นางปรนนิบัติฮ่องเต้เทียนหยวนมานานหลายปีขนาดนี้ ย่อมเข้าใจอุปนิสัยของฮ่องเต้เทียนหยวนฮ่องเต้เทียนหยวนไม่ได้ตำหนิอัครเสนาบดีเฟิ่งทันที เห็นได้ชัดว่าในใจยอมรับข้อคิดเห็นแบบนี้แล้ว เต๋อเฟยจะอดทนต่อผลลัพธ์เช่นนี้ได้อย่างไร“ร้องไห้ทำไม เราทุกข์ใจมากพอแล้ว”“ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะให้เราทำอย่างไร? เจ้าสามมีสภาพเช่นนั้น ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี เจ้าอยากจะให้แคว้นตงเยว่ของข้าเป็นจุดอ่อนที่น่าขันของแคว้นอื่นหรือไร?”สีหน้าของฮ่องเต้เทียนหยวนดูแย่ กล่าวด้วยอารมณ์ไม่ดี“อีกอย่าง เรายังไม่ได้พูดว่าจะให้เจ้าสามไปตาย เจ้าร้องไห้อย่างโศกเศร้ากลางวันแสก ๆ ทำไมกัน?”การจัดการเรื่องของตงฟางเย่า ก็ไม่ใช่มีเพียงวิธีที่ต้องเอาชีวิตเขาเพียงวิธีเดียว แต่ผลลัพธ์สุดท้าย สถานะองค์ชายของเขา เกรงว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้วถ้าหากเป็นเช่นนี้ ก็นับว่าไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิงฮ่องเต้เทียนหยวนหันหน้ามองหมอหลวง ขมวดคิ้วกล่าวทันที “รีบใช้ยา”ตอนนี้เขาไม่อยากจะเห็นท้องที่ใหญ่ราวกับลูกบอลนั่นของตงฟางเย่าแม้แต่อีกนิดเดียว ยิ่งเห็นก็ยิ่งว้าวุ่นใจ“ไม่ได้”เต๋อเฟยรีบโต้แย้ง“ฝ่าบาท ไม่ได้เพคะ ก่อนหน้านี้หมอหลว
แต่ว่า...เมื่อตงฟางเย่าก้มหน้ามองท้องของตนเองอีกครั้ง ตั้งครรภ์? เฮอะ ไม่คิดเลยว่าจะมีเด็กอยู่ในท้องผู้ชายอย่างตนความเคียดแค้นและโศกเศร้าที่เดิมทีเต็มหัวใจของเขา เมื่อมองเห็นร่างกายที่สภาพเหมือนผีของตนเอง ก็ห่อเหี่ยว เหมือนกับลูกบอลที่ถูกแทงให้แตก สภาพกลายเป็นแบบนี้ ตัวเขาเองยังรังเกียจตัวเอง เขาไม่ใช่ปีศาจ ไม่ใช่จุดด่างพร้อยหรืออย่างไร? เขามีชีวิตอยู่ต่อไปจะมีความหมายอะไร?เฟิ่งเชียนอวี่เหลือบมองเขาเล็กน้อย เลิกคิ้ว กล่าวอย่างหยอกล้อ “ท่านอ๋องสาม ท่านเป็นหนึ่งในคนสุดยอดที่ข้าเคยเห็นมาก่อนเลยนะ”“เรื่องที่ชายหญิงสามารถทำได้ ท่านสามารถทำได้ทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีได้”บริเวณขมับของตงฟางเย่าเต้นตุบ ๆ ค้อนเขาอย่างดุร้าย น้ำเสียงแหบแห้ง“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ อยากจะเยาะเย้ยข้า เจ้ายังไม่มีสิทธิ์นั้น ไม่ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยตอนนี้ ข้าก็ยังเป็นท่านอ๋องสามแห่งแคว้นตงเยว่ เจ้านักพรตชั่ว มีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยข้ากัน?”เมื่อพูดถึงประโยคหลัง น้ำเสียงก็สะอึกขึ้นมาทันทีอย่างคาดไม่ถึง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ถึงขนาดที่หางตาเปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อยเฟิ่งเช
