Share

บทที่ 13 ได้สหายใหม่

last update Last Updated: 2025-04-06 09:07:57

เรื่องที่เสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่ตกน้ำนั้นกลายเป็นเรื่องสนุกปากให้คนในสำนักศึกษาเอามาพูดคุยเป็นเรื่องขบขันไม่น้อย บ้างก็ว่าเสี่ยวจิ่วฮวาน่ะชื่อเสียงไม่ดีมานาน อาจจะตั้งใจผลักหยางซู่ซู่ให้ตกน้ำเพราะริษยาแต่เวรกรรมตามทันตนจึงตกลงไปด้วย ช่างเป็นสตรีที่นิสัยเสียจริงๆ ไม่อยู่ในกฎระเบียบชอบทำเรื่องขายหน้าริษยาผู้อื่น

โชคดีที่เสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่นำเสื้อผ้าสำรองมาคนละหนึ่งชุดเผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด อาจารย์สำนักศึกษาแม้จะตำหนิแต่ก็ยังเมตตาให้นางเข้าไปเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องรับรองส่วนตัวของสำนักศึกษาได้ เสี่ยวจิ่วฮวาเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินออกมา ก่อนจะพบกับหยางซู่่ซู่ที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน หยางซู่ซู่ยิ้มให้เสี่ยวจิ่วฮวาอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะเอ่ย

"อาจิ่ว ข้าขออภัยเจ้าด้วยนะ ข้าพยายามจับเจ้าเอาไว้แล้ว แต่แรงข้าช่างมีน้อยนัก จึงพาเจ้าร่วงตกน้ำไปด้วยกัน"

เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย นางมองออกถึงเจตนาของหยางซู่ซู่ว่าไม่ได้ตั้งใจหรือคิดกลั่นแกล้งนางเลยแม้แต่น้อย

"ไม่เป็นอันใด รีบไปที่ห้องเรียนกันเถอะ"

"ช้าก่อนอาจิ่ว!!!"

"หืม"

เสี่ยวจิ่วฮวาหันกลับมามอง ก่อนจะพบว่าหยางซู่ซู่กำลังยื่นขนมเปี้ยะให้นางชิ้นหนึ่ง ขนมนั้นถูกซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อทั้งสองข้างและในห่อหนังสือ เสี่ยวจิ่วฮวาจ้องมองด้วยความขบขัน ก่อนจะเอ่ย

"เจ้ามาเรียนหรือมากินกันแน่เนี่ย"

"กองทัพต้องเดินด้วยท้อง กินสิ ข้ามีอีกเยอะเชียว"

เสี่ยวจิ่วฮวายื่นมือไปหยิบขนมเปี๊ยะมาจากหยางซู่ซู่ก่อนจะกัดกินคำหนึ่ง พบว่ารสชาติไม่เลวเลย หยางซู่ซู่ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"ข้าได้ยินคนพูดถึงเจ้าในทางไม่ดีตลอดเลย แต่วันนี้ที่ได้พบเจ้าข้ารู้แล้วว่าเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น อาจิ่ว เรามาเป็นสหายกันเถอะ ข้าจะคบหากับเจ้า ใครต่อว่าเจ้า ข้าจะทุบตีมันเอง!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาชะงักไปชั่วขณะ ตั้งแต่ชาติก่อนนางก็ไม่เคยมีใครอยากคบหาเป็นสหายด้วยเลยแม้แต่คนเดียว นางไม่รู้จักคำว่าสหาย ไม่เคยมีความจริงใจกับผู้ใด แต่วันนี้หยางซู่ซู่กลับเอ่ยปากขอเป็นสหายกับนาง และยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้านาง

"มาเร็ว เกี่ยวก้อยเป็นสหายกัน สุขทุกข์ไม่แยกจาก ตกน้ำไปด้วยกัน อิอิ!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็เผลอหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยิื่นนิ้วก้อยของตนไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของหยางซู่ซู่และยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านางก็ใจคอไม่ดีขึ้นมา

ก่อนที่จะถึงเวลาคัดเลือกพระชายารองขององค์รัชทายาท อาจจะพอมีหนทางช่วยสหายคนแรกคนนี้ของนางให้ปลอดภัยได้

คงต้องลองดูสักตั้งหนึ่ง!!

ทั้งสองเดินหลับมาที่สำนักศึกษา โชคดีที่ที่นั่งของเสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่อยู่ใกล้กันพอดี ทำให้คนทั้งสองพูดคุยกันได้มากขึ้น เสี่ยวจิ่วฮวาเริ่มชอบหยางซู่ซู่มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว หยางซู่ซู่ทั้งพูดเก่งและที่สำคัญชอบกินเหมือนกับนาง หยางซู่ซู่เองก็มักจะอาศัยช่วงเวลาที่อาจารย์เผลอไผลแอบยัดของกินใส่มือนางเป็นระยะ

การเรียนวันนี้เป็นเพียงพื้นฐานเริ่มต้นก่อน ไม่ได้มีเนื้อหาหลักสำคัญอันใดมากนัก ผ่านไปครึ่งวันการสอนก็สิ้นสุดลง เสี่ยวจิ่วฮวาสังเกตเห็นว่ามีสายตาของคุณหนูที่เรียนในห้องเดียวกันมองนางด้วยความดูแคลน แต่เสี่ยวจิ่วฮวาก็คร้านจะใส่ใจ กลับเป็นหยางซูซู่ที่โมโหแทนนาง

หลังจากเลิกเรียนคนทั้งสองก็เดินออกมาจากสำนักศึกษาเหมยฮวา หยางซู่ซู่ยิ้มให้เสี่ยวจิ่วฮวา ก่อนจะเอ่ย

"พรุ่งนี้พบกันใหม่ ข้าจะนึ่งซาลาเปาไส้เนื้อมาฝากเจ้า"

"อืม พรุ่งนี้ข้าจะทำเกี้ยวต้มมาแบ่งเจ้ากินเช่นกัน"

"ดีดี เจ้ากลับดีดีล่ะ"

"เช่นกันนะ"

เสี่ยวจิ่วฮวาโบกมือให้หยางซู่ซู่ ก่อนจะเดินมาที่รถม้าของตน หูเป่าที่เห็นอย่างนั้นก็รีบเข้ามาช่วยเจ้านายถือของ เสี่ยวจิ่วฮวาปวดเมื่อยไปทั้งตัว อีกทั้งยังเริ่มหิวขึ้นมาอีก นางจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"ข้าหิว แวะมาที่ภัตตาคารเซียงหลงก่อนเถิด บอกเสี่ยวเอ้อร์ว่าเอาห้องด้านบนสุดติดริมหน้าต่าง"

"เจ้าค่ะคุณหนู"

