คำพูดเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้เรื่องราวในตอนนั้นปะทุขึ้นมา“พ่อกับแม่ของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ก็จริง ข้าจะรื้อคดีของพ่อกับแม่เจ้า นำศพของพวกเขาขุดออกมาจากป่าช้า ประกอบพิธีฝังศพให้ดี ให้พวกเขาได้หลับอย่างสบาย”นางเถียนน้ำตาไหลอาบแก้ม ยืนตัวโงนเงน “ขอบคุณใต้เท้ามาก!”“นางแพศยา เจ้ามันนางแพศยา ข้าเอ็นดูเจ้ามานานปลายปีขนาดนี้!” หัวหน้าหมู่บ้านเฉินด่าทออย่างบ้าคลั่งนางเถียนหันหลังกลับมาทันที“เฉินสือ ท่านรู้หรือไม่ว่าสมุดบัญชีในมือของข้ามีที่มาที่ไปอย่างไรหรือไม่?”เฉินต้าลี่ที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ มีสีหน้าร้อนรนขึ้นมาทันที“แม่นางน้อย อย่าพูด...”หัวหน้าหมู่บ้านเฉินหันหน้ากลับมา จ้องมองแววตาที่ไม่ปกติของลูกชาย จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีเขางอกออกจากหัว“เจ้า พวกเจ้า...”“เป็นลูกชายสุดที่รักของท่านมอบให้ข้า ฮ่า ๆ ๆ ภายนอกเขากตัญญูเชื่อฟังเจ้า แต่หลับหลังท่านตอนที่ขึ้นเตียงกับข้า กลับด่าว่าเหตุใด ไอ้แก่เช่นท่านถึงไม่รีบตาย แล้วมอบตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านให้กับเขา...”“หญิงร้ายชายเลว!”หัวหน้าหมู่บ้านเฉินอาเจียนออกมาเป็นเลือด สายตาดุร้าย ตบหน้าลูกชายฉาดหนึ่งเฉินต้าลี่รีบคุกเข่าลงบนพื้น “ท่านพ
“เยี่ยม เยี่ยมมาก ผู้ว่าการอำเภอหลิวเจ้าไม่เข้มงวดเรื่องการปกครอง ทำให้ต้องสูญเสียไปอีกหนึ่งชีวิต!”สายตาที่อันตรายนั่นของฟู่หลานเหิง ทำให้ผู้ว่าการอำเภอหลิวตกใจจนรีบคุกเข่าลงไปกับพื้น“ตะ ใต้เท้า เรื่องพวกนั้นที่หัวหน้าหมู่บ้านเฉินทำ ข้าน้อยไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิดขอรับ...”“ไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด?”ฟู่หลานเหิงยิ้มเย็นชาด้วยความโมโห “หมู่บ้านที่เจ้าปกครองเกิดเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ขึ้น เจ้ากลับพูดว่าไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด?”“คือ...” ผู้ว่าการอำเภอหลิวฝืนยิ้มเจื่อน ๆ ออกมาฟู่หลานเหิงนำป้ายประกาศความผิดโยนใส่หัวเขาอย่างอารมณ์เสียทันที “หลิวปี่หวายเจ้าปกครองอย่างไม่เข้มงวด ปล่อยให้ขุนนางใต้บังคับบัญชาทำเรื่องเลวร้ายพวกนี้ขึ้น!”“ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่ได้ตายด้วยน้ำมือเจ้า แต่เจ้ายากที่จะหลีกหนีความผิดเช่นกัน”“ใต้เท้า ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว” ผู้ว่าการอำเภอหลิวตกใจจนรีบกอดขาของฟู่หลานเหิงเอาไว้ เมื่อฟู่หลานเหิงเห็นเขาก็เกิดความโมโหขึ้นมาแต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายที่จำเป็นต้องให้เขาจัดการ ก็โบกมืออย่างไม่เต็มใจ“หักเงินเดือนเจ้าเป็นเวลาสามปี ประกอบ
