ชายวัยกลางคนที่อยู่หน้าสุดแต่งกลายด้วยชุดเกราะทั้งตัวตะโกนด้วยเสียงที่ทรงพลังและแข็งแกร่งเขาชักมีดออกมา จากนั้นก็สังหารผู้อพยพที่สร้างปัญหาที่โหดร้ายที่สุดภายในฉับเดียวผู้อพยพรอบตัวพากันตื่นตกใจ เพื่ออาหารคำเดียวถึงกับทำให้พวกเขาเสียสติได้ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังไม่อยากตาย“อ๊าก! มีคนตาย มีคนตาย หนีเร็วเข้า!”เมื่อกู้หว่านเยว่เห็นผู้อพยพกลุ่มนี้สลายตัวไป นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะเดียวกันก็มองไปทางชายวัยกลางคนด้วยสายตาซาบซึ้ง“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยเหลือ ขอถามหน่อยท่านคือใคร?”ซุนอู่รีบรุดหน้าเข้าไปกล่าวขอบคุณ นายทหารที่อยู่ด้านหลังคนหนึ่งกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพของเราคือหนานหยางอ๋องผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง เจ้าเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่?”หนานหยางอ๋อง?กู้หว่านเยว่ใจเต้นแรง เมื่อเห็นหนานหยางอ๋องที่นั่งอยู่บนหลังม้าก็นึกเห็นใจขึ้นมาฉับพลันนี่คงไม่ใช่บุรุษผู้โง่เขลาที่ยอมทุ่มเทให้กับการเป็นทหารทั้งชีวิตทำงานเพื่อคนอื่นตามในต้นฉบับหรอกนะ?!คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่เขาไม่ได้อยู่ในหนานหยางตลอดหรือ?จริงสิ เขาตายอย่างไรกันนะ?ในต้นฉบับเขียนไว้อย่างคลุมเครือ บอกแค่ว่าฟู่เยียนหรา
แล้วซุนอู่ก็ยิ้มออกมา มีแม่นางกู้เดินไปดู เรียบร้อยแล้ว!“หว่านเยว่” ซูจิ่งสิงเผยสีหน้ากังวลใจหนานหยางอ๋องผู้นี้ไม่ใช่คนที่จะไปยั่วยุได้ มีทหารอันธพาลภายใต้บังคับบัญชาเป็นจำนวนมากทำการปกป้องบ้านเมือง แต่ก็โหดร้ายมากเช่นกัน“วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นอะไร พวกเขาไม่มีทางลงไม้ลงมือกับหมอหรอก ท่านรอข้าอยู่ที่นี่ก่อน”พอกู้หว่านเยว่ออกไป ทหารเหล่านั้นก็เข้ามาพอดีเมื่อเห็นกู้หว่านเยว่ หลายคนก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทหารหนุ่มนายหนึ่งในนั้นกวาดสายตามองกู้หว่านเยว่สักพักอย่างคลุมเครือ จากนั้นก็ส่ายหน้า“ยังเด็กเกินไป...”เด็กขนาดนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับท่านอ๋อง แล้วใครจะรับผิดชอบ?“รู้สึกว่าข้าเด็กหรือ? เช่นนั้นข้าจะไป” เดิมทีนางก็ไม่อยากเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากนี้อยู่แล้วซุนอู่พูดไม่ออก กว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมแม่นางกู้ได้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย เด็กแล้วเป็นอย่างไร ทักษะทางการแพทย์ของแม่นางกู้นั้นแม้แต่อาการขาหักของซูจิ่งสิงยังรักษาจนหายได้!“ช้าก่อน!”หวังปี้ก็มึนงงเช่นกัน เขาพูดไปอย่างนั้นเอง เหตุใดถึงจะไปจริง ๆ เล่า หมอคนนี้ขี้โมโหขนาดนั้นเชียวหรือ?“เอ่อ ถึงเจ้าจะยังเด็ก แต่ที่นี่ก็ไม่มีหมอคนอ
