โจรเด็ดดอกไม้กุมแขนที่เลือดไหลเอาไว้ ยังคิดว่าซูจิ่นเอ๋อร์เป็นเพียงแม่นางธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าที่แท้ในแขนเสื้อของนางจะซ่อนอาวุธลับเอาไว้ จึงด่าทอออกมาทันที“นังแพศยา ข้าจะฆ่าเจ้า!”“ช่วยจิ่นเอ๋อร์”กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงทะลุลงมาจากหลังคาพร้อมกัน คนหนึ่งอุ้มซูจิ่นเอ๋อร์ออกไป อีกคนเตะโจรเด็ดดอกไม้จนล้มไปกองกับพื้น“พี่สะใภ้?” ซูจิ่นเอ๋อร์กลืนน้ำลาย มือทั้งสองข้างสั่นระริก “ข้า ทำได้แล้ว...”นางไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ที่เห็นหมูป่าก็ขาอ่อนอีกต่อไปแล้ว“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าเยี่ยมมาก!” กู้หว่านเยว่ลูบหัวของซูจิ่นเอ๋อร์ จากนั้นเอี้ยวตัวไปด้านข้าง อยากจะเตะโจรเด็ดดอกไม้ที่ซุ่มโจมตีให้กระเด็นออกไป“โจรเด็ดดอกไม้ วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว”“w(゚Д゚)w!” จินโหย่วเฉียนสีหน้าตกตะลึง ฮูหยินผู้งดงามมีวรยุทธ์แข็งแกร่งเช่นนี้เชียวหรือ?!“นังแพศยา ข้าค่อยมาเล่นกับพวกเจ้าวันหลัง!”เมื่อโจรเด็ดดอกไม้เห็นว่าสู้ไม่ได้ จึงโยนระเบิดควันสีขาวลูกหนึ่งออกมา แล้วกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง“คิดจะหนี?”ซูจิ่งสิงแววตาดำมืด เตะเขาจนลอยกระเด็นกลับเข้ามาในห้องทันที“พรวด!” โจรเด็ดดอกไม้อาเจียนออกมาเป็
จินโหย่วเฉียนดึงพ่อบ้านมาอีกข้างแล้วด่าอย่างเจ็บแสบฟู่หลานเหิงรีบเดินมาที่ตรงหน้าของกู้หว่านเยว่ แต่สายตากลับมองไปทางซูจิ่นเอ๋อร์ “นังหนูจิ่น เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ซูจิ่นเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับฟู่หลานเหิง หลังจากรอดชีวิตจากหายนะ ได้เห็นเขาก็นับว่าดีใจ กำลังจะพูดอะไรบางอย่างหยางหลิวแสร้งกล่าวอย่างเป็นห่วง “แม่นางซูช่างน่าสงสารจริง ๆ ได้ยินมาว่าถูกโจรเด็ดดอกไม้นั่นข่มขืนและชิงทรัพย์ ความบริสุทธิ์ของเจ้า...”พลังรบของซูจิ่นเอ๋อร์เคยได้รับการฝึกฝนจากคนในตระกูลซู ก็โมโหทันที“ความบริสุทธิ์ของข้าอะไร ท่านพูดให้ชัดเจนหน่อย ไม่พูดใช้ชัดเจนเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฉีกปากของเจ้า?!”หยางหลิวหลับไปอยู่ด้านหลังของฟู่หลานเหิง “แม่นางซู เจ้าดุขนาดนี้ทำไม ข้าเพียงแค่เป็นห่วงเจ้าเท่านั้น”ซูจิ่นเอ๋อร์เดินเข้าไปคว้าเสื้อของนาง “เจ้ายังจะพูดอีก!”“ช่วยด้วย แม่นางซูจะฆ่าข้า~”หยางหลิวน้ำตาไหลพราก ฟู่หลานเหิงรีบขวางระหว่างกลางของสองคนพูดไกล่เกลี่ย“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าใจเย็น ๆ หน่อย”“ท่านให้ข้าใจเย็น?”ซูจิ่นเอ๋อร์โมโหจนสำลัก กระทืบเท้าทันที ทันทีที่อารมณ์ก็ชี้หน้าด่าหยางหลิว“เจ้ามันตอแหล คร
