“ถ้าหากเป็นสตรีละก็ สามารถให้เสวยยาทำแท้งได้ แต่ถ้าหากเป็นบุรุษ คือว่า กระหม่อมเองก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ”“อย่างไรเสียบุรุษและสตรีมีความแตกต่าง ยาทำแท้งนี้ฤทธิ์ยารุนแรง ประกอบกับที่อายุครรภ์ของท่านอ๋องไม่น้อยแล้ว หากเสวยยาอย่างสะเพร่า แม้จะส่งผลเสียต่อร่างกายเพียงเล็กน้อย แต่เกรงว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง”การเปลี่ยนแปลงที่ว่า พูดตรง ๆ ก็คือเกรงว่าหากดื่มยาลงไป ตงฟางเย่าถึงแก่ชีวิต หมอหลวงอย่างพวกเขาคงจะแบกรับความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ไหว ดังนั้นถึงได้ขี้ขลาดตาขาว ทำอะไรไม่ถูกฮ่องเต้เทียนหยวนค่อย ๆ หลับตาลง รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างยิ่งพูดตามความจริง เขาเป็นถึงฮ่องเต้แห่งแคว้นตงเยว่ที่สง่าผ่าเผย แต่ให้กำเนิดลูกชายแบบนี้ เขารู้สึกอับอาย นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าจริง ๆ ในใจของฮ่องเต้เทียนหยวน ตงฟางเย่าในเวลานี้ไม่นับว่าเป็นลูกชายของเขาแล้ว แต่เป็นจุดด่างพร้อยของเขาขุนนางระดับสูงหลายคนที่เอาแต่เงียบมาตลอดหลายคนมองหน้ากันไปมา เสนาบดีกรมโยธาธิการก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว กล่าวอย่างนอบน้อม “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีอะไรอยากจะกล่าว”ฮ่องเต้เทียนหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ว่าม
นางปรนนิบัติฮ่องเต้เทียนหยวนมานานหลายปีขนาดนี้ ย่อมเข้าใจอุปนิสัยของฮ่องเต้เทียนหยวนฮ่องเต้เทียนหยวนไม่ได้ตำหนิอัครเสนาบดีเฟิ่งทันที เห็นได้ชัดว่าในใจยอมรับข้อคิดเห็นแบบนี้แล้ว เต๋อเฟยจะอดทนต่อผลลัพธ์เช่นนี้ได้อย่างไร“ร้องไห้ทำไม เราทุกข์ใจมากพอแล้ว”“ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะให้เราทำอย่างไร? เจ้าสามมีสภาพเช่นนั้น ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี เจ้าอยากจะให้แคว้นตงเยว่ของข้าเป็นจุดอ่อนที่น่าขันของแคว้นอื่นหรือไร?”สีหน้าของฮ่องเต้เทียนหยวนดูแย่ กล่าวด้วยอารมณ์ไม่ดี“อีกอย่าง เรายังไม่ได้พูดว่าจะให้เจ้าสามไปตาย เจ้าร้องไห้อย่างโศกเศร้ากลางวันแสก ๆ ทำไมกัน?”การจัดการเรื่องของตงฟางเย่า ก็ไม่ใช่มีเพียงวิธีที่ต้องเอาชีวิตเขาเพียงวิธีเดียว แต่ผลลัพธ์สุดท้าย สถานะองค์ชายของเขา เกรงว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้วถ้าหากเป็นเช่นนี้ ก็นับว่าไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิงฮ่องเต้เทียนหยวนหันหน้ามองหมอหลวง ขมวดคิ้วกล่าวทันที “รีบใช้ยา”ตอนนี้เขาไม่อยากจะเห็นท้องที่ใหญ่ราวกับลูกบอลนั่นของตงฟางเย่าแม้แต่อีกนิดเดียว ยิ่งเห็นก็ยิ่งว้าวุ่นใจ“ไม่ได้”เต๋อเฟยรีบโต้แย้ง“ฝ่าบาท ไม่ได้เพคะ ก่อนหน้านี้หมอหลว
แต่ว่า...เมื่อตงฟางเย่าก้มหน้ามองท้องของตนเองอีกครั้ง ตั้งครรภ์? เฮอะ ไม่คิดเลยว่าจะมีเด็กอยู่ในท้องผู้ชายอย่างตนความเคียดแค้นและโศกเศร้าที่เดิมทีเต็มหัวใจของเขา เมื่อมองเห็นร่างกายที่สภาพเหมือนผีของตนเอง ก็ห่อเหี่ยว เหมือนกับลูกบอลที่ถูกแทงให้แตก สภาพกลายเป็นแบบนี้ ตัวเขาเองยังรังเกียจตัวเอง เขาไม่ใช่ปีศาจ ไม่ใช่จุดด่างพร้อยหรืออย่างไร? เขามีชีวิตอยู่ต่อไปจะมีความหมายอะไร?เฟิ่งเชียนอวี่เหลือบมองเขาเล็กน้อย เลิกคิ้ว กล่าวอย่างหยอกล้อ “ท่านอ๋องสาม ท่านเป็นหนึ่งในคนสุดยอดที่ข้าเคยเห็นมาก่อนเลยนะ”“เรื่องที่ชายหญิงสามารถทำได้ ท่านสามารถทำได้ทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีได้”บริเวณขมับของตงฟางเย่าเต้นตุบ ๆ ค้อนเขาอย่างดุร้าย น้ำเสียงแหบแห้ง“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ อยากจะเยาะเย้ยข้า เจ้ายังไม่มีสิทธิ์นั้น ไม่ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยตอนนี้ ข้าก็ยังเป็นท่านอ๋องสามแห่งแคว้นตงเยว่ เจ้านักพรตชั่ว มีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยข้ากัน?”เมื่อพูดถึงประโยคหลัง น้ำเสียงก็สะอึกขึ้นมาทันทีอย่างคาดไม่ถึง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ถึงขนาดที่หางตาเปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อยเฟิ่งเช
“พูดง่าย ๆ ในสถานการณ์ปกติ ผู้ชายไม่มีทางตั้งท้องได้ ในท้องของท่านอ๋องสามแค่มีก้อนเนื้อก้อนหนึ่งเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง”ทุกคนมองหน้ากัน ทุกคนต่างไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ฮ่องเต้เทียนหยวนก็งุนงงเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “นักพรตเฟิงพูดจาให้เข้าใจหน่อยได้หรือไม่”“ฝ่าบาทอย่าทรงร้อนพระทัย ข้าย่อมต้องอธิบายให้ฝ่าบาทกับทุกท่านเข้าใจแน่นอน”“ในท้องของท่านอ๋องสาม ไม่ใช่เด็กทารกธรรมดา แต่เป็นแฝดปรสิต”เฟิ่งเชียนอวี่นึกถึงอาการนี้ขึ้นมาได้ในระหว่างการเดินทาง พูดตามความน่าจะเป็น อาการของตงฟางเย่า สอดคล้องกับอาการของแฝดปรสิตมากกว่าแฝดปรสิต หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาวะทารกในครรภ์ ในยุคสมัยปัจจุบัน ก็คือโรคที่ค่อนข้างพบเจอได้ยากชนิดหนึ่ง มีด้วยกันอยู่สองประเภทคือแฝดปรสิตร่วมไข่กับปรสิตต่างไข่ในระหว่างช่วงเวลาที่มารดาตกไข่ ทั้งหมดจะระบายไข่ที่พร้อมปฏิสนธิออกมาสองใบ ไข่สองใบนี้แบ่งเป็นท้องจริงและท้องลม หรือเรียกว่าเป็นท้องฝาแฝดก็ได้เช่นกันเพียงแต่ว่า อันหนึ่งคือทารกที่สมบูรณ์ อีกอันหนึ่งคือทารกที่ไม่สมบูรณ์ครรภ์ไม่สมบูรณ์ ถูกครรภ์ที่สมบูรณ์ดูดข้าไปในร่างกายตอนที่อยู่ในครรภ์ เจริญเติบ
คณะหมอหลวงถูกด่าจนรู้สึกเสียใจมาก อาการป่วยที่คาดไม่ถึงเช่นนี้พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน จะรู้ได้อย่างไรเป็นอีกวันหนึ่งที่ถูกเจ้านักพรตบ้านี่ตบหน้าเฟิ่งเชียนอวี่เดินเข้าไปในห้องคนเดียวอีกครั้ง นำตัวตงฟางเย่าเข้าไปในห้องทดลองเพื่อทำการผ่าตัด เพื่อนำก้อนเนื้อในท้องของเขาออกมา จากนั้นเย็บแผลแล้วทายา“ฝ่าบาท แฝดปรสิตในท้องของท่านอ๋องสามถูกนำออกมาแล้ว พระองค์กับพระนางเต๋อเฟยอยากทอดพระเนตรหรือไม่? ถึงอย่างไร...”ประโยคหลังนางไม่ได้พูดออกมา แต่ใครต่างก็เข้าใจความหมายของนาง อดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออกฮ่องเต้เทียนหยวนกระตุกมุมปาก สายตาเหลือบมองกะละมังเหล็กที่ถืออยู่ในมือของนางกำนัลที่อยู่ด้านข้าง ด้านบนกะละมังเหล็กถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าผืนหนึ่งเขาโบกมือ “ไม่ต้องหรอก นำออกไปจัดการให้เรียบร้อย”เฟิ่งเชียนอวี่กล่าวช้า ๆ “ท่านอ๋องสามไม่มีอาการร้ายแรงแล้ว ก่อนวันพรุ่งนี้ก็จะฟื้นขึ้นมา”ในเวลานี้ หมอหลวงคนหนึ่งในนั้นก็เอ่ยถามขึ้น “ไม่ทราบว่า สิ่งที่เรียกว่าแฝดปรสิต นักพรตเฟิงนำออกมาจากในร่างกายของท่านอ๋องสามได้อย่างไร?”ถ้าเป็นผู้หญิงละก็ สามารถใช้ยาชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์ ขับออกมาจากอวัยวะสืบพั
“การผ่าตัด” เฟิ่งเชียนอวี่เตือนเขาพยักหน้า “ใช่ ตอนที่ทำการผ่าตัด จะต้องถอดเสื้อผ้าออกเพื่อผ่าตัดใช่หรือไม่”“ใช่นะสิ” ในเมื่อต้องผ่าตัด ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถอดเสื้อผ้าออก ไม่อย่างนั้นจะลงมีดอย่างไรตงฟางจิ่งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เจ้าเป็นผู้หญิง เป็นพระชายาอ๋องหก”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางคิดว่าคนคนนี้อยากจะถามอะไรเสียอีก? เงียบอยู่ตั้งนานเพราะเรื่องนี้? อดไม่ได้ที่จะมองบน“ท่านอ๋อง ท่านไม่เคยได้ยินประโยคนี้หรือ ในสายตาของหมอ ของเพียงแค่เป็นคนไข้ ไม่มีแบ่งแยกชายหญิง”“ข้าไม่เคยได้ยิน” ตงฟางจิ่งกล่าวเสียงเย็นชา“เฮอะ ครั้งนี้ถอดเสื้อ ถ้าหากตงฟางเย่าต้องผ่าตัดที่บริเวณต้นขา ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องถอดกางเกงให้เขาเลยหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่เผชิญกับสายตาที่เย็นยะเยือกของเขา ค่อย ๆ...พยักหน้าตงฟางจิ่ง “...”ขมับของเขากระตุก เขาเชื่อว่า ผู้หญิงคนนี้สามารถทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้จริง ๆ อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง“เฟิ่งเชียนอวี่ เจ้า...”เฟิ่งเชียนอวี่ตัดบทการซักไซ้ไล่ความของเขา “ท่านอ๋อง ท่านถือสาทำไมกัน?”“ถ้าหากคิดว่าข้ามีฐานะเป็นสตรี ทำเช่นนี้ไม่เหมาะส
เฟิ่งเชียนอวี่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้มากนัก ตอนนี้นางให้ความสนใจเพียงร้านของตัวเองที่กำลังจะเปิดกิจการวันนี้เดือนเจ็ดวันที่ยี่สิบ ห้ามเกียจคร้าน เหมาะแก่การเปิดกิจการร้านแห่งหนึ่งบนถนนทิศเหนือ ประตูใหญ่ทั้งสี่บานค่อย ๆ เปิดออก เมื่อผ้าแดงบนป้ายถูกปลด ตัวอักษรฮ่วนเหยียนที่ฉวัดเฉวียนส่องแสงสีทองวิบวับความคิดเดิมของเฟิ่งเชียนอวี่ คือขายเครื่องสำอางสมัยใหม่ แรกเริ่มยังให้พวกจิงเจ๋อฝึกฝนวิธีแต่งหน้าและทักษะต่าง ๆแต่ตอนหลับพบว่าสิ่งของมีมากเกินไป อีกทั้งยังต้องจับคู่กับน้ำยาลบเครื่องสำอาง มอยเจอร์ไรเซอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ก่อนและหลังแต่งหน้าเป็นต้น ซ้ำยังต้องสอนลูกค้าใช้ ต้องผลิตจำนวนมาก ยุ่งยากเหลือเกินเฟิ่งเชียนอวี่ขี้เกียจมาก ไม่คิดจะขยายกิจการให้ใหญ่โตอลังการ จึงต้องเปลี่ยนความคิดแรกเริ่มร้านที่ค่อนข้างใหญ่แบ่งเป็นสี่ส่วน สินค้าที่จำหน่ายแบ่งเป็นสี่ประเภทประเภทที่หนึ่ง น้ำหอมหญิงสาวล้วนรักสวยรักงาม ย่อมชอบสิ่งที่มีกลิ่นหอมด้วย ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่มีใครปฏิเสธหญิงในยุคโบราณ มักพกถุงหอมติดตัว เฟิ่งเชียนอวี่จึงผลิตน้ำหอมขึ้นนางนำแอลกอฮอล์และน้ำมันหอมระเหยออกมาจากห้องทดล
นางพาหลิวซู อิ้งเสวี่ย เหลิ่งหนิง เหลิ่งหานเดินสำรวจภายในร้านที่ค่อนข้างใหญ่พวกจิงเจ๋อทั้งแปดคนแบ่งเป็นกลุ่มละสองคน แยกย้ายกันไปดูแลสินค้าทั้งสี่ส่วนต่อมาเฟิ่งเชียนอวี่ไปซื้อแม่นางกลับมาจากตลาดค้าทาสอีกสองคน เป็นพี่น้องฝาแฝดคู่หนึ่งพี่สาวชื่อซูเสวียน น้องสาวชื่อซูไช่ ทั้งสองคนไม่ใช่คนในเมืองหลวงเดิมทีสองพี่น้องมาจากตระกูลค้าขาย ที่บ้านมีร้านตัดผ้า ร้านขายผ้า ถือเป็นผู้ค้าสิ่งทอรายใหญ่ที่บ้านเกิดของพวกนางแต่ทำอย่างไรได้เมื่อที่บ้านย่ำแย่ มีครั้งหนึ่งขาดทุนอย่างหนัก ทำให้ค้าขายไม่ดี หนำซ้ำยังติดหนี้จำนวนมาก บิดามารดาของสองพี่น้องตระกูลซูถูกคนทวงหนี้บีบจนต้องฆ่าตัวตายพวกนางสองคนที่เป็นคุณหนูตระกูลพ่อค้า ก็ตกต่ำจนต้องมาขายตัวเป็นทาสเพราะหน้าตาไม่เลวและอายุยังน้อย อีกทั้งยังเป็นสองสาวพี่น้อง หลังจากผกผันไปมา สุดท้ายจึงถูกขายมาเมืองหลวง และถูกเฟิ่งเชียนอวี่ซื้อตัวไว้นางซื้อตัวทั้งสองคนไว้ ไม่ได้เห็นว่าพวกนางน่าสงสาร เพราะคนน่าสงสารบนโลกใบนี้มีมากเกินไป มีทาสคนไหนในตลาดค้าทาสไม่น่าสงสารบ้างแต่ล้วนเป็นเพราะซูเสวียนพี่สาวในสองสาวพี่น้อง ที่เกิดมาในตระกูลพ่อค้า จึงทำให้นางมีพรส
“ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื
“รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง
ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท
“พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้
บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี
“...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้
“เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่
“เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