แชร์

บทที่ 1310

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เช่นนี้นางก็สามารถสอดแนมการวางกำลังของศัตรูและความอันตรายล่วงหน้าได้แล้ว นี่คือข้อได้เปรียบยิ่งใหญ่มากทีเดียว

กู้หว่านเยว่พึงพอใจพลังวิเศษนี้มาก

อาจเพราะเพิ่งได้รับพลังวิเศษ นางยังมิได้คิดวิธีใช้ประโยชน์ให้ดี สายตาตกลงบนตัวซูจิ่งสิง ก็ได้เห็นเรือนร่างไร้สิ่งใดปกปิดของอีกฝ่าย

“ของใหญ่” บางแห่ง นางมองแล้วก็หน้าแดงไปถึงหู รีบเลื่อนสายตาหนี

“ข้าไปตรวจนับสมบัติก่อน”

กู้หว่านเยว่กระแอมแล้วเดินจากไป

เสียงพูดของระบบอยู่ภายในสมองของกู้หว่านเยว่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงไม่พบความผิดปกติ

“เก็บสิ่งเหล่านี้เข้าคลังเก็บของตรวจนับให้เรียบร้อยก่อนเถอะ”

กู้หว่านเยว่โบกมือ เก็บสมบัติที่ได้มาครั้งนี้เข้าคลังเก็บของแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในมิติ จากนั้นบนหน้าต่างขนาดใหญ่ของนาง ก็ปรากฏสิ่งของที่ปล้นมาได้ในครั้งนี้จำแนกและปรากฏบนหน้าจอแล้ว

“ของไม่น้อยเลยจริงๆ”

กู้หว่านเยว่ถอนใจ ทันใดนั้นนางนึกถึงบันทึกที่เก็บมาได้ภายในถ้ำขึ้นได้

นางรีบหยิบบันทึกออกมาเปิดอ่าน

ปรากฏว่ายิ่งอ่านก็ยิ่งตกตะลึง

“ดีนักนะ ถ้ำนั้นคล้ายเป็นของเถาเอ๋อร์จริงเสียด้วย”

บันทึกนี้ยุ่งเหยิงเป็นพิเศษ กู้หว่านเยว่พบเบาะแสแล้ว

นางคลี่ยิ้ม

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1311  

    “จิ่งสิง!” คนผู้นั้นควบม้าเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้น เมื่อเข้ามาใกล้ ซูจิ่งสิงจึงพบว่าเป็นเกาเจี้ยน “เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เขาคิดเพียงครู่เดียวก็เดาถึงวัตถุประสงค์ของเกาเจี้ยนได้ “เจ้าคงไม่ได้คิดจะกลับเจดีย์หนิงกู่กับพวกเราหรอกนะ?” “ไม่เสียทีที่เป็นเพื่อนรักของข้า ฉลาดจริงๆ” เกาเจี้ยนหัวเราะออกมาอย่างเบิกบาน เสียงหัวเราะได้ยินไปถึงกู้หว่านเยว่และลั่วยางที่อยู่ในรถม้า คนทั้งสองยังคิดว่าหูฝาดไป รีบเลิกม่านรถขึ้น กระทั่งเห็นเงาร่างที่ทั้งดำทั้งใหญ่โตของเกาเจี้ยน คนทั้งสองจึงได้กล้าเชื่อ “แม่ทัพเกา ท่านมาได้อย่างไร?” กู้หว่านเยว่เหลือบมองลั่วยางทีหนึ่ง คิดไปในทางเดียวกับซูจิ่งสิงแล้ว คนผู้นี้คงไม่ได้วางแผนจะกลับเจดีย์หนิงกู่กับพวกนางเพื่อลั่วยางกระมัง “ข้าวางแผนจะกลับไปที่เจดีย์หนิงกู่กับพวกเจ้าด้วย” เกาเจี้ยนหัวเราะร่า หางตาของเขาเหลือบมองลั่วยางอย่างเขินอาย “ยังไงข้าอยู่ที่ด่านซานไห่ก็ไม่มีเรื่องอะไรอีก” “ทูเจวี๋ยก็ถูกพวกเจ้าสยบไปแล้ว ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ ด่านซานไห่ย่อมไม่มีสงครามอะไร ข้าไม่สู้ตามไปช่วยพวกเจ้าที่เจดีย์หนิงกู่ดีกว่า” เขาพูดอย่างจริงจ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1312  

