“หนังสือตัดสายเลือด พอใจแล้วใช่หรือไม่ เราไปกันเถิด!”ซูหรานหร่านรีบคลี่อ่านทันที เมื่อมั่นใจว่าเป็นหนังสือตัดสายเลือดจริง ๆ นางก็โล่งใจ จากนั้นก็เงยหน้าส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับกู้หว่านเยว่แต่เมื่อซูหัวหยางเห็นท่าทางของพวกนางสองคน เขาก็รู้ทันทีว่าตัวเองนั้นติดกับเข้าแล้วเพียงแต่ไม่รอให้เขาคิดมาก ฮูหยินผู้เฒ่าซูผู้ไม่ชอบความโชคร้าย รีบเข้ามาลากเขาออกไป“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเป็นอิสระแล้ว”ซูหรานหร่านดีใจจนน้ำตาไหลหวังปี้กระชากตัวนาง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนใจ “ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอ!”“ท่านแม่ทัพหวัง....”ยังไม่ทันที่ซูหรานหร่านจะตอบตกลง นางก็ถูกเขาลากออกไป นางรีบห้ามเขา “ไม่ต้องไปหาหมอหรอก เปลืองเงินเสียเปล่า ๆ”“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ข้าจะหาวิธีเอง โรคเรื้อนสามารถรักษาให้หายได้ ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอ”สายตาของหวังปี้ฉายแววร้อนใจจริง ๆ ก่อนจะหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาให้ซูหรานหร่านดู“ท่านแม่ทัพหวัง โรคเรื้อนสามารถติดต่อกันได้ ท่านไม่กลัวหรือ?”กู้หว่านเยว่ยิ้มเยาะ นางตั้งใจลองเชิงเขา“มีอะไรต้องกลัวเล่า ไปหาหมอสำคัญที่สุด อีกอย่างข้าบอกไปแล้วว่าข้าจะสู่ขอหรานหร่านมาเป็นภรรยาของข้
“ไกลหรือไม่?”“ไม่ไกล ห่างจากเราแค่ห้าลี้”กู้หว่านเยว่รู้สึกตื่นเต้น สิ่งที่นางคิดคือหลังจากมาถึงหมู่บ้านสือหานแล้ว นางยังไม่ได้สำรวจรอบ ๆ หมู่บ้านอย่างละเอียดในเมื่อหมู่บ้านชาวประมงอยู่ไม่ไกล ไม่สู้พรุ่งนี้นางเดินทางไปยังหมู่บ้านชาวประมง แล้วถือโอกาสหาอาหารทะเลที่นั่นกินเลย“ท่านพี่ พรุ่งนี้เราไปหมู่บ้านชาวประมงกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ขยับเข้าใกล้ซูจิ่งสิง ความตื่นเต้นของนางมากมายจนไม่อาจปฏิเสธได้ ซูจิ่งสิงจึงพยักหน้าตอบตกลงอย่างอ่อนโยน“ได้สิ แล้วแต่เจ้า”“คุณชายโจว อาหารทะเลสองตะกร้านี้ราคาเท่าไหร่ ข้าเหมาหมดเลย”นางจะพลาดอาหารทะเลเหล่านี้ไปไม่ได้“เจ้าจะเหมาหมดเลยหรือ?”โจวลิ่วหลางตื่นตกใจก่อน จากนั้นก็รีบกล่าวอธิบาย“กุ้งหนอนเป็นกุ้งเปลือกแข็งเนื้อน้อย ไม่คุ้มเสีย พวกชาวประมงให้ข้ามา ว่าแต่เจ้าอยากดูปลากะพงหรือไม่?”ปลากะพงในถังเป็นตัวที่เขาเพิ่งซื้อมาอีกทั้งเดิมทีเขาตั้งใจจะให้ปลากะพงกับกู้หว่านเยว่ด้วย“กุ้งหนอนหรือ?”กู้หว่านเยว่ดีใจ ที่แท้คนโบราณก็เรียกกั้งว่ากุ้งหนอนนี่เอง“ข้าไม่อยากได้ปลากะพง ข้าอยากได้กุ้งหนอน เจ้าช่วยคิดให้ข้าหน่อยว่าเท่าไหร่ ข้าเหมาสองถัง
