แชร์

โลกใบใหม่ 2

ผู้เขียน: เสี่ยวหลันฮวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 19:15:12

ณ แคว้นหลิวอวิ๋น จวนเจ้าเมืองตระกูลหลี่

ยามจื่อ*เรือนชิงหวา

'อึก'

หายใจไม่ออก หญิงสาวดิ้นพล่านพยายามหลุดออกจากมือเรียวที่กำอยู่รอบคอของนาง ปากเล็กอ้ากว้างเพื่อสูดอากาศหายใจ แต่ก็ไม่สำเร็จ สองมือน้อยๆ ยกขึ้นผลักสตรีที่อยู่ด้านบนลำตัวอย่างสุดแรง นางพยายามส่งสายตาเว้าวอน หวาดกลัว ท้อแท้ และสิ้นหวัง แต่ที่มากกว่านั้นคือความไม่เข้าใจ เหตุใดสตรีนางนี้ถึงต้องการให้นางตาย หัวใจดวงเล็กๆ เจ็บแปลบเหลือแสน พวงแก้มทั้งสองข้างเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา

"นางสารเลว ทำไมไม่ตายๆ ไปสักที เลี้ยงเจ้าไปก็เสียข้าวสุก แพศยาไร้ค่าอย่างเจ้า ควรจะตายๆ ไปซะ! " เสียงแหลมสูงดังขึ้นราวกับคนไร้สติอยู่ข้างหูของสาวน้อย ใบหน้าที่เคยอ่อนหวาน เคยมองนางด้วยความอ่อนโยน ยามนี้กลับบิดเบี้ยวจนไม่เหลือเค้าความงามอีกต่อไป

หลี่หลิงเฟิ่งเด็กสาวอายุราวๆ สิบสองสิบสามปีไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน ก่อนหน้านี้เด็กสาวก็ป่วยติดเตียงมาสามวันเนื่องจากถูกผลักตกน้ำ กำลังอันน้อยนิดไหนเลยอาจหาญสู้กับหญิงผู้มีเรี่่ยวแรงเต็มเปี่ยมนี้ได้ นางได้แต่หวังว่าเสี่ยวเซียงสาวใช้คนสนิทจะเข้ามาพบและดึงสตรีเสียสติผู้นี้ออกไปเสีย

"ฮ่าๆๆ เจ้าควรจะไปอยู่ในปรโลกตั้งนานแล้ว ข้าทนเลี้ยงดูเจ้ามาเพื่อหวังพึ่งพา แต่เจ้ามันก็แค่สวะที่ถูกทิ้ง ฮ่าๆๆๆๆ " เสียงหัวเราะของแม่สามราวกับคนบ้าและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ใช่แล้ว สตรีคลุ้มคลั่งคนนี้คืออนุสาม มารดาแท้ๆ ของนางนั่นเอง มารดาที่กำลังสังหารบุตรสาวในอุทร

'ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงฆ่าข้า ท่านเกลียดข้านักหรือ'นางอยากถามออกไปเหลือเกิน แต่นางไม่สามารถพูดออกไปได้ ได้แต่มองมารดาอย่างท้อแท้

'ทรมานเหลือเกิน ความหวังของข้าไม่คงเหลืออีกแล้ว' ดวงตาบวมเป่งเหลือกตามองมุ้งเก่าสกปรก รอบๆมุ้งมีรูที่ขาดผ่านรอยปะชุนนับครั้งไม่ถ้วนเหล่านั้นก็ให้ขมขื่นในใจ ชีวิตคุณหนูห้าในจวนเจ้าเมืองย่ำแย่ยิ่งกว่าสาวใช้ส่วนตัวของพี่ใหญ่เสียอีก

ผู้คนในจวนนี้มีใครบ้างไม่อยากให้นางตาย แม้กระทั่งผู้ให้กำเนิดที่นางหลงคิดไปว่ารักนางยังต้องการที่จะสังหารนาง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนางไร้พลังยุทธ์ เป็นตัวไร้ค่าของตระกูล เหมือนขยะที่รอวันย่อยสลาย หลี่หลิงเฟิ่งน้ำตารินไหลไม่ขาดสาย ไม่นานร่างกายของนางก็กระตุกไม่หยุด หนังตาหนักอึ้งค่อยๆ ปิดลงช้าๆ 

"เจ้าไม่ต้องห่วงไป เจ้าล่วงหน้าไปก่อน ข้าจะไม่รอให้เจ้าต้องอยู่อย่างเดียวดายในปรโลกแน่" น้ำตามากมายหยดลงบนใบหน้าหลี่หลิงเฟิ่ง ทว่ามือที่กำรอบคอของนางไม่ได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย

'หากข้าตาย ทุกคนคงจะสมปรารถนา ตัวขยะอย่างข้าอยู่ไปก็มีแต่ทำให้ตระกูลต้องอับอาย' เด็กสาวไม่รับรู้สิ่งใดอีกต่อไปแล้ว นางฝืนไม่ไหวแล้ว สติสุดท้ายดับวูบสู่ความเวิ้งว้างอันมืดมิด

" เฟิ่งเอ๋อร่์ ฮึก ไม่ต้องกลัวนะลูก อีกไม่นานแม่จะตามเจ้าไปแล้ว" เสียงร่ำไห้ของอนุสามครวญครางอย่างสิ้นหวัง นางเดินไปจับเชือกใต้ขื่อคานใกล้ปลายเตียง เอี้ยวศรีษะหันกลับมามองเด็กสาวผอมบางที่นอนอยู่บนเตียงเป็นครั้งสุดท้าย รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นอีกครั้ง สองขาก้าวขึ้นบนตั่งช้าๆ มือเรียวกำเชือกไว้แน่น สองตาพลันว่างเปล่าราวกับปล่อยวางทุกอย่าง ขาเตะตั่งให้ล้มลงเบาๆ ร่างของสตรีที่่เคยงดงามดิ้นอยู่สองสามครั้งก่อนจะแน่นิ่งไป

'ข้าขอโทษ'

เปรี้ยง!

