Beranda / รักโบราณ / ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้ / บทที่ 10 ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

Share

บทที่ 10 ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-06 09:05:57

หลังกลับมาจากงานเลี้ยงจวนตระกูลไป๋แล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาและเสี่ยวเย่วหยาก็ถูกเรียกไปพบที่เรือนใหญ่ในทันที เสี่ยวฮูหยินจ้องมองบุตรสาวทั้งสองของตน ก่อนจะเอ่ยถาม

"ข้าสอนพวกเจ้ายังไง บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าห้ามก่อเรื่อง เจ้าก็อีกคนเย่วหยา ถูกทำร้ายกลางงานเช่นนี้ผู้คนคงเอาไปพูดจากันสนุกปากแล้ว"

"ข้าขออภัยเจ้าค่ะท่านแม่"

เสี่ยวเย่วเยาไม่เอ่ยสิ่งใดมากเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเสี่ยวฮูหยินให้มากความ เมื่อเสี่ยวฮูหยินเห็นเช่นนั้นก็พอจะคลายโทสะลงไปได้บ้าง แต่เมื่อหันมามองเสี่ยวจิ่วฮวาที่มีสีหน้าเรียบเฉย โทสะก็พุ่งปะทุขึ้นมาอีกครา

"อาจิ่ว เจ้าไม่จดไม่จำที่ข้าสอนเลยหรือ ข้าบอกเจ้าว่าอย่ามีเรื่องกับผู้ใด เจ้าทำไมไม่ทำตามที่ข้าสั่ง"

เสี่ยวจิ่วฮวาเงยหน้าขึ้นมามองมารดาของตนเอง ก่อนจะเอ่ย

"ท่านแม่จะให้ข้ายืนมองดูคนพวกนั้นดูแคลนเช่นนั้นหรือเจ้าคะ หลินซินหลันด่าเสี่ยวเย่วหยาว่าเป็นคนโง่ ด่าข้าว่าถูกเลี้ยงดูมาจากอนุที่ต่ำช้า ไม่ให้เกียรติตระกูลเสี่ยว แต่ท่านแม่กับจะให้ข้ารักษาหน้าตาตนเองแล้วปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป ท่านยอมให้คนมาดูแคลนบุตรสาวของท่านหรือ ข้าขอยืนยันคำเดิม ใครไม่ยุ่งกับข้า ข้าก็ไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้าใครมาต่อว่าข้า ต่อว่าคนตระกูลเสี่ยวต่อหน้าข้า ข้าก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน ท่านแม่จะลงโทษก็ลงโทษเถิด แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดในเรื่องที่ข้าไม่ได้ทำผิด"

เสี่ยวฮูหยินเดิมทีคิดจะต่อว่าบุตรสาวอีกสักหายประโยค แต่เมื่อได้ยินความหมายในคำพูดของเสี่ยวจิ่วฮวา ว่าจะไม่ยอมให้ใครมาด่าทอหรือรังแกคนในตระกูลเสี่ยวได้ ในใจของนางก็พลันคลายโทสะลงไปได้ไม่น้อย

คล้ายว่าหลายวันมานี้เสี่ยวจิ่วฮวาจะดูเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อย

แต่ถึงอย่างไรย่อมต้องลงโทษ นางจึงสั่งให้สาวใช้ไปนำไม้เรียวยาวออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาเสี่ยวจิ่วฮวา

"ยื่นมือมา แม่จะทำโทษเจ้า"

เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที

"ท่านแม่ ไม่ได้นะเจ้าคะ อาจิ่วทำไปเพราะปกป้องข้า หลินซินหลันด่าทอข้าสารพัด อีกทั้งยังลงไม้ลงมือด้วย ท่านแม่ หากจะตีก็ตีข้าด้วยเถอะ ข้าเองก็ผิดที่ไม่ปรามอาจิ่วเจ้าค่ะ!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นอย่างนั้นก็ดึงเสี่ยวเย่วหยาไปหลบอยู่ด้านหลังตน ก่อนจะเอ่ย

"อย่าตีนาง!! นางไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ตีข้าคนเดียวก็พอ ข้ามันหนังหนา ทนแรงทุบตีดุด่าได้อยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าโดนเสียหน่อย ท่านแม่รีบตีมาเถอะ ตีเสร็จข้าจะได้ไปนอน ข้าง่วงแล้ว"

ยิ่งได้เห็นท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเสี่ยวจิ่วฮวา เสี่ยวฮูหยินก็โมโหอีกรอบ เพราะไม่ยั้งมือนางจึงตีมือทั้งสองข้างของเสี่ยวจิ่วฮวาจนมีเลือดซึม เสี่ยวจิ่วฮวาเม้มริมฝีปากแน่น เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นว่ามือของน้องสาวมีเลือดไหลซึมแล้วก็รีบเข้าไปคุกเข่าขอร้องมารดาทันที

"ท่านแม่ ฮืออ พอเถอะเจ้าค่ะ!!"

เสี่ยวฮูหยินตีไปน้ำตาก็ไหลไป ก่อนจะเอ่ยกับเสี่ยวจิ่วฮวา

"เจ้าคิดว่าข้าอยากตีเจ้าหรือ ที่ข้าต้องสั่งสอนเจ้า เพราะว่าข้าไม่อยากให้คนอื่นว่าเจ้าไม่ดี ไม่อยากให้เจ้ามีชื่อเสียงไม่ดี หากเจ้าเป็นที่นินทาของผู้คนเจ้าจะมีชีวิตที่ดีและสงบสุขได้อย่างไร!! เจ้าจะมีงานแต่งงานที่ดีได้อย่างไร หากเจ้าไม่มีวามสุข เจ้าลำบากเจ้าคิดว่าข้าจะตายได้อย่างสงบสุขหรืออาจิ่ว!!"

