กู้หว่านเยว่เอ่ยเตือนว่า “ข้าพวกเจ้าสารภาพออกมาตอนนี้ ถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องลำบากมากนัก”“พวกเราสารภาพๆ หัวหน้าหมู่บ้านเฉินสั่งให้พวกเราลงมือเมื่อคืนนี้”“หัวหน้าหมู่บ้านเฉินและใต้เท้าสวีสมรู้ร่วมคิดกัน”“พวกเราเองก็เคยจัดการกับคนที่ไม่เชื่อฟังในหมู่บ้านก่อนหน้านี้ด้วย”“สวรรค์เอ๋ย ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้าที่ฆ่าลูกชายของข้า!”หญิงชราคนหนึ่งกระโดดออกมา จับโจรไปทุบตีอย่างแรง กัดทึ้งเขาไม่ปล่อยในอดีต ลูกชายของนางไม่ชอบท่าทางของหัวหน้าหมู่บ้านเฉิน มักจะต่อต้านเขาอยู่เสมอต่อมา ครอบครัวนี้ก็ถูกโจรโจมตีอย่างไร้เหตุผล ลูกชายของนางที่ยังไม่ถึงยี่สิบหนาวถูกทำร้ายจนเสียชีวิตหญิงชราคิดเสมอว่านี่เป็นฟ้าดินลงโทษ ที่ไหนได้ เป็นฝีมือมนุษย์นางร้องไห้หัวใจแตกสลาย ดวงตาแดงก่ำด้วยความเกลียดชัง“ไปหาหัวหน้าหมู่บ้านเฉิน ต้องให้เขาอธิบายให้พวกเราฟัง!”ทุกคนจับกลุ่มกัน มัดสมาชิกตระกูลเฉินทุกคนที่ต้องการหลบหนี ล้อมรอบทั้งตระกูลเฉินด้วยท่าทางดุดันหัวหน้าหมู่บ้านเฉินเพิ่งได้ยินข่าว กำลังเตรียมตัวหนีชาวบ้านจึงบุกเข้ามาตรึงเขาไว้กับพื้น“ปล่อยข้า ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านนะ!”“ถ้าพวกเจ้ากล้าทำเช่นนี้ ระว
นางเถียนรีบหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาและพูดว่า “รายงานใต้เท้า ความผิดที่หัวหน้าหมู่บ้านเฉินก่อขึ้นทั้งหมดอยู่ในสมุดบัญชีเล่มนี้ ขอใต้เท้าตรวจสอบ!”“ไม่ได้ รีบคืนสมุดบัญชีมาให้ข้าเสีย!”ดวงตาของหัวหน้าหมู่บ้านเฉินตื่นตระหนก พลางรีบวิ่งไปข้างหน้า คว้ามันกลับไปไม่มีใครคาดคิดว่านางเถียนจะเป็นทรยศเขาแม้แต่กู้หว่านเยว่ก็ตกใจ แต่เช่นนี้ก็ดี การลงโทษหัวหน้าหมู่บ้านเฉินจะได้ง่ายขึ้นนางเถียนหลบหัวหน้าหมู่บ้านเฉิน แล้วรีบส่งสมุดบัญชีให้กับผู้พิพากษาหลิว“เฉินฉือ การลงโทษของเจ้า ใกล้จะมาถึงแล้ว”“เจ้าหญิงแพศยา หญิงสารเลว เหตุใดเจ้าต้องการทำร้ายข้าด้วย?”ขาของหัวหน้าหมู่บ้านเฉินอ่อนแรง เมื่อเห็นว่าผู้พิพากษาหลิวเปิดสมุดบัญชีแล้ว เขาก็ค่อยๆ คุกเข่าลงบนพื้น“ใต้เท้า……”“หุบปาก!”ผู้พิพากษาหลิวยิ่งอ่านยิ่งตกใจ ก่อนจะยื่นสมุดบัญชีให้กับฟู่หลานเหิง“ใต้เท้า ท่านก็ลองอ่านดูเถอะ”ฟู่หลานเหิงรู้เกี่ยวกับความผิดที่หัวหน้าหมู่บ้านเฉินอยู่แล้ว แต่เมื่อได้เปิดดูสมุดบัญชีก็ยังอดตกใจไม่ได้ในนี้มีบันทึกโดยละเอียดว่า หัวหน้าหมู่บ้านเฉินสังหารครอบครัวใดไปเมื่อใดและที่ไหน และใช้เงินไปเท่าไรบางที หัวหน้า
คำพูดเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้เรื่องราวในตอนนั้นปะทุขึ้นมา“พ่อกับแม่ของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ก็จริง ข้าจะรื้อคดีของพ่อกับแม่เจ้า นำศพของพวกเขาขุดออกมาจากป่าช้า ประกอบพิธีฝังศพให้ดี ให้พวกเขาได้หลับอย่างสบาย”นางเถียนน้ำตาไหลอาบแก้ม ยืนตัวโงนเงน “ขอบคุณใต้เท้ามาก!”“นางแพศยา เจ้ามันนางแพศยา ข้าเอ็นดูเจ้ามานานปลายปีขนาดนี้!” หัวหน้าหมู่บ้านเฉินด่าทออย่างบ้าคลั่งนางเถียนหันหลังกลับมาทันที“เฉินสือ ท่านรู้หรือไม่ว่าสมุดบัญชีในมือของข้ามีที่มาที่ไปอย่างไรหรือไม่?”เฉินต้าลี่ที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ มีสีหน้าร้อนรนขึ้นมาทันที“แม่นางน้อย อย่าพูด...”หัวหน้าหมู่บ้านเฉินหันหน้ากลับมา จ้องมองแววตาที่ไม่ปกติของลูกชาย จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีเขางอกออกจากหัว“เจ้า พวกเจ้า...”“เป็นลูกชายสุดที่รักของท่านมอบให้ข้า ฮ่า ๆ ๆ ภายนอกเขากตัญญูเชื่อฟังเจ้า แต่หลับหลังท่านตอนที่ขึ้นเตียงกับข้า กลับด่าว่าเหตุใด ไอ้แก่เช่นท่านถึงไม่รีบตาย แล้วมอบตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านให้กับเขา...”“หญิงร้ายชายเลว!”หัวหน้าหมู่บ้านเฉินอาเจียนออกมาเป็นเลือด สายตาดุร้าย ตบหน้าลูกชายฉาดหนึ่งเฉินต้าลี่รีบคุกเข่าลงบนพื้น “ท่านพ
“เยี่ยม เยี่ยมมาก ผู้ว่าการอำเภอหลิวเจ้าไม่เข้มงวดเรื่องการปกครอง ทำให้ต้องสูญเสียไปอีกหนึ่งชีวิต!”สายตาที่อันตรายนั่นของฟู่หลานเหิง ทำให้ผู้ว่าการอำเภอหลิวตกใจจนรีบคุกเข่าลงไปกับพื้น“ตะ ใต้เท้า เรื่องพวกนั้นที่หัวหน้าหมู่บ้านเฉินทำ ข้าน้อยไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิดขอรับ...”“ไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด?”ฟู่หลานเหิงยิ้มเย็นชาด้วยความโมโห “หมู่บ้านที่เจ้าปกครองเกิดเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ขึ้น เจ้ากลับพูดว่าไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด?”“คือ...” ผู้ว่าการอำเภอหลิวฝืนยิ้มเจื่อน ๆ ออกมาฟู่หลานเหิงนำป้ายประกาศความผิดโยนใส่หัวเขาอย่างอารมณ์เสียทันที “หลิวปี่หวายเจ้าปกครองอย่างไม่เข้มงวด ปล่อยให้ขุนนางใต้บังคับบัญชาทำเรื่องเลวร้ายพวกนี้ขึ้น!”“ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่ได้ตายด้วยน้ำมือเจ้า แต่เจ้ายากที่จะหลีกหนีความผิดเช่นกัน”“ใต้เท้า ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว” ผู้ว่าการอำเภอหลิวตกใจจนรีบกอดขาของฟู่หลานเหิงเอาไว้ เมื่อฟู่หลานเหิงเห็นเขาก็เกิดความโมโหขึ้นมาแต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายที่จำเป็นต้องให้เขาจัดการ ก็โบกมืออย่างไม่เต็มใจ“หักเงินเดือนเจ้าเป็นเวลาสามปี ประกอบ