รถม้าขับมาเรื่อยๆ ก่อนจะจอดที่หน้าภัตตาคารเซียงหลง เสี่ยวจิ่วฮวาก้าวลงมาจากรถม้า ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อร์เข้ามาถามไถ่ว่านางอยากนั่งที่ไหน เสี่ยวจิ่วฮวาที่หิวมากแล้วจึงรีบบอกว่าต้องการห้องติดริมหน้าต่าง ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบน และสั่งอาหารทันที

ในอีกด้านหนึ่ง รถม้าของเติ้งหมิงซีขับผ่านภัตตาคารเซียงหลงพอดี เขาเห็นเสี่ยวจิ่วฮวาเข้าเสียก่อน จึงสั่งให้พ่อบ้านเหรินหยุดรถม้าทันที พ่อบ้านเหรินหันมามองเจ้านายของตน ก่อนจะเอ่ยกระซิบ

"ท่านอ๋อง ต้องการสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ หรือต้องการตรวจบัญชีรายได้ ไว้บ่าวจะให้คนนำมาไปส่งให้ที่จวนอ๋อง"

เติ้งหมิงซีไม่ตอบ เขาทำภาษามือบอกว่าต้องการจะเข้าไปกินอาหารที่ภัตตาคารเซียงหลง ยามนี้อยู่นอกจวนระมัดระวังไว้ก่อนย่อมเป็นการดี

พ่อบ้านเหรินที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยถามทันที

“ท่านอ๋อง เดิมทีภัตตาคารเซียงหลงก็มีท่านเป็นเจ้าของอย่างลับๆ หลายปีมานี้ทำเงินไม่น้อย หากอยากกินส่งใด บ่าวจะสั่งให้คนนำมาให้ จะได้ไม่เป็นที่จับตามอง”

เติ้งหมิงซีปรายตามองพ่อบ้านเหรินก่อนจะส่งภาษามือว่าอย่าพูดมาก ให้ไปทำสิ่งใดก็ไปทำ พ่อบ้านเหรินจึงรีบทำตามคำสั่งทันที

ภัตตาคารเซียงหลงนี้มีเขาเป็นเจ้าของ แต่คนภายนอกรู้เพียงว่าเป็นของคหบดีผู้หนึ่งที่ไม่ชอบเปิดเผยตัวเพราะกลัวคนจะมาหลอกถามสูตรลับอาหาร ที่นี่มีอาหารรสชาติดีมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งทำเงินอีกที่หนึ่งของเขา นอกจากภัตตาคารเซียงลงแล้ว เติ้งหมิงซียังมีกิจการอีกหลายที่ ซึ่งเปิดในนามของคนอื่น ซึ่งเป็นคนของเขาที่ไว้ใจได้คอยดูแล

เมื่อรถม้าหยุดลงเติ้งเมิงซีจึงเดินลงมาจากรถม้าและมุ่งหน้าเข้ามาในภัตตาคารเซียงหลงทันที เมื่อเขาเข้ามาก็เป็นที่จับตามองของคนในภัตตาคารทันที มีทั้งสายตาสงสารเทนา สายตาสมเพชในคราวเดียวกัน บ้างก็ซุบซิบนินทาว่า

ดูสิสภาพจะเดินยังไม่ไหว ต้องให้ข้ารับใช้คอยพยุง ยังจะลำบากออกมากินอาหารด้านนอกจวนอีก ไม่อับอายบ้างหรือไร

บ้างก็ว่าเขาเป็นอ๋องเจ้าสำราญ ชอบไปที่นั่นที่นี่ บางคราก็ไปสร้างความขายหน้าไปทั่ว ช่างเถิด ถือว่าวันนี้ได้ชมเรื่องสนุก

เติ้งหมิงซีพบเห็นท่าทีเช่นนี้จนเคยชินเสียแล้วจึงไม่ได้ใส่ใจ พ่อบ้านเหรินพยุงเขาเข้ามาในภัตตาคารก่อนจะบอกว่าต้องการห้องชั้นบนสุด เสี่ยวเอ๋อร์บอกว่าโชคดีทีเหลืออีกหนึ่งห้องพอดี จึงนำทางเขาขึ้นไป พ่อบ้านเหรินพยุงเติ้งหมิงซีเดินไปช้าๆ ระหว่างทางเขาก็ตบมือเปาะแปะ ชี้นั่นชี้นี่ไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเข้ามาในห้องอาหาร เขาจึงเลิกแสแสร้งแกล้งทำ แล้วหันไปเอ่ยถามพ่อบ้านเหริน

"ห้องข้างๆ มีคนอยู่หรือ”

"ทูลท่านอ๋องเหมือนว่าจะเป็นคุณหนูนางหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่านางสั่งอาหารหลายสิบอย่าง ให้ตายเถอะ นั่นใช่กินล้างกินผลาญหรือไม่"

เติ้งหมิงซีไม่ตอบ เขาสั่งให้พ่อบ้านเหรินไปสั่งอาหาร และห้ามใครเข้ามารบกวน

ด้านเสี่ยวจิ่วฺฮวาที่ถูกพ่อบ้านเหรินกล่าวหาว่ากินล้างกินผลาญก็กำลังสำราญกับอาหารตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี นางคีบอาหารขึ้นมากินคำหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"หูเป่า เจ้าเอาไปแบ่งกับคนขับรถม้ากิน แล้วสั่งเพิ่มอีกสองชุดกลับไปฝากท่านแม่และเสี่ยวเย่วหยา"

"เจ้าค่ะคุณหนูรอง"

เมื่อหูเป่าออกไปแล้ว นางก็ตั้งใจกินอาหารอย่างมีความสุข ด้านเติ้งหมิงซีที่อยู่ห้องข้างกันนั้นก็กำลังนั่งดื่มชา เมื่อมีเสียงเคาะหน้าประตูเขาก็กลับมามีท่าทีเหมือนเป็นคนบ้าใบ้เช่นเดิม พร้อมกับมองดูเสี่ยวเอ้อร์นำอาหารมาวางไว้ให้อย่างสนใจใคร่รู้ แม้ที่นี่จะเป็นกิจการของเขา แต่คนงานบางคนย่อมไม่รุ้ว่าเขาคือใคร เช่นนั้นเขาจึงระมัดระวังตัวทุกฝีก้าว

พ่อบ้านเหรินเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อย จึงไล่คนออกไป เมื่อคนออกไปหมดแล้ว จึงเอ่ยกับเติ้งหมิงซีทันที

"ท่านอ๋อง ท่านรู้หรือไม่ สตรีที่สั่งอาหารเหมือนอดอยากนางนั้นคือคุณหนูรองเสี่ยว บ่าวไปสืบมาแล้ว"

"เจ้านี่หูตาไวใช้ได้เลยนะ"

"เรื่องชาวบ้านไว้ใจกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ"