เสี่ยวฮูหยินโยนไม้เรียวทิ้งลงไปบนพื้น ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตา นางตีเสี่ยวจิ่วฮาก็เท่ากับตีหัวใจตนเอง แต่หากไม่สั่งสอนนางก็กลัวว่าสักวันบุตรสาวอาจจะไม่ได้พบจุดจบที่ดี

เสี่ยวจิ่วฮวาเม้มริมฝีปากแน่น นางเองไม่ได้โกรธเคืองอันใด ตีแล้วก็แล้วไปเถิด อย่างไรท่านแม่ก็ไม่ได้คิดจะตีนางให้ตายอยู่แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"ท่านแม่ไม่ต้องกังวล เดิมทีข้าก็ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานอยู่แล้ว คนอย่างข้าไม่เหมาะกับใครเขาหรอก แต่งเข้าจวนใดจวนนั้นคงร้อนเป็นไฟ หากไม่มีสิ่งใดแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ขอบคุณท่านแม่ที่สั่งสอน"

เมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่ได้มีท่าทีโกธรเคืองหรืออาละวาดด่าทอเช่นทุกครั้งที่โดนดุด่าลงโทษ ใจของเสี่ยวฮูหยินก็ยิ่งบีบรัด นางพยายามระงับโทสะ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับสาวใช้

"ไปตามท่านหมอมาดูอาการคุณหนูรอง"

เมื่อสาวใช้ออกไปแล้ว นางก็หันไปมองเสี่ยวเย่วหยาที่ยืนร้องไห้ ก่อนจะกวักมือเรียกให้บุตรสาวมานั่งลงข้างๆ ตน

"ไม่ต้องร้อง ทุกคราแม่ก็สั่งสอนอาจิ่วเช่นนี้ ไม่เห็นเจ้าจะร้องไห้เลย"

เสี่ยวเย่วหยายกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะเอ่ย

"ท่านแม่ หลายวันนี้ที่ข้าได้อยู่ใกล้น้องรอง ข้าดูออกว่าน้องรองแท้จริงไม่ได้เลวร้ายอันใด ที่ผ่านมาเพราะนางอยากให้ท่านสนใจจึงทำตัวแบบนั้น ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงนางไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับข้าเลย ไม่หักหน้าข้า ไม่ด่าทอข้า และไม่ได้หาเรื่องใคร แต่ผู้คนกลับมาหาเรื่องน้องรองก่อน นางดูน่ารักน่าชังขึ้นมากนะเจ้าคะ อีกทั้งยังช่วยปกป้องข้าด้วย ท่านแม่ ท่านลงมือหนักเกินไปแล้วนะเจ้าคะ ข้าสงสารน้องรองยิ่งนัก"

เสี่ยวฮูหยินไม่เอ่ยตอบ นางรู้ตัวว่านางลงมือหนักไป แต่ที่ทำก็เพื่อเสี่ยวจิ่วฮวาทั้งสิ้น

ด้านเสี่ยวจิ่วฮวาเมื่อเดินกลับมาที่เรือนก็สั่งให้หูเป่าไปเอาน้ำอุ่นมาให้นางล้างมือ เมื่อแผลโดนน้ำนางก็ถึงกับซูดปาก ท่านแม่มือหนักจริงๆ มือนางแตกเป็นรอยหมดแล้ว

หูเป่าร้อนใจยิ่งนัก นางรีบเอ่ยกับเสี่ยวจิ่วฮวาทันที

"คุณหนู ท่านอย่ายั่วโทสะฮูหยินอีกเลยเจ้าค่ะ ดูสิ เลือดออกไม่น้อยเลย"

เสี่ยวจิ่วฮวามีท่าทีเรียบเฉย นางใช้ผ้าสะอาดซับเลือด ก่อนจะครุ่นคิดถึงคำพูดของมารดาเมื่อครู่

ท่านแม่กลัวนางจะไม่ได้แต่งเข้าตระกูลดีดี กลัวนางลำบาก แต่ท่านแม่ไม่รู้ว่าแท้จริงนางไม่อยากแต่งงานเลย นางไม่อยากแต่งกับบุรุษใดทั้งสิ้น ชั่วชีวิตนี้นางอยากใช้ชีวิตอิสระ โผบินดั่งนก ไปทุกที่ได้ตามใจหมาย ใช้ชีวิตในทางที่ถูกที่ควร

และเหตุผลสำคัญที่นางไม่ต้องการแต่งงานอีกนั่นก็คือ นางกลัว!

ตั้งแต่คืนนั้นที่โดนกระทำอย่างทารุณมันก็กลายเป็นบาดแผลในใจนาง นางกลัวที่จะต้องแต่งงานมีสัมพันธ์ทางกายกับบุรุษ นางกลัวเหลือเกิน

ยิ่งคิดถึงเรื่องในคืนนั้นนางก็หนาวเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที นางส่ายศีรษะไปมาพยายามสลัดเรื่องเหล่านี้ออกไปจากสมองเสียให้พ้น และจัดการซับเลือดที่มือของนางต่อ หูเป่าจะช่วยนางก็บอกว่าไม่ต้องเพราะหูเป่าทำงานไม่ถูกใจนาง

"อาจิ่ว!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่กำลังใช้ผ่าสะอาดซับเลือดบนฝ่ามือตนอย่างทุลักทุเลเมื่อได้ยินเสียงเรียกก็หันมามอง ก่อนจะพบกับเสี่ยวเย่วหยาที่เดินเข้ามาหานางพอดี เมื่อเห็นรอยแผลบนฝ่ามือของน้องสาว เสี่ยวเย่วหยาก็อดน้ำตาซึมไม่ได้ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับหูเป่า

"เหตุใดเจ้าไม่ทำแผลให้คุณหนูรอง มายืนมองทำไมกัน!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"นางทำไม่ถูกใจข้า เจ้าอย่าดุนางเลย ข้าไม่เป็นอันใดหรอก อีกเดี๋ยวเลือดก็คงหยุดไหลแล้ว"

นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวจิ่วฮวาเห็นว่าเสี่ยวเย่วหยาขึ้นเสียงกับสาวใช้ นับว่าเป็นด้านที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน เวลาเสี่ยวเย่วหยาขึ้นเสียงนี่ก็น่าดูเหมือนกัน

"เจ้ามีอันใดหรือจึงมาที่เรือนของข้า"

เสี่ยวเย่วหยาทิ้งกายลงนั่ง ก่อนจะเอ่ย

"ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ข้าดูแลเจ้าไม่ดี"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกขมฝาดในลำคอไม่น้อยเลย ชาติก่อนเสี่ยวเย่วหยาก็เอ่ยเช่นนี้

"ไม่ใช่ความผิดของเจ้า อย่าใส่ใจเลย ใบหน้าของเจ้าก็อย่าลืมทายาด้วยเล่า"

เสี่ยวเย่วหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"น้องรอง เจ้าไม่เกลียดข้าแล้วหรือ"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ตอบสิ่งใด เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นว่าน้องสาวนิ่งเงียบไม่เอ่ยตอบ ก็รีบลนลานเอ่ยขึ้นมาทันที

"เอ่อ ข้าไม่อยากให้เจ้าเกลียดข้า เราเป็นพี่น้องกัน ข้า คือ.."

