“ห้องของชายารอง ทำไมถึงไม่มีแสงไฟเล็ดลอด”
“นายหญิงให้ข้าออกมาแล้วดับไฟตั้งแต่หัววัน พวกเจ้าจะสงสัยอะไรกัน”
“มีคนร้าย ข้าสงสัยว่า จะซ่อนตัวในห้องของชายารอง”
“เป็นไปไม่ได้ห้องด้านซ้ายมีมากมายอีกทั้งยังมีห้องติดๆ กันหลายห้องคนร้ายจะจงใจเข้าไปในห้องนายหญิงได้อย่างไร ชายารองเพิ่งจะแต่งเข้ามานางคนเมื่อยล้าไม่น้อยพวกเจ้าไปเสียอย่ามารบกวนเวลาพักผ่อน อีกอย่างถ้ามีคนร้ายนายหญิงจะต้องตื่นตกใจร้องขอความช่วยเหลือ”
องครักษ์ส่ายหน้า
“แต่หากข้าละเลย”เจียวหยูทำสีหน้าเบื่อระอา
“นายหญิงเจ้าขา มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่”
หวางปาหยางส่งเสียงลอดไรฟันเบาๆ
“บอกนางไปว่าเจ้ากำลังนอนไม่มีอะไร ผิดปกติ”
“ข้ากำลังหลับสบายพวกเจ้าส่งเสียงดังรบกวนข้า”
หวางปาหยางอ้าปากค้างกับเสียงใสราวกับระฆังแก้ว ชายารองอ๋องไร้พ่ายผู้นั้น ไหนใครบอกว่าอัปลักษณ์ยิ่งแล้ว เขาเลือกเอาวันแต่งเพราะทุกคนมัวยุ่งๆ จึงอาศัยโอกาสนี้แต่ที่เห็นห้องหับของนางล้วนไม่น่าดู เก่าคร่ำคร่านี่หรือห้องของชายารอง
“เจ้าค่ะ พวกเจ้าได้ยินไหม”
องครักษ์ประสานมือจากไป เจิ้งอ้ายฉิงผลักอกกว้างดิ้นรน ให้หลุดพ้นจากอ้อมกอด แต่กับถูกรัดไว้แน่น
“ชายารอง 555เหมาะสมยิ่งแล้ว”
สะบัดมือเพียงนิด แสงสว่างจากเปลวเทียนสว่างขึ้นที่ข้างแท่นนอน หวางปาหยางอ้าปากค้างใบหน้านวลใยงดงามใต้ร่างของเขา แสงเทียนส่องกระทบมองเห็นชัดเจน อ้ายฉิงรีบยกมือปิดบังใบหน้าซีกขวาด้วยความตกใจลืมไปว่าจะต้องปิดบังใบหน้าซีกซ้าย
“เทพีสวรรค์หรือไร”
เอาแต่ตกตะลึงอ้ายฉิงสะบัดตัวลุกขึ้น คว้ากระบี่ข้างกายมากำไปข้างหนึ่งมืออีกข้างปิดบังใบหน้าไว้
“ไปเสีย ท่านไปเสียไม่ว่าจะเป็นใครท่านจะโชคร้ายเมื่อพบหน้าข้าอาจจะไม่อาจรักษาชีวิตไว้ด้วยซ้ำ”
ไม่ได้กลัวแค่เพียงมือสั่นที่กำกระบี่ แต่ด้วยเหมือนมีมนตร์ขลังกับใบหน้างามที่เขาจ้องมองในครั้งแรกอีกทั้งร่างอ้อนแอ้นของอ้ายฉิงที่ทำเอาเขากลืนน้ำลายด้วยความรู้สึกเสียดายอย่างยิ่งสิ่งไหนกันเวทมนตร์หรือว่าใบหน้ากับร่างอรชรนั้น ที่ทำให้เขายอมทำตามคำพูดของนางง่ายดาย ค่อยๆถอยออกจากห้องไปแต่สายตายังจับจ้องใบหน้างามไม่ลดละ อ้ายฉิงตวัดกระบี่ตัดไส้เทียน ความมืดปกคลุมอีกครั้งโยนกระบี่ไปตรงหน้า หวางปาหยางคว้ามันไว้ในมือแล้วรีบทะยานออกจากห้องไปทั้งๆ ที่ ไม่อยากจากไปแม้เพียงน้อยนางงดงามดังเทพีสวรรค์ หญิงงามอันดับหนึ่งยังน้อยไปหากจะเปรียบกับนาง