เติ้งหมิงซีส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะคีบอาหารขึ้นมาชิมดู เขาให้พ่อบ้านเหรินดึงผ้าม่านที่หน้าต่างลงเพื่อป้องกันคนสอดรู้สอดเห็น โชคดีที่ตรงนี้คือชั้นสองไม่มีคนมองขึ้นมาด้านบนได้

เสียงพูดคุยสนทนาของเสี่ยวจิ่วฮวาดังข้ามมาอีกห้องหนึ่ง เติ้งหมิงซีย่อมได้ยินทั้งหมดเพราะเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่เสี่ยวจิ่วฮวากลับไม่ได้ยินเสียงของเขาเพราะไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย

ไม่นานหูเป่าก็กลับมา เสี่ยวจิ่วฮวาจึงให้นางนั่งลงไม่ต้องยืนเฝ้า อีกทั้งยังแบ่งอาหารให้กินอีกด้วย หูเป่าที่เห็นว่าเจ้านายไม่ถือสาสิ่งใดจึงเริ่มชวนสนทนาขึ้นมาทันที

"คุณหนูรองเจ้าคะ บ่าวได้ยินมาว่าที่สำนักศึกษามีอาจารย์ผู้หนึ่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาเป็นอย่างมาก เป็นที่หมายปองของสตรีในเมืองหลวง คุณหนูได้พบเขาหรือยังเจ้าคะ"

เสี่ยวจิ่วฮวาคีบเนื้อปลาเปรี้ยวหวานเข้าปาก ก่อนจะส่ายหน้าและเอ่ย

"ข้าไม่ได้สนใจว่าอาจารย์คนไหนในสำนักศึกษาจะรูปงามหล่อเหลาหรือไม่ อ้อ จริงสิ พูดเรื่องความหล่อเหลา ข้าว่าไม่มีใครสู้จวิ้นอ๋องผู้นั้นได้แล้วล่ะ เจ้าจำได้หรือไม่ ที่งานเลี้ยงฮูหยินผู้เฒ่าไป๋วันนั้นน่ะ"

หูเป่าทำท่าทีครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

"บ่าวจำได้แล้วเจ้าค่ะ ท่านอ๋องผู้นั้น คุณหนู!!! บ่าวได้ยินว่าเขาเป็นใบ้ อีกทั้งยังสติไม่ดีด้วยนี่เจ้าคะ"

เสี่ยวจิ่วฮวาพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

"ใช่แล้ว แต่ว่าเขาหล่อเหลามาก อีกอย่างนะข้ายังรู้สึกคุ้นหน้ากับเขาอีกด้วย แต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ใด น่าเสียดายนะเป็นใบ้แล้วยังสติไม่ดีอีกต่างหาก เสียดายใบหน้าหล่อเหลานั่นของเขาเป็นที่สุด นั่นน่ะคือใบหน้าของว่าที่สามีในฝันที่ข้าต้องการเชียวนะ ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคม นิ้วเรียวยาวราวหยกสลัก"

หูเป่าที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยปรามเจ้านายตนทันที ด้านเติ้งหมิงซีที่ได้ยินก็ยกยิ้มมุมปาก พร้อมกับยกมือของตนเองขึ้นมาดูคราหนึ่ง

สามีในฝันอย่างนั้นหรือ พูดได้ดี!!!

"คุณหนู ท่านแต่งให้เขาไม่ได้นะเจ้าคะ!! ท่านงดงามถึงเพียงนี้ จะแต่งกับคนใบ้ได้เช่นไร"

เสี่ยวจิ่วฮวาใช้ตะเกียบชี้หน้าหูเป่าก่อนจะเอ่ย

"อย่ามองคนแค่ภายนอก บางคนหน้าตาดีร่างกายปกติแต่จิตใจบิดเบี้ยวนั้นมีไม่น้อย ต่างกับบางคนที่ร่างกายอาจจะไม่ปกติแต่จิตใจอาจจะดีงามก็ได้ บางคราเขาอาจจะเป็นสามีที่ดีเลยล่ะ พูดไม่ได้ก็มีข้อดีนะ จะได้ไม่ต้องเถียงภรรยา แต่ช่างเถิด ชาตินี้ข้าเองก็ไม่คิดจะแต่งให้ผู้ใดอยู่แล้ว เอ๊ะๆ!! หูเป่า เจ้าว่านอกจากจะพูดไม่ได้และสติไม่ดีแล้ว ตรงนั้นของเขาจะปกติใช้การได้หรือไม่นะ!!!"

"คุณหนู!! สำรวมบ้างเถิดเจ้าค่ะเอ่ยวาจาเช่นนี้ไม่งามเลย!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอันใดออกไปก็ตกใจไม่น้อย ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ให้ตายเถอะ ข้ามีความคิดน่ากลัวแบบนี้ขึ้นมาได้เช่นไรกัน!!!

ไม่ได้ๆ!! ข้าจะไม่แต่งงาน ชาตินี้ขอเสพสุขกับอาหารตรงหน้าก็พอแล้ว

เมื่อคิดเช่นนั้น เสี่ยวจิ่วฮวาจึงเอ่ยกับหูเป่าทันที

“ข้าก็สงสัยเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดสิ่งใดเสียหน่อย!!!”

เติ้งหมิงซีที่ได้ยินเต็มสองรูหูก็ถึงกับส่งเสียงเหอะออกมา พ่อบ้านเหรินเองก็ได้ยินเช่นเดียวกัน เขาคิดว่าจะต้องหาโอกาสสั่งสอนคุณหนูรองเสี่ยวผู้นี้เสียบ้างสักคราแล้ว บังอาจนักกล้ามาว่าท่านอ๋องของเขา!!

หมายหัวไว้แล้ว!!!

เสียงพูดคุยยังดังมาเป็นระยะ เติ้งหมิงซียกถ้วยชาขึ้นมาดื่ม ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

น่าสนใจดีนี่!!! ถึงกับอยากรู้ว่าตรงนั้นของข้ายังใช้การได้ปกติหรือไม่

เป็นสตรีขี้สงสัยสินะ

ช่างสรรหาที่สงสัยได้ถูกจุดเสียด้วย!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 14 ถูกหาเรื่อง