“พูดง่าย ๆ ในสถานการณ์ปกติ ผู้ชายไม่มีทางตั้งท้องได้ ในท้องของท่านอ๋องสามแค่มีก้อนเนื้อก้อนหนึ่งเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง”ทุกคนมองหน้ากัน ทุกคนต่างไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ฮ่องเต้เทียนหยวนก็งุนงงเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “นักพรตเฟิงพูดจาให้เข้าใจหน่อยได้หรือไม่”“ฝ่าบาทอย่าทรงร้อนพระทัย ข้าย่อมต้องอธิบายให้ฝ่าบาทกับทุกท่านเข้าใจแน่นอน”“ในท้องของท่านอ๋องสาม ไม่ใช่เด็กทารกธรรมดา แต่เป็นแฝดปรสิต”เฟิ่งเชียนอวี่นึกถึงอาการนี้ขึ้นมาได้ในระหว่างการเดินทาง พูดตามความน่าจะเป็น อาการของตงฟางเย่า สอดคล้องกับอาการของแฝดปรสิตมากกว่าแฝดปรสิต หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาวะทารกในครรภ์ ในยุคสมัยปัจจุบัน ก็คือโรคที่ค่อนข้างพบเจอได้ยากชนิดหนึ่ง มีด้วยกันอยู่สองประเภทคือแฝดปรสิตร่วมไข่กับปรสิตต่างไข่ในระหว่างช่วงเวลาที่มารดาตกไข่ ทั้งหมดจะระบายไข่ที่พร้อมปฏิสนธิออกมาสองใบ ไข่สองใบนี้แบ่งเป็นท้องจริงและท้องลม หรือเรียกว่าเป็นท้องฝาแฝดก็ได้เช่นกันเพียงแต่ว่า อันหนึ่งคือทารกที่สมบูรณ์ อีกอันหนึ่งคือทารกที่ไม่สมบูรณ์ครรภ์ไม่สมบูรณ์ ถูกครรภ์ที่สมบูรณ์ดูดข้าไปในร่างกายตอนที่อยู่ในครรภ์ เจริญเติบ
คณะหมอหลวงถูกด่าจนรู้สึกเสียใจมาก อาการป่วยที่คาดไม่ถึงเช่นนี้พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน จะรู้ได้อย่างไรเป็นอีกวันหนึ่งที่ถูกเจ้านักพรตบ้านี่ตบหน้าเฟิ่งเชียนอวี่เดินเข้าไปในห้องคนเดียวอีกครั้ง นำตัวตงฟางเย่าเข้าไปในห้องทดลองเพื่อทำการผ่าตัด เพื่อนำก้อนเนื้อในท้องของเขาออกมา จากนั้นเย็บแผลแล้วทายา“ฝ่าบาท แฝดปรสิตในท้องของท่านอ๋องสามถูกนำออกมาแล้ว พระองค์กับพระนางเต๋อเฟยอยากทอดพระเนตรหรือไม่? ถึงอย่างไร...”ประโยคหลังนางไม่ได้พูดออกมา แต่ใครต่างก็เข้าใจความหมายของนาง อดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออกฮ่องเต้เทียนหยวนกระตุกมุมปาก สายตาเหลือบมองกะละมังเหล็กที่ถืออยู่ในมือของนางกำนัลที่อยู่ด้านข้าง ด้านบนกะละมังเหล็กถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าผืนหนึ่งเขาโบกมือ “ไม่ต้องหรอก นำออกไปจัดการให้เรียบร้อย”เฟิ่งเชียนอวี่กล่าวช้า ๆ “ท่านอ๋องสามไม่มีอาการร้ายแรงแล้ว ก่อนวันพรุ่งนี้ก็จะฟื้นขึ้นมา”ในเวลานี้ หมอหลวงคนหนึ่งในนั้นก็เอ่ยถามขึ้น “ไม่ทราบว่า สิ่งที่เรียกว่าแฝดปรสิต นักพรตเฟิงนำออกมาจากในร่างกายของท่านอ๋องสามได้อย่างไร?”ถ้าเป็นผู้หญิงละก็ สามารถใช้ยาชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์ ขับออกมาจากอวัยวะสืบพั
