Share

บทที่ 460

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วเอ่ยถาม

เขาคิดว่าครั้งนี้มู่หรงอวี้พาคนมาไม่น้อย หากไม่จัดการให้หมดในคราวเดียว ภายภาคหน้าก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของนางหยางและพวกซูจิ้งได้

มิสู้อาศัยครั้งนี้ทำให้มู่หรงอวี้เจ็บหนักเสียเลย

“มี”

กู้หว่านเยว่รู้ชัดถึงความนัยของซูจิ่งสิง

นางหยิบปืนไฟขึ้นมา เล่นอยูในมือครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบสลักเกลียวป้องกันเหล็กตกออก โยนใส่กระเป๋า

สุดท้ายให้ซูจิ่งสิงวางกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งอย่างแฝงเจตนาร้าย

“เอาของสิ่งนี้ไป ปืนไฟก็หมดประสิทธิภาพแล้วหรือ?”

ซูจิ่งสิงเอ่ยถามอย่างสงสัย

“แน่นอน ไม่เพียงหมดประสิทธิภาพ ยังทำให้มู่หรงอวี้มีปัญหาอีกด้วย”

กู้หว่านเยว่เผยรอยยิ้มชั่วร้าย เอียงศีรษะพูดอย่างซุกซน

“เดิมทีของสิ่งนี้ก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว เถาเอ๋อร์กล้าให้ เขาเองก็กล้าใช้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้เขาสัมผัสดูสักหน่อย อะไรเรียกว่าแค่เช็ดปืนก็โดนลูกหลง”

“ได้ เช่นนั้นข้าใส่กลับไป”

ซูจิ่งสิงพยักหน้า เขาเชื่อภรรยาตนอย่างไร้ข้อกังขา ในเมื่อน้องหญิงพูดว่าไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร

ซูจิ่งสิงใส่ปืนกลับเข้าตัวมู่หรงอวี้ กู้หว่านเยว่ค้นตัวมู่หรงอวี้อีกครั้ง พบว่าเขาไม่มีอะไรเหลืออยู่แล
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 461

    เขากลัวที่จะสูญเสีย“นายท่าน อาวุธลับนี้มีสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปเท่านั้น มีมันอยู่ ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ท่านได้”เถาเอ๋อร์ไม่ชอบให้สิ่งของของตนถูกสงสัย มันทำให้นางอับอายนับตั้งแต่ที่กู้หว่านเยว่ช่วยซูจิ่งสิงไว้ โครงเรื่องทั้งหมดก็เปลี่ยนไปซูจิ่งสิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ตัวเอกชายคนเดิม มู่หรงอวี้ที่คาดว่าจะมีโชคมีลาภ กลับเริ่มเสื่อมถอยลงราวกับเดินตกหน้าผาเขาไม่เพียงสูญเสียสมบัติส่วนตัวไปหลายชิ้น แต่คนที่ควรจะเป็นผู้ช่วยของเขาก็ถูกกู้หว่านเยว่แย่งชิงไปทีละน้อยทั้งหมดนี้ เกี่ยวข้องกับกู้หว่านเยว่อย่างสลัดไม่หลุดทว่า เถาเอ๋อร์ในตอนนี้ไม่มีท่าทางตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เพราะนางได้เปิดใช้งานนิ้วทองแล้วนางมีนิ้วทอง ทั้งยังเป็นผู้เขียนหนังสือต้นฉบับ นางต่างหากที่เป็นผู้ดำรงอยู่ที่สูงส่งที่สุดกู้หว่านเยว่เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กจ้อย ที่ถูกลิขิตมาให้นางได้เหยียบย่ำไว้ใต้ฝ่าเท้า“เจ้าอย่าโกรธ ข้าแค่กังวลนิดหน่อย”มู่หรงอวี้สัมผัสปืนไฟในมือของเขาอย่างระมัดระวัง พลางคิดว่า“เถาเอ๋อร์ เจ้าว่า ในโลกใบนี้ จะมีปืนกระบอกที่สองหรือเปล่า?”“เป็นไปไม่ได้แน่นอน!”เถาเอ๋อร์กล่าวอย่างตื่นต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 462