    เมื่อกินอาหารจนอิ่มแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็เช็ดมือจนสะอาด ก่อนจะยื่นตั๋วเงินส่งให้หูเป่านำออกไปจ่าย ส่วนนางเองก็กำลังเดินออกมาจากห้องอาหาร แต่ทว่าเมื่อออกมาเสี่ยวจิ่วฮวาก็ถึงกับตัวแข็งทื่อนั่นมัน จวิ้นอ๋องใช่หรือไม่?ตายละ!! นางนินทาเขาไปซะเยอะเชียวเมื่อครู่นี้เสี่ยวจิ่วฮวาลอบจุดเทียนไว้อาลัยให้ตนเอง ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เขาคงไม่รับรู้สิ่งใดหรอกกระมัง เช่นนั้นต้องไม่เข้าใจในสิ่งที่นางพูดเป็นแน่แต่เมื่อหันไปเห็นคนรับใช้้ข้างกายของเขา เสี่ยวจิ่วฮวาก็หน้าเสียขึ้นมาเล็กน้อยเขาไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าข้ารับใช้ข้างกายของเขาจะไม่รู้เรื่องนี่!!!เติ้งหมิงซีรู้สึกสนุกขึ้นมาเสียแล้วเมื่อได้เห็นใบหน้าเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงก่ำของเสี่ยวจิ่วฮวา ก่อนหน้านี้เขากำชับพ่อบ้านเหรินเอาไว้แล้วว่าให้ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน ปล่อยผ่านนางไปเสีย นางก็แค่สตรีตัวน้อยขี้สงสัยนางหนึ่งเพียงเท่านั้นซ้ำยังเป็นสตรีขี้สงสัยที่งดงามมากเสียด้วยช่างแตกต่างจากในฝันของเขาเสียเหลือเกิน ตอนที่เห็นนางในความฝัน นางน่าสงสารเป็นอย่างมาก เขายังจำแววตาสิ้นหวังของนางได้ไม่เคยลืมแต่ทว่าสตรีน้อยตรงหน้าเขานางนี้กลับดู

    Last Updated : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 15 เที่ยวงานโคมไฟ

    หลังจากวันนั้น คุณหนูตระกูลเหลียงก็ไม่กล้ามาหาเรื่องเสี่ยวจิ่วฮวาและหยางซู่ซู่อีกเลย วันเวลาก็ผ่านไปอย่างสงบสุขเช่นนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง สำนักศึกษาหยุดการเรียนการสอน เสี่ยวจิ่วฮวาได้รับจดหมายจากหยางซู่ซู่ บอกว่าอยากชวนนางไปเที่ยวงานเทศกาลหยวนเซียวด้วยกันในคืนนี้ อีกทั้งยังกำหนดที่นัดพบมาแล้วเรียบร้อย เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นเช่นนั้นก็ตอบตกลงไป อีกทั้งยังชวนเสี่ยวเย่วหยาให้ไปด้วยกันอีกด้วยเสี่ยวฮูหยินเองก็ไม่ได้คัดค้านอันใด หนึ่งปีจะมีงานโคมไฟเพียงหนึ่งครั้ง ให้พวกนางไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อยก็ดี อีกไม่นานเสี่ยวเย่วหยาก็ต้องออกเรือนแล้ว ครั้งนี้นางคงจะเบาใจขึ้น อีกทั้งตระกูลไป๋ก็ไม่รังเกลียดที่เสี่ยวเย่วหยามีสุขภาพไม่สู้ดีมาก่อน นางเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยจะเหลือก็แต่เสี่ยวจิ่วฮวา ที่วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกสนาน ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ถูกอาจารย์เรียกไปทำโทษอีกด้วย นางละปวดหัวเหลือเกิน!!พูดถึงเรื่องแต่งงานของเสี่ยวเย่วหยา เสี่ยวจิ่วฮวาพอรู้มาบ้างว่าไม่นานมานี้คนตระกูลไป๋ได้มาขอวันเวลาตกฟากเพื่อนำไปเชื่อมดวงและดูฤกษ์มงคล พบว่าดวงชะตาของเสี่ยวเย่วหยาและไป๋หลางเข้ากันได้ดี จะนำพาส่งเสริมซึ่งกั

    Last Updated : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 16 พบเห็นบางอย่าง

    เติ้งเจี๋ยปรายตามองเติ้งหมิงซีด้วยสายตาที่ดูแคลน เดิมทีเขากับเติ้งหมิงซีนับว่าเป็นญาติที่ใกล้ชิดกันโดยสายเลือด บิดาของเติ้งหมิงซีเป็นน้องชายของเสด็จพ่อ และที่สำคัญเขากับเติ้งหมิงซีก็เกิดปีเดียวกันเสียด้วย ห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น ความจริงควรจะสนิทสนมกันถึงจะถูกแต่ผู้ใดอยากจะสนิทสนมกับคนบ้าใบ้ไร้ประโยชน์กันเล่า!!!เติ้งหมิงซีมีหรือจะดูไม่ออกว่าเติ้งเจี๋ยมองตนเองด้วยแววตาที่ดูแคลนและรังเกลียด แต่เขาเคยชินเสียแล้วจึงสามารถเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ได้ เขาชี้มือมาที่เติ้งเจี๋ยก่อนจะปรบมือเปาะแปะ เติ้งเจี๋ยคร้านจะสนทนากับคนบ้าใบ้และตอนนี้เขาต้องการไปตามหาสตรีนางนั้น แต่ทว่าเติ้งหมิงซีกลับยื่นมือของตนมาจับมือของเขา ก่อนจะวางขนมโก๋ลงมาที่ฝ่ามือของเขา เติ้งเจี๋ยโมโหแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างเดือดดาล!!"ข้าไม่กินของเจ้า!! ข้าเป็นถึงองค์รัชายาท เจ้าเป็นแค่อ๋องบ้าใบ้ อย่ามาถูกตัวข้า!!!”เมื่อทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นได้ยินต่างก็พากันคุกเข่าลงเพื่อถวายพระพรเติ้งเจี๋ย เติ้งเจี๋ยหลับตาลงพยายามระงับโทสะ จะมาถวายพระพรทำไมกันยามนี้ เขาตั้งใจจะออกมาเป็นการส่วนตัว โง่งมจริงๆ เพราะเติ้งหมิงซีตัวซวยนี่คน

    Last Updated : 2025-04-06
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 17 ล่วงรู้ความลับ

    เสี่ยวจิ่วฮวาคิดจะหันหลังเดินหนี แต่ทว่านางเพิ่งก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียวก็พบว่ามีวัตถุสีเงินวางพาดเอาไว้ที่ลำคอของนาง เมื่อเสี่ยวจิ่วฮวาเหลือบสายตามองดูก็พบว่ามันคือมีดสั้นเล่มหนึ่ง นางเริ่มหายใจติดขัด รู้สึกว่าข้างหูมีสายลมเย็นยะเยือกสายหนึ่งพัดผ่านเข้ามา"เจ้าจงหาเหตุผลดีดีมาโน้มน้าวใจข้า เพื่อไม่ให้ข้าสังหารเจ้าแล้วทิ้งศพเจ้าเอาไว้ในป่าไผ่นี่!!!"เสี่ยวจิ่วฮวากลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ นางก้าวขาไม่ออก ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย เติ้งหมิงซีถึงกับใช้มีดสั้นมาข่มขู่นาง เพราะนางมาล่วงรู้ความลับของเขา!!เช่นนั้นท่าทีบ้าใบ้สติไม่ดีที่นางเห็นก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเขาแกล้งทำใช่หรือไม่เติ้งหมิงซีเมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวาเงียบไม่เอ่ยสิ่งใดตอบก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะลากตัวนางเข้าไปในป่าไผ่ลึกที่ลับตาคนมากกว่าเดิม เสี่ยวจิ่วฮวาเหงื่อแตกพลั่กทั้งที่อากาศไม่ได้้้ร้อนเลยแม้แต่น้อย นางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองเขาเลยด้วยซ้ำ"ท่านอ๋อง สังหารนางเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากนางนำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศ เราจบเห่แน่!!!"พ่อบ้านเหรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับปรายตามองเสี่ยวจิ่วฮวาอย่างไม่เป็นมิตรข้าจำได้ เจ้

