แชร์

บทที่ 43

ผู้เขียน: จิ้งเยี่ยน
“ท่านอ๋อง เมื่อครู่ข้าดื่มเยอะไปหน่อย ดังนั้นต้องไปทำธุระส่วนตัวสักครู่ เชิญท่านตามสบาย”

เฟิ่งเชียนอวี่หัวเราะแหะๆ เรื่องเช่นนี้ปล่อยให้ตงฟางจิ่งขายหน้าคนเดียวก็พอ ทว่ากำลังจะลุกขึ้น ก็ถูกตงฟางจิ่งคว้าแขนเอาไว้

“เรื่องทำธุระส่วนตัว ไปเมื่อไรก็ได้ อีกสักครู่ก็ถึงจวนอ๋องหกถวายของขวัญแล้ว เจ้าเป็นพระชายาของข้า การถวายของขวัญเป็นเรื่องสำคัญ จะขาดพระชายาได้อย่างไร”

เฟิ่งเชียนอวี่ “...”

นางสามารถมั่นใจได้ ผู้ชายชาติชั่วคนนี้จงใจแน่นอน

เฟิ่งเชียนอวี่หายใจเข้าลึกๆ เริ่มออกแรงปัดแขนของเขาอย่างลับๆ “ท่านอ๋อง ข้าทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เรื่องสำคัญอย่างการถวายของขวัญ ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องคนเดียวก็พอแล้ว”

ตงฟางจิ่งกล่าวอย่างเรียบเฉย “พูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก ดั่งคำที่ว่าสามีภรรยาร่างเดียวกัน ข้างกายข้าจะขาดใครก็ได้ แต่ห้ามขาดพระชายา”

เวลานี้เอง เสียงแหลมของขันทีที่ประกาศดังขึ้น

“จวนอ๋องหกถวายของขวัญ…”

ปัดโธ่ พลาดเวลาที่ดีที่สุดไปแล้ว คราวนี้อยากไปก็ไปไม่ได้แล้ว

เฟิ่งเชียนอวี่สะบัดแขนออกอย่างไม่สบอารมณ์ จ้องเขาแล้วกัดฟันกล่าว “ท่านอ๋องพอใจแล้วกระมัง”

ตงฟางจิ่งเหลือบมองนางแวบหนึ่งแล้วลุกขึ้น “ไปเถอะ พร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 44

    เฟิ่งเชียนอวี่ได้ยินแล้วประหลาดใจจนทำเสียง “จุๆ” พลางมองตงฟางจิ่งตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า“ท่านอ๋อง เป็นองค์ชายแบบท่านนี่มันร้ายกาจจริงๆ”นางได้ยินมานานแล้ว คนที่ฮ่องเต้เทียนหยวนโปรดปรานที่สุดก็คืออ๋องหกผู้ขี้โรคตงฟางจิ่งคนนี้ กระทั่งราษฎรในเมืองหลวงก็รู้เรื่องนี้แต่จนถึงวันนี้ เฟิ่งเชียนอวี่จึงจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่า โปรดปรานเพียงใดกันแน่เยี่ยม เฟิ่งเชียนอวี่มองตงฟางจิ่งอย่างยิ้มแย้ม ค่อนข้างพอใจสังคมยุคโบราณ ในฐานะที่เป็นองค์ชายคนหนึ่ง การได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้นั้นสำคัญมาก แม้แต่นางที่เป็นคนยุคปัจจุบันก็ยังรู้ถึงความสำคัญของมันฮ่องเต้ชอบลูกชายคนที่หกของตัวเอง นางที่เป็นสะใภ้หกคนนี้ ก็ย่อมถูกรักด้วยเช่นกันกระมังเฟิ่งเชียนอวี่นั่งฝันหวาน ยิ้มราวกับเป็นคนบ้า“พระชายา เจ้าน้ำลายไหลแล้ว”อะไรนะ?นางหวนคืนสติฉับพลัน มองดูสายตาที่รังเกียจอย่างชัดเจนของตงฟางจิ่ง รีบลูบมุมปาก พบว่าแห้งสนิท มีน้ำลายเสียที่ไหน?“ท่านอ๋อง แกล้งคนสนุกมากเลยหรือ?” เฟิ่งเชียนอวี่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ตงฟางจิ่งขมวดคิ้ว กล่าวอย่างเย็นชา “ก็แค่เตือนเจ้า อย่ายิ้มอย่างโง่เขลาเช่นนั้น อัปลักษณ์มาก”เฟิ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 45