ซูจิ่นเอ๋อร์ส่งเสียงเยาะเย้ยทันที “อย่ามาบ้านเราเลย คนที่แยกแยะดีชั่วไม่ได้แบบนี้ ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเขา”ซูจื่อชิงหน้าถอดสี “น้องสาว ตอนนี้เจ้าดูเหมือนแม่เสือดุไปได้อย่างไรกัน?”“ท่านก็อยากโดนข้าฉีกปากหรือ?!”ทั้งสองคนเล่นหยอกล้อกันแล้วขึ้นไปบนรถม้าของสกุลโจว กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว“รีบกลับบ้านเถอะ”ทันใดนั้น นางก็รู้สึกปวดท้องหน่วงๆ เล็กน้อย ลางสังหรณ์ไม่ดีแวบเข้ามาในใจ“หว่านเยว่ เจ้าเป็นอะไรไป?” ซูจิ่งสิงเห็นสีหน้าของกู้หว่านเยว่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของเขาก็พลันตื่นตระหนก“ไม่ค่อยสบาย”กู้หว่านเยว่พอจะเดาได้แล้ว นางอยากจะจับชีพจรตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้จับชีพจร ทั้งคนก็หมดสติไปเสียก่อนซูจิ่งสิงรู้สึกตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรถม้าวิ่งควบไปตลอดทาง เมื่อมาถึงหมู่บ้านสือหาน เขาก็รีบอุ้มกู้หว่านเยว่ลงจากรถม้าอย่างร้อนรน“ปรมาจารย์แพทย์ล่ะ ปรมาจารย์แพทย์อยู่ที่ไหน?”ปลายนิ้วของเขาค่อย ๆ กำแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลเขาวางนางลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นริมฝีปากของกู้หว่านเยว่ซีดเซียว หางตาของซูจิ่งสิงก็ค่อย ๆ แดงก่ำ ภาพตรงหน้าราวกับเต็มไปด้วยเลือด เจตนาส
ปรมาจารย์แพทย์ทนกับท่าทางแบบนี้ของเขาไม่ไหวหวงเหล่าชี้ไปที่ใต้เท้า “เห็นพื้นตรงนี้หรือไม่ ที่นี่คือที่สถิตของมังกร”กู้หว่านเยว่รู้สึกเพียงภาพตรงหน้าดับวูบ จากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว เมื่อนางตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองอยู่ในมิติระบบส่งเสียงพูดเจื้อยแจ้วต่อนาง “นายหญิง ท่านประมาทเกินไปแล้ว ท่านตั้งครรภ์แล้วทำไมไม่พักผ่อนดี ๆ เกือบจะรักษาลูกน้อยไว้ไม่ได้แล้ว โชคดีที่ข้าเพิ่งส่งพลังพิเศษไปช่วยเขา”กู้หว่านเยว่ตกตะลึง “ข้าท้องจริง ๆ หรือ?”อันที่จริงช่วงนี้นางก็รู้สึกได้ แต่กลัวว่าจะดีใจเก้อ จึงไม่กล้าจับชีพจรตัวเอง“นายหญิง ท่านต้องดูแลลูกน้อยให้ดี ๆ นะ เด็กน้อยคนนี้สำคัญและเก่งกาจมาก...” ระบบพึมพำเบา ๆ กู้หว่านเยว่แสดงสีหน้างุนงง “ลูกของข้า ข้าย่อมดูแลเขาเป็นอย่างดี”“อืม ๆ นายหญิงรู้ก็ดีแล้ว ลูกน้อยจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”เวลานี้ กู้หว่านเยว่ยังไม่รู้ว่าในอนาคตนางจะให้กำเนิดบุตรชายที่ยอดเยี่ยม ผู้รวบรวมชะตาแห่งสวรรค์และโลกไว้ในตนเอง บุตรชายคนนี้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาจากสวรรค์ และถูกกำหนดให้เหนือกว่าคนทั่วไปเด็ดองุ่นและสตรอว์เบอร์รีใส่ปาก กู้หว่านเยว่รู้สึกว่าร่างกายไม่ได้เป็นอะ