ซูจิ่งสิงจำได้ว่าครั้งก่อนที่ซูจิ่นเอ๋อร์ถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวไป กู้หว่านเยว่ก็สามารถระบุตำแหน่งของนางได้“พอรู้ทิศทางคร่าว ๆ พวกเราไปกันเถอะ”“ได้”ซูจิ่งสิงท่าทางว่องไวมาก พากู้หว่านเยว่หายตัวเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง“ใช้เทเลพอร์ต”วิชาตัวเบาของเขาเทียบไม่ได้กับเทเลพอร์ตของกู้หว่านเยว่ ในเวลาแบบนี้ ทุกนาทีก็คือชีวิตจิตสำนึกของกู้หว่านเยว่เข้าสู่ระบบ นำแผนที่ของเมืองตู้เปียนออกมา ก็เห็นจุดสีแดงจุดหนึ่งที่บนแผนที่จากนั้นก็ดึงมือของซูจิ่งสิง ใช้พลังพิเศษของเทเลพอร์ตที่ใกล้กับจุดสีแดง“ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นจวน?”เมื่อเห็นเจ้าของจวนที่ค่อนข้างมีเงิน กู้หว่านเยว่ลากมือของซูจิ่งสิง รีบทะลุเจ้าไปในจวนสาวใช้และเด็กรับใช้ในจวนไม่นับว่ามากมาย ทั้งสองคนจึงหลบเลี่ยงได้อย่างปลอดภัย จนมาถึงที่เรือนด้านหลัง“ทางด้านนี้เหมือนว่าจะเป็นที่อาศัยของเจ้าของเรือน”กู้หว่านเยว่กลุ้มใจทันที“หรือว่า โจรเด็ดดอกไม้นี่จะเป็นคนรวยที่มีความชอบที่วิปริตคนนั้น?”ไม่น่าใช้ ดูจวนที่เหลืองอร่ามหลังนี้ แม้แต่ซุ้มประตูหินก็ยังทำด้วยหยกชอบผู้หญิง เหตุใดจึงไม่ใช้เงินซื้อ กลับมาทำเรื่องผิดกฎหมายแบบนี
โจรเด็ดดอกไม้กุมแขนที่เลือดไหลเอาไว้ ยังคิดว่าซูจิ่นเอ๋อร์เป็นเพียงแม่นางธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าที่แท้ในแขนเสื้อของนางจะซ่อนอาวุธลับเอาไว้ จึงด่าทอออกมาทันที“นังแพศยา ข้าจะฆ่าเจ้า!”“ช่วยจิ่นเอ๋อร์”กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงทะลุลงมาจากหลังคาพร้อมกัน คนหนึ่งอุ้มซูจิ่นเอ๋อร์ออกไป อีกคนเตะโจรเด็ดดอกไม้จนล้มไปกองกับพื้น“พี่สะใภ้?” ซูจิ่นเอ๋อร์กลืนน้ำลาย มือทั้งสองข้างสั่นระริก “ข้า ทำได้แล้ว...”นางไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ที่เห็นหมูป่าก็ขาอ่อนอีกต่อไปแล้ว“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าเยี่ยมมาก!” กู้หว่านเยว่ลูบหัวของซูจิ่นเอ๋อร์ จากนั้นเอี้ยวตัวไปด้านข้าง อยากจะเตะโจรเด็ดดอกไม้ที่ซุ่มโจมตีให้กระเด็นออกไป“โจรเด็ดดอกไม้ วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว”“w(゚Д゚)w!” จินโหย่วเฉียนสีหน้าตกตะลึง ฮูหยินผู้งดงามมีวรยุทธ์แข็งแกร่งเช่นนี้เชียวหรือ?!“นังแพศยา ข้าค่อยมาเล่นกับพวกเจ้าวันหลัง!”เมื่อโจรเด็ดดอกไม้เห็นว่าสู้ไม่ได้ จึงโยนระเบิดควันสีขาวลูกหนึ่งออกมา แล้วกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง“คิดจะหนี?”ซูจิ่งสิงแววตาดำมืด เตะเขาจนลอยกระเด็นกลับเข้ามาในห้องทันที“พรวด!” โจรเด็ดดอกไม้อาเจียนออกมาเป็