    ตงฟางจิ่งลุกขึ้นยืน “เสด็จพ่อ ช่วงนี้พระชายาของหม่อมฉันเป็นหวัด สุขภาพไม่ดีนัก เรื่องถวายการระบำ เกรงว่าจะทำให้เสด็จพ่อผิดหวังแล้ว และหวังว่าเสด็จพ่อจะไม่กล่าวโทษ”อ่ะฮะ?เฟิ่งเชียนอวี่มองเขาอย่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าหมอนี่จะช่วยตนแก้สถานการณ์?เวลานี้เอง สายตาที่เย็นชาของตงฟางจิ่งมองมา นางเข้าใจในทันที รีบยกแขนเสื้อขึ้นมาปิดปาก ไอสองสามทีอย่างให้ความร่วมมือเฟิ่งหลิงหลงเอ่ยปากแล้ว ย่อมไม่ปล่อยให้เฟิ่งเชียนอวี่รอดตัวง่ายเช่นนี้“ฝ่าบาท ตอนนี้เป็นช่วงเข้าหน้าร้อน อากาศอบอุ่น ก็แค่ระบำหนึ่งบทเพลง คิดว่าคงไม่กระทบต่อสุขภาพของพระชายาอ๋องหกเพคะ”นางกล่าวพลางมองไปทางเฟิ่งเชียนอวี่แวบหนึ่ง “พระชายาอ๋องหก วันคล้ายวันราชสมภพของฝ่าบาทเป็นเรื่องสำคัญ ข้าคิดว่าท่านต้องยินดีถวายศิลปะแก่ฝ่าบาทแน่นอน ท่านว่าล่ะ?”เชี่ย ผู้หญิงชั่วคนนี้ไม่ยอมจบใช่ไหมเฟิ่งเชียนอวี่ลดแขนลงอย่างไม่สบอารมณ์ หรี่ตามองการแสดงออกที่ไร้อารมณ์ของนาง ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน จู่ๆ ก็ยิ้มอย่างสง่างามแล้วคำนับฮ่องเต้“เสด็จพ่อ แม้สุขภาพของหม่อมฉันไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร สามารถระบำอวยพรเสด็จพ่อ เป็นวาสนาของห

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 46

    ในฐานะที่เป็นนายหญิงของจวนตระกูลเฟิ่ง กลับพูดจาหยาบคายเหมือนแม่ค้าปากตลาด ช่างน่าขำจริงๆพลันหัวใจนางหลิ่วสั่นสะท้าน ไม่กล้าพูดอีกแล้ว แต่ในใจยิ่งเกลียดชังเฟิ่งเชียนอวี่จนกัดฟันแน่นภายในห้องเปลี่ยนชุดฝั่งตะวันออกชุดระบำของเฟิ่งเชียนอวี่เป็นชุดกระโปรงรุ้งเจ็ดสี สีสันสดใส งดงามอย่างยิ่งเหลิ่งหนิงกำลังช่วยนางเปลี่ยนชุด สีหน้ากังวลเล็กน้อย “พระชายา ทำไมท่านถึงตอบตกลงเฟิ่งหลิงหลงนั่นล่ะ? แค่ดูก็ดูว่าเป็นกับดัก”เฟิ่งเชียนอวี่โบกมือ “เดี๋ยวก่อน เจ้าเบาหน่อย กระโปรงนี้ทำมาจากไหม เจ้าดึงแรงเช่นนั้น ระวังดึงขาดเสียล่ะ”เหลิ่งหนิงเบะปาก “แต่งงามเช่นนี้มีประโยชน์อะไร? ถึงเวลาระบำไม่ได้ ก็ขายหน้าอยู่ดี”เฟิ่งเชียนอวี่ยังไม่ทันพูด เหลิ่งหานก็ตบศีรษะของเหลิ่งหนิงทีหนึ่ง“เจ้าพูดเช่นนี้กับพระชายาได้อย่างไร”เหลิ่งหนิงเบะปาก นางไม่ได้พูดอะไรผิดเสียหน่อย จากนั้นก็กลอกตาหนึ่งรอบ ดวงตาเป็นประกายเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่าง “พระชายา อีกเดี๋ยวตอนเฟิ่งหลิงหลงดีดพิณ ข้าทำสายพิณของนางขาดดีหรือไม่?”“ความคิดนี้เข้าท่า จะขายหน้าก็ต้องขายหน้าด้วยกัน”มุมปากเฟิ่งเชียนอวี่กระตุก “มันก็ไม่ถึงขั้นนั้น”เหล