ท้องฟ้ามืดครึ้มยามราตรี มองไม่เห็นดวงดาว หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มมือข้างหนึ่งถือโคมไฟ อีกข้างถือถังน้ำ สองเท้าเร่งรีบกลับเรือนด้วยกลัวฝนจะตกลงมา

"เสี่ยวเซียงนั่นเจ้ากำลังจะไปไหน" เสียงนุ่มนวลด้านหลังดังขึ้นแผ่วเบา เสี่ยงเซียงหันไปมองพบว่าเป็นหญิงหน้าตาสะอาดสะอ้านนางหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้

"พี่จิ่นอวี้ ข้ามาตักน้ำไปเช็ดตัวให้คุณหนูห้า ท่านมีธุระเร่งด่วนอะไรหรือ" สาวใช้นามจิ่นอวี้ผู้นี้เป็นสาวใช้ข้างกายอนุสาม เสี่ยวเซียงมองนางยิ้มๆ หยุดยืนรอนางให้เดินไปพร้อมกัน ถ้านางเดาไม่ผิดฮูหยินต้องอยู่ที่เรือนคุณหนูห้าแน่ๆ

"ข้าตามไปรับใช้ฮูหยิน เจ้าไปพร้อมกับข้าเลยแล้วกัน" จิ่นอวี้ปรายมองเสี่ยงเซียงอย่างเฉยชา เดินนำหน้ามุ่งไปเรือนชิงหวา

"ฮูหยิน คุณหนูเจ้าคะ บ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ เมื่อสักครู่บ่าวไปห้องครัวได้หมั่นโถวมาสองลูก คุณหนูรองท้องไปก่อนนะเจ้าคะ" เสี่ยวเซียงเดินขึ้นไปบนเรือนพร้อมผลักประตูออก หยิบห่อหมั่นโถวออกมาจากแขนเสื้อ ทันทีที่หันหน้าไปมองในห้องนอน ข้าวของที่อยู่ในมือทั้งสองข้างก็หล่นลงบนพื้นกระจัดกระจาย หน้าตาตื่นตระหนก ร่างกายอ่อนแรงทรุดลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

กรี๊ดดดดด

"ฮูหยิน! " จิ่นอวี้ที่ยืนนิ่งค้างอยู่ด้านนอกประตูรีบเร่งเข้าไปหาเจ้านาย พลางหันหน้าไปมองเสี่ยวเซียงอย่างเกรี้ยวกราด

"เร็วเข้า รีบดึงฮูหยินลงมา! " เสียงตะโกนที่ดังลั่นของสาวใช้ทั้งสอง พลันปลุกให้ผู้คนในจวนสะดุ้งตื่น ทั้งหมดรีบเร่งมาทางเรือนชิงหวาอย่างตื่นตกใจ เสี่ยวเซียงที่โดนจิ่นอวี้ตะคอกใส่พลันได้สติ สองขาน้อยๆ ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเดินไปเบื้องหน้าอนุสามอย่างหวาดกลัว ขาทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด มือยื่นออกไปจับตัวเย็นเฉียบของอนุสาม ทั้งสองค่อยๆ ดึงร่างที่ตัวเริ่มเย็นของผู้เป็นนายลงมา

"ฮือ ฮูหยิน ท่านไม่น่าด่วนจากไปเช่นนี้เลย ไยท่านใจร้ายทิ้งคุณหนูกับบ่าวไว้เพียงลำพัง" จิ่นอวี้ร่ำไห้ราวจะขาดใจข้างศพเจ้านาย

"คุณหนู คุณหนูเล่า" เสี่ยวเซียงพลันได้สติรีบวิ่งตรงไปที่เตียงนอน ฉับพลันเสียงร้องไห้ของนางก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

"ฮือๆๆๆ คุณหนู...ฟื้นสิเจ้าคะ...อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว...ข้ากลัว...ฮึก" เสียงร้องไห้คร่ำครวญของสาวใช้ดังอยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าเด็กสาวบนเตียงจะตื่นขึ้นมา สาวใช้ครวญครางจนลำคอแหบแห้ง มือเล็กๆ หยาบกระด้างเขย่าตัวนางไปมาไม่หยุด แรงเขย่าของเสี่ยวเซียงหนักหน่วงจนทำให้เธอเวียนหัว หลี่หลิงเฟิ่งขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด ค่อยๆเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้ง จนดวงตาสองคู่สบประสานกัน

"คุณ...คุณหนู...คุณหนูฟื้นแล้ว ฮือๆๆๆๆๆ " เสี่ยวเซียงที่กำลังร่ำไห้พลันชะงักเงยหน้าขึ้นสบตากับหลี่หลิงเฟิ่ง เมื่อเห็นว่าสาวน้อยฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ทั้งตกใจระคนดีใจ ร้องไห้หนักกว่าเดิม

"เงียบ! " หลี่หลิงเฟิ่งตลาดเสียงดัง แต่เสียงที่เปล่งออกไปนั้นแหบแห้ง ซ้ำร้ายยังเบาเหมือนยุง แต่ถึงกระนั้นก็มีรังสีเย็นชาแผ่ออกมา ทำให้รอบด้านรู้สึกหนาวยะเยือก เสี่ยวเซียงรีบหุบปากฉับก้มหน้ากลั้นเสียงสะอื้นทันควัน

หลี่หลิงเฟิ่งมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง เห็นข้าวของเก่าๆ กระจัดกระจายอยู่เกลื่อนพื้นเต็มไปหมด ราวกับบุคคลในห้องได้ผ่านการต่อสู้กันมา มุ้งหมอนโทรมๆ เสื้อผ้าสีหม่นก่ำคร่ำครึไม่รู้ว่าผ่านการใช้งานมากี่ปีแล้ว ทั่วทั้งห้องเหมือนสิ่งที่ปล่อยถูกทิ้งร้างมาแล้วหลายสิบปี ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไม่มีฝุ่นและหยากไย่ เธอคงคิดว่าอยู่ในบ้านร้าง สุดท้ายสายตาของนางมาตกอยู่ที่หญิงสาวเจ้าของเสียงที่น่ารำคาญและแรงโคนั่น นางเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักใช้ได้คนหนึ่ง อายุราวสิบสามสิบสี่ แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ สิ่งที่ทำให้เธอสับสนงุนงงคือคนพวกนี้เป็นใคร และ...