“พิ้ว!” ฝูงชนแตกตื่นโดยพลัน “น้ำเสียงแม่นางน้อยมั่นใจมาก พิษนี้ถูกคิดค้นโดยชาวต่างแคว้น แม้แต่หมอหลวงก็รักษาไม่ได้ เจ้ารักษาได้หรือ?”กู้หว่านเยว่ถอนหายใจ “ถึงเวลาปรับเปลี่ยนหมอหลวงในวังทั้งชุดแล้ว”นางไม่ได้พูดเกินจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้นพิษกระดูกข้อเท้าเป็นเพียงพิษธรรมดาเท่านั้นเป็นหมอหลวงยังคลายไม่ได้ ไม่สมควรจริง ๆหนานหยางอ๋องอดลืมตาขึ้นมาไม่ได้ พลางถามด้วยเสียงแหบพร่า“แม่นางน้อย เจ้าช่วยคลายพิษให้ข้าได้จริงหรือ?”เขาทรมานด้วยพิษนี้มานานกว่าสิบปี ในฤดูหนาวทุกปีต้องอยู่แบบตายทั้งเป็นหลายวัน หากแม่นางน้อยคนนี้สามารถช่วยคลายพิษนี้ให้เขาได้ ในอนาคตเขาจะได้หลุดพ้นจากวันเวลาเช่นนี้ไปได้!กู้หว่านเยว่มองไปที่รอยแผลเป็นบนใบหน้าของหนานหยางอ๋อง ตกอยู่ในภวังค์แม้ว่าหนานหยางอ๋องผู้นี้จะเป็นบิดาของฟู่เยียนหราน แต่ก็เป็นวีรบุรุษที่ปกป้องประชาชนของต้าฉีเช่นกันเหรียญตราคุณงามความดีมีอยู่ทั่วใบหน้าและในมือเขาแม้ว่านางจะเกลียดชังฟู่เยียนหราน แต่ก็ยังตัดสินใจคลายพิษให้หนานหยางอ๋องพลางถอนหายใจทันที “ใช่แล้ว ข้าสามารถคลายพิษให้ท่านได้”“แต่ข้าไม่มียาถอนพิษสำเร็จรูปอยู่ในมือ ต้องใช้เวลา
“เรื่องอะไรหรือ?” กู้หว่านเยว่มองหวังปี้ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มหวังปี้ขนหัวลุกจากสายตาของนางสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหนไม่ควรล่วงเกินบทสะอื้นของดาวร้ายนางนี้ตั้งแต่แรก“มันไม่เหมาะที่จะพูดที่นี่ หาสถานที่ที่คนน้อยกว่านี้ได้หรือไม่?”สายตาเหมือนเสือจ้องเขมือบเหยื่อของซูจิ่นเอ๋อร์ เขาเห็นแล้วรู้สึกขนหัวลุก“ตกลง” กู้หว่านเยว่ลุกขึ้นเดินออกไปอีกด้านหนึ่งกับเขา ความจริงก็พอจะรู้ว่าที่หวังปี้อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ นั้นต้องการพูดอะไร แต่ว่า เฮ้? นางแค่ไม่พูดขึ้นมาก่อนหวังปี้ประดิดประดอยในใจอยู่นาน ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปาก“เอ่อ แม่นางน้อยกู้ ข้ามีภาวะไตพร่องจริงหรือ เจ้าช่วยตรวจหรือเขียนใบสั่งยาให้ข้าด้วยได้ไหม?”กู้หว่านเยว่ทำหน้าใสซื่อ “เมื่อครู่ขุนพลหวังยังรู้สึกว่าข้ายังเด็กอยู่มิใช่หรือ?”หวังปี้: ต้องผูกใจเจ็บเช่นนี้เลยหรือ!“ข้าผิดไปแล้ว ข้ามีตาหามีแววไม่ แม่นางกู้ได้โปรดอย่าถือสาคนที่มีความคิดตื้นเขินอย่างข้าเลย ฮือฮือ เจ้าช่วยข้าด้วยเถอะ ข้ายังไม่ได้แต่งงาน ข้าไม่อยากกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพ...”หวังปี้ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตามป่ารกร้างผืนนี้ก็ไม่มีหมออีกแล้วเขากลัวมาก
