หน้าหลัก / แฟนตาซี / ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย / ตอนที่ 14 : การต่อสู้อันแสนดุเดือดและผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย

แชร์

ตอนที่ 14 : การต่อสู้อันแสนดุเดือดและผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย

ผู้เขียน: หัตถ์อนันต์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-09 11:59:59

เวรเอ๊ย!!!......บัดซบ!!!

ขยับซักทีสิฟ่ะ! แกเป็นร่างกายของฉันไม่ใช่รึไงกัน!!!

          เพราะโดนการโจมตีอันแสนหนักหน่วงของเคลเบรอสไปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กรในตอนนี้ไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย ขณะที่เคลเบรอสเดินออกไปทางตรงข้ามเหมือนกับว่าหมดความสนใจในตัวกร กรจึงทำได้แค่หงุดหงิดอยู่ในใจเพียงเท่านั้น

ขยับ.....ขยับสิโว้ยยย!!!!!!

บ้าเอ๊ย!!!  แบบนี้มันก็เหมือนกับตอนนั้นเลยไม่ใช่รึไงกัน!!!

ทำได้แค่จมอยู่กับความอัปยศของตัวเองอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....

ทำได้แค่ทนดูไอ้บ้านั่นมันหยามหน้าอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....

ทำได้แค่นอนรอความตายอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....

คิดว่าจะยอมรึไงกัน!.....อุตส่าห์ฟื้นขึ้นมาจากความตายนั่นได้แล้วแท้ๆเชียว!

หลังจากผ่านเรื่องแบบนั้นมาแล้ว ใครมันจะไปอยากตายกันว่ะ!!!

เวรเอ๊ย!!

ขยับซิฟ่ะ!...ขยับซักทีสิโว้ยยย!!!!!!

          แน่นอนว่ากรยังไม่ยอมแพ้ซักนิดเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายกลับมาทำตามคำสั่งแต่อย่างใด กรจึงทำได้แค่ตะโกนด่าทอตัวเองอยู่ในใจเท่านั้นเอง แต่ในขณะที่กรกำลังตะโกนแบบนั้นในใจอยู่เรื่อยๆนั้น ก็มีเสียงประกาศที่ไม่ทราบเพศดังขึ้นในสติของกร

【เงื่อนไขเสร็จสมบูรณ์ เตรียมพร้อมใช้งาน『จิตวิญญานเหล็กกล้า』!!!】

!!!!!!!!!!!!!!?

จิตวิญญาณเหล็กกล้างั้นเหรอ......ไอ้ฉายาที่ไม่แสดงข้อมูลนั่นสินะ

ทำไมถึงมาทำงานเอาตอนนี้กัน....

【คำเตือน!!! สกิลนี้จะทำงานก็ต่อเมื่อพลังชีวิตของผู้ครอบครองกำลังจะหมดลงและต้องได้รับการยินยอมจากผู้ใช้เท่านั้น.......จะยอมรับรึไม่!!!】

พลังชีวิตเหรอ....ความตายงั้นเหรอ  ใครสนเรื่องพรรค์นั้นกัน...

ฉันแค่อยากจะตั้นหน้าไอ้หมาบ้านั่นเท่านั้น...

จะอะไรก็ช่างเถอะน่า!!!!  สกิลที่ฉันมีอยู่ตอนนี้ทำอะไรไอ้บ้านั่นไม่ได้ซักหน่อย!!!

ถ้านี่มันเป็นทางเลือกสุดท้าย....

ถ้านี่คือความหวังที่ยังเหลืออยู่ละก็  ฉันก็จะคว้ามันมาอย่างไม่ลังเล

กริ๊ง

          แล้วเสียงที่เหมือนกับกระดิ่งอันไพเราะก็ดังขึ้นในสติของกรอีกครั้ง พร้อมๆกับข้อมูลของฉายา『จิตวิญญานเหล็กกล้า』ที่จนป่านนี้ยังไม่สามารถมองเห็นได้จนถึงเมื่อครู่ให้กรได้เห็น

〘จิตวิญญานเหล็กกล้า〙

《 คำอธิบาย : ฉายาของผู้ที่ข้ามพ้นความตายและความสิ้นหวังมาได้แล้วยืนหยัดขึ้นด้วยกำลังของตัวเองเท่านั้น  มีผลทำให้สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้นมหาศาล  รวมถึงความสามารถทางร่างกายพื้นฐานและทักษะในการต่อสู้เองก็เช่นกัน สกิลจะทำงานก็ต่อเมื่อพลังชีวิตของผู้ใช้จะหมดลงแต่ยังมีจิตใจมั่นคงไม่สิ้นหวังอยู่เท่านั้น พร้อมทั้งต้องได้รับการยืนยันจากผู้ใช้ก่อนการทำงาน เนื่องจากผู้ที่ใช้สกิลนี้จะเสียชีวิตทันทีหลังออร่าที่คลุมร่างได้หายไปและการต่อสู้ครั้งล่าสุดได้จบลง     *อนึ่ง ความสามารถจะเพิ่มขึ้นตามเจตจำนงของผู้ใช้ 》

เงื่อนไขยุ่งยากชะมัด!!!  ก็บอกแล้วไงว่าไม่สนเรื่องพรรค์นั้น.....ถึงนอนอยู่นี่ก็ตายอยู่ดีไม่ใช่รึไงกัน....

ถ้าต้องนั่งรอความตายอย่างน่าสมเพชละก็....ขอสู้ตายจนกว่าจิตวิญญาณนี้จะมอดไหม้ไปเลยยังจะสมศักดิ์ศรีซะกว่า!!!

เพราะงั้นละก็….

......เอาพลังมาให้ฉันซะ!!!

【เงื่อนไขเสร็จสมบูรณ์......สกิล『จิตวิญญานเหล็กกล้า』ทำงาน!!!】

แล้วพอกรพูดออกไปแบบนั้นอยู่ในใจ ก็มีเสียงประกาศตอบกลับออกมาในทันที

ซู่ม!!!

แกร็ก!!!

          หลังจากนั้นรอบตัวของกรก็มีออร่าสีทองส่องประกายงดงามโอบล้อมร่างกายของกรไว้ทั่วทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว พอสัมผัสทั้งหมดกลับมากรก็ลองขยับร่างกายดูเล็กน้อย นั่นเลยทำให้เขารู้ว่าร่างกายได้กลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้งแล้ว นอกจากนั้นกรยังสัมผัสพลังที่เอ่อล้นออกมาจากทั่วทั้งร่างได้อย่างมหาศาล ทั้งพละกำลังที่เหนือมนุษย์และพลังเวทย์ที่ราวกับจะเป่าพระเจ้าให้ปลิวได้ก็ด้วย บาดแผลเองก็หายดีขึ้นมาเล็กน้อยแม้จะยังปิดไม่สนิทดีนัก แต่แผลก็แห้งขึ้นพอที่จะไม่รู้สึกรำคาญเวลาต่อสู้แล้ว แถมดูเหมือนสัมผัสทางร่างกายจะดีขึ้นผิดหูผิดตา สุดยอดการประมวลผลเองก็ถูกเสริมขึ้นมาเช่นกัน

【หึหึ....】

           แล้วกรก็หัวเราะในลำคอออกมาด้วยความดีใจเล็กน้อยต่อหน้าพลังที่เอ่อล้นออกมานั่น ราวกับค้นพบแสงสว่างแห่งความหวังจากก้นหลุมนรกอันแสนมืดมิดสุดหยั่งถึงนั่นเลยทีเดียว และเพราะกรขยับตัวเล็กน้อยเมื่อครู่เลยทำให้เคลเบรอสที่รู้สึกตัวถึงกรหันกลับมา เพราะสุดยอดการประมวลผลเองก็พัฒนาขึ้น กรเลยเห็นเคลเบรอสที่กำลังหันกลับมาเป็นภาพซุปเปอร์สโลโมชั่นเลยทีเดียว แน่นอนว่ากรไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอย พอสบโอกาสกรจึงถีบตัวเองออกไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ แล้วพุ่งตัวไปอยู่ในตำแหน่งศีรษะของเคลเบรอสแล้วจัดการประเคนหมัดเข้าไปที่ใบหน้าของตัวซ้ายด้วยหมัดที่หนักที่สุดในชีวิตของตัวเองเข้าไปโดยไม่สนสภาพร่างกายของตัวเองที่เจียนตายเลยแม้แต่น้อย.....

❖❖❖❖❖

〖อึ๊ก!!!!  ไม่เลวนี่นาเจ้าหนู!!!!〗

          เพราะโดนการโจมตีที่หนักหน่วงเข้าไปในเสี้ยววินาทีโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เลยทำให้เคลเบรอสกระอักออกมาเล็กน้อย แต่ก็ฟื้นสภาพด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง นั่นเพราะในเวลาไม่ถึง 5 วินาทีหลังจากถูกกรอัด แผลช้ำบริเวณใบหน้าก็จางหายไปเสียแล้ว  กรที่กำลังเดินเข้ามาทางเคลเบรอสด้วยท่าทางสบายๆเองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก นั่นเพราะคิดว่าหากโจมตีแล้วฟื้นฟูได้ละก็ ก็แค่โจมตีเข้าไปเรื่อยๆจนฟื้นฟูไม่ทันซะก็พอ

〝ความเร็วในการฟื้นตัวเหลือเชื่อจริงๆ!!!〞

〖เจ้าเองก็เหมือนกัน แล้วดูเหมือนสเตตัสทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเยอะเลยนี่นา!!!!〗

〝............................〞

          กรยังคงตอบกลับเคลเบรอสด้วยเสียงโทนเดียวที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แถมพอเคลเบรอสพูดกับกรเป็นเชิงถามออกมาแบบนั้น กรก็ยังไม่ได้ตอบกลับออกไปเพราะไม่มีความจำเป็นอีก นั่นทำให้เคลเบรอสเริ่มเกิดอาการวิตกขึ้นมาเล็กน้อย

〖ยอดเยี่ยม!!! ยอดเยี่ยมมากจริงๆเจ้าหนู  ...ข้าไม่เคยพบเจอนักรบที่วิเศษเช่นเจ้ามาก่อนเลย!!! ตั้งแต่ที่จำความได้ข้าก็เพิ่งได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้ในการโจมตีครั้งเดียวก็ครั้งนี้นี่แหล่ะ....〗

〝เหรอ...ดีใจด้วยละกัน〞

〖เพราะงั้น หากข้าไม่เอาจริง....เห็นทีคงเป็นข้าเองละมั้งที่จะต้องเป็นฝ่ายปราชัยหน่ะ〗

          กรที่ได้ยินคำพูดนั้นก็ระวังตัวขึ้นด้วยสัญชาตญานในทันที แต่ร่างกายก็ไม่ได้เกร็งจนเคลเบรอสสัมผัสได้ นั่นเพราะจนถึงตอนนี้เคลเบรอสแค่บอกว่าจะไม่ออมมือแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่บอกว่าจะเอาจริง กรจึงต้องระมัดระวังกับมรสุมลูกใหญ่ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของบอสมอนสเตอร์อีกครั้ง แล้วพอเคลเบรอสพูดจบหัวทางขวาของมันก็กำลังจะอ้าออกมา ในขณะเดียวกับที่กรกำลังตรวจเช็คสภาพของตัวเองในหน้าต่างตั้งค่าพร้อมกับเดินเข้ามาหาเคลเบรอสอย่างใจเย็นราวกับจะไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อย

จากการตรวจสอบสภาพร่างกายอย่างละเอียด......ตัวเราจะเสียชีวิตในอีก 12 นาที 23.725 วินาที 

เวลาที่ออร่านี้จะคงอยู่นั้น เหลืออีก  10 นาที 47.654 วินาที......

เพราะฉะนั้น....ต้องจัดการให้ได้ก่อนที่ออร่าจะดับลงไป.....