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 47

    ตอนนั้น เพื่อนนักศึกษาคณะอื่นหัวเราะเยาะพวกนางว่า คณะแพทยศาสตร์เป็นหนอนหนังสือ วันๆ ไม่หมกตัวอยู่ในห้องเรียนก็ห้องวิจัยเฟิ่งเชียนอวี่ในตอนนั้น ในฐานะที่เป็นดาวประจำคณะแพทย์ ทั้งคณะมอบหมายหน้าที่สำคัญให้นาง นางไม่มีทางเลือก ได้แต่กัดฟันลุยแล้วในเมื่อนางตัดสินใจที่จะทำ ย่อมต้องอยากทำให้ดีที่สุดด้วยเส้นสายของครอบครัว เฟิ่งเชียนอวี่ได้เชิญครูสอนระบำโบราณที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งมาสอนและช่วยออกแบบท่าเต้นให้ตัวเองในมุมมองของเฟิ่งเชียนอวี่ นั่นเป็นสองเดือนที่ทำตัวเหลวไหลที่สุดในชีวิตวัยเรียนของนาง เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับระบำโบราณแต่ดีที่ผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างดีปัจจุบัน วิญญาณข้ามภพมาอยู่ในร่างเฟิ่งเชียนอวี่โบราณ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณสองเดือนที่ผ่านมาจริงๆ ทำให้นางไม่ถึงกับต้องขายหน้าในงานเลี้ยงพระราชวัง และไม่เป็นไปดั่งใจของใครบางคนตอนที่นางเรียนเต้น ไม่มีพื้นฐานเลยสักนิด มันลำบากมากจริงๆ เฉพาะด้านความยืดหยุ่นทางร่างกาย ก็ทำเอานางร้องไห้แล้วและตอนนี้เฟิ่งเชียนอวี่ก็รู้สึกปลื้มปีติอย่างคาดคิดไม่ถึง นางสังเกตตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว ร่างกายร่างนี้ของตัวเองมีความยืดหยุ่นสูงมากเมื่อเป็นเช่นนี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 48