"ข้าเคยเกลียดเจ้า เกลียดมากเหลือเกิน แต่ตอนนี้ข้าไม่เกลียดเจ้าแล้วล่ะ และที่ข้าไม่หาเรื่องเจ้าเพราะว่าข้าเบื่อแล้ว อยู่จวนเดียวกัน เป็นพี่น้องกันจะรังแกกันไปทำไม อีกอย่างรังแกเจ้าไม่สนุกสักนิด ข้าชอบคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อมากกว่า เจ้าอ่อนแอเกินไป แกล้งไม่สนุกสักนิด แล้วอีกอย่างนะเย่วหยา จำคำของข้าไว้ อย่าอ่อนแอเกินไป ใครทำเจ้าเจ้าก็ทำกลับเสีย ปกป้องตนเองให้ได้ อย่าไว้วางใจผู้ใดง่ายๆ เข้าใจหรือไม่"

เสี่ยวเย่วหยาพยักหน้าและยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปหยิบผ้ามาช่วยเช็ดเลือดให้เสี่ยวจิ่วฮวาอย่างใส่ใจ

"ข้าไม่เคยคิดแย่งความรักของท่านแม่ไปจากเจ้าเลยแม้แต่น้อย"

"อืม เจ้าก็ไม่ได้แย่งไปเสียหน่อย ท่านแม่ก็ยังรักข้าอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทุบตีดุด่าข้าบ่อยๆ แล้วอีกอย่างหนึ่ง ท่านแม่เลี้ยงดูเจ้ามาตั้งแต่วัยเยาว์ ต่างจากข้าที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาว แต่อย่างไรก็ไม่ได้ประคบประหงมเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่แบเบาะ ย่อมมีความห่างเหินเป็นธรรมดา ข้าไม่ใส่ใจแล้วล่ะเจ้าวางใจเถอะ"

"น้องรองเจ้าเติบโตขึ้นมากแล้วจริงๆ"

เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย สองพี่น้องสนทนากันอยู่ไม่นานท่านหมอก็มาถึง เสี่ยวจิ่วฮวาแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อรู้ว่าท่านแม่เป็นคนออกคำสั่งให้สาวใช้ไปตามท่านหมอมาดูอาการของนาง เสี่ยวจิ่วก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก

มือทั้งสองข้างของเสี่ยวจิ่วฮวาถูกพันเอาไว้จนทำสิ่งใดไม่ได้ หลายวันที่รักษาบาดแผลที่มือนางเอาแต่นอนและให้หูเป่าคอยป้อนอาหาร ชีวิตที่สุขสงบ ไม่แย่งชิงดีไม่ริษยาผู้ใดเช่นนี้ก็มีความสุขไม่น้อยเลย

ในขณะเดียวกันเสี่ยวเย่วหยาก็มักจะทำขนมอร่อยๆ มาให้นางกินอยู่เสมอ อีกทั้งยังนำบทละครงิ้วมาให้นางอ่านอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่นางได้รู้ พี่สาวของนางที่ภายนอกดูงดงามอ่อนหวาน ปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบอยู่เสมอนั้น แท้จริงก็ชอบอ่านของพวกนี้เช่นเดียวกับนางเหมือนกัน

เสี่ยวจิ่วฮวาอยู่ว่างๆ ก็เหงา นางเอาแต่คิดถึงเรื่องในกาลก่อนนั้น เรื่องที่ตระกูลของนางถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับพวกกบฏ

แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมต้องเกิดซ้ำรอยเดิมเป็นแน่ นางเป็นสตรีจะต่อสู้กับเรื่องพวกนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย นางจำวันเวลาที่จะเกิดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินได้ มันคืออีกไม่กี่ปีข้างหน้าแล้ว ตอนนี้นางต้องหาทางหนีทีไล่เอาไว้ และหาวิธีบอกเรื่องนี้กับท่านพ่อและพี่ชายใหญ่ หากวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นมาจะได้เตรียมพร้อมรับมือและลดการสูญเสียให้มากที่สุด

แต่จะบอกด้วยวิธีใดนั้นนางคงต้องคิดใคร่ครวญเตรียมคำพูดดีดีเสียก่อน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 11 ความจริงอีกด้านของท่านอ๋องใบ้

    จวนจวิ้นอ๋องด้านเติ้งหมิงซีนั้น หลังจากมอบของขวัญให้ฮูหยินผู้เฒ่าที่จวนตระกูลไป๋เรียบร้อยแล้ว เขาก็มุ่งหน้ากลับมาที่จวนจวิ้นอ๋องของตนเองในทันที เมื่อกลับมาถึง พ่อบ้านเหรินก็ประคองเขาเข้ามาที่ห้องนอน ก่อนจะให้เขานอนพักผ่อน เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนนอนพักแล้ว จึงสั่งให้สาวใช้ออกไปให้หมด ไม่ให้มารบกวนเวลาพักผ่อนของเจ้านายเมื่อคนออกไปหมดแล้ว เติ้งหมิงซีก็ลืมตาขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ท่าทีเหมือนคนเสียสติและยิ้มตลอดเวลาพลันมลายหายไปจนหมดสิ้น บัดนี้เหลือเพียงใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา ดวงตาที่ดูเลื่อนลอยกลับกลายเป็นเย็นเยียบ มือเรียวยาวราวหยกแกะสลักยื่นไปหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่มดับกระหาย ก่อนจะปรายตามองพ่อบ้านเหรินที่ยืนอยู่"ข้าไปงานเลี้ยงวันนี้คงมีคนของราชสำนักจับตาดูอยู่ไม่น้อย ต่อไปข้าคงต้องไปที่งานเลี้ยงให้น้อยลง หากวันนี้ไม่ใช่เพราะเป็นวันเกิดท่านยาย ข้าคงไม่ไป"พ่อบ้านเหรินที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที"ท่านอ๋อง ได้ยินว่าระยะที่ฮ่องเต้ทรงมีพระอาการไม่สู้ดี มักจะทรงประชวรอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังให้องค์รัชทายาทว่าราชการแทน แต่เราจะประมาทไม่ได้ เพราะสายลับของเรารายงานมาว่า ฮ่องเต้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 12 สำนักศึกษาเหมยฮวา

