Share

บทที่ 135

Penulis: มู่อวิ๋นเฉิง
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-12 17:00:00
หนิงตงกำลังมองเงาร่างของนายและบ่าวสองคนที่เดินจากไป ยังไม่ทันหายจากความหวาดกลัว กล่าวด้วยเสียงกระซิบว่า “ฮูหยิน เมื่อครู่ทำให้ข้าน้อยตกใจแทบแย่เจ้าค่ะ โชคดีที่ท่านโหวไม่ได้ทำอันใดท่าน”

เมิ่งจิ่นเหยากลับสงบนิ่ง “บุตรชายของเขามีความผิดอยู่ก่อน ต่อให้ต้องลงโทษ ก็ลงโทษเบากว่าบุตรชายของเขา”

ทว่าถึงอย่างนั้น หนิงตงก็ยังคงกังวล จึงกล่าวเตือน “ครั้งหน้าท่านพยายามหลีกเลี่ยงติดต่อกับซื่อจื่อให้มากที่สุดเถิดเจ้าค่ะ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนหนีการแต่งงานทำให้ฮูหยินกลายเป็นตัวตลก สุดท้ายกลับมาบอกว่าเป็นความผิดของฮูหยิน ผู้ที่เอาแต่โทษฟ้าโทษดิน ปัดความรับผิดชอบเช่นนี้ พบปะให้น้อยลงดีกว่าเจ้าค่ะ ผู้ใดจะรู้ เขาอาจจะเสียสติในวันใดหนึ่งและกัดผู้อื่นไปทั่วอีกหรือไม่”

เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าเล็กน้อย พลางกล่าวอย่างอ่อนโยน “วางใจเถิด ข้าไม่มีเวลาว่างไปหาเรื่องเขาก่อนขนาดนั้น วันนี้พบกันโดยบังเอิญ พูดได้เพียงว่าโชคร้ายเท่านั้น”

ก่อนหน้านี้เมิ่งจิ่นเหยาไปพบกู้ซิวหมิงก่อนเองสองครั้ง ต่างก็พาชุนหลิ่วไปด้วย หนิงตงไม่เคยเห็นฉากการเผชิญหน้ากันของเจ้านายตัวเองกับกู้ซิวหมิงมาก่อนเลย เมื่อวันนี้ได้เห็น นางสงสารนายหญิ
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 136  

    ชุนหลิ่วขมวดคิ้ว “หลี่อี๋เหนียงผู้นี้ไร้ระเบียบเกินไปแล้ว” เมิ่งจิ่นเหยาเม้มริมฝีปาก “ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด สิ่งนี้จะโทษนางก็ไม่ได้ นางไม่มา ข้าก็สบายใจไป” นางรู้ว่าทั้งหมดนี้ต้องความคิดของกู้ซิวหมิง หลี่หว่านเอ๋อร์เข้าจวนไม่นาน ก่อนเข้าจวนก็มิเคยมีหมอมอคอยชี้แนะระเบียบประเพณี เดาว่าคงไม่เข้าใจกฎของตระกูลใหญ่ ไม่รู้ว่าผู้เป็นอนุภรรยาจะต้องเข้ามาเคารพผู้อาวุโสในยามเช้า ทว่ากู้ซิวหมิงที่รู้เรื่องนี้ดี แต่กลับไม่เตือนหลี่หว่านเอ๋อร์ เห็นได้ชัดว่าเขากลัวว่านางจะหาเรื่องทำให้ให้หลี่หว่านเอ๋อร์อึดอัด ถึงได้ไม่เตือน และเป็นเพราะไม่รู้เรื่องนี้ จึงละเลยการคารวะนางยามเช้าไป ชุนหลิ่วอึดอัดใจ คิดไม่ตกว่าหลี่อี๋เหนียงคนนั้นป้อนยาเสน่ห์อะไรให้ท่านซื่อจื่อกิน ถึงได้ทำให้ท่านซื่อจื่อทอดทิ้งฮูหยินผู้ซึ่งงดงามเพียบพร้อม หนีไปกับหลี่อี๋เหนียงที่ไม่รู้จักมารยาทคนนั้น ก่อเรื่องน่าอับอายใหญ่โตเช่นนั้นขึ้น นางเหลือบสายตามองเมิ่งจิ่นเหยาที่ดูไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งว่า “ฮูหยินใจดียิ่งนัก” เมิ่งจิ่นเหยาตอบกลับ “หลี่อี๋เหนียงไม่เคยไหว้ฟ้าดิน ไม่เคยไหว้บุพการี มิใช่ลูกสะใภ้โดยชอบธรรมข