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 18 เก็บนางเอาไว้เช่นนี้จะดีหรือ

    เมื่อเสี่ยวจิ่วฮวาจากไปแล้ว พ่อบ้านเหรินก็รีบเดินเข้ามาหาเติ้งหมิงซีทันที"ท่านอ๋อง จะปล่อยนางไปเช่นนี้จริงๆ หรือ หากนาง...""นางรู้ว่าควรทำเช่นไร อีกอย่างนางเป็นน้องสาวของอาไป่ หากข้าทำสิ่งใดกับนางในตอนนี้อาจไม่ส่งผลดีต่อแผนที่เราวางเอาไว้มาหลายปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลย การแตกหักกับอาไป่ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ"พ่อบ้านเหรินที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง นึกโมโหนางมารน้อยตนนั้นขึ้นมาไม่หายด้านเสี่ยวจิ่วฮวานั้นเมื่อถูกปลดปล่อยจากพันธนาการที่น่าหวาดกลัว นางก็รีบเร่งฝีเท้ากลับมาที่รถม้าทันที เมื่อมาถึงก็พบกับเสี่ยวเย่วหยาและไป๋หล่างที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย เสี่ยวเย่วหยาหันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวากลับมาแล้ว จึงรีบเดินเข้ามาหาทันที"อาจิ่ว เจ้าหายไปที่ใดมา ข้ากังวลใจแทบแย่ หากเจ้ายังไม่กลับมาอีกเพียงครึ่งเค่อข้าจะไปแจ้งทางการแล้ว"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าพวกท่านเดินหายเข้าไปในป่าไผ่ จึงไปตามดู แต่พอไปถึงก็ไม่พบผู้ใดแล้ว"เสี่ยวเย่วหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่่อนจะเอ่ย"ข้ากลับออกมาสั

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 19 พบคนที่ไม่อยากพบ

    ด้านเสี่ยวจิ่วฮวานั้นเมื่อกลับมาถึงจวนนางก็รีบอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ก่อนจะเดินมาทิ้งกายลงนอนที่เตียง แต่ไม่ว่านางจะข่มตานอนเท่าใดก็นอนไม่หลับ คำขู่ของเติ้งหมิงซีมันทำให้นางกระวนกระวายใจ แต่นั่นไม่ได้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นางกลัวจนนอนไม่หลับ แต่มันเป็นเพราะเสียงของเขาต่างหาก เสียงของเขาที่มันทำให้นางรู้สึกกระวนกระวายมันคุ้นเคยเหลือเกิน แต่นึกเท่าใดกลับนึกไม่ออกในความทรงจำนางลืมผู้ใดไปกันนะ!!เสี่ยวจิ่วฮวานอนพลิกไปพลิกมา จนเกือบฟ้าสางนางจึงผล็อยหลับไปได้ตื่นหนึ่ง ยามเช้าเมื่อตื่นขึ้นมานางก็ปวดหัวยิ่งเพราะนอนไม่เต็มอิ่ม เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จและไปคารวะมารดาแล้ว นางจึงเดินทางไปที่สำนักศึกษาในทันทีเมื่อมาถึงที่สำนักศึกษา เสี่ยวจิ่วฮวาก็พบว่าวันนี้หยางซู่ซู่ไม่ได้มาเรียน อาจจะเพราะมารดานางป่วยจึงต้องอยู่ดูแล เสี่ยวจิ่วฮวาจึงคิดว่าจะให้คนนำของฝากไปเยี่ยมมารดาของหยางซู่ซู่หลังจากเลิกเรียนเสียหน่อยตอนที่ก้าวเดินลงมาจากรถม้า นางมองเห็นคนท่าทีแปลกๆ ที่มองนางอยู่ในที่ลับ เสี่ยวจิ่วฮวาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ให้ตายเถอะ คนบ้าผู้นั้นส่งคนมาจับตาดูนางจริงๆ ด้วยเช่นนี้ต่อไปหากนางจะทำสิ่งใดก็คงไม่

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 20 ทางหนีทีไล่

    วันนี้หลังจากเสี่ยวจิ่วฮวาเลิกเรียนแล้วจึงรีบกลับมาที่จวนในทันที ระหว่างทางกลับนางยังไม่ลืมแวะไปซื้อขนมและอาหารอร่อยๆ กลับมาอีกหลายอย่าง เมื่อกลับมาถึงจวนก็รีบตรงไปที่เรือนใหญ่ในทันที เมื่อมาถึงก็ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยสนทนากันอยู่ในเรือน สาวใช้ที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวากลับมาแล้ว จึงรีบเข้าไปรายงานคนในเรือนทันทีเสี่ยวจิ่วฮวาก้าวเดินเข้ามาในเรือนใหญ่ ตอนนี้พบว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า อีกทั้งยังมีของพระราชทานมากมายที่วางอยู่ รวมทั้งเครื่องประดับผ้าไหมแพรพรรณ เสี่ยวฮูหยินที่เห็นว่าบุตรสาวของตนกลับมาแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม"อาจิ่ว มาทำความเคารพบิดากับพี่ชายเจ้าเร็วเข้า ไม่ได้เจอกันร่วมสองปีแล้ว ท่านพี่ดูสิเจ้าคะ อาจิ่วเติบโตและรู้ความขึ้นมากแล้ว"เสี่ยวฮูหยินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปิติยินดี แม่ทัพใหญ่เสี่ยวจ้องมองเสี่ยวจิ่วฮวาบุตรสาวของตน ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เสี่ยวจิ่วฮวาเดินเข้าไปทำความเคารพบิดาและพี่ชาย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม"คารวะท่านพ่อและพี่ชายใหญ่เจ้าค่ะ"เสียวไป่ฟงมองดูเสี่ยวจิ่วฮวาก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนหน้านี้คล้ายว่าน้องสาวของเขาจะไม่ได้อยู่ในกฎระเบียบ