จินโหย่วเฉียนดึงพ่อบ้านมาอีกข้างแล้วด่าอย่างเจ็บแสบฟู่หลานเหิงรีบเดินมาที่ตรงหน้าของกู้หว่านเยว่ แต่สายตากลับมองไปทางซูจิ่นเอ๋อร์ “นังหนูจิ่น เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ซูจิ่นเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับฟู่หลานเหิง หลังจากรอดชีวิตจากหายนะ ได้เห็นเขาก็นับว่าดีใจ กำลังจะพูดอะไรบางอย่างหยางหลิวแสร้งกล่าวอย่างเป็นห่วง “แม่นางซูช่างน่าสงสารจริง ๆ ได้ยินมาว่าถูกโจรเด็ดดอกไม้นั่นข่มขืนและชิงทรัพย์ ความบริสุทธิ์ของเจ้า...”พลังรบของซูจิ่นเอ๋อร์เคยได้รับการฝึกฝนจากคนในตระกูลซู ก็โมโหทันที“ความบริสุทธิ์ของข้าอะไร ท่านพูดให้ชัดเจนหน่อย ไม่พูดใช้ชัดเจนเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฉีกปากของเจ้า?!”หยางหลิวหลับไปอยู่ด้านหลังของฟู่หลานเหิง “แม่นางซู เจ้าดุขนาดนี้ทำไม ข้าเพียงแค่เป็นห่วงเจ้าเท่านั้น”ซูจิ่นเอ๋อร์เดินเข้าไปคว้าเสื้อของนาง “เจ้ายังจะพูดอีก!”“ช่วยด้วย แม่นางซูจะฆ่าข้า~”หยางหลิวน้ำตาไหลพราก ฟู่หลานเหิงรีบขวางระหว่างกลางของสองคนพูดไกล่เกลี่ย“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าใจเย็น ๆ หน่อย”“ท่านให้ข้าใจเย็น?”ซูจิ่นเอ๋อร์โมโหจนสำลัก กระทืบเท้าทันที ทันทีที่อารมณ์ก็ชี้หน้าด่าหยางหลิว“เจ้ามันตอแหล คร
ซูจิ่นเอ๋อร์ส่งเสียงเยาะเย้ยทันที “อย่ามาบ้านเราเลย คนที่แยกแยะดีชั่วไม่ได้แบบนี้ ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเขา”ซูจื่อชิงหน้าถอดสี “น้องสาว ตอนนี้เจ้าดูเหมือนแม่เสือดุไปได้อย่างไรกัน?”“ท่านก็อยากโดนข้าฉีกปากหรือ?!”ทั้งสองคนเล่นหยอกล้อกันแล้วขึ้นไปบนรถม้าของสกุลโจว กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว“รีบกลับบ้านเถอะ”ทันใดนั้น นางก็รู้สึกปวดท้องหน่วงๆ เล็กน้อย ลางสังหรณ์ไม่ดีแวบเข้ามาในใจ“หว่านเยว่ เจ้าเป็นอะไรไป?” ซูจิ่งสิงเห็นสีหน้าของกู้หว่านเยว่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของเขาก็พลันตื่นตระหนก“ไม่ค่อยสบาย”กู้หว่านเยว่พอจะเดาได้แล้ว นางอยากจะจับชีพจรตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้จับชีพจร ทั้งคนก็หมดสติไปเสียก่อนซูจิ่งสิงรู้สึกตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรถม้าวิ่งควบไปตลอดทาง เมื่อมาถึงหมู่บ้านสือหาน เขาก็รีบอุ้มกู้หว่านเยว่ลงจากรถม้าอย่างร้อนรน“ปรมาจารย์แพทย์ล่ะ ปรมาจารย์แพทย์อยู่ที่ไหน?”ปลายนิ้วของเขาค่อย ๆ กำแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลเขาวางนางลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นริมฝีปากของกู้หว่านเยว่ซีดเซียว หางตาของซูจิ่งสิงก็ค่อย ๆ แดงก่ำ ภาพตรงหน้าราวกับเต็มไปด้วยเลือด เจตนาส
ปรมาจารย์แพทย์ทนกับท่าทางแบบนี้ของเขาไม่ไหวหวงเหล่าชี้ไปที่ใต้เท้า “เห็นพื้นตรงนี้หรือไม่ ที่นี่คือที่สถิตของมังกร”กู้หว่านเยว่รู้สึกเพียงภาพตรงหน้าดับวูบ จากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว เมื่อนางตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองอยู่ในมิติระบบส่งเสียงพูดเจื้อยแจ้วต่อนาง “นายหญิง ท่านประมาทเกินไปแล้ว ท่านตั้งครรภ์แล้วทำไมไม่พักผ่อนดี ๆ เกือบจะรักษาลูกน้อยไว้ไม่ได้แล้ว โชคดีที่ข้าเพิ่งส่งพลังพิเศษไปช่วยเขา”กู้หว่านเยว่ตกตะลึง “ข้าท้องจริง ๆ หรือ?”