เมื่อได้ยินว่ากู้หว่านเยว่เป็นคนซื้อมา ทุกคนก็พากันปิดปากเงียบ แล้วก็คลี่ยิ้ม“พี่สะใภ้ใหญ่ซื้อก็ถูกแล้ว”“นั่นนะสิ พี่สะใภ้ใหญ่ไม่หลอกพวกเราหรอก”ซูจิ่งสิง ‘….เขาดูเป็นส่วนเกินอยู่ไม่น้อย’ ซูจิ่นเอ๋อร์ยกมือทาบอกเบา ๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านจัดการกุ้งหนอนกองนี้เถิด .... ข้า ข้าจะรับผิดชอบย่างเนื้อจิ้งจอกเอง!”เด็กคนนี้แสดงสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดกู้หว่านเยว่คลี่ยิ้ม “วางใจเถอะ ถึงเจ้าจะอยากทำข้าก็ไม่ให้เจ้าทำ”นางรอกินอาหารชั้นเลิศด้วย เวลานี้จึงสั่งให้ซูจิ่งสิงขนอาหารทะเลเหล่านี้เข้าไปในห้องครัวกู้หว่านเยว่ปิดประตูห้องครัว แล้ววุ่นวายอยู่ในนั้นก่อนอื่นนางต้องนำกั้งทั้งหมดชั่งน้ำหนักใหม่อีกครั้ง ซึ่งได้ประมาณสิบจินกุ้งมังกรหนึ่งถังที่เหลือ ทุกตัวจะมีก้ามขนาดใหญ่ ชั่งออกมาได้ที่สิบจินเช่นกันกู้หว่านเยว่โยนมันทั้งหมดเข้าไปในห้วงมิติ จากนั้นก็เริ่มรังสรรค์อาหารอยู่ในห้องครัว“กั้งผัดพริกเกลือห้าจิน กั้งต้มห้าจิน กุ้งมังกรผัดกระเทียม!”นางโยนวัตถุดิบเข้าไป ส่วนซูจิ่งสิงนั้นช่วยปิดบังซ่อนเร้นให้นางนอกห้องครัว ซูจิ่นเอ๋อร์กำลังโรยเครื่องปรุงลงบนตัวของจิ้งจอกย่างพลางขบคิด
ปรมาจารย์แพทย์ถูมือ“เจ้ามีต้นเทียนหมาให้ข้ายืมสักหน่อยได้หรือไม่”กู้หว่านเยว่ไม่ได้โต้แย้งใด ๆ ในห้วงมิติยังมีวัตถุดิบอีกมากมาย นางจึงทำการตรวจสอบว่าต้นเทียนหมาในห้วงมิติหรือไม่ไม่นาน ความสนใจของนางได้ไปหยุดอยู่ที่ต้นเทียนหมาที่อยู่ในมุมของห้วงมิติดูเหมือนจะเป็นต้นเทียนหมาที่มาจากสถาบันแพทย์หลวง“ข้าจะให้เสี่ยวอันไปหยิบมาให้จากห้องปรุงยา”“เจ้า เจ้ามีจริง ๆ หรือ?”ปรมาจารย์แพทย์แค่ลองหยั่งเชิงถาม คาดไม่ถึงว่าจะได้สิ่งนั้นจริง ๆ เขาจึงตื่นตกใจไม่น้อย“ไม่เพียงแค่มีเท่านั้น เจ้ายังยกให้ข้าด้วย?”“อื้อ ก็แค่ต้นเทียนหมา ไม่ได้มีค่าอะไร”ไม่มีค่า แต่เขามีความแค้น! ปรมาจารย์แพทย์ยังคิดอยู่เลยว่าเด็กคนนี้คงจะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเป็นแน่“ข้าบอกแล้ว ว่าแม่นางกู้ให้เจ้า” หวงเหล่าที่กำลังแทะขาจิ้งจอกได้กล่าวออกมาดั่งที่คาดการณ์ไว้แล้วปรมาจารย์แพทย์รู้สึกลำบากใจ เขาต้องสะดุ้งตื่นเพราะตบตัวเองถึงสองครั้งก่อนหน้านั้นทำไมเขาถึงเชื่อฟังคำกล่าวของมู่หรงอวี้ คิดว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยม?เด็กคนนี้เดินทางสายกลางด้วยซ้ำ!“เด็กดี รอให้ข้าปรุงยาเสร็จ ข้าจะให้เจ้าหนึ่งเม็ด”
