วูม!!!!———
พอแสงสว่างที่จ้าเสียจนแสบตาได้จางหายไป ทิวทัศน์ที่ปรากฏตรงหน้าของลินดาก็คือ บริเวณป่าแบบเดียวกับก่อนที่จะถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นสมาชิกปาร์ตี้ที่ลดลงจนเหลือแค่สามคน อันได้แก่ตัวเธอ เชษฐ์และเสือนั่นเอง ลินดาในตอนนี้ยังอยู่ในอาการสะเทือนใจอยู่พอสมควร ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ทั้ง 2 คนตายเพียงเพื่อให้ตัวเองหนีรอดไปได้ เชษฐ์ก็ยังคงนั่งคุกเข่าเอามือกุมศีรษะ ทั้งยังสั่นเป็นเจ้าเข้าอีกต่างหาก ต่างจากเสือที่แม้จะเพิ่งผ่านสถานการณ์เสี่ยงตายมาก็ยังคงทำตัวเรียบเฉยอยู่เช่นเคย
〝นี่นาย!!! ตอนที่อยู่ในดันเจี้ยนเป็นบ้าอะไรหา!!!!!!〞
ทั้งที่เพิ่งออกมาจากดันเจี้ยนได้ แต่เธอกลับไม่ดีใจเลยซักนิด เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมต่ำช้าแบบนั้นของเสือ ลินดาจึงได้ตะคอกใส่เสือออกไปอย่างรุนแรง
〝………………〞
〝ตอบฉันมาสิ!!! ทำไม... ทำไมถึงทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นได้ลงคอ!!!〞
เพราะเสือไม่ได้ตอบเธอกลับมา เธอถึงได้ตะคอกถามเสือต่อไปทั้งอย่างงั้น การตะคอกนั่นดังพอที่จะดึงสติของเชษฐ์กลับมาได้ แล้วทำให้เขาพยุงตัวขึ้นมาร่วมสนทนากับลินดาได้ในไม่นาน
〝คะ คุณเสือ ทำแบบนั้นหมายความว่ายังไงกันเหรอครับ.... คุณหน่ะรู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรลงไป?〞
〝………………〞
〝มะ ไม่คิดจะตอบเลยงั้นเหรอ!!!? นี่ผมกำลังถามคุณอยู่นะครับ!!!!〞
〝แล้วมันยังไงกันหล่ะ?〞
〝〝!!!!!!!〞〞
〝ที่ฉันทำมันเป็นเรื่องผิดงั้นรึไง!!!?〞
แล้วเสือก็ตอบคำถามกลับมาด้วยคำถาม รวมกับท่าทางทำเป็นทองไม่รู้ร้อนของเสือเข้าไป นั่นยิ่งทำให้ลินดาโกรธจัดมากเข้าไปอีก
〝นะ นี่นายจะบ้ารึไงกัน! มันก็ต้องผิดอยู่แล้วสิ!!! นายหน่ะทิ้งคนทั้งคนไว้ในที่อันตรายแบบนั้นคนเดียวเลยนะ!!! เห็นไม่ใช่รึไงกัน ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนั่น ป่านนี้เขาคนนั้นก็คง..!!!!!〞
〝ชะ ใช่แล้วหล่ะครับ ที่คุณทำอยู่มันเป็นการฆ่าคนโดยเจตนาเลยนะครับ!!! มะ ไม่คิดจะสำนึกผิดบ้างเลยรึไงกันครับ!!!!〞
〝………〞
เพราะเห็นฮาวลี่ถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา ทั้งสองคนเลยคิดว่ากร ที่เป็นผู้กล้าที่อ่อนแอที่สุดคงไม่มีทางมีชีวิตรอดจากที่นั่นแน่ๆ ถึงได้ด่าทอเสือไปแบบนั้น
〝อย่ามาทำเป็นพูดดีไปเจ้าตัวเล็ก... แกเองก็ดีใจไม่ใช่รึไงที่ตัวเองรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยหน่ะ?〞
〝!!!!!!!!!!〞
〝จริงๆก็คิดอยู่ไม่ใช่รึไง....ว่าโชคดีจริงๆ ที่คนที่ต้องเป็นเหยื่อล่อไม่ใช่ตัวเองหน่ะ〞
〝มะ ไม่ใช่นะ ผม...〞
แล้วพอเสือพูดออกไปแบบนั้นก็ทำให้เชษฐ์หงอยลงไปนิดหน่อย เรื่องที่ดีใจตัวเองรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกแบบนั้นอยู่แล้ว แต่เพราะเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆมานั่นจึงทำให้จิตใจของเชษฐ์ยังคงหวั่นไหวได้ง่ายอยู่ ผลก็คือด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของเสือก็ทำให้เขานิ่งเงียบไปได้เลย
〝พอได้แล้วไอ้เดนมนุษย์!!! นี่แกยังจะมีหน้าไปว่าคนอื่นอีกงั้นเหรอ! คนตายไปตั้งสองคนแท้ๆยังไม่รู้สึกอะไรอีกงั้นเหรอ!!!!〞
〝.....................〞
ในที่สุดลินดาก็ฟิวส์ขาดจนได้ เลยทำให้ต่อว่าเสือออกไปอย่างรุนแรงแบบนั้น แต่เสือก็ยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไรเหมือนเดิม
〝บ้าเอ้ย!!! ก็ได้...ถ้าคุยด้วยไม่ได้ละก็ฉันจะ!!!〞
〝โฮ่....จะทำอะไรฉันงั้นเหรอ?〞
พอลินดาพูดออกไปแบบนั้น เสือก็กลับมีปฏิกิริยาทันที มันดูเหมือนเขากำลังยั่วโมโหเธออยู่ยังไงอย่างงั้นเลย แล้วพอลินดาพูดจบเธอก็หันหน้าไปทิศตรงข้ามกับที่เสือยืนอยู่ แล้วก็เดินหนีไปทันที
〝ฉัน....จะไปบอกคุณฮันซี่!!! จะบอกให้หมดเลย!!! เรื่องเลวๆที่นายทำไว้ในดันเจี้ยนนั่นหน่ะ!!!!〞
ซู่ม!!!!———
แล้วพอลินดาพูดจบ รอบๆบริเวณที่เสือ เชษฐ์และลินดายืนอยู่ก็มีบรรยากาศน่าขนลุกเกิดขึ้น มีเงาที่มีลักษะคล้ายเปลวเพลิงสีดำโผล่ขึ้นมาจากพื้นมากมายอย่างไร้รูปร่าง เข้าโอบล้อมบริเวณที่ทั้ง 3 คนอยู่อย่างหนาแน่นจนรู้สึกแย่เลยทีเดียว
〝หืม....ถ้าเป็นงั้นจริงฉันก็ซวยหน่ะสิ!!!〞
〝นะ นี่มัน เวทย์อะไรกัน!〞
พอลินดารู้สึกตัวอีกที เธอก็ดันเกิดอาการหายใจติดๆขัดและหมดแรงจนแทบจะยืนไม่ไหวเสียแล้ว แน่นอนว่าเชษฐ์เองก็เป็นแบบเดียวกัน
〝นี่นาย.....คิดจะทำ....อะไร....กับพวกเรา!!!!〞
เพราะการหายใจไม่ค่อยสะดวกนัก จึงทำให้เธอพูดติดๆขัดๆ
〝ก็... ทำให้พวกเธอติดคำสาปยังไงหล่ะ…〞
〝คะ คำสาป!!!〞
〝ใจจริง... ฉันก็อยากเก็บพวกเธอไปเลยหรอกน่ะ แต่ถ้าทั้งปาร์ตี้เหลือฉันคนเดียวแบบนี้มันก็จะน่าสงสัยหน่ะสิ ว่าไหม!?〞
〝!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
พอเธอได้ยินเสือพูดว่าจะฆ่าพวกเธอตรงๆ นั่นทำให้เธอเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว
〝นะ นี่แก สติดีอยู่รึเปล่า!!! ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย!!!〞
〝เห็นที่ฉันทำลงไปในดันเจี้ยนแล้ว คิดว่าล้อเล่นรึเปล่าหล่ะ!〞
สายตาของเสือนั้นยังคงเย็ชาอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น
〝ไม่ต้องเป็นห่วงไป...คำสาปนี่หน่ะ จะเกิดผลในเหตุการณ์เฉพาะเท่านั้น เงื่อนไข......แน่นอนว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องรู้ อ๊ะ! แล้วก็....〞
ซู่ม!!!!
