือกเย็นและเตรียมพร้อมกับทุกสถานการณ์เสมอ เพื่อไม่ให้สมาชิกที่เหลือเสียขวัญและกำลังใจ การกระทำของเขาจึงเป็นสิ่งที่ควรทำและน่ายกย่อง  แต่พอเชษฐ์ถามออกมาแบบนั้น เขากลับกลืนน้ำลาย〝เอื๊อก〞เสียงดัง ก่อนที่จะบอกกล่าวทุกคน เลยทำให้ดูเหมือนเขาจะตกใจมากไปหน่อย แต่พอได้ยินคำตอบของเขา ก็พอจะรู้ถึงเรื่องอันตรายที่เขากำลังหวาดกลัว นั่นเพราะคำตอบของเขาทำให้ทุกคนตกใจสุดขีดจนแทบจะหมดสติได้เลยทีเดียว

ไอ้ที่มีกำแพงตั้งขนาบซ้ายขวาแบบนี้...  ปิดตายแบบนี้....  แต่ดันสว่างแบบนี้.... แล้วก็『กับดักดันเจี้ยน』ที่คุณฮาวพูดถึงก็ด้วย... 

ไม่อยากจะคิดเลยแฮะ...  แต่ว่าถ้าเป็นแบบที่ฉันคิดจริงๆละก็  พวกเราทุกคนได้ซวยกันยกแก๊งแน่ๆ 

ทำไมงั้นเหรอ?  นั่นก็เพราะไอ้แบบเดียวกันกับแบบนี้ที่ฉันเคยเห็นในโลกเดิมหน่ะมันเป็น......

〝ตะ ตอนนี้พวกเรา.......... ถูกวาร์ปเข้ามาใน『ดันเจี้ยน』เข้าแล้ว——————〞

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 6 : การเอาชีวิตรอดไม่นับเป็นความเห็นแก่ตัว

    〝เป็นยังไงบ้างกร ?〞〝ครับ คุณฮาว... ตรงทางแยก 3 แพร่งข้างหน้า ถ้าไปทางซ้ายจะมีลิซาร์ดแมนอยู่ 3 ตัว ส่วนทางขวายังไม่มีมอนสเตอร์ขวางทางจนกว่าจะถึงแยกต่อไป〞〝เป็นงั้นเหรอ? ได้ยินแล้วนะทุกคน รีบเดินไปข้างหน้า แล้วเลี้ยวขวาตรงแยกนั่นนะ... แล้วก็ระวังอย่าเดินส่งเสียงดังหล่ะ เข้าใจไหม〞〝〝.....ครับ/ค่ะ〞〞 ในทางเดินที่ปิดตายจากโลกภายนอกจนคล้ายกับจะมืดมิดแต่กลับมองเห็นได้ชัดเจน ที่ซึ่งไม่ทราบสถานที่แน่ชัดแต่ส่วนประกอบทั้งหมดนั้นสร้างมาจากหินและดินล้วนๆนี้ มีเสียงของคน 4 คนกระซิบกันอย่างเบาบางที่สุด จนแทบไม่ได้ยินเสียงอยู่ เหล่าคนที่กำลังกระซิบกันอยู่นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเหล่าสมาชิกปาร์ตี้ของกรนั่นเอง เพราะทั้งปาร์ตี้ถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยนปริศนาที่ฮาวลี่ไม่รู้จักจึงทำให้ฮาวลี่กระวนกระวายเป็นอย่างมาก ฮาวลี่ยังเล่าอีกว่าดันเจี้ยนที่อยู่แถวๆที่ทุกคนล่านั้นมีแค่『ดันเจี้ยนเจ้าแห่งป่า』กับ『ดันเจี้ยนพรานแห่งพงไพร』ซึ่งเป็นดันเจี้ยนที่ได้รับการสำรวจจนครบถ้วนแล้ว แต่ดันเจี้ยนที่ทุกคนถูกวาร์ปมานี้กลับไม่ใช่ทั้ง 2 ดันเจี้ยนที่ว่ามา จากที่ฮาวลี่บอกกล่าว ดันเจี้ยนนั้นไม่ว่า

    Last Updated : 2025-04-08
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 7 : มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทั้งสกปรกและงดงามในเวลาเดียวกัน