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 21 ความฝัน

    ด้านเสี่ยวจิ่วฮวาที่เดินออกมาจากเรือนใหญ่พร้อมกับเสี่ยวเย่วหยาและเสี่ยวไป่ฟงก็กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องบางอย่าง ตอนที่นางแกล้งปวดท้องคล้ายว่าสายตาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนหลบอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ด้านข้างเรือนใหญ่ หากเดาไม่ผิดคงจะเป็นคนของเติ้งหมิงซีเป็นแน่เสี่ยวเย่วหยาที่เดินออกมาพร้อมกับน้องสาวก็เอ่ยถามเสี่ยวจิ่วฮวาทันที"เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่"เสี่ยวจิ่วฮวาหันมายิ้มให้เสี่ยวเย่วหยา ก่อนจะเอ่ย"เดิมทีข้าก็ไม่ได้ปวดท้องอันใด เพียงไม่อยากพาองค์รัชทยาทไปชมจวนจึงหาข้ออ้างขึ้นมา ข้าไม่ชอบเอาใจหรือดูแลคนที่ข้าไม่ได้พึงใจ"เสี่ยวเย่วหยาพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้นก็ดี ข้ายังต้องไปปักชุดเจ้าสาวต่ออีกหน่อย คงต้องขอตัวก่อน พวกเจ้าสนทนากันต่อเถอะ""พี่หญิง ไว้ข้าจะนำเครื่องประดับสวยๆ ไปมอบให้ท่าน ฝ่าบาททรงพระราชทานให้ไม่น้อยเลย"เสี่ยวเย่วหยาพยักหน้าและยิ้มออกมาเล็กน้อย เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที"แล้วข้าจะให้คนส่งขนมไปให้เจ้า อย่าเอาแต่ปักชุดเจ้าสาวจนไม่กินสิ่งใดเล่า”"อืม ข้ารู้แล้ว"เมื่อเสี่ยวเย่วหยาจากไปแล้ว ยามนี้จึงเหลือเพียงเสี่ยวจิ่วฮวาและเสี่ยวไป่ฟง เสี่ยวจ

    Last Updated : 2025-04-09

Latest chapter

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 58 เคียงคู่ตลอดกาล (ตอนจบ)

    รัชศักหมิงซีปีที1เติ้งหมิงซีขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น เขาแต่งตั้งไป๋หล่างให้ขึ้นเป็นเสนาบดีกรมขุนนางต่อจากบิดาของตน คอยตรวจสอบความประพฤติไม่ชอบของพวกขุนนางและจัดการได้ตามกฎหมายในทันที ส่วนเสี่ยวไป่ฟงนั้นเติ้งหมิงซีแต่งตั้งเป็นแม่ทัพใหญ่เสี่ยวแทนบิดาเพราะว่ายามนี้แม่ทัพใหญ่เสี่ยวแก่ชรามากแล้วและอยากวางมือเสียทีจึงให้เสี่ยวไป่ฟงรับหน้าที่แม่ทัพใหญ่เสี่ยวต่อจากตน และเติ้งหมิงซียังมอบตำแหน่งท่านโหวให้แก่จวนตระกูลเสี่ยวอีกด้วย เท่ากับว่ายามนี้แม้อดีตแม่ทัพใหญ่เสี่ยวจะวางมือแต่พราะมีความดีความชอบมาช้านานจึงได้ตำแหน่งท่านโหว ยังคงมีผู้คนนับถือ และตำแหน่งนี้สามารถสืบทอดต่อทายาทในตระกูลได้อีกด้วยด้านหลี่จิ่งนั้น ในการสอบเค่อจวี่ครั้งนี้ เขาสอบได้ตำแหน่งจอหงวน ได้เข้ามาทำงานในราชสำนักตามที่วาดหวังเอาไว้ โดยเติ้งหมิงซีให้ไปลองทำงานที่สำนักฮั่นหลินดูก่อน หากหลี่จิ่งมีความสามารถจริงย่อมได้เลื่อนตำแหน่งตามความเหมาะสมหยางซู่ซู่เองก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนเสี่ยวเย่วหยานั้นคลอดบุตรชายอย่างราบรื่น แต่เพราะว่าร่างกายอ่อนแอจึงต้องพักฟื้นสักระยะ เสี่ยวจิ่วฮวาสั่งให้คนนำยาบำรุงไปมอบให้เสี่ยวเย่วหยาหลายอย่าง

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 57 กรงขังในจิตใจ

    สายลมพัดพาความหนาวเย็นเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า เสี่ยวจิ่วฮวายามนี้กำลังนอนอยู่บนทะเลหิมะน้ำแข็งที่หนาวจับใจ นางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ พบว่ายามนี้ตนเองนอนอยู่ที่เดิมที่เคยตายเมื่อชาติที่แล้ว หิมะทับถมเป็นกองสูงอยู่บนตัวนางข้าฝันหรือไร!!นางครุ่นคิดด้วยความหวาดหวั่น ก่อนจะคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นางถูกเติ้งเจี๋ยจับไป ด้วยความที่หวาดกลัวจนสติแตกและถูกด้านมืดในจิตใจครอบงำ นางจึงสังหารเขาอย่างเลือดเย็นหลังจากนั้นนางก็สลบไปนางตื่นขึ้นมาและพบว่าตนเองนอนอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น หิมะตกโปรยปรายลงมาไม่หยุดช่างหนาวเหลือเกิน!!เสี่ยวจิ่วฮวาหลับตาลง พยายามลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหวังว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครานางจะออกจากที่นี่ไปได้แต่มันกลับไม่ใช่ที่นี่เปรียบเสมือนกรงขังที่ไร้ทางออก พาให้นางจมดิ่งลงลงสู่ห้วงที่ลึกที่สุดในจิตใจของตนเองเสี่ยวจิ่วฮวาพยายามลุกขึ้นก่อนจะเดินโซเซไปตามทางที่มืดทึบ หนทางช่างมืดเหลือเกินมองไปไม่เห็นสิ่งใด ฉับพลันนางได้ยินเสียงของเติ้งหมิงซีเอ่ยเรียกชื่อนางมาตามสายลม"อาจิ่ว เจ้ารีบฟื้นเร็วเข้า ข้ารอเจ้าอยู่นะ""อาหมิง!!! อาหมิงช่วยข้าด้วย ข้าออกไปไม่