“ค้น ค้นให้ทั่ว”
เสียงดังโวยวายด้านนอกอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นเสียงของ หวงเฉิงอู๋ ที่นำคนกลับมาอีกครั้ง
“เจียวหยูเปิดห้องของชายารอง”
ด้านในเงียบงันเจียวหยูลังเล
“เปิดประตู”
บานประตูเปิดออกช้าๆ ใบหน้าอัปลักษณ์ต้องแสงเทียนในมือ องครักษ์ต่างก้มหน้าไม่มีใครกล้ามอง ดวงหน้าอัปลักษณ์เกินทน ก่อนหน้านั้นเจิ้งอ้ายฉิง รีบลนลานคว้าแผ่นหนังใต้หมอนมาปิดบังใบหน้าไว้ดึงผ้าห่มมาคลุม ร่างกายที่มีเพียงอาภรณ์บางเบา เผยให้เห็นเรือนร่างชัดเจน
“เจ้าอาจซุกซ่อนคนร้ายไว้ด้านใน ข้าจะให้คนค้นห้องเจ้า”
อ้ายฉิงยิ้ม
“เชิญท่านอ๋อง”
ผายมือเชิญ หวงเฉิงอู๋ก้าวเท้าเข้าไปรื้อค้น สิ่งของในห้องไม่เว้นแม้กระทั่งบนแท่นนอน
“พวกเจ้าแน่ใจหรือ”
“แน่ใจ ขอรับ”
“บัดซบ วิ่งมาทางนี้ แต่กลับหายตัวไปง่ายดาย”
หันมาเผชิญหน้ากับอ้ายฉิงสายตา จ้องจับผิด
“ข้า เอาผิดเจ้าไม่ได้ แต่อย่าคิดว่าข้าจะวางใจ”
อ้ายฉิงย่อกายลงอ่อนหวาน
“ท่านอ๋องค้นดูอีกรอบจึงดี หากยังไม่วางใจ”
น้ำเสียงอ่อนหวาน จนคนฟังใจอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่อป้ายหยกเนื้อดีบ่งบอกฐานะใช้สำหรับของใครบางคนที่ร่วงบนพื้น
หวงเฉิงอู๋ก้มลงเก็บ ป้ายหยกมาขึ้นมายื่นไปตรงหน้า อ้ายฉิง
“สิ่งนี้เจ้าจะอธิบายว่าอย่างไร”
มือบางคว้าป้ายหยกอย่างรวดเร็วแต่ ร่างสูงกลับไวกว่าคว้ามือดึงตัวของอ้ายฉิงกระแทกมาที่อกของเขา
“นอกจากใบหน้าอัปลักษณ์แล้ว เจ้ายังทำเรื่องปิดบังชั่วช้า เจ้ารวมหัวกับใคร”
อ้ายฉิงยิ้มหวาน
“ท่านอ๋องกลัว หรือกลัวว่าสิ่งที่ทำไว้จะเปิดเผยออกมาใช่หรือไม่”
ผลักร่างบางให้ลงไปกองกับพื้น
“กลับ”
อ้ายฉิงกำป้ายหยกไว้ในมือแน่น ไม่ยอมปล่อย ดีที่หวงเฉิงอู่คิดว่าป้ายหยกนี่เป็นของคนร้าย
"องค์หญิงสามกับองค์หญิงเก้า มาร่วมดื่มชาพระชายาเอกเชิญนายหญิงที่เรือนบุปผา""ข้าได้ยินแล้ว""นายหญิงเจียวหยูห่วงใยนายหญิงยิ่งนัก นายหญิงพอจะได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับนายหญิงชายาเอกบ้างไหม"อ้ายฉิงยิ้มบางๆ"ไม่ต้องกังวลบอกนางว่าข้ากำลังแต่งหน้า ไปช้าหน่อยคงไม่เป็นไร""ให้เจียวหยูช่วย""ไม่ต้อง ข้าลงมือเองจนชินแล้วเจียวหยู เจ้าเองก็คงเคยได้ยินเรื่องของข้าหากใครเกี่ยวข้องกับข้ามักจะถูกดึงดูดโชคดีไปเสียสิ้น ข้าชอบเจ้ามากไม่อยากให้เจ้าต้องโชคร้าย”เจียวหยูยิ้มนึกสงสารอ้ายฉิง แต่งหน้าหรือ….