เปิดดูด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม แต่เป็นเงินแค่ยี่สิบตำลึงเท่านั้นสีหน้าเผยความผิดหวังทันที “ขุนพลอย่างพวกท่านยากจนถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!”เมื่อครั้งที่สกุลซูถูกยึดทรัพย์ครั้งแรก ทรัพย์สินเงินทองของสกุลซูก็มีน้อยนิดเช่นกัน นี่คือผลลัพธ์จากการที่หลายครอบครัวของสกุลซูสะสมทรัพย์สินไว้โดยมิชอบคลังส่วนตัวของซูจิ่งสิงขาดแคลนอย่างน่าเวทนา!“การเข่นฆ่าศัตรูในสนามรบ บางครั้งเบี้ยหวัดและเสบียงทหารไม่เพียงพอ พวกข้าต้องโปะเงินตัวเองเสริมด้วยทรัพย์สินที่ยึดมาจากการตีเมืองแตก โดยทั่วไปเอามาใช้เป็นรางวัลสำหรับทหารสามเหล่าทัพด้วยหนานหยางอ๋องก็เป็นขุนพลที่ดี ดูท่าทางก็เป็นแบบนี้เช่นกัน”ซูจิ่งสิงกระดากอายเล็กน้อย ชายารังเกียจที่เขายากจนเสียแล้ว...“เฮ้อ ช่างเถอะ ช่างเถอะ ข้ามีเงินก็พอแล้ว พี่หญิงจะเลี้ยงดูเจ้าเอง!”กู้หว่านเยว่โบกมืออย่างใจกว้าง แต่ในขณะที่ปรุงยาถอนพิษให้หนานหยางอ๋อง นางก็พบว่าขาดตัวยาสองชนิดไป ตัวยาสองชนิดนี้นางหาซื้อบนแพลตฟอร์มซื้อขายอย่างไรก็ไม่พบ จึงบอกชื่อวัตถุดิบกับหนานหยางอ๋อง ให้เขาส่งคนไปค้นหา“ท่านอ๋องช่วยส่งคนไปค้นหาทางทิศใต้ ตัวยาชนิดนี้หาไม่ยาก ขอเพียงท่านอ๋อง
แม้แต่ซุนอู่ยังเข้ามาต้มน้ำขิงด้วยอาการไอ ร่างกายของซุนอู่แข็งแรงเสมอมา“พี่ใหญ่ซุน ท่านก็เป็นไข้หวัดแล้วหรือ?”ซุนอู่แตะหน้าผากพลางถอนหายใจ“อย่าเอ่ยถึงเลย ปวดหัวมาก ซ้ำยังมีไข้และหนาวสั่น ทำให้เหล่าซุนของเราทรมานแทบแย่ นักการในศาลาว่าการครึ่งหนึ่งในคณะล้มตายกันหมด”“มีคนป่วยไข้มากมายถึงเพียงนี้เลยหรือ?”เดิมทีกู้หว่านเยว่ก็รู้สึกผิดปกติอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งทวีความสงสัยมากขึ้น“พี่ใหญ่ซุน ช่วยแลบลิ้นของท่านออกมาให้ข้าดูหน่อย”ซุนอู่อ้าปาก “อา” แลบลิ้นเขียวซีดออกมา ดูค่อนข้างน่ากลัวสีหน้าของกู้หว่านเยว่หนักใจ ลิ้นของคนที่เป็นไข้หวัดเพียงอย่างเดียวจะซีดขาว ไม่ปรากฏสีเขียวซีดเด็ดขาดนางรีบวางน้ำขิงลง กลับไปที่เตียงนอนรวมและเปิดปากของนางหยางเพื่อตรวจดูลิ้นของนางเหมือนกับของซุนอู่ เขียว ๆ ซีด ๆ“เหยียนฮูหยิน ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่ง พวกท่านช่วยแลบลิ้นออกมาให้ข้าดูด้วย”เพื่อยืนยันการคาดเดาในใจ กู้หว่านเยว่จึงมองไปที่คนอื่น ๆผลสรุปคือไม่มีข้อยกเว้น ลิ้นของทุกคนเป็นสีเขียวซีดกันหมดเหยียนฮูหยินถามด้วยความเป็นห่วง “แม่นางน้อยกู้ พวกเขาเป็นอะไรไปหรือ?”“ตอนนี้ข้ายังไม่แน่ใจ แต่พวกท่า