“การผ่าตัด” เฟิ่งเชียนอวี่เตือนเขาพยักหน้า “ใช่ ตอนที่ทำการผ่าตัด จะต้องถอดเสื้อผ้าออกเพื่อผ่าตัดใช่หรือไม่”“ใช่นะสิ” ในเมื่อต้องผ่าตัด ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถอดเสื้อผ้าออก ไม่อย่างนั้นจะลงมีดอย่างไรตงฟางจิ่งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เจ้าเป็นผู้หญิง เป็นพระชายาอ๋องหก”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางคิดว่าคนคนนี้อยากจะถามอะไรเสียอีก? เงียบอยู่ตั้งนานเพราะเรื่องนี้? อดไม่ได้ที่จะมองบน“ท่านอ๋อง ท่านไม่เคยได้ยินประโยคนี้หรือ ในสายตาของหมอ ของเพียงแค่เป็นคนไข้ ไม่มีแบ่งแยกชายหญิง”“ข้าไม่เคยได้ยิน” ตงฟางจิ่งกล่าวเสียงเย็นชา“เฮอะ ครั้งนี้ถอดเสื้อ ถ้าหากตงฟางเย่าต้องผ่าตัดที่บริเวณต้นขา ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องถอดกางเกงให้เขาเลยหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่เผชิญกับสายตาที่เย็นยะเยือกของเขา ค่อย ๆ...พยักหน้าตงฟางจิ่ง “...”ขมับของเขากระตุก เขาเชื่อว่า ผู้หญิงคนนี้สามารถทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้จริง ๆ อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง“เฟิ่งเชียนอวี่ เจ้า...”เฟิ่งเชียนอวี่ตัดบทการซักไซ้ไล่ความของเขา “ท่านอ๋อง ท่านถือสาทำไมกัน?”“ถ้าหากคิดว่าข้ามีฐานะเป็นสตรี ทำเช่นนี้ไม่เหมาะส
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”“คุณหนูสามตามพวกเรากลับไปเถอะ!!”เฟิ่งเชียนอวี่ตกใจจนฝีเท้าเคลื่อนไหวเร็วขึ้น “ข้าไม่กลับ!! ข้าไม่แต่งกับท่านอ๋องหก!!”หนังสือสัญญาแต่งงานของฝ่าบาทระบุอย่างชัดเจน ให้พี่สาวของนางแต่งงานกับท่านอ๋องหก แล้วตอนนี้พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาบังคับนางแต่งงานแทน?“อ๊ะ!...”ทันใดนั้นเท้าลื่น ทั้งร่างตกลงมาจากหน้าผา!ความรู้สึกไร้น้ำหนักสายหนึ่งถาโถมเข้ามา ใต้หน้าผามืดสนิทท่ามกลางเสียงกรีดร้อง เฟิ่งเชียนอวี่กลัวจนสิ้นใจเสียงดังปัง หยดน้ำสาดกระเซ็น! ศพของนางตกลงไปในน้ำพุร้อนที่อยู่ใต้หน้าผาท่ามกลางไอร้อนที่พวยพุ่ง ชายคนหนึ่งแช่อยู่ในน้ำพุร้อนครึ่งตัว แผ่นหลังพิงโขดหิน จ้องผิวน้ำที่สงบไร้คลื่น จากนั้นก็ว่ายเข้าไปน้ำอุ่นทะลักเข้าไปในปากและจมูก จู่ๆ ใบหน้าเล็กที่ไร้ปฏิกิริยาของเฟิ่งเชียนอวี่ก็ย่น และสำลักฟองน้ำแม่งเอ้ย ใครโยนเธอลงมาแช่น้ำเนี่ย?!วินาทีต่อมา พละกำลังสายหนึ่งกระชากท้ายทอยของนาง ฉูดนางขึ้นมาโดยตรง! เฟิ่งเชียนอวี่ลืมตาขึ้นอย่างสับสน“เจ้าเป็นใคร?” ใบหน้าชายคนนี้ใสเปล่งปลั่งราวหยก คิ้วบางขมวดแน่น ดวงตาที่เหมือนผลึกแก้วจ้องนางเขม็ง มีกลิ่นอายของการพิจารณา