    เมื่อยืนยันว่าเมืองจี้หนิงปลอดภัย ทุกคนก็ไม่ลังเลอีก รีบเข้าเมืองและหาโรงเตี๊ยมพักผ่อนทันที “พี่สะใภ้ ท่านพี่เขาเมารถอยู่บ้าง” เพิ่งขึ้นมาชั้นบน ซูจิ่นเอ๋อร์ก็มาหากู้หว่านเยว่อย่างร้อนใจ กู้หว่านเยว่นึกถึงร่างกายที่อ่อนแอของฟู่หลานเหิง เพื่อไม่ให้ทุกสิ่งต้องเสียเปล่า จึงไปดูด้วยตัวเองรอบหนึ่ง “ยังดี แค่เพราะตรากตรำจากการเดินทางจนเหน็ดเหนื่อยเท่านั้น” กู้หว่านเยว่หยิบขวดยาออกมาขวดหนึ่ง มอบให้ฟู่หลานเหิง “นี่เป็นยาแก้เมารถ เจ้ากินมันลงไปก่อน หลับพักให้ดีสักคืน พรุ่งนี้เมื่อตื่นขึ้นมาก็น่าจะหายดีแล้ว” คนผู้นี้สุขภาพอ่อนแอถึงขนาดแค่นั่งรถม้าก็เวียนหัว กู้หว่านเยว่ส่ายหัว ดูท่าเมื่อกลับถึงเจดีย์หนิงกู่ ควรให้ฟู่หลานเหิงพักสักหนึ่งปีครึ่งปีก่อนให้เขาไปดูแลเมืองตะวันไม่ตกดินต่อแล้ว นางใคร่ครวญ เมื่อถึงเวลานั้นก็มองเมืองตะวันไม่ตกดินให้เกาเจี้ยนก่อนแล้วกัน “ขอบคุณมากขอรับ” ฟู่หลานเหิงพยักหน้า กินยาลงไปแต่โดยดี ผ่านไปครู่เดียวก็หลับไปด้วยลมหายใจสม่ำเสมอแล้ว “จิ่นเอ๋อร์ เจ้าอยู่ดูแลเขาที่นี่ ข้าไปก่อนแล้ว” กู้หว่านเยว่เห็นฟู่หลานเหิงไม่เป็นไรแล้ว จึงสาวเท้าจากไป “ขอบคุณ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1313  