ทันทีที่เขาพูดจบแล้วแผ่มือด้านขวาไปยังที่ต้นไม้ใกล้ๆอยู่ ต้นไม้นั่นก็ถูกเปลวเพลิงล้อมรอบ ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว แล้วก็กลายเป็นตอตะโกในเวลาไม่ถึง 30 วินาที แล้วเขาก็ยื่นหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ลินดาที่กำลังนั่งก้มหน้าเพราะความเจ็บปวดทรมานอยู่
〝ถ้าเกิดคิดที่จะเล่าเรื่องของฉันออกไปหล่ะก็... พวกเธอก็จะได้รับความเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หลายพันเท่า ....แล้วสุดท้าย คำสาปที่ว่าก็จะทำให้พวกเธอเป็นแบบต้นไม้ต้นเมื่อกี้นี้นี่แหล่ะ〞
〝!!!!!!!!〞
ซู่ม———
แล้วเสือก็ปลดเวทย์ปริศนาของตัวเองออกไป ยกเว้นต้นไม้ที่เหลือเพียงผงสีดำสนิท ทุกอย่างก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือเพียงแต่เชษฐ์กับลินดาที่ยังคงนั่งหายใจหอบกันอยู่
〝ไอ้......สัตว์นรกเอ้ย〞
〝เฮอะ!!! ใครสนกันหล่ะ!!! แล้วก็อย่าลืมเรื่องที่ฉันขู่ไปเมื่อกี้ซะหล่ะ... แล้วจะหาว่าไม่เตือน!!!〞
พอพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นแล้วก็หันหน้าหนีไปชมนกชมไม้อย่างสบายอารมณ์ราวกับเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่พวกลินดาที่กำลังกำหมัดและกัดริมฝีปากแน่นอยู่ก็เหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือของเสือไปเสียแล้ว ทำให้บ่นอะไรไม่ได้มากอีกนัก แล้วบรรยากาศรอบตัวของเสือก็หนักอึ้งขึ้นมากเสียยิ่งกว่าเดิม...
❖❖❖❖❖
———ในขณะเดียวกัน ทางด้านของกร...
เฮ้ยๆ!!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!!! เดี๋ยวก่อน...เดี๋ยวสิ!!! ตามไม่ทันแล้วโว้ย!!! นี่มันเกิดห่าเหวอะไรขึ้นกันวะ!!!!!!
นี่ฉันถูกทิ้งเหรอ? ไม่ตลกนะเฮ้ย!!!
ในขณะที่กรกำลังมีความคิดสับสนปนเปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ถูกเหล่ามอนสเตอร์ทั้ง 5 ตัวกดดันโจมตีให้ถอยร่นมาทางที่เคยมีวงเวทย์นั่นเรื่อยๆ
ละ แล้วจะทำยังไงต่อไปดี หนีงั้นเหรอ…เป็นไปไม่ได้เลย!!! แค่หลบอยู่นี่ก็เต็มกลืนแล้ว ช่องว่างของเจ้าพวกนี้ก็ไม่มีเลยแม้แต่น้อย...
วงเวทย์นั่นตอนแรกที่มาเจอยังเปล่งแสงอยู่เลย แต่ตอนนี้... ไม่มีทาง!!! ดูยังไงพลังเวทย์มันก็หมดแล้วชัดๆ!
ฉั๊ว!!!!!!!
〝อึ๊กกกกก!!!!!!!!!!!〞
ขณะที่กรกำลังเพ้ออยู่นั้น ก็ถูกมีดสั้นของก๊อบลินฟันเฉียดไปทีหลัง แต่ความเจ็บปวดนั่นเองก็ทำให้กรได้สติแล้วสังเกตเห็นบางอย่างกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มมอนสเตอร์
นะ นั่นมัน!? ทางขวาลิซาร์ดแมนตัวนั้นเปิดช่องว่างนิดหน่อย เป็นโอกาสแล้ว!!! ไม่สิโอกาสสุดท้ายเลยต่างหาก!!!
ด้านหลังฉันเป็นทางตัน ถ้าจะหาทางหนีละก็ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว!!!!
แล้วกรก็รอจังหวะที่เหมาะสม จนกว่าช่องโหว่ของการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์จะกว้างพอให้หลบหนีไปได้พอได้จังหวะเข้าก็รีบพุ่งไปทันที แต่ว่า...
ชึบ———
〝!!!!!!!!!?〞
พอกรผ่านตัวของเจ้าลิซาร์ดแมนไปได้กลับมีมอนสเตอร์ตัวที่ 6 ซึ่งเป็นมนุษย์โครงกระดูกดักรออยู่ นั่นทำให้กรตกใจจนหัวใจแทบวายเลยทีเดียว เหมือนกับอีก 5 ตัวที่เหลือ กรสัมผัสตัวตนของมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อยจนกระทั่งมันปรากฏตัวขึ้นมา เพราะตกใจสุดขีดอยู่นั่น จึงทำให้กรเสียสมาธิไปพริบตานึง แล้วหลังจากนั้น
ฉั๊ว!!!!!!!
เสียงฟันนั่นดังขึ้นมาและก้องอยู่ในจิตสำนึกของกรชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ตุ๊บ!!!!!!! แผล่ะ!!!!!!!
หลังเสียงนั้นผ่านไปกร ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีของหนักๆตกลงใกล้กับบริเวณที่ตัวเองยืนอยู่และมีเสียงที่เหมือนกับทำของเหลวหกกระจายไปทั่ว หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายข้างซ้ายรู้สึกเบาโหวงแปลกๆ ก็เลยมองไปดูเสี้ยวระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็พบว่าแขนของเขาได้หายไปแล้ว และวัตถุปริศนาที่หล่นลงใกล้ๆกับกรก็คือ แขนของเขาที่ถูกมนุษย์โครงกระดูกฟันด้วยดาบยาวมือเดียวจนขาดสะบั้นนั่นเอง
〝อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
โชคร้ายที่กรดันมีประสาทสัมผัสอันยอดเยี่ยม ความเจ็บปวดเลยถูกเพิ่มเป็นทวีคูณ ในเวลาแบบนี้ความสามารถที่แสนภูมิใจดันกลับมาทำร้ายตัวเองซะได้
แขน!!! ขะ แขน!!!!!!!
โกหก!!! โกหกชัดๆ!!!!
สวบ!!!!!!!
〝อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!〞
และไม่ทันได้หยุดพัก เพราะสติสะตังของกรในตอนนี้นั้นแทบจะกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว นั่นทำให้ก็อบลิบที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดเข้าโจมตีกรได้อย่างง่ายดาย แล้วมีดสั้นของมันก็เสียบเข้าไปที่หน้าอกด้านซ้ายของกรเสียจนมิดด้าม และการโจมตีนั่นก็ทำให้กรเซไปข้างหลังจากการโจมตีของก็อบลินไปทางวงเวทย์ที่เป็นทางตัน จนหลังไปพึงกับกำแพงที่อยู่ในสุด และกำลังเหยียบที่ๆเคยมีวงเวทย์อยู่นั่นเอง
เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!!
เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!!
เจ็บชะมัดยาด!!!! มีดมันเสียบเข้ามาในตัวฉันแล้ว
ไอ้พวกมอนสเตอร์เวรตะไลพวกนี้!!! ฉันไปทำอะไรให้กันวะ!!!
สวบ!!!!!!!
สวบ!!!!!!!
〝อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
พอถูกการโจมตีจนหลังไปกระแทกกับกำแพงได้ไม่นาน ลิซาร์ดแมนอีกสองตัวก็เอาดาบยาวที่มีรูปร่างแปลกๆเสียบเข้ามาที่ท้องน้อยและต้นขาของเขาเสียจนทะลุไปข้างหลังเลยทีเดียว เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนที่แสดงถึงความเจ็บปวดอันมหาศาลที่กรได้รับอย่างต่อเนื่องนั้น ช่างดูน่าเวทนาเสียนี่กระไร
อึ๊ก! กะ โกหกกันใช่ไหม!!!
เกินจะรับได้แล้วเฟ้ย!!!!! ทรมาน!!! เจ็บโว้ย!!!
รู้สึกเหมือนเครื่องในกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ!!! นี่มันบ้าอะไรกัน!!!
บ้าเอ๊ย!!! ที่ขานี่ก็อีก ไอ้บ้าเอ๊ย!!! ขยับไม่ได้ซักนิด เรี่ยวแรงเองก็———
เริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาแล้ว… ตาเองก็เริ่มรู้พร่ามัวแปลกๆยังไงไม่รู้
กลัว... หนาว...