ซูจิ่งสิงจำได้ว่าครั้งก่อนที่ซูจิ่นเอ๋อร์ถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวไป กู้หว่านเยว่ก็สามารถระบุตำแหน่งของนางได้“พอรู้ทิศทางคร่าว ๆ พวกเราไปกันเถอะ”“ได้”ซูจิ่งสิงท่าทางว่องไวมาก พากู้หว่านเยว่หายตัวเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง“ใช้เทเลพอร์ต”วิชาตัวเบาของเขาเทียบไม่ได้กับเทเลพอร์ตของกู้หว่านเยว่ ในเวลาแบบนี้ ทุกนาทีก็คือชีวิตจิตสำนึกของกู้หว่านเยว่เข้าสู่ระบบ นำแผนที่ของเมืองตู้เปียนออกมา ก็เห็นจุดสีแดงจุดหนึ่งที่บนแผนที่จากนั้นก็ดึงมือของซูจิ่งสิง ใช้พลังพิเศษของเทเลพอร์ตที่ใกล้กับจุดสีแดง“ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นจวน?”เมื่อเห็นเจ้าของจวนที่ค่อนข้างมีเงิน กู้หว่านเยว่ลากมือของซูจิ่งสิง รีบทะลุเจ้าไปในจวนสาวใช้และเด็กรับใช้ในจวนไม่นับว่ามากมาย ทั้งสองคนจึงหลบเลี่ยงได้อย่างปลอดภัย จนมาถึงที่เรือนด้านหลัง“ทางด้านนี้เหมือนว่าจะเป็นที่อาศัยของเจ้าของเรือน”กู้หว่านเยว่กลุ้มใจทันที“หรือว่า โจรเด็ดดอกไม้นี่จะเป็นคนรวยที่มีความชอบที่วิปริตคนนั้น?”ไม่น่าใช้ ดูจวนที่เหลืองอร่ามหลังนี้ แม้แต่ซุ้มประตูหินก็ยังทำด้วยหยกชอบผู้หญิง เหตุใดจึงไม่ใช้เงินซื้อ กลับมาทำเรื่องผิดกฎหมายแบบนี
โจรเด็ดดอกไม้กุมแขนที่เลือดไหลเอาไว้ ยังคิดว่าซูจิ่นเอ๋อร์เป็นเพียงแม่นางธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าที่แท้ในแขนเสื้อของนางจะซ่อนอาวุธลับเอาไว้ จึงด่าทอออกมาทันที“นังแพศยา ข้าจะฆ่าเจ้า!”“ช่วยจิ่นเอ๋อร์”กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงทะลุลงมาจากหลังคาพร้อมกัน คนหนึ่งอุ้มซูจิ่นเอ๋อร์ออกไป อีกคนเตะโจรเด็ดดอกไม้จนล้มไปกองกับพื้น“พี่สะใภ้?” ซูจิ่นเอ๋อร์กลืนน้ำลาย มือทั้งสองข้างสั่นระริก “ข้า ทำได้แล้ว...”นางไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ที่เห็นหมูป่าก็ขาอ่อนอีกต่อไปแล้ว“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าเยี่ยมมาก!” กู้หว่านเยว่ลูบหัวของซูจิ่นเอ๋อร์ จากนั้นเอี้ยวตัวไปด้านข้าง อยากจะเตะโจรเด็ดดอกไม้ที่ซุ่มโจมตีให้กระเด็นออกไป“โจรเด็ดดอกไม้ วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว”“w(゚Д゚)w!” จินโหย่วเฉียนสีหน้าตกตะลึง ฮูหยินผู้งดงามมีวรยุทธ์แข็งแกร่งเช่นนี้เชียวหรือ?!“นังแพศยา ข้าค่อยมาเล่นกับพวกเจ้าวันหลัง!”เมื่อโจรเด็ดดอกไม้เห็นว่าสู้ไม่ได้ จึงโยนระเบิดควันสีขาวลูกหนึ่งออกมา แล้วกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง“คิดจะหนี?”ซูจิ่งสิงแววตาดำมืด เตะเขาจนลอยกระเด็นกลับเข้ามาในห้องทันที“พรวด!” โจรเด็ดดอกไม้อาเจียนออกมาเป็
