Beranda / รักโบราณ / ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้ / บทที่ 12 สำนักศึกษาเหมยฮวา

Share

บทที่ 12 สำนักศึกษาเหมยฮวา

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-06 09:07:28

วันเวลาก็่ผ่านไปเช่นนี้ เสี่ยวจิ่วฮวานั้นยามนี้แผลที่ฝ่ามือหายดีแล้ว นางไม่ต้องพันผ้าเอาไว้มือตลอดเวลาเหมือนเช่นหลายวันก่อนอีก วันนี้อากาศค่อนข้างดีไม่น้อยเลย เสี่ยวจิ่วฮวาจึงออกมายืนรับลมที่ริมระเบียงของตนเอง ไม่นานนักก็มีสาวใช้มาแจ้งว่าเสี่ยวฮูหยินเรียกนางไปพบ

เสี่ยวจิ่วฮวาเพียงพยักหน้ารับรู้ไม่ได้เอ่ยตอบสิ่งใดออกมา ก่อนจะมุ่งหน้าเดินไปที่เรือนใหญ่ เมื่อมาถึงก็พบกับเสี่ยวเย่วหยาที่กำลังบีบนวดให้เสี่ยวฮูหยินอยู่ เสี่ยวจิ่วฮวาทำความเคารพมารดาของตนก่อนจะเอ่ย

"ท่านแม่เรียกหาข้ามีอันใดหรือเจ้าคะ"

เสี่ยวฮูหยินวางถ้วยชาในมือลง ก่อนจะเงยหน้ามามองบุตรสาวของตนคราหนึ่ง

"ตอนนี้เจ้าเพิ่งอายุสิบสี่ปี มีเวลาอีกตั้งสองสามปีที่จะเรียนรู้ความรู้ต่างๆ ก่อนอายุครบสิบแปดปีและเตรียมแต่งงานออกเรือนไป ยามนี้สำนักศึกษาเหมยฮวาเปิดทำการสอนแล้ว ข้าได้จัดการส่งคนไปลงรายชื่อเอาไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว อีกสามวันเจ้าก็ไปรายงานตัวที่สำนักศึกษา ไปร่ำเรียนความรู้เอาไว้ให้มากๆ จะเป็นผลดีต่อตัวเจ้า ดูพี่สาวเจ้าสินางก็เคยเรียนที่นั่นเช่นเดียวกัน กิริยามรรยาทงดงาม เพรียบพร้อมทุกอย่าง หากไม่ใช่เพราะว่าสุขภาพของนางไม่แข็งแรง นางคงออกเรือนไปนานแล้ว โชคดีที่ผิงเป่ยของเราไม่มีกฎเกณฑ์การแต่งงานที่บีบคั้นสตรีมากเกินไป สตรีอายุครบสิบห้าปีไม่ต้องรีบแต่งงานก็ได้ และสตรีที่มีอายุไม่เกินยี่สิบห้าปีก็ยังสามารถแต่งงานได้ไม่ผิดระเบียบและไม่ถือว่าล่าช้า ยามนี้เจ้าอายุยังน้อย เก็บเกี่ยวความรู้เอาไว้ย่อมไม่เสียหาย วันหน้าย่อมได้แต่งเข้าตระกูลที่ดีแน่นอน"

เสี่ยวจิ่วฮวาไม่เอ่ยสิ่งใด นางพลันนึกถึงเรื่องราวเก่าก่อนขึ้นมาได้

สำนักศึกษาเหมยฮวาเป็นสำนักศึกษาที่เหล่าสตรีซึ่งยังไม่ออกเรียนตั้งแต่อายุสิบสองถึงสิบเจ็ดปีสามารถเข้าเรียนได้ เป็นสถานศึกษาที่ดีเป็นอย่างมาก คุณหนูที่มาจากตระกูลชนชั้นสูงจะได้เรียนอีกห้องเรียนหนึ่ง ส่วนคุณหนูที่มีฐานะปานกลางจนถึงบุตรสาวที่เกิดจากอนุจะได้เรียนอีกห้องหนึ่ง ทุกวันจะมีเหล่าอาจารย์จากในวังหลวง รวมถึงบัณฑิตมีชื่อเสียงมาสั่งสอนความรู้ สำนักศึกษาเหมยฮวาแห่งนี้เปิดสอนมาตั้งแต่สมัยอดีตฮ่องเต้ทรงขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ แม้จะผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแล้วก็ยังคงเปิดสอนเช่นเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอันใด อีกทั้งฮ่องเต้พระองค์ใหม่ก็เห็นว่าเป็นสถานศึกษาที่ดีจึงไม่ได้สั่งให้ยกเลิกแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้จวนตระกูลไหนที่พอมีเงินจึงมักจะส่งบุตรสาวมาร่ำเรียนที่สำนักศึกษาเหมยฮวาด้วยกันทั้งสิ้น

ส่วนอีกที่หนึ่งคือสำนักศึกษาลู่จื้อ เป็นสำนักศึกษาสำหรับเหล่าคุณชายจวนต่างๆ ซึ่งจะแบ่งห้องเรียนตามชนชั้นเช่นเดียวกับสำนักศึกษาเหมยฮวา

สถานศึกษาสองแห่งนี้เริ่มแรกจะให้เรียนพื้นฐานเสียก่อน แล้วจึงจะทำการสอบ หากคุณหนูหรือคุณชายจวนใดสามารถสอบทำคะแนนได้ดีเยี่ยม จะได้มีโอกาสได้ที่นั่งด้านหน้า ซึ่งเป็นที่นั่งที่ดีที่สุด

ในยามนั้นนางได้เข้าไปเรียนที่สำนักศึกษาเหมยฮวาเช่นเดียวกัน แต่ว่ากลับไม่สนใจการเรียน เอาแต่ปรายตามองเหยียดเหล่าคุณหนูที่มาจากตระกูลต่ำต้อย อีกทั้งยังมักมีเรื่องกับคุณหนูในห้องเรียนเดียวกัน ไปเรียนได้เพียงหนึ่งเดือนนางก็ถูกไล่ออก สร้างความอับอายให้แก่บิดามารดาไม่น้อย ในวันที่ถูกไล่ออก นางยังหันไปด่าอาจารย์ในสถานศึกษาว่า

"สอนไม่รู้เรื่อง สอนเช่นนี้ไปสอนวัวสอนควายเถอะ!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวารู้สึกโมโหตนเองไม่น้อยเลย ยามนั้นนางสิ้นคิดถึงเพียงนี้เชียวหรือ

เสี่ยวฮูหยินที่เห็นบุตรสาวนิ่งเงียบไป จึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"ทำไม เจ้าไม่อยากไปเรียนหรือ พี่สาวของเจ้าก็เรียนที่นั่นเช่นเดียวกัน นางก็เรียนได้ดีไม่มีปัญหาอันใด หวังว่าเจ้าจะตั้งใจเล่าเรียน อย่าทำขายหน้าจวนตระกูลเสี่ยวเล่า"