เรือนบุปฝาในจวนอ๋อง"ฮะๆๆๆ แต่งหน้า อย่างนางอัปลักษณ์สิ้นดียังกล้าอ้างว่าแต่งหน้าความจริงไม่อยากพบพวกเราละสิไม่ว่า"องค์หญิงเก้าที่วัยไล่เลี่ยกับอ้ายฉิงยิ้มหยันก่อนจะพูดอย่างดูแคลน"น้องสาว เป็นหญิงมักจะห่วงหน้าตา สวยงามหรืออัปลักษณ์ก็ย่อมจะรักสวยรักงาม"องค์หญิงสามปรามน้องสาวร่วมบิดา"ลืมไปเสียสิ้น ข้าพูดจาแบบนี้เกรงว่านางจะร่ายมนตร์ดำนำความโชคร้ายมาให้ข้า555น่ากลัวจริงๆ "หลุนฟางหลินยกชาขึ้นจิบช้าๆ"นางแต่งเข้ามาเป็นชายารองเช่นไรจึงกล้าทำตามใจ หากนางทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรฟางหลินในฐานะชายาเอกดูแลทุกข์สุขในจ
"อย่าถือสาพวกนางก็เพียงกดผู้อื่นให้ต่ำกว่าตัวเอง เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดี""ขอบคุณองค์หญิงสาม""ท่านอา ยิ่งใหญ่เพียงนั้นเป็นธรรมดาที่จะต้องกลัวว่าจะมีคนครหาเรื่องเจ้า เช่นนั้นอดทนเอาหน่อยท่านอาไม่นานอาจยอมรับเจ้าได้"น้ำเสียงที่พูดถึงหวงเฉิงอู๋ชื่นชมและยกย่องอย่างที่สุด"ขอบคุณ องค์หญิงสาม"จิวอันยิ้ม"เจ้าเอาแต่ขอบคุณข้า คิดว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าคนอื่น ดูสิข้าอิจฉาเจ้าเกินใครที่ได้แต่งกับท่านอาที่ใครๆล้วนต่างชื่นชมว่าเขาองอาจห้าวหาญเป็นแม่ทัพไร้พ่ายคนชื่นชมทั้งแผ่นดิน""องค์หญิงเองก็น่าชื่นชม"อ้ายฉิงจับน้ำเสียงชื่อชมยกย่องของ จิวอันได้อย่างดี"ข้า แค่เพียงเห็นว่าเจ้ายอมให้พวกนางดูแคลน แค่เพียงใบหน้าของเจ้าต่างจากพวกนาง ทั้งที่เจ้าเองไม่เคยคิดร้ายกับพวกนางก่อน เอาอย่างนี้วันพรุ่งนี้ไปที่ตำหนักข้าเรามาคิดหาวิธีรักษาบาดแผลที่ใบหน้าเจ้าข้าจะให้หมอหลวงมาช่วยดูบาดแผลของเจ้า"อ้ายฉิงเลิกคิ้วสูง"องค์หญิงไม่ต้องลำบากอ้ายฉิงอยู่แบบนี้จนชินแล้ว""ไม่ได้สิ ต้องลองดูเสียหน่อยอีกอย่างเจ้าไม่เคยไปมาหาสู่พวกเราเสด็จแม่เองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเจ้า บ่นถึงเจ้าบ่อยๆ "อ้ายฉิงยิ้มกับมิตรภาพของจิวอัน
“อย่างไรเสียนางก็แต่งเข้าไปในจวนอ๋องของเจ้าแล้ว เฉิงอู๋สามีภรรยาถูกใจหรือไม่ก็แค่ทำหน้าที่กันไป ชายาเอกของเจ้าแต่งมาร่วมปียังไร้ทายาทสืบสกุล บางทีมีชายารองอีกคนอาจมีลูกสมใจ”พูดยิ้มๆ ไม่ได้มองว่าหวงเฉิงอู๋ มีสีหน้าเช่นไร“ข้าไม่กดดัน แต่ด้วยกิริยาของอ้ายฉิงแม้ใบหน้านางจะไม่เป็นที่ต้องตา แต่ทว่าท่าทีชดช้อยนั้นบางทีเจ้าลองมองนางเสียใหม่อาจ เปลี่ยนความคิดของเจ้าได้”หวงเฉิงอู๋ยังจำ น้ำเสียงหวานปานน้ำผึ้งป่าของอ้ายฉิงได้ดีหรือว่าสวรรค์เมตตาชดเชยให้นางกันแน่“ไม่รักนางข้าไม่ว่า แต่สามีภรรยาอย่างไรสักวันก็ต้องร่วมเตียง ฮองเฮาเป็นห่วงเรื่องนี้ยิ่ง เฉิงอู๋เจ้านับถือฮองเฮาดุจมารดาหากเรื่องนี้นางได้ยินเข้าก็คงไม่สบายใจเพราะนางยังคิดว่าเจ้ามิใช่คนที่มองใครแค่เพียงภายนอกเท่านั้น อีกอย่างฮองเฮาเอ็นดูหลานคนนี้ยิ่งด้วยขาดแม่และยังมีใบหน้าอัปลักษณ์ไร้คนคบหา พากันตัดสินนางแค่เพียงภายนอก ฮองเฮามักจะพูดเรื่องนี้กับข้าบ่อยๆ นางหวังว่าเจ้าจะแตกต่างจากคนอื่น”.ร่ายมาเสียยาว หวงเฉิงอู๋ถอนหายใจ“หากข้า ไม่ยอมร่วมแท่นนอนกับนางก็เท่ากับข้าผิดกับฮองเฮาใช่หรือไม่”น้ำเสียงยโสอย่างที่เคยทำ“เรื่องนี้ยากจะแยกแยะผิ
“ท่านพี่เกิดอะไรขึ้น ฟางหลิน ก้าวเข้ามาด้วยความตื่นตกใจ“พวกเจ้าโบยนางเสีย”ฟางหลินขมวดคิ้วจ้อง อ้ายฉิงที่ยืนนิ่งก้มหน้าไม่สบตาใคร“555 ดึกดื่นเพียงนี้ เฉิงอู๋อ๋องสั่งโบยชายารองทำให้จวนอ๋องครึกครื้น”เสียงทุ้มของ ปาหวางอ๋องดังขึ้นก่อนจะเห็นตัวด้วยซ้ำไปหวางปาหยาง ในอาภรณ์สะอาดตาเดินเอามือไพล่หลังเข้ามากลางวงพอดี เฉิงอู๋อ๋องยิ้มเหยียดที่ริมฝีปาก รู้ได้ทันทีว่าคนที่เข้ามาในจวนอ๋องและแอบอยู่ในห้องของ อ้ายฉิงคงไม่พ้นปาหยางอ๋องผู้นี้ ส่วนเรื่องที่เข้ามาทำไมเขาคงต้องสืบหาความจริงให้ได้“ปาหยางอ๋อง ดึกดื่นป่านนี้ยังเที่ยวแวะเวียนจวนผู้อื่นก็ยิ่งไม่ทำให้จวนข้าครึกครื้นหรือไร”“ข้าได้ยินเสียงอึกทึก จึงเข้ามา เรื่องนี้พรุ่งนี้คงเป็นเรื่องเล่าสนุกปาก สั่งโบยชายารอง คงไม่พ้นเรื่องขัดใจบนแท่นนอน”เฉิงอู๋อ๋องหน้าชา“เรื่องภายในครอบครัว ปาหยางอ๋องกล้ามาขัดจังหวะหรือไร”“เฉิงอู๋อ๋องลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นถึงหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรมีหน้าที่ตรวจสอบความผิดของคนในราชวงค์ ไม่ได้ไต่สวนแต่ยังโบยหากเรื่องนี้ถึงหูฮองเฮากับฮ่องเต้หรือไม่ก็นางทนความเจ็บปวดไม่ไหวป่วยไข้ล้มตาย ท่านจะแก้ตัวว่าอย่างไร”“เรื่องนี้เป