          ความคิดที่ราวกับเครื่องจักรของกรก็ดำเนินต่อไป พร้อมๆกับที่ใช้หน้าต่างรายละเอียดข้อมูลจำเพาะและนูเมรัลดิสเพลย์คำนวณสภาพร่างกายและการต่อสู้ต่อจากนี้ กรจึงได้ตัดสินใจแบบนั้นอย่างเยือกเย็นและไร้ซึ่งอารมณ์ต่างๆเจือปน

〖เอาหล่ะนะเจ้าหนู!!!!  【เพลิงทะ—————】〗

ตู้ม!!!!!

〖!!!!!!!!!!!!!!!!!?〗

          และในขณะที่เคลเบรอสประกาศสกิลอยู่กรก็ใช้เท้าขวาถีบพื้นเสียงดัง แล้วพุ่งเข้าไปหาเคลเบรอสทั้งอย่างงั้นเพื่อขัดจังหวะการร่าย จึงทำให้เคลเบรอสตกใจอย่างมาก เมื่อเข้าประชิดตัวได้สำเร็จกรก็ทำมือเป็นท่าวันทยาหัตถ์นำนิ้วเรียงชิดติดกันเหมือนกับคราวก่อนอีกครั้ง แล้วจัดการฟาดมันลงไปที่กลางลำตัวของเคลเบรอสตรงๆด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

〖ฮึ่ม!!!〗

ฟิ้ว!!!!!

          แต่เคลเบรอสเองก็ไม่ได้กระจอกขนาดที่จะยอมรับการโจมตีคล้ายๆแบบเดิมเป็นหนที่สองได้ มันจึงเคลื่อนที่หลบด้วยความเร็วที่เหนือกว่าตอนแรกไปข้างหน้าเล็กน้อยและอ้อมไปทางด้านหลังของกรแทนได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้กรลงพื้นเสียงดัง ตุ๊บ! โดยที่การโจมตีของตัวเองหวดลม? ไปนั่นเอง

〖ขัดจังหวะสกิลของข้างั้นเหรอ  ไม่เบานี่เจ้าหนู...เจ้านี่น่าสนใจจริงๆ!!!〗

〝อ๋อ! งั้นเหรอ.... แต่ไอ้ที่อยู่ในมือฉันเนี่ยน่าสนใจกว่าอีกนา....〞

〖!!!!!!!!!!!!?〗

          พอกรตอบกลับออกไปแบบนั้นด้วยเสียงเรียบๆเลยทำให้เคลเบรอสมองไปที่มือของกรในทันที แล้วก็ต้องตกใจกับภาพนั้นอย่างมาก นั่นก็เพราะในมือของกรกำลังยื่นวัตถุแปลกๆที่มีขนแบบเดียวกับตนออกมาเพื่อให้เคลเบรอสเห็นได้ชัดเจน พร้อมทั้งโยนขึ้นลงเล่นราวกับจะเยาะเย้ยเคลเบรอสอยู่ยังไงอย่างงั้น  พอเห็นแบบนั้นเคลเบรอสที่รีบตรวจสอบร่างของตัวเองดู ก็รู้เลยว่าที่กรถืออยู่นั้นคือหางของตนนั่นเอง

〖อึ๊ก!!!  นี่เจ้า!!!?〗

〝หืม.....ใจแข็งจริงนะ  สำหรับสุนัขแล้ว หางถือเป็นความภาคภูมิใจเลยไม่ใช่เหรอ....ถูกตัดเป็นเดชไอ้ด้วนแบบนี้เนี่ยน่าสงสารแย่เลย.....〞

          ที่ตัดออกไปแค่หางนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยแม้แต่น้อย เพราะกรต้องการยั่วโมโหเคลเบรอสนั่นเอง ก่อนหน้าที่เล่นสงครามจิตวิทยากันดูเหมือนกรจะคำนวณพลาดไป เพราะพลังของเคลเบรอสมีมากกว่าที่ตนคิดไว้ พอมาตอนนี้พลังของทั้งคู่นั้นใกล้เคียงกันขึ้นมาก ดังนั้นสิ่งที่จะตัดสินการต่อสู้สำหรับคูต่อสู้ที่มีฝีมือคู่คี่กันนั่นก็คือ เล่ห์กลและอุบายต่างๆ ไหวพริบ ทักษะเฉพาะตัวของแต่ละคน  รวมถึงยุทธวิธีรบปิดฉากที่คาดไม่ถึง การทำให้อีกฝ่ายใช้อารมณ์เองก็เป็นอีกแผนการที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน กรที่เคยถูกอารมณ์ต่างๆเข้าครอบงำ จนใช้ตัดสินความจริงตรงหน้านั้นเข้าใจจุดนี้เป็นอย่างดี แต่เพราะตอนนี้เขาได้โยนอารมณ์ทั้งหมดทิ้งไปแล้ว เลยทำให้จุดนี้กรได้เปรียบเคลเบรอสอยู่มากโข

〖ไอ้เด็กเวร!!!!!!!!  บังอาจนักกกกก!!!!!!!!!!!!!!〗

          และเป็นไปตามคาด เคลเบรอสเดือดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด กรเองก็ต้องระวังไม่ให้กระทบกระทั่งมันมากจนเกินไป เพราะสัตว์ร้ายที่จนมุมนั้นสามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อเกินคาดคิด แม้แต่กระต่ายที่จนมุมเองก็สามารถขย้ำเสือจนตายได้ กรที่เข้าใจจุดนั้นดีจึงต้องควบคุมระดับอารมณ์ของเคเลเบรอสไปด้วย แม้จะดูยุ่งยาก แต่เพื่อให้การต่อสู้ของตัวเองมีโอกาสชนะและประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่เกี่ยง แต่นั่นเป็นเพราะกรตอนนี้ไร้ซึ่งอารมณ์ด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่เขาจะเลือกวิธีทีมีประสิทธิภาพดีที่สุด แต่ที่ไม่เลือกวิธีที่ปลอดภัยที่สุด นั่นเป็นเพราะกรในตอนนี้ไม่คิดประมาทเคลเบรอสเลยแม้แต่น้อยนั่นเอง

〖【เบิร์นนิ่งอินเฟอร์โน่】!!!!!!!!〗

          แล้วเคลเบรอสก็ร่ายเวทย์ที่แตกต่างจากครั้งก่อน  ดูเหมือนว่าเคลเบรอสจะใช้เวทย์ทั่วไปได้เหมือนกัน แถมยังไม่ต้องร่ายอีกต่างหาก ผลจากเวทย์นั่นทำให้ทั่วทั้งบริเวณห้องโถงถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีแดงสดกว่าเลือด ความร้อนเองก็พุ่งทะลุ 10,000 องศาไปเลยทีเดียว แม้จะไม่โดนตรงๆ แต่เพียงแค่อยู่ใกล้ๆก็เพียงพอจะทำให้ร่างกายระเหิดไปได้เลยทีเดียว ทั้งยังสร้างความหวาดหวั่นให้แก่ผู้ที่ได้เห็นอีกต่างหาก

〖!!!!!!!!!!!!!!?〗

          แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่กรคาดไว้แล้ว กรที่ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเลยพร้อมกับแสดงท่าทีนิ่งเฉยและมองไปยังเคลเบรอสด้วยแววตาดุดัน เลยทำให้มันตกใจกับการกระทำนั่น เคลเบรอสที่ไม่เข้าใจว่ากรกำลังทำอะไรก็ตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อกรยกมือขวาขึ้นมาในท่าคว่ำฝ่ามือไปทางเคลเบรอส และการกระทำต่อไปของกรก็ต้องทำให้เคลเบรอสตกตะลึงอีกครั้ง

〝【ไอซ์....เอจ】———〞

ฟุบ!!!!!

          แล้วกรก็ร่ายเวทย์ออกมาด้วยเสียงเรียบๆเช่นเคยทั้งที่ยื่นมือขวาที่คว่ำอยู่ราวกับจะคว้าอะไรบางอย่างนั้นไปทางเคลเบรอส และหลังจากร่ายเวทย์เสร็จแทบจะทันที  เปลวเพลิงสีแดงอันน่าหวาดหวั่นที่มีความร้อนสูงซึ่งลุกโหมอยู่รอบตัวกรและเคลเบรอสก็กลายเป็นน้ำแข็งในชั่วพริบตาเดียวโดยที่ไม่สนทฤษฎีใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากการใช้สกิล『จิตวิญญานเหล็กกล้า』 ทำให้ความสามารถทุกอย่าง รวมถึงระดับของเวทย์เพิ่มขึ้นเป็นขั้นสูง ทั้งยังใช้เวทย์โดยที่ไม่ต้องร่ายอีกต่างหาก นั่นเลยทำให้กรสามารถใช้เวทย์ขั้นสูงได้โดยไม่ร่ายได้สบายๆเช่นเดียวกับเคลเบรอส และในจังหวะเดียวกับที่กรสะบัดมือที่ยื่นอยู่นั่นไปทางขวาอย่างแรงราวกับจะเป่าทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าให้ปลิวหายไป น้ำแข็งที่อยู่โดยรอบกับเปลวเพลิงทั้งหมดก็หายไปทั้งหมดเหมือนกับไม่ได้มีอยู่ตั้งแต่แรก

〖กะ....โกหกชัดๆ!!!  เปลวเพลิงของข้านั้นร้อนแรงพอๆกับขุมนรกเลยเชียวนะ!!!!  แต่กลับถูกมนุษย์ใช้เวทย์เพียงครั้งเดียวทำให้หายไปเนี่ยน๊ะ!!!?〗

ตู้ม!!!!

          เคลเบรอสยังตกใจไม่หายกับสิ่งที่เกิดขึ้น กรก็ถีบตัวเข้าไปประชิดตัวของเคลเบรอสอีกครั้งโดยที่ไม่ปล่อยให้มันพักเลย จนกรที่กำลังพุ่งตัวอยู่ลอยไปใกล้กับใบหน้าของเคลเบรอสทั้ง 3 พร้อมกับจ้องดวงตาของเคลเบรอสด้วยแววตาที่ไร้ซึ่งแสงสว่างนั่น

〖!!!!!!!!!!!!!!?〗

〝พูดมาก น่ารำคาญ〞

          ในขณะที่กรตอบเคลเบรอสด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเขาก็ง้างหมัดทั้งสองของตัวเองไปข้างหลังเพื่อเตรียมปล่อยการโจมตีที่หนักหน่วงอีกครั้งไปพร้อมกัน โดยที่ไม่ได้สนท่าทีตกตะลึงของเคลเบรอสแม้แต่น้อย จากนั้น....

ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!!  ตู้ม!!!! 

        กรก็ระดมโจมตีด้วยหมัดทั้งซ้ายและขวาเข้าไปทั่วทั้งตัวเคลเบรอสเท่าทีหมัดของตัวเองจะไปถึง ทั้งใบหน้า ลำตัว ขา สีข้าง ทุกๆจุดที่สามารถสร้างความเสียหายได้ทั้งหมดอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง โดยไม่เปิดโอกาสให้เคลเบรอสโต้กลับเลยแม้แต่น้อย

〖อ๊อกกกกกก!!!!!!!!!!!!〗

ฟิ้ว!!!!!!

ตู้ม!!!! 