เสี่ยวเย่วหยาที่ได้ยินอย่างนั้นจึงได้เอ่ยขึ้นมาทันที

"อาจิ่ว เจ้าไม่ต้องกังวลนะ ไปเรียนเพียงครึ่งวันแล้วก็สามารถกลับจวนได้ อาจารย์ก็ใจดีมาก ขอเพียงเจ้าเชื่อฟังสักหน่อย ย่อมเรียนที่สำนักศึกษาได้อย่างราบรื่น"

เสี่ยวจิ่วฮวาพยักหน้าเล็กน้อยไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ให้เรียนนางก็จะเรียน อีกทั้งนางเรียนเพราะอยากหาความรู้เพิ่มเติมเอาไว้ ไม่ได้เรียนมาเพื่อหวังจะเอาไปปรนนิบัติเอาใจสามีแต่อย่างใด ผิงเป่ยจะมีกฎเกณฑ์การแต่งงานเช่นใดนางไม่ได้สนใจ ขอเพียงชีวิตในแต่ละวันผ่านไปอย่างราบรื่นไร้กังวลก็พอแล้ว นางยังมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการและหาทางออกไม่ได้ เช่นนั้นเรื่องแต่งงานนางจึงวางมันเอาไว้หลังสุดของทุกเรื่อง

เสี่ยวฮูหยินระยะหลังมานี้เริ่มคุ้นชินกับท่าทีไม่ต่อต้านของบุตรสาวมากแล้ว นางจึงเอ่ยถามเสี่ยวจิ่วฮวาทันที

"แผลที่มือของเจ้าหายดีแล้วกระมัง"

เสี่ยวจิ่วฮวาจ้องมองมารดาของตน ก่อนจะเอ่ย

"หายแล้วเจ้าค่ะ ข้าน่ะหนังหนา ตีเพียงเท่านี้ไม่เจ็บถึงตายหรอกเจ้าค่ะ"

"อาจิ่ว!!! เจ้าไม่เอ่ยวาจากระทบกระเทียบข้าสักวันมันจะนอนไม่หลับหรือ!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ย

"อีกสามวันก็ต้องไปเรียนแล้ว ข้าขอไปเตรียมตัวก่อนนะเจ้าคะ"

นางเอ่ยจบก็คิดจะเดินจากไปในทันที เสี่ยวฮูหยินที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยเรียกทันที

“ช้าก่อน!!!”

เสี่ยวจิ่วฮวาถอนหายใจออกมา คิดในใจว่าคงจะเรียกนางไปดุด่าอีกกระมัง ท่านแม่ไม่ยอมปล่อยนางไปอย่างง่ายดายเลยจริงๆ

เมื่อเสี่ยวจิ่วฮวาหันมาก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นว่ามีจานขนมยื่นมาตรงหน้าของนาง เสี่ยวฮูหยินกระแอมไอเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

“ขนมดอกกุ้ย กินเยอะๆ ปากเจ้าจะได้ไม่ว่าง คำพูดชวนระคายหูจะได้ไม่หลุดออกมา ข้าทำเองกับมือ หากเจ้าไม่กินก็ไม่ต้องมาพูดกับข้า”

เสี่ยวจิ่วฮวาจ้องมองขนมจานนั้น ก่อนจะยื่นมือไปรับมันมาถือเอาไว้ และเอ่ยกับมารดาของตน

“ท่านแม่ถึงกับลงมือทำเอง ข้าไม่กินคงอกตัญญูแย่ ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”

พูดจบนางก็เดินจากไปทันที เสี่ยวฮูหยินถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปพูดคุยกับเสี่ยวเย่วหยา

"เย่วหยา เจ้าว่าอาจิ่วจะก่อเรื่องหรือไม่"

เสี่ยวเย่วหยาไม่ตอบ นางส่ายหน้าไปมาช้าๆ เพราะนางเองก็เดาใจเสี่ยวจิ่วฮวาไม่ถูกเช่นเดียวกัน

สามวันต่อมาก็เป็นวันที่เสี่ยวจิ่วฮวาต้องไปเรียนที่สำนักศึกษาเหมยฮวาแล้ว นางนั่งรถม้าออกจากจวนไปตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนนางจะไปสาวใช้จากเรือนใหญ่เดินเข้ามาหานางพร้อมกับมอบถุงเงินให้นาง บอกเพียงว่าท่านแม่ให้นางเก็บเอาไว้ใช้ระหว่างทาง เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินทางไปที่สำนักศึกษาทันที เมื่อรถม้าหยุดลง นางก็ก้าวเดินลงมาจากรถม้า ครั้งนี้หูเป่ามากับนางด้วย แต่ทำได้เพียงรอที่ด้านอกสำนักศึกษาไม่สามารถตามเข้าไปด้วยได้

เมื่อเดินเข้ามาถึงในสำนักศึกษาแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็ไปลงทะเบียนรายชื่อเพื่อหาที่นั่งของตนเอง เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นางก็เดินเข้าไปด้านใน พบว่ามีคุณหนูมากหน้าหลายตามาถึงก่อนนางหลายคนแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาไม่รู้จักใครมากนัก เพราะนางไม่ได้คบหาใครเป็นสหายจริงจัง อีกทั้งตอนนี้คนยังมาไม่ครบ นางจึงมีเวลาเดินไปชมต้นไม้ดอกไม้เพื่อฆ่าเวลาได้

ที่สำนักศึกษาเหมยฮวานั้นร่มรื่นไม่น้อย มีต้นไม้และดอกไม้ที่ปลูกเอาไว้เต็มไปหมดแล้ว ยังมีสระน้ำและภูเขาจำลองอีกด้วย เมื่อได้มองดูน้ำที่ใสสะอาดมันทำให้เสี่ยวจิ่วฮวารู้สึกสดชื่นไม่น้อยเลย

ในขณะที่เสี่ยวจิ่วฮวากำลังเดินชมนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย ก็พบกับสตรีน้อยนางหนึ่งที่เดินอยู่ในสวนดอกไม้ สตรีน้อยนางนั้นเมื่อมองเห็นเสี่ยวจิ่วฮวา ก็เอ่ยขึ้นมาทันที

"นี่ๆ เจ้าช่วยข้าหน่อยสิ"

เสี่ยวจิ่วฮวาหันมองซ้ายขวา ก่อนจะยกนิ้วชี้ที่ตนเองคราหนึ่ง สตรีน้อยนางนั้นพยักหน้า ก่อนจะเอ่ย

"เจ้านั่นแหละ!!"