อันที่จริงช่วงนี้นางก็รู้สึกได้ แต่กลัวว่าจะดีใจเก้อ จึงไม่กล้าจับชีพจรตัวเอง“นายหญิง ท่านต้องดูแลลูกน้อยให้ดี ๆ นะ เด็กน้อยคนนี้สำคัญและเก่งกาจมาก...” ระบบพึมพำเบา ๆ กู้หว่านเยว่แสดงสีหน้างุนงง “ลูกของข้า ข้าย่อมดูแลเขาเป็นอย่างดี”“อืม ๆ นายหญิงรู้ก็ดีแล้ว ลูกน้อยจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”เวลานี้ กู้หว่านเยว่ยังไม่รู้ว่าในอนาคตนางจะให้กำเนิดบุตรชายที่ยอดเยี่ยม ผู้รวบรวมชะตาแห่งสวรรค์และโลกไว้ในตนเอง บุตรชายคนนี้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาจากสวรรค์ และถูกกำหนดให้เหนือกว่าคนทั่วไปเด็ดองุ่นและสตรอว์เบอร์รีใส่ปาก กู้หว่านเยว่รู้สึกว่าร่างกายไม่ได้เป็นอะ
ฟู่หลานเหิงได้ยินจากปากซูจื่อชิงว่ากู้หว่านเยว่ตั้งครรภ์แล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อจนกระทั่งคู่สามีภรรยาเดินจับมือกันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรัก เขาถึงได้สติกลับคืนมา“หว่านเยว่ ได้ยินว่าเจ้าท้องแล้วหรือ?”“ขอบคุณใต้เท้าฟู่ที่แสดงความยินดี”ซูจิ่งสิงมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็เคยเป็นศัตรูหัวใจกันมาก่อน“ฮ่า ๆ เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น” ฟู่หลานเหิงส่ายหัวพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ เรื่องราวในอดีตเขาปล่อยวางไปนานแล้วเพียงแต่คาดไม่ถึงว่ากู้หว่านเยว่จะตั้งครรภ์เร็วขนาดนี้ จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี เขาต้องกลับไปคิดว่าจะให้อะไรเป็นของขวัญแก่ลูกของทั้งสองคนเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฟู่หลานเหิงก็ได้สติกลับมา รีบพูดถึงเรื่องสำคัญ“จริงสิ วันนี้ข้าเชิญพวกเจ้าทั้งสองคนมา เพราะมีเรื่องจะถาม”“หัวหน้าหมู่บ้านเฉินเสียชีวิตแล้ว หมู่บ้านสือหานต้องมีหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ขึ้นมาแทน ข้าอยากจะถามความเห็นของพวกเจ้า”ชาวบ้านของหมู่บ้านสือหานคุกเข่าอยู่โดยรอบฟู่หลานเหิงมองไปรอบ ๆ ก็ไม่รู้จักใครเลยการจะเลือกหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ นี่มืด
กู้หว่านเยว่หยิบน้ำเชื่อมออกมาขวดหนึ่งแล้วยื่นให้เขา พร้อมกับอธิบาย“ข้าและท่านพี่ได้ยินว่าท่านเกิดเรื่อง จึงเร่งเดินทางมาที่นี่ ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?”หนานหยางอ๋องได้ยินดังนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ประสานมือคารวะทั้งสองคน“ขอบคุณท่านอ๋องและพระชายาที่ยังเป็นห่วงข้า”กู้หว่านเยว่เห็นเขามีสีหน้าอ่อนเพลีย จึงรีบเอ่ยขึ้น “รีบดื่มน้ำเชื่อมนี่เถิด จะช่วยให้ท่านฟื้นฟูกำลังได้”“ตกลง”หนานหยางอ๋องเปิดขวดน้ำเชื่อมอย่างเชื่อฟัง แล้วดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง ก็รู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงขึ้นมาไม่น้อยเลยจริง ๆ จึงรีบดื่มน้ำเชื่อมที่เหลือจนหมดขวดในขณะที่หนานหยางอ๋องดื่มน้ำเชื่อมอยู่นั้น กู้หว่านเยว่ก็ไปดูชาวประมงคนอื่น ๆ พบว่าชาวประมงเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นลมเพราะความหิวชุนจวี๋รีบวิ่งเข้ามาดู แต่หลังจากที่ตามหาหนึ่งรอบแล้ว ก็ไม่พบสามีของนาง“พี่ต้าหนิว เหตุใดจึงไม่เห็นพี่ต้าหนิวเลยล่ะ?”