    สิ่งที่กู้หว่านเยว่คิดก็คือ ครั้งนี้มู่หรงอวี้พาคนมาจำนวนมาก วางสายลับไว้ในหมู่บ้านสือหานเรียบร้อยแล้วหากนางและซูจิ่งสิงเดินเข้าหมู่บ้านไปอย่างหยิ่งยโส คนของมู่หรงอวี้ย่อมต้องค้นพบพวกเขาแน่นอนถ้าให้อวิ๋นมู่พาผู้เฒ่าอวิ๋นเข้าหมู่บ้านไปก่อน แล้วนางกับซูจิ่งสิงค่อยเดินตามเข้าไปเงียบๆ คงจะดีกว่าด้วยวิธีนี้ ศัตรูก็จะอยู่ในที่สว่าง ส่วนพวกเราก็จะอยู่ในที่มืด ลงมือกระทำการง่ายกว่า“พอเจ้าไปถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านก็บอกเขาว่าเจ้าเป็นคนของเขา หัวหน้าหมู่บ้านย่อมปล่อยให้เจ้าเข้าไปแน่นอน”อวิ๋นมู่ถูกคำว่า “คนของข้า” ทำให้สั่นไหว จากนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ได้เลย ข้าฟังเจ้า”ในเมื่อกู้หว่านเยว่เตรียมการไว้เช่นนี้ นางย่อมต้องมีเหตุผลของนาง อวิ๋นมู่จึงเลือกที่จะเชื่อฟังโดยดีกู้หว่านเยว่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วหันไปขอให้ชิงเหลียนและหงเจาพาพวกเขาไปหาหัวหน้าหมู่บ้านโจวหลังจากนั้น นางและซูจิ่งสิงพร้อมกับฉู่เฟิง ก็แอบเข้าไปในหมู่บ้านสือหานอย่างเงียบๆ ทั้งสองเดินเท้ากลับบ้านในเวลานี้ บ้านมุงจากหลังเดิมที่ตีนเขาด้านหลังถูกรื้อ แทนที่ด้วยบ้านอิฐเป็นที่เรียบร้อยกู้หว่านเยว่ตาม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 463

    แต่กู้หว่านเยว่ยืนกรานที่จะช่วยเหลือซูจิ่งสิง อีกทั้งครั้งนี้มู่หรงอวี้ แตะโดนเส้นตายของนางแล้ว“ก่อนที่จะไป ท่านไปบอกคนอื่นให้พวกเขาหลบเลี่ยงด้วยนะเจ้าคะ จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงไปด้วย”ลูกสะใภ้หลักแหลม ซูจิ่งสิงก็ปกป้องเท่าชีวิต ผู้เฒ่าทั้งสองทำอะไรไม่ได้แล้ว“เอาล่ะ พวกเราฟังเจ้า แต่เจ้าต้องระวังนะ หากพ่ายแพ้ก็กลับมาซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ด้วยกัน”ขณะที่พูด ใบหน้าของนางหยางก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลพวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถอะไร ดังนั้นการเป็นกังวลเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องปกติส่วนกู้หว่านเยว่ก็ที่จะอธิบาย คงไม่อาจบอกทั้งสองคนได้ตนเองมีมิติในร่าง ไม่มีทางเป็นอะไรกระมัง?เวลาไม่คอยท่า ทั้งสองอธิบายให้นางหยางและซูจิ้งเสร็จแล้วนางหยางก็ออกไปบอกครอบครัวอื่นๆ ให้ผู้ญิงและเด็กเล็กซ่อนตัวให้ดี โดยเฉพาะตระกูลเหยียนที่ไม่มีวรยุทธ์ ย่อมต้องซ่อนไว้ให้มิดชิดเมื่อเห็นนางหยางและซูจิ้งเข้าไปในอุโมงค์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงไปที่ห้องของพวกเขานี่ก็คือห้องนอนใหญ่ของพวกเขาในระหว่างก่อสร้าง กู้หว่านเยว่ได้ออกแบบไว้โดยเฉพาะไว้บนภาพวาด เป็นห้องสำหรับพวกเขาสองคนเตียงนุ่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 464