    วูม!!!!——— พอแสงสว่างที่จ้าเสียจนแสบตาได้จางหายไป ทิวทัศน์ที่ปรากฏตรงหน้าของลินดาก็คือ บริเวณป่าแบบเดียวกับก่อนที่จะถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นสมาชิกปาร์ตี้ที่ลดลงจนเหลือแค่สามคน อันได้แก่ตัวเธอ เชษฐ์และเสือนั่นเอง ลินดาในตอนนี้ยังอยู่ในอาการสะเทือนใจอยู่พอสมควร ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ทั้ง 2 คนตายเพียงเพื่อให้ตัวเองหนีรอดไปได้ เชษฐ์ก็ยังคงนั่งคุกเข่าเอามือกุมศีรษะ ทั้งยังสั่นเป็นเจ้าเข้าอีกต่างหาก ต่างจากเสือที่แม้จะเพิ่งผ่านสถานการณ์เสี่ยงตายมาก็ยังคงทำตัวเรียบเฉยอยู่เช่นเคย〝นี่นาย!!! ตอนที่อยู่ในดันเจี้ยนเป็นบ้าอะไรหา!!!!!!〞 ทั้งที่เพิ่งออกมาจากดันเจี้ยนได้ แต่เธอกลับไม่ดีใจเลยซักนิด เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมต่ำช้าแบบนั้นของเสือ ลินดาจึงได้ตะคอกใส่เสือออกไปอย่างรุนแรง〝………………〞〝ตอบฉันมาสิ!!! ทำไม... ทำไมถึงทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นได้ลงคอ!!!〞 เพราะเสือไม่ได้ตอบเธอกลับมา เธอถึงได้ตะคอกถามเสือต่อไปทั้งอย่างงั้น การตะคอกนั่นดังพอที่จะดึงสติของเชษฐ์กลับมาได้ แล้วทำให้เขาพยุงตัวขึ้นมาร่วมสนทนากับลินดาได้ใ

    Last Updated : 2025-04-08
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 8 : การจะลุกขึ้นมายืนหยัดได้ก็มีแต่ต้องใช้ขาของตัวเองเท่านั้น

    มืดสนิท.....ไม่รู้สึกหนาวซักนิด..... ไม่รู้สึกว่ามีร่างกายอยู่เลยด้วย....ความกลัวเอง... ก็หายไปแล้ว?ความรู้สึกที่มันอธิบายไม่ถูกนี่มันคืออะไร?หรือว่า ที่นี่จะเป็น.....ไอ้ที่เขาเรียกว่า.......โลกหลังความตายงั้นเหรอ.....ฉัน ตายไปแล้วสินะ.... ตอนนี้กรอยู่ในสภาวะที่ตัวเองไม่เข้าใจ จึงได้มีคำถามมากมายผุดเข้ามาในหัว แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้ผ่านเหตุการณ์อะไรมาก็เข้าใจได้เป็นอย่างแรกเลยว่าตัวเองนั้นได้ตายไปแล้วพอมาคิดดูแล้ว ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำอีกตั้งเยอะเลยนะเนี่ย....แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอีกต่อไปแล้วหล่ะ.....ความรู้สึกอ้างว้างแบบนี้มันก็ดีไปอีกแบบแฮะ...เอาเถอะ..... หายไปอย่างเงียบๆแบบไม่ต้องคิดอะไร ก็ดีเหมือนกันหล่ะนะ....เพราะเดิมทีตัวฉันก็ไม่มีตัวตนหรืออะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้คนอื่นจดจำอยู่แล้ว... เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้เท่านั้นเองเพราะงั้นถึงหายไปซะ... ก็ไม่เป็นไรหรอก......【คิดแบบนั้นจริงๆอย่างงั้นเหรอ?】!!!!!!!!!!!!!!!! หลังจากที่กรคิดแบบนั้นพลางกำลังปล่อยให้สติหลุดลอยออกไป ราบกับจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไม่สนอะไรอีกแล้วนั้น จู่ๆก็มีเสียงของเด็กผู้ชายด

    Last Updated : 2025-04-08
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 9 : แค่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ก็เป็นการโกงที่ไม่ธรรมดาแล้วแท้ๆ

    .......นี่มันอะไรกันเนี่ย?อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนกับว่าสติลอยหายไป... แล้วตอนนี้จู่ๆมันก็กลับมาซะอย่างงั้นแล้วเมื่อกี้ก็รู้สึกเหมือนกับว่า จะมีตาลุงสวมชุดเสื้อคลุมโทรมๆที่มีหมวกคลุมหน้า กำลังจะพายเรือมารับข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งด้วยกันหรือยังไงนี่แหล่ะ... เป็นฝันที่แปลกชะมัด อยากรู้จริงๆแฮะว่าถ้าฝันต่อไปลุงนั่นจะพาไปไหน?เอ....แต่ว่าจากความทรงจำล่าสุดเนี่ยรู้สึกว่าเราจะล้มมอนสเตอร์ทั้งหมดได้สินะ...แต่ว่าพอล้มเจ้าพวกนั้นได้ เราก็ล้มลงไป... แล้วก็เพิ่งมารู้สึกตัวเอาป่านนี้รึว่า... เราคงแค่สลบไปละมั้ง …..หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะอืม ถ้างั้นก็.... กรที่กลับมาได้สติหลังจากฟื้นขึ้นมาจากความตายกำลังพินิจพิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันอยู่ แน่นอนว่าเขาไม่ได้คิดว่าตัวเองตายไปแล้วด้วยซ้ำ แล้วพอคิดว่าตัวเองสลบไปทั้งแบบนั้น เขาจึงได้ลืมตาขึ้นมาในทันที.....〝อึก! แสบตาชะมัดยาดเลย!〞 เพราะลืมตาขึ้นมาทันทีหลังจากที่ไม่ได้รับแสงมานาน ทำให้ดวงตาที่ยังไม่ได้ปรับแสง แสบตาขึ้นมา แต่จากนั้นไม่นานเมื่อปรับแสงได้แล้วสิ่งที่กรกำลังเห็นอยู่นั้นก็คือเพดานของดันเจี้ยนที่มีส่วนประกอบเป็นดินหรือหินที