    เจ้าของแผงแนะนำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ด้วยกริ่งเกรงว่าจะชักนำความสนใจของคนพวกนั้นมา เมื่อกู้หว่านเยว่ได้ยินว่าคุณชายหวังผู้นี้ถึงกับเป็นลูกชายของนายอำเภอ ก็ยิ่งทนไม่ไหว “เป็นถึงขุนนางผู้ปกครองท้องที่ ที่ควรดูแลราษฎรประดุจบุตรของตน กลับไม่รู้จักควบคุมบุตรชายของตนให้ดี ปล่อยให้เขาฉุดคร่าหญิงชาวบ้าน กระทำเรื่องชั่วช้านอกบ้าน ยังมีกฎหมายอยู่อีกหรือไม่” กู้หว่านเยว่กล่าวอย่างเย็นชาประโยคหนึ่ง ในดวงตาปรากฏจิตสังหารออกมา “เรื่องนี้ พวกเราที่เป็นชาวบ้านตัวเล็กๆ ก็ยุ่งไม่ไหวขอรับ” เจ้าของแผงถอนหายใจ ใช้กระดาษห่อขนมที่พวกเขาต้องการด้วยมือเท้าที่คล่องแคล่วว่องไว “ท่านลูกค้า ขนมของพวกท่านเรียบร้อยแล้วขอรับ” “ขอบคุณมาก” กู้หว่านเยว่ส่งสัญญาณให้ซูจิ่งสิงรับขนมมา หลังคนทั้งสองออกจากแผงของเจ้าของแผง ก็เดินตรงไปที่เหล่าคุณชายพวกนั้น ในเวลานี้ หญิงสาวชุดเหลืองนางนั้นถูกบรรดาคุณชายพวกนั้นรังควานจนไม่อาจสะกดความโมโหได้อีก กำลังจะลงมือกับพวกเขาพอดี จนใจที่นางรู้จักหมัดมวยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พละกำลังก็ไม่มากเท่าบุรุษพวกนั้น ในไม่ช้าก็ถูกพวกเขากดลงกับพื้น “เอ๋ สาวน้อย นิสัยเจ้าอารมณ์ทีเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1314  

    ผู้ที่อยู่เบื้องหน้า ก็คือมู่หรงฉางเล่อที่พวกเขาเจอที่เขาอินซานก่อนหน้านี้ คนทั้งสองไม่นึกฝันเลยว่า จะมาพบกับนางที่เมืองจี้หนิง “เจ้า เจ้าคือ” มู่หรงฉางเล่อตะลึงไป ทอดสายตาลงบนใบหน้ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง จากนั้นก็พุ่งเข้าหาร่างของกู้หว่านเยว่อย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้! เป็นท่าน ที่แท้ก็เป็นท่าน โชคดีที่ได้ท่านช่วยข้าไว้” กู้หว่านเยว่ไม่ทันตอบสนองต่อการพุ่งเข้าหาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัวของนาง รอจนได้สติกลับมา มู่หรงฉางเล่อก็กอดเอวของนางไว้อย่างแนบแน่นแล้ว ถูไถหัวเข้ามาในอ้อมกอดของนาง ราวกับสุนัขสีเหลืองตัวน้อยที่ได้รับความไม่เป็นธรรม “เจ้าออกมาจากอ้อมแขนของข้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน” กู้หว่านเยว่จนใจ คนผู้นี้จะกอดก็ช่างเถิด เหตุใดจึงยังถูไถเข้าหาหน้าอกนางอีกเล่า? “ดีเหลือเกิน พี่สะใภ้ ลูกผู้พี่ ในที่สุดข้าก็ได้พบกับพวกท่านแล้ว” ใบหน้าของมู่หรงฉางเล่อเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ หลังร้องไห้ไปสักพักจึงได้ปล่อยกู้หว่านเยว่ แล้วมองคนทั้งสองอย่างน่าสงสาร กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงเห็นนางทุลักทุเลไปทั้งตัว สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่ที่จะพูดคุย จึงตัดสินใจพามู่หรงฉางเล่อจากไป ในเวลานั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1315  