    วันเวลาก็่ผ่านไปเช่นนี้ เสี่ยวจิ่วฮวานั้นยามนี้แผลที่ฝ่ามือหายดีแล้ว นางไม่ต้องพันผ้าเอาไว้มือตลอดเวลาเหมือนเช่นหลายวันก่อนอีก วันนี้อากาศค่อนข้างดีไม่น้อยเลย เสี่ยวจิ่วฮวาจึงออกมายืนรับลมที่ริมระเบียงของตนเอง ไม่นานนักก็มีสาวใช้มาแจ้งว่าเสี่ยวฮูหยินเรียกนางไปพบเสี่ยวจิ่วฮวาเพียงพยักหน้ารับรู้ไม่ได้เอ่ยตอบสิ่งใดออกมา ก่อนจะมุ่งหน้าเดินไปที่เรือนใหญ่ เมื่อมาถึงก็พบกับเสี่ยวเย่วหยาที่กำลังบีบนวดให้เสี่ยวฮูหยินอยู่ เสี่ยวจิ่วฮวาทำความเคารพมารดาของตนก่อนจะเอ่ย"ท่านแม่เรียกหาข้ามีอันใดหรือเจ้าคะ"เสี่ยวฮูหยินวางถ้วยชาในมือลง ก่อนจะเงยหน้ามามองบุตรสาวของตนคราหนึ่ง"ตอนนี้เจ้าเพิ่งอายุสิบสี่ปี มีเวลาอีกตั้งสองสามปีที่จะเรียนรู้ความรู้ต่างๆ ก่อนอายุครบสิบแปดปีและเตรียมแต่งงานออกเรือนไป ยามนี้สำนักศึกษาเหมยฮวาเปิดทำการสอนแล้ว ข้าได้จัดการส่งคนไปลงรายชื่อเอาไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว อีกสามวันเจ้าก็ไปรายงานตัวที่สำนักศึกษา ไปร่ำเรียนความรู้เอาไว้ให้มากๆ จะเป็นผลดีต่อตัวเจ้า ดูพี่สาวเจ้าสินางก็เคยเรียนที่นั่นเช่นเดียวกัน กิริยามรรยาทงดงาม เพรียบพร้อมทุกอย่าง หากไม่ใช่เพราะว่าสุขภาพของนางไม่แข็งแร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 13 ได้สหายใหม่

    เรื่องที่เสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่ตกน้ำนั้นกลายเป็นเรื่องสนุกปากให้คนในสำนักศึกษาเอามาพูดคุยเป็นเรื่องขบขันไม่น้อย บ้างก็ว่าเสี่ยวจิ่วฮวาน่ะชื่อเสียงไม่ดีมานาน อาจจะตั้งใจผลักหยางซู่ซู่ให้ตกน้ำเพราะริษยาแต่เวรกรรมตามทันตนจึงตกลงไปด้วย ช่างเป็นสตรีที่นิสัยเสียจริงๆ ไม่อยู่ในกฎระเบียบชอบทำเรื่องขายหน้าริษยาผู้อื่นโชคดีที่เสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่นำเสื้อผ้าสำรองมาคนละหนึ่งชุดเผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด อาจารย์สำนักศึกษาแม้จะตำหนิแต่ก็ยังเมตตาให้นางเข้าไปเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องรับรองส่วนตัวของสำนักศึกษาได้ เสี่ยวจิ่วฮวาเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินออกมา ก่อนจะพบกับหยางซู่่ซู่ที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน หยางซู่ซู่ยิ้มให้เสี่ยวจิ่วฮวาอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะเอ่ย"อาจิ่ว ข้าขออภัยเจ้าด้วยนะ ข้าพยายามจับเจ้าเอาไว้แล้ว แต่แรงข้าช่างมีน้อยนัก จึงพาเจ้าร่วงตกน้ำไปด้วยกัน"เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย นางมองออกถึงเจตนาของหยางซู่ซู่ว่าไม่ได้ตั้งใจหรือคิดกลั่นแกล้งนางเลยแม้แต่น้อย"ไม่เป็นอันใด รีบไปที่ห้องเรียนกันเถอะ""ช้าก่อนอาจิ่ว!!!""หืม"เสี่ยวจิ่วฮวาหันกลับมามอง ก่อน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 14 ถูกหาเรื่อง

    เมื่อกินอาหารจนอิ่มแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็เช็ดมือจนสะอาด ก่อนจะยื่นตั๋วเงินส่งให้หูเป่านำออกไปจ่าย ส่วนนางเองก็กำลังเดินออกมาจากห้องอาหาร แต่ทว่าเมื่อออกมาเสี่ยวจิ่วฮวาก็ถึงกับตัวแข็งทื่อนั่นมัน จวิ้นอ๋องใช่หรือไม่?ตายละ!! นางนินทาเขาไปซะเยอะเชียวเมื่อครู่นี้เสี่ยวจิ่วฮวาลอบจุดเทียนไว้อาลัยให้ตนเอง ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เขาคงไม่รับรู้สิ่งใดหรอกกระมัง เช่นนั้นต้องไม่เข้าใจในสิ่งที่นางพูดเป็นแน่แต่เมื่อหันไปเห็นคนรับใช้้ข้างกายของเขา เสี่ยวจิ่วฮวาก็หน้าเสียขึ้นมาเล็กน้อยเขาไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าข้ารับใช้ข้างกายของเขาจะไม่รู้เรื่องนี่!!!เติ้งหมิงซีรู้สึกสนุกขึ้นมาเสียแล้วเมื่อได้เห็นใบหน้าเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงก่ำของเสี่ยวจิ่วฮวา ก่อนหน้านี้เขากำชับพ่อบ้านเหรินเอาไว้แล้วว่าให้ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน ปล่อยผ่านนางไปเสีย นางก็แค่สตรีตัวน้อยขี้สงสัยนางหนึ่งเพียงเท่านั้นซ้ำยังเป็นสตรีขี้สงสัยที่งดงามมากเสียด้วยช่างแตกต่างจากในฝันของเขาเสียเหลือเกิน ตอนที่เห็นนางในความฝัน นางน่าสงสารเป็นอย่างมาก เขายังจำแววตาสิ้นหวังของนางได้ไม่เคยลืมแต่ทว่าสตรีน้อยตรงหน้าเขานางนี้กลับดู