เสี่ยวจิ่วฮวารู้สึกงงงวยไม่น้อย แต่ทว่านางก็ยอมเดินเข้าไปหาสตรีน้อยนางนั้น ก่อนจะเอ่ยถาม

"ให้ข้าช่วยสิ่งใดหรือ"

"คือว่า ข้าเห็นผลทับทิมตรงหน้ามันลูกใหญ่น่ากินมากเลย ข้าจึงจะเอื้อมมือไปเก็บ แต่พื้นตรงนี้ลื่นมาข้าจึงเผลอทำรองเท้าร่วงตกไปในสระน้ำนั่นตอนกำลังจะยื่นมือไปเก็บผลทับทิม ฮือ ข้าไม่มีรองเท้าใส่แล้ว เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่"

เสี่ยวจิ่วฮวามองไปที่รองเท้าข้างนั้น ก่อนจะมีท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อย

แต่เมื่อได้มองเห็นใบหน้าที่ร้อนรนของสตรีน้อยนางนั้นเสี่ยวจิ่วฮวาก็รู้สึกสงสารขึ้นมา ตั้งแต่ย้อนเวลากลับมานางรู้สึกว่าตนเองเริ่มมีจิตใจที่สงสารผู้คนมากขึ้น มองเห็นความเป็นจริงหลายอย่างมากขึ้น เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"อืม ได้ แต่เจ้าต้องช่วยข้าหาไม้ก่อน เอาไม้ยาวๆ หน่อย"

"ได้สิ อ้อ ว่าแต่เจ้าชื่ออันใด ข้าคือหยางซู่ซู่นะ"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม

"เจ้ามาจากตระกูลหยางหรือ?"

"อืม ข้าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านเสนาบดีกรมพระคลังเชียวล่ะ"

เสี่ยวจิ่วฮวาขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาได้

ในปีนั้นนางอายุสิบเจ็ดปี ในวังมีข่าวลือว่าพระชายารองจากตระกูลหยางที่เพิ่งเข้าวังไปเพียงเจ็ดวันเกิดล้มป่วยโดยหาสาเหตุไม่ได้ ไม่นานก็สิ้นพระชนม์ แต่ยามนั้นนางไม่เคยพบหน้าพระชายารองเลยสักคราได้ยินเพียงว่ามาจากตระกูลหยาง ท้ายที่สุดพระชายารองผู้นั้นก็สิ้นพระชนม์ตายจากไป และคนตระกูลหยางก็หายไปจากเมืองหลวงนับแต่นั้น

เมื่อคิดได้อย่างนั้นเสี่ยวจิ่วฮวาก็จ้องมองหยางซู่ซู่อย่างไม่ละสายตาในทันที

พระชายาที่ตายผู้นั้นก็หยางซู่ซู่หรือ!!!

นางพอจะคาดเดาได้ว่าเพราะเหตุใด หยางซู่ซู่ที่แต่งเข้าไปเป็นพระชายารองจึงล้มป่วยและตายจากไป

ย่อมเป็นเพราะทนการทารุณกรรมจากองค์รัชทายาทผู้เป็นสามีไม่ไหว!!!

เสี่ยวจิ่วฮวาใจเต้นแรงอีกทั้งใบหน้าเริ่มซีดเผือด ให้ตายเถอะ นางไม่คิดมาก่อนเลยว่า สตรีน้อยที่บอบบางเช่นนี้จะต้องถูกบุรุษใจอำมหิตเช่นนั้นรังแกจนตาย!!!

เชื้อพระวงศ์ผิงเป่ยช่างเลวร้ายเกินคนจริงๆ เห็นชีวิตคนเป็นผักปลาหรือไรกัน ให้ตายชาตินี้นางก็ไม่แต่งกับเชื้อพระวงศ์เด็ดขาด!!

หยางซู่ซู่ที่ได้เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวานิ่งงันไป จึงยื่นมือมาสะกิดที่แขนของเสี่ยวจิ่วฮวา ก่อนจะเอ่ยถาม

"ว่ายังไง เจ้ายังไม่ตอบข้าเลยนะ"

เสี่ยวจิ่วฮวาพลันได้สติขึ้นมา ก่อนจะเอ่ย

"ข้าชื่อเสี่ยวจิ่วฮวา เป็นบุตรสาวท่านแม่ทัพใหญ่เสี่ยว"

หยางซู่ซู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจได้ในทันที นางพอจะได้ยินเชื่อเสียงของเสี่ยวจิ่วฮวามาบ้างแต่ไม่เคยพบหน้ากัน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของนางเสียหน่อย หากคนผู้นั้นไม่ได้สร้างปัญหาให้กับนาง นางก็ไม่อยากยื่นมือเข้าไปยุ่งเก่ี่ยวหรือร่วมวงหาเรื่องเช่นคุณหนูจากจวนตระกูลอื่น

เสี่ยวจิ่วฮวาไม่อยากจะเสียเวลาอีก เพราะไม่นานคงจะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นเสี่ยวจิ่วฮวาจึงเอ่ยกับหยางซู่ซู่อีกรอบ

"หาไม้มาให้ข้าที"

"ได้สิ เจ้ารอสักครู่"

หยางซู่ซู่เอ่ยจบก็รีบวิ่งไปหาไม้ยาวมาให้เสี่ยวจิ่วฮวา เสี่ยวจิ่วฮวารับมันมาก่อนจะใช้ไม้พยายามเขี่ยๆ รองเท้าของหยางซู่ซู่กลับมา แต่มันไม่ง่ายเลย นางพยายามอย่างไรก็ไม่ได้เสียที หยางซู่ซู่ร้อนใจ จึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"เสี่ยวจิ่วฮวา ข้าจะจับมือเจ้าไว้ เจ้าโน้มตัวไปข้างหน้าเลย แล้วค่อยๆ ใช้ไม้เขี่ยมันมา ข้าจะจับเจ้าไว้แน่นๆ"

"ได้"

หยางซู่ซู่รีบจับมือของเสี่ยวจิ่วฮวาเอาไว้ทันที เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบโน้มตัวไปหมายจะใช้ไม้เขี่ยรองเท้าของหยางซู่ซู่กลับมา แต่ทว่า

ตู้ม!!!

คนทั้งสองร่วงตกน้ำไปพร้อมกันจนน้ำกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงวิ่งเข้ามาดู ก่อนจะพบว่ามีสตรีสองนางกำลังนั่งอยู่ในสระน้ำ ด้วยสภาพทุลักทุเลไม่น้อยเลย แต่ทว่าน้ำไม่ได้ลึกมากนัก หยางซู่ซู่นั่งอยู่ในน้ำ มือหนึ่งถือรองเท้าเอาไว้ ส่วนอีกมือก็กอดรัดเอวบางของเสี่ยวจิ่วฮวาไม่ยอมปล่อย ด้านเสี่ยวจิ่วฮวานั้นกำลังใช้สองมือเกาะขอบสระอยู่ บนศีรษะมีเศษตะไคร้น้ำสีเขียวเกาะอยู่เต็มไปหมด

ให้ตายเถอะ!!! การมาเรียนวันแรกของข้าช่างสุนทรีย์เสียจริง!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 13 ได้สหายใหม่