    กู้หว่านเยว่ดึงซูจิ่งสิงให้นอนลงบนเตียง แอบรอให้คนของมู่หรงอวี้มาถึงไม่รู้ว่ารอนานแค่ไหน บนเตียงหลังนุ่มที่รองรับหลัง จู่ๆ ซูจิ่งสิงก็สะกิดกู้หว่านเยว่ที่เคลิ้มหลับไปเบาๆ“น้องหญิง พวกเขามาแล้ว”กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟัง ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกหน้าต่างจากนั้น กระบี่เล่มคมก็พุ่งเข้ามาจากด้านนอก ซูจิ่งสิงทะยานเข้าไป คว้ากระบี่เอาไว้แล้วโยนทิ้งทันที“พวกเราออกไปกันเถอะ”พวกเขาทั้งสองลุกจากเตียง เดินออกไปข้างนอก ในเวลานี้ คนในชุดดำจำนวนนับไม่ถ้วนกรูเข้ามาจากด้านนอกกำแพงลาน ล้อมรอบลานทั้งหมดไว้อย่างสมบูรณ์“หวายหนานอ๋อง ท่านคิดจะทำอะไร?”กู้หว่านเยว่เลียนแบบเสียงของนางหยาง ถามด้วยความตื่นตระหนก“เหอะ นางหยาง โทษก็โทษที่เจ้าให้กำเนิดลูกชายดี กลายมาเป็นปรปักษ์กับข้าเถอะ เด็กๆ จับพวกเขาเอาไว้”มู่หรงอวี้ขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระ จึงออกคำสั่งให้คนของตนทั้งหมดลงมือทันทีองครักษ์ลับของซูจิ่งสิงและคนของหนานหยางอ๋องก็ออกมาแล้วเช่นกัน พวกเขากำลังต่อสู้กับคนของมู่หรงอวี้อย่างไม่มีใครยอมใครทว่า หากมองดูดีๆ แล้ว คนในฝั่งของซูจิ่งสิงนั้น คล้ายจะแข็งแกร่งกว่าท้ายที่สุดแล้ว องคร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 465

    ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนี้ กู้หว่านเยว่ยังคงกลัวว่าการฆ่ามู่หรงอวี้จะดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้ชั่ว กลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามขึ้นมาได้แต่ในเวลานี้ มู่หรงอวี้ถึงขั้นกล้าบุกมาที่บ้าน!นางไม่อาจสนใจอะไรได้มากกว่านี้แล้วหากไม่ใช่ว่านางกับซูจิ่งสิงรู้ข่าวก่อน วันนี้จะเกิดอะไรขึ้น?มู่หรงอวี้ที่มาพร้อมกับอาวุธลึกลับ และหมู่บ้านสือหานที่มีแนวโน้มจะถูกเขาทำลายล้างผลลัพธ์นี้ เป็นสิ่งที่กู้หว่านเยว่ไม่กล้าจินตนาการโดยเฉพาะความโหดร้ายของมู่หรงอวี้ หากนางหยางและซูจิ้งตกอยู่ในมือของเขา ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะตายไร้ที่กลบฝังกู้หว่านเยว่รักญาติสนิทเหล่านี้มาก และการเคลื่อนไหวของมู่หรงอวี้ ก็เหยียบลงบนเส้นตายของนางอย่างไม่ต้องสงสัย“ให้ฉู่เฟิงกับหวังปี้ตามพวกเรามา ส่วนที่เหลืออยู่เก็บกวาดที่นี่เสีย”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง โยนซากปืนไฟกลับไปในพื้นที่มิติ แล้ววิ่งตามมู่หรงอวี้ไปทันทีเวลานี้ มู่หรงอวี้หวาดกลัวจนแทบหมดสติโชคดีที่เขาเจ้าเล่ห์มากพอ แม้ว่าจะเข้ามาเพื่อล้อมหมู่บ้านสือหานไว้ แต่เขาก็ยังคงมีกองกำลังเสริมรออยู่ข้างนอกที่ประตูรถม้ากำลังรออยู่หลังจากวิ่งขึ้นรถม้าแล้ว มู่หรงอวี้ก็ไม่ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 466