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 15 เที่ยวงานโคมไฟ

    หลังจากวันนั้น คุณหนูตระกูลเหลียงก็ไม่กล้ามาหาเรื่องเสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่อีกเลย วันเวลาก็ผ่านไปอย่างสงบสุขเช่นนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง สำนักศึกษาหยุดการเรียนการสอน เสี่ยวจิ่วฮวาได้รับจดหมายจากหยางซู่ซู่ บอกว่าอยากชวนนางไปเที่ยวงานเทศกาลหยวนเซียวด้วยกันในคืนนี้ อีกทั้งยังกำหนดที่นัดพบมาแล้วเรียบร้อย เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นเช่นนั้นก็ตอบตกลงไป อีกทั้งยังชวนเสี่ยวเย่วหยาให้ไปด้วยกันอีกด้วยเสี่ยวฮูหยินเองก็ไม่ได้คัดค้านอันใด หนึ่งปีจะมีงานโคมไฟเพียงหนึ่งครั้ง ให้พวกนางไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อยก็ดี อีกไม่นานเสี่ยวเย่วหยาก็ต้องออกเรือนแล้ว ครั้งนี้นางคงจะเบาใจขึ้น อีกทั้งตระกูลไป๋ก็ไม่รังเกลียดที่เสี่ยวเย่วหยามีสุขภาพไม่สู้ดีมาก่อน นางเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยจะเหลือก็แต่เสี่ยวจิ่วฮวา ที่วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกสนาน ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ถูกอาจารย์เรียกไปทำโทษอีกด้วย นางละปวดหัวเหลือเกิน!!พูดถึงเรื่องแต่งงานของเสี่ยวเย่วหยา เสี่ยวจิ่วฮวาพอรู้มาบ้างว่าไม่นานมานี้คนตระกูลไป๋ได้มาขอวันเวลาตกฟากเพื่อนำไปเชื่อมดวงและดูฤกษ์มงคล พบว่าดวงชะตาของเสี่ยวเย่วหยาและไป๋หลางเข้ากันได้ดี จะนำพาส่งเสริมซึ่งกั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 16 พบเห็นบางอย่าง

    เติ้งเจี๋ยปรายตามองเติ้งหมิงซีด้วยสายตาที่ดูแคลน เดิมทีเขากับเติ้งหมิงซีนับว่าเป็นญาติที่ใกล้ชิดกันโดยสายเลือด บิดาของเติ้งหมิงซีเป็นน้องชายของเสด็จพ่อ และที่สำคัญเขากับเติ้งหมิงซีก็เกิดปีเดียวกันเสียด้วย ห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น ความจริงควรจะสนิทสนมกันถึงจะถูกแต่ผู้ใดอยากจะสนิทสนมกับคนบ้าใบ้ไร้ประโยชน์กันเล่า!!!เติ้งหมิงซีมีหรือจะดูไม่ออกว่าเติ้งเจี๋ยมองตนเองด้วยแววตาที่ดูแคลนและรังเกลียด แต่เขาเคยชินเสียแล้วจึงสามารถเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ได้ เขาชี้มือมาที่เติ้งเจี๋ยก่อนจะปรบมือเปาะแปะ เติ้งเจี๋ยคร้านจะสนทนากับคนบ้าใบ้และตอนนี้เขาต้องการไปตามหาสตรีนางนั้น แต่ทว่าเติ้งหมิงซีกลับยื่นมือของตนมาจับมือของเขา ก่อนจะวางขนมโก๋ลงมาที่ฝ่ามือของเขา เติ้งเจี๋ยโมโหแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างเดือดดาล!!"ข้าไม่กินของเจ้า!! ข้าเป็นถึงองค์รัชายาท เจ้าเป็นแค่อ๋องบ้าใบ้ อย่ามาถูกตัวข้า!!!”เมื่อทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นได้ยินต่างก็พากันคุกเข่าลงเพื่อถวายพระพรเติ้งเจี๋ย เติ้งเจี๋ยหลับตาลงพยายามระงับโทสะ จะมาถวายพระพรทำไมกันยามนี้ เขาตั้งใจจะออกมาเป็นการส่วนตัว โง่งมจริงๆ เพราะเติ้งหมิงซีตัวซวยนี่คน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 17 ล่วงรู้ความลับ

    เสี่ยวจิ่วฮวาคิดจะหันหลังเดินหนี แต่ทว่านางเพิ่งก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียวก็พบว่ามีวัตถุสีเงินวางพาดเอาไว้ที่ลำคอของนาง เมื่อเสี่ยวจิ่วฮวาเหลือบสายตามองดูก็พบว่ามันคือมีดสั้นเล่มหนึ่ง นางเริ่มหายใจติดขัด รู้สึกว่าข้างหูมีสายลมเย็นยะเยือกสายหนึ่งพัดผ่านเข้ามา"เจ้าจงหาเหตุผลดีดีมาโน้มน้าวใจข้า เพื่อไม่ให้ข้าสังหารเจ้าแล้วทิ้งศพเจ้าเอาไว้ในป่าไผ่นี่!!!"เสี่ยวจิ่วฮวากลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ นางก้าวขาไม่ออก ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย เติ้งหมิงซีถึงกับใช้มีดสั้นมาข่มขู่นาง เพราะนางมาล่วงรู้ความลับของเขา!!เช่นนั้นท่าทีบ้าใบ้สติไม่ดีที่นางเห็นก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเขาแกล้งทำใช่หรือไม่เติ้งหมิงซีเมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวาเงียบไม่เอ่ยสิ่งใดตอบก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะลากตัวนางเข้าไปในป่าไผ่ลึกที่ลับตาคนมากกว่าเดิม เสี่ยวจิ่วฮวาเหงื่อแตกพลั่กทั้งที่อากาศไม่ได้้้ร้อนเลยแม้แต่น้อย นางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองเขาเลยด้วยซ้ำ"ท่านอ๋อง สังหารนางเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากนางนำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศ เราจบเห่แน่!!!"พ่อบ้านเหรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับปรายตามองเสี่ยวจิ่วฮวาอย่างไม่เป็นมิตรข้าจำได้ เจ้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 18 เก็บนางเอาไว้เช่นนี้จะดีหรือ

    เมื่อเสี่ยวจิ่วฮวาจากไปแล้ว พ่อบ้านเหรินก็รีบเดินเข้ามาหาเติ้งหมิงซีทันที"ท่านอ๋อง จะปล่อยนางไปเช่นนี้จริงๆ หรือ หากนาง...""นางรู้ว่าควรทำเช่นไร อีกอย่างนางเป็นน้องสาวของอาไป่ หากข้าทำสิ่งใดกับนางในตอนนี้อาจไม่ส่งผลดีต่อแผนที่เราวางเอาไว้มาหลายปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลย การแตกหักกับอาไป่ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ"พ่อบ้านเหรินที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง นึกโมโหนางมารน้อยตนนั้นขึ้นมาไม่หายด้านเสี่ยวจิ่วฮวานั้นเมื่อถูกปลดปล่อยจากพันธนาการที่น่าหวาดกลัว นางก็รีบเร่งฝีเท้ากลับมาที่รถม้าทันที เมื่อมาถึงก็พบกับเสี่ยวเย่วหยาและไป๋หล่างที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย เสี่ยวเย่วหยาหันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวากลับมาแล้ว จึงรีบเดินเข้ามาหาทันที"อาจิ่ว เจ้าหายไปที่ใดมา ข้ากังวลใจแทบแย่ หากเจ้ายังไม่กลับมาอีกเพียงครึ่งเค่อข้าจะไปแจ้งทางการแล้ว"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าพวกท่านเดินหายเข้าไปในป่าไผ่ จึงไปตามดู แต่พอไปถึงก็ไม่พบผู้ใดแล้ว"เสี่ยวเย่วหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่่อนจะเอ่ย"ข้ากลับออกมาสั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09