    กู้หว่านเยว่มองมู่หรงฉางเล่อ นางจึงพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ “พวกท่านไม่ได้มอบจดหมายให้ข้าฉบับหนึ่งหรือ? ข้ามอบให้ท่านแม่แล้ว” “ท่านแม่อ่านจบ ก็พูดอย่างตื่นเต้นว่าพวกท่านคือญาติผู้พี่กับพี่สะใภ้ของข้า” มู่หรงฉางเล่อมองซูจิ่งสิงครั้งหนึ่ง สาวน้อยผู้นี้นับว่าฉลาดไม่เบา ลูกตาดวงน้อยกลอกครั้งหนึ่ง “แต่พวกท่านวางใจ เมื่ออยู่ข้างนอกข้าจะยังคงเรียกพวกท่านว่า ท่านอ๋องกับพระชายา” “เสด็จแม่ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ซูจิ่งสิงถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ มู่หรงฉางเล่อตอบกลับอย่างว่าง่าย “เสด็จแม่สบายดีมาก หลังกินยาฟื้นคืนจิตวิญญาณลงไปนางก็ฟื้นแล้ว หมอหลวงบอกให้บำรุงร่างกายให้ดี ขอเพียงผ่านฤดูหนาวไปได้ ก็ไม่เป็นไรแล้ว” ยาฟื้นคืนจิตวิญญาณสามารถรักษาผู้ป่วยในภาวะวิกฤติได้ ยากจะหาได้ในโลกหล้า ที่กู้หว่านเยว่มอบยาฟื้นคืนจิตวิญญาณเม็ดนั้นให้นาง มู่หรงฉางเล่อซาบซึ้งอย่างที่สุด เมื่อกล่าวจบจึงหมอบต่ำคารวะกู้หว่านเยว่คราหนึ่ง “ขอบคุณพี่สะใภ้ ในอนาคตฉางเล่อจะเป็นวัวเป็นม้าให้ท่าน” สาวน้อยผู้นี้น่ารักไร้เดียงสา กู้หว่านเยว่อดบีบแก้มยุ้ยๆ ของนางไม่ได้ “ในเมื่อเจ้าหนีออกมาจากจวนองค์หญิง เสด็จแม่ของ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1316  

    อย่าพูดถึงว่าตีเขาสักหน แม้แต่ตีเขาครั้งเดียว หวงฮูหยินก็ทำใจไม่ลง บัดนี้เห็นบุตรชายถูกทุบตีจนมีสภาพเช่นนี้ หวงฮูหยินจึงร้องไห้จนแทบขาดใจ “ยังเหม่ออะไรอยู่อีก? รีบให้คนไปเชิญท่านหมอ แล้วไปตามนายท่านกลับมา” หวงฮูหยินด้านหนึ่งกอดบุตรชายร้องไห้อย่างเจ็บปวด อีกด้านก็สั่งการด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เด็กรับใช้ชายรีบวิ่งออกไปทันที “รีบพูดมา ลูกชายของข้าออกไปเล่นสนุกกับพวกเจ้าดีๆ ตอนกลับมาเหตุใดจึงมีสภาพเป็นเช่นนี้ได้?” หวงฮูหยินมองคุณชายพวกนั้นอย่างแค้นใจยิ่ง เหล่าคุณชายต่างก็ตกใจแทบตาย แม้ครอบครัวของพวกเขาจะมีชื่อเสียงในเมืองจี้หนิง แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับสกุลหวงเลย “ท่านน้าหวงโปรดระงับโทสะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเราเลยขอรับ” “มีสามีภรรยาคู่หนึ่งทำร้ายคุณชายหวง พวกเราแต่ละคนก็ล้วนถูกทุบตีเช่นกันขอรับ” หนึ่งในคุณชายพวกนั้นก้าวออกมา นับได้ว่าครอบครัวเขายังสนิทสนมกับสกุลหวงอยู่บ้าง “สามีภรรยาคู่หนึ่ง?” หวงฮูหยินโกรธอย่างยิ่ง “ช่างกล้านัก ถึงกับกล้าทำร้ายจื่อหานของพวกเราในเมืองจี้หนิง” นางก็ไม่รอให้ใต้เท้าหวงกลับมา รีบสั่งให้คนไปสืบหาเบาะแสของกู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงในเม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1317  

    กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด มู่หรงฉางเล่อก็รีบอธิบายว่า “ไม่โทษท่านอ๋องกับพระชายา พวกเขาสองคนทำเพื่อช่วยข้า วันนี้ข้าเจอพวกอันธพาลคนหนึ่งบนถนนเข้า เจ้าอันธพาลคนนั้นเป็นคุณชายของสกุลหลิว” มู่หรงฉางเล่อรีบอธิบายเรื่องราวออกมารอบหนึ่ง เกาเจี้ยนจึงได้เข้าใจ “ไอ้พวกชั่วช้าแบบนั้นสมควรโดนสั่งสอนแล้วจริงๆ ยังดีที่ข้าไม่อยู่ หากข้าอยู่ต้องทุบมันจนฟันร่วงเต็มพื้นแน่” “แล้วค่อยหิ้วมันไปหาพ่อแม่ของมันที่จวนสกุลหวง ถกกันดีๆ สักรอบ” เมื่อเทียบกับซูจิ่งสิงแล้ว นิสัยของเกาเจี้ยนยังแย่กว่าอีก ทนเห็นพวกขยะสังคมแบบนี้ไม่ได้ที่สุด “พวกมันยังกล้าตามมาหาเรื่องอีก ช่างไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเกินไปแล้ว” “เรื่องนี้ไม่รีบ รอดูก่อนว่าพวกเขาจะทำสิ่งใด” ซูจิ่งสิงกับกู้หว่านเยว่ทั้งสองกลับสงบนัก เวลานี้ หวงฮูหยินได้นำบ่าวรับใช้ของสกุลหวงมากปิดกั้นประตูโรงเตี๊ยมไว้แล้ว หลังไต่ถามจนได้ความเรื่องห้องพักของกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจากปากผู้ดูแล ก็วางแผนจะนำคนบุกขึ้นมาโดยตรง “ฮูหยิน มีเรื่องอะไรได้โปรดพูดคุยกันดีๆ เถิดขอรับ ร้านเล็กๆ ของเราทำกิจการได้ไม่ง่ายเลย” เมื่อผู้ดูแลร้า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1318  

    “ใครเข้ามา จับพวกมันมัดไว้” หวงฮูหยินโบกมือ วางจะแผนนำตัวพวกเขากลับจวนไปก่อน แล้วค่อยๆ ลงมือสั่งสอน “ข้าจะดูว่าผู้ใดกล้า” ผลคือบ่าวรับใช้สองคนเพิ่งก้าวเข้าไป ก็ถูกเกาเจี้ยนถีบลอยออกไปในเท้าเดียว เกาเจี้ยนเรี่ยวแรงมหาศาล ลูกถีบนี้ ถึงกับถีบกระเด็นออกไปนอกโรงเตี๊ยม เมื่อได้ยินเสียงร้องอย่างน่าอนาถดังมาจากหน้าประตูโรงเตี๊ยม เปลือกตาของหวงฮูหยินก็กระตุกขึ้นมา “ช่างบังอาจนัก พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด? ถึงกลับกล้าสามหาวต่อหน้าข้า ฮูหยินผู้นี้” เกาเจี้ยนดูแคลนพวกอาศัยอำนาจรังแกคนเป็นที่สุด หันหัวไปพูดกับซูจิ่งสิงคำหนึ่งว่า “จิ่งสิง เจ้าอย่าขยับ ข้าไม่ได้ขยับเขยื้อนกระดูกเส้นเอ็นมานานแล้ว วันนี้ ก็ให้ข้ามาสั่งสอนคนพวกนี้เถอะ” “ได้” ซูจิ่งสิงยิ้มพลางพยักหน้า จูงมือภรรยาของตนไปยืนดูอยู่ด้านข้างอย่างไม่รีบเร่ง “คิดจะจับพวกเราไปสั่งสอนใช่ไหม? เข้ามาได้เต็มที่เลย” เกาเจี้ยนกำหมัดทั้งสองข้างจนเสียงดังกรอบแกรบ เมื่อเห็นบรรดาบ่าวรับใช้บุกเข้ามา ก็ก้าวเข้าไปใช้หมัดสอยล้มลงหนึ่งคนในเสี้ยววินาที พลังการต่อสู้ของเขา ทำให้หวงฮูหยินและหวงจื่อหานตกใจไม่น้อย “ท่านแม่ พวกมัน ท

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status