    ในเวลานี้ มู่หรงอวี้ในรถม้าแสนตระหนก รถม้าลึกเข้าไปในหุบเขา เพื่อเอาชีวิตรอด ที่ใดมีทางถนนพวกเขาก็พุ่งไปที่นั่นเหมือนดั่งแมลงวันไร้หัวที่บินอยู่ในหุบเขาก็มิปาน“ด้านหน้ามีถ้ำอยู่”มู่หรงอวี้บังเอิญวิ่งเข้าไปในถ้ำที่กู้หว่านเยว่เก็บเสบียงเอาไว้หลังจากทำการขนย้ายมาหลายวัน เสบียงอาหารทั้งหมดในถ้ำก็ถูกส่งไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินแล้วในเวลานี้ ถ้ำแห่งนี้ว่างเปล่า ยกเว้นเพียงถุงอาหารบางส่วนเท่านั้นมู่หรงอวี้มองไปที่ถุงข้าวเหล่านั้น สงสัยอย่างสุดซึ้ง“นี่เป็นเสบียงที่ซ่อนอยู่ในคลังส่วนตัวของข้าไม่ใช่หรือ?”มันมีตราประทับของเขาอยู่ด้วย ไม่ผิดแน่“เหตุใดเสบียงในคลังส่วนตัวของข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”สิ่งนี้ทำให้มู่หรงอวี้ตกอยู่ในภวังค์เล็กๆ ก่อนหน้านี้เขาก็เดาไว้ว่า ไม่ว่ากู้หว่านเยว่ไปที่ไหน คลังส่วนตัวของเขาก็จะว่างเปล่าตอนนั้น เขาก็สงสัยในตัวกู้หว่านเยว่มานานแล้วแต่สงสัยก็ส่วนสงสัย ตอนนี้จะมีอะไรแน่นอนได้อีก?มู่หรงอวี้โกรธมากจนแทบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดทว่า อย่างไรเขาก็ยังไม่ไขกระต่าง สองคนนี้มีความสามารถถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?“ออกไปก่อน!”ยังไม่ทันได้โกรธ มู่หรงอวี้ก็ต้อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 467

    ซูจิ่งสิงไม่มีเวลามาโต้เถียงกับเขา พูดอย่างเย็นชา“จะถึงหูฝ่าบาทหรือไม่ ก็ไม่มีผลอะไรกับข้า”“เจ้า หรือเจ้าคิดจะก่อกบฏ?”ทันทีที่มีการคาดเดานี้ผุดขึ้นมา มู่หรงอวี้ก็ตื่นตระหนกแล้วจริงๆหากซูจิ่งสิงคิดกบฏ ราชวงศ์ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ต้องเกรงกลัวในขณะเดียวกัน ฐานะอ๋องเองก็ไม่สามารถเป็นเครื่องรางช่วยชีวิตของเขาได้อีกต่อไปแววตาของเขา ในที่สุดก็เต็มไปด้วยความกลัว “ซูจิ่งสิง มีเรื่องอันใดค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถอะ”ซูจิ่งสิงยังคงพูดคำเดิม“คายทุกเรื่องที่เจ้าทำกับตระกูลซูหลายปีนี้ออกมา แล้วข้าจะพิจารณาปล่อยเจ้าไป”“ข้าพูด ข้าพูดแล้ว”เกี่ยวกับปัญหานี้ มู่หรงอวี้ไม่มีอะไรไม่กล้าพูด รีบพูดว่า“ข้าไม่ได้ทำอะไรกับตระกูลซูเลยจริงๆ ข้าเคยพยายามเอาชนะเจ้ามาก่อน เคยไล่ฆ่าพวกเจ้ามาตามทาง แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความประสงค์ของฝ่าบาท ไม่เกี่ยวข้องกับข้า…”ซูจิ่งสิงหรี่ตาลง“ฮ่องเต้ออกคำสั่ง เหตุใดเจ้าถึงไล่ตามข้าไม่ลดละเล่า?”“เป็นเถาเออร์!”“นางบอกข้าว่า โลกนี้เป็นหนังสือนิยายที่นางเขียนขึ้นมาด้วยตนเอง และข้าก็ควรจะได้เป็นฮ่องเต้ตามต้นฉบับเหตุผลที่ข้ามาอยู่ในจุดนี้ ก็เพราะเจ้ากับกู้หว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 468