มันอะไรกันนักกันหนาวะ
ขณะที่กรกำลังคิดอยู่นั้น ขาทั้งสองข้างที่อ่อนแรงจากการหลบการโจมตีมาอย่างต่อเนื่องบวกกับโดนการโจมตีอันหนักหน่วงเข้าไปทำให้ร่างของเขาสไลด์ลงมาตามแนวกำแพง จนตอนนี้อยู่ในท่านั่งขาเหยียดจนเกือบตรง เอาหลังพิงกำแพงแล้วมือขวาที่อ่อนแรงก็วางพาดอยู่ข้างลำตัวตามแรงโน้มถ่วง
นี่ฉัน... กำลังจะตายงั้นเหรอ!?
เฮ้ยๆ ไม่ตลกนะแบบนี้.... ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่รึไง
ทำไม... ทำไมชีวิตฉันมันถึงมีแต่เรื่องผิดพลาดกัน...
ความฝันในตอนเด็กก็ทิ้งไปแล้ว
จิตใจที่น่าจะแหลกสลายไปแล้วนั่นก็ได้เจ้าพวกนั้นช่วยไว้แล้วแท้ๆ
อุตส่าห์ได้รู้ว่าพี่สาวอาจจะยังมีชีวิตอยู่แล้วแท้ๆ
คิดว่าจะตอบแทนเจ้าพวกนั้นแท้ๆ
คิดว่าจะคอยให้กำลังใจรินแล้วแท้ๆ
คิดว่าจะช่วยอลิซตามหาศรแล้วแท้ๆ
แล้วนี่มันบ้าอะไรกัน!
ถูกไอ้พระเจ้าบ้านั่นส่งมาต่างโลกแบบไร้เหตุผล!
ถูกพระราชาขอร้องแบบงงๆ!
ถูกให้ไปล่ามอนสเตอร์แบบงงๆ!
ถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยนแบบงงๆ!
ถูกทิ้งแบบงงๆ
แล้วก็… ถูกฆ่าทิ้งแบบงงๆอีกงั้นเหรอ?
ยอมรับไม่ได้!!! ไร้เหตุผลสิ้นดี!!!
ยังไงก็ยอมรับเรื่องไร้สาระแบบนั้นไม่ลง! ยังไงฉันก็ยอมรับเรื่องไร้เหตุผลแบบนั้นไม่ลงหรอก!!!!!
〝ไร้เหตุผลชะมัด ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว...... 〞
ในขณะที่ความคิดมากมายพรั่งพรูออกมาราวกับสายธารไหล กรก็กระซิบแบบนั้นออกเบาๆ ทั้งที่เหนื่อยอ่อนอย่างที่สุดเพราะกำลังจะใกล้ตายเต็มที....
❖❖❖❖❖
———ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย-มุมมองของริน
〝ริน!!! ใช้เวทย์ใส่เจ้าหมีนั่นเลย อีกทีเดียวก็จบแล้ว!!!!〞
〝ค่ะ คุณเจสัน ........เอาหล่ะนะค่ะ【เฟลม บลาสต์เตอร์ 】!!!〞
ในขณะเดียวกันกับที่กรและปาร์ตี้กำลังล่า『หมีเนตรเพลิงป่า』อยู่นั้น ปาร์ตี้ของรินเองก็กำลังล่าหมีตัวที่ว่าอยู่เช่นกัน ปาร์ตี้ของรินมีหัวหน้าเป็นชายสูงอายุราวๆ 50 ปี แต่ทักษะนั้นไม่เรียกว่าชราภาพตามอายุเลยแม้แต่น้อย ในการล่าของรินเองก็สามารถล่าหมีเนตรเพลิงป่าไปได้ 8 ตัว แต่ถึงเทียบกับปาร์ตี้ของกรแล้วจะน้อยกว่าเกือบเท่าตัวก็ตามแต่ก็ยังเป็นจำนวนที่เยอะมากอยู่ดี รวมกับตัวที่กำลังล่าอยู่นี่ก็เป็นตัวที่ 9 พอดี
〝โอ้ว สำเร็จแล้วทุกคน!!! ประสานงานกันได้ยอดเยี่ยมมาก!!!〞
〝〝〝〝ครับ/ค่ะ!!!!〞〞〞〞
หลังจากที่ล้มหมีเนตรเพลิงป่าลงได้เจสันก็กล่าวแสดงความยินดีกับทุกคนอย่างสุภาพสมเป็นผู้อาวุโส แล้วทุกคนก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพและแข็งขันเช่นกัน แล้วหลังจากนั้น ก็มีแสงสว่างสีทองเป็นจุดเล็กๆตรงบริเวณดวงตาของหมีที่ถูกโค่นแล้วจากนั้น....
〝คะ คุณเจสัน นั่นมันอะไรเหรอครับนั่น!〞
〝หืม.....ห๋า!!! นั่นมัน!!!〞
พอมีนักเรียนชายสังเกตเห็นแสงสีทองตรงดวงตานั่น จึงได้บอกกับเจสันไป แต่เขากลับแสดงอาการตกใจปนดีใจออกมา ทำให้ทุกคนแปลกใจกันมาก
〝ละ เหลือเชื่อ!!! นี่มันแรร์ดรอปของหมีเนตรเพลิงป่า『อัญมณีเนตรเพลิงป่า』นี่นา!!!〞
〝〝โอ้ว!!!!!!!!〞〞
ที่หล่นออกมาจากดวงตาของหมีนั่นก็คือ『อัญมณีเนตรเพลิงป่า』นั่นเอง มันเป็นอัญมณีสีแดงเพลิงไร้รูปร่างที่ยังไม่ได้รับการเจียระไน แต่ก็ยังส่องประกายอย่างงดงาม และพอได้ยินแบบนั้นทุกคนก็เลยทำแววตาเป็นประกาย เพราะตั้งแต่ล่ามายังไม่มีไอเทมดรอปเลยซักครั้ง แต่พอดรอปออกมาครั้งแรกมันดันเป็นไอเทมแรร์ซะด้วย นั่นทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันมาก จากคำอธิบายของเจสันบอกว่าปกติแล้วอัญมณีเนตรเพลิงป่านั้นแม้แต่หมีเนตรเพลิงที่พบในดันเจี้ยนที่มีโอกาสดรอปมากกว่าเองยังแทบไม่มีโอกาสดรอปออกมาเลย แต่การที่มาเจอมันดรอปอยู่นอกดันเจี้ยนเนี่ยต้องเรียกว่ามีโชคสุดๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาแปลกใจมากนั่นเอง
〝อืม.... ว่าแต่พอมันเป็นแบบนี้แล้วจะให้ใครเก็บไว้ดีหล่ะครับ!〞
นักเรียนชายคนเดิมในตอนแรกได้ถามออกมาอีกครั้ง แต่ก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นขัดจังหวะเจสันที่กำลังจะพูดอยู่นั่น
〝นี่ๆ ทำไม ไม่ให้รินเก็บไว้หล่ะ!!!!?〞
〝นะ เนย!?〞
เด็กผู้หญิงที่พูดขัดคอเจสันอยู่นี้ ชื่อ『เนย』 เป็นเด็กผู้หญิงที่มีส่วนสูงพอๆกับริน มีผมสีดำสลวยไว้ทรงทวินเทลแต่จุดที่ผูกนั้นอยู่ต่ำจนถึงบ่าเลยทีเดียว จากที่ดูภายนอกคงเป็นมีนิสัยร่าเริง พอผูกทวินเทลเข้าไปด้วยเลยทำให้เธอดูเด่นมากเลยทีเดียว เธอคนนี้รู้จักกับรินตอนเรียนชั้น ม.1 แม้จะไม่สนิทเท่ากับเพื่อนสมัยเด็กเช่นพวกกร แต่ก็เป็นคนที่สนิทด้วยที่สุดรองจากอลิซเลยทีเดียว
〝นั่นสินะ.... ตามปกติเวลามีไอเทมดรอปออกมา คนที่จะได้ไป คือ คนทำลาสแอทแท็คซะด้วย.... งั้นก็เอาตามนั้นแหละ.....ทุกคนไม่มีปัญหาอะไรนะ!!! 〞
〝〝ครับผม/ค่ะ!!!! 〞〞
ทั้งสองคนที่เหลือยังคงตอบอย่างขยันขันแข็งโดยที่ไม่มีท่าทางกังขาการตัดสินใจของเจสัน
〝ดะ เดี๋ยวก่อนสิ แบบนั้นมันจะดีเหรอทุกคน!!!〞
〝อืม ดีสิ!!! นี่เป็นมารยาทปกติในเวลาของตกเลยนะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก!!〞
〝งะ งั้นเหรอ!?〞
เด็กหนุ่มอีกคนก็พูดอธิบายโดยใช้หลักการเดียวกับในเกมออนไลน์ให้รินฟัง เพราะรินคิดว่าการทำแบบนี้มันเหมือนกับเอาเปรียบทุกคนที่ร่วมกันล้มหมีนั่นจึงได้เกรงใจทุกคน ถึงแม้ตัวเองจะอยากได้นิดๆก็เถอะ แต่พอทุกคนบอกว่าไม่เป็นไรเธอถึงทำสีหน้าโล่งอก
〝จะ จะว่าไป คุณเจสันคะ เจ้านี่มันเอาไว้ทำอะไรงั้นเหรอคะ!!!〞
〝หืม!!! อ๋อ…พวกอัญมณีส่วนใหญ่ก็เอาไปทำเป็นเครื่องประดับไม่ใช่เหรอ?〞
〝เครื่องประดับงั้นเหรอคะ?〞
เอ... เป็นเครื่องประดับงั้นเหรอเนี่ย ถ้างั้นเอาไปทำเป็นสร้อยคอดีไหมนะ....