Bab terbaru

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 58 เคียงคู่ตลอดกาล (ตอนจบ)

    รัชศักหมิงซีปีที1เติ้งหมิงซีขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น เขาแต่งตั้งไป๋หล่างให้ขึ้นเป็นเสนาบดีกรมขุนนางต่อจากบิดาของตน คอยตรวจสอบความประพฤติไม่ชอบของพวกขุนนางและจัดการได้ตามกฎหมายในทันที ส่วนเสี่ยวไป่ฟงนั้นเติ้งหมิงซีแต่งตั้งเป็นแม่ทัพใหญ่เสี่ยวแทนบิดาเพราะว่ายามนี้แม่ทัพใหญ่เสี่ยวแก่ชรามากแล้วและอยากวางมือเสียทีจึงให้เสี่ยวไป่ฟงรับหน้าที่แม่ทัพใหญ่เสี่ยวต่อจากตน และเติ้งหมิงซียังมอบตำแหน่งท่านโหวให้แก่จวนตระกูลเสี่ยวอีกด้วย เท่ากับว่ายามนี้แม้อดีตแม่ทัพใหญ่เสี่ยวจะวางมือแต่พราะมีความดีความชอบมาช้านานจึงได้ตำแหน่งท่านโหว ยังคงมีผู้คนนับถือ และตำแหน่งนี้สามารถสืบทอดต่อทายาทในตระกูลได้อีกด้วยด้านหลี่จิ่งนั้น ในการสอบเค่อจวี่ครั้งนี้ เขาสอบได้ตำแหน่งจอหงวน ได้เข้ามาทำงานในราชสำนักตามที่วาดหวังเอาไว้ โดยเติ้งหมิงซีให้ไปลองทำงานที่สำนักฮั่นหลินดูก่อน หากหลี่จิ่งมีความสามารถจริงย่อมได้เลื่อนตำแหน่งตามความเหมาะสมหยางซู่ซู่เองก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนเสี่ยวเย่วหยานั้นคลอดบุตรชายอย่างราบรื่น แต่เพราะว่าร่างกายอ่อนแอจึงต้องพักฟื้นสักระยะ เสี่ยวจิ่วฮวาสั่งให้คนนำยาบำรุงไปมอบให้เสี่ยวเย่วหยาหลายอย่าง

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 57 กรงขังในจิตใจ

    สายลมพัดพาความหนาวเย็นเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า เสี่ยวจิ่วฮวายามนี้กำลังนอนอยู่บนทะเลหิมะน้ำแข็งที่หนาวจับใจ นางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ พบว่ายามนี้ตนเองนอนอยู่ที่เดิมที่เคยตายเมื่อชาติที่แล้ว หิมะทับถมเป็นกองสูงอยู่บนตัวนางข้าฝันหรือไร!!นางครุ่นคิดด้วยความหวาดหวั่น ก่อนจะคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นางถูกเติ้งเจี๋ยจับไป ด้วยความที่หวาดกลัวจนสติแตกและถูกด้านมืดในจิตใจครอบงำ นางจึงสังหารเขาอย่างเลือดเย็นหลังจากนั้นนางก็สลบไปนางตื่นขึ้นมาและพบว่าตนเองนอนอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น หิมะตกโปรยปรายลงมาไม่หยุดช่างหนาวเหลือเกิน!!เสี่ยวจิ่วฮวาหลับตาลง พยายามลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหวังว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครานางจะออกจากที่นี่ไปได้แต่มันกลับไม่ใช่ที่นี่เปรียบเสมือนกรงขังที่ไร้ทางออก พาให้นางจมดิ่งลงลงสู่ห้วงที่ลึกที่สุดในจิตใจของตนเองเสี่ยวจิ่วฮวาพยายามลุกขึ้นก่อนจะเดินโซเซไปตามทางที่มืดทึบ หนทางช่างมืดเหลือเกินมองไปไม่เห็นสิ่งใด ฉับพลันนางได้ยินเสียงของเติ้งหมิงซีเอ่ยเรียกชื่อนางมาตามสายลม"อาจิ่ว เจ้ารีบฟื้นเร็วเข้า ข้ารอเจ้าอยู่นะ""อาหมิง!!! อาหมิงช่วยข้าด้วย ข้าออกไปไม่

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 56 หลับใหล

    เติ้งหมิงซีอุ้มเสี่ยวจิ่วฮวาเข้ามาในรถม้า ก่อนจะสั่งให้คนหาผ้าชุบน้ำสะอาดมาให้เขา ก่อนจะบรรจงเช็ดตามใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยนก่อนหน้านี้เขาพยายามไล่ตามเติ้งเจี๋ยอย่างไม่ลดละ แต่เติ้งเจี๋ยกลับรวดเร็วยิ่งกว่า เพียงไม่นานก็หายไปจากสายตาของเขา ในขณะที่กำลังร้อนรนและตามหาเสี่ยวจิ่วฮวาอยู่นั้นก็ได้พบกับเจียงซวี่เสียก่อนเจียงซวี่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดมากมาย บอกเพียงให้เขาตามไป ก่อนจะพบว่าเติ้งเจี๋ยพาเสี่ยวจิ่วฮวามาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้เติ้งเจี๋ยลอบซื้อเอาไว้ คาดว่าน่าจะซื้อเอาไว้เพื่อลักลอบทำเรื่องบางอย่างเจียงซวี่บอกเพียงว่าคนตระกูลเจียงถูกทหารของกบฏสังหารเกือบหมด เหลือรอดเพียงไม่กี่คน เติ้งหมิงซีถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ครั้งนี้บิดาของฉินฮองเฮาคงแค้นเติ้งเจี๋ยมาก ถึงกับเข้าฝั่งกบฏและนัดแนะให้ทหารกบฏเข้ามาสังหารคนของเติ้งเจี๋ยล้างตระกูลและทำลายบ้านเมืองเช่นนี้ ความแค้นมันน่ากลัวมากจริงๆแต่อย่างไรก็ต้องขอบใจเจียงซวี่ที่ช่วยเหลือเขาในครั้งนี้จนได้พบกับเสี่ยวจิ่วฮวา ทั้งที่ตนเองก็มีสภาพย่ำแย่ไม่ต่างกันภาพที่เขาเห็นก่อนหน้านี้สร้างความตกใจให้แก่เขาไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าเสี่ยวจิ่วฮวาจะสังหาร