    Last Updated : 2025-04-08
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 10 : สภาพแวดล้อมมักเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเสมอ ตอนแรก

    อืม...............รายละเอียดข้อมูลจำเพาะ / คลังข้อมูลความทรงจำ / ตั้งค่าสเตตัส / ตั้งค่าปาร์ตี้ / ตั้งค่าสมาชิกปาร์ตี้ / อ็อปเจ็คโดยรอบ / บุคคลโดยรอบ / แผนที่ดันเจี้ยน / แผนที่โลก / เรดาร์ตรวจจับสิ่งมีชีวิต / เรดาร์ตรวจจับสิ่งไม่มีชีวิต / คลังสูตรวัสดุและแร่ธาตุ / คลังสูตรอาหาร / คลังตำราอาวุธ / คลังตำราเครื่องป้องกัน / คลังตำราเครื่องประดับ..... ในดันเจี้ยนที่ปิดตายจากโลกภายนอก ไม่ว่าจะมองไปทางซ้ายหรือทางขวา หน้า หลัง บนหรือล่างก็เป็นอิฐ หินและดินเต็มไปหมด แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทั้งยังเพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตาย ไม่สิ.....ฟื้นขึ้นมาจากความตายมาหมาดๆ แต่กรก็ยังคงไล่ดู『หน้าต่างตั้งค่า』จำนวนมากที่ลอยอยู่ในระดับสายตา รอบตัวเขาอยู่จำนวนกว่า 20 แผ่นอย่างใจเย็น แม้ก่อนหน้าจะตกใจกับหน้าต่างจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นกะทันหันตรงหน้าก็ตาม แสดงให้เห็นเลยว่าจิตใจของกรนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากพอสมควร.....ตั้งค่าค่าประสบการณ์ / ตั้งค่าอัตราการดรอปไอเทม / ตั้งค่าอาชีพ / คลังอาชีพ / ตั้งค่าสกิล / คลังสกิล / นูเมรัลดิสเพลย์ / ตั้งค่าหน้าต่างตั้งค่า......มีทั้งหมด 24 แผ่น

    Last Updated : 2025-04-08
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 11 : สภาพแวดล้อมมักเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเสมอ ตอนจบ

    ก๊าซ!!!!!!!!!!〝ไอ้หยา! ดูเหมือนจะเห็นเราเข้าแล้วแฮะ〞 แม้ในตอนนี้กรจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองอย่างเห็นได้ชัดจากการที่กำลังโดนมอนสเตอร์ทั้ง 7 ตัวที่มีสเตตัสสุดโหดเพ่งเล็ง แต่ทั้งคำพูดและการกระทำที่ยังดูไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่น้อยนั่นของกร แสดงให้เห็นว่าเขานั้นยังสามารถคงความเยือกเย็นไว้ได้อยู่ แต่ก็ดูเหมือนหยิ่งยโสและประมาทไปเช่นเดียวกัน〝หะหะห่ะ!!!! มันต้องแบบนี้สิ! ค่อยน่าสนุกขึ้นมาหน่อย!!!〞ก๊าซซซซซซซซ!!!!!!!!!!ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! 〝!!!!!!!!?〞 ราวกับตอบสนองต่อคำพูดของกร กลุ่มมอนสเตอร์ทั้ง 7 ที่ได้ยินเสียงตะโกนนั่นก็วิ่งกรูเข้ามาหากรอย่างรวดเร็ว แต่ว่าพอเข้ามาจนห่างจากที่กรยืนอยู่ราวๆ 7-8 เมตร มันก็หยุดนิ่ง ขณะที่กรคิดว่ามันกำลังจะทำอะไรกัน? อยู่นั้น ก็มีลิซาร์ดแมน 2 ตัว ถือสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายคฑา ถอยร่นไปข้างหลังราวสองถึงสามก้าว แล้วจากนั้น...ก็อบลิน 2 ตัวและลิซาร์ดแมน 3 ตัวก็ออกวิ่งมายังที่ที่กรยืนอยู่ โดยมีก็อบลินทั้งสองวิ่งนำหน้ามาคู่กันแล้วตามด้วยลิซาร์ดแมนทั้งสามที่วิ่งเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดานอยู่ข้างหลังก็อบลินมาพร้อมกัน การจัดขบวนรบอย่างร