กลืนน้ำลายลงคอ ความจริงไม่อยากพูดถึงขั้นนั้นแต่ทว่าเมื่อเห็นท่าทีของปาหยางอ๋องทำให้ อยากพูดสิ่งที่ทำให้ตัวเองสาใจที่สุด“อัปลักษณ์เพียงภายนอก ภายในอาจงดงามหรือบางทีที่ข้ากับเฉิงอู๋อ๋องเห็นคงต่างออกไปข้าอาจเห็นนางใบหน้างดงามดังเทพีสวรรค์มาก่อน แต่เฉิงอู๋อ๋องกลับมองเห็นชายารองแค่เพียงหญิงซึ่งมีใบหน้าไม่ควรมอง”นับว่าปาหยางอ๋องรักษาน้ำใจอ้ายฉิงเลี่ยงที่จะใช้คำว่าอัปลักษณ์ เพื่อไม่ให้อ้ายฉิงรู้สึกแย่ไปกว่านี้“เจียวหยูเข้าไปด้านในกันเถิด”อ้ายฉิง ก้าวนำหน้าเจียวหยู ปาหวางอ๋องชะโงกหน้า“พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก หวังว่าเจ้าจะยินดีต้อนรับข้า”อ้ายฉิงไม่ตอบ ไม่ได้มีท่าทีว่ารู้สึกเช่นไร แต่คนที่รู้สึกว่าอารมณ์ขุ่นมัวคือหวงเฉิงอู๋เมื่อเห็นว่าปาหวางอ๋องเดินเอามือไพล่หลังอย่างคนอารมณ์ดี“ท่านพี่ เมามายเพียงนี้กลับไปที่ห้องเถิดฟางหลินให้คนเตรียมน้ำอุ่นให้”เฉิงอู๋อ๋องไม่พูดว่าอย่างไรสาวเท้าก้าวเดิน กลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว ฟางหลินส่ายหน้าไปมา“พวกเจ้าไปสืบดูว่าท่านอ๋องไม่พอใจอะไรชายารอง ถึงกับสั่งให้โบยนางแล้ว ปาหวางอ๋องมาเกี่ยวอะไรด้วย”ปาหวางอ๋องจ้องมองหยกเนื้อดีที่เขาแอบหยิบมาจากข้างกายของอ้ายฉิงคุ
"เจ้าพูดถึงข้าว่าอย่างไรกัน"เจียวหยูย่อกายก้าวขาออกห้องไป เฉิงอู๋อ๋องย่างสามขุมเข้าหาอ้ายฉิงกรุ่นกลิ่นบุปผาในอ่างน้ำอุ่นที่เพิ่งแช่หอมละมุน ใบหน้าสะอาดสะอ้านหล่อเหลาไร้ที่ติ ผมยาวสลวยกับปล่อยให้ร่วงหลุดลงมาข้างใบหน้าคมนั้นน่ามองเหลือเกิน"ขะ ข้า"ถอยไปด้วยหาทางแก้ตัวไปด้วย ไม่เคยต้องมือชายไม่เคยเข้าใกล้ใครจึงเขินอายเพียงนี้ยกมือขึ้นกางกั้นไว้ทั้งซ้ายและขวาอ้ายฉิงตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับกายกลิ่นหอมอ่อน ของบุรุษกับใบหน้าที่เกือบจะชิดติดกันอ้ายฉิงก้มหน้าหลบตา"ฮึฮึ คิดว่าข้าพิศวาสเจ้านักหรือไร ก็เพียงแค่ไม่อยากให้ใครครหาเรื่องที่เจ้าคบชู้สู่ชายพาชู้รักเข้ามาสวมเขาให้ข้าถึงในจวน รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น แล้วจะบอกไว้ก่อนที่ไม่ลงโทษเจ้าเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเพราะปาหวางอ๋อง เจ้าอย่าได้ใจว่าเขาปกป้องเจ้าได้ ข้ากับปาหวางอ๋องแต่ไหนแต่ไร ล้วนขัดแย้งกันมาตลอดที่ข้าทำแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะเขา เขาจะได้เลิกยุ่งเกี่ยวกับชายรองข้าเสียที""นั่นก็แล้วแต่ท่านอ๋อง อ้ายฉิงบอกแล้วว่าอ้ายฉิงแต่งเป็นชายารองจะตายหรืออยู่ก็เป็นชายารอง""ช่างเข้าใจพูดให้ข้าเมตตา น้ำเสียงอ่อนหวานไพเราะอย่างนี้อย่าคิดว่าข้าจะหลงใหลได้ปล