    สายตาต่างๆ พากันมองไปที่ตัวเฟิ่งหลิงหลง นอกจากทุกคนตกใจแล้ว ยังอดไม่ได้ที่จะปิดจมูกด้วยสีหน้ารังเกียจคุณหนูผู้สูงศักดิ์เหล่านั้นยิ่งพากันอุทาน และถึงขั้นลุกออกจากที่นั่ง พากันถอยหลังทีละคน“สวรรค์ เฟิ่งหลิงหลงไปกินอะไรมาเนี่ย เหม็นจัง”“คิดไม่ถึงจริงๆ เฟิ่งหลิงหลงปกติดูเย็นชาและเย่อหยิ่งเช่นนั้น กลับเสียมารยาทเช่นนี้ในที่สาธารณะ”“ไม่ไหวแล้ว เหม็นมาก น่าขยะแขยง ข้าจะอ้วกแล้ว”เมื่อคำพูดที่ไม่น่าฟังเหล่านี้เข้าหู ราวกับมีมีดแทงใส่ร่างกายเฟิ่งหลิงหลงอย่างแรง ทำให้นางอับอายมากแต่ตอนนี้นางไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากมายเช่นนั้น เพราะนางปวดท้องมาก ปวดจนจะตายอยู่แล้วเวลานี้เอง ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้น“ดูจากท่าทางคุณหนูใหญ่เฟิ่ง คงจะไม่ได้ขี้แตกแล้วกระมัง”ในที่สุดเฟิ่งหลิงหลงก็ทนไม่ไหวแล้ว พลันเหลือกตาเป็นลมไปโดยตรงงานเลี้ยงพระราชวังดีๆ งานหนึ่ง แรกเริ่มก็เพราะเฟิ่งหลิงหลงทำให้ฮ่องเต้เทียนหยวนไม่พอใจ ปรากฏว่าเมื่อถึงตอนท้าย เฟิ่งหลิงหลงก็มาเป็นเช่นนี้อีกงานเลี้ยงพระราชวังดีๆ ต้องมาพัง สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนเคร่งขรึมมาก เขาพ่นลมออกจากจมูกอย่างเย็นชา ในที่สุดก็ไม่เกรงใจอีกแล้ว สั่งให้คนล

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 49

    จวนตระกูลเฟิ่ง‘ปัง’ เสียงดังสนั่น ภายในเรือนหลังหนึ่งของเรือนส่วนหลังเละเทะไปหมดเฟิ่งหลิงหลงสวมชุดชั้นในสีขาว เส้นผมกระจัดกระจาย สีหน้าซีดเซียว เบ้าตาแดงก่ำ คอเสื้อเปื้อนน้ำตา เรียกได้ว่าร้องไห้อย่างอนาถ“ไสหัวไป ไสหัวไปให้หมด”ภายในห้อง สาวใช้เล็กใหญ่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างสั่นเทานางหลิ่วรีบมาทางนี่ “ลูกแม่ นี่เจ้าจะทำอะไร นี่เป็นยาที่หมอจ่ายให้เจ้า เจ้าทุบทิ้งทำไม”“ท่านแม่ ลูกควรทำอย่างไร ลูกจบสิ้นแล้ว”ในงานเลี้ยงพระราชวังเมื่อวาน นางขายหน้าเช่นนั้น นางไม่ต้องคิดก็รู้ว่าตัวเองกลายเป็นตัวตลกของเมืองหลวงอย่างสมบูรณ์แล้วทุกครั้งที่นึกถึงตรงนี้ เฟิ่งหลิงหลงก็รู้สึกอับอายจนอยากตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด ตอนนี้นางไม่กล้าออกจากบ้านด้วยซ้ำ“ถุยๆ พูดเหลวไหลอะไร จบสิ้นอะไร”นางหลิ่วตบแขนนางอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขนอย่างปวดใจ “ลูกแม่ พวกเราไม่คิดฟุ้งซ่านนะ”“เมื่อนานวันเข้า ก็จะไม่มีใครจำเรื่องเมื่อวานได้แล้ว”เฟิ่งหลิงหลงส่ายศีรษะฉับพลัน “ไม่มีทาง ตอนนี้ชื่อเสียงของลูกป่นปี้หมดแล้ว ท่านแม่ ทำอย่างไรดี ฮือๆ…”นางหลิ่วลำบากใจมากเช่นกัน นางก็รู้ว่าคำปลอบใจของตั