ต้าหนิวเป็นคนกลุ่มแรกที่ตกลงไปในวังน้ำวน ตามหลักแล้ว เขาก็น่าจะอยู่ที่นี่ แต่เหตุใดจึงไม่พบเขาเลย?ชุนจวี๋ร้อนใจจนแทบบ้าเมื่อเห็นชาวประมงเหล่านี้ นางก็รู้สึกดีใจอย่างมาก คิดว่าในที่สุดก็ได้พบกับสามีของนางแล้ว แ
กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงตกตะลึงเล็กน้อย “เจ้ามาจับปลาคนเดียวหรือ เจ้ามีสามีด้วยมิใช่หรือ?”พูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของชุนจวี๋ก็น้ำตาคลอ“เขาหายตัวไปสามวันแล้ว เมื่อคืนข้าแอบออกมาตามหาเขา”ชุนจวี๋พูดพลางร้องไห้ “คนอื่นบอกว่าเขาตายแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อข้าแอบพายเรือลำเล็กมาที่ใจกลางทะเลสาบคนเดียว แล้วก็รู้สึกได้ถึงแรงดูดมหาศาลกำลังดึงข้าอยู่ ข้ายังไม่ทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกดึงลงไปพร้อมกับเรือ”นางเงยหน้าขึ้น “พอข้าตื่นขึ้นมา ก็เห็นพวกท่านทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าข้า”ชุนจวี๋นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบมองไปรอบ ๆ “สามีของข้าอาจจะตกลงมาด้วย พวกท่านเห็นเขาแถวนี้บ้างหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “พวกเราเห็นแค่เจ้าคนเดียว”ชุนจวี๋หัวใจสลายในทันที“แต่พื้นที่ข้างล่างนี้กว้างมาก น่าจะเป็นสุสานใต้ดิน พวกเราลองหาทางเข้าสุสานใต้ดินดู พวกเขาลงมานานแล้ว อาจจะเข้าไปในสุสานใต้ดินนานแล้วก็ได้”กู้หว่านเยว่อธิบาย เมื่อครู่นางให้ระบบส่งแผนที่ของสุสานใต้ดินมาให้นางแล้ว“ข้าจะไปหาพร้อมกับพวกท่าน”น้ำเสียงที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อยของชุนจวี๋ ทำให้กู้หว่านเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“เจ้าไม่กลัวหรือ? ในส
“อืม”เขาตัดสินใจกัดฟันถอดเสื้อผ้าออก แต่พอถอดถึงกางเกง กู้หว่านเยว่ก็หันหน้าหนี ทำให้ซูจิ่งสิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาเปลี่ยนเป็นกางเกงสะอาดตัวใหม่ ไม่ได้ใส่เสื้อ รอให้กู้หว่านเยว่ทายาให้“ผู้ชายอย่างท่านนี่ เหตุใดทั้งตัวมีแต่กล้ามเนื้อแบบนี้ล่ะ?”