จริงสิ... พอไปถึงเมืองก็ให้ช่างทำให้เลยดีกว่า
แต่ฉันก็ใส่สร้อยอยู่แล้ว ฮึๆ งั้นเอาไปให้กรดีกว่า———
พอถามและได้คำตอบแบบนั้น เธอจึงได้คิดต่อไปอีกอย่างร่าเริง แต่แล้ว...
〝ว๊าย!!!! เนย! ทำอะไรกันเนี่ย!〞
〝อุ๊ยตาย! ปฏิกิริยาน่ารักจังเลยนะ ว่าแต่จะไอ้นั่นเอาไปทำอะไรงั้น?〞
แล้วเนยที่เป็นคนเสนอให้รินได้อัญมณีไปก็เข้ามากอดรินจากด้านหลัง เพราะมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อยพอโดนแบบนี้เข้าอย่างกะทันหัน เลยทำให้รินตกใจ
〝อืม... ถ้าเอาไปทำสร้อยคอก็คงจะดีหล่ะนะ แล้วก็คิดว่า...〞
〝หุ หุ หุ… รึว่าคิดจะเอาไปให้เค้าคนนั้นงั้นเหรอ?〞
〝!!!!!!!!!!?〞
ระ รู้ได้ยังไงกันเนี่ย
〝พะ พูดเรื่องอะไรกันหน่ะเนย... ก็กรหน่ะ〞
〝อ้าวๆ! ฉันยังไม่ได้พูดชื่อเค้าเลยนะ〞
〝เอ๋ๆๆ!!! หวาๆๆ!!!〞
พอเนยแกล้งถามรินด้วยสายตาและรอยยิ้มขี้เล่น ก็ทำให้รินเขินจนหน้าแดงไปถึงหูเลยทีเดียว นั่นก็เพราะที่เนยพูดนั้นเป็นความจริงนั่นเอง ใช่แล้วคนที่รินชอบอยู่ก็คือกรนั่นแหละ แน่นอนว่าในฐานะผู้ชายคนนึง ในสมัยเด็กนั้นกรเป็นเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในกลุ่มนั่นก็เพราะเขามีความเป็นผู้นำและมีนิสัยทำตัวเด่น ชอบหาเรื่องสนุกๆมาให้ทุกคนทำอยู่เสมอ นั่นทำให้อีกทั้ง 3 คนเองก็แอบชื่นชมและปลาบปลื้มอยู่ในใจเช่นเดียวกับริน รินเองนั้นเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างขี้อายเลยไม่ค่อยกล้าเล่นกับผู้ชาย กรที่เป็นเพื่อนข้างบ้านจึงเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาชวนคุยและพาเธอเข้ากลุ่มไปเล่นด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มสนใจในตัวกร หลังเวลาผ่านไปเป็น 10 ปีความรู้สึกดีๆของเธอที่มีต่อกรก็พอกพูนขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นความรักในที่สุด
ที่ทำให้เธอรู้สึกตัวก็คงเป็นตอนที่กรสูญเสียพ่อและแม่จากอุบัติเหตุตอน ม.2 อย่างกะทันหัน หลังจากงานศพจบลง กรก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ไม่ไปโรงเรียนและตีตัวออกห่างจากทุกๆคน ในตอนแรกๆที่ทุกคนพยายามพาเขาออกมาจากห้องก็ได้ยินแต่คำพูดขับไสไล่ส่งออกมาด้วยสีหน้าและเสียงที่เย็นชาในทำนองว่า〝นี่มันชีวิตของฉัน... ฉันจะใช้ยังไงมันก็เรื่องของฉัน ....พวกเธอหน่ะครอบครัวก็ไม่ใช่ แล้วจะมายุ่งทำไมไม่ทราบ….〞คำพูดที่เสียดแทงใจนั่นทำให้รินถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะความเจ็บปวดเลยทีเดียว สาเหตุนั้นก็เพราะคำพูดของกรมันสื่อได้ว่า【พวกนายไม่ใช่เพื่อนฉันอีกต่อไป อย่ามายุ่งกับฉัน.....】 พอเธอคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะจบแค่นี้ ก็ทำให้เธอเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจเลยทีเดียว นั่นคงเป็นตอนที่รินรู้สึกได้ว่าความห่วงหานั่นเกิดจากความรักนั่นเอง
แต่แน่นอนว่าทุกคนไม่มีใครยอมแพ้ ทุกๆวันทุกคนจะบุกเข้ามาในบ้านของกรแล้วก็บังคับลากตัวกรออกมาเที่ยวเล่นจนเขาเริ่มจะเปิดใจกลับมาหาทุกคนเหมือนเดิมได้ในที่สุด แต่หลังจากนั้นรินก็ยังคงทำตัวตามปกติต่อหน้ากรเสมอ เพราะเธอรู้ว่ากรไม่มีทางมองพวกเราไม่ว่าจะเป็นเธอหรืออลิซที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญเป็นเป้าหมายของความรักได้ นั่นทำให้เธอทำได้แค่รักเขาข้างเดียวมาตลอดตั้งแต่สมัยเด็กจนกระทั่งตอนนี้นั่นเอง
〝อะไรกันเนี่ย!!! ฉันนึกว่าเธอจะเป็นพวกเงียบๆซะอีก ที่จริงก็รุกเขาอยู่ไม่ใช่รึไง!!!〞
〝นะ เนย! มะ ไม่ใช่นะ!!!〞
〝เธอหลอกฉันไม่ได้หรอกน่า... คิดว่าฉันจะดูไม่ออกรึไงกัน!〞
〝งือ〜 ใจร้ายที่สุดเลยอะเนย〞
〝ฮะฮ่ะฮ่ะ... ใจเย็นน่า ฉันไม่บอกใครหรอก ขืนบอกไปล่ะก็หมอนั่นโดนคนทั้งโรงเรียนฆ่าแหงมๆ〞
ทั้งสองคนก็ยังคงกระซิบกันอย่างร่าเริงตามประสาเด็กหญิงวัยรุ่นทั่วไปที่คุยเรื่องความรัก
〝เอาเถอะนะ! ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี่นะ แต่ก็พยายามเข้าละ! ฉันคนนี้จะเป็นแบ็คอัพให้จนกว่าจะสมหวังเลยนา... เพราะงั้นอย่ายอมแพ้เชียวหล่ะ!!!〞
〝ขะ ขอบคุณนะ เนย!〞
แล้วเธอก็ผละตัวออกจากตัวรินที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่เมื่อครู่ แล้วก็วิ่งไปคุยกับคนอื่นอย่างร่าเริง เพื่อปล่อยให้รินคิดเรื่องของตัวเองตามลำพังบ้าง
ให้ตายสิ.... เนยเนี่ยรู้ไปซะหมดจริงๆนะ...
ฮึๆ แต่ก็จริงนะ เราเองก็คงต้องพยายามให้มากขึ้นซะแล้วสิ.... เอาหล่ะ! ต่อไปคงต้องพยายามทำแต้มบ้างแล้วหล่ะนะ... แต่ตอนนี้ก็คงต้องพยายามเรื่องที่ทำได้ตรงหน้าซะก่อน...
.....ก็สัญญากับกรไว้แล้วนี่นะ ว่าจะกลับบ้านไปด้วยกันกับทุกคน....
แต่รินที่กำลังครุ่นคิดอย่างร่าเริงอยู่นั้นก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลย ว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนี้ เธอจะต้องได้รับรู้ถึงความเป็นจริงอันแสนจะโหดร้ายจนแทบจะทำให้จิตใจของเธอแหลกสลายได้ในเวลาต่อมา.....