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 50

    ครั้งนี้หลิวซูเร่งเร้าต่อ ไม่ได้ตามใจนาง“พระชายา ท่านอ๋องมาแล้ว กำลังรอท่านกินอาหารเช้าด้วยกัน ท่านรีบลุกดีกว่าเจ้าค่ะ”ฮืม?ตงฟางจิ่งมาแล้ว?เฟิ่งเชียนอวี่ตื่นตัวขึ้นหลายส่วน เปิดตาที่พร่ามัวขึ้น บิดขี้เกียจทีหนึ่ง หน้าทั้งใบย่นทันทีเชี่ย เกิดอะไรขึ้น เวลานี้เอง นางรู้สึกเพียงร่างกายไร้เรี่ยวแรงและปวดเมื่อย อีกทั้งยังรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย ตื่นตัวเกินกว่าครึ่งทันทีคงไม่ได้เพราะผ้าเช็ดหน้าผืนเมื่อวาน ตัวเองก็พลาดท่าแล้วกระมัง?เป็นไปไม่ได้นี่นา นางกินยาถอนพิษแล้ว ของเล่นเช่นนั้นไม่มีผลต่อนางจึงจะถูกสิเฟิ่งเชียนอวี่กอดหมอนลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก สีหน้าอมทุกข์ รู้สึกไม่สบายตัวไปเลย“หลิวซู เหมือนข้าจะป่วยแล้ว”เมื่อหลิวซูได้ยินก็ตกใจจนสะดุ้ง รีบยกมืออังหน้าผากของนาง จากนั้นก็สงสัย “พระชายา หน้าผากท่านก็ไม่ร้อนนี่นา อุ่นปกติ”นางโบกมือ “ไม่ได้เป็นไข้ แต่มันรู้สึกไม่สบาย พูดแล้วเจ้าก็ไม่เข้าใจ”พลันเฟิ่งเชียนอวี่ดึงผ้าห่มออก หลิวซูเบิกตากว้างทันที มองไปตรงที่ที่หนึ่ง “พระชายา”อะไรอีก?นางขมวดคิ้ว ก้มมองตามสายตาของหลิวซู พลันถึงกับสูดลมเย็นเข้าปอดไปทีหนึ่งทันทีนี่มันบ้า

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 51

    เฟิ่งเชียนอวี่ยังอยู่ด้านหลังฉาก สวมใส่ผ้าอนามัยแบบโบราณด้วยความงุ่มง่าม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดสดชื่น คนถึงได้ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกได้“พระชายา ท่านอ๋องยังรอท่านอยู่อีก” หลิวซูพูดเตือนออกมานางเม้มปาก ก่อนจะลูบท้องแล้วเดินออกไปและไม่รู้ว่าตงฟางจิ่งถูกลมแบบไหนพัดมาตั้งแต่เช้า ถึงวิ่งมาทานอาหารเช้าที่เรือนของนางในศาลาลานบ้านตงฟางจิ่งกำลังนั่งดื่มชาในชุดคลุมสีขาวอยู่ตรงนั้น บนโต๊ะหินมีชามโจ๊กและเครื่องเคียงมากมายพร้อมกับของว่างวางเอาไว้เฟิ่งเชียนอวี่เบิกตากว้างจ้องมองไป แล้ววิ่งก้าวใหญ่สามก้าวรวบเป็นสองก้าวไปตงฟางจิ่งเมื่อเห็นเข้าก็ขมวดคิ้วออกมา “วิ่งกระโดดไปมาเหมือนอะไรกัน? เจ้าจะไม่อาจเดินดีๆ ได้หรืออย่างไร?”นางไม่ได้ใส่ใจ รีบนับจานบนโต๊ะอย่างเร็ว จากนั้นชี้ไปยังจานหนึ่งในนั้น มองไปที่หลิวซู “นี่คืออะไร?”“พระชายา นี่คือซุปบ๊วยเขียวทอง”“ถ้าเช่นนั้นอันนี้เล่า?”“นี่คือเถียนเหอจิน”“ยังมีอันนี้?”“นี่เป็นขนมดอกชบาและแปะก๊วย”เฟิ่งเชียนอวี่หยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วกัดไปคำหนึ่ง เนื้อสัมผัสกรอบและนุ่มเอาชนะต่อมรับรสของนางได้อาหารในสมัยโบราณอาจจะไม่ได้เข้มข้นแ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 206

    “...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 205

    “เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 204

    “เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status