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 55 จุดจบเติ้งเจี๋ย

    รถม้าเคลื่อนไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืด เสี่ยวจิ่วฮวาพยายามไม่มองหน้าเติ้งเจี๋ย ส่วนบุรุษตรงหน้าก็เอาแต่จ้องมองนางอย่างไม่ลดละ สายตานั่นมันทำให้เสี่ยวจิ่วฮวาอึดอัด ทั้งอึดอัดทั้งรังเกียจและหวาดหวั่นในคราวเดียวกันภาพที่เขาทำกับนางในชาติก่อนมันสร้างบาดแผลในใจให้แก่นางอย่างไม่อาจลืมเลือนทำให้นางกลัวการนอนกับสามีตนเอง นางเหมือนคนที่สติไม่อยู่กับตัวต้องคอยฟวาดระแวงลืมอดีตไปจากใจไม่ได้นางเกลียดเติ้งเจี๋ย!!เติ้งเจี๋ยที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวาไม่สนใจตน จึงยื่นมือมาจับปลายคางของนางให้หันมามองเขา เพราะเสี่ยวจิ่วฮวาขัดขืนเขาจึงออกแรงกับนางอย่างไม่ปรานีปราศัย"เกลียดข้ามากนักหรือ อีกไม่นานข้าก็จะได้ชื่อว่าเป็นสามีของเจ้าแล้ว!!!"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเอ่ยกับเติ้งเจี๋ยด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน"ข้าไม่ใช่ภรรยาของเจ้า ข้ามีสามีแล้ว คนต่ำช้าเช่นเจ้าคิดจะแย่งภรรยาผู้อื่นไม่อับอายบ้างหรือไร ถุย!!!"เสี่ยวจิ่วฮวาถุยน้ำลายใส่ใบหน้าของเติ้งเจี๋ยอย่างไม่แยแส ทว่าเติ้งเจี๋ยกลับไม่โกธร เขาใช้ปลายนิ้วมือขึ้นเช็ดน้ำลายของนาง ก่อนจะอ้าปากงับนิ้วของตนและดูดดื่มกับน้ำลายของนางที่เปื้อน

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 54 ถูกจับตัว

    พ่อบ้านเหรินพาเสี่ยวจิ่วฮวาวิ่งมาจนถึงด้านนอกจวนอ๋อง ก่อนจะวิ่งฝ่าความมืดลัดเลาะไปตามเส้นทางลับก่อจจะมาถึงยังรถม้าที่จอดอยู่ข้างร้านเครื่องประทินโฉม ยามนี้ทหารกบฏถูกท่านอ๋องควบคุมได้แล้ว ทางจึงสะดวกขึ้นมา เสี่ยวจิ่วฮวาหันมามองหูเป่าและเหล่าสาวใช้ที่วิ่งหนีตามกันมา ก่อนจะเอ่ย"รีบไปกันเถอะ!!ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องจะต้องรับมือได้"เมื่อเอ่ยจบนางก็กำลังจะก้าวขึ้นรถม้า แต่ทว่ากลับมีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาสังหารสาวใช้ของนางตกตายไปหลายคน เสี่ยวจิ๋วฮวารีบหันกลับไปมอง ก่อนจะอุทานออกมา"เติ้งเจี๋ย!!!"นี่เขายังไม่ตายหรือ แล้วหนีรอดมาได้เช่นไร!!!เติ้งเจี๋ยหนีออกมาพร้อมกับองค์รักษ์ลับของตน เป้าหมายของเขาคือตามหาเสี่ยวจิ่วฮวาให้พบ ยามนี้เขาได้พบกับนางแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นเติ้งเจี๋ยจึงก้าวเข้ามาหาเสี่ยวจิ่วฮวาในทันที แต่ทว่าพ่อบ้านเหรินกลับสั่งให้องค์รักษ์ที่ติดตามมาด้วย ขวางทางเขาเอาไว้ เติ้งเจี๋ยปรายตามองพ่อบ้านเหรินก่อนจะเอ่ย"หากไม่อยากตายก็ส่งนางมา นางเป็นของข้า!!!"พ่อบ้านเหรินส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเอ่ย"ฝ่าบาท พระองค์พูดผิดแล้ว นางคือพระชายาของท่านอ๋อง เป็นนายหญิงของข้า ท่านต่างหากที่ต้องไ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 53 กลียุค

    รัชศก เจี๋ย ปีที่1หลังจากที่คัดเลือกสาวงามเข้าวังไปไม่นาน ก็มีข่าวออกมาว่ามีขุนหลายกลายตระกูลที่เกิดเรื่อง บ้างก็ถูกสังหารทิ้ง บ้างก็หลีกหนีออกไปจากเมืองหลวง บางครอบครัวที่ยากจนก็ถูกทหารทุบตีเพราะมาร้องทุกข์ต่อศาลต้าหลี่ว่าบุตรสาวตกตายอย่างไม่เป็นธรรมข้าวของเครื่องใช้แพงจนไม่อาจจับต้อง สินค้าบางอย่างหายากยิ่ง ข้าวสารแทบจะไม่มีเหลือให้กินให้ใช้ ราษฎรลำบากยากแค้น ในขณะที่เติ้งเจี๋ยซึ่งอยู่ในวังหลวงกลับใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญบนความทุกข์ยากของราษฎรอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านคิดว่าเขาไม่เจ็บแค้นที่มองเห็นราษฎรทุกข์ยากหรือ ทุกครั้งเขาแอบส่งคนไปช่วยเหลือครอบครัวเหล่านั้นครั้งแล่วครั้งเล่า ต้องทนเห็นมารดาของพวกนางกรีดร้องเพราะต้องสูญเสียบุตรสาวอันเป็นที่รัก บิดาเป็นบ้าหลังจากที่ทราบว่าบุตรสาวที่ถูกคัดเลือกเข้าวังหลวงต้องมาตายจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย ชาวบ้านร้องไห้เพราะความอดอยาก เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งเมืองหลวงถึงเวลาแล้วเติ้งเจี๋ยที่เจ้าจะต้องตายเสียที!!!กลางดึกคืนนั้นเสี่ยวจิ่วฮวาถูกปลุกขึ้นมากลางดึก นางงัวเงียลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าเป็นเติ้งหมิงซีนั่นเอง"อาหมิง ปลุกข้าทำไมกัน"เสี่ยวจ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 52 รนหาที่ตาย

