Share

บทที่ 49

Author: จิ้งเยี่ยน
จวนตระกูลเฟิ่ง

‘ปัง’ เสียงดังสนั่น ภายในเรือนหลังหนึ่งของเรือนส่วนหลังเละเทะไปหมด

เฟิ่งหลิงหลงสวมชุดชั้นในสีขาว เส้นผมกระจัดกระจาย สีหน้าซีดเซียว เบ้าตาแดงก่ำ คอเสื้อเปื้อนน้ำตา เรียกได้ว่าร้องไห้อย่างอนาถ

“ไสหัวไป ไสหัวไปให้หมด”

ภายในห้อง สาวใช้เล็กใหญ่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างสั่นเทา

นางหลิ่วรีบมาทางนี่ “ลูกแม่ นี่เจ้าจะทำอะไร นี่เป็นยาที่หมอจ่ายให้เจ้า เจ้าทุบทิ้งทำไม”

“ท่านแม่ ลูกควรทำอย่างไร ลูกจบสิ้นแล้ว”

ในงานเลี้ยงพระราชวังเมื่อวาน นางขายหน้าเช่นนั้น นางไม่ต้องคิดก็รู้ว่าตัวเองกลายเป็นตัวตลกของเมืองหลวงอย่างสมบูรณ์แล้ว

ทุกครั้งที่นึกถึงตรงนี้ เฟิ่งหลิงหลงก็รู้สึกอับอายจนอยากตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด ตอนนี้นางไม่กล้าออกจากบ้านด้วยซ้ำ

“ถุยๆ พูดเหลวไหลอะไร จบสิ้นอะไร”

นางหลิ่วตบแขนนางอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขนอย่างปวดใจ “ลูกแม่ พวกเราไม่คิดฟุ้งซ่านนะ”

“เมื่อนานวันเข้า ก็จะไม่มีใครจำเรื่องเมื่อวานได้แล้ว”

เฟิ่งหลิงหลงส่ายศีรษะฉับพลัน “ไม่มีทาง ตอนนี้ชื่อเสียงของลูกป่นปี้หมดแล้ว ท่านแม่ ทำอย่างไรดี ฮือๆ…”

นางหลิ่วลำบากใจมากเช่นกัน นางก็รู้ว่าคำปลอบใจของตั
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 50

    ครั้งนี้หลิวซูเร่งเร้าต่อ ไม่ได้ตามใจนาง“พระชายา ท่านอ๋องมาแล้ว กำลังรอท่านกินอาหารเช้าด้วยกัน ท่านรีบลุกดีกว่าเจ้าค่ะ”ฮืม?ตงฟางจิ่งมาแล้ว?เฟิ่งเชียนอวี่ตื่นตัวขึ้นหลายส่วน เปิดตาที่พร่ามัวขึ้น บิดขี้เกียจทีหนึ่ง หน้าทั้งใบย่นทันทีเชี่ย เกิดอะไรขึ้น เวลานี้เอง นางรู้สึกเพียงร่างกายไร้เรี่ยวแรงและปวดเมื่อย อีกทั้งยังรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย ตื่นตัวเกินกว่าครึ่งทันทีคงไม่ได้เพราะผ้าเช็ดหน้าผืนเมื่อวาน ตัวเองก็พลาดท่าแล้วกระมัง?เป็นไปไม่ได้นี่นา นางกินยาถอนพิษแล้ว ของเล่นเช่นนั้นไม่มีผลต่อนางจึงจะถูกสิเฟิ่งเชียนอวี่กอดหมอนลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก สีหน้าอมทุกข์ รู้สึกไม่สบายตัวไปเลย“หลิวซู เหมือนข้าจะป่วยแล้ว”เมื่อหลิวซูได้ยินก็ตกใจจนสะดุ้ง รีบยกมืออังหน้าผากของนาง จากนั้นก็สงสัย “พระชายา หน้าผากท่านก็ไม่ร้อนนี่นา อุ่นปกติ”นางโบกมือ “ไม่ได้เป็นไข้ แต่มันรู้สึกไม่สบาย พูดแล้วเจ้าก็ไม่เข้าใจ”พลันเฟิ่งเชียนอวี่ดึงผ้าห่มออก หลิวซูเบิกตากว้างทันที มองไปตรงที่ที่หนึ่ง “พระชายา”อะไรอีก?นางขมวดคิ้ว ก้มมองตามสายตาของหลิวซู พลันถึงกับสูดลมเย็นเข้าปอดไปทีหนึ่งทันทีนี่มันบ้า