เธออยู่ที่ไหน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาอสรพิษ   โลกใบใหม่ 3

    อาณาจักรหลิวเฟิง แผ่นดินนี้ไม่ใช่ดินแดนที่หลี่หลิงเฟิ่งรู้จัก ที่นี่ไม่เคยปรากฎขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์มาก่อน ถูกครอบครองด้วยผู้ฝึกพลังยุทธ์อาณาจักรหลิวเฟิงแบ่งออกเป็นสี่แคว้นใหญ่ แคว้นตงเยว่ แคว้นจวิน แคว้นหลิวอวิ๋น และแคว้นเหลียน แต่ละแคว้นมีเมืองในเขตปกครองที่ยอมสวามิภักดิ์ต่อแคว้นใหญ่อีกแปดเมือง โดยชื่อเมืองจะตั้งตามจวนตระกูลของเจ้าเมือง ซึ่งตระกูลหลี่เป็นตระกูลเจ้าเมืองหลี่และยังเป็นเมืองในปกครองของแคว้นหลิวอวิ๋น แผ่นดินของอาณาจักรหลิวเฟิงมีรูปลักษณ์เป็นวงกลม ตำแหน่งเขตแดนทั้งสี่แคว้นจะกั้นด้วยป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรดุร้าย ใจกลางอาณาจักรปกคลุมไปด้วยป่าทมิฬกาลและมีเทือกเขาลับแลที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรหายากและอันตราย เทือกเขาแห่งนี้ยังไม่เคยมีผู้ใดเหยียบย่างเข้าไปแล้วได้ออกมาเลยสักคน ล้วนแต่สังเวยชีวิตที่ป่าแห่งนั้นทั้งสิ้นยามลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกแห่งใหม่ครั้งแรกหลี่หลิงเฟิ่งอยู่ในจวนเจ้าเมือง เพียงแต่เช้าวันรุ่งขึ้นหลี่หลิงเฟิ่งถูกฮูหยินใหญ่ขับไล่ออกมาจากจวนให้มาอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ ทางฝั่งตะวันออกใกล้กับป่าอัศดงซึ่งคั่นอยู่ระหว่างกลางแคว้นหลิวอวิ๋นและแคว้นจวิน เล่าลือกันว่าป่าแห่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 1

    แสงจากดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว บริเวณรอบด้านปกคลุมไปด้วยความมืดมิด คล้ายว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเท่านั้น แต่ก็ราวกับผ่านไปเนิ่นนานเช่นเดียวกัน เรื่องทั้งหมดคล้ายดั่งความฝันตื่นหนึ่งของนาง ถ้าหากนางไม่ได้ยินเสียงอ้อแอ้ที่ดังอยู่ในหัวปลุกให้นางตื่นขึ้นมาตอนนี้หลี่หลิงเฟิ่งค่อยๆ ลืมตาช้าๆ แวบแรกที่เห็นก็คือสถานที่อันเวิ้งว้างและแห้งแล้งเหมือนทะเลทราย แต่ว่ามีขนาดเล็กประมาณห้องเก็บฟืนในเรือนของนาง ใกล้ๆ นางมีต้นไม้เหี่ยวเฉารอวันตายอยู่ต้นหนึ่งข้างโขดหิน ถัดไปอีกไม่ไกลมีบ่อน้ำ เอ่อ...ไม่ควรเรียกว่าบ่อ เรียกมันว่าแอ่งจะเหมาะสมกว่านี่...นี่คือก้นหุบเหวอย่างนั้นหรือ ช่างแตกต่างจากที่นางคิดไว้โดยสิ้นเชิง หรือว่าตอนนี้นางเป็นวิญญาณอยู่ในปรโลกกันนางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายนางโดนวิหคเพลิงโจมตีที่หน้าอก แต่ตอนนี้นอกจากไม่เจ็บปวดแล้ว บาดแผลฉกรรจ์ก็หายไปด้วย ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าไม่ติดตรงที่นางเห็นรอยเสื้อขาดตรงอกและรอยเลือดที่เปื้อนอยู่ตามตัว“นายท่าน ในที่สุดท่านก็ฟื้นสักที ที่นี่ไม่ใช่ทะเลทรายและท่านยังไม่ตาย จิตของท่านแค่เข้ามาในมิติ ภายนอกจะดูเหมือนว่าท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 2

    วันเวลาไม่คอยท่า ในเมื่อมีหนทางเปิดให้นางเดินแล้วมีหรือคนอย่างนางจะไม่เลือกเดิน หลี่หลิงเฟิ่งกัดผลจิตวิญญาณพร้อมกับวักน้ำทิพย์ในแอ่งขึ้นมาดื่มหนึ่งอึกจู่ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายก็ถาโถมเข้ามาใส่ร่างของนางราวกับมีดนับพันเล่มเฉือนเนื้อนางออกเป็นชิ้นๆ กระดูกของนางราวกับถูกค้อนทุบจนแหลกละเอียด นอกจากความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านี้แล้ว นางยังรู้สึกถึงพลังรุนแรงสองขุมต้องการจะทะลักทะลวงออกมาจากอก ทั้งร้อนรุ่มทั้งเย็นสบายช่างทุกข์ทรมานจริงหนอ นางอยากละทิ้งความตั้งใจที่มีแต่เดิม แต่ก็รู้ถึงผลแห่งความล้มเหลวว่าจะเป็นอย่างไรหลี่หลิงเฟิ่งรู้ดี ถ้าพลาดโอกาสในครั้งนี้นางก็คงเป็นได้แค่เศษสวะไปชั่วชีวิต ในเมื่อนางเลือกแล้วว่าจะไม่ยอมเป็นตัวไร้ค่าอีกต่อไป ก็ได้แต่กัดฟันทนสู้กับมัน“จะอย่างไรข้าก็ต้องทน เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ อยากจะไปจะอยู่ที่ใดก็ไม่มีใครขวางข้าได้ทั้งนั้น” หลี่หลิงเฟิ่งตัดสินใจนั่งสมาธิทันที เหงื่อกาฬผุดขึ้นทั่วทั้งร่าง ทั้งยังรู้สึกเหมือนธาตุไฟเข้าแทรก พลังสองขุมนั้นกำลังปะทะกันอย่างดุเดือดภายในกายของนาง นิ้วทั้งสิบจิกลงบนฝ่ามือจนเลือดซิบ นางพยายามประคองสติตนเอง กดขุมพลังที่ร้อนร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 3