    จากการสืบหาความจริงของไป๋หล่างและองค์รักษ์ลับที่แฝงตัวอยู่ในวังหลวงของจวนอ๋อง ท้ายที่สุดเพียงสามวันก็สืบพบว่าเป็นฝีมือของผู้ใด"เป็นฝีมือของฉินฮองเฮาอย่างนั้นหรือ""พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"เติ้งหมิงซีที่ได้ยินเช่นนั่นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง สตรีนางนั้นถึงกับกล้าเล่นไม่ซื่อกับของขวัญที่เติ้งเจี๋ยมอบให้เสียวจิ๋วฮวา ช่างอาจหาญไม่เบาเลยอยู่บนตำแหน่งฮองเฮาดีดีไม่ชอบ ได้!!! ข้าจะสงเคราะห์เจ้าเองด้านเสี่ยวจิ่วฮวาเองก็พอจะจำฉินฮองเฮานางนั้นได้ ก่อนหน้านี้สตรีผู้นี้คือพระชายาเอกของเติ้งเจี๋ยไม่เคยคิดเลยว่าฉินฮองเฮาจะลงมือกับนางเช่นนี้ หรือว่าฉินกุ้นเฟยจะรู้ว่าเติ้งเจี๋ยคิดเช่นไรกับนางจึงต้องการสังหารนางทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามหัวใจอย่างนั้นหรือเสี่ยวจิ่วฮวาที่คิดได้เช่นนั้นแววตาก็เย็นเยียบ นางไม่เคยอยากมีปัญหากับผู้ใด แต่คนพวกนั้นกลับนำปัญหามาให้นาง ถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเช่นนี้มันออกจะเลือดเย็นไปหน่อยกระมังเติ้งหมิงซีที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวานิ่งเงียบไป ก็รีบเอ่ยกับนางอย่างเป็นห่วง"เจ้าไม่ต้องกลัว คืนนี้ข้าจะส่งคนไปลอบสังหารนาง คนของข้าทำงานไม่ผิดพลาดแน่ ต่อไปนี้นางจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าไ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 51 ลอบสังหาร

    หลังจากที่ฮ่องเต้เติงผิงอันสวรรคตไปแล้ว เหตุการณ์หลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย เจียงฮองเฮายามนี้ได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจียงไทเฮา เสพสุขอำนาจวาสนาไม่จบไม่สิ้น ส่วนเติ้งเจี๋ยก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ยามนี้ยังอยู่ในการไว้ทุกข์ แต่มันก็เป็นเพียงการสร้างฉากบังหน้าขึ้นมาเพียงเท่านั้น ผู้ใดจะรู้ ภายในตำหนักมังกรสวรรค์ยามนี้มีศพของสตรีคนแล้วคนเล่าถูกหามออกไป บางคนไม่ตายก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเป็นเช่นนี้ทุกวันจนสร้างความหวาดหวั่นให้แก่เหล่าสตรีในวังหลวงไม่น้อย นางสนมในอดีตฮ่องเต้ที่ยังสาวบางคนถูกเติ้งเจี๋ยเรียกมาปรนนิบัติเขาไม่สนใจกฎระเบียบอันใดเลยแม้แต่น้อย ส่วนเจียงไทเฮาก็ไม่สนใจสิ่งใดเพราะคิดว่าสิ่งไหนเป็นความสุขของบุตรชายนางก็ไม่อยากจะขัดขวาง"ฮองเฮาเพคะ ทรงเสวยสิ่งใดบ้างเถิดเพคะ"เสียงของนางกำนัลเอ่ยขึ้นมาด้วยความจนใจ ก่อนจะวางอาหารลงตรงหน้าฉินฮองเฮาฉินฮองเฮานางนี้เดิมทีคือพระชายาเอกของเติ้งเจี๋ย ก่อนหน้านี้นางหมายมั่นเอาไว้ว่าอำนาจจะต้องอยู่ในมือของนาง เติ้งเจี๋ยจะต้องรักใร่โปรดปราณนางไปตลอดชีวิต อีกอย่างนางกับเติ้งเจี๋ยเองก็มีรสนิยมในเรื่องเช่นนั้นเหมือนกัน เขาชอบกระทำควา

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 50 กรรมตามสนอง

    เสี่ยวจิ่วฮวาหลังจากแต่งงานก็เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเก่าครั้งหนึ่ง เมื่อกลับมาเยี่ยมจวนครั้งนี้นางพบว่ามารดาของนางไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดเท่าแต่ก่อนอีก เพราะได้รู้แล้วว่าความจริงเติ้งหมิงซีไม่ได้เป็นบ้าจริงๆ มารดากำชับนางหลายประโยคให้ระวังตนเองให้ดีและอย่าละเลยหน้าที่ของภรรยาเป็นอันขาด นางพยักหน้ารับและจดจำคำสอนของมารดาเอาไว้ทุกคำยามนี้เข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาวแล้ว อากาศจึงค่อนข้างเย็นไม่น้อยเลย หิมะเริ่มตกโปรยปรายมากขึ้น วันนี้เสี่ยวจิ่วฮวาจึงมาทำซุปเนื้อในโรงครัวกินเพื่อคลายความหนาวพ่อบ้านเหรินที่เดินมาพอดี ก็ปรายตามองเสี่ยวจิ่วฮวาคราหนึ่ง เดิมทีเขาไม่ชอบเสี่ยวจิ่วฮวาแต่เพราะคำสั่งของเติ้งเจี๋ยก่อนหน้านี้ที่กำชับเขาว่าห้ามทำให้นางลำบากใจ เขาจึงไม่อาจล่วงเกินนางได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเดินเข้ามาหานางก่อนจะเอ่ย"พระชายา หากทรงต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องลงมาทำด้วยตนเองเช่นนี้ หากเกิดสิ่งใดขึ้น หรือเกิดความเสียหายในจวนอ๋อง เกรงว่าท่านคงรับผิดชอบไม่ไหว"เขาเอ่ยอย่างเย็นชา เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"ข้าจะทำซุปเนื้อกินเสียหน่อย ให้สา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status