"ท่านพี่ ท่านจะทำอะไรนาง"เป็นฟางหลินที่ถลาตามเข้าไปในห้องเหวี้ยงร่างเล็กลงบนแท่นนอน"ไม่ใช่เรื่องของเจ้าออกไป"ส่งเสียงไล่ฟางหลินที่ยืนชะงักอยู่ที่หน้าประตูห้องไม่กล้าไปไหนสิบแปดปีก่อน"ฝ่าบาท ฝ่าบาท "ร่างเล็กของอ้ายจิงถอยร่นจนชิดข้างฝา ใบหน้าหล่อเหลาของหวงฉีจิ้งขยับเข้าหา"อ้าย..จิงเจ้าไม่มีใจให้ข้าหรือไร เราสองคนไม่ได้รักกันหรือไร เจ้าบอกข้าทีว่าเรารักกัน""ฝ่าบาทแต่ อ้ายหลิวนางเหมาะสมกับฝ่าบาททุกอย่างอ้ายจิงแค่เพียงลูกอนุต่ำต้อยไม่อาจส่งเสริมฐานะของฝ่าบาทได้""อ้ายจิงข้าจนใจ ไม่อยากให้เจ้ารั้งตำแหน่งสนมวังหลวงวุ่นวายแกร่งแย่งเจ้าเป็นสนมอ้ายหลิวจะต้องหาทางกำจัดเจ้า เราสองคนไร้วาสนาเพียงนี้""ฝ่าบาทเช่นนั้นทางเดียวที่ทำได้คือตัดใจเสีย""เหว่ยจื่อหยวนจะปกป้องเจ้า ข้ากับเขาตายแทนกันได้ เจ้าอยู่กับเขา ข้าแวะเวียนหาเจ้าเรื่องความสัมพันธ์สองเราจึงเป็นความลับ""อ้ายจิงละอายใจยิ่งนัก""อ้ายจิงเราสองคนรักกันมาก่อนก่อน ที่บิดาเจ้าจะบีบบังคับให้ข้าแต่งอ้ายหลิว""ฝ่าบาท เราสองคนควรตัดใจเสีย""ไม่ข้ายอมตายหากตะต้องตัดใจ อ้ายจิงอดทน อดทนรอข้าจะรีบสะสางเรื่องนี้ รอจนกว่าทุกอย่างเรียบร้อย จะยกย่อ
"ท่านอ๋อง มีอารมณ์สุนทรีย์ร่ายรำกระบี่ในยามว่าง"ตงเกาผู้มีท่าทีองอาจก้าวขาออกมาจากพุ่มไม้"ตงเกา มาได้อย่างไรหายไปนานเหลือเกินจนข้าคิดว่า ตงเกาหลงเพลินจนลืมวังหลวง"สีหน้าแสดงความดีใจและตื่นเต้นที่อยู่ๆ สหายและองครักษ์ที่รู้ใจที่สุดกลับมา"ท่านอ๋องไม่มาก็คงไม่ได้ ตงเกาหายไปเสียขวบปี ได้ยินข่าวดีเรื่องท่านอ๋องแต่งชายารองคนใหม่ อยากจะแวะมาดูว่าท่านอ๋องมีความสุขเพียงใด"ชายารองอีกแล้ว ชายารองทำไมต้องให้คิดถึงนางทำไมใครๆ ก็ต้องพูดถึงนาง ให้เขาหงุดหงิดด้วย"อย่าเอ่ยถึงนางจะได้ไหม"ตงเกาเลิกคิ้ว"อย่าบอกนะว่า มีปัญหากลับชายารองทั้งๆ ที่เพิ่งจะแต่งกัน""เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่""เรื่องใดกัน หากเป็นเริ่องที่ใครๆ ต่างก็พูดถึง ชายา...อัปลักษณ์ของท่านอ๋องตงเกาไม่เห็นว่าจะต้องรู้ ในเมื่อ ...ไหนๆ ก็แต่งกันแล้ว จะงดงามหรือไม่ก็เป็นชายาอยู่ดีจะทิ้งขว้างเพราะหน้าตาไม่งดงามก็ใช่ที่"ตงเกากลับคิดต่างจากเขา"หากเจ้าพบนางจะรู้ว่านาง ..เอ่อ...ข้าไม่รู้สิข้า เจ้าคิดว่าข้าควรทำตัวเช่นไรกับชายารองผู้นั้นดี” ตงเกาอมยิ้ม พยัคฆ์ร้ายกลายเป็นแมวน้อยแสนเชื่องไปเสียแล้ว“ข้าน้อยชักอยากจะเห็นนายหญิ