    ผลจากการปลดผนึกและเลื่อนระดับขั้นพลังยุทธ์ ทำให้ร่างกายของนางมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ความรู้สึกเมื่อยล้าอ่อนแรงง่ายจากการขาดสารอาหารมานานปี กลับไม่ปรากฏให้เห็นอีกแล้ว ตลอดทั้งร่างเต็มแน่นไปด้วยความมีชีวิตชีวา ผิวพรรณจากที่เคยซีดหมองกลับมีน้ำมีนวลขึ้นมาทันตาแต่เดิมใบหน้าของเด็กน้อยมีความคล้ายคลึงกับใบหน้าของนางในชาติก่อนอยู่ประมาณเจ็ดแปดส่วน แต่ตอนนี้นางค้นพบว่าใบหน้านี้ไม่เพียงคล้ายนางเต็มสิบส่วนแต่ยังอ่อนเยาว์เปร่งปรั่งนวลเนียนกว่าเดิมหลายเท่าหลี่หลิงเฟิ่งกลับเข้าไปสำรวจในมิติอีกครั้ง นางสัมผัสได้ว่ามิติของนางมีการเปลี่ยนแปลงทันใดนั้นมุมปากของนางยกยิ้มกว้าง ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์ เป็นดังคาด มิติมายาสัมพันธ์กับความแข็งแกร่งของผู้ครอบครอง พื้นที่จากเดิมที่แห้งแล้งเหมือนทะเลทรายค่อยๆ ฟื้นฟู ถึงจะแค่นิดเดียวแต่ก็เพียงพอให้นางกู่ร้องในใจได้แล้วไหนจะพื้นที่ที่ขยายใหญ่ขึ้นอีกล่ะการค้นพบครั้งนี้ทำเอาหลี่หลิงเฟิ่งแทบคลั่ง“เพราะมันดีแบบนี้สินะ ผู้ฝึกพลังยุทธ์ธาตุมิติมายาถึงได้มีน้อยยิ่งกว่าขนนก ไม่รู้ว่าเพราะว่าหายากอยู่แล้ว หรือถูกตามไล่ล่าสังหารเพราะพรสวรรค์ที่โดดเด่นกันแน่” หลี่หลิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 4

    ด้วยความเมื่อยล้าจากการอยู่ในป่ามาหลายวันทำให้นางนอนหลับเป็นตายไปหนึ่งวันเต็ม เนื่องจากอาการแสบท้องเพราะอดอาหารปลุกให้นางตื่นขึ้นมา เวลาที่หลี่หลิงเฟิ่งลุกนั่งจากเตียงก็เหลือบเห็นพวกเสี่ยวเซียงทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่ข้างประตู หญิงสาวจึงเอ่ยเรียกอย่างเนิบๆ“เสี่ยวเซียง เสี่ยวเฉิน” เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเจ้านาย ร่ายกายทั้งสองก็สะดุ้งทันที“คุณหนู ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องอย่างหวาดๆ“พวกเจ้ากลัวอะไรกัน ข้าได้ดุด่าพวกเจ้าซักคำหรือไม่” หลี่หลิงเฟิ่งคร้านจะสนใจกับนิสัยพวกนาง“คุณหนูเจ้าขา บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่คิดว่าจะท่านออกจากป่าอัศดงมาครบสามสิบสอง ที่นั่นอันตรายมากนะเจ้าคะ มีสัตว์อสูรดุร้ายเต็มไปหมด” เสี่ยวเซียงคุกเข่าคลานเข้ามาจับขาหลี่หลิงเฟิ่งแน่น ก้มหน้าหงอยๆ ยอมรับความผิด“เจ้าคิดว่าข้าจะออกมาไม่ได้ซะมากกว่า ข้าก็เดินออกมาน่ะสิ” หลี่หลิงเฟิงประหลักปะเหลือกใส่เสี่ยวเซียงมุมปากเสี่ยวเฉินกระตุกครั้งหนึ่ง ทว่ายังคงยืนเงียบไม่กล้าขยับ“เจ้าจะถามอะไรนักหนา ข้าหิวแล้ว มีอะไรให้กินหรือไม่” มือขวานางเลื่อนลงไปลูบท้องที่ร้องประท้วงหาอาหารอยู่ตอนนี้“รอสักครู่เจ้าค่ะ ข้าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   บุรุษปริศนา 1

    วันเวลาแห่งความสงบสุขล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนมาถึงคืนอันเงียบสงัดคืนหนึ่งในขณะที่ทุกคนหลับไหลกันหมดแล้ว แต่ยังมีบ้านหลังหนึ่งที่ตะเกียงยังคงสว่างไสว ภายในห้องมีคนนั่งอยู่เต็มไปหมด บ้างมีสีหน้าเคร่งเครียด บ้างหน้านิ่วคิ้วขมวด บ้างตื่นเต้นดีใจ หรือแม้กระทั่งรังเกียจเดียดฉันท์ ราวกับกำลังเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเกิดอะไรขึ้นน่ะหรือ“คุณหนู ท่านควรชี้แจงให้ชัดเจนนะขอรับ อย่างนี้ข้าจะบอกนายท่านว่าอย่างไร” ชายอาภรณ์สีเทาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเสี่ยวเซียงหันไปกล่าวกับหลี่หลิงเฟิ่งที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้สลักตัวยาว ชายหนุ่มแย้มยิ้มจนแข็งเกร็งไปทั่วหน้า ในใจคิดอย่างขมขื่นที่ตนต้องมารับหน้าที่นี้ หากแต่ก็ไม่กล้าเผยสีหน้าไม่พอใจอย่างไรก็ดี เขาค่อนข้างแปลกตาและไม่คุ้นชินกับคุณหนูห้าผู้มีชื่อเสียไปทั่วแว่นแคว้นนางนี้สักเท่าไหร่ หญิงสาวไม่ได้อ่อนปวกเปียกเหมือนพลับนิ่มดังเช่นกาลก่อนอีกแล้ว นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงความน่าเกรงขามขึ้นหลายส่วนอีกด้วยบุรุษชุดเทาปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้าเล็กน้อย อาจเป็นเขาที่คิดมากไปเอง จะเป็นไปได้อย่างไรที่หลี่หลิงเฟิ่งจะให้ความรู้สึกที่แค่สบสายตาก็เส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   บุรุษปริศนา 2