    เรื่องที่เสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่ตกน้ำนั้นกลายเป็นเรื่องสนุกปากให้คนในสำนักศึกษาเอามาพูดคุยเป็นเรื่องขบขันไม่น้อย บ้างก็ว่าเสี่ยวจิ่วฮวาน่ะชื่อเสียงไม่ดีมานาน อาจจะตั้งใจผลักหยางซู่ซู่ให้ตกน้ำเพราะริษยาแต่เวรกรรมตามทันตนจึงตกลงไปด้วย ช่างเป็นสตรีที่นิสัยเสียจริงๆ ไม่อยู่ในกฎระเบียบชอบทำเรื่องขายหน้าริษยาผู้อื่นโชคดีที่เสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่นำเสื้อผ้าสำรองมาคนละหนึ่งชุดเผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด อาจารย์สำนักศึกษาแม้จะตำหนิแต่ก็ยังเมตตาให้นางเข้าไปเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องรับรองส่วนตัวของสำนักศึกษาได้ เสี่ยวจิ่วฮวาเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินออกมา ก่อนจะพบกับหยางซู่่ซู่ที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน หยางซู่ซู่ยิ้มให้เสี่ยวจิ่วฮวาอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะเอ่ย"อาจิ่ว ข้าขออภัยเจ้าด้วยนะ ข้าพยายามจับเจ้าเอาไว้แล้ว แต่แรงข้าช่างมีน้อยนัก จึงพาเจ้าร่วงตกน้ำไปด้วยกัน"เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย นางมองออกถึงเจตนาของหยางซู่ซู่ว่าไม่ได้ตั้งใจหรือคิดกลั่นแกล้งนางเลยแม้แต่น้อย"ไม่เป็นอันใด รีบไปที่ห้องเรียนกันเถอะ""ช้าก่อนอาจิ่ว!!!""หืม"เสี่ยวจิ่วฮวาหันกลับมามอง ก่อน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 14 ถูกหาเรื่อง

    เมื่อกินอาหารจนอิ่มแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็เช็ดมือจนสะอาด ก่อนจะยื่นตั๋วเงินส่งให้หูเป่านำออกไปจ่าย ส่วนนางเองก็กำลังเดินออกมาจากห้องอาหาร แต่ทว่าเมื่อออกมาเสี่ยวจิ่วฮวาก็ถึงกับตัวแข็งทื่อนั่นมัน จวิ้นอ๋องใช่หรือไม่?ตายละ!! นางนินทาเขาไปซะเยอะเชียวเมื่อครู่นี้เสี่ยวจิ่วฮวาลอบจุดเทียนไว้อาลัยให้ตนเอง ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เขาคงไม่รับรู้สิ่งใดหรอกกระมัง เช่นนั้นต้องไม่เข้าใจในสิ่งที่นางพูดเป็นแน่แต่เมื่อหันไปเห็นคนรับใช้้ข้างกายของเขา เสี่ยวจิ่วฮวาก็หน้าเสียขึ้นมาเล็กน้อยเขาไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าข้ารับใช้ข้างกายของเขาจะไม่รู้เรื่องนี่!!!เติ้งหมิงซีรู้สึกสนุกขึ้นมาเสียแล้วเมื่อได้เห็นใบหน้าเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงก่ำของเสี่ยวจิ่วฮวา ก่อนหน้านี้เขากำชับพ่อบ้านเหรินเอาไว้แล้วว่าให้ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน ปล่อยผ่านนางไปเสีย นางก็แค่สตรีตัวน้อยขี้สงสัยนางหนึ่งเพียงเท่านั้นซ้ำยังเป็นสตรีขี้สงสัยที่งดงามมากเสียด้วยช่างแตกต่างจากในฝันของเขาเสียเหลือเกิน ตอนที่เห็นนางในความฝัน นางน่าสงสารเป็นอย่างมาก เขายังจำแววตาสิ้นหวังของนางได้ไม่เคยลืมแต่ทว่าสตรีน้อยตรงหน้าเขานางนี้กลับดู

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 15 เที่ยวงานโคมไฟ

    หลังจากวันนั้น คุณหนูตระกูลเหลียงก็ไม่กล้ามาหาเรื่องเสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่อีกเลย วันเวลาก็ผ่านไปอย่างสงบสุขเช่นนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง สำนักศึกษาหยุดการเรียนการสอน เสี่ยวจิ่วฮวาได้รับจดหมายจากหยางซู่ซู่ บอกว่าอยากชวนนางไปเที่ยวงานเทศกาลหยวนเซียวด้วยกันในคืนนี้ อีกทั้งยังกำหนดที่นัดพบมาแล้วเรียบร้อย เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นเช่นนั้นก็ตอบตกลงไป อีกทั้งยังชวนเสี่ยวเย่วหยาให้ไปด้วยกันอีกด้วยเสี่ยวฮูหยินเองก็ไม่ได้คัดค้านอันใด หนึ่งปีจะมีงานโคมไฟเพียงหนึ่งครั้ง ให้พวกนางไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อยก็ดี อีกไม่นานเสี่ยวเย่วหยาก็ต้องออกเรือนแล้ว ครั้งนี้นางคงจะเบาใจขึ้น อีกทั้งตระกูลไป๋ก็ไม่รังเกลียดที่เสี่ยวเย่วหยามีสุขภาพไม่สู้ดีมาก่อน นางเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยจะเหลือก็แต่เสี่ยวจิ่วฮวา ที่วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกสนาน ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ถูกอาจารย์เรียกไปทำโทษอีกด้วย นางละปวดหัวเหลือเกิน!!พูดถึงเรื่องแต่งงานของเสี่ยวเย่วหยา เสี่ยวจิ่วฮวาพอรู้มาบ้างว่าไม่นานมานี้คนตระกูลไป๋ได้มาขอวันเวลาตกฟากเพื่อนำไปเชื่อมดวงและดูฤกษ์มงคล พบว่าดวงชะตาของเสี่ยวเย่วหยาและไป๋หลางเข้ากันได้ดี จะนำพาส่งเสริมซึ่งกั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 16 พบเห็นบางอย่าง