จินโหย่วเฉียนดึงพ่อบ้านมาอีกข้างแล้วด่าอย่างเจ็บแสบฟู่หลานเหิงรีบเดินมาที่ตรงหน้าของกู้หว่านเยว่ แต่สายตากลับมองไปทางซูจิ่นเอ๋อร์ “นังหนูจิ่น เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ซูจิ่นเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับฟู่หลานเหิง หลังจากรอดชีวิตจากหายนะ ได้เห็นเขาก็นับว่าดีใจ กำลังจะพูดอะไรบางอย่างหยางหลิวแสร้งกล่าวอย่างเป็นห่วง “แม่นางซูช่างน่าสงสารจริง ๆ ได้ยินมาว่าถูกโจรเด็ดดอกไม้นั่นข่มขืนและชิงทรัพย์ ความบริสุทธิ์ของเจ้า...”พลังรบของซูจิ่นเอ๋อร์เคยได้รับการฝึกฝนจากคนในตระกูลซู ก็โมโหทันที“ความบริสุทธิ์ของข้าอะไร ท่านพูดให้ชัดเจนหน่อย ไม่พูดใช้ชัดเจนเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฉีกปากของเจ้า?!”หยางหลิวหลับไปอยู่ด้านหลังของฟู่หลานเหิง “แม่นางซู เจ้าดุขนาดนี้ทำไม ข้าเพียงแค่เป็นห่วงเจ้าเท่านั้น”ซูจิ่นเอ๋อร์เดินเข้าไปคว้าเสื้อของนาง “เจ้ายังจะพูดอีก!”“ช่วยด้วย แม่นางซูจะฆ่าข้า~”หยางหลิวน้ำตาไหลพราก ฟู่หลานเหิงรีบขวางระหว่างกลางของสองคนพูดไกล่เกลี่ย“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าใจเย็น ๆ หน่อย”“ท่านให้ข้าใจเย็น?”ซูจิ่นเอ๋อร์โมโหจนสำลัก กระทืบเท้าทันที ทันทีที่อารมณ์ก็ชี้หน้าด่าหยางหลิว“เจ้ามันตอแหล คร
ซูจิ่นเอ๋อร์ส่งเสียงเยาะเย้ยทันที “อย่ามาบ้านเราเลย คนที่แยกแยะดีชั่วไม่ได้แบบนี้ ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเขา”ซูจื่อชิงหน้าถอดสี “น้องสาว ตอนนี้เจ้าดูเหมือนแม่เสือดุไปได้อย่างไรกัน?”“ท่านก็อยากโดนข้าฉีกปากหรือ?!”ทั้งสองคนเล่นหยอกล้อกันแล้วขึ้นไปบนรถม้าของสกุลโจว กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว“รีบกลับบ้านเถอะ”ทันใดนั้น นางก็รู้สึกปวดท้องหน่วงๆ เล็กน้อย ลางสังหรณ์ไม่ดีแวบเข้ามาในใจ“หว่านเยว่ เจ้าเป็นอะไรไป?” ซูจิ่งสิงเห็นสีหน้าของกู้หว่านเยว่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของเขาก็พลันตื่นตระหนก“ไม่ค่อยสบาย”กู้หว่านเยว่พอจะเดาได้แล้ว นางอยากจะจับชีพจรตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้จับชีพจร ทั้งคนก็หมดสติไปเสียก่อนซูจิ่งสิงรู้สึกตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรถม้าวิ่งควบไปตลอดทาง เมื่อมาถึงหมู่บ้านสือหาน เขาก็รีบอุ้มกู้หว่านเยว่ลงจากรถม้าอย่างร้อนรน“ปรมาจารย์แพทย์ล่ะ ปรมาจารย์แพทย์อยู่ที่ไหน?”ปลายนิ้วของเขาค่อย ๆ กำแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลเขาวางนางลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นริมฝีปากของกู้หว่านเยว่ซีดเซียว หางตาของซูจิ่งสิงก็ค่อย ๆ แดงก่ำ ภาพตรงหน้าราวกับเต็มไปด้วยเลือด เจตนาส