    เช้าตรู่วันถัดมา หลี่หลิงเฟิ่งมาถึงป่าอัศดงก่อนเวลาหนึ่งชั่วยาม ตั้งแต่นางค้นพบสมุนไพรล้ำค่าในป่าลึก กิจวัตรประจำวันของพวกนางจึงได้เพิ่มการหาสมุนไพรในป่าแห่งนี้ไปขาย โดยปกติแล้วนางมักจะพาเสี่ยวเซียงมาด้วย เพื่อฝึกให้สาวใช้ได้ปรับตัวและคุ้นชินกับการเอาชีวิตรอดต่ออันตรายเล็กๆ น้อยๆแรกเริ่มเสี่ยวเซียงก็หวาดกลัวจนตัวสั่น แต่ก็ไม่อยากให้เจ้านายเข้ามาตามลำพัง อย่างไรก็ตามความเป็นความตายของนางก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของหลี่หลิงเฟิ่ง จึงได้ทำใจกล้าไปกับหลี่หลิงเฟิ่งทุกครั้ง นานวันเข้าจากคนที่รู้สึกหวาดกลัวกลับกลายเป็นรอคอยที่จะผจญภัยกับบทเรียนใหม่ๆ ทุกวัน การเปลี่ยนแปลงของสาวใช้ตัวน้อยนางนี้ทำเอาหลี่หลิงเฟิ่งพึงพอใจอย่างมากเพราะมีเวลาจำกัด ไหนจะเรื่องที่ต้องแอบหลบสายตาสอดส่องจากอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญพวกนั้น วันเวลาที่นางสามารถกอบโกยสมุนไพรก็น้อยลงไปทุกทีวันนี้จึงแตกต่างออกไปเล็กน้อย นางละทิ้งการฝึกฝนเสี่ยวเซียง เลือกพาเสี่ยวเฉินติดตามมาแทน นอกจากจะทำให้นางกังวลเรื่องความปลอดภัยน้อยลง ก็ยังสามารถหาสมุนไพรได้มากกว่าทุกวัน ความรู้ตลอดหลายเดือนที่นางพร่ำสอนก็ไม่ได้เสียเปล่าแต่อย่างใดตั้งแต่นางต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   บุรุษปริศนา 3

    หลี่หลิงเฟิ่งไม่คิดจะซ่อนตัวอีกต่อไป นางฟาดฝ่ามือลงบนกลางหลังเสี่ยวเฉินด้วยแรงทั้งหมดที่มีเพื่อส่งเสี่ยวเฉินให้ไปไกลมากที่สุด ส่วนนางรุดเข้าไปหาชายชุดดำข้างหน้า ขณะที่นางเอี้ยวตัวหันไปผลักเสี่ยวเฉินนั้นมืออีกข้างที่ว่างอยู่ล้วงเข้าไปหยิบผงสีขาวชนิดหนึ่งในมิติออกมา“คุณหนู!” เสี่ยวเฉินที่โดนฝ่ามือปะทะจากผู้ฝึกยุทธ์ขั้นกำเนิดใหม่ระดับกลางลอยละลิ่วไปหลายจั้ง ดวงตาฉายแววตื่นตระหนก เมื่อร่วงลงบนพื้นได้ก็ทำท่าจะวิ่งกลับมาหาหลี่หลิงเฟิ่งอีกครั้ง‘กลับไป! รีบไปตามอู๋เหยียนมาที่นี่ เร็ว! ยิ่งเจ้าอยู่จะยิ่งทำให้ข้าห่วงหน้าพะวงหลัง ไปซะ’ หลี่หลิงเฟิ่งเพ่งกระแสจิตอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย นางไม่แน่ใจว่าเสี่ยวเฉินจะได้ยินที่นางพูดหรือไม่ นางเคยอ่านเจอในตำราฝึกพลังธาตุ ทว่าก็ยังไม่เคยลองใช้มาก่อนอย่างไรก็ดี นางไม่สามารถสัมผัสกลิ่นอายเสี่ยวเฉินได้อีก หลี่หลิงเฟิ่งถอนหายใจอย่างโล่งอก ยังดีที่กระแสจิตของนางใช้ได้ อย่างน้อยเสี่ยวเฉินก็ไม่ได้วิ่งกลับเข้ามาหานางหลี่หลิงเฟิ่งสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เรียกความมั่นใจของตนกลับมา มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ ด้วยพละกำลังของนางในตอนนี้ คิดจะใช้พลังย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • ชายาอสรพิษ   ความลับของสำนัก

    พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานมากแล้ว ภาพยามค่ำคืนควรปรากฏอยู่ในสายตา ทว่าที่แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนสว่างนวลราวแดดยามเช้า ลมหนาวเย็นยะเยือกถึงกระดูกพัดผ่านตัวนางที่นอนเหยียดแขนขาบนเก้าอี้หวายใต้ต้นท้อเป็นครั้งคราว ด้านข้างของนางเป็นสระหยกเย็นที่อบอวลไปด้วยพลังไอปราณบริสุทธิ์เข้มข้น หากแต่ไอน้ำที่ลอยอยู่เหนือสระเต็มไปด้วยหมอกพิษที่พร้อมคร่าชีวิตของผู้ที่เผลอสูดดมเข้าไปในเสี้ยววินาที หากเหลือบมองไปยังด้านหลังสระจะเห็นว่ายังมีโถงไม้หลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลเดิมทีไม่ควรเรียกว่าโถงด้วยซ้ำ ลักษณะของมันพิเศษอยู่สักหน่อยเพราะมีห้องแยกเรียงกันอยู่สามห้อง คล้ายกับเรือนชั้นเดียวมากกว่า เหมาะกับพักอาศัยอย่างยิ่ง น่าแปลก...ที่แห่งนี้ราวกับอยู่คนละโลก ทิวทัศน์สวยงามเหมือนไม่มีอยู่จริง ใครจะรู้ว่ามันซ่อนอยู่ในพื้นที่สีแดงของสำนักแพทย์โอสถ หลี่หลิงเฟิ่งค้นพบที่นี่โดยบังเอิญหลังจากแอบเข้ามาสำรวจเขตลับด้วยตนเองอยู่หลายครั้งเสียงน้ำกระเพื่อมเบา ๆ ดังลอดเข้ามาในหูขัดขวางความดื่มด่ำกับธรรมชาติของหลี่หลิงเฟิ่ง นางเลิกคิ้วเล็กน้อย ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ หันศีรษะม

  • ชายาอสรพิษ   จุดเริ่มต้นของหายนะ

    พรึ่บ !เปลวเพลิงไม่รู้ที่มาแผดเผาบริเวณโดยรอบโดยที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว แผดเผาทุกสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าให้มอดไหม้“เจ้าฉวยโอกาส” ผู้บุกรุกกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น ทว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นกลับดูดีกว่ามาก เขาป้องกันการลอบโจมตีของนางครั้งนี้ได้ทัน“ฆ่ากันต้องมีกฎด้วยหรือ ก็แค่เจ้าตาย ข้ารอด” หลี่หลิงเฟิ่งมองไปอย่างเสียดาย นางรึอุตส่าห์เปิดด้วยกระบวนท่าใหญ่ แต่ต้องคว้าน้ำเหลวเสียนี่ แต่ไม่เป็นไร ลองอีกครั้งก็ได้เปิดก่อนได้เปรียบ!“ดูซิว่าเจ้าจะรับมือได้นานแค่ไหน” ไม่รอให้ศัตรูได้ทันหายใจ นางส่งมอบการโจมตีอันหนักหน่วงออกไปให้เขาไม่ขาดสาย ต่อให้รับกระบวนท่าของนางได้ทุกครั้ง แต่ร่างกายคนฝึกยุทธ์ที่ไม่ได้มีระดับสูงมากนักก็มีขีดจำกัดอยู่ดี ซึ่งต่างจากนางที่มีน้ำทิพย์ให้ดื่มฟื้นฟูพละกำลังอยู่ตลอดเวลานางทนได้ แต่คนทั่วไปย่อมแตกต่าง“เหอะ คิดว่าเจ้าทำอย่างนี้แล้วมีความหมายหรือ เป็นข้าที่ประเมินเจ้าสูงเกินไป” เห็นได้ชัดว่าผู้พูดกำลังดูถูก หลี่หลิงเฟิ่งก็ยังไม่สะทกสะท้าน สมควรทำยังไงก็ทำต่อไปผู้บุกรุกขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายสงสัยถึงบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ก็บอกไม่ถูกว่าผิดปกติที่ตรงไหน นิ่งอย

  • ชายาอสรพิษ   เงื่อนงำ 2

    ด้วยความไม่รู้เหนือใต้ออกตก ทุกคนได้ย่างเข้ามาในพื้นที่อันตรายที่สุดในเขตหวงห้ามเสียแล้ว รวมทั้งหลี่หลิงเฟิ่งเองด้วย หญิงสาวพบว่าบรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด แม้แต่เสียงใบไม้กระทบกับลมก็ยังไม่มีให้ได้ยิน ราวกับไร้จุดหมาย ดูเหมือนว่านางเพียงแค่เดินเตร็ดเตร่มาหลายเค่อเท่านั้น หากแต่หลี่หลิงเฟิ่งระวังตัวมากขึ้นเนื่องจากพื้นที่ที่เคยมีหมอกหนา ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม กลายเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ผืนดินแตกแขนง ร้อนระอุจากการแผดเผาของดวงอาทิตย์ ราวกับอยู่คนละโลกกับเมื่อสักครู่โดยสิ้นเชิงทางนั้น!เสียงของถิงถิงดังขึ้นจากในหัวของนาง หลี่หลิงเฟิ่งเดินตามทางที่ถิงถิงบอก สุดท้ายหยุดยืนใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งใกล้บึงน้ำขนาดเล็กที่แห้งขอดไปแล้ว น่าแปลกที่ต้นไม้ต้นนี้เป็นเพียงต้นเดียวที่ยังคงแตกกิ่งก้าน อยู่รอดท่ามกลางบรรดาต้นอื่นที่หลือเพียงซากและใบไม้แห้งกรอบราวกับต้นไม้มีชีวิตหรี่ หรี่เสียงปริศนาดังขึ้น ครั้งนี้เสียงของมันชัดเจนกว่าครั้งไหน ๆ ใกล้จนหลี่หลิงเฟิ่งหวาดระแวง ประเดี๋ยวมองซ้าย ประเดี๋ยวมองขวา กลับไม่พบสิ่งผิดปกติ เสียงนั้นยังคงดังต่อเนื่อง จิตสังหารรอบตัวของหลี่หลิงเฟิ่งแผ่ขยายออกอย่างรวดเร็ว แสงสีข