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 51

    เฟิ่งเชียนอวี่ยังอยู่ด้านหลังฉาก สวมใส่ผ้าอนามัยแบบโบราณด้วยความงุ่มง่าม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดสดชื่น คนถึงได้ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกได้“พระชายา ท่านอ๋องยังรอท่านอยู่อีก” หลิวซูพูดเตือนออกมานางเม้มปาก ก่อนจะลูบท้องแล้วเดินออกไปและไม่รู้ว่าตงฟางจิ่งถูกลมแบบไหนพัดมาตั้งแต่เช้า ถึงวิ่งมาทานอาหารเช้าที่เรือนของนางในศาลาลานบ้านตงฟางจิ่งกำลังนั่งดื่มชาในชุดคลุมสีขาวอยู่ตรงนั้น บนโต๊ะหินมีชามโจ๊กและเครื่องเคียงมากมายพร้อมกับของว่างวางเอาไว้เฟิ่งเชียนอวี่เบิกตากว้างจ้องมองไป แล้ววิ่งก้าวใหญ่สามก้าวรวบเป็นสองก้าวไปตงฟางจิ่งเมื่อเห็นเข้าก็ขมวดคิ้วออกมา “วิ่งกระโดดไปมาเหมือนอะไรกัน? เจ้าจะไม่อาจเดินดีๆ ได้หรืออย่างไร?”นางไม่ได้ใส่ใจ รีบนับจานบนโต๊ะอย่างเร็ว จากนั้นชี้ไปยังจานหนึ่งในนั้น มองไปที่หลิวซู “นี่คืออะไร?”“พระชายา นี่คือซุปบ๊วยเขียวทอง”“ถ้าเช่นนั้นอันนี้เล่า?”“นี่คือเถียนเหอจิน”“ยังมีอันนี้?”“นี่เป็นขนมดอกชบาและแปะก๊วย”เฟิ่งเชียนอวี่หยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วกัดไปคำหนึ่ง เนื้อสัมผัสกรอบและนุ่มเอาชนะต่อมรับรสของนางได้อาหารในสมัยโบราณอาจจะไม่ได้เข้มข้นแ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 52

    เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เฟิ่งเชียนอวี่กลับเหมือนได้ระบายออกมา ทันใดนั้นอารมณ์ก็เปลี่ยนไปดีขึ้นมา แล้วเริ่มทานอาหารอย่างมีความสุขตงฟางจิ่งหลับตาลง ลอบพูดกับตนเองในใจว่า หญิงสาวคนนี้ช่างแปลกประหลาดนัก หากว่ามาโมโหนางก็คงจะไม่คู่ควร เพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่โมโหก็มีเพียงแค่ตนเองเท่านั้นทันใดนั้น ปลายจมูกเขาก็ขยับขึ้นมาเล็กน้อย จับจ้องนางขึ้นๆ ลงๆ ก่อนจะขมวดคิ้วออกมา “บนกายเจ้ามีกลิ่นคาวเลือดมาจากที่ใดกัน เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่ที่เพิ่งจะกินโจ๊กเข้าไปอีกเพียงนิดก็แทบจะพ่นออกมา กระแอมอยู่ครั้งไม่ง่ายเลยที่กลับมาหายใจได้คล่องขึ้น ก่อนจะตบไปที่หน้าอกด้วยใบหน้าแปลกประหลาดเจ้าหมอนี่มีจมูกสนัขหรืออย่างไรกัน นี่ก็ได้กลิ่นด้งบ?นางดมไปยังเสื้อผ้าด้วยความระมัดระวัง ก็ได้กลิ่นเพียงแค่กลิ่นหอมน่าพึงพอใจเท่านั้นเฟิ่งเชียนอวี่เหลือบมองเขาอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “ท่านอ๋องได้กลิ่นผิดไปแล้วกระมัง จะไปมีกลิ่นคาวเลือดจากที่ไหนได้ตงฟางจิ่งหรี่ตาลง เขาไวต่อกลิ่นเลือดมาก ไม่มีทางที่จะได้กลิ่นผิดไป ก่อนจะมองไปยังหลิวซูแล้วออกคำสั่ง “ไปเชิญท่านหมอมา”สีหน้าของเฟิ่งเชียนอวี่เปลี่ยนไป ไม่คิด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 53