    เติ้งเจี๋ยปรายตามองเติ้งหมิงซีด้วยสายตาที่ดูแคลน เดิมทีเขากับเติ้งหมิงซีนับว่าเป็นญาติที่ใกล้ชิดกันโดยสายเลือด บิดาของเติ้งหมิงซีเป็นน้องชายของเสด็จพ่อ และที่สำคัญเขากับเติ้งหมิงซีก็เกิดปีเดียวกันเสียด้วย ห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น ความจริงควรจะสนิทสนมกันถึงจะถูกแต่ผู้ใดอยากจะสนิทสนมกับคนบ้าใบ้ไร้ประโยชน์กันเล่า!!!เติ้งหมิงซีมีหรือจะดูไม่ออกว่าเติ้งเจี๋ยมองตนเองด้วยแววตาที่ดูแคลนและรังเกลียด แต่เขาเคยชินเสียแล้วจึงสามารถเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ได้ เขาชี้มือมาที่เติ้งเจี๋ยก่อนจะปรบมือเปาะแปะ เติ้งเจี๋ยคร้านจะสนทนากับคนบ้าใบ้และตอนนี้เขาต้องการไปตามหาสตรีนางนั้น แต่ทว่าเติ้งหมิงซีกลับยื่นมือของตนมาจับมือของเขา ก่อนจะวางขนมโก๋ลงมาที่ฝ่ามือของเขา เติ้งเจี๋ยโมโหแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างเดือดดาล!!"ข้าไม่กินของเจ้า!! ข้าเป็นถึงองค์รัชายาท เจ้าเป็นแค่อ๋องบ้าใบ้ อย่ามาถูกตัวข้า!!!”เมื่อทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นได้ยินต่างก็พากันคุกเข่าลงเพื่อถวายพระพรเติ้งเจี๋ย เติ้งเจี๋ยหลับตาลงพยายามระงับโทสะ จะมาถวายพระพรทำไมกันยามนี้ เขาตั้งใจจะออกมาเป็นการส่วนตัว โง่งมจริงๆ เพราะเติ้งหมิงซีตัวซวยนี่คน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 17 ล่วงรู้ความลับ

    เสี่ยวจิ่วฮวาคิดจะหันหลังเดินหนี แต่ทว่านางเพิ่งก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียวก็พบว่ามีวัตถุสีเงินวางพาดเอาไว้ที่ลำคอของนาง เมื่อเสี่ยวจิ่วฮวาเหลือบสายตามองดูก็พบว่ามันคือมีดสั้นเล่มหนึ่ง นางเริ่มหายใจติดขัด รู้สึกว่าข้างหูมีสายลมเย็นยะเยือกสายหนึ่งพัดผ่านเข้ามา"เจ้าจงหาเหตุผลดีดีมาโน้มน้าวใจข้า เพื่อไม่ให้ข้าสังหารเจ้าแล้วทิ้งศพเจ้าเอาไว้ในป่าไผ่นี่!!!"เสี่ยวจิ่วฮวากลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ นางก้าวขาไม่ออก ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย เติ้งหมิงซีถึงกับใช้มีดสั้นมาข่มขู่นาง เพราะนางมาล่วงรู้ความลับของเขา!!เช่นนั้นท่าทีบ้าใบ้สติไม่ดีที่นางเห็นก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเขาแกล้งทำใช่หรือไม่เติ้งหมิงซีเมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวาเงียบไม่เอ่ยสิ่งใดตอบก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะลากตัวนางเข้าไปในป่าไผ่ลึกที่ลับตาคนมากกว่าเดิม เสี่ยวจิ่วฮวาเหงื่อแตกพลั่กทั้งที่อากาศไม่ได้้้ร้อนเลยแม้แต่น้อย นางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองเขาเลยด้วยซ้ำ"ท่านอ๋อง สังหารนางเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากนางนำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศ เราจบเห่แน่!!!"พ่อบ้านเหรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับปรายตามองเสี่ยวจิ่วฮวาอย่างไม่เป็นมิตรข้าจำได้ เจ้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 18 เก็บนางเอาไว้เช่นนี้จะดีหรือ

    เมื่อเสี่ยวจิ่วฮวาจากไปแล้ว พ่อบ้านเหรินก็รีบเดินเข้ามาหาเติ้งหมิงซีทันที"ท่านอ๋อง จะปล่อยนางไปเช่นนี้จริงๆ หรือ หากนาง...""นางรู้ว่าควรทำเช่นไร อีกอย่างนางเป็นน้องสาวของอาไป่ หากข้าทำสิ่งใดกับนางในตอนนี้อาจไม่ส่งผลดีต่อแผนที่เราวางเอาไว้มาหลายปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลย การแตกหักกับอาไป่ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ"พ่อบ้านเหรินที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง นึกโมโหนางมารน้อยตนนั้นขึ้นมาไม่หายด้านเสี่ยวจิ่วฮวานั้นเมื่อถูกปลดปล่อยจากพันธนาการที่น่าหวาดกลัว นางก็รีบเร่งฝีเท้ากลับมาที่รถม้าทันที เมื่อมาถึงก็พบกับเสี่ยวเย่วหยาและไป๋หล่างที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย เสี่ยวเย่วหยาหันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวากลับมาแล้ว จึงรีบเดินเข้ามาหาทันที"อาจิ่ว เจ้าหายไปที่ใดมา ข้ากังวลใจแทบแย่ หากเจ้ายังไม่กลับมาอีกเพียงครึ่งเค่อข้าจะไปแจ้งทางการแล้ว"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าพวกท่านเดินหายเข้าไปในป่าไผ่ จึงไปตามดู แต่พอไปถึงก็ไม่พบผู้ใดแล้ว"เสี่ยวเย่วหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่่อนจะเอ่ย"ข้ากลับออกมาสั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 19 พบคนที่ไม่อยากพบ

    ด้านเสี่ยวจิ่วฮวานั้นเมื่อกลับมาถึงจวนนางก็รีบอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ก่อนจะเดินมาทิ้งกายลงนอนที่เตียง แต่ไม่ว่านางจะข่มตานอนเท่าใดก็นอนไม่หลับ คำขู่ของเติ้งหมิงซีมันทำให้นางกระวนกระวายใจ แต่นั่นไม่ได้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นางกลัวจนนอนไม่หลับ แต่มันเป็นเพราะเสียงของเขาต่างหาก เสียงของเขาที่มันทำให้นางรู้สึกกระวนกระวายมันคุ้นเคยเหลือเกิน แต่นึกเท่าใดกลับนึกไม่ออกในความทรงจำนางลืมผู้ใดไปกันนะ!!เสี่ยวจิ่วฮวานอนพลิกไปพลิกมา จนเกือบฟ้าสางนางจึงผล็อยหลับไปได้ตื่นหนึ่ง ยามเช้าเมื่อตื่นขึ้นมานางก็ปวดหัวยิ่งเพราะนอนไม่เต็มอิ่ม เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จและไปคารวะมารดาแล้ว นางจึงเดินทางไปที่สำนักศึกษาในทันทีเมื่อมาถึงที่สำนักศึกษา เสี่ยวจิ่วฮวาก็พบว่าวันนี้หยางซู่ซู่ไม่ได้มาเรียน อาจจะเพราะมารดานางป่วยจึงต้องอยู่ดูแล เสี่ยวจิ่วฮวาจึงคิดว่าจะให้คนนำของฝากไปเยี่ยมมารดาของหยางซู่ซู่หลังจากเลิกเรียนเสียหน่อยตอนที่ก้าวเดินลงมาจากรถม้า นางมองเห็นคนท่าทีแปลกๆ ที่มองนางอยู่ในที่ลับ เสี่ยวจิ่วฮวาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ให้ตายเถอะ คนบ้าผู้นั้นส่งคนมาจับตาดูนางจริงๆ ด้วยเช่นนี้ต่อไปหากนางจะทำสิ่งใดก็คงไม่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 20 ทางหนีทีไล่