กู้หว่านเยว่ทนไม่ไหว จึงลูบกล้ามท้องของเขา ทำเอาชายหนุ่มตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันทีถ้าเขาเดาไม่ผิด ที่นี่น่าจะเป็นห้องนอนในมิติของกู้หว่านเยว่สินะทั้งห้องเป็นสีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวอบอวลอยู่เมื่อได้กลิ่นหอมนั้น มองไปที่เตียงใหญ่ซึ่งอยู่ด้านหลังกู้หว่านเยว่ ใบหูของเขาก็ร้อนผ่าวกู้หว่านเยว่หัวเราะชอบใจ ถ้าไม่นึกถึงภารกิจสำคัญที่จะต้องทำเดี๋ยวนี้ นางต้องลากท่านพี่มากลิ้งบนเตียงสักหน่อยหลังจากฆ่าเชื้อโรคที่บาดแผลอย่างง่าย ๆ และโรยยาจินชวงสมานแผลแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก“น่าจะเรียบร้อยแล้ว โชคดีที่แผลนี้ไม่ลึกมาก แค่ช่วงสองสามวันนี้ระวังอย่าให้โดนน้ำก็พอ”“ขอบคุณน้องหญิง”ซูจิ่งสิงใส่เสื้อ กู้หว่านเยว่รู้สึกเสียดายเล็กน้อย มองไม่เห็นกล้ามท้องแล้วรอจนกระทั่งซูจิ่งสิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ กู้หว่านเยว่ก็เอ่
“หากถูกดูดเข้าไปในวังน้ำวน ยังมีโอกาสรอดชีวิตหรือไม่?”เมี่ยชิงหว่านเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน พอเห็นกู้หว่านเยว่ส่ายหน้า นางก็ทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาแดงก่ำกู้หว่านเยว่ดึงซูจิ่งสิงไปด้านข้าง จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย “ท่านพี่ ใต้วังน้ำวนนั่นอาจจะมีของบางอย่าง”เมื่อครู่ระบบบอกกับนางว่า ใต้วังน้ำวนอาจจะมีสมบัติอยู่กู้หว่านเยว่รู้สึกคันไม้คันมืออีกแล้ว“ข้าตั้งใจว่าจะไปดู ถ้าเห็นชาวประมงที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะพากลับมา”ซูจิ่งสิงเห็นดวงตาของนางเป็นประกาย ก็รู้ว่านางอยากไปมาก ในเมื่อน้องหญิงอยากไป เขาก็จะไม่ห้ามแน่นอน“เราสองคนไปด้วยกัน”“ก็ได้”อย่างมากก็หากเจออันตราย ก็จะลากซูจิ่งสิงเข้าไปหลบในมิติด้วยกันเมื่อตัดสินใจได้แล้ว กู้หว่านเยว่ก็หันไปบอกทุกคน“พวกเจ้ารอคำสั่งอยู่บนเรือใหญ่ หากไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามใครพายเรือเด็ดขาด ข้าและท่านอ๋องจะนั่งเรือเล็กไปสำรวจที่ใจกลางทะเลสาบก่อน”คนที่นำมาล้วนเป็นองครักษ์จันทรา ไม่กลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อฟังชิงเหลียนและฉู่เฟิงรีบไปที่ท้ายเรือ จากนั้นค่อย ๆ วางเรือลำเล็กไว้บนผิวน้ำ“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านต้องระวังตัวด้วย” ชิง
“นี่คือเรือใหญ่ของหมู่บ้านเรา สามารถจุคนได้มากกว่ายี่สิบคน ด้านท้ายเรือยังมีเรือเล็กอีกสองลำ เพื่อความสะดวกในการให้คนลงไปตรวจสอบได้ทุกเมื่อ”ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านแนะนำ กู้หว่านเยว่ไม่พูดพร่ำทำเพลง เหยียบบันไดขึ้นไปบนเรือใหญ่ทันที“หว่านเยว่!”แววตาของซูจิ่งสิงทั้งเอ็นดูและจนปัญญา“เจ้าห้ามไปที่ทะเลสาบ ตกลงกันแล้ว”“เราเป็นสามีภรรยากัน”กู้หว่านเยว่กะพริบตา กล่าวอย่างซุกซน“หากมีอันตราย ก็จะได้ตายไปพร้อมกัน”ซูจิ่งสิง ...