    Last Updated : 2025-04-08
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 12 : ความแข็งแกร่งของบอสมอนสเตอร์

    〖 มีแค่แกคนเดียวงั้นเรอะ ไอ้หนู!!! 〗〝พะ พูดได้ด้วยเหรอ!!!!〞ตัวฉัน.... อุษณกร วัชรวิรุฬห์ไอ้หนุ่มที่มีหน้าตาสุดแสนจะธรรมดา แถมเป็นโอตาคุขั้นโคม่า แล้วยังบ้าหนังสงครามหน่อยๆ....ตอนนี้กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่เคยได้ยินมาว่า เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีกหรือโรมันที่เรียกว่า สุนัขเฝ้านรก.... 『เคลเบรอส』อยู่ ด้วยอาการตกตะลึงกึ่งสงสัยกับสถานการณ์แปลกๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน! เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์อันตราย กรจึงต้องระวังตัวอย่างที่สุด แต่เพราะเห็นว่าสุนัขหมาป่า 3 หัวขนสีดำขลับ ซึ่งเป็นบอสมอนสเตอร์อันน่าเกรงขาม นั้นยืนอยู่ข้างหน้าของกรกลับพูดคุยด้วยท่าทางที่เป็นมิตรกว่าที่คิด กรเลยคิดที่จะลองหยั่งเชิงมันดู〖นี่ๆ อย่าเมินคำถามของข้าสิ! 〗〝อ่อ.....โทษทีๆ พอดีทางนี้กำลังตกใจอยู่หน่ะ!!!〞〖ตกใจงั้นเหรอ? นั่นก็เป็นปฏิกิริยาปกติเวลามีคนเห็นรูปลักษณ์อันน่าหวาดหวั่นของข้าอยู่แล้วนี่นา!!!?〗〝เปล่าๆ... ที่ทางนี้ตกใจหน่ะเป็นเพราะไม่รู้ว่าแกพูดได้ยังไงอยู่ต่างหากหล่ะ....〞〖....................................〗〖ตกใจเรื่องนั้นเองหรอกเรอะ!!!!!!!!〗〝อึ๊ย!!!!〞ยะ แย่หล่ะสิ

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 13 : ความต่างชั้นของพลัง ความรู้สึกของจิตใจ และสวิทซ์

    〖หึหึ... ดูเหมือนจะรู้ถึงพลังของข้าแล้วสินะเจ้าหนู〗〝กรอด !!!!!!!!!〞 และในขณะที่กรกำลังตกใจอย่างสุดขีดกับสเตตัสที่แสดงอยู่ตรงหน้า เคลเบรอสก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่ยังสบายๆเช่นเคย แถมน้ำเสียงยังมีอาการดูถูกเล็กน้อยอีกต่างหาก นั่นทำให้กรเริ่มที่จะทนฟังไม่ได้ ทั้งยังโมโหขึ้นมาจนต้องกัดฟันแน่นเลยทีเดียวเวรเอ๊ย!!! แบบนี้ก็หมายความว่าถ้าสร้างความเสียหายในการโจมตีแต่ละครั้งได้ไม่ถึง 12 ล้าน ก็จะโจมตีมันไม่เข้าเลยงั้นเหรอไม่สิ... คิดว่าเดิมทีสเตตัสพลังป้องกันไม่น่าจะคำนวณแบบนั้นนี่นา เพราะไอ้ที่สู้ด้วยในตอนที่อยู่จุดหนีนั่น พลังของฉันมีไม่พอที่จะมะลวงพลังป้องกันแน่ๆ แต่ก็ยังโค่นพวกนั้นได้......กริ๊ง!!! แล้วเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในสติของกร แล้วหน้าต่างนูเมรัลดิสเพลย์ซึ่งเป็นหน้าต่างช่วยคำนวณก็มาปรากฏตรงหน้าของกร พร้อมกับแสดงผลลัพธ์ที่ยิ่งทำให้กรหดหู่ยิ่งกว่าเดิม【คำเตือน! บอสมอนสเตอร์ข้างหน้ามีระดับสูงเกินไป ไม่สามารถหลบหนีได้! ความเป็นไปได้ที่จะหลบหนี คือ 0.000014% ความเป็นไปได้ที่จะชนะในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ตรงหน้านั้น คือ 0.00000047% สามารถถ่วงเ

    Last Updated : 2025-04-09

Latest chapter

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 90 : บางครั้งพายุฝนก็มีหลายระลอก