    “พวกเจ้าคงจะยังไม่รู้สินะว่าในตัวของหนานหยางอ๋องนั้นมียาพิษ”เรื่องที่หนานหยางอ๋องโดนวางยาพิษ กู้หว่านเยว่รู้อยู่ก่อนแล้ว เพราะนางเป็นคนถอนยาพิษนี้เองกับมือ“หากเป็นความลับนี้ ก็ต้องขอโทษด้วย มันไม่ได้มีผลกับข้า” กู้หว่านเยว่โบกมือไปมา“ว่าอย่างไรนะ? ช้าก่อน ข้ายังมีอีกเรื่อง” มู่หรงอวี้เอือมระอากับการรับมือที่ยากเย็นกับกู้หว่านเยว่เต็มทน แต่เพื่อปกป้องตัวเอง เขาจะต้องประกาศเรื่องที่ตนรู้ทั้งหมดออกมาให้จงได้“ยังมีอีกเรื่อง ข้ารู้ว่าฝ่าบาททรงทำลายหมู่บ้านโซว่หวางทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและอ๋องจินในเหอตง”“อ๋องโซว่ก็คือกงซุนจ่างเย่ เขาคอยดูแลหมู่บ้านโซว่หวางที่ตั้งอยู่ในทุ่งหญ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนอ๋องจินคอยดูแลเกี่ยวกับถ่านหินที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพวกเขาไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนสักเท่าไหร่”ซูจิ่งสิงคอยอธิบายอยู่ข้างหูของกู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ฮ่องเต้ที่ขึ้นครองราชย์อยู่ในตอนนี้ก็คือบุตรบุญธรรม ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่สายเลือดเชื้อพระวงศ์โดยตรง ดังนั้นเขาจึงเกิดความกังวลมาตลอดว่าบัลลังก์ที่เขากำลังขึ้นครองอยู่นี้จะถูกใครคนอื่นช่วงชิงตลอ

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1176

    “คนในครอบครัวของเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ?”กู้หว่านเยว่ปวดใจกับเด็กคนนี้มาก จึงยื่นขนมอีกชิ้นให้เขา“ทุกคนตายหมดแล้วขอรับ เหลือเพียงข้าผู้เดียว”ครั้นนึกถึงเรื่องเสียใจ เสี่ยวถ่านก็มักจะก้มหน้าลง จากนั้นหยดน้ำตาก็ได้หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเขาเขาคิดถึงท่านแม่“เอาละ หยุดร้องได้แล้ว แม้ว่าคนในครอบครัวของเจ้าจะตายกันหมดแล้ว แต่เจ้าก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี”กู้หว่านเยว่ตักน้ำแกงไก่ให้เขา นางมักจะรู้สึกว่าสถานะของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดากิริยามารยาของเขาดูไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา จู่ ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว“ประตูเมืองเปิดแล้ว!”ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงตะโกนระลอกหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอก จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นขึ้นในฝูงชนที่ล้อมรอบ ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามารวมตัวกันหน้าประตูเมือง“น้องหญิง เราเองก็เข้าเมืองกันเถอะ”ซูจิ่งสิงเปิดผ้าม่าน ก่อนจะกล่าวทักทายกู้หว่านเยว่ ไหน ๆก็จะเข้าเมืองแล้ว พวกเขาคงนั่งอยู่บนรถม้าไม่ได้อีก ต้องลงจากรถม้ามาตรวจสอบถึงจะถูก “เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่คว้ามือของเสี่ยวถ่านลงมาจากรถม้า และเดินมาต่อแถวอยู่ด้านหลังของกล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1175

    ไม่สู้สละตัวปัญหานี้ออกไปโดยเร็ว เขาจึงเริ่มร้อนใจ“เอาอย่างไร ข้าเสนอให้เจ้ายี่สิบตำลึง ตกลงเจ้าจะเอาหรือไม่เอา?”“ข้าเอา”ซูจิ่งสิงรับเงินมาจากมือของกู้หว่านเยว่ หลังจากนับจนครบยี่สิบตำลึงแล้วก็โยนให้บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นรับเงินไปด้วยความดีใจ เขาทำการตรวจสอบครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจทาสตัวน้อยนั้นอีก สะบัดก้นเดินจากไปทันที“ขอบคุณพวกท่านมาก” ทาสตัวน้อยมองไปทางซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง แต่นัยน์ตายังคงหวาดกลัวลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าซูจิ่งสิงอันตรายมาก เขาไม่กล้าเข้าใกล้ซูจิ่งสิงเลยแม้แต่น้อย“เจ้าขึ้นรถม้าเถอะ”กู้หว่านเยว่กวักมือเรียกทาสตัวน้อย สองวันมานี้เวลาว่างนางก็มักจะเรียนรู้ภาษาของชาวทูเจวี๋ยจากซูจิ่งสิงอยู่เสมอ แม้ว่าจะยังออกเสียงได้เล็กน้อย แต่พอถูไถได้ไม่มีปัญหาทาสตัวน้อยเกิดความลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังปีนขึ้นรถม้า เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความประหลาดใจ“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ใช่คนชั่ว”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นทำไม บางทีอาจเพราะเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากทาสตัวน้อยผู้นั้น จึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองก่อนหน้านั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1174