    วันนี้หลังจากเสี่ยวจิ่วฮวาเลิกเรียนแล้วจึงรีบกลับมาที่จวนในทันที ระหว่างทางกลับนางยังไม่ลืมแวะไปซื้อขนมและอาหารอร่อยๆ กลับมาอีกหลายอย่าง เมื่อกลับมาถึงจวนก็รีบตรงไปที่เรือนใหญ่ในทันที เมื่อมาถึงก็ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยสนทนากันอยู่ในเรือน สาวใช้ที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวากลับมาแล้ว จึงรีบเข้าไปรายงานคนในเรือนทันทีเสี่ยวจิ่วฮวาก้าวเดินเข้ามาในเรือนใหญ่ ตอนนี้พบว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า อีกทั้งยังมีของพระราชทานมากมายที่วางอยู่ รวมทั้งเครื่องประดับผ้าไหมแพรพรรณ เสี่ยวฮูหยินที่เห็นว่าบุตรสาวของตนกลับมาแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม"อาจิ่ว มาทำความเคารพบิดากับพี่ชายเจ้าเร็วเข้า ไม่ได้เจอกันร่วมสองปีแล้ว ท่านพี่ดูสิเจ้าคะ อาจิ่วเติบโตและรู้ความขึ้นมากแล้ว"เสี่ยวฮูหยินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปิติยินดี แม่ทัพใหญ่เสี่ยวจ้องมองเสี่ยวจิ่วฮวาบุตรสาวของตน ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เสี่ยวจิ่วฮวาเดินเข้าไปทำความเคารพบิดาและพี่ชาย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม"คารวะท่านพ่อและพี่ชายใหญ่เจ้าค่ะ"เสียวไป่ฟงมองดูเสี่ยวจิ่วฮวาก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนหน้านี้คล้ายว่าน้องสาวของเขาจะไม่ได้อยู่ในกฎระเบียบ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09

Bab terbaru

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 58 เคียงคู่ตลอดกาล (ตอนจบ)

    รัชศักหมิงซีปีที1เติ้งหมิงซีขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น เขาแต่งตั้งไป๋หล่างให้ขึ้นเป็นเสนาบดีกรมขุนนางต่อจากบิดาของตน คอยตรวจสอบความประพฤติไม่ชอบของพวกขุนนางและจัดการได้ตามกฎหมายในทันที ส่วนเสี่ยวไป่ฟงนั้นเติ้งหมิงซีแต่งตั้งเป็นแม่ทัพใหญ่เสี่ยวแทนบิดาเพราะว่ายามนี้แม่ทัพใหญ่เสี่ยวแก่ชรามากแล้วและอยากวางมือเสียทีจึงให้เสี่ยวไป่ฟงรับหน้าที่แม่ทัพใหญ่เสี่ยวต่อจากตน และเติ้งหมิงซียังมอบตำแหน่งท่านโหวให้แก่จวนตระกูลเสี่ยวอีกด้วย เท่ากับว่ายามนี้แม้อดีตแม่ทัพใหญ่เสี่ยวจะวางมือแต่พราะมีความดีความชอบมาช้านานจึงได้ตำแหน่งท่านโหว ยังคงมีผู้คนนับถือ และตำแหน่งนี้สามารถสืบทอดต่อทายาทในตระกูลได้อีกด้วยด้านหลี่จิ่งนั้น ในการสอบเค่อจวี่ครั้งนี้ เขาสอบได้ตำแหน่งจอหงวน ได้เข้ามาทำงานในราชสำนักตามที่วาดหวังเอาไว้ โดยเติ้งหมิงซีให้ไปลองทำงานที่สำนักฮั่นหลินดูก่อน หากหลี่จิ่งมีความสามารถจริงย่อมได้เลื่อนตำแหน่งตามความเหมาะสมหยางซู่ซู่เองก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนเสี่ยวเย่วหยานั้นคลอดบุตรชายอย่างราบรื่น แต่เพราะว่าร่างกายอ่อนแอจึงต้องพักฟื้นสักระยะ เสี่ยวจิ่วฮวาสั่งให้คนนำยาบำรุงไปมอบให้เสี่ยวเย่วหยาหลายอย่าง

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 57 กรงขังในจิตใจ

    สายลมพัดพาความหนาวเย็นเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า เสี่ยวจิ่วฮวายามนี้กำลังนอนอยู่บนทะเลหิมะน้ำแข็งที่หนาวจับใจ นางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ พบว่ายามนี้ตนเองนอนอยู่ที่เดิมที่เคยตายเมื่อชาติที่แล้ว หิมะทับถมเป็นกองสูงอยู่บนตัวนางข้าฝันหรือไร!!นางครุ่นคิดด้วยความหวาดหวั่น ก่อนจะคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นางถูกเติ้งเจี๋ยจับไป ด้วยความที่หวาดกลัวจนสติแตกและถูกด้านมืดในจิตใจครอบงำ นางจึงสังหารเขาอย่างเลือดเย็นหลังจากนั้นนางก็สลบไปนางตื่นขึ้นมาและพบว่าตนเองนอนอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น หิมะตกโปรยปรายลงมาไม่หยุดช่างหนาวเหลือเกิน!!เสี่ยวจิ่วฮวาหลับตาลง พยายามลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหวังว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครานางจะออกจากที่นี่ไปได้แต่มันกลับไม่ใช่ที่นี่เปรียบเสมือนกรงขังที่ไร้ทางออก พาให้นางจมดิ่งลงลงสู่ห้วงที่ลึกที่สุดในจิตใจของตนเองเสี่ยวจิ่วฮวาพยายามลุกขึ้นก่อนจะเดินโซเซไปตามทางที่มืดทึบ หนทางช่างมืดเหลือเกินมองไปไม่เห็นสิ่งใด ฉับพลันนางได้ยินเสียงของเติ้งหมิงซีเอ่ยเรียกชื่อนางมาตามสายลม"อาจิ่ว เจ้ารีบฟื้นเร็วเข้า ข้ารอเจ้าอยู่นะ""อาหมิง!!! อาหมิงช่วยข้าด้วย ข้าออกไปไม่