    หลังจากนั้นกรก็จ่ายเงินให้กับพวกพ่อค้าตามปกติ เพราะถึงกรจะโกรธแต่ก็ไม่ใช่พวกไร้จริยธรรมที่จะชักดาบแล้วเผ่น ทว่าพวกพ่อค้ากลับคิดเงินกรเพียงแค่ 5 เหรียญทองเท่านั้นเอง แถมด้วยตอนที่พวกกรกำลังจะออกจากร้านพวกนั้นก็โค้งคำนับให้กรอย่างเกร็งๆกลัวๆอีกต่างหาก กรเองก็แอบสะใจไม่น้อย แต่เพราะไม่อยากให้เรเชลกับริต้ารู้สึกแย่เพราะอยู่ที่นี่นาน กรจึงรีบเดินออกมาจากที่นั่นในทันที แต่ก็ยังไม่รีบออกจากเขตชานเมืองที่ไม่ค่อยมีคนเพราะต้องการที่จะตกลงเรื่องส่วนตัวกันก่อนอืม... ในที่สุดก็ช่วยริต้าได้ก็รู้สึกผิดกับเรเชลอยู่หรอกนะที่ไปยุ่งไม่เข้าเรื่องเอาเป็นว่าช่างหัวมันแล้วกัน...แต่ตอนนี้คงจะยากที่จะให้ทั้งคู่ที่กำลังเหนื่อยเดินทางไปด้วยเรากำลังสืบคดีอยู่นี่นา...แต่ว่า... เจ้าบาทหลวงนั่นเพิ่งจะเข้าไปคุยกับเจ้าชายลำดับสองได้ไม่นานนี้เอง...คงจะต้องใช้เวลาซักหน่อย...ถ้างั้นก็ใช้ช่วงเวลานี้คุยกับเรเชลกับริต้าดีกว่าว่าจะเอายังไง... ในขณะที่คิดแบบนั้นกรก็มองผ่านไหล่ไปยังเรเชลกับริต้าที่อยู่ซะหลังสุด คล้ายกับว่าสาวๆคนอื่นกำลังกันเธอให้ห่างจากกรอยู่ยังไงอย่างงั้นเลย

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 89 : น้องสาวกับลุงปริศนา

    ————มุมมองของเรเชลหลังจากที่คุณกรกลับคาลิโอน่า เราก็กลับไปทำงานนักผจญภัยต่อถึงจะรู้สึกเหงา(มากๆ)ก็ตาม แต่ถ้าไปเกาะแกะยิ่งกว่านี้จะถูกคุณกรเกลียดเอาแบบนั้นไม่เอาเด็ดขาดเลย! อือ... แต่ถึงงั้นก็ยังอยากอยู่กับคุณกรอ่ะถ้าไม่ได้กลิ่นคุณกรหล่ะก็ฉันต้องแย่แน่ๆเลย...จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว...อยากโดนลูบหัวอีก อยากโดนลูบท้องด้วย... งือ... เรเชลที่กำลังเดินกลับจากการทำเควสในเมืองกำลังครวญครางในห้วงความคิดของตัวเอง โดยนึกถึงกรซึ่งเป็นชายที่เธอหลงรัก(หัวปักหัวปำ)อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เนื้อหาจะแปลกๆก็ตามที หลังจากนั้นเรเชลก็ทำงานหาเงินมาตลอด พอรู้ตัวอีกทีก็มีเงินสะสมมากพอที่จะไถ่ตัวน้องคืนได้แล้ว ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณเรื่องที่เธอเป็นคนรู้จักเก็บออม และไม่ใช้สุรุ่ยสุร่ายนั่นแหล่ะ ที่นอนของเธอก็คือในป่า ที่อาบน้ำคือแม่น้ำที่ห่างออกไปจากตัวเมืองไปเล็กน้อย อาหารกินวันละมื้อแถมส่วนใหญ่ยังเป็นการล่าหากินเองในป่าอีกต่างหาก ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างมากที่สุดก็คือคฑาที่ใช้สำหรับทำภารกิจเท่านั้นเอง เป็นเวลากว่า 1 ปีที่เธอใช้ชีวิตแบบนั้น แต่เงินที่เธอเก็บได้ก็ยังมีไม่พอที่จะไถ่ตัว

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 88 : การทำตามคนอื่น ไม่เรียกว่าเป็นทางเลือกของตัวเอง