ระหว่างพูด กู้หว่านเยว่ก็ขึ้นไปบนเรือแล้ว พร้อมกับเรียกให้ทุกคนขึ้นมา ซูจิ่งสิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา พลางเหาะขึ้นไปบนเรือ แล้วโอบเอวนางไว้“ชิงหว่าน”สายตาของเผยเสวียนฉายแววไม่เห็นด้วย ทำให้เมี่ยชิงหว่านโกรธมาก“คนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรคือท่านพ่อของข้า หากท่านรักตัวกลัวตายก็ไม่ต้องไป แต่ข้าต้องไปให้ได้”พูดจบก็สะบัดมือเขาออกแล้วก้าวขึ้นเรือไปเผยเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขึ้นตามไปด้วยสีหน้ามืดมนเนื่องจากมาตรวจสอบหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ซูจิ่งสิงจึงนำองครักษ์ที่พายเรือเป็นมาล่วงหน้า หลังจากที่ทุกคนขึ้นเรือแล้ว ซูจิ่งสิงก็สั่งให้องครักษ์พายเ
“ลุกขึ้นเถอะ”ซูจิ่งชิงโบกมือให้ลุก เขามีเรื่องสำคัญต้องทำ ไม่ต้องมากพิธีเขาเปิดเรื่องถามทันที “ทะเลสาบที่เกิดเรื่องอยู่ไหน?”“ด้านหลังหมู่บ้าน เชิญท่านอ๋องตามข้าน้อยมา”ผู้ใหญ่บ้านรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้คงไม่มีใครสนใจ คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะเดินทางมาด้วยตัวเองจากปากทางหมู่บ้านไปถึงทะเลสาบยังห่างไปอีกช่วงหนึ่ง กู้หว่านเยว่จึงถือโอกาสถามทันทีว่า“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านช่วยเล่าเหตุการณ์ให้เราฟังหน่อยเจ้าค่ะ”ผู้ใหญ่บ้านสังเกตเห็นว่าข้างกายของท่านอ๋องนั้นยังมีสตรีหน้าตางดงามอีกหนึ่งคนตั้งแต่ที่ท่านอ๋องจูงมือของนาง แสดงท่าทางปกป้องมากเป็นพิเศษ ผู้ใหญ่บ้านพอจะเดาสถานะของกู้หว่านเยว่ได้ครั้นเห็นนางเอ่ยปากถาม จึงรีบกล่าวทันที“รายงานพระชายา ทะเลสาบแห่งนี้ชื่อว่าทะเลสาบโก่วสยง”เดิมทีหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบ ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างตกปลาเลี้ยงชีพจากทะเลสาบแห่งนี้มาหลายชั่วอายุคนแล้วเมื่อครึ่งเดือนก่อน กลับเกิดพายุครั้งใหญ่เกิดฟ้าผ่าสายหนึ่งกลางทะเลสาบโก่วสยงแห่งนี้“ยามนั้นเรียกได้ว่าแผ่นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง จนชาวบ้านต้องพากันออกมาดูสถานการณ์ ผลปรากฏว
“ว่ามา”“เช้าตรู่วันนี้ หมู่บ้านชาวประมงมีชาวประมงสูญหายอีกสองคน หนานหยางอ๋องทรงรับสั่งให้รุดหน้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าหลังจากที่มาถึงกลางทะเลสาบ เรือและคนก็ล้วนหายไปพร้อมกันขอรับ”“ว่าอย่างไรนะ?” สีหน้าของกู้หว่านเยว่เปลี่ยนไป “หนานหยางอ๋องไปที่นั่นได้อย่างไร?”“พระชายาทรงยังไม่ทราบ เดิมทีหมู่บ้านชาวประมงแห่งนั้นเป็นที่ตั้งหลักของกองทัพทหารหนานหยางอ๋อง”ฉู่เฟิงกล่าวอธิบาย คิ้วของกู้หว่านเยว่ขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม“ท่านพี่ เรารีบไปดูกันเถอะ”ก่อนที่ทั้งสองคนจะออกเดินทาง คาดไม่ถึงว่าหนานหยางอ๋องจะเกิดเรื่องเช่นนี้ก่อน ดังนั้นแผนการเดิมคือการสำรวจหมู่บ้านชาวประมงอย่างช้า ๆ หากหมู่บ้านชาวประมงแห่งนั้นอันตรายมากจริง ๆ ก็ต้องล้อมทะเลสาบนั้นไว้ ห้ามใครเข้าไปเด็ดขาดแต่ตอนนี้หนานหยางอ๋องดันเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เรื่องราวกลับเลวร้ายมากขึ้นทุกที“เราต้องไปดูก่อน ฉู่เฟิงเจ้ามาบังคับม้า เร่งความเร็วกว่านี้”ฉู่เฟิงพยักหน้า ทันทีที่กระโดดขึ้นรถม้าก็เห็นรถม้าอีกคันไล่ตามมา“พี่หญิงหว่านเยว่!”เมี่ยชิงหว่านเปิดม่านหน้าต่างรถม้า ก่อนจะชะโงกหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาออกมา“ท่านพ่อเกิดเรื่องแล้ว