    “ไม่ต้อง”เฟิ่งเชียนอวี่โบกมือออกมา เพียงแค่สิวเม็ดเดียวเท่านั้น จะต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนที่ไหนกันนางคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พวกเจ้าไปช่วยข้าเตรียมของเหล่านี้ ว่านหางจระเข้ กุหลาบ น้ำผึ้ง น้ำมันสน...”หลิวซูไม่เข้าใจ แต่ก็ยังออกไปเตรียมมา มอบเรื่องการแต่งกายให้อิ้งเสวี่ยหลังจากกินอาหารเสร็จ เฟิ่งเชียนอวี่ก็เริ่มศึกษาเตรียมทำมาส์กหน้าที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและกำจัดสิวด้วยตนเองนางบดยาในโถด้วยความสนใจ ก่อนจะมองเห็นด้านในกลายเป็นกลุ่มก้อนสีเขียว ดมอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนสดชื่นออกมา แล้วพยักหน้าด้วยความพอใจเฟิ่งเชียนอวี่หยิบขึ้นมาตักไปชั้นหนึ่ง ก่อนจะเริ่มทาไปทั่วใบหน้าในเวลานี้ หลิวซูก็ถือชาหอมเดินเข้ามา “พระชายา ลองชิมชานี้เถอะ บ่าวตั้งใจชงมันกับน้ำค้างที่เก็บรวบรวมมาในตอนเช้าเชียวนะเจ้า...”นางยังไม่ทันได้พูดจบ ก็พบใบหน้าอันน่าสังเวชของเฟิ่งเชียนอวี่ที่เต็มไปด้วยโคลนสีเขียว ก็รีบกรีดร้องเสียงแหลมด้วยความตกใจออกมาทันที ชาเขียวกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้องหนังสือของเรือนหน้า ตงฟางจิ่งกำลังฝึกเขียนพู่กันอยู่หูและดวงตาของเขาที่ไม่ธรรมดาก็ได้ยินเสียงนี้เข้า ท่าทางการเขียนที่เดิม

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 54

    “พระชายา ผิวของข้าน้อยดูเหมือนว่าจะดีขึ้นไม่น้อย”“ใช่เจ้าคะ อีกทั้งยังนุ่มลื่นกว่าเดิมมาก”“หย๋า พระชายา สิวตรงหน้าผากของท่านก็หายไปแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่มองไปยังใบหน้าประหลาดใจของพวกนางด้วยความภาคภูมิใจเหล่าสาวใช้ที่คอยทำความสะอาดอยู่ด้านนอกเรือน ต่างก็พากันลอบมองไปยังด้านใน ทั้งอยากรู้และอิจฉา“พระชายา โคลนสีเขียวของท่านยังมีอีกหรือไม่เจ้าคะ แบ่งให้พวกเราสักน้อยเถอะ” เหลิ่งหนิงที่มีบุคลิกสบายๆ ไม่ใส่ใจมากนัก และไม่รู้จักเกรงใจแม้แต่น้อยเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตาไปมา “โคลนสีเขียวอะไรกัน นั่นเรียกว่ามาส์กหน้า”ขณะที่นางพูดออกมานั้น จู่ๆ ก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา “จุ ทำไมข้าถึงได้ไม่คิดถึงเรื่องนี้เล่า ไม่ว่าจะที่ใด เงินของหญิงสาวก็ล้วนแต่ทำรายได้มากที่สุดอยู่แล้ว”นอกจากนี้แล้ว ที่นี่เป็นเมืองหลวง ที่ไม่ขาดก็คือภรรยาของเหล่าขุนนาง และพวกคุณหนูตระกูลมั่งคั่งที่มีเงินมากมายแต่ไม่มีที่ให้ใช้ “หากว่าข้าเปิดร้านสินค้าประทินผิว และเครื่องสำอางแล้ว การค้าจะต้องดีมากอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น เงินทองจะไหลมาเทมาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกเหรอ?”เฟิ่งเชียนอวี่คิดไป ก็รา

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 55

    “เครื่องสำอางพวกนั้น ข้าว่าจะเรียกว่าเครื่องสำอางก็คงจะได้ ทว่าไม่อาจจะเทียบกับที่ข้าทำได้เลย ขอเพียงแค่ข้าสามารถเปิดร้านได้ จะต้องทำเงินได้อย่างแน่นอน”ตงฟางจิ่งหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด “ที่พระชายาเรียกว่าตนเองทำนั้น ก็คือโคลนสีเขียวที่เจ้าศึกษามันเมื่อไม่กี่วันนี้ในเรือนเจ้าอย่างนั้นหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่โต้แย้งทันที “โคลนเขียวอะไรกัน นั่นเขาเรียกว่ามาสก์หน้า มาสก์หน้า ท่านไม่เข้าใจก็อย่าเรียกมั่วๆ ไป”ตงฟางจิ่งเองก็คร้านจะแก้ไขมัน อย่างไรเสียเขาก็มองว่า ของสีเขียวนั่นไม่รู้ว่าเป็นของเล่นบ้าอะไร หากว่ามีคนซื้อก็คงจะเรียกได้ว่าถูกผีหลอกเข้าแล้ว “หากว่าข้าไม่อนุญาตให้เจ้าเปิดเล่า?”เฟิ่งเชียนอวี่คิดเอาไว้แล้วว่าขาจะต้องมาไม้นี้ ก็ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย ส่งเสียงฮึมฮัมออกมา ก่อนจะพูดออกมาอย่างได้ใจว่า “ท่านอ๋อง ท่านอาจจะลืมเรื่องหนึ่งไปแล้ว”“จำได้ในตอนนั้น ที่ข้ารักษาพิษเหมันต์ให้ท่านั้น ท่านบอกว่าจะรับปากคำขอของข้าสี่ข้อ ข้าให้ไปหนึ่งข้อเพื่อแลกกับการออกนอกจวนอย่างอิสระแล้ว ตอนนี้ข้าจะใช้ข้อที่สอง ข้าจะเปิดร้าน”นางพูดออกมาทีละคำทีละตัวอักษรตงฟางจิ่งสีหน้าไม่เปลี่ยนไปนัก ครั้งน