มืดสนิท.....ไม่รู้สึกหนาวซักนิด..... ไม่รู้สึกว่ามีร่างกายอยู่เลยด้วย....ความกลัวเอง... ก็หายไปแล้ว?ความรู้สึกที่มันอธิบายไม่ถูกนี่มันคืออะไร?หรือว่า ที่นี่จะเป็น.....ไอ้ที่เขาเรียกว่า.......โลกหลังความตายงั้นเหรอ.....ฉัน ตายไปแล้วสินะ.... ตอนนี้กรอยู่ในสภาวะที่ตัวเองไม่เข้าใจ จึงได้มีคำถามมากมายผุดเข้ามาในหัว แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้ผ่านเหตุการณ์อะไรมาก็เข้าใจได้เป็นอย่างแรกเลยว่าตัวเองนั้นได้ตายไปแล้วพอมาคิดดูแล้ว ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำอีกตั้งเยอะเลยนะเนี่ย....แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอีกต่อไปแล้วหล่ะ.....ความรู้สึกอ้างว้างแบบนี้มันก็ดีไปอีกแบบแฮะ...เอาเถอะ..... หายไปอย่างเงียบๆแบบไม่ต้องคิดอะไร ก็ดีเหมือนกันหล่ะนะ....เพราะเดิมทีตัวฉันก็ไม่มีตัวตนหรืออะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้คนอื่นจดจำอยู่แล้ว... เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้เท่านั้นเองเพราะงั้นถึงหายไปซะ... ก็ไม่เป็นไรหรอก......【คิดแบบนั้นจริงๆอย่างงั้นเหรอ?】!!!!!!!!!!!!!!!! หลังจากที่กรคิดแบบนั้นพลางกำลังปล่อยให้สติหลุดลอยออกไป ราบกับจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไม่สนอะไรอีกแล้วนั้น จู่ๆก็มีเสียงของเด็กผู้ชายด
.......นี่มันอะไรกันเนี่ย?อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนกับว่าสติลอยหายไป... แล้วตอนนี้จู่ๆมันก็กลับมาซะอย่างงั้นแล้วเมื่อกี้ก็รู้สึกเหมือนกับว่า จะมีตาลุงสวมชุดเสื้อคลุมโทรมๆที่มีหมวกคลุมหน้า กำลังจะพายเรือมารับข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งด้วยกันหรือยังไงนี่แหล่ะ... เป็นฝันที่แปลกชะมัด อยากรู้จริงๆแฮะว่าถ้าฝันต่อไปลุงนั่นจะพาไปไหน?เอ....แต่ว่าจากความทรงจำล่าสุดเนี่ยรู้สึกว่าเราจะล้มมอนสเตอร์ทั้งหมดได้สินะ...แต่ว่าพอล้มเจ้าพวกนั้นได้ เราก็ล้มลงไป... แล้วก็เพิ่งมารู้สึกตัวเอาป่านนี้รึว่า... เราคงแค่สลบไปละมั้ง …..หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะอืม ถ้างั้นก็.... กรที่กลับมาได้สติหลังจากฟื้นขึ้นมาจากความตายกำลังพินิจพิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันอยู่ แน่นอนว่าเขาไม่ได้คิดว่าตัวเองตายไปแล้วด้วยซ้ำ แล้วพอคิดว่าตัวเองสลบไปทั้งแบบนั้น เขาจึงได้ลืมตาขึ้นมาในทันที.....〝อึก! แสบตาชะมัดยาดเลย!〞 เพราะลืมตาขึ้นมาทันทีหลังจากที่ไม่ได้รับแสงมานาน ทำให้ดวงตาที่ยังไม่ได้ปรับแสง แสบตาขึ้นมา แต่จากนั้นไม่นานเมื่อปรับแสงได้แล้วสิ่งที่กรกำลังเห็นอยู่นั้นก็คือเพดานของดันเจี้ยนที่มีส่วนประกอบเป็นดินหรือหินที
อืม...............รายละเอียดข้อมูลจำเพาะ / คลังข้อมูลความทรงจำ / ตั้งค่าสเตตัส / ตั้งค่าปาร์ตี้ / ตั้งค่าสมาชิกปาร์ตี้ / อ็อปเจ็คโดยรอบ / บุคคลโดยรอบ / แผนที่ดันเจี้ยน / แผนที่โลก / เรดาร์ตรวจจับสิ่งมีชีวิต / เรดาร์ตรวจจับสิ่งไม่มีชีวิต / คลังสูตรวัสดุและแร่ธาตุ / คลังสูตรอาหาร / คลังตำราอาวุธ / คลังตำราเครื่องป้องกัน / คลังตำราเครื่องประดับ..... ในดันเจี้ยนที่ปิดตายจากโลกภายนอก ไม่ว่าจะมองไปทางซ้ายหรือทางขวา หน้า หลัง บนหรือล่างก็เป็นอิฐ หินและดินเต็มไปหมด แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทั้งยังเพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตาย ไม่สิ.....ฟื้นขึ้นมาจากความตายมาหมาดๆ แต่กรก็ยังคงไล่ดู『หน้าต่างตั้งค่า』จำนวนมากที่ลอยอยู่ในระดับสายตา รอบตัวเขาอยู่จำนวนกว่า 20 แผ่นอย่างใจเย็น แม้ก่อนหน้าจะตกใจกับหน้าต่างจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นกะทันหันตรงหน้าก็ตาม แสดงให้เห็นเลยว่าจิตใจของกรนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากพอสมควร.....ตั้งค่าค่าประสบการณ์ / ตั้งค่าอัตราการดรอปไอเทม / ตั้งค่าอาชีพ / คลังอาชีพ / ตั้งค่าสกิล / คลังสกิล / นูเมรัลดิสเพลย์ / ตั้งค่าหน้าต่างตั้งค่า......มีทั้งหมด 24 แผ่น
ก๊าซ!!!!!!!!!!〝ไอ้หยา! ดูเหมือนจะเห็นเราเข้าแล้วแฮะ〞 แม้ในตอนนี้กรจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองอย่างเห็นได้ชัดจากการที่กำลังโดนมอนสเตอร์ทั้ง 7 ตัวที่มีสเตตัสสุดโหดเพ่งเล็ง แต่ทั้งคำพูดและการกระทำที่ยังดูไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่น้อยนั่นของกร แสดงให้เห็นว่าเขานั้นยังสามารถคงความเยือกเย็นไว้ได้อยู่ แต่ก็ดูเหมือนหยิ่งยโสและประมาทไปเช่นเดียวกัน〝หะหะห่ะ!!!! มันต้องแบบนี้สิ! ค่อยน่าสนุกขึ้นมาหน่อย!!!〞ก๊าซซซซซซซซ!!!!!!!!!!ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! 〝!!!!!!!!?〞 ราวกับตอบสนองต่อคำพูดของกร กลุ่มมอนสเตอร์ทั้ง 7 ที่ได้ยินเสียงตะโกนนั่นก็วิ่งกรูเข้ามาหากรอย่างรวดเร็ว แต่ว่าพอเข้ามาจนห่างจากที่กรยืนอยู่ราวๆ 7-8 เมตร มันก็หยุดนิ่ง ขณะที่กรคิดว่ามันกำลังจะทำอะไรกัน? อยู่นั้น ก็มีลิซาร์ดแมน 2 ตัว ถือสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายคฑา ถอยร่นไปข้างหลังราวสองถึงสามก้าว แล้วจากนั้น...ก็อบลิน 2 ตัวและลิซาร์ดแมน 3 ตัวก็ออกวิ่งมายังที่ที่กรยืนอยู่ โดยมีก็อบลินทั้งสองวิ่งนำหน้ามาคู่กันแล้วตามด้วยลิซาร์ดแมนทั้งสามที่วิ่งเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดานอยู่ข้างหลังก็อบลินมาพร้อมกัน การจัดขบวนรบอย่างร