          แล้วเคลเบรอสที่ถูกการโจมตีอย่างต่อเนื่องเข้าอย่างกระทันหัน ก็ลอยกระเด็นจนไปชนเข้ากับผนังของห้องโถงอีกครั้งหนึ่ง แต่หนนี้เพราะเป็นการกระหน่ำโจมตี เลยทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเก่า นั่นเลยทำให้จุดที่เคลเบรอสลอยไปชนเกิดรอยแตกกระจายไปโดยรอบเลยทีเดียว พอเคลเบรอสตกลงมายังพื้นด้วยแรงโน้มถ่วงในเวลาไม่นาน มันก็ฟื้นฟูด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่ออีกครั้ง ดูเหมือนแม้กรจะโจมตีตีไปมากขนาดไหนมันก็ไม่สะทกสะท้านเลย

〝แผลหายแล้วงั้นเหรอ….เป็นการฟื้นสภาพที่เข้าขั้นโกงเลยนะเนี่ย  แล้วจะจัดการแกยังไงดีหล่ะ? 〞

〖อย่าได้ใจให้มันมากนัก  ไอ้หนู!!!  【ตัดสายลม】!!!!!!!!!!!!!〗

          เพราะคำพูดของกรนั้นเป็นเชิงคำถาม นั่นเลยทำให้ดูกวนโอ๊ยเข้าไปใหญ่ เคลเบรอสที่หงุดหงิดอยู่แล้วก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ จึงได้ใช้สกิลอันร้ายกาจนั่นออกมาอีกครั้ง

ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!  

ตู้ม!!!!!!

〖!!!!!!!!!!!!!?〗

          พอการโจมตีทั้งหมดถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว กรที่ได้ยินชื่อสกิลอยู่ก่อนแล้วก็ถีบตัวแล้วพุ่งไปด้านข้างได้อย่างทันท่วงที ราวๆ 20 เมตรจากจุดที่ยืนอยู่ และแล้วการโจมตีทั้งหมดด้วยสกิล『ตัดสายลม』ของเคลเบรอสก็หวดลมไป โดยที่ไม่โดนตัวกรเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นเลยทำให้มันตกใจมากทีเดียว

〖เพราะอะไ———〗

〝เพราะฉันเข้าใจหลักการมันแล้วยังไงหล่ะ.... สกิลของแก ดูเหมือนจะติดตามได้เฉพาะเป้าหมายที่อยู่ใกล้กับมันตอนเข้าปะทะไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น....งั้นก็ง่ายๆ แค่หลบไปให้ไกลกว่านั้นก็สิ้นเรื่อง... เพราะงั้น ในตอนแรกการโจมตีของแกถึงไม่โดนฉันทั้งหมดสินะ〞

          แล้วกรก็ตอบกลับเคลเบรอสไปก่อนที่มันจะพูดจบเสียอีก นั่นจึงเริ่มทำให้จิตใจของมันเริ่มหวั่นไหวอีกครั้ง และในขณะเดียวกับที่กรกำลังคิดว่าถึงโจมตีไปขนาดไหนมันก็ยังฟื้นฟูได้ เพราะหากแค่ใช้หมัดคงไม่พอที่จะล้มเคลเบรอสอยู่นั้น กรก็สังเกตุเห็นการโจมตีด้วยตัดสายลมของมันซึ่งหวดลมเพราะกรอ่านทางออกไปโดนพื้น แต่ก็ยังไม่เป็นรอยอยู่ดี แล้วนึกกลับไปก่อนหน้านี้ที่ตนกระหน่ำโจมตีไปที่เคลเบอรอสจนกระแทกกับผนังห้องโถงจนเกิดรอยแตกขนาดใหญ่ ก็คิดอะไรขึ้นมาได้อย่างนึง....

〖!!!!!!!!!!!!!?〗

          เพราะกรที่เปลี่ยนแผนการกระทัน ได้ย่อตัวลงจนอยู่ในท่านั่งยองอย่างรวดเร็ว เลยทำให้เคลเบรอสไม่เข้าใจว่ากรกำลังจะทำอะไรจึงได้แต่ยืนงงอยู่อย่างนั้น

〝【เคลื่อนไหวความเร็วแสง】!〞

ตู้ม!!!!!!

〖!!!!!!!!!!!!!?〗

          แล้วกรที่อยู่ในท่านั่งยองก็พุ่งตัวขึ้นไปข้างบนด้วยพลังกายล้วนๆและในจังหวะที่ปลายเท้ากำลังจากลอยห่างจากพื้นพอดิบพอดี กรก็ประกาศสกิลนั้นออกมา เป็นการผสมผสานสกิลเข้ากับพลังกายนั่นเอง แล้วการผสานที่ว่านั่นยังรุนแรงถึงขนาดทำให้พื้นที่กรถีบตัวขึ้นไปนั้นแตกกระจายเป็นบริเวณกว้างเสียกว่าจุดที่เคลเบรอสถูกกระหน่ำโจมตีอีกต่างหาก นั่นเลยทำให้เคลเบรอสตกใจยิ่งกว่าเดิม

ฟุ๊บ!!!!!!!

ตู้ม!!!!!!

          และเพราะการถีบพื้นที่แสนรุนแรงนั่นเลยทำให้ตอนนี้กรพุ่งขึ้นไปจนถึงเพดานของห้องโถงที่สูงกว่า 20 เมตรเลยทีเดียว พอใกล้จะเข้าปะทะกรก็พลิกตัว 180 องศาและใช้เท้ากระแทกไปที่เพดานอย่างแรงเพราะการพุ่งตัวขึ้นมาจนเกิดเสียงดังสนั่นพอๆกับก่อนหน้านี้ แล้วจากนั้นกรก็ย่อตัวลงทั้งเพื่อให้ลื่นไหลกับแรงเฉื่อยที่ส่งมา แล้วจากนั้น

〝เอาหล่ะนะ....【เคลื่อนไหวความเร็วแสง】!!!〞

ตู้ม!!!!!!

          แล้วจากนั้นกรก็ใช้สกิลแบบเดียวกับตอนแรกอีกครั้ง แล้วก็ถีบเพดานลงมาข้างล่างอย่างรวดเร็วจนเคลเบรอสยังตกใจ นั่นเพราะใช้ทั้งพลังกาย สกิลและยังมีความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลกพ่วงเข้าไปอีก  แล้วพอกรพุ่งลงไปจนเกือบจะถึงพื้นอยู่แล้วนั้น กรก็กำหมัดขวาไว้แน่นและง้างไปข้างหลังจนสุดแล้วจากนั้น...

ตู้ม!!!!!!

          กรก็ใช้หมัดขวาชกลงไปที่พื้นห้องโถงทั้งอย่างงั้นเลย ผลจากการกระทำนั้น ทำให้พื้นของห้องโถงสั่นสะเทือนไปทั่ว เกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นวงกว้างไปทั่วจากจุดที่กรใช้หมัดซัดลงไป จนบริเวณพื้นของจุดที่กรชกลงไปยุบลงเป็นหลุมลึกกว่า 3 เมตรเลยทีเดียว แล้วโดยรอบยังมีวัสดุแบบเดียวกับห้องโถงโผล่พ้นพื้นขึ้นมาเพราะแรงกระแทกขึ้นมามากมายอีกต่างหาก และวัสดุทั้งหลายที่โผล่ขึ้นมานั่นเองที่เป็นเป้าหมายของกร....

〝ฟู่!!! เอาหล่ะ...เท่านี้ก็เป็นไปตามแผน〞

〖เจ้าหนู! แกคิดจะทำอะไรกัน!!?〗

〝เดี๋ยวก็รู้น่า  ฉันไม่ให้แกรอนานหรอก....แล้วถ้ารอกันละก็จะขอบคุณมากเลย〞

          ต่างกับกรก่อนหน้านี้ เคลเบรอสไม่ได้เข้ามาขัดจังหวะกรเลยแม้แต่น้อย กรจึงคิดว่านี่เป็นศักดิ์ศรีของนักรบหรืออะไรทำนองนั้นมั้ง แม้จะคิดว่ามันไร้สาระ แต่เพราะทิฐินั่นของเคลเบรอสเลยทำให้เขาดำเนินแผนได้จนเกือบเสร็จสิ้น เลยทำให้เขาแอบขอบคุณเคลเบรอสอยู่ไม่น้อย

ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!

ผั๊ว!!!  ผั๊ว!!!

แกร็ก!!!!!

          แล้วกรก็เดินเข้าไปยังที่ที่มีวัสดุของพื้นห้องโถงโผล่ขึ้นมา แล้วจัดการใช้ฝ่ามือฟาดเขาไปเพื่อให้ตัววัสดุหลุดออกมาเป็นชิ้นขนาดพอๆกับตัวเองทั้งหมด 2 ชิ้นด้วยกันแล้วก็เอามันตั้งไว้กับพื้นโดยที่ใช้มือทั้งสองข้างพยุงแต่ละอันไว้อยู่ แล้วจากนั้น....

〝【ข้าแต่เทพเฮฟเฟสตุสผู้สรรค์สร้างศาตราเทพเอ๋ย  ข้าขอถวายคำสัตยาบันแก่เทพผู้สร้าง..... 】〞

 

〖จะ...เจ้าหนู  คำร่ายแบบนั้นมัน!!!!〗

 

〝【……ร่างเนื้อของข้าหล่อหลอมขึ้นเป็นดาบ  วิญญาณของข้าหล่อหลอมขึ้นเป็นเปลวเพลิง..... 】〞

〖มะ...ไม่ผิดแน่  นี่เจ้ากำลังใช้เวทย์แปรธาตุขั้นสูงอยู่งั้นเหรอ!!!〗

          ดูเหมือนเคลเบรอสจะรู้คำร่ายของบทที่กรกำลังพูดอยู่จึงตกใจออกนอกหน้าขนาดนั้น แต่กรก็ไม่สนใจแต่อย่างใด ทั้งยังร่ายเวทย์ต่อไปอีกต่างหาก อาจเป็นเพราะเวทย์ที่ว่านั้นเป็นเวทย์ขั้นสูงเกินกว่าจะละการร่ายได้และก็เพื่อให้เวทย์แสดงผลออกมาดีที่สุดด้วย กรจึงต้องพูดคำร่ายออกมาให้ครบถ้วนอย่างไม่มีตกหล่น และในขณะที่กำลังร่ายอยู่นั้นก็ได้มีเสียงประกาศที่ไม่ทราบเพศดังขึ้นในสติของกรอีกครั้ง

【 โปรดมโนภาพถึงลักษณะของสิ่งที่จะแปลงสภาพ.... 】

          แต่กรก็ไม่ได้ตกใจกับเสียงนั่นเท่าไรนัก นั่นก็เพราะที่กรทำมาจนถึงตอนนี้เป็นสิ่งที่กรวางแผนไว้แล้วทั้งสิ้น ตั้งแต่ที่สังเกตเห็นว่าพื้นโถงที่คิดว่ามีความทนทานสูงสามารถทนทานได้แม้กระทั่งการโจมตีจากสกิลตัดสายลมของเคลเบรอสทั้งที่การโจมตีนั่นทำให้กรเกือบตายมาแล้ว ก็เลยคิดใช้วัสดุนั่นมาทำเป็นอาวุธด้วยเวทย์แปรธาตุเสียเลย แต่แน่นอนว่าความจริงมันไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น นั่นเพราะวัสดุที่ใช้ในการแปรธาตุจำเป็นต้องใช้วัสดุที่เป็นธาตุบริสุทธิ์หรือไม่ก็ต้องใช้วัสดุที่มีขนาดแน่นอนและต้องมีความคุ้นชินกับพลังของเจ้าตัวเสียก่อน กรจึงต้องใช้การโจมตีเข้าไปเพื่อให้วัสดุนั้นรับพลังของตัวเองได้ ทั้งเพื่อถ่ายโอนออร่าของตัวเองไปยังวัสดุนั้นโดยตรงด้วยก็ดี และก็เพื่อให้วัสดุที่ว่ามีขนาดที่แน่นอน เพราะหากใส่ออร่าไปที่พื้นโดยตรงแต่ก็ไม่รู้ขนาดที่แน่นอนเพราะทั้งหมดมันเป็นเนื้อเดียวประกอบกันทั้งห้อง นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลนึงว่าทำไมจึงไม่สามารถแปรธาตุจากพื้นโดยตรงได้นั่นเอง

เริ่มการมโนภาพ......

ลักษณะ........ดาบสีทองอร่าม สองคมแบบยุโรป…….