  • ชายาอสรพิษ   เงื่อนงำ 1

    “อะ…อาจารย์อา ขออภัยที่ล่วงเกินเพียงแต่ข้าขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่ขอรับ” โจวอวี๋ถามขึ้นมาอีกครั้ง นางยังเด็กยิ่งนักเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะแปลงรูปโฉมให้คงความเยาว์วัยไว้เสมอ บางทีหากได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของนาง เขาน่าจะรู้จัก คนมีความสามารถระดับนี้ เขาจะพลาดได้อย่างไร“ข้ามีนามว่าหลี่หลิงเฟิ่ง” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ ยามนี้นางกำลังเพ่งจิตเข้าไปสำรวจด้านในเขตหวงห้าม จึงไม่ได้สังเกตท่าทางตกใจของคนที่อยู่ในนี้ทั้งหมด ทันทีที่นางพูดจบพลังจิตขอนางจับสิ่งผิดปกติอันใดไม่ได้เลย จนกระทั่งสำรวจเข้าไปในส่วนลึกของเขตหวงห้ามนางถึงค้นพบควันสีดำขุมหนึ่ง หลี่หลิงเฟิ่งเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าเหมือนมีอะไรมาขวางกั้นนางเอาไว้ทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้ ซ้ำร้ายยังถูกผลักออกมาหลี่หลิงเฟิ่งหลุบตาลงครุ่นคิดอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าทุกคนกำลังมองมาที่นางเป็นตาเดียว“ไม่จริงน่า จะเป็นเจ้าไปได้อย่างไร” เหลียนฉู่ฉู่เอ่ยออกมาเป็นคนแรก อย่างไม่เชื่อสายตา“ข้าคาดเดาตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ้าคือหลี่หลิงเฟิ่ง คู่หมั้นขององค์ชายรองโม่ เพียงแต่รู้สึกแปลกใจ ทำไมแม่นางหลี่ถึง

  • ชายาอสรพิษ   เขตลับ 2

    เจ้านาย ทางนี้!เสียงนี้อีกแล้ว เรียกหาตั้งแต่นางเดินเข้ามาในอุโมงค์นี้เสียงก็ดังก้องในหูนางไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง นางเดินออกมาห่างไกลจากคนในกลุ่มเรื่อย ๆ สมบัติตรงนี้น้อยกว่าที่อื่นมาก ชั้นวางสมบัติเป็นเพียงหินที่ทำเป็นชั้น ๆ เรียงกันขึ้นมาเท่านั้น แตกต่างจากก่อนหน้าที่ทำขึ้นด้วยทองคำและหยก คนเข้าละโมบและลุ่มหลงได้ง่ายหลี่หลิงเฟิ่งหยิบเศษผ้าขาวที่เขรอะไปด้วยฝุ่นที่อยู่ท่ามกลางบรรดาสมบัติชิ้นอื่นขึ้นมา นางพินิจถึงความพิเศษที่ควรจะมี ทว่ากลับเป็นเพียงผ้าธรรมดาเท่านั้น นางตัดสินใจวางลงที่เดิม เพียงแต่มือของนางกลับหนักอึ้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อนางหยิบขึ้นมาอีกรอบความรู้สึกหนักอึ้งที่มือกลับหายไปฟุบ!“อ๊ะ” ลมที่ไม่รู้มาจากที่ใดปะทะเข้ากับหน้าของนางอย่างจัง เศษผ้าปลิวมาติดที่ตาทั้งสองข้างปิดกั้นการมองเห็นไปชั่วขณะ จากนั้นก็ผสานเข้ากับนางเป็นหนึ่งเดียว หลี่หลิงเฟิ่งตกใจไม่น้อยเมื่อรู้สึกตัว แค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น ผ้าผืนนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย นางมองซ้ายขวาอย่างร้อนรนอยู่บ้าง นางรีบปรับตัวให้เป็นปกติ ด้วยกลัวคนทั้งหมดในนี้จะเห็นการกระทำอันแปลกประหลาดนี้ของนางหญิงสาวลองทดสอบพลังยุทธ์และ

  • ชายาอสรพิษ   เขตลับ 1

    “อ่ะแฮ่ม...ไม่ว่าการประลองครั้งไหนก็ตัดสินที่ความสามารถเสมอ สำนักแพทย์โอสถเรายังไม่ถึงต้องให้ผู้อื่นมาตัดสินแทนหรอก” ผู้คนโดยรอบไม่มีใครกล้าส่งเสียงสักคน หรงอู่ซาบซึ้งใจน้ำตาแทบไหล เวลานี้เทิดทูนหลี่หลิงเฟิ่งยิ่งกว่าเจ้าสำนักเสียอีก ตั้งแต่นั้นมารอยยิ้มบนใบหน้าหุบไม่ลงอีกต่อไปครบหนึ่งชั่วยาม ผู้ชนะผ่านเกณฑ์ตัดสินมีเพียงห้าคนเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นรองเจ้าสำนักจึงใจดีเปิดเขตลับให้คนทั้งห้าเสียเลย ทั้งหมดมุ่งไปยังเขตลับที่อยู่ในส่วนลึกสุดของสำนักแพทย์โอสถ โดยมีรองเจ้าสำนักและหลี่หลิงเฟิ่งเป็นผู้นำในครั้งนี้“พวกเจ้าทุกคนสามารถเลือกสิ่งของที่อยู่ในเขตลับได้หนึ่งอย่าง และห้ามเข้าไปในเขตหวงห้ามเด็ดขาด บอกไว้ก่อนหากฝ่าฝืนข้าไม่รับรองความปลอดภัยของใครทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าริอ่านทำผิดกฎ” รองเจ้าสำนักกล่าวเสียงแข็ง จากนั้นเปิดเขตลับให้ทั้งหมดเข้าไปอย่างเปิดเผย“มีอะไรซ่อนอยู่ที่นี่งั้นหรือ” หลี่หลิงเฟิ่งรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล นางรู้สึกกลาย ๆ เหมือนว่าไม่ได้มีแค่พวกนางเท่านั้นที่อยู่ในนี้ จึงถามออกไปด้วยความสงสัยใคร่รู้“เรื่องนี้…” หรงอู่อึกอัก หน้าตาเหยเก “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด ว่ากันว่าท