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 56 หลับใหล

    เติ้งหมิงซีอุ้มเสี่ยวจิ่วฮวาเข้ามาในรถม้า ก่อนจะสั่งให้คนหาผ้าชุบน้ำสะอาดมาให้เขา ก่อนจะบรรจงเช็ดตามใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยนก่อนหน้านี้เขาพยายามไล่ตามเติ้งเจี๋ยอย่างไม่ลดละ แต่เติ้งเจี๋ยกลับรวดเร็วยิ่งกว่า เพียงไม่นานก็หายไปจากสายตาของเขา ในขณะที่กำลังร้อนรนและตามหาเสี่ยวจิ่วฮวาอยู่นั้นก็ได้พบกับเจียงซวี่เสียก่อนเจียงซวี่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดมากมาย บอกเพียงให้เขาตามไป ก่อนจะพบว่าเติ้งเจี๋ยพาเสี่ยวจิ่วฮวามาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้เติ้งเจี๋ยลอบซื้อเอาไว้ คาดว่าน่าจะซื้อเอาไว้เพื่อลักลอบทำเรื่องบางอย่างเจียงซวี่บอกเพียงว่าคนตระกูลเจียงถูกทหารของกบฏสังหารเกือบหมด เหลือรอดเพียงไม่กี่คน เติ้งหมิงซีถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ครั้งนี้บิดาของฉินฮองเฮาคงแค้นเติ้งเจี๋ยมาก ถึงกับเข้าฝั่งกบฏและนัดแนะให้ทหารกบฏเข้ามาสังหารคนของเติ้งเจี๋ยล้างตระกูลและทำลายบ้านเมืองเช่นนี้ ความแค้นมันน่ากลัวมากจริงๆแต่อย่างไรก็ต้องขอบใจเจียงซวี่ที่ช่วยเหลือเขาในครั้งนี้จนได้พบกับเสี่ยวจิ่วฮวา ทั้งที่ตนเองก็มีสภาพย่ำแย่ไม่ต่างกันภาพที่เขาเห็นก่อนหน้านี้สร้างความตกใจให้แก่เขาไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าเสี่ยวจิ่วฮวาจะสังหาร

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 55 จุดจบเติ้งเจี๋ย

    รถม้าเคลื่อนไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืด เสี่ยวจิ่วฮวาพยายามไม่มองหน้าเติ้งเจี๋ย ส่วนบุรุษตรงหน้าก็เอาแต่จ้องมองนางอย่างไม่ลดละ สายตานั่นมันทำให้เสี่ยวจิ่วฮวาอึดอัด ทั้งอึดอัดทั้งรังเกียจและหวาดหวั่นในคราวเดียวกันภาพที่เขาทำกับนางในชาติก่อนมันสร้างบาดแผลในใจให้แก่นางอย่างไม่อาจลืมเลือนทำให้นางกลัวการนอนกับสามีตนเอง นางเหมือนคนที่สติไม่อยู่กับตัวต้องคอยฟวาดระแวงลืมอดีตไปจากใจไม่ได้นางเกลียดเติ้งเจี๋ย!!เติ้งเจี๋ยที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวาไม่สนใจตน จึงยื่นมือมาจับปลายคางของนางให้หันมามองเขา เพราะเสี่ยวจิ่วฮวาขัดขืนเขาจึงออกแรงกับนางอย่างไม่ปรานีปราศัย"เกลียดข้ามากนักหรือ อีกไม่นานข้าก็จะได้ชื่อว่าเป็นสามีของเจ้าแล้ว!!!"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเอ่ยกับเติ้งเจี๋ยด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน"ข้าไม่ใช่ภรรยาของเจ้า ข้ามีสามีแล้ว คนต่ำช้าเช่นเจ้าคิดจะแย่งภรรยาผู้อื่นไม่อับอายบ้างหรือไร ถุย!!!"เสี่ยวจิ่วฮวาถุยน้ำลายใส่ใบหน้าของเติ้งเจี๋ยอย่างไม่แยแส ทว่าเติ้งเจี๋ยกลับไม่โกธร เขาใช้ปลายนิ้วมือขึ้นเช็ดน้ำลายของนาง ก่อนจะอ้าปากงับนิ้วของตนและดูดดื่มกับน้ำลายของนางที่เปื้อน

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 54 ถูกจับตัว

    พ่อบ้านเหรินพาเสี่ยวจิ่วฮวาวิ่งมาจนถึงด้านนอกจวนอ๋อง ก่อนจะวิ่งฝ่าความมืดลัดเลาะไปตามเส้นทางลับก่อจจะมาถึงยังรถม้าที่จอดอยู่ข้างร้านเครื่องประทินโฉม ยามนี้ทหารกบฏถูกท่านอ๋องควบคุมได้แล้ว ทางจึงสะดวกขึ้นมา เสี่ยวจิ่วฮวาหันมามองหูเป่าและเหล่าสาวใช้ที่วิ่งหนีตามกันมา ก่อนจะเอ่ย"รีบไปกันเถอะ!!ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องจะต้องรับมือได้"เมื่อเอ่ยจบนางก็กำลังจะก้าวขึ้นรถม้า แต่ทว่ากลับมีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาสังหารสาวใช้ของนางตกตายไปหลายคน เสี่ยวจิ๋วฮวารีบหันกลับไปมอง ก่อนจะอุทานออกมา"เติ้งเจี๋ย!!!"นี่เขายังไม่ตายหรือ แล้วหนีรอดมาได้เช่นไร!!!เติ้งเจี๋ยหนีออกมาพร้อมกับองค์รักษ์ลับของตน เป้าหมายของเขาคือตามหาเสี่ยวจิ่วฮวาให้พบ ยามนี้เขาได้พบกับนางแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นเติ้งเจี๋ยจึงก้าวเข้ามาหาเสี่ยวจิ่วฮวาในทันที แต่ทว่าพ่อบ้านเหรินกลับสั่งให้องค์รักษ์ที่ติดตามมาด้วย ขวางทางเขาเอาไว้ เติ้งเจี๋ยปรายตามองพ่อบ้านเหรินก่อนจะเอ่ย"หากไม่อยากตายก็ส่งนางมา นางเป็นของข้า!!!"พ่อบ้านเหรินส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเอ่ย"ฝ่าบาท พระองค์พูดผิดแล้ว นางคือพระชายาของท่านอ๋อง เป็นนายหญิงของข้า ท่านต่างหากที่ต้องไ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 53 กลียุค

    รัชศก เจี๋ย ปีที่1หลังจากที่คัดเลือกสาวงามเข้าวังไปไม่นาน ก็มีข่าวออกมาว่ามีขุนหลายกลายตระกูลที่เกิดเรื่อง บ้างก็ถูกสังหารทิ้ง บ้างก็หลีกหนีออกไปจากเมืองหลวง บางครอบครัวที่ยากจนก็ถูกทหารทุบตีเพราะมาร้องทุกข์ต่อศาลต้าหลี่ว่าบุตรสาวตกตายอย่างไม่เป็นธรรมข้าวของเครื่องใช้แพงจนไม่อาจจับต้อง สินค้าบางอย่างหายากยิ่ง ข้าวสารแทบจะไม่มีเหลือให้กินให้ใช้ ราษฎรลำบากยากแค้น ในขณะที่เติ้งเจี๋ยซึ่งอยู่ในวังหลวงกลับใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญบนความทุกข์ยากของราษฎรอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านคิดว่าเขาไม่เจ็บแค้นที่มองเห็นราษฎรทุกข์ยากหรือ ทุกครั้งเขาแอบส่งคนไปช่วยเหลือครอบครัวเหล่านั้นครั้งแล่วครั้งเล่า ต้องทนเห็นมารดาของพวกนางกรีดร้องเพราะต้องสูญเสียบุตรสาวอันเป็นที่รัก บิดาเป็นบ้าหลังจากที่ทราบว่าบุตรสาวที่ถูกคัดเลือกเข้าวังหลวงต้องมาตายจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย ชาวบ้านร้องไห้เพราะความอดอยาก เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งเมืองหลวงถึงเวลาแล้วเติ้งเจี๋ยที่เจ้าจะต้องตายเสียที!!!กลางดึกคืนนั้นเสี่ยวจิ่วฮวาถูกปลุกขึ้นมากลางดึก นางงัวเงียลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าเป็นเติ้งหมิงซีนั่นเอง"อาหมิง ปลุกข้าทำไมกัน"เสี่ยวจ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 52 รนหาที่ตาย