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-12
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 137  

    ฮูหยินผู้เฒ่ากู้แม้พยายามควบคุมอารมณ์เต็มที่ ทว่าความผิดหวังในใจก็ยังยากจะปิดบัง ผู้น้อยในที่แห่งนี้ล้วนเห็นนางขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ สีหน้าฉายแววผิดหวังเต็มประดา ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีการของกู้ซิวหมิงอย่างยิ่งยวด อีกทั้งยังผิดหวังอย่างมาก ทว่าทุกคนก็มิได้แปลกใจกับเรื่องนี้นัก ถึงอย่างไรก่อนที่กู้ซิวหมิงหนีพิธีวิวาห์ ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็รักหลานชายคนนี้มากที่สุด ในบรรดาหลานชายทั้งสี่คน ก็ตั้งความหวังกับเขาไว้มากที่สุด บัดนี้ด้วยความประพฤติอันเลวร้ายและอุปนิสัยเอาแต่ใจตนเองของกู้ซิวหมิง หากไม่รู้สึกผิดหวังนั่นก็แปลกแล้ว นางจางเห็นแล้ว แอบรู้สึกดีอยู่ลึก ๆ ในใจ มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย และยิ่งรู้สึกว่ากู้ซิวเหวินจะต้องได้เป็นบุตรบุญธรรมของบ้านสามแน่ กู้ซิวหมิงเจ้าเด็กโง่นั่น คงคิดว่าน้องชายสามีไม่สามารถมีทายาทได้ และมีเพียงเขาที่เป็นบุตรชายคนเดียว ช้าเร็วอย่างไรตำแหน่งก็ต้องเป็นของเขากระมัง ถึงได้ไม่เกรงกลัวเพราะมีกำลังหนุนหลัง กล้าทำตัวเอาแต่ใจตนเองเช่นนี้ นางเฉินเหลือบสายตาเห็นรอยยิ้มลาง ๆ คล้ายมีคล้ายไม่มีตรงมุมปากของนางแล้ว ก็เม้มปากเล็กน้อย นึกดูแคลนอยู่ในใจ หญิงชรายังไม่เคยเ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 138  