ความยาว........140 เซนติเมตร

น้ำหนัก........พอมือ ไม่มากและน้อยเกินไป

ความทนทาน........มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ความคม........มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

〝【จงปรากฏออกมาต่อหน้าข้าซะเอ็กซ์คาลิเบอร์!!!!!!!!】〞

เปร๊าะ!!!

          แล้วพอกรร่ายจบวัสดุที่มีขนาดเท่าตัวของกรซึ่งอยู่ทางขวาก็ปริแตกจากภายใน และพอวัสดุทั้งหลายแตกกระจายหายไปราวกับลูกนกที่กระเทาะเปลือกไข่ของตัวเองออก ดาบสีทองประกายงดงามทั้งด้ามดาบและใบดาบที่ถูกประดับด้วยลวดลายวิจิตรงดงามราวกับเป็นงานศิลปะก็ปรากฏออกมาตรงหน้าของกร และไม่รอช้ากรก็ใช้มือขวาคว้าด้ามของมันอย่างรวดเร็ว แล้วจากนั้น.....

〝ส่วนข้างซ้าย.....【จงปรากฏออกมาต่อหน้าข้าซะดูแรนดัล!!!!!!!!】〞

          เช่นเดียวกับก่อนหน้า พอวัสดุที่อยู่ทางซ้ายของกรก็ปริแตกออกมา ดาบสีน้ำเงินส่องประกายสดใสแม้จะอยู่ในความมืดมิด ราวกับอัญมณีโทพาซที่ส่องประกายกับแสงอาทิตย์ยังไงอย่างงั้น มันมีลักษณะแตกต่างจากก่อนหน้าเล็กน้อย คือมันแบนกว่ากันและใบดาบยังกว้างกว่า แต่ที่เหมือนกันคือลวดลายที่อยู่บนตัวดาบยังคงงดงามอยู่เหมือนกับดาบเล่มก่อนหน้า

แกร็ก!!!!

〝ขอบคุณมากที่รอกัน  เคลเบรอส......นี่แหล่ะผลงานชิ้นโบว์แดงของฉัน〞

          แล้วพอการแปรธาตุเสร็จสิ้นทุกกระบวนการกรก็เอา『เอ็กซ์คาลิเบอร์』ยื่นไปข้างหน้าโดยหันปลายดาบไปทางเคลเบรอสที่ยังคงทำหน้าอึนอยู่ แล้วก็พาด『ดูแรนดัล』ไว้ที่ไหล่

〖ไม่น่าเชื่อ.....ทั้งสองเล่มเป็นอาวุธระดับ【SSS】เลยนะ นี่เจ้าจะบอกว่าสามารถสร้างของระดับนี้ขึ้นมาได้ตามใจชอบรึไง!!!〗

〝อ๋อ...ไม่ต้องห่วง  เพราะว่ามันไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรเลยหล่ะ แล้วที่ตั้งชื่อแบบนี้หน่ะเป็นเพราะฉันจำมาจากอนิเมะที่เคยดูเมื่อก่อนหน่ะ...เอาเถอะ พูดไปแกคงไม่รู้จักหรอกมั้ง  แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น.....〞

สวบ!!!!!!!

〖หา !!!!!!!!〗

          แล้วกรก็ใช้ดูแรนดัลที่พาดกับไหล่เมื่อครู่ ยกด้ามดาบขึ้นจนสูงกว่าหัว แล้วปล่อยมันลงไปที่พื้นทั้งแบบนั้น ผลปรากฏว่า ใบดาบฝังเข้าไปในพื้นที่มีความทนทานนั่นถึง 2 ใน 3 เลยทีเดียว นั่นเลยทำให้เคลเบรอสที่เห็นแบบนั้นตกใจมากจนร้องออกมาเลยทีเดียว

〝อย่างที่เห็นแหล่ะ.....เพราะใช้วัสดุจากพื้นห้องนี้ที่มีความทนทานอย่างมากกับใช้ออร่าสีทองนี่ผสมเข้าไปด้วย ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น....〞

〖หึหึหึ !!!!!!!!〗

〝ใจเย็นจริงนะ......ยังหัวเราะได้อีกงั้นเหรอ〞

          เพราะท่าทีของเคลเบรอสที่กำลังหวาดกลัวเปลี่ยนไปเป็นหัวเราะออกมาเล็กน้อย นั่นเลยทำให้กรคิดว่ามันอาจจะตกใจจนเพี้ยนไปแล้วก็ได้ จึงถามแบบนั้นออกมา

〖เจ้าหนู!!! เจ้านี่มันจะน่าสนใจเกินไปแล้ว.....ขนาดนายเหนือหัวของข้า ยังไม่เคยทำให้ข้าประหลาดใจได้อย่างต่อเนื่องแบบนี้มาก่อนเลย....〗

〝ถ้านั่นเป็นคำชมละก็...ขอบใจมากละกัน〞

〖ถ้างั้นก็......【เกราะเพลิงทมิฬ!!!!!!!!!!!!!!!!】〗

          ในขณะที่พูดคุยกัน หัวขวาของเคลเบรอสก็เปิดขึ้นอีกครั้ง แล้วทั่วทั้งตัวของเคลเบรอสก็ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีดำสนิทอีกครั้ง

〝ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกสินะ....แกนี่แข็งแกร่งจริงๆ〞

〖เจ้าเองก็เช่นกัน....ภูมิใจได้เลยที่ทำให้ข้าสนุกได้ถึงเพียงนี้〗

          แล้วทั้งสองก็พูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนที่จะย่อตัวลงพร้อมกัน

เข้ามาเลยเจ้าหนู  แสดงให้ข้าเห็นทีสิ!!!!!!!

จิตวิญญาณนักรบของเจ้าหน่ะ!!!!!!!

ตู้ม!!!!!!!

       แล้วทั้งสองก็ถีบพื้นเสียงดังแล้วพุ่งเข้ามาหากันด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง เคลเบรอสง้างกรงเล็บทั้งสองขณะที่ใช้ขาหลังถีบตัวมา กรเองก็เงื้อดาบทั้งสองไว้ข้างหลังเช่นกัน

          และเมื่อทั้งสองเข้าประชิดตัวกัน เคลเบรอสก็ก็ตวัดกรงเล็บทั้งสองเข้าหากรอย่างรวดเร็ว แต่กรก็ใช้ใบดาบทั้งสองรับไว้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนแค่เอาดาบรับไว้จะสร้างบาดแผลให้คลเบรอสไม่ได้ บางทีคงเป็นเพราะสกิล【เกราะเพลิงทมิฬ】เลยทำให้พลังป้องกันของมันเพิ่มขึ้น หากไม่โจมตีเข้าที่ลำตัวตรงๆคงสร้างบาดแผลให้ไม่ได้ พอคิดได้แบบนั้นกรก็ใช้ดาบทั้งสองปัดกรงเล็บทั้งสองออกไปแล้วเข้าคลุกวงใน  จากนั้นก็ใช้เอ็กซ์คาลิเบอร์ในมือขวาฟาดไปที่ขาซ้ายของเคลเบรอส แต่มันก็ชักหลบได้อย่างรวดเร็ว ขนาดกรที่มีสุดยอดการประมวลผลอยู่แม้จะรู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถโจมตีได้เลย แล้วเคลเบรอสที่หลบการโจมตีได้นั้นก็โจมตีกรด้วยกรงเล็บจากทางซ้ายอีกครั้ง กรเองก็ย่อตัวหลบกลางอากาศแล้วหมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบเพื่อสร้างแรงเหวี่ยงไปในตัว แล้วก็จัดการใช้ดูแรนดัลในมือซ้ายฟันเข้าไปที่คอซ้ายของเคลเบรอส

ฉั๊ว!!!!!!!

〖อ้ากกกก!!!!!!!!〗

          ดูเหมือนความคมของดาบจะเป็นของจริง นั่นเพราะชั่วพริบตาที่ดูแรนดัลแกว่งผ่านคอซ้ายของเคลเบรอสไป ก็เฉือนลำคอไปได้ถึงครึ่งนึงของความหนาทั้งหมดเลยทีเดียว แล้วดูเหมือนแผลจากการโดนอัดกับโดนฟันจะจะใช้เวลาฟื้นฟูต่างกัน จะด้วยความลึกของบาดแผลหรืออะไรก็ตามแต่ แต่นั้นก็ทำให้หัวซ้ายไม่สามารถปล่อยสกิลตัดสายลมได้ในช่วงนั้น นี่จึงเป็นโอกาสโต้กลับของกร

          และพอถูกโจมตีไปแบบนั้น เคลเบรอสก็ใช้กรงเล็บโจมตีกรจากทางซ้าย เพราะคิดว่ากรกำลังอยู่ในท่าหลังโจมตีเลยทำให้ไม่มีเวลาตั้งรับ แต่กรที่ยังคงหมุนตัวอยู่เพราะแรงเฉื่อยจากตอนแรกนั้นก็เงื้อดูแรนดัลขึ้นเหนือหัวและฟาดลงไปที่กรงเล็บที่เข้ามาประชิดตัวนั้น เพราะกรงเล็บมีความแข็งกว่าส่วนอื่น การโจมตีแค่นี้จึงไม่อาจสร้างรอยแผลให้ได้ แต่กรก็เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการใช้ดูแรนดัลที่เข้าปะทะอยู่เป็นเหมือนเชือกเกี่ยวเข้ากับกรงเล็บ แล้วควงตัวเองลงพื้นโดยใช้กรงเล็บเป็นจุดหมุนลงพื้นอย่างสวยงาม แล้วพอลงถึงพื้นกรก็ย่อตัวแล้วถีบพื้นไปยังใต้ลำตัวของเคลเบรอสในทันที

〝คราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนแล้วนะ เจ้าหมา !  เอาหล่ะนะ……〞

มัลติไพล์แอตซอลต์ !!!!!】

ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ——————————————

〖อึ๊ก!!!  ไม่เลวนี่เจ้าหนู!!!!!〗

        แล้วกรก็กระหน่ำโจมตีเข้าไปด้วยอาวุธที่ดีกว่าครั้งก่อน รวมถึงสเตตัสที่เพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน เลยทำให้การโจมตีทั้งหมด แม้จะไม่รุนแรงถึงขนาดครั้งเดียวตาย แต่ก็ทำให้เคลเบรอสสะอึกออกมาได้เลยทีเดียว พลังชีวิตของเคลเบรอสก็ยังคงลดลงเรื่อยๆจากการโจมตีของกรอย่างต่อเนื่องรวมถึงการโจมตีร้ายแรงที่คอซ้ายก่อนหน้าก็ด้วย จนพลังชีวิตใกล้จะหมดเต็มที  แต่ในขณะที่กรกำลังได้เปรียบอย่างที่สุดอยู่นั้น.....

ซู่ม!!!

กริ๊ง!!!

คำเตือน!!! พลังชีวิตกำลังลดลงถึงขั้นวิกฤติ  ออร่าถูกลดระดับลง....เหลือเวลาที่สกิลยังคงทำงานอยู่ได้เพียง 2 นาที 34.215 วินาที...】

ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ——————————————

          แต่แม้จะมีเสียงประกาศดังขึ้นมาขัดจังหวะ รวมถึงออร่าที่ห่อหุ้มร่างกายของตัวเองได้ลดขนาดลงจนน่าใจหาย แต่กรก็ยังคงกระหน่ำโจมตีต่อไปราวกับกำลังปิดหูไม่ได้ยินเสียงนั้นอยู่

〖อ้าวๆ ดูเหมือนพลังจะลดลงรึเปล่า!!!!!〗

          แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น เพราะเคลเบรอสเองก็สังเกตได้เหมือนกันว่าดาเมจที่ทำได้ต่อวินาทีลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แกร็ก!!!!!!!