    หลังจากกลับไปหาไมน์และรีเบคก้าที่ห้องของพวกเธอ กรได้อ้างว่าทันทีที่ไปถึงก็พบว่าเจนนี่เสียชีวิตอยู่ก่อนแล้ว เพราะรู้สึกว่าหากบอกความจริงไปตอนนี้มันคงหนักหนาเกินไปสำหรับพวกเธอ กรเลยคิดที่จะบอกเรื่องนี้กับพวกเธอทีหลัง แต่ถึงแบบนั้นตอนที่ไมน์ได้ยินครั้งแรกก็ถึงกับช็อคจนหมดสติไปเลย แล้ววันรุ่งขึ้นเหล่าทหารประจำเมืองก็เริ่มเคลื่อนย้ายศพออกจากดันเจี้ยนไปยังที่เก็บศพของกองทหาร และแน่นอนว่าพวกกรและไมน์ที่เป็นคนรู้จักของเจนนี่เองก็ถูกเรียกตัวมายืนยันศพและสอบถามข้อมูลด้วย… ชาลอต ซาช่าและลิลิธรออยู่ด้านนอกห้องสอบสวน เพราะงั้นตอนนี้คนที่อยู่ในห้องคือกร มีอา เมอร์ลิน ไมน์ที่ยังอยู่ในสภาพอิดโรยและอ่อนล้า กับรีเบคก้า 5 คน โดยมีทหารที่ทำหน้าที่สอบข้อมูล 2 คนนั่งอยู่ตรงข้าม〝 งั้นก่อนอื่น... เธอคือคนที่จัดการพวกโจรสินะ 〞หนึ่งในทหารถามกรออกมาในขณะที่ตัวกรนั่งกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ด้านหน้า เพราะถูกเรียกออกมาอย่างกะทันหัน〝 อืม ฉันนี่แหล่ะ... 〞ทหารทั้งสองกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินคำตอบแบบไม่ใส่ใจนักของกร เพราะข่าวลือที่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือแบล็ครุคกี้สุดโด่งดังนั่นก็มาถึงหู

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 87 : ลูกแกะที่มีแกะสวมชุดหมาป่าอยู่ข้างใน

    หลังจากที่ได้ยินว่าเจนนี่ถูกลักพาตัว กรก็พาทั้งสองคนเข้ามาสงบสติในห้องเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนแขกท่านอื่น〝 ช่วยบอกรายละเอียดมาที? 〞หลังจากที่จับไมน์กับรีเบคก้านั่งเก้าอี้ กรที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ถามออกมาโดยที่ทำใจและท่าทางให้นิ่งสงบไว้อยู่〝 คือว่าก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง เจนนี่เค้าบอกจะออกไปซื้อของแปปนึงหน่ะค่ะ แต่ไม่เห็นกลับมาซักที... 〞ไมน์พูดออกมาด้วยท่าทีกระหืดกระหอบ รีเบคก้าเลยรับช่วงต่อพร้อมกับหยิบกระดาษแผ่นนึงออกมาด้วย〝 แล้วตอนที่กำลังจะออกไปตามหา ก็เจอเจ้านี่วางอยู่หน้าห้องพักหน่ะค่ะ 〞รีเบคก้าพูดจบก็ยื่นมันให้กับกร พร้อมกับสาวๆที่อยู่ด้านหลังกรได้ขยับเข้ามาใกล้เพื่อดูมันด้วย แล้วกรก็เริ่มอ่านข้อความนั้นในใจ....เพื่อนของพวกเธออยู่กับพวกเราถ้าไม่อยากให้ยัยนี่เป็นอะไรหล่ะก็ เข้ามาใน『ถ้ำหินออบซิเดียน』แค่สองคนซะ…เนื้อหาประมาณนี้แหล่ะ แถมอีกฝ่ายไม่ได้เรียกร้องอะไรเลยด้วย ไม่น่าจะใช่การเรียกค่าไถ่...บอกตรงๆนะ... นี่มันกับดักชัดเลยๆกะล่อทั้งสองคนเข้าไปหาเฉยๆเลยนี่หว่า เป้าหมายคงเป็นทั้งสามคนนั่นแหล่ะหรือว่า... คนร้ายเป็นพวกเดียวกับที่จัดการคุณแมซอืม... เป็นไปไ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 86 : ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