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 56 หลับใหล

    เติ้งหมิงซีอุ้มเสี่ยวจิ่วฮวาเข้ามาในรถม้า ก่อนจะสั่งให้คนหาผ้าชุบน้ำสะอาดมาให้เขา ก่อนจะบรรจงเช็ดตามใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยนก่อนหน้านี้เขาพยายามไล่ตามเติ้งเจี๋ยอย่างไม่ลดละ แต่เติ้งเจี๋ยกลับรวดเร็วยิ่งกว่า เพียงไม่นานก็หายไปจากสายตาของเขา ในขณะที่กำลังร้อนรนและตามหาเสี่ยวจิ่วฮวาอยู่นั้นก็ได้พบกับเจียงซวี่เสียก่อนเจียงซวี่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดมากมาย บอกเพียงให้เขาตามไป ก่อนจะพบว่าเติ้งเจี๋ยพาเสี่ยวจิ่วฮวามาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้เติ้งเจี๋ยลอบซื้อเอาไว้ คาดว่าน่าจะซื้อเอาไว้เพื่อลักลอบทำเรื่องบางอย่างเจียงซวี่บอกเพียงว่าคนตระกูลเจียงถูกทหารของกบฏสังหารเกือบหมด เหลือรอดเพียงไม่กี่คน เติ้งหมิงซีถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ครั้งนี้บิดาของฉินฮองเฮาคงแค้นเติ้งเจี๋ยมาก ถึงกับเข้าฝั่งกบฏและนัดแนะให้ทหารกบฏเข้ามาสังหารคนของเติ้งเจี๋ยล้างตระกูลและทำลายบ้านเมืองเช่นนี้ ความแค้นมันน่ากลัวมากจริงๆแต่อย่างไรก็ต้องขอบใจเจียงซวี่ที่ช่วยเหลือเขาในครั้งนี้จนได้พบกับเสี่ยวจิ่วฮวา ทั้งที่ตนเองก็มีสภาพย่ำแย่ไม่ต่างกันภาพที่เขาเห็นก่อนหน้านี้สร้างความตกใจให้แก่เขาไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าเสี่ยวจิ่วฮวาจะสังหาร

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 55 จุดจบเติ้งเจี๋ย

    รถม้าเคลื่อนไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืด เสี่ยวจิ่วฮวาพยายามไม่มองหน้าเติ้งเจี๋ย ส่วนบุรุษตรงหน้าก็เอาแต่จ้องมองนางอย่างไม่ลดละ สายตานั่นมันทำให้เสี่ยวจิ่วฮวาอึดอัด ทั้งอึดอัดทั้งรังเกียจและหวาดหวั่นในคราวเดียวกันภาพที่เขาทำกับนางในชาติก่อนมันสร้างบาดแผลในใจให้แก่นางอย่างไม่อาจลืมเลือนทำให้นางกลัวการนอนกับสามีตนเอง นางเหมือนคนที่สติไม่อยู่กับตัวต้องคอยฟวาดระแวงลืมอดีตไปจากใจไม่ได้นางเกลียดเติ้งเจี๋ย!!เติ้งเจี๋ยที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวาไม่สนใจตน จึงยื่นมือมาจับปลายคางของนางให้หันมามองเขา เพราะเสี่ยวจิ่วฮวาขัดขืนเขาจึงออกแรงกับนางอย่างไม่ปรานีปราศัย"เกลียดข้ามากนักหรือ อีกไม่นานข้าก็จะได้ชื่อว่าเป็นสามีของเจ้าแล้ว!!!"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเอ่ยกับเติ้งเจี๋ยด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน"ข้าไม่ใช่ภรรยาของเจ้า ข้ามีสามีแล้ว คนต่ำช้าเช่นเจ้าคิดจะแย่งภรรยาผู้อื่นไม่อับอายบ้างหรือไร ถุย!!!"เสี่ยวจิ่วฮวาถุยน้ำลายใส่ใบหน้าของเติ้งเจี๋ยอย่างไม่แยแส ทว่าเติ้งเจี๋ยกลับไม่โกธร เขาใช้ปลายนิ้วมือขึ้นเช็ดน้ำลายของนาง ก่อนจะอ้าปากงับนิ้วของตนและดูดดื่มกับน้ำลายของนางที่เปื้อน

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 54 ถูกจับตัว

    พ่อบ้านเหรินพาเสี่ยวจิ่วฮวาวิ่งมาจนถึงด้านนอกจวนอ๋อง ก่อนจะวิ่งฝ่าความมืดลัดเลาะไปตามเส้นทางลับก่อจจะมาถึงยังรถม้าที่จอดอยู่ข้างร้านเครื่องประทินโฉม ยามนี้ทหารกบฏถูกท่านอ๋องควบคุมได้แล้ว ทางจึงสะดวกขึ้นมา เสี่ยวจิ่วฮวาหันมามองหูเป่าและเหล่าสาวใช้ที่วิ่งหนีตามกันมา ก่อนจะเอ่ย"รีบไปกันเถอะ!!ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องจะต้องรับมือได้"เมื่อเอ่ยจบนางก็กำลังจะก้าวขึ้นรถม้า แต่ทว่ากลับมีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาสังหารสาวใช้ของนางตกตายไปหลายคน เสี่ยวจิ๋วฮวารีบหันกลับไปมอง ก่อนจะอุทานออกมา"เติ้งเจี๋ย!!!"นี่เขายังไม่ตายหรือ แล้วหนีรอดมาได้เช่นไร!!!เติ้งเจี๋ยหนีออกมาพร้อมกับองค์รักษ์ลับของตน เป้าหมายของเขาคือตามหาเสี่ยวจิ่วฮวาให้พบ ยามนี้เขาได้พบกับนางแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นเติ้งเจี๋ยจึงก้าวเข้ามาหาเสี่ยวจิ่วฮวาในทันที แต่ทว่าพ่อบ้านเหรินกลับสั่งให้องค์รักษ์ที่ติดตามมาด้วย ขวางทางเขาเอาไว้ เติ้งเจี๋ยปรายตามองพ่อบ้านเหรินก่อนจะเอ่ย"หากไม่อยากตายก็ส่งนางมา นางเป็นของข้า!!!"พ่อบ้านเหรินส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเอ่ย"ฝ่าบาท พระองค์พูดผิดแล้ว นางคือพระชายาของท่านอ๋อง เป็นนายหญิงของข้า ท่านต่างหากที่ต้องไ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 53 กลียุค

    รัชศก เจี๋ย ปีที่1หลังจากที่คัดเลือกสาวงามเข้าวังไปไม่นาน ก็มีข่าวออกมาว่ามีขุนหลายกลายตระกูลที่เกิดเรื่อง บ้างก็ถูกสังหารทิ้ง บ้างก็หลีกหนีออกไปจากเมืองหลวง บางครอบครัวที่ยากจนก็ถูกทหารทุบตีเพราะมาร้องทุกข์ต่อศาลต้าหลี่ว่าบุตรสาวตกตายอย่างไม่เป็นธรรมข้าวของเครื่องใช้แพงจนไม่อาจจับต้อง สินค้าบางอย่างหายากยิ่ง ข้าวสารแทบจะไม่มีเหลือให้กินให้ใช้ ราษฎรลำบากยากแค้น ในขณะที่เติ้งเจี๋ยซึ่งอยู่ในวังหลวงกลับใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญบนความทุกข์ยากของราษฎรอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านคิดว่าเขาไม่เจ็บแค้นที่มองเห็นราษฎรทุกข์ยากหรือ ทุกครั้งเขาแอบส่งคนไปช่วยเหลือครอบครัวเหล่านั้นครั้งแล่วครั้งเล่า ต้องทนเห็นมารดาของพวกนางกรีดร้องเพราะต้องสูญเสียบุตรสาวอันเป็นที่รัก บิดาเป็นบ้าหลังจากที่ทราบว่าบุตรสาวที่ถูกคัดเลือกเข้าวังหลวงต้องมาตายจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย ชาวบ้านร้องไห้เพราะความอดอยาก เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งเมืองหลวงถึงเวลาแล้วเติ้งเจี๋ยที่เจ้าจะต้องตายเสียที!!!กลางดึกคืนนั้นเสี่ยวจิ่วฮวาถูกปลุกขึ้นมากลางดึก นางงัวเงียลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าเป็นเติ้งหมิงซีนั่นเอง"อาหมิง ปลุกข้าทำไมกัน"เสี่ยวจ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 52 รนหาที่ตาย