    เมิ่งจิ่นเหยาถอนหายใจเสียงเบาหวิวออกมาอีกครั้ง “ระยะนี้ท่านพี่มีงานราชการรัดตัว ออกไปแต่เช้าค่ำแล้วจึงกลับ ยามเช้าข้ายังไม่ทันตื่นนอนเขาก็ออกไปแล้ว ตกดึกเห็นเดือนเห็นดาวเต็มฟ้าแล้วจึงกลับ ถึงยามนั้นข้าก็เข้านอนแล้ว ไม่รู้ว่ายามใดเขาจะกลับมาถึง ไว้ท่านพี่พอมีเวลาว่างก่อน ข้าค่อยเอ่ยเรื่องนี้กับท่านพี่อีกครั้งแล้วกัน” นางเฉินค่อยรู้สึกพอใจในยามนี้เอง ก็ผงกศีรษะเบา ๆ “ก็ควรเป็นเช่นนี้ จะปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นแล้วดรุณีจากตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ใดเล่าจะกล้าสมรสกับเขา?” นางเอ่ยพลางก็ชะงักไป ก่อนจะดึงแม่สามีมาพูดถึงตรง ๆ “วันนี้ท่านแม่เพิ่งกลับมาถึง เรื่องเหลวไหลที่ซิวหมิงกระทำในวันนี้ ท่านแม่ยังไม่ทราบ ไว้ท่านแม่รับรู้เรื่องราวแล้ว เดาว่าจะต้องเดือดดาลไม่เบาแน่ หากว่าโกรธจนเสียสุขภาพไปด้วยนั่นจะใช่เรื่องดีหรือ?” เมิ่งจิ่นเหยาผงกศีรษะตอบ “พี่สะใภ้รองวางใจเถิด พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ท่านพี่น่าจะมีเวลาว่าแล้ว ถึงยามนั้นข้าจะคุยเขาอีกครั้ง” นางจางอยู่ด้านข้าง ฟังบทสนทนาของพวกนางทั้งสองคน พูดตามความจริงแล้ว วิธีการของกู้ซิวหมิง มากน้อยอย่างไรก็ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงเกี

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 139  

    ณ โถงโซ่วอัน วันนี้เป็นวันหยุดราชการ ประจวบเหมาะกับเป็นวันที่ต้องไปคารวะยามเช้าต่อผู้อาวุโสกู้พอดี ทั้งบ้านใหญ่ บ้านรอง บ้านสามไปถึงโถงโซ่วอันแทบจะเป็นเวลาเดียวกัน ยามนั้นฮูหยินผู้เฒ่ากู้กำลังกินอาหารมื้อเช้าอยู่พอดี กลับเป็นผู้น้อยที่ต้องการแสดงความกตัญญูสุดหัวใจ ปรนนิบัตินางขณะกินอาหาร ทว่านางกลับไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น คิดว่ามีผู้น้อยอยู่ด้วยจะยิ่งวุ่นวาย และรบกวนนางขณะกำลังกินอาหาร จึงสั่งให้พวกเขาทุกคนออกไปคอยตนที่โถงรับรองแทน มีมารดาสามีที่เรื่องน้อยแบบนี้ ถือว่าเป็นวาสนาของลูกสะใภ้แล้ว ผู้อาวุโสของบางตระกูล แม้จะมีสาวใช้คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่เต็มห้องแล้ว แต่ก็ยังต้องการให้ลูกสะใภ้เข้ามาปรนนิบัติขณะตื่นนอน ขณะกินอาหารในทุกวัน ตั้งกฎให้ลูกสะใภ้ปฏิบัติตาม ทรมานน่าดูเชียว แต่ผู้อาวุโสของพวกเขา หากคิดจะแสดงความกตัญญูก็แค่เอาใจสักหน่อย นางก็จะบอกว่า “เจ้าแต่งเข้าเรือนมาเป็นสะใภ้ มิใช่คนใช้ เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าทำ” และเมื่อเจ้าคิดว่าคนแก่เฒ่าจะต้องรู้สึกเงียบเหงา จึงอยากเข้ามาคารวะยามเช้าให้ได้ทุกวัน คอยอยู่ข้างกายและพูดคุยกับนางเพื่อคลายความอุดอู้ให้แล้ว นางจะยิ่ง