    หลังจากที่กรหลับหรือสลบไป เวลาก็ผ่านไปเกือบ 21 ชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลา 11 นาฬิกาของอีกวัน... กรลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ราวกับเครื่องจักรที่กำลังวอร์มอัพเครื่อง ทันทีที่กรตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าด้านขวาของเขามีมีอากำลังนอนอยู่ข้างๆและกำลังบีบเสื้อของกรไว้แน่น ส่วนด้านซ้ายไม่มีเมอร์ลินทั้งที่ปกติเป็นที่ของเธอ กลับกันแล้ว... ข้างๆเตียงมีชาลอตและซาช่านั่งกับพื้น โดยใช้พื้นที่ว่างของเมอร์ลินนั้นเป็นที่ฟุบอยู่ ส่วนลิลิธ เธอกำลังนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ใกล้กับพวกชาลอต เห็นได้ชัดเลยว่าทั้งสี่คนอยู่ดูอาการกรมาตลอดตั้งแต่ที่กรหลับไปอย่างกะทันหันนั่น แล้วที่หลับไปนี่คงจะเพิ่งไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเองกระมั้ง ลิลิธที่นั่งผงกหัวอยู่แบบนั้นเป็นหลักฐานได้อย่างดี... ในขณะที่กรคิดแบบนั้น มีอาก็เริ่มตื่นขึ้นจากนิทรา〝 กร... กร!!! 〞มีอาที่กำลังสลึมสลือ พอเห็นว่ากรได้สติจนถึงขั้นชันตัวเองขึ้นมานั่งเองได้แล้ว ก็โผเข้าไปกอดรัดคอของกรอย่างแนบแน่นในทันที〝 ฮึก! ฉัน... ฉันนึกว่านายจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วซะอีก 〞มีอาพูดแบบนั้นโดยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาในอ้อมอกของก

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 85 : ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    หลังจากที่กรตื่นนอนพร้อมกับพวกสาวๆ กรพยายามวางตัวและทำกิจวัตรตามปกติเหมือนที่เคยเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเธอ ชาลอตและซาช่ายังไม่ได้สังเกตกร... คงมีเพียงมีอากับเมอร์ลินที่รู้จักกรมานานที่สุด และลิลิธที่เห็นพลังเวทย์ในตัวกรเปลี่ยนไปเท่านั้นกระมั้งที่สังเกตเห็น❖❖❖❖❖ หลังจากนั้นพวกกรที่เตรียมตัวพร้อมเก็บข้าวของเสร็จแล้ว ก็ลงไปเช็คเอาท์ที่ล็อบบี้โรงแรม〝 ฮ้าว... พี่ชาย อรุณสวัสดิ์ค่า 〞พีน่าที่กำลังจัดการสมุดบัญชีโรงแรมอยู่ ฮาวหวอดใหญ่ ทำให้กรยิ้มเจื่อนๆออกมา〝 เป็นสาวเป็นแซ่หน่ะนอนให้ตรงเวลาด้วยสิ... เอ้านี่กุญแจห้อง 〞〝 โถ่รู้แล้วหล่ะค่า... ก็ป๊ะป๋าไม่อยู่ช่วยงานเลยนี่นา 〞พีน่ารับกุญแจมาแล้วก็ลงข้อมูลปลีกย่อยในสมุดบัญชีด้วยท่าทีเหนื่อยๆก็แน่หล่ะ พ่อเธอเขาไปสืบคดีอยู่นี่นาแต่ดูท่าเรื่องนี้คาลอสจะไม่ได้เล่าให้ฟัง... ก็แน่หล่ะ ใครจะอยากดึงลูกตัวเองมาเกี่ยวด้วยกันหล่ะ〝 อ้อ! แล้วก็พี่ชาย... พอไปถึงโรงแรมสาขาคาลิโอน่า ถ้าออกตอนนี้คิดว่าคงไปถึงประมาณเที่ยงหล่ะนะ... พอถึงแล้วก็ไปบอกชื่อกับพนักงานได้เลย หนูจะเตรียมห้องแบบเดียวกันไว้ให้ที่นั่นนะคะ 〞〝 หืม? บอกเหรอ? เมือง

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 84 : นรกอีกครั้ง ตอนจบ

    〝 แก... ยังไม่หายไปอีกเหรอ? 〞 กรที่แม้จะยังสับสน แต่ก็ถามตัวเขาเองอีกคนซึ่งยืนอยู่ตรงข้ามออกไปในทันที ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันทั้งน้ำตานั้นของกร ตัวกรสีขาวดำก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะตอบกร〝 น่าเสียดายนะ ฉันเป็นคนละคนกับตอนทศกัณฑ์ 〞〝 .....แกเป็นใคร .....ต้องการอะไร 〞เมื่อไม่ได้คำตอบ กรจึงยังคงถามต่อ นั่นทำให้ตัวกรอีกคนหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพูด〝 นั่นสินะ ก่อนอื่นเรียกฉันว่า『ความมืด』ก็แล้วกัน... ส่วนที่เหลือถึงอยากจะบอกแต่ก็บอกไม่ได้ซะด้วย เอางี้แล้วกัน! ถ้าเล่นด้วยกันอีกซักหน่อย ฉันจะใบ้ให้บ้างก็แล้วกัน... 〞〝 เล่น? 〞 กรถามย้ำเพราะไม่เข้าใจ นั่นทำให้ตัวกรอีกคน... ความมืดยิ้มออกมาอย่างน่ารังเกียจ และนั่นเองที่ทำให้กรเข้าใจ ว่าไอ้ความมืดนี่... ต้องการ『เล่น』ด้วยการส่งเขาลงสู่ลูปนรกนั่นอีกครั้งนั่นเอง เมื่อคิดได้เช่นนั้น กรก็รู้สึกเย็นวูบขึ้นที่หลังในทันที... แต่ก็ยังพยายามทำใจเย็นแล้วก็เช็ดน้ำตาออก ก่อนจะพูดต่อ〝 โทษทีหว่ะ... ฉันไม่ติดกับมุกเดิมเป็นหนที่สองหรอก... ในเมื่อรู้วิธีการแล้วกมันก