        แล้วเรื่องที่กรกลัว? ก็เกิดขึ้นจนได้ นั่นเพราะดาบทั้งสองเล่มของตนเริ่มีรอยร้าวขึ้นมาแล้วนั่นเอง กรที่คิดว่านั่นเป็นเพราะพลังเวทย์ของตัวเองลดลง จึงได้ถอยออกมาจากเคลเบรอสเล็กน้อยเพื่อตั้งหลัก นั่นเพราะการสูญเสียอาวุธในการต่อสู้นั้นหมายถึงความตาย

〖อุ๊ก!!!  ข้าเองก็เริ่มไม่ไหวแล้วแฮะ เจ้าเองก็คงเหมือนกันหล่ะสิ!!!〗

〝อา....ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ก็เป็นแบบนั้นจริงๆนั่นแหละ〞

〖เพราะงั้นก็!!!〗

〝เพราะงั้นก็!!!〞

.

.

.

.

〖มาเดิมพันด้วยการโจมตีสุดท้ายกันเลย!!!〗

〝มาเดิมพันด้วยการโจมตีสุดท้ายกันเลย!!!〞

โอ้ววววววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

โฮรกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ตู้ม!!!!!!!

          ทั้งคำพูดและเสียงตะโกนของทั้งสองคนที่ออกมาพร้อมกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องโถง ราวกับเป็นสัญญานเริ่มการปะทะครั้งสุดท้าย  จากนั้นทั้งคู่ก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายถีบพื้นแล้วพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง

พรวด!!!!!

          แล้วพอทั้งคู่เข้าประชิดตัว ขณะที่กรกำลังพุ่งอยู่กลางอากาศโดยเงื้อดูรันดัลไปข้างหลังและชี้เอ็กซ์คาลิเบอร์ในมือขวาไปทางเคลเบรอสอยู่นั้น เคลเบรอสก็ได้ทำเรื่องน่าตกใจออกมานั่นคือการปล่อยกรดเดือดสีเขียวอ่อนในตอนแรกออกมาอย่างกะทันหัน  เพราะสติและสมาธิของกรกำลังจับจ้องอยู่กับการต่อสู้ก็ด้วย และเพราะการโจมตีแบบสายฟ้าแลบนั้นรวดเร็วเสียจนสุดยอดการประมวลผลที่ถูกลดระดับลงมาตรวจจับไม่ทัน แต่กรก็ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดหลบไม่พ้นเสียทีเดียว แต่ถึงอย่างงั้นก็ทำได้แค่เอี้ยวตัวหลบไปทางซ้ายที่มีกรดอยู่น้อยกว่าเท่านั้นเอง

ฉ่า!!!!!

          แล้วผลลัพธ์ของมันก็ทำให้ฝั่งขวาของกรโดนการโจมตีเข้าไปเต็มๆ นั่นทำให้บริเวณข้อศอกของกรที่โดนกรดเข้าไปตรงๆ เนื่องจากออร่าที่ห่อหุ้มอยู่จางลง ขาดออกจากกันอย่างง่ายดาย

〖น่าเสียดาย เจ้าหนู !!!  อีกนิดเดีย—————〗

〝ไม่!!!  มันยังไม่จบหรอก!!!!!!!〞

          พอเคลเบรอสพูดตัดพ้อกรที่แขนขวาขาดไปแล้วแบบนั้น กรก็ตะโกนขัดจังหวะอีกครั้ง แล้วจากนั้น.....

งับ!!!!!!!

〖!!!!!!!!!?〗

          เนื่องจากเอ็กซ์คาลิเบอร์นั้นอยู่ในตำแหน่งที่นำหน้าไปเล็กน้อยเพราะกรชี้มันไปยังเคลเบรอส จึงทำให้ตอนที่แขนขวาขาดมันมาลอยอยู่ตรงหน้านั่นเอง กรก็เลยใช้ปากคาบมันอย่างรวดเร็ว แล้วยังคงพุ่งเข้าไปหาเคลเบรอสทั้งอย่างงั้น  นั่นเลยทำให้เคลเบรอสตกใจกับไฟสู้ของกรเป็นอย่างมาก

ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ——————————————

〖อึ๊ก!!!!!!!!〗

          แล้วกรก็กระหน่ำโจมตีด้วยดูแรนดัลในมือซ้ายและเอ็กซ์คาลิเบอร์ในปากอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง  เพราะความไม่คุ้นชินที่ใช้ปากคาบมันจึงเสี่ยงหลุดอยู่หลายครั้งในตอนที่ใช้ปากเหวี่ยง กรจึงต้องกัดมันไว้แน่นจนเลือดออกเลยทีเดียว แต่กรก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใดทั้งยังกระหน่ำโจมตีไปอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง แต่ทว่า.....

เปร๊าะ!!!  เปรี๊ยะ!!!

แคร๊ง!!!!!!!!!

        ดาบทั้งสองเล่ม เอ็กซ์คาลิเบอร์ในปากและดูแรนดัลในมือซ้าย ได้ปริแตกและแหลกสลายลงในเวลาอันสั้น นั่นเพราะพลังเวทย์ของกรเองก็หมดเหมือนกัน ทั้งที่หากโจมตีอีกเพียงไม่กี่ครั้งกรก็จะล้มเคลเบรอสได้อยู่แล้ว

〖ดูเหมือนข้าจะเหนือกว่าก้าวนึงนะเจ้าหนู  เพราะงั้นก็ยอมแพ้ซะ—————〗

〝ไม่เอาโว้ยยยย!!!  ก็บอกแล้วไงว่ามันยังไม่จบ!!!!!!!〞

          แล้วกรก็ตะโกนขัดจังหวะคำพูดของเคลเบรอสอีกครั้ง แต่หนนี้มันแตกต่างกัน นั่นเพราะกรในตอนนี้ไม่เหลืออาวุธใดๆอีกแล้วนั่นเอง แต่กรก็ยังไม่ได้ยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย ทั้งยังง้างมือซ้ายที่เหลืออยู่ข้างเดียวไปข้างหลังอีกต่างหากแล้วจากนั้น...

ตู้ม!!!!!!!!

〖อ็อกกกก!!!!!!!!  บ้าน่า!!!!!!!!!!〗

          กรที่คิดว่าหมัดธรรมดาคงใช้ไม่ได้ผล จึงรวบรวมออร่าสีทองที่เหลืออยู่มาไว้ที่หมัดซ้าย แล้วทำการอัดเข้าไปที่ใบหน้าของเคลเบรอสอย่างรวดเร็วและรุนแรงเสียยิ่งกว่าครั้งก่อนๆเสียอีก

〝อยากได้นักใช่ไหมไอ้หมาบ้าเอ๊ย!!!

งั้นก็รับไปซะ !!!!

นี่แหล่ะคือ !!! .....

จิตวิญญาณของช้านนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!〞

ย้ากกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!

      แล้วตะโกนแบบนั้นออกไปเพื่อปลุกใจสู้ของตัวเองในขณะที่ใช้หมัดซ้ายอัดเข้าไปที่ใบหน้าของเคลเบรอส

ตู้ม!!!!!!!!

          แล้วเคลเบรอสก็ถูกกรอัดหมัดกระเด็นไปจนผนังอีกครั้งจนเกิดเสียงดังสนั่นที่ดังกว่าครั้งไหนๆ  แล้วเคลเบรอสก็ตกลงมาด้วยแรงโน้มถ่วงแล้วก็นอนหมดสภาพอยู่แบบนั้น

แฮ่ก!   แฮ่ก!   แฮ่ก!   แฮ่ก!

〝คะ....คราวนี้หล่ะ......เป็น......ยังไงบ้าง〞

          หลังการเข้าปะทะอันแสนดุเดือดในเสี้ยววินาที เลยทำให้กรที่สเตตัสและร่างกายกลับมาเป็นปกติเหนื่อยหอบออกมา

〖ห๊ะห๊ะ.....ไม่น่าเชื่อเลยเจ้าหนู!!!  เจ้าทำได้จริงๆ.....ข้าเนี่ยขยับไม่ได้เลยหล่ะ〗

        เคลเบรอสเองก็ยังมีกะจิตกะใจตอบกรที่กำลังเหนื่อยหอบ ทั้งที่ตัวเองก็ร่อแร่เต็มทีเหมือนกัน นั่นอาจจะเป็นศักดิ์ศรีของบอสดันเจี้ยน  ไม่สิ....เป็นศักดิ์ศรีของนักรบที่ยอมรับในตัวกรซึ่งเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกันมากกว่า

วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง! 

          แล้วในจังหวะเดียวกับที่มันพูดแบบนั้น  ร่างกายของเคลเบรอสก็จางลงเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด

〖สมศักดิ์ศรีจริงๆ  ข้าขอยอมรับเจ้าในฐานะของนักรบอย่างแท้จริง  เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่ที่ข้าเคยสู้มาเลย…..

.....ชัยชนะนี้เป็นของเจ้าอย่างแท้จริง.....

อุษณกร  เจ้าชนะแล้ว————〗

          หลังจากพูดประโยคทิ้งทวนที่สมกับเป็นนักรบออกมาแล้ว เคลเบรอสก็จางหายไปในเงามืดพร้อมๆกับคำพูดนั้น

〝งะ.....งั้นเหรอ.....ฉัน.......ชนะแล้ว————〞

ตุ๊บ!!!!

        แต่กรที่เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะนั้น ทั้งที่ยังสงสัยอยู่เล็กน้อยว่าเคลเบรอสรู้ชื่อตนเองได้ยังไงและยังไม่ทันที่จะได้ดีใจกับผลลัพธ์เลยด้วยซ้ำเขาก็ล้มลงไปเสียแล้ว นั่นเป็นเพราะจากที่ได้อธิบายไป หลังจากใช้สกิล『จิตวิญญานเหล็กกล้า』ไป ผู้ใช้ก็จะเสียชีวิตลง  เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมากเสียจนกรรับรู้ไม่ทัน  เลยทำให้กรต้องเผชิญหน้ากับความตายที่น่าหวาดหวั่นอีกครั้ง  โดยที่ไม่ทันได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย

❖❖❖❖❖

【———————เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว! เลเวลได้อัพแล้ว!】

          เสียงประกาศที่คุ้นเคยได้ดังขึ้นในสติของกรอีกครั้ง เห็นได้ชัดเลยว่ากรได้รับค่าประสบการณ์มามหาศาลจากการโค่นล้มบอสด้วยตัวคนเดียว แต่แน่นอนว่ากรที่เสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีทางได้ยินเลยแม้แต่น้อย

【เริ่มการตรวจสอบเงื่อนไขเพื่อยืนยันระบบพิเศษ.......】

          แล้วประโยคอันคุ้นเคยก็ดังต่อเนื่องเข้ามาอีกครั้ง...

.

.

【ร่างกายเข้าสู่สภาวะการสลายตัวเรียบร้อย.......เข้าเงื่อนไขปกติ】

【ยืนยันเลเวลที่มีอยู่ในปัจจุบันอยู่ที่ 500 ซึ่งเป็นขีดจำกัดของเผ่ายอดมนุษย์อุษณกร.......เงื่อนไขเสร็จสิ้น】

【โค่นบอสได้ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย.......เงื่อนไขเสร็จสิ้นพร้อมกับเป็นแบบพิเศษ】

 

【ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายสามารถทนทานต่อสถานะผิดปกติต่างๆได้.......เข้าเงื่อนไขพิเศษ】

【ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายสามารถทนทานต่อบาดแผลและการโจมตีต่างๆได้.......เข้าเงื่อนไขพิเศษ】

【ใช้ร่างกายล้วนๆในการโจมตีครั้งสุดท้ายกับบอสมอนสเตอร์และโค่นได้สำเร็จ.......เข้าเงื่อนไขพิเศษ】

.

.

.

【ตรวจสอบเงื่อนไขทุกข้อเสร็จสมบูรณ์ ....ตรงกับเงื่อนไขแบบพิเศษขั้นสุดยอด】

.