〖 มีแค่แกคนเดียวงั้นเรอะ ไอ้หนู!!! 〗〝พะ พูดได้ด้วยเหรอ!!!!〞ตัวฉัน.... อุษณกร วัชรวิรุฬห์ไอ้หนุ่มที่มีหน้าตาสุดแสนจะธรรมดา แถมเป็นโอตาคุขั้นโคม่า แล้วยังบ้าหนังสงครามหน่อยๆ....ตอนนี้กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่เคยได้ยินมาว่า เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีกหรือโรมันที่เรียกว่า สุนัขเฝ้านรก.... 『เคลเบรอส』อยู่ ด้วยอาการตกตะลึงกึ่งสงสัยกับสถานการณ์แปลกๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน! เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์อันตราย กรจึงต้องระวังตัวอย่างที่สุด แต่เพราะเห็นว่าสุนัขหมาป่า 3 หัวขนสีดำขลับ ซึ่งเป็นบอสมอนสเตอร์อันน่าเกรงขาม นั้นยืนอยู่ข้างหน้าของกรกลับพูดคุยด้วยท่าทางที่เป็นมิตรกว่าที่คิด กรเลยคิดที่จะลองหยั่งเชิงมันดู〖นี่ๆ อย่าเมินคำถามของข้าสิ! 〗〝อ่อ.....โทษทีๆ พอดีทางนี้กำลังตกใจอยู่หน่ะ!!!〞〖ตกใจงั้นเหรอ? นั่นก็เป็นปฏิกิริยาปกติเวลามีคนเห็นรูปลักษณ์อันน่าหวาดหวั่นของข้าอยู่แล้วนี่นา!!!?〗〝เปล่าๆ... ที่ทางนี้ตกใจหน่ะเป็นเพราะไม่รู้ว่าแกพูดได้ยังไงอยู่ต่างหากหล่ะ....〞〖....................................〗〖ตกใจเรื่องนั้นเองหรอกเรอะ!!!!!!!!〗〝อึ๊ย!!!!〞ยะ แย่หล่ะสิ
〖หึหึ... ดูเหมือนจะรู้ถึงพลังของข้าแล้วสินะเจ้าหนู〗〝กรอด !!!!!!!!!〞 และในขณะที่กรกำลังตกใจอย่างสุดขีดกับสเตตัสที่แสดงอยู่ตรงหน้า เคลเบรอสก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่ยังสบายๆเช่นเคย แถมน้ำเสียงยังมีอาการดูถูกเล็กน้อยอีกต่างหาก นั่นทำให้กรเริ่มที่จะทนฟังไม่ได้ ทั้งยังโมโหขึ้นมาจนต้องกัดฟันแน่นเลยทีเดียวเวรเอ๊ย!!! แบบนี้ก็หมายความว่าถ้าสร้างความเสียหายในการโจมตีแต่ละครั้งได้ไม่ถึง 12 ล้าน ก็จะโจมตีมันไม่เข้าเลยงั้นเหรอไม่สิ... คิดว่าเดิมทีสเตตัสพลังป้องกันไม่น่าจะคำนวณแบบนั้นนี่นา เพราะไอ้ที่สู้ด้วยในตอนที่อยู่จุดหนีนั่น พลังของฉันมีไม่พอที่จะมะลวงพลังป้องกันแน่ๆ แต่ก็ยังโค่นพวกนั้นได้......กริ๊ง!!! แล้วเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในสติของกร แล้วหน้าต่างนูเมรัลดิสเพลย์ซึ่งเป็นหน้าต่างช่วยคำนวณก็มาปรากฏตรงหน้าของกร พร้อมกับแสดงผลลัพธ์ที่ยิ่งทำให้กรหดหู่ยิ่งกว่าเดิม【คำเตือน! บอสมอนสเตอร์ข้างหน้ามีระดับสูงเกินไป ไม่สามารถหลบหนีได้! ความเป็นไปได้ที่จะหลบหนี คือ 0.000014% ความเป็นไปได้ที่จะชนะในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ตรงหน้านั้น คือ 0.00000047% สามารถถ่วงเ
เวรเอ๊ย!!!......บัดซบ!!!ขยับซักทีสิฟ่ะ! แกเป็นร่างกายของฉันไม่ใช่รึไงกัน!!! เพราะโดนการโจมตีอันแสนหนักหน่วงของเคลเบรอสไปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กรในตอนนี้ไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย ขณะที่เคลเบรอสเดินออกไปทางตรงข้ามเหมือนกับว่าหมดความสนใจในตัวกร กรจึงทำได้แค่หงุดหงิดอยู่ในใจเพียงเท่านั้นขยับ.....ขยับสิโว้ยยย!!!!!!บ้าเอ๊ย!!! แบบนี้มันก็เหมือนกับตอนนั้นเลยไม่ใช่รึไงกัน!!!ทำได้แค่จมอยู่กับความอัปยศของตัวเองอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....ทำได้แค่ทนดูไอ้บ้านั่นมันหยามหน้าอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....ทำได้แค่นอนรอความตายอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....คิดว่าจะยอมรึไงกัน!.....อุตส่าห์ฟื้นขึ้นมาจากความตายนั่นได้แล้วแท้ๆเชียว!หลังจากผ่านเรื่องแบบนั้นมาแล้ว ใครมันจะไปอยากตายกันว่ะ!!!เวรเอ๊ย!!ขยับซิฟ่ะ!...ขยับซักทีสิโว้ยยย!!!!!! แน่นอนว่ากรยังไม่ยอมแพ้ซักนิดเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายกลับมาทำตามคำสั่งแต่อย่างใด กรจึงทำได้แค่ตะโกนด่าทอตัวเองอยู่ในใจเท่านั้นเอง แต่ในขณะที่กรกำลังตะโกนแบบนั้นในใจอยู่เรื่อยๆนั้น ก็มีเสียงประกาศที่ไม่ทราบเพศดังขึ้นในสติของกร【เงื่อนไขเสร็จ
อืม.........ฉันสลบไปอีกแล้วงั้นเหรอ? หลังจากที่การต่อสู้อันดุเดือดของกรและเคลเบรอสที่ใช้ศักดิ์ศรีและชีวิตเข้าห่ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่งได้จบสิ้นลง กรก็ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอใช้สุดยอดการประมวลผลตรวจสอบดูกลับพบว่าตัวเองที่เพิ่งได้สติ อาจจะกำลังสลบอยู่จนถึงเมื่อครู่ จึงได้สงสัยขึ้นมาแบบนั้นอืม.....ลองนึกย้อนไปก่อนหน้านี้ รู้สึกว่าเราจะใช้『จิตวิญญานเหล็กกล้า』ไปสินะ.....งั้นก็หมายความว่าตัวเรา.....ตายไปอีกแล้วสินะ....ไม่สิ ไม่สิ ตอนนี้ยังรู้สึกถึงร่างกายได้อยู่เสียงเต้นของหัวใจเองก็ยังได้ยินอยู่เลยแล้วมันหมายความว่าไงกันละเนี่ย!ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกสกิลนั่นจะเขียนไว้ว่า หลังจากใช้ไปแล้วจะเสียชีวิตแทบจะทันที ไม่ใช่รึไง? นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย....แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆละก็... ตัวฉันเนี่ยก็สุดยอดสุดๆเลยนะสิ... ฟื้นจากความตายมาได้ถึง 2 ครั้ง แถมยังแทบจะในเวลาไล่เลี่ยกันอีก ไม่สิ....ที่ตายบ่อยเนี่ยก็เพราะอ่อนเองด้วยนั่นแหล่ะนะ น่ากลัวชะมัดเลยแฮะ....ใช่ หมายถึงตัวฉันเองนั่นแหล่ะ...แต่ใช่ว่าผลลัพธ์ออกมาแบบนี้แล้วจะไม่ดีใจหรอกนะ ก็แค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้นเอง....แต่ทั