    จากการสืบหาความจริงของไป๋หล่างและองค์รักษ์ลับที่แฝงตัวอยู่ในวังหลวงของจวนอ๋อง ท้ายที่สุดเพียงสามวันก็สืบพบว่าเป็นฝีมือของผู้ใด"เป็นฝีมือของฉินฮองเฮาอย่างนั้นหรือ""พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"เติ้งหมิงซีที่ได้ยินเช่นนั่นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง สตรีนางนั้นถึงกับกล้าเล่นไม่ซื่อกับของขวัญที่เติ้งเจี๋ยมอบให้เสียวจิ๋วฮวา ช่างอาจหาญไม่เบาเลยอยู่บนตำแหน่งฮองเฮาดีดีไม่ชอบ ได้!!! ข้าจะสงเคราะห์เจ้าเองด้านเสี่ยวจิ่วฮวาเองก็พอจะจำฉินฮองเฮานางนั้นได้ ก่อนหน้านี้สตรีผู้นี้คือพระชายาเอกของเติ้งเจี๋ยไม่เคยคิดเลยว่าฉินฮองเฮาจะลงมือกับนางเช่นนี้ หรือว่าฉินกุ้นเฟยจะรู้ว่าเติ้งเจี๋ยคิดเช่นไรกับนางจึงต้องการสังหารนางทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามหัวใจอย่างนั้นหรือเสี่ยวจิ่วฮวาที่คิดได้เช่นนั้นแววตาก็เย็นเยียบ นางไม่เคยอยากมีปัญหากับผู้ใด แต่คนพวกนั้นกลับนำปัญหามาให้นาง ถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเช่นนี้มันออกจะเลือดเย็นไปหน่อยกระมังเติ้งหมิงซีที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวานิ่งเงียบไป ก็รีบเอ่ยกับนางอย่างเป็นห่วง"เจ้าไม่ต้องกลัว คืนนี้ข้าจะส่งคนไปลอบสังหารนาง คนของข้าทำงานไม่ผิดพลาดแน่ ต่อไปนี้นางจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าไ

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 51 ลอบสังหาร

    หลังจากที่ฮ่องเต้เติงผิงอันสวรรคตไปแล้ว เหตุการณ์หลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย เจียงฮองเฮายามนี้ได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจียงไทเฮา เสพสุขอำนาจวาสนาไม่จบไม่สิ้น ส่วนเติ้งเจี๋ยก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ยามนี้ยังอยู่ในการไว้ทุกข์ แต่มันก็เป็นเพียงการสร้างฉากบังหน้าขึ้นมาเพียงเท่านั้น ผู้ใดจะรู้ ภายในตำหนักมังกรสวรรค์ยามนี้มีศพของสตรีคนแล้วคนเล่าถูกหามออกไป บางคนไม่ตายก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเป็นเช่นนี้ทุกวันจนสร้างความหวาดหวั่นให้แก่เหล่าสตรีในวังหลวงไม่น้อย นางสนมในอดีตฮ่องเต้ที่ยังสาวบางคนถูกเติ้งเจี๋ยเรียกมาปรนนิบัติเขาไม่สนใจกฎระเบียบอันใดเลยแม้แต่น้อย ส่วนเจียงไทเฮาก็ไม่สนใจสิ่งใดเพราะคิดว่าสิ่งไหนเป็นความสุขของบุตรชายนางก็ไม่อยากจะขัดขวาง"ฮองเฮาเพคะ ทรงเสวยสิ่งใดบ้างเถิดเพคะ"เสียงของนางกำนัลเอ่ยขึ้นมาด้วยความจนใจ ก่อนจะวางอาหารลงตรงหน้าฉินฮองเฮาฉินฮองเฮานางนี้เดิมทีคือพระชายาเอกของเติ้งเจี๋ย ก่อนหน้านี้นางหมายมั่นเอาไว้ว่าอำนาจจะต้องอยู่ในมือของนาง เติ้งเจี๋ยจะต้องรักใร่โปรดปราณนางไปตลอดชีวิต อีกอย่างนางกับเติ้งเจี๋ยเองก็มีรสนิยมในเรื่องเช่นนั้นเหมือนกัน เขาชอบกระทำควา

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   บทที่ 50 กรรมตามสนอง

    เสี่ยวจิ่วฮวาหลังจากแต่งงานก็เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเก่าครั้งหนึ่ง เมื่อกลับมาเยี่ยมจวนครั้งนี้นางพบว่ามารดาของนางไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดเท่าแต่ก่อนอีก เพราะได้รู้แล้วว่าความจริงเติ้งหมิงซีไม่ได้เป็นบ้าจริงๆ มารดากำชับนางหลายประโยคให้ระวังตนเองให้ดีและอย่าละเลยหน้าที่ของภรรยาเป็นอันขาด นางพยักหน้ารับและจดจำคำสอนของมารดาเอาไว้ทุกคำยามนี้เข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาวแล้ว อากาศจึงค่อนข้างเย็นไม่น้อยเลย หิมะเริ่มตกโปรยปรายมากขึ้น วันนี้เสี่ยวจิ่วฮวาจึงมาทำซุปเนื้อในโรงครัวกินเพื่อคลายความหนาวพ่อบ้านเหรินที่เดินมาพอดี ก็ปรายตามองเสี่ยวจิ่วฮวาคราหนึ่ง เดิมทีเขาไม่ชอบเสี่ยวจิ่วฮวาแต่เพราะคำสั่งของเติ้งเจี๋ยก่อนหน้านี้ที่กำชับเขาว่าห้ามทำให้นางลำบากใจ เขาจึงไม่อาจล่วงเกินนางได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเดินเข้ามาหานางก่อนจะเอ่ย"พระชายา หากทรงต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องลงมาทำด้วยตนเองเช่นนี้ หากเกิดสิ่งใดขึ้น หรือเกิดความเสียหายในจวนอ๋อง เกรงว่าท่านคงรับผิดชอบไม่ไหว"เขาเอ่ยอย่างเย็นชา เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"ข้าจะทำซุปเนื้อกินเสียหน่อย ให้สา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status