.

【มีการพัฒนาเกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้ว  จึงจะดำเนินการต่อยอดพลังที่มีอยู่ก่อนโดยอัตโนมัติ】

.

.

【การพัฒนาซ้อนเป็นครั้งที่ 2 เสร็จสิ้น!】

.

.

.

.

【เริ่มทำการ『จุติแบบพิเศษขั้นสุดยอด ครั้งที่ 2』ได้!】

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 15 : ความโกงต่อเนื่องที่มาพร้อมกับการเกิดใหม่ครั้งที่ 2 ตอนแรก

    อืม.........ฉันสลบไปอีกแล้วงั้นเหรอ? หลังจากที่การต่อสู้อันดุเดือดของกรและเคลเบรอสที่ใช้ศักดิ์ศรีและชีวิตเข้าห่ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่งได้จบสิ้นลง กรก็ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอใช้สุดยอดการประมวลผลตรวจสอบดูกลับพบว่าตัวเองที่เพิ่งได้สติ อาจจะกำลังสลบอยู่จนถึงเมื่อครู่ จึงได้สงสัยขึ้นมาแบบนั้นอืม.....ลองนึกย้อนไปก่อนหน้านี้ รู้สึกว่าเราจะใช้『จิตวิญญานเหล็กกล้า』ไปสินะ.....งั้นก็หมายความว่าตัวเรา.....ตายไปอีกแล้วสินะ....ไม่สิ ไม่สิ ตอนนี้ยังรู้สึกถึงร่างกายได้อยู่เสียงเต้นของหัวใจเองก็ยังได้ยินอยู่เลยแล้วมันหมายความว่าไงกันละเนี่ย!ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกสกิลนั่นจะเขียนไว้ว่า หลังจากใช้ไปแล้วจะเสียชีวิตแทบจะทันที ไม่ใช่รึไง? นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย....แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆละก็... ตัวฉันเนี่ยก็สุดยอดสุดๆเลยนะสิ... ฟื้นจากความตายมาได้ถึง 2 ครั้ง แถมยังแทบจะในเวลาไล่เลี่ยกันอีก ไม่สิ....ที่ตายบ่อยเนี่ยก็เพราะอ่อนเองด้วยนั่นแหล่ะนะ น่ากลัวชะมัดเลยแฮะ....ใช่ หมายถึงตัวฉันเองนั่นแหล่ะ...แต่ใช่ว่าผลลัพธ์ออกมาแบบนี้แล้วจะไม่ดีใจหรอกนะ ก็แค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้นเอง....แต่ทั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 16 : ความโกงต่อเนื่องที่มาพร้อมกับการเกิดใหม่ครั้งที่ 2  ตอนจบ

    แปล๊บๆๆๆ!!!!!!!〝จ๊ากกกกกก!!!!!!!!!!〞 หลังจากที่กรได้หลั่งน้ำตาออกมาเพราะความรู้สึกหลายๆอย่างที่สั่งสมมานาน จากทั้งแรงกดดันและความเครียดทั้งหลายที่สะสมมามากเสียจนทะลุปรอทได้จบลง จู่ๆกรก็สัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านไปทั่วร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างกระทันหันจนถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้นในท่าหงายท้องมองดูดาวเลยทีเดียว ทั้งยังเกิดควันสีดำคลุ้งออกมาจากร่างจนทั่วเลยทีเดียว รวมทั้งผมยาวๆของตัวกรเองก็ยังตั้งฟูเป็นผมทรงแอ็ฟโฟร่ฟูฟ่องอย่างหนาเพราะกระแสไฟฟ้าที่ว่าไปพร้อมๆกันจนดูน่าขบขันไม่ใช่น้อย นั่นเลยทำให้ตัวของกรชาไปหมดแล้วก็ล้มลงไปกองกับพื้นตามระเบียบอึ๊ก! อะไรกันเนี่ย.... หลังจากที่ต้องรับภาระทางจิตใจที่มากเสียยิ่งกว่ามากจนล้นออกมาแล้ว ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกงั้นเหรอ!? นี่มันจะเกินไปแล้วนะเฮ้ย!!!ยะ...อย่าบอกนะว่านี่เป็นผลข้างเคียงของสกิล หรือไม่ก็เป็นบทลงโทษของคนที่ใช้โปรแกรมโกง———เดี๋ยวๆๆๆ....ฉันไม่ได้ใช้โปรแกรมโกงหรือชีตทูล(Cheat Tool) หรืออะไรเทือกๆนั้นซักกะนิดเดียว...ถ้าจะโทษก็ไปโทษไอ้คนที่จัดสกิลมาให้ฉันซะสิ....แต่เดี๋ยวดิ แล้วคนที่จัดมันเป็นใครหว่า!?แล้วนี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 17 :  ความปรารถนาของเคลเบรอสและการต่อสู้ในชั้นที่ 26

    〝สะ....สุดยอด! นี่มันสวยกว่าที่คิดไว้ซะอีกนะเนี่ย!〞 หลังจากที่กรใช้เวลาพอสมควรในการลงบันไดมายังชั้นที่ 26 ตามคำแนะนำของเคลเบรอส ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของกรที่ยืนอยู่ตรงปากทางออกก็คือ บริเวณทางเดินที่ถูกเชื่อมต่อไปยังบริเวณที่คล้ายกับถ้ำใต้ดินซึ่งมีส่วนประกอบทั้งหมดเป็นหินสีน้ำตาลเข้ม ผิวขรุขระตลอดแนวไปจนสุดสายตาดังที่เห็นได้บ่อยๆในสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในภูเขา แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ บริเวณพื้นผิวของถ้ำทั้งหมดนั้นมีจุดสีฟ้าเล็กๆเป็นจำนวนมากเกาะอยู่ทั่วบริเวณถ้ำเสียไปทั่วบริเวณที่กรมองไปถึง และแม้จะไม่มีแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในพื้นที่ปิดตายนี้แต่อย่างใด แต่จุดเล็กๆทั้งหลายนั้นกลับยังสะท้อนแสงและกระพริบไปมาเป็นจังหวะอย่างสวยงาม และด้วยความที่เพดานของถ้ำนั้นสูงกว่าพื้นดิน 5 เมตร นั่นเลยทำให้จุดสีฟ้าจำนวนมหาศาลที่กำลังส่องประกายระยิบระยับบนเพดานถ้ำเหล่านี้คล้ายกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปราศจากการบดบังของก้อนเมฆจนเห็นดวงดาวส่องประกายเต็มท้องฟ้าอย่างงดงามหาใดเปรียบยังไงอย่างงั้นเลย กรเองที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่เช่นกันเพราะถูกความงดงามนั่นตราตรึงและดึงดูดสายตาเสียจนเบนหน้าหนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 18 : การฝึกฝนเป็นการพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุด

    ———1 สัปดาห์ต่อมา.....แคร็กๆๆๆๆ!ตึก!——— ตึก!——— ตึก!——— ท่ามกลางจุดสีน้ำเงินส่องประกายสวยงามซึ่งประดับอยู่บนเพดานถ้ำนับล้านจุดจนคล้ายกับหมู่ดาวมากมายบนกาแล็คซี่ทางช้างเผือกยามค่ำคืน กลับได้ยินเสียงรบกวนโสตประสาทที่ไม่เข้ากับพื้นที่และบรรยากาศอันแสนงดงามนี้ดังขึ้นเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้าไปใกล้เสียงที่ว่านั้นอย่างช้าๆและเป็นจังหวะด้วยเสียงที่เบาบางราวกับตีนแมวยังไงอย่างงั้นชึบ!———แกร็ก!แคร็กๆๆๆๆๆ!!!!!!! ในจังหวะเดียวกันก็เกิดเสียงคล้ายกับโลหะสองชิ้นเสียดสีกันและเสียงที่คล้ายกับอะไรซักอย่างลงล็อกกันได้พอดีนั่น เลยดูเหมือนจะสร้างความสนใจให้กับแหล่งกำเนิดเสียงที่ไม่น่าอภิรมณ์ในตอนแรกนั่นไม่น้อย เสียงที่น่ารำคาญนั่นดังขึ้นเรื่อยๆ และเข้ามาใกล้เสียงของฝีเท้าในตอนแรกที่กำลังเดินเข้าไปหาแทนอย่างรวดเร็วราวกับกำลังหิวกระหายต่ออะไรซักอย่าง แต่ทว่า....เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! ก๊าซซซซซ!!!!!!!!!! ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เสียงโลหะลงล็อกกันในตอนแรกได้จบลง ก็เกิดเสียงดังที่คล้ายกับมีคนจุดป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 19 : ความสิ้นหวังของเพื่อนสนิทและความหวังของผู้ประกาศ

    ———ย้อนกลับไปเล็กน้อย ณ แคมป์พักผ่อนของเหล่านักเรียนผู้กล้าทั้งหลาย…〝นี่ๆ ทางนั้นล่าอะไรไปบ้างล่ะ!〞〝ฮะฮ่ะ!!!...ไม่อยากจะโม้ พวกเราล่า『หมีเนตรเพลิงป่า』ได้ตั้ง 10 ตัวเลยนะ!!!〞〝อะไรกัน...ทางฉันจัดการได้ตั้ง 15 ตัวยังไม่โม้เลยนะเฟ้ย!〞〝โกหกน่า! สุดยอดไปเลยนี่หว่า〞 ณ บริเวณพื้นที่โล่งกว้างห่างจากตัวป่าประมาณ 100 เมตร พื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้าเล็กๆ คล้ายกับสนามฟุตบอลไปทั่วทั้งบริเวณที่มองเห็นได้แม้จะอยู่ห่างจากตัวป่ามาขนาดนี้ก็ตาม ได้มีกลุ่มคนจำนวนมาก สวมชุดเกราะเบาและถืออาวุธนานาประเภท ทั้งไม้เท้า ดาบหรือแม้แต่หอกเองก็ด้วย ดูจากใบหน้าและน้ำเสียงแล้ว พวกเขาเหล่านั้นยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มและเด็กสาวอายุ 15-17 เท่านั้นเอง กำลังพูดคุยเป็นเชิงโอ้อวดกันด้วยเสียงดังเซ็งแซ่ ถึงสิ่งที่ตัวเองได้ไปล่ามากับเหล่าพวกพ้องในปาร์ตี้ก่อนหน้า แล้วหากสังเกตบริเวณโดยรอบดีๆ จะมีเต็นท์ขนาดใหญ่ประมาณ 1 ห้องแถวถูกคลุมด้วยผ้าสีน้ำตาลอยู่ 3 หลังในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ด้วย แล้วยังมีซุ้มทรงสูงที่ประกอบขึ้นจากไม้และมุงหลังคาง่ายๆด้วยฟาง อยู่อีก 2 หลังติดกัน แล้วตรงเคาท์เตอร์ด้านหน้ายังมีหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 20 : สาวน้อยที่พบกันโดยบังเอิญในดันเจี้ยนไม่มีทางน่ารักแบบนี้หรอก

    ท่ามกลางความเงียบสงบของดันเจี้ยนอันแสนมืดมิด ที่มีสภาพพื้นที่โดยรอบเป็นถ้ำปิดตายไร้ซึ่งความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ แต่ก็ยังคงมองเห็นพื้นที่ใกล้เคียงได้อยู่ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเพดานของถ้ำที่ว่า มีจุดสีฟ้าเข้มและอ่อนตัดกันไปมา จุดสีเหล่านั้นเรียงรายกันไปทั่วอยู่บนนั้นอย่างไร้รูปแบบ แต่ก็ยังคงความงดงามจนยากจะละสายตาได้ กำลังส่องประกายไปทั่วจนคล้ายกับท้องฟ้าจำลองยังไงอย่างงั้นตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! แล้วท่ามกลางความสงัดที่ว่า กลับมีเสียงฝีเท้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เด็กหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้วิ่งแต่อย่างใด แต่ระยะห่างระหว่างก้าวหนึ่งครั้งที่ได้ยินนั้นกลับกระชั้นชิดเสียเหลือเกิน ราวกับเขาคนนี้กำลังเดินหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงอะไรบางอย่างอยู่ยังไงอย่างงั้น บนใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยซักนิดเดียว จะมีก็แต่สีหน้าลำบากใจกับเหงื่อไหลลงมาจากใบหน้าเพียงสองสามหยดเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ตามเขามาไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของเขาตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 21 : เด็กสาวและการต่อสู้ร่วมกันครั้งแรก