กู้หว่านเยว่ไม่มีอะไรทำ จึงหาข้ออ้างกลับห้อง และกลับเข้าไปในห้วงมิตินางไม่ได้เข้ามาในนี้สองวันแล้ว ภายในห้วงมิติไม่ว่าจะเป็นทุ่งสมุนไพร ต้นไม้ หรือแม้กระทั่งฟาร์มล้วนแต่มีแนวโน้มค่อย ๆ เติบโตขึ้น“แย่แล้ว ประมาณการบริโภคน้อยกว่าความเร็วในการเติบโต”จู่ ๆ ระบบก็กล่าวเตือนด้วยความหวังดี “นายท่านสามารถใช้เครื่องควบคุมได้ เก็บผลของต้นแล้วนำมาสกัดเป็นแยมผลไม้และผลไม้ตากแห้งได้”“ไม่ต้องลงมือทำเองหรือ?” นัยน์ตาของกู้หว่านเยว่เปล่งประกาย จากนั้นก็รีบเปิดแผงควบคุมส่วนกลางทันทีหลังจากงมอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดนางสามารถเก็บผลไม้จากต้นทั้งหมดได้เพียงคลิกเดียว ทั้งยังทำแยมผลไม้ได้ภายในคลิกเดียว สถานที่สำหรับตากแห้งก็มีปุ่มให้กดเช่นกันนางคลิกเปิดแผงควบคุมการทำงานของฟาร์ม กระทั่งพบว่ามีปุ่มสำหรับฆ่า ปุ่มสำหรับตากเนื้อ และปุ่มสำหรับความเย็นอยู่บนนั้น“คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าในห้วงมิติจะสะดวกเช่นนี้”กู้หว่านเยว่ดีใจมาก ดูท่าทางทักษะด้านเทคนิคในห้วงมิติยังมีให้นางศึกษาอีกมาก ไว้นางค่อย ๆ ขุดคุ้ยแล้วกันกู้หว่านเยว่ลองกดทำแยมผลไม้สตอว์เบอร์รี่ ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นแยมผลไม้จริง ๆ เพียงแต่พริบตาเดียว
“ได้เจ้าค่ะ เช่นนั้นท่านแม่ไปกับเรา”กู้หว่านเยว่หยิบเศษเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ เพื่อความสะดวกในการจับจ่าย หลังจากที่ทั้งสามคนออกจากบ้านได้ไม่นาน ระหว่างทางพวกเขาก็บังเอิญเจอกับโจวลิ่วหลางโดยบังเอิญ“กำลังรอพวกเจ้าอยู่พอดี”โจวลิ่วหลางห่อตัวมิดชิดคล้ายกับบ๊ะจ่าง จมูกแดงก่ำ “ภรรยาของข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าจะไปหมู่บ้านชาวประมง นางเป็นห่วงกลัวว่าพวกเจ้าจะโดนหลอก ก็เลยให้ข้าพาพวกเจ้าไป”มือมีดแห่งอาหารทะเล เชี่ยวชาญการเชือดคนต่างถิ่นในชีวิตที่แล้วกู้หว่านเยว่เคยถูกหลอกในตอนที่นางไปเดินเล่นริมชายหาดแม้จะบอกว่าตอนนี้นางไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง แต่ก็ไม่อยากเสียเงินเปล่า ๆ โดยใช่เหตุอีกเมื่อได้ยินว่าโจวลิ่วหลางจะนำทางให้นาง กู้หว่านเยว่ก็คลี่ยิ้มกว้างทันที จากนั้นก็ผายมือให้โจวลิ่วหลางนำหน้า“แม่นางสกุลโจวใจดียิ่งนัก จริงสิ นางกินยาเข้าไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?”“นางกินตามที่เจ้าสั่ง กินตลอด ไม่กล้าขาดเลยสักวัน”กู้หว่านเยว่ใช้นิ้วนับวันครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าหยุด กินอีกสักครึ่งเดือน เตรียมฟังข่าวดีได้เลย”“ข่าวดี?”โจวลิ่วหลางเกิดความสับสนพร้อมกับมือสั่นระริ