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 83 : นรกอีกครั้ง ตอนแรก

    *คำเตือน ภายในตอนมีฉากกระทบกระเทือนอารมณ์บุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปีหรืออารมณ์และจิตใจอ่อนไหวง่าย ไม่ควรอ่านครับ❖❖❖❖❖〝 ขอนอนต่ออีกซักนิดเถอะนะ… 〞ฉันพูดแบบนั้นแล้วก็กลับไปนอนขดตัวอีกครั้งส่วนชาลอต… เมดประจำตัวของฉัน พอเห็นท่าทีไม่สนใจของฉันก็ทำแก้มป่องออกมาแหม่ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจซักหน่อย แต่ขออีกแค่ 5 นาทีก็ยังดีน่า อย่างอนไปเลยนะคนดี...〝 นาย! ท่าน! ค่ะ! 〞ชาลอตตะโกนแบบนั้นออกมาก่อนจะเดินเข้าไปทางกรและดึงผ้าห่มออก〝 วุ้ย! ใจร้ายชะมัดเลยอ่ะชาลอต 〞กรพูดสวนขึ้นมา พร้อมกับลุกจากเตียงมายืนกอดตัวเองโดยที่แกล้งตัวสั่นจากความหนาวไปด้วย〝 ขอทีเถอะค่ะนายท่าน! ที่ฉันทำก็เพื่อนายท่านนะคะ 〞〝 แต่จู่ๆ มาดึงผ้าห่มออกไปมันก็หนาวนะครับผม 〞กรพูดแบบนั้นทั้งที่ยังเดินเนื้อตัวสั่นๆ แล้วก็ไปปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่ลงเสีย แต่ชาลอตที่อยู่ใกล้ๆก็กลับถอยหายใจออกมาอีกครั้งเสียอย่างงั้น〝 พูดเป็นเล่นนะคะ... นายท่านสวมอาภรณ์เวทย์ตอนนอนอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ? แล้วจะไปหนาวได้ยังไงกันคะ 〞อา... ยัยชาลอต ทำลายข้ออ้างในการนอนของฉันไปอีกแล้วไหมหล่ะแหม แต่ก็อย่างว่าหล่ะนะ... เพราะเห็นอย่างงี้ แต่ตอนที่อยู่โรงเร

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 82 : เบาะแสนำไปสู่ผลลัพธ์

    〝 มาสาย! 〞 พอกรมาถึงห้องพักก็เป็นเวลา 4 โมงครึ่ง... เมอร์ลินที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนขอบเตียงจึงได้กอดอกและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด นั่นเพราะเวลานัดจริงๆคือ 30 นาทีที่แล้วนั่นเอง... กรและมีอาที่รู้ว่าตัวเองมาสายจึงรีบขอโทษทันที〝 ขะ ขอโทษทีเมอร์ลิน 〞〝 ขอโทษนะเมอร์ลิน! 〞 กรที่พูดอย่างเหนื่อยหอบ และมีอาที่ขอโทษพลางโค้งตัว... เมื่อเห็นภาพแบบนั้นเมอร์ลินที่ยังคงขมวดคิ้วกอดอกอยู่ก็เริ่มใจเย็นลง และถอนหายใจออกมาราวกับเปลี่ยนอารมณ์ พร้อมๆกับสายตาแบบแปลกๆของชาลอต ซาช่าและลิลิตที่มองมาทางพวกกร... และในขณะที่กรกำลังคิดว่าเมอร์ลินและสาวๆทุกคนโกรธเพราะกรมาสาย เมอร์ลินก็เริ่มเกริ่นขึ้นมา นั่นจึงทำให้กรตระหนักได้ว่าพวกเธอไม่ได้โมโหกรเรื่องนั้น...〝 รู้อะไรไหม... ระบบปาร์ตี้หน่ะ มันทำให้รู้ตำแหน่งของทุกคนในปาร์ตี้ด้วยนะ... เหมือนกับเรดาร์นั่นแหล่ะ? 〞〝 เอ๋? 〞กรและมีอาเบิกตาขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อได้ยินเมอร์ลินพูดแบบนั้นออกมา... ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างเก้อเขินด้วยเรื่องที่ร่วมกันมาเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว... แล้วพอคิดตามที่เมอร์ลินบอก กรและมีอาก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status