    〝——สรุปแล้วก็คือ ...ไม่มีทางออกดันเจี้ยนได้ นอกจากจะใช้เวทย์มิติ ประเภทเซฟพิกัดเท่านั้นสินะ〞〝อื้ม… ใช่แล้วหล่ะ!〞〝แล้วเวทย์มิติที่ว่าเนี่ย หายากรึเปล่า?〞〝อืม..... อย่าว่าแต่เวทย์มิติเลย ปกติแล้ว มนุษย์ที่มีคุณสมบัติในการเป็นจอมเวทย์หน่ะ หายากสุดๆไปเลยด้วยซ้ำ ถึงจะไม่น้อยขนาดนั้นก็เถอะ แต่ใน 1,000 คน ก็มีแค่ประมาณ 150 คนเท่านั้นแหล่ะ เพราะงั้นเวทย์มิติก็เลยหายากกว่านั้นซะอีก.... แต่เพราะงั้นก็เลยมีคนทดลองลงตราเวทย์จุดเซฟที่ว่า ลงไปในหินเวทย์มนต์ ผลก็คือ ทำให้เกิดไอเทมเวทย์มนต์ชนิดใหม่ที่สามารถใช้แทนเวทย์มิติได้ ชื่อของมันก็คือ 『ศิลาเวทย์เคลื่อนย้าย』 แล้วนอกจากจะใช้วาร์ปเข้า-ออกดันเจี้ยนในชั้นต่างๆ ได้ตามใจแล้ว ถ้าเป็นคณะเดินทางที่มีใบอนุญาตก็จะสามารถใช้เดินทางข้ามเมืองได้ด้วยนะ....〞.. หลังจากที่กรยอมรับ『มีอา』เด็กสาวที่เขาช่วยเหลือไว้ได้ด้วยความบังเอิญในครั้งก่อน ให้เดินทางไปด้วยกันได้ โดยแลกกับข้อมูลของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนแห่งนี้ ก็ผ่านมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา กรได้ถามข้อมูลจากมีอามาโดยตลอด แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่ได้แสดงท่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-10
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 22 :  พันธะ(ของเด็กสาว) และ สัญญา(ของเด็กหนุ่ม)

    〝ทาส... งั้นเหรอ?〞เดี๋ยวก่อนสิเฮ้ย!!ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดหล่ะก็....ความเข้าใจของฉันตามที่เรียนมาในวิชาประวัติศาสตร์... ความหมายของคำๆนี้ก็คงประมาณว่า เป็นพวกคนที่ถูกผู้เป็นนายกดขี่ ข่มเหงอย่างไร้ความเป็นธรรม.... ถูกใช้งานอย่างหนักโดยไม่ให้พักผ่อน แบบเดียวกับสัตว์แรงงาน ทั้งยังไม่ได้รับผลตอบแทน แล้วยังถูกเลือกปฏิบัติราวกับไม่ใช่มนุษย์ เป็นเพียงแค่สิ่งของเพื่อใช้งานจนตายเท่านั้น....ที่โลกนี้ ก็มีของแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?...แต่จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่มาที่โลกนี้ เราก็อยู่แต่ในที่ปลอดภัยกับในปราสาทมาตลอดเลยนี่นา ยกเว้นในดันเจี้ยนบ้าๆนี่หล่ะนะ...แถวเขตชายแดนหรือห่างจากตัวเมืองหลวงก็คงจะมีสินะ ไอ้พวกประมาณว่า พวกเขตสลัม... การค้ามนุษย์หรือการค้าของเถื่อน...แต่เอาเถอะ... ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนหรือที่โลกไหน ก็ต้องมีเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว... ก็ความต้องการของมนุษย์มันไม่มีที่สิ้นสุดนี่นา ความสงบสุขไม่มีทางอยู่คู่กับกิเลสของมนุษย์... ไม่สิ...กับสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจอยู่แล้ว...〝ฮึก...〞〝........〞 หลังจากที่กรรู้ความจริงของ『ตราทาส』จากปากของเคลเบรอส ทำให้เขาครุ่นคิดเล็กน้อย แต่เพราะเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-10

บทล่าสุด

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 100 : ยามเมื่อเหล่าบุปผาผลิบาน

    ———— 1 สัปดาห์ต่อมา ชั้นที่ 2 ของมหาดันเจี้ยน『หอคอยแห่งปัญญา』 ณ ดันเจี้ยนชั้นพิเศษ ซึ่งถูกสร้างโดยอาเธนต่อจากชั้นที่ 1 อันเป็นชั้นที่เอาไว้หลอกคนทั่วไป ถูกสร้างขึ้นเพื่อการฝึกฝนและเก็บเลเวลโดยเฉพาะ หากแต่ผู้ที่จะใช้มันได้นั้น มีเพียงแค่กลุ่มของผู้ที่ผ่านการทดสอบที่แท้จริงแล้วเท่านั้นถึงจะเข้ามาในนี้ได้ ที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามเขต อันได้แก่ เขตที่พักอาศัย เขตใช้ฝึก『บัญญัติพันประการ』 และสุดท้ายคือเขตที่ใช้สำหรับเก็บเลเวล... หรือก็คือ เขตมอนสเตอร์ทรงภูมิปัญญานั่นเอง ในพื้นที่ของเขตที่สามถูกสร้างให้เป็นพื้นกระเบื้องและเพดานหน้าตัดเรียบส่องแสงสีเขียว (Lime) พื้นที่โดยรอบมีวัตถุโปร่งแสงรูปทรงเรขาคณิต ทั้งสามเลี่ยม สี่เหลี่ยมไปจนถึงรูปทรงหลายเหลี่ยมกระจัดกระจายเต็มไปหมดทำให้ยากแก่การเคลื่อนไหว แต่กลับกันแล้ว มันทำให้ง่ายต่อการดำเนินแผนที่ซับซ้อนและแยบยล และเขตที่สามนี้เอง ที่มีหญิงสาวทั้ง 4 คน อันได้แก่ มีอา ซาช่า เรเชลและริต้า กำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์จำนวนเท่ากันอยู่ มอนสเตอร์ทั้งสี่ตัวที่เป็นศัตรู มีหนึ่งตัวที่สวมผ้าคลุมสีดำ มีส่วนหัวเป็น

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 99 : ความเป็นจริงที่ซ่อนอยู่หลังความเป็นจริง

    〝 คุณโรนี่กับราชา... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย 〞 กรถามออกไปแบบนั้น ในเวลาเดียวกับที่ใช้『รีดดิ้งอายส์』ตรวจสอบบุคคลทั้งสองตรงหน้า แล้วก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าทั้งคู่เป็นตัวจริง...〝 ทำหน้าแบบนั้นคงจะรู้แล้วสินะว่าพวกข้าเป็นตัวจริง... 〞ราชาพูดแทงใจดำพลางยิ้มออกมา ทำให้กรคิ้วกระตุกเพราะคาดการณ์เรื่องตรงหน้าไม่ทัน ในขณะที่กรคิดแบบนั้น ราชาก็เดินเข้ามาทางกร แล้วก็ใช้เวทย์บางอย่างเปลี่ยนใบหน้าตัวเองเป็นคนอื่น ไม่สิ... เปลี่ยนจากคนอื่นกลับมาเป็นตนเองคนเดิมต่างหาก ซึ่งที่เปลี่ยนไปนั้นมีเพียงโครงหน้าเท่านั้น แต่ความสูงอายุและริ้วรอยนั้นแทบไม่ต่างจากเดิมเลย แล้วก็หันไปสบตากับเมอร์ลินเข้า นั่นทำให้เธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ...〝 นายมัน อาเธนงั้นเหรอ!!!? 〞เมอร์ลินที่เห็นใบหน้าจริงของชายชราตรงหน้าก็จำได้ทันทีพร้อมทั้งเรียกชื่อจริงของเขาออกมาอย่างสนิทสนม โดยมีสายตางงงวยจากสาวๆคนอื่น แต่พอรู้ว่าคนน่าสงสัยตรงหน้าเป็นคนรู้จักของเมอร์ลิน การ์ดของพวกเธอก็คลายลงพอสมควร〝 แหมๆ ในที่สุดก็จำได้ซักทีนะแม่คุณ... ข้าหล่ะเจ็บช้ำไม่น้อยเลยนะ ตรงที่เจ้าบ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 98 : หัวเราะทีหลังย่อมดังกว่าเสมอ

    หลังจากเรื่องเมื่อวานเคลียร์กันจบในตอนเย็น กรได้ทำการเพิ่มฟังก์ชั่นหลบหนีฉุกเฉินใส่บัตรนักผจญภัยของเจนนี่ไว้ก่อนด้วย เผื่อในกรณีที่เกิดอันตรายกับเธอ เธอสามารถใช้มันวาร์ปมาหากรได้ทุกเมื่อ รวมถึงพาคนรู้จักอย่างไมน์กับรีเบคก้ามาด้วยก็ยังได้ จากนั้นพวกกรกับพวกไมน์จึงได้แยกกันกลับที่พักของตัวเอง อนึ่ง เจนนี่ตอนนี้นั้นอยู่สถานะของคนชื่อ『เบลนด้า อัลบา』 รูปลักษณ์ภายนอกที่คนอื่นเห็น เป็นคนผิวสีแทน ใบหน้าปานกลางค่อนไปทางแย่(จากความเห็นส่วนใหญ่ในกลุ่มของกร) แต่นั่นก็เพื่อไม่ให้เธอเป็นจุดเด่น เพราะหากจะว่าไปแล้วเจนนี่ในร่างธรรมดานั้นจัดว่าเป็นคนสวยมากเลยทีเดียว และด้วยการใช้บัตรนักผจญภัยอ้างถึงตัวตน ก็สามารถเข้าพักที่เดียวกับพวกไมน์ได้ แต่เธอเลือกที่จะพักคนละห้องแทนเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย (แต่สุดท้ายตอนนอนก็ย้ายมานอนห้องเดียวกันอยู่ดี) ส่วนทางด้านของกร พอกลับไปพวกกรก็รีบทำธุระส่วนตัว แล้วเข้านอนในทันที เพื่อสะสมพลังงานให้เต็มอิ่มก่อนที่จะออกรบในดันเจี้ยน『หอคอยแห่งปัญญา』 และเพื่อความไม่ประมาทช่วงเช้าทั้งหมด กรและพรรคพวกจะใช้เวลาไปกับการตร