เพียงแต่น่าเสียดายมาก ในความทรงจำของเจ้าของร่าง ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าตาของท่านอ๋องหกคนนี้ ท่านอ๋องที่ไม่มีอำนาจอย่างเขา เฟิ่งหลิงหลงไม่มองข่าวลือบอกว่าท่านอ๋องหกคนนี้เกิดมาก็มีความบกพร่องโดยกำเนิด ต้องกินยาตลอดปี งานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ในวังก็ไม่เคยเข้าร่วม เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิดอย่างตาเป็นประกาย จวนตระกูลเฟิ่งในเวลานี้ วุ่นวายไปหมดนานแล้วเฟิ่งหลิงหลงเดินวนอยู่ในห้องอย่างร้อนใจ ใบหน้าที่งดงามก็ย่นยู่เป็นซาลาเปา“จบแล้วๆ!! ตอนนี้เฟิ่งเชียนอวี่ตายแล้ว ใครจะมาช่วยข้าแต่งงานกับไอ้คนขี้โรคนั่น?” นางน้ำตาคลอเบ้า มองไปทางฮูหยินใหญ่ มารดาของนางอย่างน่าเวทนา “ท่านแม่ ข้าจะเป็นพระชายารัชทายาท จะแต่งงานกับท่านอ๋องหกไม่ได้นะ…”“หลิงหลงเจ้าใจเย็นๆ ให้แม่ลองคิดดูก่อน” ฮูหยินใหญ่รวบรวมสมาธิครุ่นคิด แต่ศีรษะแทบระเบิดเพราะเสียงเอะอะของนางนานแล้ว จะมีแผนรับมือภายใต้ความตื่นตระหนกได้อย่างไร “หรือไม่…หรือไม่ พวกเราลองไปหารือกับรัชทายาท?”เพิ่งสิ้นเสียง จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะที่ถากถางสายหนึ่งดังขึ้น “รัชทายาท? รัชทายาทชอบพี่หญิงจริงๆ หรือ?”เสียงนี้…เฟิ่งหลิงหลงแน่นหน้าอกฉับพลัน ม่านตาขยายใหญ
ตงฟางจิ่งกำผ้ามงคลไว้ เผยอมุมปากหัวเราะอย่างเย็นชา “ที่แท้เป็นเจ้า”ใบหน้าเล็กเฟิ่งเชียนอวี่แดงทันทีร้องตะโกนในใจ : ข้าไม่ใช่! ข้าเปล่า! พูดเหลวไหล!!ขากรรไกรล่างถูกเขาบีบฉับพลันเฟิ่งเชียนอวี่ถูกบังคับให้จ้องตาเขา ตงฟางจิ่งก้มมองนาง ดวงตาที่เยือกเย็นลึกไม่อาจหยั่ง “เจ้าคือเฟิ่งหลิงหลงจริงหรือ?”หัวใจเฟิ่งเชียนอวี่สั่นสะท้านความแตกแล้วหรือ?เป็นไปไม่ได้นี่นา! ตงฟางจิ่งไม่เคยพบนางกับเฟิ่งหลิงหลงจึงจะถูก!เฟิ่งเชียนอวี่ยิ้มตอบ มุมปากชาเล็กน้อย “แน่ แน่นอนสิ! เหตุใดท่านอ๋องจึงสงสัยเรื่องนี้?”ความถากถางที่มุมปากของตงฟางจิ่งยิ่งเข้มข้นแล้วเรื่องแต่งงานแทนของตระกูลเฟิ่ง ที่จริงสายลับของเขามารายงานนานแล้วเพียงแต่เขาไม่ได้ถือสามากนักผู้หญิงที่แต่งเข้ามา แซ่อะไร ชื่ออะไร ลูกสาวบ้านไหน เขาไม่ได้ใส่ใจเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเฟิ่งเชียนอวี่ที่แต่งงานแทนคนนี้ จะเป็นผู้หญิงที่เจอใต้หน้าผาในวันนั้น…ซิ้ดเบาๆ ทีหนึ่ง มือที่บีบขากรรไกรล่างของนางค่อยๆ เปลี่ยนเป็นลูบไล้เพียงแต่มือเย็นเล็กน้อย ไร้ความอบอุ่น“ข้าแค่ได้ยินมาว่าเฟิ่งหลิงหลง คุณหนูรองจวนอัครเสนาบดีเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมใน