แชร์

บทที่ 472

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงออกมาเร็วเช่นนี้?”

โจวลิ่วหลางที่ยืนอยู่หน้าประตูแสดงสีหน้าตื่นตระหนกเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อเดินออกมา เดิมทีตนคิดว่าผู้ใหญ่บ้านโจวจะต้องอยู่ด้านในนานกว่านี้

“แม่นางกู้และคุณชายซูไม่เหมือนกับแต่ก่อนแล้ว”

ผู้ใหญ่บ้านโจวปาดเหงื่อบนหน้าผาก

“ต่อไปหากพวกเขาออกคำสั่ง เราแค่ทำตามก็พอ ไม่ต้องถามเรื่องอื่น”

โจวลิ่วหลางอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ข้าอยากถามแม่นางกู้ อวิ๋นเหนียงตั้งครรภ์แล้ว ข้าต้องทำอย่างไร”

“เรื่องนี้ยังต้องถามอะไรอีก เจ้าก็พาก็ไปหาหมอที่อำเภอสิ ไอหยา หากไม่ใช่เพราะแม่นางกู้ ภรรยาของเจ้าคงไม่ตั้งครรภ์ ข้าก็คงไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน การที่ครอบครัวของเราได้เจอกับแม่นางกู้ มันคือโชคชะตา....”

ผู้ใหญ่บ้านโจวคิดว่ากู้หว่านเยว่คือเจ้าเมืองของเจดีย์หนิงกู่ เขาจึงลากตัวโจวลิ่วหลางจากไปเงียบ ๆ โดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

เมื่อส่งผู้ใหญ่บ้านโจวแล้ว กู้หว่านเยว่ก็กินอาหารเช้า หลังจากกินเสร็จนางตั้งใจว่าจะเรียนวิธีการสร้างถนนปูซีเมนต์

ดั่งคำกล่าวที่ว่า ‘อยากมั่งมีก็ต้องสร้างถนนก่อน’

มีเพียงพ่อค้าที่สร้างถนนเท่านั้นถึงจะติดต่อสื่อสารได้ ทำการซื้อขายได้ ทำให้กิจกา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
กบ เขียงหมู
สลุดตลอดเวลา
goodnovel comment avatar
กบ เขียงหมู
เปนรับจ่ายเงินแลวอ่านไม่ไเ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 473

    พระชายาหนานหยางไม่ใช่คนใจร้อน การให้เมี่ยชิงหว่านรีบมาเชิญนางเช่นนี้ กู้หว่านเยว่รู้สึกไม่ชอบมาพากล“พระชายาไม่สบายตรงไหนใช่หรือไม่เจ้าคะ?”“เล็กน้อย”เดิมทีพระชายาหนานหยางอยากตรัสเบา ๆ แต่นางกลับพยักหน้าแรงเกินไป“รู้สึกไม่สบายตัว ปวดร้าวจนทนไม่ไหว ดื่มโอสถของท่าน ถึงจะคลายความเจ็บปวดได้”นี่คือสิ่งที่กู้หว่านเยว่คาดการณ์ไว้แล้วคราวที่แล้วนางเคยตรวจอาการให้พระชายาหนานหยางแล้ว นางมั่นใจว่าไม่มีปัญหาในช่วงนี้แน่นอน จึงได้จัดยาแก้ปวดให้นาง คิดไม่ถึงว่าเพียงระยะเวลาสั้น ๆ นางจะทรุดหนักเช่นนี้อาการป่วยกำเริบเป็นเรื่องปกติ กู้หว่านเยว่ไม่ได้กังวลเพียงนั้น“พระชายานั่งลงก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะตรวจให้ท่าน”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่งเล็กน้อย จากนั้นก็กดท้องของพระชายาหนานหยางเพื่อตรวจอาการ“ปวดมาก”สีหน้าของพระชายาหนานหยางเริ่มเปลี่ยนไป แต่ก็พยายามซ่อนเร้นมันไว้ในระหว่างการตรวจ“หนักหน่วงเล็กน้อย เช่นนี้ละกัน ข้าจะตรวจอาการให้ท่านก่อน”สิ่งที่กู้หว่านเยว่คิดคือ ไหน ๆ นางก็มาแล้วไม่สู้ถือโอกาสนี้แสดงให้พระชายาหนานหยางเห็นว่านางก็ทำการผ่าตัดได้หรือไม่ได้หากทำได้ นางก็จะทำให้ทันทีหากทำไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 474

    “เจ้านี่เอง”เมื่อหมุนตัวกลับไป ลั่วยางที่กำลังถือตะกร้าไม้ไผ่ไว้สำหรับตากสมุนไพรก็กำลังมองนางด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“ความจำของเจ้ากลับมาแล้ว”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่ตอบสนองทันทีที่เจอกับนาง“ใช่”ลั่วยางได้สติ สายตาที่ฉายแววไม่เป็นมิตรก็พลันจากหายไป โดยมีความไร้ยางอายเข้ามาแทนที่“ข้าได้ยินอาจารย์บอกว่าเจ้ากับซูจิ่งสิงคือคนที่ช่วยชีวิตข้า ห้องโอสถแห่งนี้เป็นของพวกเจ้า อีกทั้งพวกเจ้าก็ยังช่วยเหลืออาจารย์อีกด้วย”กล่าวได้ว่า บัดนี้ลั่วยางก้ได้รับการช่วยเหลือจากกู้หว่านเยว่เช่นกัน“ขอบใจเจ้ามาก”ลั่วยางหน้าแดงก่ำ“ก่อนหน้านั้นข้ายังเด็กนัก ทั้งยังถูกมู่หรงอวี้เป่าหูให้มาต่อต้านพวกเจ้า คาดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วพวกเจ้าก็ยังเลือกที่จะช่วยชีวิตข้าโดยไม่คำนึงถึงความแค้นในอดีต ข้าติดหนี้พวกเจ้า”“ไม่ต้องเกรงใจ มันคือสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว”กู้หว่านเยว่มองนางแวบหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวกลับเข้าไปหาสมุนไพรต่อเมื่อลั่วยางเห็นท่าทางเย็นชาของนาง สีหน้าของลั่วยางก็เริ่มเปลี่ยนไป นางจมอยู่ในความคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะวางสมุนไพรและเดินตามเข้าไปจากนั้นก็อธิบายว่า“อาจารย์และหวงเหล่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 475

    กู้หว่านเยว่ชื่นชมยิ่งนัก แม้ว่าต้าฉีจะยังไม่มีแนวคิดในการผ่าตัด แต่ความคิดของปรมาจารย์แพทย์นั้นถูกต้อง สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์แพทย์“วิธีที่ข้าจะรักษาให้พระชายาหนานหยางก็คือวิธีการที่อาจารย์ของเจ้าได้กล่าวไว้ นั้นคือการผ่าตัด”ลั่วยางเบิกตากว้าง ในตอนที่อาจารย์บอกวิธีนี้กับนาง นางรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ใหญ่เกินตัวนางมาก“ส่วนล่างเป็นส่วนที่สกปรกง่ายที่สุด หากแผลติดเชื้อขึ้นมา มีโอกาสทำให้เกิดไข้สูง และตายในทันที”ลั่วยางคิดว่าในเมื่อกู้หว่านเยว่มีทักษะการแพทย์สูงกว่านาง ดังนั้นกู้หว่านเยว่ไม่มีทางไม่รู้เหตุผลนี้“หากเป็นบุรุษที่มีร่างกายแข็งแรง อาจจะฝืนได้ แต่พระชายาหนานหยางเป็นสตรีที่มีร่างกายอ่อนแอ ย่อมทนไม่ได้”เมื่อกู้หว่านเยว่เห็นลั่วยางเกิดความสงสัย จึงไม่ได้ร้อนใจ ตรงกันข้ามกลับคลี่ยิ้มพลางกล่าว“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีสองวิธีที่สามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้”ลั่วยางไม่รู้ นัยน์ตาของนางเปล่งประกาย และกล่าวถามอย่างร้อนใจ“วิธีอะไร?”“การฆ่าเชื้อและยาปฏิชีวนะ”กู้หว่านเยว่หยิบกระเป๋ายาออกมา จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอก “หากเจ้าอยากรู้ ก็ต้องมาเป็นลูกมือให้ข้า”ลั่วย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 476

    “ดังนั้นเจ้าต้องฟื้นขึ้นมา”“แต่เขาตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้ว....”“หลายปีมานี้ เขาไม่เคยแต่งงานเลย”หนานหยางอ๋องตบหลังมือของอีกฝ่ายเบา ๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นประโยคเดียวทำให้พระชายาเบิกตากว้าง จากนั้นน้ำตาก็ไหลริน และกำลังจำถามอะไรบางอย่างเวลานี้กู้หว่านเยว่ที่ยืนอยู่หน้าประตูได้กล่าวว่า “ได้เวลาอันสมควรแล้ว ข้าต้องฉีดยาชาให้พระชายาแล้ว”“เช่นนั้นข้าขอตัว”หนานหยางอ๋องรีบออกไปอย่างรู้งาน กระทั่งได้ยินเสียงใส่กลอนจากด้านนอกประตู มั่นใจว่าไม่มีใครเข้ามาแล้วกู้หว่านเยว่จึงหยิบยาสลบในกล่องยาออกมา และป้อนให้พระชายาหนานหยาง“แม่นางกู้ ข้าเชื่อใจเจ้า”ภาพเบื้องหน้าของพระชายาเริ่มพร่ามัว สุดท้ายก็หลับตาลงและสลบไปในที่สุด นางมีโอกาสที่จะแก้ไขความผิดพลาดในตอนนั้นแล้วใช่หรือไม่?กู้หว่านเยว่ใช้เข็มฝังบนจุดฝังเข็มของอีกฝ่าย เมื่อมั่นใจว่าพระชายาหยางหนานไม่มีสติแล้วจึงเปิดผ้าห่มของอีกฝ่าย“ข้าต้องทำอย่างไร?”ลั่วยางค่อนข้างเป็นกังวลนี่คือการผ่าตัดครั้งแรกของอีกฝ่าย บนมือของนางตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อที่เปียกชุ่ม“ไม่ต้องกังวล ฟังที่ข้าบอกก็พอ นี่เป็นแค่ผ่าตัดเล็ก”กู้หว่านเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 477

    ลั่วยางเข้าไปประคองกู้หว่านเยว่เป็นคนแรก “เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”“ไม่เป็นไร”กู้หว่านเยว่หยิบโสมที่หั่นเป็นชิ้นออกมายัดไว้ใต้ลิ้น อาการเกี่ยวกับปากมดลูกค่อนข้างหนัก จึงกินพลังของนางไปไม่น้อยการผ่าตัดเล็กนี้ทำให้นางวิงเวียนศีรษะอยู่ไม่น้อย“เจ้าพักก่อนเถอะ”ลั่วยางรีบเข้ามาประคองนางไปนั่งบนเก้าอี้ เมื่อกู้หว่านเยว่เห็นว่าการผ่าตัดครั้งนี้เสร็จสิ้นด้วยดี จึงยกหน้าที่ที่เหลือให้ลั่วยางจัดการ ให้นางไปหยิบผงยาสีขาวที่วางอยู่ชั้นล่างสุดของกล่องยาออกมา“ผงยานี้คือยาปฏิชีวนะ เจ้าจงนำไปป้อนให้พระชายาหนานหยาง นางจะได้ไม่ติดเชื้อ”“นี่คือยาปฏิชีวนะหรือเจ้าคะ?”ลั่วยางถือกล่องยานั้นอย่างระมัดระวังราวกับกล่องสมบัติ“ข้าจะนำยาไปป้อนให้พระชายาเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”นางเดินไปข้างเตียงอย่างกระตือรือร้น แม้ว่าในใจจะเกิดความสงสัยมากมาย แต่ก็เข้าใจว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ควรถาม บางทีกู้หว่านเยว่อาจจะบอกขั้นตอนการทำยาปฏิชีวนะกับนางในภายภาคหน้าก็ได้ลั่วยางไม่กล้าเอ่ย เวลานี้นางตื่นเต้นมาก แต่ในฐานะหมอ ไม่มีใครไม่ตื่นเต้นแต่นางเข้าใจ ครั้งนี้นางคงจะลำเอียงไม่ได้อีก เพราะกู้หว่านเยว่ไม่ชอบคนลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 478

    “การผ่าตัดไม่ได้ใช้แรงมากเพียงนั้น แต่อาจเป็นเพราะสองวันที่ผ่านมานี้ข้าไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่ ข้าพักสักครู่ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว ท่านจะร้อนใจทำไม”“น้องหญิง!”ซูจิ่งสิงรู้สึกน้อยเนื้อตำใจเล็กน้อย ภรรยาไม่สบาย เขาจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร ไม่ร้อนใจนี่สิแปลกกู้หว่านเยว่ทนเห็นสายตาที่คล้ายกับพ่อสุนัขตัวใหญ่ที่อยากปกป้องหญิงผู้เป็นที่รักไม่ได้ จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อทันที“เมื่อครู่ข้าเห็นท่านและท่านพ่อของท่านพาชาวบ้านไปทำปูนซีเมนต์ เป็นอย่างไรบ้าง สำเร็จหรือไม่?”ซูจิ่งสิงส่ายหน้า “ปูนขาวที่อยู่ในถ้ำกำลังหลอมละลาย เจ้าไม่ต้องสนใจ ข้าหาวิธีเอง”กู้หว่านเยว่สอนขั้นตอนการทำปูนซีเมนต์ให้เขาแล้ว เขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่เป็นกังวลเขาให้คนไปขุดหาก้อนหินสีน้ำเงินจากหลังเขา จากนั้นก็วางไว้ในถ้ำและหลอมมันด้วยอุณภูมิสูงสุดให้กลายเป็นผง รอดูว่าพรุ่งนี้จะสำเร็จหรือไม่กู้หว่านเยว่อยากเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอีกครั้ง แต่พอได้ยินก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องถามต่อ รีบกลับไปพักที่ห้องเมื่อประตูปิดสนิท นางก็หายตัวเข้าไปในห้วงมิติ รินนมร้อนให้ตัวเอง ก่อนจะลงไปแช่น้ำอุ่น จากนั้นก็นอนเอนกายตากแดดอยู่บนเก้าอี้กระทั่งสัมผั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 479

    กู้หว่านเยว่เกิดความสงสัย “เจ้าอยากจะถามสิ่งใด?”“ข้าอยากเรียนรู้ทักษะการแพทย์กับท่าน!” ลั่วยางกล่าวอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมมุ่งมั่น“พี่หว่านเยว่ ขอร้องท่านละ ช่วยชี้แนะข้าได้หรือไม่”การผ่าตัดครั้งนี้ทำให้ลั่วยางเกิดความประทับใจต่อกู้หว่านเยว่เป็นอย่างมากนัยน์ตาของนางวูบไหว นางเห็นกู้หว่านเยว่เป็นวีรสตรีท่านหนึ่งซูจิ่งสิงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ฝันไปเถอะ”ก่อนหน้านั้นลั่วยางสร้างปัญหาให้พวกเขามากมาย แม้ว่านางจะกลับตัวกลับใจแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าในใจของนางคิดอย่างไร“เมื่อก่อนข้าทำตัวไม่ดี” นัยน์ตาของลั่วยางหม่นหมองลง “ข้ารู้ผิดแล้ว”นางมองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาเปล่งประกาย ในเมื่ออยากเรียนทักษะการแพทย์ นางจะไม่เลื่อมใสผู้มีศิลปะชั้นสูงได้อย่างไร? ,“เจ้ามีปรมาจารย์แพทย์เป็นอาจารย์อยู่แล้ว ทักษะการแพทย์ของปรมาจารย์แพทย์ก็ไม่ด้อยไปกว่าข้านักหรอก”กู้หว่านเยว่รู้ดีสาเหตุที่นางรักษาอาการที่ปรมาจารย์แพทย์รักษาไม่ได้ นั้นเพราะอุปกรณ์การแพทย์ของนางพัฒนากว่าอีกฝ่ายเมื่อเห็นสายตาผิดหวังของลั่วยาง กู้หว่านเยว่ก็กล่าวต่อ“แต่เห็นแก่เจ้า หากเจ้ามีคำถามอะไรก็หยิบยกมาคุยกั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 480

    สายตาของกู้หว่านเยว่กวาดมองไปยังด้านบนของหนังสือหย่าร้างในมือของนาง แล้วก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ“ยินดีกับเจ้าด้วย แม่นางเมิ่ง”“อื้อ”เมิ่งเหยียนดีใจมาก ออกแรงคว้ามือของกู้หว่านเยว่มากุมไว้ เป็นการบ่งบอกว่ากู้หว่านเยว่คือผู้ให้ชีวิตใหม่แก่นางหากไม่ใช่เพราะการผ่าตัดในครั้งนี้ บางทีนางคงจะติดอยู่ในบ่วงของการเป็นพระชายาไปตลอดชีวิต ไม่สามารถไล่ตามความรักที่แท้จริงของตัวเองได้“ไว้รอให้เจ้าหายดีก่อน ข้าค่อยไปหาพี่ชายของเจ้า”เมิ่งเหยียนกล่าวด้วยความตื่นเต้น สายตายังคงจับจ้องที่หนานหหยางอ๋อง“ท่านพี่ ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าตอนนี้พี่ชายอยู่ที่ไหน?”นับตั้งแต่ที่พวกเขาแยกทางกัน นางก็ไม่เคยตกหลุมรักใครอีก และไม่รู้ว่าคนที่นางรักยู่แห่งหนไหนหนานหยางอ๋องรีบกล่าว “ก่อนที่เจ้าจะเข้ารับการผ่าตัดข้าได้ส่งคนไปตรวจสอบแล้ว รอให้เจ้าหายจากการผ่าตัด ค่อยออกตามหาความสุขของตัวเอง บัดนี้เจ้าอยู่ในหมู่บ้านโซว่หวางทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รอให้เจ้าหายดี ข้าจะส่งคนติดตามเจ้าไปตามหาเขา”หมู่บ้านโซว่หว่าง?นัยน์ตาของกู้หว่านเยว่ที่นั่งอยู่ถัดไปเริ่มหวั่นไหว ทันใดนั้นนางก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ ในตอนที่น

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1176

    “คนในครอบครัวของเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ?”กู้หว่านเยว่ปวดใจกับเด็กคนนี้มาก จึงยื่นขนมอีกชิ้นให้เขา“ทุกคนตายหมดแล้วขอรับ เหลือเพียงข้าผู้เดียว”ครั้นนึกถึงเรื่องเสียใจ เสี่ยวถ่านก็มักจะก้มหน้าลง จากนั้นหยดน้ำตาก็ได้หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเขาเขาคิดถึงท่านแม่“เอาละ หยุดร้องได้แล้ว แม้ว่าคนในครอบครัวของเจ้าจะตายกันหมดแล้ว แต่เจ้าก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี”กู้หว่านเยว่ตักน้ำแกงไก่ให้เขา นางมักจะรู้สึกว่าสถานะของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดากิริยามารยาของเขาดูไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา จู่ ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว“ประตูเมืองเปิดแล้ว!”ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงตะโกนระลอกหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอก จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นขึ้นในฝูงชนที่ล้อมรอบ ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามารวมตัวกันหน้าประตูเมือง“น้องหญิง เราเองก็เข้าเมืองกันเถอะ”ซูจิ่งสิงเปิดผ้าม่าน ก่อนจะกล่าวทักทายกู้หว่านเยว่ ไหน ๆก็จะเข้าเมืองแล้ว พวกเขาคงนั่งอยู่บนรถม้าไม่ได้อีก ต้องลงจากรถม้ามาตรวจสอบถึงจะถูก “เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่คว้ามือของเสี่ยวถ่านลงมาจากรถม้า และเดินมาต่อแถวอยู่ด้านหลังของกล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1175

    ไม่สู้สละตัวปัญหานี้ออกไปโดยเร็ว เขาจึงเริ่มร้อนใจ“เอาอย่างไร ข้าเสนอให้เจ้ายี่สิบตำลึง ตกลงเจ้าจะเอาหรือไม่เอา?”“ข้าเอา”ซูจิ่งสิงรับเงินมาจากมือของกู้หว่านเยว่ หลังจากนับจนครบยี่สิบตำลึงแล้วก็โยนให้บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นรับเงินไปด้วยความดีใจ เขาทำการตรวจสอบครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจทาสตัวน้อยนั้นอีก สะบัดก้นเดินจากไปทันที“ขอบคุณพวกท่านมาก” ทาสตัวน้อยมองไปทางซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง แต่นัยน์ตายังคงหวาดกลัวลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าซูจิ่งสิงอันตรายมาก เขาไม่กล้าเข้าใกล้ซูจิ่งสิงเลยแม้แต่น้อย“เจ้าขึ้นรถม้าเถอะ”กู้หว่านเยว่กวักมือเรียกทาสตัวน้อย สองวันมานี้เวลาว่างนางก็มักจะเรียนรู้ภาษาของชาวทูเจวี๋ยจากซูจิ่งสิงอยู่เสมอ แม้ว่าจะยังออกเสียงได้เล็กน้อย แต่พอถูไถได้ไม่มีปัญหาทาสตัวน้อยเกิดความลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังปีนขึ้นรถม้า เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความประหลาดใจ“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ใช่คนชั่ว”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นทำไม บางทีอาจเพราะเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากทาสตัวน้อยผู้นั้น จึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองก่อนหน้านั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1174

    นางรีบลืมตา ก็พบว่าพวกเขามาถึงคูเมืองแห่งหนึ่งแล้ว เมืองชิงซานประตูเมืองของเมืองชิงซานจะเปิดในเวลาแปดโมงเช้า ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงจอดรถม้าอยู่หน้าประตูเมืองชั่วคราวแต่เวลานี้บริเวณประตูเมืองชิงซาน ยังมีคนที่เดินทางมาถึงเช้าตรู่เหมือนกับพวกเขาอีกเป็นจำนวนมาก กำลังพักผ่อนอยู่บนพื้นที่โล่งรอบ ๆ หน้าประตู เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ดังมาจากด้านหลังของรถม้าพวกเขา กู้หว่านเยว่เบนสายตามองตาม กระทั่งเห็นเด็กน้อยหน้าตามอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิงคนหนึ่ง เกาะล้อรถของนางไม่ยอมปล่อย แต่ด้านหลังของเขา มีบุรุษวัยกลางคนฟาดเขาด้วยแส้อย่างโหดเหี้ยม“เกิดอะไรขึ้น?”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เมื่อครู่นางอยู่แต่ในห้วงมิติตลอด จึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้านนอก“เด็กหนุ่มผู้นี้วิ่งลงมาจากรถม้าของบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น”ซูจิ่งสิงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ“ท่าทางจะเป็นทาสที่ซื้อตัวมา คงอยากหนี”“ได้โปรดพวกท่าน ช่วยข้าด้วย”ครั้นทาสตัวน้อยเห็นกู้หว่านเยว่ชะโงกหน้าออกมา จึงมองนางด้วยความตกใจ แต่นัยน์ตาแฝงไปด้วยการอ้อนวอนเดิมทีกู้หว่านเยว่ไม่อยากเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1173

    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า รูม่านตาของเจ้าเมืองแห่งเมืองสือโม่เบิกกว้าง พลางส่งเสียงกรีดร้องคล้ายกับสตรีชั้นสูงที่กำลังถูกกระทำชำเราอย่างไรอย่างนั้น“รนหาที่ตายแท้ ๆ บุรุษและสตรีคู่นี้เป็นผู้ใดกัน?!”“เจ้าเมือง บัดนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”ทหารที่ดูโง่เขลาบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว เพียงครู่เดียว จวนของเจ้าเมืองก็ถูกกู้หว่านเยว่ถล่มจนไม่เหลือชิ้นดีทั้งเมืองสือโม่ตกอยู่ในความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม!ซึ่งพอจะจินตนาการได้ว่าเรื่องของเมืองสือโม่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองทูเจวี๋ยอย่างแน่นอน ไม่สิ อาจจะแพร่กระจายไปยังฝั่งของต้าฉีด้วย“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำอย่างไร รีบจับพวกเขาให้ได้ก่อนเถอะ!”เจ้าเมืองโกรธที่ตัวเองไร้ความสามารถ ส่วนทหารคนอื่นได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาไม่มีปีก ดังนั้นจึงทำได้แค่มองนกหงส์เพลิงบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ “จูเชวี่ย เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่มองไปยังเสบียงอาหารที่ถูกปล้นมาไว้ในห้วงมิติ ก่อนจะคลี่ยิ้มตาหยี นางลูบหัวของจูเชวี่ยเบา ๆ และออกคำสั่งให้จูเชวี่ยเร่งความเร็ว จากนั้นก็บินออกจากเมืองสือโม่ไปเจ้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status