    นางรีบลืมตา ก็พบว่าพวกเขามาถึงคูเมืองแห่งหนึ่งแล้ว เมืองชิงซานประตูเมืองของเมืองชิงซานจะเปิดในเวลาแปดโมงเช้า ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงจอดรถม้าอยู่หน้าประตูเมืองชั่วคราวแต่เวลานี้บริเวณประตูเมืองชิงซาน ยังมีคนที่เดินทางมาถึงเช้าตรู่เหมือนกับพวกเขาอีกเป็นจำนวนมาก กำลังพักผ่อนอยู่บนพื้นที่โล่งรอบ ๆ หน้าประตู เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ดังมาจากด้านหลังของรถม้าพวกเขา กู้หว่านเยว่เบนสายตามองตาม กระทั่งเห็นเด็กน้อยหน้าตามอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิงคนหนึ่ง เกาะล้อรถของนางไม่ยอมปล่อย แต่ด้านหลังของเขา มีบุรุษวัยกลางคนฟาดเขาด้วยแส้อย่างโหดเหี้ยม“เกิดอะไรขึ้น?”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เมื่อครู่นางอยู่แต่ในห้วงมิติตลอด จึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้านนอก“เด็กหนุ่มผู้นี้วิ่งลงมาจากรถม้าของบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น”ซูจิ่งสิงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ“ท่าทางจะเป็นทาสที่ซื้อตัวมา คงอยากหนี”“ได้โปรดพวกท่าน ช่วยข้าด้วย”ครั้นทาสตัวน้อยเห็นกู้หว่านเยว่ชะโงกหน้าออกมา จึงมองนางด้วยความตกใจ แต่นัยน์ตาแฝงไปด้วยการอ้อนวอนเดิมทีกู้หว่านเยว่ไม่อยากเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1173

    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า รูม่านตาของเจ้าเมืองแห่งเมืองสือโม่เบิกกว้าง พลางส่งเสียงกรีดร้องคล้ายกับสตรีชั้นสูงที่กำลังถูกกระทำชำเราอย่างไรอย่างนั้น“รนหาที่ตายแท้ ๆ บุรุษและสตรีคู่นี้เป็นผู้ใดกัน?!”“เจ้าเมือง บัดนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”ทหารที่ดูโง่เขลาบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว เพียงครู่เดียว จวนของเจ้าเมืองก็ถูกกู้หว่านเยว่ถล่มจนไม่เหลือชิ้นดีทั้งเมืองสือโม่ตกอยู่ในความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม!ซึ่งพอจะจินตนาการได้ว่าเรื่องของเมืองสือโม่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองทูเจวี๋ยอย่างแน่นอน ไม่สิ อาจจะแพร่กระจายไปยังฝั่งของต้าฉีด้วย“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำอย่างไร รีบจับพวกเขาให้ได้ก่อนเถอะ!”เจ้าเมืองโกรธที่ตัวเองไร้ความสามารถ ส่วนทหารคนอื่นได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาไม่มีปีก ดังนั้นจึงทำได้แค่มองนกหงส์เพลิงบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ “จูเชวี่ย เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่มองไปยังเสบียงอาหารที่ถูกปล้นมาไว้ในห้วงมิติ ก่อนจะคลี่ยิ้มตาหยี นางลูบหัวของจูเชวี่ยเบา ๆ และออกคำสั่งให้จูเชวี่ยเร่งความเร็ว จากนั้นก็บินออกจากเมืองสือโม่ไปเจ้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status