หลังจากนั้นกรก็จ่ายเงินให้กับพวกพ่อค้าตามปกติ เพราะถึงกรจะโกรธแต่ก็ไม่ใช่พวกไร้จริยธรรมที่จะชักดาบแล้วเผ่น ทว่าพวกพ่อค้ากลับคิดเงินกรเพียงแค่ 5 เหรียญทองเท่านั้นเอง แถมด้วยตอนที่พวกกรกำลังจะออกจากร้านพวกนั้นก็โค้งคำนับให้กรอย่างเกร็งๆกลัวๆอีกต่างหาก กรเองก็แอบสะใจไม่น้อย แต่เพราะไม่อยากให้เรเชลกับริต้ารู้สึกแย่เพราะอยู่ที่นี่นาน กรจึงรีบเดินออกมาจากที่นั่นในทันที แต่ก็ยังไม่รีบออกจากเขตชานเมืองที่ไม่ค่อยมีคนเพราะต้องการที่จะตกลงเรื่องส่วนตัวกันก่อนอืม... ในที่สุดก็ช่วยริต้าได้ก็รู้สึกผิดกับเรเชลอยู่หรอกนะที่ไปยุ่งไม่เข้าเรื่องเอาเป็นว่าช่างหัวมันแล้วกัน...แต่ตอนนี้คงจะยากที่จะให้ทั้งคู่ที่กำลังเหนื่อยเดินทางไปด้วยเรากำลังสืบคดีอยู่นี่นา...แต่ว่า... เจ้าบาทหลวงนั่นเพิ่งจะเข้าไปคุยกับเจ้าชายลำดับสองได้ไม่นานนี้เอง...คงจะต้องใช้เวลาซักหน่อย...ถ้างั้นก็ใช้ช่วงเวลานี้คุยกับเรเชลกับริต้าดีกว่าว่าจะเอายังไง... ในขณะที่คิดแบบนั้นกรก็มองผ่านไหล่ไปยังเรเชลกับริต้าที่อยู่ซะหลังสุด คล้ายกับว่าสาวๆคนอื่นกำลังกันเธอให้ห่างจากกรอยู่ยังไงอย่างงั้นเลย
————มุมมองของเรเชลหลังจากที่คุณกรกลับคาลิโอน่า เราก็กลับไปทำงานนักผจญภัยต่อถึงจะรู้สึกเหงา(มากๆ)ก็ตาม แต่ถ้าไปเกาะแกะยิ่งกว่านี้จะถูกคุณกรเกลียดเอาแบบนั้นไม่เอาเด็ดขาดเลย! อือ... แต่ถึงงั้นก็ยังอยากอยู่กับคุณกรอ่ะถ้าไม่ได้กลิ่นคุณกรหล่ะก็ฉันต้องแย่แน่ๆเลย...จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว...อยากโดนลูบหัวอีก อยากโดนลูบท้องด้วย... งือ... เรเชลที่กำลังเดินกลับจากการทำเควสในเมืองกำลังครวญครางในห้วงความคิดของตัวเอง โดยนึกถึงกรซึ่งเป็นชายที่เธอหลงรัก(หัวปักหัวปำ)อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เนื้อหาจะแปลกๆก็ตามที หลังจากนั้นเรเชลก็ทำงานหาเงินมาตลอด พอรู้ตัวอีกทีก็มีเงินสะสมมากพอที่จะไถ่ตัวน้องคืนได้แล้ว ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณเรื่องที่เธอเป็นคนรู้จักเก็บออม และไม่ใช้สุรุ่ยสุร่ายนั่นแหล่ะ ที่นอนของเธอก็คือในป่า ที่อาบน้ำคือแม่น้ำที่ห่างออกไปจากตัวเมืองไปเล็กน้อย อาหารกินวันละมื้อแถมส่วนใหญ่ยังเป็นการล่าหากินเองในป่าอีกต่างหาก ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างมากที่สุดก็คือคฑาที่ใช้สำหรับทำภารกิจเท่านั้นเอง เป็นเวลากว่า 1 ปีที่เธอใช้ชีวิตแบบนั้น แต่เงินที่เธอเก็บได้ก็ยังมีไม่พอที่จะไถ่ตัว
หลังจากกลับไปหาไมน์และรีเบคก้าที่ห้องของพวกเธอ กรได้อ้างว่าทันทีที่ไปถึงก็พบว่าเจนนี่เสียชีวิตอยู่ก่อนแล้ว เพราะรู้สึกว่าหากบอกความจริงไปตอนนี้มันคงหนักหนาเกินไปสำหรับพวกเธอ กรเลยคิดที่จะบอกเรื่องนี้กับพวกเธอทีหลัง แต่ถึงแบบนั้นตอนที่ไมน์ได้ยินครั้งแรกก็ถึงกับช็อคจนหมดสติไปเลย แล้ววันรุ่งขึ้นเหล่าทหารประจำเมืองก็เริ่มเคลื่อนย้ายศพออกจากดันเจี้ยนไปยังที่เก็บศพของกองทหาร และแน่นอนว่าพวกกรและไมน์ที่เป็นคนรู้จักของเจนนี่เองก็ถูกเรียกตัวมายืนยันศพและสอบถามข้อมูลด้วย… ชาลอต ซาช่าและลิลิธรออยู่ด้านนอกห้องสอบสวน เพราะงั้นตอนนี้คนที่อยู่ในห้องคือกร มีอา เมอร์ลิน ไมน์ที่ยังอยู่ในสภาพอิดโรยและอ่อนล้า กับรีเบคก้า 5 คน โดยมีทหารที่ทำหน้าที่สอบข้อมูล 2 คนนั่งอยู่ตรงข้าม〝 งั้นก่อนอื่น... เธอคือคนที่จัดการพวกโจรสินะ 〞หนึ่งในทหารถามกรออกมาในขณะที่ตัวกรนั่งกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ด้านหน้า เพราะถูกเรียกออกมาอย่างกะทันหัน〝 อืม ฉันนี่แหล่ะ... 〞ทหารทั้งสองกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินคำตอบแบบไม่ใส่ใจนักของกร เพราะข่าวลือที่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือแบล็ครุคกี้สุดโด่งดังนั่นก็มาถึงหู
หลังจากที่ได้ยินว่าเจนนี่ถูกลักพาตัว กรก็พาทั้งสองคนเข้ามาสงบสติในห้องเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนแขกท่านอื่น〝 ช่วยบอกรายละเอียดมาที? 〞หลังจากที่จับไมน์กับรีเบคก้านั่งเก้าอี้ กรที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ถามออกมาโดยที่ทำใจและท่าทางให้นิ่งสงบไว้อยู่〝 คือว่าก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง เจนนี่เค้าบอกจะออกไปซื้อของแปปนึงหน่ะค่ะ แต่ไม่เห็นกลับมาซักที... 〞ไมน์พูดออกมาด้วยท่าทีกระหืดกระหอบ รีเบคก้าเลยรับช่วงต่อพร้อมกับหยิบกระดาษแผ่นนึงออกมาด้วย〝 แล้วตอนที่กำลังจะออกไปตามหา ก็เจอเจ้านี่วางอยู่หน้าห้องพักหน่ะค่ะ 〞รีเบคก้าพูดจบก็ยื่นมันให้กับกร พร้อมกับสาวๆที่อยู่ด้านหลังกรได้ขยับเข้ามาใกล้เพื่อดูมันด้วย แล้วกรก็เริ่มอ่านข้อความนั้นในใจ....เพื่อนของพวกเธออยู่กับพวกเราถ้าไม่อยากให้ยัยนี่เป็นอะไรหล่ะก็ เข้ามาใน『ถ้ำหินออบซิเดียน』แค่สองคนซะ…เนื้อหาประมาณนี้แหล่ะ แถมอีกฝ่ายไม่ได้เรียกร้องอะไรเลยด้วย ไม่น่าจะใช่การเรียกค่าไถ่...บอกตรงๆนะ... นี่มันกับดักชัดเลยๆกะล่อทั้งสองคนเข้าไปหาเฉยๆเลยนี่หว่า เป้าหมายคงเป็นทั้งสามคนนั่นแหล่ะหรือว่า... คนร้ายเป็นพวกเดียวกับที่จัดการคุณแมซอืม... เป็นไปไ
หลังจากที่กรหลับหรือสลบไป เวลาก็ผ่านไปเกือบ 21 ชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลา 11 นาฬิกาของอีกวัน... กรลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ราวกับเครื่องจักรที่กำลังวอร์มอัพเครื่อง ทันทีที่กรตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าด้านขวาของเขามีมีอากำลังนอนอยู่ข้างๆและกำลังบีบเสื้อของกรไว้แน่น ส่วนด้านซ้ายไม่มีเมอร์ลินทั้งที่ปกติเป็นที่ของเธอ กลับกันแล้ว... ข้างๆเตียงมีชาลอตและซาช่านั่งกับพื้น โดยใช้พื้นที่ว่างของเมอร์ลินนั้นเป็นที่ฟุบอยู่ ส่วนลิลิธ เธอกำลังนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ใกล้กับพวกชาลอต เห็นได้ชัดเลยว่าทั้งสี่คนอยู่ดูอาการกรมาตลอดตั้งแต่ที่กรหลับไปอย่างกะทันหันนั่น แล้วที่หลับไปนี่คงจะเพิ่งไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเองกระมั้ง ลิลิธที่นั่งผงกหัวอยู่แบบนั้นเป็นหลักฐานได้อย่างดี... ในขณะที่กรคิดแบบนั้น มีอาก็เริ่มตื่นขึ้นจากนิทรา〝 กร... กร!!! 〞มีอาที่กำลังสลึมสลือ พอเห็นว่ากรได้สติจนถึงขั้นชันตัวเองขึ้นมานั่งเองได้แล้ว ก็โผเข้าไปกอดรัดคอของกรอย่างแนบแน่นในทันที〝 ฮึก! ฉัน... ฉันนึกว่านายจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วซะอีก 〞มีอาพูดแบบนั้นโดยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาในอ้อมอกของก