ฟู่หลานเหิงได้ยินจากปากซูจื่อชิงว่ากู้หว่านเยว่ตั้งครรภ์แล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อจนกระทั่งคู่สามีภรรยาเดินจับมือกันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรัก เขาถึงได้สติกลับคืนมา“หว่านเยว่ ได้ยินว่าเจ้าท้องแล้วหรือ?”“ขอบคุณใต้เท้าฟู่ที่แสดงความยินดี”ซูจิ่งสิงมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็เคยเป็นศัตรูหัวใจกันมาก่อน“ฮ่า ๆ เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น” ฟู่หลานเหิงส่ายหัวพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ เรื่องราวในอดีตเขาปล่อยวางไปนานแล้วเพียงแต่คาดไม่ถึงว่ากู้หว่านเยว่จะตั้งครรภ์เร็วขนาดนี้ จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี เขาต้องกลับไปคิดว่าจะให้อะไรเป็นของขวัญแก่ลูกของทั้งสองคนเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฟู่หลานเหิงก็ได้สติกลับมา รีบพูดถึงเรื่องสำคัญ“จริงสิ วันนี้ข้าเชิญพวกเจ้าทั้งสองคนมา เพราะมีเรื่องจะถาม”“หัวหน้าหมู่บ้านเฉินเสียชีวิตแล้ว หมู่บ้านสือหานต้องมีหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ขึ้นมาแทน ข้าอยากจะถามความเห็นของพวกเจ้า”ชาวบ้านของหมู่บ้านสือหานคุกเข่าอยู่โดยรอบฟู่หลานเหิงมองไปรอบ ๆ ก็ไม่รู้จักใครเลยการจะเลือกหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ นี่มืด
ทางด้านนี้ กู้หว่านเยว่พาฟู่หลานเหิงและจินโหย่วเฉียนมาถึงเชิงเขา ทั้งสองคนมองไปยังเรือนที่ดูง่อนแง่นทำท่าจะพังทลายท่ามกลางหิมะต่างก็ตกตะลึง“เรือนนี้มันโทรมเกินไปแล้วนะ!”แค่ลมพัดมาก็ปลิวได้แล้ว“ตอนนี้กันลมกันฝนได้ไม่มีปัญหา อีกไม่กี่วันอิฐที่เผาเสร็จจะพอแล้ว ก็จะสร้างเรือนอิฐกระเบื้องได้แล้ว”กู้หว่านเยว่ได้เลือกที่ดินแล้ว อยู่ใกล้กับเรือนหลังโทรม ๆ นั่นเอง ด้านหน้าจะทำเป็นแปลงปลูกผัก ส่วนข้างประตูจะกั้นไว้สำหรับเลี้ยงไก่และเป็ด“หว่านเยว่ ถ้าไม่มีเงิน ก็บอกข้าได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”ฟู่หลานเหิงรีบกล่าวขึ้น ถ้ารู้ว่าที่อยู่ของกู้หว่านเยว่จะโทรมขนาดนี้ เขาควรจะจัดสรรเรือนใหม่ให้นางตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว“ขอบคุณมาก แต่ไม่เป็นไร”กู้หว่านเยว่กลับไม่ได้พูดเพราะเกรงใจ แต่หากพูดถึงเรื่องเงิน ทั่วทั้งต้าฉีก็ไม่มีใครมีมากกว่านางล้อเล่นน่า นางเป็นผู้หญิงที่ครอบครองทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งในท้องพระคลังเชียวนะ“เช่นนั้นก็ได้ ถ้ามีปัญหาอะไร เจ้าต้องบอกตรง ๆ นะ” ฟู่หลานเหิงยังคงเป็นห่วงมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนักเมื่อเข้าไปข้างใน กลับพบว่าภายในนั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงบนชายคาแขวนเนื
เดิมทีเมื่อได้เงินมาแล้ว เขาควรจะหนีไปเลย แต่เมื่อคิดว่าถึงอย่างไรก็ต้องไปอยู่แล้ว ก่อนไปก็ควรจะลักพาตัวผู้หญิงไปด้วยสักคน จะได้มีเพื่อนร่วมทาง และคอยซักผ้าทำอาหารปรนนิบัติเขาคิดไปคิดมา เฉินต้าลี่ก็ตัดสินใจเลือกซูหรานหร่าน เขาเคยเห็นซูหรานหร่าน นางมีรูปร่างหน้าตางดงาม และที่สำคัญที่สุดคือยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเมื่อตัดสินใจได้แล้ว เฉินต้าลี่ก็แอบย่องเข้าไปที่เรือนของซูหรานหร่านเวลานี้ ซูหรานหร่านเพิ่งจะเย็บรองเท้าและถุงเท้าของหวังปี้เสร็จหวังปี้พักที่เรือนของสกุลเซิ่งในตอนกลางคืน และจะมาช่วยนางซ่อมแซมหลังคาและรั้วในตอนกลางวันซูหรานหร่านรู้สึกขอบคุณจากใจจริง เมื่อเห็นเขาลำบากจนนิ้วเท้าแทบจะโผล่ออกมา นางจึงแอบทำรองเท้าคู่ใหม่ให้เขาอย่างเงียบ ๆ และตั้งใจจะมอบให้เขาในวันพรุ่งนี้กำลังจะห่อรองเท้าด้วยผ้า จู่ ๆ ก็มีเงาดำพุ่งเข้ามาทางหน้าต่าง ไม่รอให้ซูหรานหร่านได้ตั้งตัว ก็คว้าไม้ที่มุมห้องตีเข้าที่หัวของนางซูหรานหร่านไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก็ถูกเฉินต้าลี่ตีจนสลบแล้วแบกนางออกไป...กู้หว่านเยว่เพิ่งจะออกมาจากมิติ ในช่วงสองสามวันมานี้ ผลไม้ในมิติออกผลมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะกิ
ฉู่เฟิงเดินเข้ามาพูดว่า “หีบบนรถม้าเต็มไปด้วยเงินทองและเครื่องประดับ และยังมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ข้างในด้วย”เฉินต้าลี่รีบเอ่ยขึ้น “ผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ให้ข้า! ข้ายังไม่มีภรรยาเลย ข้าต้องมีทายาทสืบสกุล”“คนชั่วอย่างเจ้ายังอยากมีทายาทสืบสกุลอีกหรือ? จะให้กำเนิดคนเลวออกมาให้เปลืองอากาศหรือไร?” กู้หว่านเยว่พูดเยาะเย้ยเขาพลางมองเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็กระโดดขึ้นรถม้าเพื่อดูว่าผู้หญิงข้างในนั้นเป็นใครทันทีที่เข้าไปก็พบว่า ไอ้สารเลวนี่ถึงกับลักพาตัวซูหรานหร่านมาซูหรานหร่านครางออกมาสองเสียง กู้หว่านเยว่จึงรีบแก้มัดให้นางและดึงผ้าที่ปิดปากนางออก“เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”“ข้าไม่เป็นไร แค่โดนเขาตีหัวไปทีหนึ่ง เขาอยากจะจับตัวข้าไป แล้ววางยาพิษชาวบ้านทั้งหมด จากนั้นไปใช้ชีวิตสำราญที่อื่น”ซูหรานหร่านช่างโชคร้ายจริง ๆ นางไปดึงดูดเฉินต้าลี่ตรงไหนกัน?โชคดีที่เฉินต้าลี่รีบขนสมบัติจึงไม่ได้แตะต้องนาง ไม่เช่นนั้นคราวนี้นางคงทำได้เพียงกระโดดบ่อน้ำตายแล้ว“เงินทองให้พวกท่าน แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องให้ข้า!”เฉินต้าลี่หน้าตาแดงก่ำด้วยความร้อนใจ ถูกซูจิ่งสิงเตะเข้าอีกทีหนึ่ง “หุบปาก!”กู้หว่า