  • ชายาอสรพิษ   ประชันขันแข่ง

    หลายวันมานี้หลี่หลิงเฟิ่งอยู่อย่างสงบสุขเสมอมา นอกจากรักษาเจ้าสำนักทุกเช้า นางใช้เวลาทั้งวันไปกับฝึกหลอมโอสถที่ห้องหลอมโอสถ ใช้สมุนไพรของสำนักแพทย์โอสถราวกับน้ำ เรียกได้ว่าละลายทรัพย์ของแท้ เหตุเพราะเกิดกระทบกระทั่งกันวันนั้นจึงไม่มีใครกล้าออกมาตำหนิ กลับกันทุกคนคอยเอาใจนางทุกอย่าง วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากกลับมาจากรักษาเจ้าสำนัก นางก็ตรงไปที่ห้องหลอมโอสถ หยิบเตาหลอมออกมาจากกำไลสำริดอย่างคล่องแคล่วส่วนที่ว่านางได้ของพวกนี้มาได้ยังไงน่ะหรือ ต้องเท้าความไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ศิษย์พี่รองมาหานางที่ที่พำนัก กล่าวขอโทษที่สบประมาทนางวันนั้น พร้อมทั้งอยากให้นางยกโทษให้ หลี่หลิงเฟิ่งรู้ตัวว่านางนั้นเป็นคนดี ไม่ถือสาความเรื่องเล็กน้อยกับคนกันเองอยู่แล้วเพียงแค่ศิษย์พี่รองมอบของปลอบใจให้นาง นางอายุน้อยต้องเคารพผู้ใหญ่ย่อมไม่เรียกร้องมากมายอันใด ถึงแม้ศิษย์พี่รองจะดูเสียดายไปบ้าง ยามยื่นให้รู้สึกถึงความมือไม้สั่นเล็กน้อย ทว่าจนแล้วจนรอดกำไลสำริดและเตาหลอมโอสถชั้นเลิศก็อยู่ในมือนางอยู่ดีหลี่หลิงเฟิ่งพลันรู้สึกว่าการมีศิษย์พี่ก็ไม่ได้แย่อันใดแต่มีบ้างบางครั้งที่รู้สึกเปล่าเปลี่ยว โม่จื่อหลิงขอแยกต

  • ชายาอสรพิษ   ความหวังสุดท้าย

    ภายในห้องพำนักเจ้าสำนักแพทย์โอสถปรากฏหูซานและชายชราอีกสองคน รวมทั้งลูกศิษย์บางคน ทำหน้าเคร่งเครียด ใบหน้าอ่อนล้าเพราะอดนอนมาหลายวัน บนเตียงไม้สลักมีร่างผ่ายผอมดำคล้ำของชายชราผู้หนึ่ง นอนสลบไสลราวกับคนใกล้หมดสิ้นอายุขัย “ศิษย์น้องสี่ เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าพอมีทางช่วยศิษย์พี่ใหญ่บ้างหรือไม่”“ข้าเองก็อับจนหนทางเหมือนกัน ยาขวดนั้นเพียงแค่ยื้อลมหายใจศิษย์พี่ใหญ่เท่านั้น ต่อให้เป็นท่านเทพมาตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยได้ พิษลุกลามไปทั่วร่างกายศิษย์พี่ใหญ่ตั้งนานแล้ว” หูซานส่ายหน้า สองตาแดงก่ำไม่อาจทำใจได้ หลายวันมานี้พวกเขาค้นคว้าหายาถอนพิษ ทว่าก็ล้มเหลวจนกระทั่งหวังซีมาพร้อมยาขวดหนึ่ง พวกเขาถึงได้มีความหวังขึ้นมา เพียงแต่ดีใจได้ไม่กี่วัน ไม่รู้เพราะสาเหตุใดอาการของศิษย์พี่ใหญ่ถึงทรุดลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่เขาที่เป็นอัจฉริยะแห่งยุคก็ไม่อาจหาต้นตอของอาการเหล่านี้ได้ หูซานพบว่าไม่มีหนทางที่ศิษย์พี่ใหญ่จะรอดแล้วเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอกหวังข่ายที่สภาพก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่น ๆ ในห้อง เดินออกมาเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นรองเจ้าสำนักเขาก็เบี่ยงตัวหลบอย่างเคยชิน แต่เมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังรองเจ้า

  • ชายาอสรพิษ   ผู้อาวุโส 2

    ยาลูกกลอนที่เพิ่งหลอมเสร็จหอมกลุ่นกระทบจมูกของทุกคน ผู้คนต่างลุ้นว่าโอสถในมือของผู้อาวุโสสามคือยาลูกกลอนอะไรผู้อาวุโสสามยิ้มอย่างภาคภูมิ ค่อย ๆ คลายมือออก สีขาวขุ่นปรากฏบนสายตา “ยาลูกกลอนอายุวัฒนะ!”“อืม ยาลูกกลอนอายุวัฒนะสิบเม็ด ใช้ได้เจ็ดเม็ด ขั้นสามสี่เม็ด ขั้นเจ็ดอีกสามเม็ด” รองเจ้าสำนักตรวจสอบยาลูกกลอนในมือของผู้อาวุโสสามอย่างถี่ถ้วน ผงกหัวชื่นชม “ไม่เลยเลย”ในเวลาอันสั้น ภายใต้ขอบเขตสมุนไพรที่มีจำกัด เขาสามารถหลอมออกมาได้ถึงหกในสิบส่วนเลยหรือ ผู้อาวุโสสามเก่งกาจโดยแท้ “นางหนู เสียใจแล้วหรือไม่ ท้าอะไรไม่ท้า มาท้าในสิ่งที่ข้าถนัดที่สุด หึ”เมื่อผู้ชมมองยาลูกกลอนที่อยู่ในมือหลี่หลิงเฟิ่ง ต่างก็มีหลากหลายอารมณ์ บ้างทอดถอนใจเสียดาย บ้างดูถูกดูแคลน บ้างเฉยเมยราวกับคาดการณ์ไว้แล้ว ทว่าทุกคนในที่นี้ไม่มีใครยินดีหรือให้กำลังใจกับนางสักคนผู้คนต่างส่ายหน้า ซุบซิบทันทีที่เห็นก้อนกลมสีดำสองสามก้อนในมือนาง “ฝีมือเท่าหางอึ่ง นางยังกล้ารับคำท้าประลอง”“ตัวยาไหม้เกรียมขนาดนี้ นางพ่ายแพ้ยับเยินเลยทีเดียว”“ไม่คิดว่าองค์ชายรองโม่ สมองจะมีปัญหา ดันคว้าสตรีโอ้อวดมาอยู่ข้างกาย”“สตรีผู้นี้เป็นตัวล

DMCA.com Protection Status