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 97 : เหตุผลในการมีชีวิต

    〝 ไง ทั้งสองคน 〞 ในขณะที่ทุกคนแสดงสีหน้าตกตะลึงยังกับเห็นผีออกมา เจนนี่ก็เริ่มเป็นฝ่ายทักไมน์และรีเบคก้าก่อนด้วยรอยยิ้มในทันที〝 เจนนี่!!! 〞〝 อุ๊ยตาย!? 〞 ไมน์ที่เห็นแบบนั้นไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปสวมกอดเจนนี่อย่างเร็ว นั่นเองก็ทำเจ้าตัวอย่างเจนนี่ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน〝 เจนนี่! เจนนี่จริงๆใช่ไหมเนี่ย? ไม่ใช่ผีหรือตัวปลอมใช่ไหม!? 〞ไมน์พูดแล้วก็ลูบๆคลำๆเจนนี่ไปทั่ว ทำเอาร่างเธอสั่นนิดหน่อยเพราะจักกะจี๊เลยทีเดียว〝 ยัยบ๊อง! ก็จับตัวกันได้อยู่ไม่ใช่รึไง? แล้วฉันก็ยังจำได้อยู่เลยนะว่าตรงก้นของรีเบคก้ามีไฝอยู่ด้วยหน่ะ 〞 เจนนี่พูดแบบนั้นออกมา ทำให้รีเบคก้าออกอาการหน้าแดง แล้วก็พุ่งเข้ามาสับกะโหลกเจนนี่เหมือนกับที่ผ่านมา〝 ฮึ่ย! ไอ้นิสัยพูดไม่คิดนี่ตัวจริงชัวร์ 〞รีเบคก้าพูดแล้วก็ใช้กำปั้นหมุนๆใส่ศีรษะของเจนนี่〝 โอ้ยๆ! เจ็บอ่ะรีเบคก้า ออมมือให้หน่อยเซ่! 〞 ทั้งสามคนหยอกล้อกันไปมาแบบนั้น ราวกับต้องการจะซึมซับและฟื้นคืนบรรยากาศที่ถูกทำลายไปให้กลับมาเหมือนเดิม แม้จะยังเคลือบแคลงสงสัย แต่ความอบอุ่นของภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้ทุกคนลืมหลายเรื่องที่คิดอ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 96 : การต่อรองต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย

    หลังจากที่งีบหลับไปประมาณ 3 ชั่วโมง ความเหนื่อยล้าทางจิตใจก็ดูจะลดลงไปบ้างเอาจริงๆ ต่อให้ลุยต่อทั้งอย่างงี้ก็ไหวอยู่หรอก แต่แค่นี้ทุกคนก็เป็นห่วงมากพออยู่แล้ว เพราะงั้นทำตามที่ทุกคนแนะนำเป็นการดีที่สุดทางริต้าเองยังคงหลับอยู่เลยปล่อยให้หลับต่อไปก่อนโดยให้เรเชลดูแลอยู่ข้างๆส่วนทุกคนเองดูเหมือนว่าจะไม่ได้หลับเลยในระหว่างที่ฉันพักแต่ก็ต้องขอบคุณในจุดนั้น เพราะในช่วงที่ฉันไปเจรจากับราชา ฉันต้องการที่จะไปคนเดียว...ก็แหม... ฉันไม่อยากให้ทุกคนเห็นท่าทางแย่ๆเท่าไหร่นี่นา〝 เพราะทุกคนเฝ้าฉันมาตลอดคงจะเหนื่อยแย่ ฉันเลยอยากให้พวกเธอพักรอฉันอยู่ที่นี่หน่ะ 〞พูดแบบนั้นออกไปทุกคนก็ทำหน้าถมึงทึงใส่ และแน่นอนว่าทุกคนทำท่าอยากจะไปด้วยกันหมดเลยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมตั้งนานกว่าจะยอม แต่ก็เพราะทุกคนเป็นห่วงเรานั่นแหล่ะนะ น่าดีใจแท้ๆแต่ทุกคนก็ไม่อยากตื้อให้เราจนกังวลเกินไปเหมือนกันเพราะงั้นแค่รับปากว่าจะไม่ฝืนฉันก็ขอตัวมาได้แล้วหล่ะนะแล้วจากนั้นก็วาร์ปมาที่เมืองหลวง ในซอกตึกที่นึงใกล้ๆกับทางเข้าพระราชวังโห... มองดูจากตรงนี้ยังเห็นรูที่เจ้าชายมันทำพังไว้อยู่เลย...เดี๋ยวไม่สิ... เราเป็นคนทำนี่หว่า คง

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 95 : ตัวละครเอกมักเป็นพวกชอบหาเรื่องใส่ตัว

    หลังจากที่การแสดงของฉันดำเนินมาได้ซักพัก จุดจบก็มาถึงโดยที่ฉันเป็นคนจัดการปิดคดีได้อย่างดงามถึงช่วงกลางๆจะโดนคุณโรนี่แย่งซีนก็เถอะ แต่ตอนจบก็กู้หน้าคืนมาได้อ่ะนะ...จากนั้นริออนที่ถูกฉันต่อยจนสลบก็ถูกพวกฟรอนกับคาลอสคุมตัวไปส่วนไอ้ปีศาจนั่นฉันปล่อยให้มันหนีไปเองด้วยเหตุผลทางด้านผลประโยชน์ในอนาคตแต่ทางฝั่งนั้นอาจจะกำลังคิดว่าหนีฉันพ้นอยู่ก็ได้หล่ะนะ... แต่ปล่อยให้คิดแบบนั้นก็ดีเหมือนกันแล้วหลังจากเรื่องจบ ฉันก็ไม่อยู่รอดูสถานการณ์หรอกนะเพราะว่าเป็นห่วงทุกคน ฉันเลยรีบผละตัวออกมาในทันทีที่มีโอกาสก่อนหน้าที่จะออกมาก็มีถูกพระราชานัดพบเป็นการส่วนตัวด้วยอยู่ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ แล้วก็คงคิดจะคุยถึงเรื่องต่อจากนั้นนั่นแหล่ะเป็นไปตามแผนเลย ฉันคิดจะใช้โอกาสนี้ต่อรองกับราชาอยู่แล้ว…แล้วพอวิ่งออกมาถึงจุดนัดพบในซอกตึกรามบ้านช่อง ก็เจอกับทุกคนโชคดีไป... ดูเหมือนทั้งมีอา เมอร์ลิน ชาลอต ซาช่า จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย โล่งอกไปที...กลับกันแล้วพวกเธอเป็นห่วงฉันสุดๆเลยชาลอตก็เอาแต่บอกว่า〝 นายท่านอย่าเสี่ยงไปคนเดียวแบบนั้นอีกเลยนะคะ! 〞ส่วนซาช่าก็〝 ตอนที่นายท่านกระโดดเข้าไปหาลูกบอลแปลกๆนั่น...

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 94 : บทปิดม่านของชายผู้ถูกความขลาดเขลากลืนกิน

    〝 อั๊ก!!! 〞 เจ้าชายออริออน... ริออนกุมมือขวาของตัวเองด้วยความเจ็บปวด เพราะได้รับผลกระทบจากการถูกยิง ต้องบอกว่าโชคดีเท่าไหร่แล้วที่อัญมณีรับความเสียหายแทนไปเกือบหมด ไม่งั้นมือของเขาคงขาดไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็เพราะความเจ็บปวดที่แล่นจากมือขวาไปสู่ทั่วทั้งร่างนี่แหล่ะ ทำให้ริออนดึงสติของตัวเองกลับมาได้อีกครั้งวูม!!!!!!———〝 อะ อา.... 〞 ริออนรำพึงอยู่ในลำคออย่างน่าเวทนา ในตอนที่แสงสีแดงจากวงเวทย์สว่างน้อยลงพร้อมๆกับวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ค่อยๆจางหายไปจากท้องฟ้ายามค่ำคืน จนในที่สุดแสงสว่างสีแดงฉานก็อันตรธานหายไปจากท้องฟ้า เช่นเดียวกับวงเวทย์ขนาดมหึมา ทำให้แสงจันทร์ส่องลงมาถึงพื้นดินอีกครั้ง แต่ยังคงมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวเนื่องด้วยความสับสนของชาวเมืองอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าทุกคนปลอดภัยดีแล้ว และไม่มีใครได้รับผลกระทบจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยซักคน ความสิ้นหวังเข้าคลุมสติของริออนในพริบตา อย่างที่เขาว่าไว้… เมื่อพริบตาที่ความหวังใกล้จะสัมฤทธิ์ผลถูกทำลายลง นั่นคือความสิ้นหวังอย่างที่สุด... และนั่นก็ทำให้สีหน้าของริออนเปลี่ยนจากสิ้นหวังไปเป็นอาฆาตแค้นแทน แ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 93 : การแสดงชั้นยอด

    〝 น่าตกใจจริงๆ… นี่รู้อยู่แล้วหรอกเหรอว่าข้าเป็นคนร้าย? 〞 เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง... เจ้าชายออริออนถามกรออกมาด้วยแววตาและท่าทางหยิ่งยโส พร้อมกับเป็นการยอมรับข้อกล่าวหาไปในตัว ว่าตัวเองคือคนร้ายตัวจริง ในขณะที่มองกรลงมาจากเบื้องบน〝 ก็นะ... เพิ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานมานี้เองแหล่ะ แสบจริงนะให้ตายสิ... 〞กรพูดออกมาพร้อมกับยิ้มแห้งๆ แล้วก็เดินเข้ามาทางเจ้าชายออริออนมากกว่าเดิม เหล่าสมุนเล็บโลหิตตั้งท่าเตรียมพร้อมโจมตีกันเต็มที่ แต่ยังไม่มีใครกล้าเริ่มโจมตีกรก่อน ทั้งด้วยความกลัวพลังที่ต่อกรกับพวกของตนระหว่างทางได้อย่างง่ายดาย แถมผ่านมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วนก็ด้วย แต่ประเด็นสำคัญคือจิตสังหารอันหนักอึ้ง ราวกับถูกน้ำตกซัดสาดนั่นของกรต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าขยับตัว〝 งั้นขอเข้าเรื่องเลยละกัน... 『อุปกรณ์ตัวหลัก』 อยู่ที่ไหน? 〞 กรเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกจนน่ากลัว นั่นทำให้เหล่าเล็บโลหิตจำนวนเกินครึ่งยืนตัวสั่นได้ ไม่สิ... แม้แต่ชายเผ่าปีศาจที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าชายออริออนยังแอบสั่นเลยด้วยซ้ำ มีเพียงโรนี่ที่ใจเย็

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 92 : คนร้ายตัวจริง

    หลังจากที่แอบย่องขึ้นมาบนชั้นสอง แล้วมองลอดเข้าไปในห้องที่จับสัมผัสวิญญาณได้พวกเราก็เจอกับเด็กผู้หญิงกำลังนั่งอยู่บนขอบระเบียงเป็นภาพที่น่าแปลก... เพราะเธอคนนั้นโปร่งแสงจนมองทะลุไปถึงท้องฟ้าที่เป็นฉากหลังเลยเนี่ยสิถ้างั้นก็ไม่ต้องสงสัย... เด็กคนนั้นคือวิญญาณที่กำลังตามหาอยู่แน่นอน กรคิดแบบนั้นพลางมองไปยังเด็กสาว ส่วนทางเด็กสาวนั้นกลับหันมามองทางกรในเวลาเดียวกัน〝 เอ่อ... ไม่ต้องหลบหรอกนะคะ คือหนูเห็นตั้งแต่เข้ามาในคฤหาสน์แล้วหล่ะค่ะ 〞เสียงกังวานของเด็กสาวพูดขึ้นมา โดยในน้ำเสียงมีความเอียงอายเล็กน้อย แล้วพอเด็กสาวพูดแบบนั้น กรก็ให้สัญญาณทุกคนเดินตามหลังเขาเข้ามาในห้องทันที〝 เข้าใจหล่ะ โทษทีนะที่บุกรุกเข้ามา 〞เมื่ออีกฝ่ายพูดอย่างสุภาพ ก็เป็นมารยาทเช่นกันที่กรจะตอบกลับไปแบบเดียวกัน〝 ไม่หรอกค่ะ... เอาจริงๆในรอบ 10 ปีมานี้มีคนเข้ามาในคฤหาสน์นับคนได้เลยหล่ะค่ะ มีคนบ้างแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน 〞เด็กสาวยิ้มตอบกรอย่างเป็นมิตร พร้อมกับลอยตัวจากขอบระเบียงมายืนอยู่ด้านหน้าของพวกกร สภาพแบบนั้นทำเอาพวกกรประหลาดใจไม่น้อย เว้นเสียแต่ซาช่าที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่〝 นี่เธอเป

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status