ซูจิ่นเอ๋อร์กัดริมฝีปากล่างด้วยความหวาดกลัว “เขาคือปรมาจารย์แพทย์”“เจ้าพบปรมาจารย์แพทย์หรือ?”กู้หว่านเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยชายชราปรมาจารย์แพทย์ผู้นี้คุ้มดีคุ้มร้าย ครั้งหนึ่งเคยมีลูกเศรษฐีล่วงเกินเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงวางยาพิษตายทั้งครอบครัวในชั่วข้ามคืนแต่ซูจิ่นเอ๋อร์ไม่มีความเคียดแค้นใด ๆ กับเขา เหตุใดเขาถึงลงมือกับซูจิ่นเอ๋อร์“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าพบเขาที่ทางเข้าโรงเตี๊ยม”“เขาบอกว่าเขาวางยาพิษทุกคน ถ้าต้องการยาถอนพิษ ก็ให้ไปหาเขาที่ทะเลสาบหูลูทางทิศตะวันออกของโรงเตี๊ยม”“ข้าโกรธมากอยากจะดึงตัวเขามาตะโกนใส่ แต่ผลคือเขาแตะบนหัวของข้า แล้วข้าก็หน้ามืดล้มลงกับพื้น”เมื่อนึกถึงหน้าตาปรมาจารย์แพทย์ ซูจิ่นเอ๋อร์ก็อดตัวสั่นไม่ได้ ชายชราผู้นั้นน่ากลัวจริง ๆ!“เป็นเช่นนี้เอง”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว นางว่าแล้วเหตุใดทุกคนถึงถูกวางยาพิษโดยไม่มีสาเหตุ ที่แท้ก็เป็นวิธีการลงมือของปรมาจารย์แพทย์นี่เองไม่ว่าปรมาจารย์แพทย์จะมีจุดประสงค์อะไร นางต้องเอายาถอนพิษกลับมาให้ได้“ทะเลสาบหูลูใช่ไหม ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย...”“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”ซูจิ่งสิงอ่านความคิดของกู้หว่านเยว่ออก ย่อมไม่ปล่อ
“น้อมรับคำสั่ง น้องหญิง”ซูจิ่งสิงย่อมรู้ว่ากู้หว่านเยว่หมายถึงอะไร จึงเหาะทะยานล่องูเหลือมยักษ์มาถึงตรงหน้าปรมาจารย์แพทย์ปรมาจารย์แพทย์กำลังเฝ้าดูอย่างสนอกสนใจเขารู้มานานแล้วว่ามีงูเหลือมยักษ์อายุร้อยปีอยู่ที่นี่ รอดูงูเหลือมยักษ์ฉีกพวกเขาทั้งสองเป็นสองท่อน แก้แค้นให้กับลั่วยางผู้เป็นศิษย์รักของเขาเห็นกู้หว่านเยว่เดินเข้ามาถึงตรงหน้าในทันใด แถมยังเผยรอยยิ้มที่มีเจตนาร้ายให้เขาอีกด้วยจากนั้น เลือดไก่ถุงหนึ่งก็ราดลงบนตัวเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า“โอ๊ย ๆ ๆ นังหนูสารเลวช่างร้ายกาจนัก บังอาจเทเลือดไก่ใส่ตัวข้า!”ปรมาจารย์แพทย์ตกตะลึง ก่อนจะดีดตัวขึ้นงูเหลือมยักษ์ชอบกลิ่นคาวที่สุด เมื่อได้กลิ่นเลือดไก่ จะไม่คิดว่าเขาเป็นอาหารกลางวันได้อย่างไร?เห็นงูเหลือมยักษ์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งตามคาด จากนั้นก็โยนกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงทิ้งไป สะบัดหางยักษ์พุ่งตรงไปที่ปรมาจารย์แพทย์“โอ๊ย ๆ ๆ ช่วยด้วย!”ปรมาจารย์แพทย์ชูมือทั้งสองขึ้น สาวเท้าวิ่งหนีไป หนวดเคราผมเผ้าหงอกขาวสั่นระริกกลางอากาศ“อ๊ะ ฮ่า ๆ ๆ”กู้หว่านเยว่เห็นสภาพทุลักทุเลของปรมาจารย์แพทย์ ก็อดหัวเราะลั่นไม่ได้หลังจากหัวเราะได้สักพั