เช้าวันที่สอง ในที่สุดซูจื่อชิงก็ลืมตาหลังจากเมาค้างมาหนึ่งคืนเต็ม อาการปวดหัวของเขาได้ทวีความรุนแรงขึ้น วินาทีต่อจากนั้นรูม่านตาของเขาก็หดลงฉับพลัน“ชิวจู๋ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” อีกฝ่ายนอนอยู่บนเตียงของเขา อีกทั้งบนตัวของนางก็สวมใส่เพียงเสื้อเอี๊ยมชิ้นเดียวซูจื่อชิงกระโดดลงจากเตียงทันที จากนั้นก็มองไปยังเสื้อผ้าที่ร่วงอยู่บนพื้นด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”นัยน์ตาของชิวจู๋แดงก่ำ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่ “เมื่อคืนคุณชายรองคิดว่าข้าเป็นผู้อื่น จึงถอดเสื้อผ้าของข้า...”“ว่าอย่างไรนะ?” สีหน้าของซูจื่อชิงซีดเผือดลง เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ อีกฝ่ายพูดเป็นนัยอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เวลานี้อาการปวดหัวของเขาทวีคูณมากขึ้น เขาไม่มีความภาพความประทับใจของเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลย เขาคิดไม่ออกว่าตัวเองทำอะไรชิวจู๋หรือไม่“เราสองคนทำอะไรกันแน่?”เขาไม่อยากเชื่อ เขาไม่เคยนึกชอบชิวจู๋“เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว คุณชายรองยังอยากจะให้ข้าพูดออกมาอีกอย่างนั้นหรือ แล้วข้ายังจะมีหน้าไปเจอคนอื่นได้อย่างไรเจ้าคะ?”นัยน์ตาของชิวจู๋แดงก่ำ น้
ซูจิ่งสิงไม่เห็นด้วย ประเด็นหลักเพราะเขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บเพราะจากคำให้การของชาวบ้านเหล่านั้น ฟังดูแล้วทะเลสาบแห่งนั้นไม่ค่อยปลอดภัยนัก บางคนก็บอกว่ามีปีศาจอยู่ในทะเลสาบแห่งนั้น คนที่ดำลงไปสำรวจใต้น้ำก่อนหน้านั้นต่างก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย“ไม่ได้ ในเมื่อเป็นสถานที่อันตราย ข้าก็ยิ่งต้องไปกับท่าน มิเช่นนั้นหากท่านตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด ทำให้ซูจิ่งสิงจนปัญญา เดิมทีเขาอยากมาบอกกล่าวภรรยาของตัวเองก่อนออกเดินทางสักคำ คิดไม่ถึงว่าภรรยาของตนจะขอไปกับเขาด้วยเมื่อเห็นสายตาเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่าย เขาก็รู้ทันทีว่าต่อให้ตัวเองโน้มน้าวอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำใจ“ก็ได้ เช่นนั้นเราก็ไปด้วยกัน แต่เจ้าต้องรับปากข้าก่อน ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าห้ามกระโดดลงจากเรือไปสำรวจในทะเลสาบเพียงลำพังเด็ดขาด”“ไม่มีปัญหา”กู้หว่านเยว่รับปากวันนี้รับปาก พรุ่งนี้กลับคำเนื่องจากสองสามีภรรยาคู่นี้จะต้องออกเดินทางไปสำรวจทะเลสาบแห่งนั้นตั้งแต่เช้าตรู่ ดังนั้นคืนนี้ทั้งสองคนจึงไม่อยู่รอให้ซูจื่อชิงฟื้นอยู่ในจวน แต่