    จากการสืบหาความจริงของไป๋หล่างและองค์รักษ์ลับที่แฝงตัวอยู่ในวังหลวงของจวนอ๋อง ท้ายที่สุดเพียงสามวันก็สืบพบว่าเป็นฝีมือของผู้ใด"เป็นฝีมือของฉินฮองเฮาอย่างนั้นหรือ""พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"เติ้งหมิงซีที่ได้ยินเช่นนั่นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง สตรีนางนั้นถึงกับกล้าเล่นไม่ซื่อกับของขวัญที่เติ้งเจี๋ยมอบให้เสียวจิ๋วฮวา ช่างอาจหาญไม่เบาเลยอยู่บนตำแหน่งฮองเฮาดีดีไม่ชอบ ได้!!! ข้าจะสงเคราะห์เจ้าเองด้านเสี่ยวจิ่วฮวาเองก็พอจะจำฉินฮองเฮานางนั้นได้ ก่อนหน้านี้สตรีผู้นี้คือพระชายาเอกของเติ้งเจี๋ยไม่เคยคิดเลยว่าฉินฮองเฮาจะลงมือกับนางเช่นนี้ หรือว่าฉินกุ้นเฟยจะรู้ว่าเติ้งเจี๋ยคิดเช่นไรกับนางจึงต้องการสังหารนางทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามหัวใจอย่างนั้นหรือเสี่ยวจิ่วฮวาที่คิดได้เช่นนั้นแววตาก็เย็นเยียบ นางไม่เคยอยากมีปัญหากับผู้ใด แต่คนพวกนั้นกลับนำปัญหามาให้นาง ถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเช่นนี้มันออกจะเลือดเย็นไปหน่อยกระมังเติ้งหมิงซีที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวานิ่งเงียบไป ก็รีบเอ่ยกับนางอย่างเป็นห่วง"เจ้าไม่ต้องกลัว คืนนี้ข้าจะส่งคนไปลอบสังหารนาง คนของข้าทำงานไม่ผิดพลาดแน่ ต่อไปนี้นางจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าไ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 51 ลอบสังหาร

    หลังจากที่ฮ่องเต้เติงผิงอันสวรรคตไปแล้ว เหตุการณ์หลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย เจียงฮองเฮายามนี้ได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจียงไทเฮา เสพสุขอำนาจวาสนาไม่จบไม่สิ้น ส่วนเติ้งเจี๋ยก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ยามนี้ยังอยู่ในการไว้ทุกข์ แต่มันก็เป็นเพียงการสร้างฉากบังหน้าขึ้นมาเพียงเท่านั้น ผู้ใดจะรู้ ภายในตำหนักมังกรสวรรค์ยามนี้มีศพของสตรีคนแล้วคนเล่าถูกหามออกไป บางคนไม่ตายก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเป็นเช่นนี้ทุกวันจนสร้างความหวาดหวั่นให้แก่เหล่าสตรีในวังหลวงไม่น้อย นางสนมในอดีตฮ่องเต้ที่ยังสาวบางคนถูกเติ้งเจี๋ยเรียกมาปรนนิบัติเขาไม่สนใจกฎระเบียบอันใดเลยแม้แต่น้อย ส่วนเจียงไทเฮาก็ไม่สนใจสิ่งใดเพราะคิดว่าสิ่งไหนเป็นความสุขของบุตรชายนางก็ไม่อยากจะขัดขวาง"ฮองเฮาเพคะ ทรงเสวยสิ่งใดบ้างเถิดเพคะ"เสียงของนางกำนัลเอ่ยขึ้นมาด้วยความจนใจ ก่อนจะวางอาหารลงตรงหน้าฉินฮองเฮาฉินฮองเฮานางนี้เดิมทีคือพระชายาเอกของเติ้งเจี๋ย ก่อนหน้านี้นางหมายมั่นเอาไว้ว่าอำนาจจะต้องอยู่ในมือของนาง เติ้งเจี๋ยจะต้องรักใร่โปรดปราณนางไปตลอดชีวิต อีกอย่างนางกับเติ้งเจี๋ยเองก็มีรสนิยมในเรื่องเช่นนั้นเหมือนกัน เขาชอบกระทำควา

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 50 กรรมตามสนอง

    เสี่ยวจิ่วฮวาหลังจากแต่งงานก็เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเก่าครั้งหนึ่ง เมื่อกลับมาเยี่ยมจวนครั้งนี้นางพบว่ามารดาของนางไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดเท่าแต่ก่อนอีก เพราะได้รู้แล้วว่าความจริงเติ้งหมิงซีไม่ได้เป็นบ้าจริงๆ มารดากำชับนางหลายประโยคให้ระวังตนเองให้ดีและอย่าละเลยหน้าที่ของภรรยาเป็นอันขาด นางพยักหน้ารับและจดจำคำสอนของมารดาเอาไว้ทุกคำยามนี้เข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาวแล้ว อากาศจึงค่อนข้างเย็นไม่น้อยเลย หิมะเริ่มตกโปรยปรายมากขึ้น วันนี้เสี่ยวจิ่วฮวาจึงมาทำซุปเนื้อในโรงครัวกินเพื่อคลายความหนาวพ่อบ้านเหรินที่เดินมาพอดี ก็ปรายตามองเสี่ยวจิ่วฮวาคราหนึ่ง เดิมทีเขาไม่ชอบเสี่ยวจิ่วฮวาแต่เพราะคำสั่งของเติ้งเจี๋ยก่อนหน้านี้ที่กำชับเขาว่าห้ามทำให้นางลำบากใจ เขาจึงไม่อาจล่วงเกินนางได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเดินเข้ามาหานางก่อนจะเอ่ย"พระชายา หากทรงต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องลงมาทำด้วยตนเองเช่นนี้ หากเกิดสิ่งใดขึ้น หรือเกิดความเสียหายในจวนอ๋อง เกรงว่าท่านคงรับผิดชอบไม่ไหว"เขาเอ่ยอย่างเย็นชา เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"ข้าจะทำซุปเนื้อกินเสียหน่อย ให้สา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status