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 56

    สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นโอกาสทางการค้าเฟิ่งเชียนอวี่พิมพ์ลงเป็นแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ความคิดของนางผุดขึ้นมา โผล่ขึ้นมาอย่างไม่สิ้นสุด ทำให้นางตื่นเต้นเป็นอย่างมากและจากที่ใคร่ครวญแล้ว สินค้าเครื่องสำอาง ในตอนแรกเริ่มไม่ควรมีหลากหลายประเภท ให้แบ่งตามประเภทผิวสองประเภท ผิวแห้งและผิวมันอย่างละหนึ่งชุด จากนั้นค่อยเลือกสินค้าอีกสองสามชิ้นในนั้นก็พอแล้วเมื่อกำหนดประเภทแล้ว ก็จำเป็นต้องซื้อวัตถุดิบจำนวนมากในการผลิตสินค้าเหล่านี้ นอกจากนี้แล้ว ด้วยแรงของนางเพียงคนเดียว จะต้องไม่เพียงพอต่อความต้องการของร้านได้เช่นนั้นก็ต้องรับสมัครคน...หลังจากที่เฟิ่งเชียนอวี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ หากว่าไม่ทำก็ไม่รู้ ทำไปแล้วถึงได้ค้นพบ การเปิดร้านจะต้องมีสิ่งที่ใคร่ครวญเยอะมากจริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนางบ่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมจำนนแล้วต่อสู้กันต่อไป แล้วลอบปลอบใจตัวเองเงียบๆความลำบากในตอนนี้ ก็เพื่อที่ต่อไปจะทำเงินได้มากยิ่งกว่านี้ ต่อให้จะเหนื่อยล้า ก็เป็นเพียงแค่ความเหนื่อยในตอนเริ่มต้น รอเมื่อกิจการดำเนินไปด้วยดีแล้ว นางก็สามารถวางมือแล้วนอนรอเก็บเงินที่บ้านได้ว

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 57

    อวิ๋นจิ่นเซ่อถูกเรียกว่าเผด็จการ ครอบงำ เพราะถึงแม้ว่าชายหนุ่มบนพื้นจะร้องขอชีวิต นางก็ไม่มีทางปล่อยผ่านไปได้โดยง่าย แส้ในมือเหวี่ยงไปมาอย่างยืดหยุ่น ก่อนจะกระแทกไปยังเขาอย่างแรงสองสามครั้ง ถึงได้หยุดลงชายหนุ่มบนพื้นถูกเด็กรับใช้ยกขึ้นแล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าไม่ได้เห็นความครื้นเครงแล้ว ชาวบ้านที่อยู่รอบข้างต่างก็พากันล่าถอยและสลายตัวออกไปเฟิ่งเชียนอวี่มองไปยังอวิ๋นจิ่นเซ่ออย่างประหลาดใจ จู่ๆ สายตาของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนเป็นหันมามองตรงมา ทั้งสองคนสบตากันหัวใจของนางเต้นรัว และเมื่อเห็นว่าอวิ๋นจิ่นเซ่อยังเดินตรงมายังนาง ก็เปิดพัดขึ้นมาปิดใบหน้าของนางกว่าครึ่งโดยไม่รู้ตัว แล้วบ่นพึมพำออกมา“นางเดินมาทำไม? คงไม่ใช่ว่าจำข้าได้ใช่หรือไม่? ไม่ควรนะ พวกเราทั้งสองคนไม่ได้คุ้นเคยกัน”อวิ๋นจิ่นเซ่อมายืนอยู่ตรงเบื้องหน้าของนาง สองมือประสานเอาไว้ตรงหน้าอก จับจ้องใบหน้านางมองยังนางด้วยสีหน้าแปลกประหลาดเฟิ่งเชียนอวี่กระแอมออกมาเบาๆ “คุณหนูท่านนี้ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”“ข้ามักจะรู้สึกว่า ใบหน้าของเจ้าดูคุ้นเคย พวกเราสองคนเคยพบกันที่ไหนมาก่อนใช่หรือไม่?”อวิ๋นจิ่นเซ่อพูดออกมาอย่าค

Latest chapter

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 206

    “...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 205

    “เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 204

    “เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status