“อื้อ” กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วแน่น นางดูออกว่าบ้านหลังนี้ไม่ค่อยรักษาความสะอาด“ของทะเลส่วนใหญ่อยู่ตรงนี่ ฮูหยินเชิญเลือกตามสบายเจ้าค่ะ” ป้าสวี่พาพวกเขามาถึงลานกว้างด้านหลัง จากนั้นก็ตะโกนเรียกบุตรสาวทั้งสองคนอย่างสุดเสียง“ซิ่งเอ๋อร์ อวี๋เอ๋อร์ มีลูกค้าออกมาช่วยหน่อยเร็ว”เด็กสาวร่างกายซูบผอมทั้งสองคนรีบวิ่งออกมาจากในห้อง ดูท่าทางพวกนางน่าจะกำลังผ่าท้องปลา เพราะยังมีกรรไกรถือคาอยู่ในมือเมื่อทั้งสองคนเห็นกู้หว่านเยว่ที่แต่งตัวงดงาม จึงรีบเช็ดมือทันทีกระทั่งเห็นซูจิ่งสิงที่มีรูปโฉมงดงาม พวกนางถึงกับตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้ารูปไข่ของเขาแดงก่ำ“ท่านแม่ พวกเขาคือ....” บุตรสาวคนโตซิ่งเอ๋อร์กระซิบถามเบา ๆ “แขกที่มาซื้อปลา!” ป้าสวี่ตั้งใจกัดฟันเน้นคำว่าแขกซิ่งเอ๋อร์และอวี๋เอ๋อร์มองตากัน จากนั้นก็ปรี่เข้าไปช่วยป้าสวี่เปิดฝาพลางชำเลืองมองซูจิ่งสิงด้วยสายตาเปล่งประกายในใจของกู้หว่านเยว่นึกถึงแต่หอยนางรม จึงไม่ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของพวกนางเมื่อฝาไม้ถูกเปิดออก ก็เจอกับของทะเลจำนวนมากอยู่รวมกันในบ่อแห่งนี้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกุ้งและปลา หอยนางรมก็มีแต่น้อยมากกู้หว่านเยว่ชี้ไปยังหอยน
ประเด็นหลักเป็นเพราะไม่ชอบถูกใครสัมผัส อาซานจึงผลักนางหยางออกไปนางหยางล้มลงกับพื้น เจ็บปวดปานจะขาดใจ “พี่ซาน ข้าชื่อเหลียนหรง ท่านจำข้าไม่ได้แล้วหรือ?”ว่าแล้วนางก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับแหวกคอเสื้อออก หยิบป้ายไม้แผ่นหนึ่งออกมาจากซอกคอ“ป้ายไม้คู่นี้ท่านแกะสลักเองกับมือ ท่านยังจำตัวอักษรบนนั้นได้หรือไม่?เหลียนหรง คือชื่อของข้า ข้าเป็นเมียท่าน...”หลังจากอาซานเห็นป้ายไม้ม่านตาก็หดตัวลง เหลือบมองนางหยางอย่างไม่เชื่อสายตานางหยางน้ำตาอาบแก้ม จิตใต้สำนึกของอาซานอยากจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้นางแต่ทันทีที่เขาเห็นนิ้วมือที่ขาดหายไปของตัวเอง ก็ถอยกรูดออกไปสองก้าวเหมือนถูกไฟดูด ก่อนจะปิดหน้าจากไปอย่างรวดเร็ว“พี่ซาน พี่ซาน!”นางหยางไล่ตามไปอย่างไร้สติ แต่แล้วก็ล้มลงบนชายหาดเพราะรีบร้อนเกินไปในเวลานี้กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเพิ่งได้สติกลับมา รีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงนางหยางให้ลุกขึ้นทั้งคู่ได้ยินสิ่งที่นางหยางพูด“ท่านแม่ แน่ใจนะว่าท่านไม่ได้จำผิดคน?”ซูจิ่งสิงไม่อยากจะเชื่อ ก็ซูเหล่าซานตายไปสิบกว่าปีแล้วนี่แม้ว่าหลายวันก่อนนางหยางจะบอกอยู่เสมอว่าซูเหล่าซานยังมีชีวิตอยู่แน่นอน แต่