หลังจากที่กรตื่นนอนพร้อมกับพวกสาวๆ กรพยายามวางตัวและทำกิจวัตรตามปกติเหมือนที่เคยเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเธอ ชาลอตและซาช่ายังไม่ได้สังเกตกร... คงมีเพียงมีอากับเมอร์ลินที่รู้จักกรมานานที่สุด และลิลิธที่เห็นพลังเวทย์ในตัวกรเปลี่ยนไปเท่านั้นกระมั้งที่สังเกตเห็น❖❖❖❖❖ หลังจากนั้นพวกกรที่เตรียมตัวพร้อมเก็บข้าวของเสร็จแล้ว ก็ลงไปเช็คเอาท์ที่ล็อบบี้โรงแรม〝 ฮ้าว... พี่ชาย อรุณสวัสดิ์ค่า 〞พีน่าที่กำลังจัดการสมุดบัญชีโรงแรมอยู่ ฮาวหวอดใหญ่ ทำให้กรยิ้มเจื่อนๆออกมา〝 เป็นสาวเป็นแซ่หน่ะนอนให้ตรงเวลาด้วยสิ... เอ้านี่กุญแจห้อง 〞〝 โถ่รู้แล้วหล่ะค่า... ก็ป๊ะป๋าไม่อยู่ช่วยงานเลยนี่นา 〞พีน่ารับกุญแจมาแล้วก็ลงข้อมูลปลีกย่อยในสมุดบัญชีด้วยท่าทีเหนื่อยๆก็แน่หล่ะ พ่อเธอเขาไปสืบคดีอยู่นี่นาแต่ดูท่าเรื่องนี้คาลอสจะไม่ได้เล่าให้ฟัง... ก็แน่หล่ะ ใครจะอยากดึงลูกตัวเองมาเกี่ยวด้วยกันหล่ะ〝 อ้อ! แล้วก็พี่ชาย... พอไปถึงโรงแรมสาขาคาลิโอน่า ถ้าออกตอนนี้คิดว่าคงไปถึงประมาณเที่ยงหล่ะนะ... พอถึงแล้วก็ไปบอกชื่อกับพนักงานได้เลย หนูจะเตรียมห้องแบบเดียวกันไว้ให้ที่นั่นนะคะ 〞〝 หืม? บอกเหรอ? เมือง
〝 แก... ยังไม่หายไปอีกเหรอ? 〞 กรที่แม้จะยังสับสน แต่ก็ถามตัวเขาเองอีกคนซึ่งยืนอยู่ตรงข้ามออกไปในทันที ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันทั้งน้ำตานั้นของกร ตัวกรสีขาวดำก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะตอบกร〝 น่าเสียดายนะ ฉันเป็นคนละคนกับตอนทศกัณฑ์ 〞〝 .....แกเป็นใคร .....ต้องการอะไร 〞เมื่อไม่ได้คำตอบ กรจึงยังคงถามต่อ นั่นทำให้ตัวกรอีกคนหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพูด〝 นั่นสินะ ก่อนอื่นเรียกฉันว่า『ความมืด』ก็แล้วกัน... ส่วนที่เหลือถึงอยากจะบอกแต่ก็บอกไม่ได้ซะด้วย เอางี้แล้วกัน! ถ้าเล่นด้วยกันอีกซักหน่อย ฉันจะใบ้ให้บ้างก็แล้วกัน... 〞〝 เล่น? 〞 กรถามย้ำเพราะไม่เข้าใจ นั่นทำให้ตัวกรอีกคน... ความมืดยิ้มออกมาอย่างน่ารังเกียจ และนั่นเองที่ทำให้กรเข้าใจ ว่าไอ้ความมืดนี่... ต้องการ『เล่น』ด้วยการส่งเขาลงสู่ลูปนรกนั่นอีกครั้งนั่นเอง เมื่อคิดได้เช่นนั้น กรก็รู้สึกเย็นวูบขึ้นที่หลังในทันที... แต่ก็ยังพยายามทำใจเย็นแล้วก็เช็ดน้ำตาออก ก่อนจะพูดต่อ〝 โทษทีหว่ะ... ฉันไม่ติดกับมุกเดิมเป็นหนที่สองหรอก... ในเมื่อรู้วิธีการแล้วกมันก
*คำเตือน ภายในตอนมีฉากกระทบกระเทือนอารมณ์บุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปีหรืออารมณ์และจิตใจอ่อนไหวง่าย ไม่ควรอ่านครับ❖❖❖❖❖〝 ขอนอนต่ออีกซักนิดเถอะนะ… 〞ฉันพูดแบบนั้นแล้วก็กลับไปนอนขดตัวอีกครั้งส่วนชาลอต… เมดประจำตัวของฉัน พอเห็นท่าทีไม่สนใจของฉันก็ทำแก้มป่องออกมาแหม่ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจซักหน่อย แต่ขออีกแค่ 5 นาทีก็ยังดีน่า อย่างอนไปเลยนะคนดี...〝 นาย! ท่าน! ค่ะ! 〞ชาลอตตะโกนแบบนั้นออกมาก่อนจะเดินเข้าไปทางกรและดึงผ้าห่มออก〝 วุ้ย! ใจร้ายชะมัดเลยอ่ะชาลอต 〞กรพูดสวนขึ้นมา พร้อมกับลุกจากเตียงมายืนกอดตัวเองโดยที่แกล้งตัวสั่นจากความหนาวไปด้วย〝 ขอทีเถอะค่ะนายท่าน! ที่ฉันทำก็เพื่อนายท่านนะคะ 〞〝 แต่จู่ๆ มาดึงผ้าห่มออกไปมันก็หนาวนะครับผม 〞กรพูดแบบนั้นทั้งที่ยังเดินเนื้อตัวสั่นๆ แล้วก็ไปปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่ลงเสีย แต่ชาลอตที่อยู่ใกล้ๆก็กลับถอยหายใจออกมาอีกครั้งเสียอย่างงั้น〝 พูดเป็นเล่นนะคะ... นายท่านสวมอาภรณ์เวทย์ตอนนอนอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ? แล้วจะไปหนาวได้ยังไงกันคะ 〞อา... ยัยชาลอต ทำลายข้ออ้างในการนอนของฉันไปอีกแล้วไหมหล่ะแหม แต่ก็อย่างว่าหล่ะนะ... เพราะเห็นอย่างงี้ แต่ตอนที่อยู่โรงเร
〝 มาสาย! 〞 พอกรมาถึงห้องพักก็เป็นเวลา 4 โมงครึ่ง... เมอร์ลินที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนขอบเตียงจึงได้กอดอกและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด นั่นเพราะเวลานัดจริงๆคือ 30 นาทีที่แล้วนั่นเอง... กรและมีอาที่รู้ว่าตัวเองมาสายจึงรีบขอโทษทันที〝 ขะ ขอโทษทีเมอร์ลิน 〞〝 ขอโทษนะเมอร์ลิน! 〞 กรที่พูดอย่างเหนื่อยหอบ และมีอาที่ขอโทษพลางโค้งตัว... เมื่อเห็นภาพแบบนั้นเมอร์ลินที่ยังคงขมวดคิ้วกอดอกอยู่ก็เริ่มใจเย็นลง และถอนหายใจออกมาราวกับเปลี่ยนอารมณ์ พร้อมๆกับสายตาแบบแปลกๆของชาลอต ซาช่าและลิลิตที่มองมาทางพวกกร... และในขณะที่กรกำลังคิดว่าเมอร์ลินและสาวๆทุกคนโกรธเพราะกรมาสาย เมอร์ลินก็เริ่มเกริ่นขึ้นมา นั่นจึงทำให้กรตระหนักได้ว่าพวกเธอไม่ได้โมโหกรเรื่องนั้น...〝 รู้อะไรไหม... ระบบปาร์ตี้หน่ะ มันทำให้รู้ตำแหน่งของทุกคนในปาร์ตี้ด้วยนะ... เหมือนกับเรดาร์นั่นแหล่ะ? 〞〝 เอ๋? 〞กรและมีอาเบิกตาขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อได้ยินเมอร์ลินพูดแบบนั้นออกมา... ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างเก้อเขินด้วยเรื่องที่ร่วมกันมาเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว... แล้วพอคิดตามที่เมอร์ลินบอก กรและมีอาก