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 140  

    และวันนี้ กู้ซิวหมิงกลับพาอนุภรรยาที่ไม่คู่ควรคนนั้นมาด้วย ไม่รู้ว่าเพราะเขาใจใหญ่ หรือเพราะคิดว่าตนเองคือซื่อจื่อ คือหลานชายคนที่ท่านย่ารักสุดดวงใจ แล้วจะได้รับข้อยกเว้น กู้ซิวหมิงเองก็สังเกตเห็นบรรยากาศที่ประหลาดออกไปบ้างแล้ว แต่ก็มิได้เหลียวตามอง น้อมคารวะต่อฮูหยินผู้เฒ่ากู้ด้วยความเคารพนบนอบ “หลานชายคารวะท่านย่า ขอให้ท่านย่ามีความสุขความเจริญ” หลี่อี๋เหนียงถูกสายตาจำนวนมากมองประเมิน ก็รู้สึกวางตัวไม่ถูก เห็นกู้ซิวหมิงทำความเคารพ ก็รีบยอบกายทำความเคารพต่อฮูหยินผู้เฒ่ากู้ด้วยเช่นกัน “หลานสะใภ้คารวะท่านย่า ขอให้ท่านย่ามีความสุขความเจริญ” ครั้นวาจานี้ถูกเอ่ยออกมา บรรยากาศยิ่งประหลาดมากกว่าเก่า อนุภรรยานับเป็นหลานสะใภ้ได้ที่ไหน? มีเพียงภรรยาเอกที่ผ่านพิธีสมรสโดยชอบธรรมแล้วเท่านั้นถึงจะเป็นหลานสะใภ้ที่ถูกต้องตามครรลอง อนุภรรยาแทนตนเองว่าหลานสะใภ้เช่นนี้ เคราะห์ดีแล้วที่ไม่มีคนอื่นอยู่ในโถงรับรองแห่งนี้ มิเช่นนั้นคงต้องอับอายขายหน้า กลายเป็นที่น่าขันของผู้อื่นแน่ ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังไว้หน้าหลานชาย มิได้เอ่ยปากตำหนิต่อหน้าทุกคน เพียงแต่เพิกเฉยหลี่หว่านเอ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 141  

    ในขณะเดียวกัน คนอื่นก็มองมาทางกู้จิ่งซีเช่นกัน เห็นเขาที่ยามปกติยินดียินร้ายไม่แสดงสีหน้ากำลังดึงหน้าเยือกเย็น ดูไม่โกรธแต่รับรู้ได้ถึงความน่าเกรงขาม แม้กระทั่งเสียงเล็ก ๆ ที่ดังมาจากปลายนิ้วกระทบบนโต๊ะน้ำชาก็ยังทำให้คนอกสั่นขวัญแขวนได้ง่าย ๆ ก็ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงรบกวนอารมณ์ขุ่นมัวของเขาอีก เรื่องในวันนี้ เมิ่งจิ่นเหยาเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน คิดไม่ถึงว่ากู้ซิวหมิงที่ได้กอดหญิงงามกลับเรือนแล้วจะหลงระเริงจนลืมตัวเช่นนี้ ถึงขั้นพาหลี่หว่านเอ๋อร์มาให้ผู้อาวุโสพบหน้าทำความรู้จัก และไม่ฉุกคิดเลยสักนิดว่าเรื่องเหลวไหลที่เขาทำลงไปเพื่อหลี่หว่านเอ๋อร์ จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลกู้ เป็นเช่นนี้แล้วพวกผู้อาวุโสจะรู้สึกชมชอบหลี่หว่านเอ๋อร์ได้อย่างไร? ในเมื่อเขาอยากรับหลี่หว่านเอ๋อร์เป็นอนุภรรยาแล้ว ก็ควรจะส่งให้คนไปอบรมสั่งสอนกฎระเบียบให้หลี่หว่านเอ๋อร์ก่อนถึงจะถูกต้องเหมาะสม กลับกระทำเรื่องน่าอับอายอย่างเช่นวันนี้ มีแต่จะยิ่งทำให้ผู้อาวุโสไม่พอใจ บ้านสามยังต้องถูกบ้านใหญ่และบ้านสองเยาะเย้ยถากถาง ผู้เฒ่าก็ยิ่งไม่ถูกชะตากับหญิงคนรักของเขามากขึ้นไปอีก บรรยากาศจมดิ่งเข้าสู่ความเงียบงัน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-14
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 142  

    เขาพูดจบ ก็ผินใบหน้ามองแม่นางข้างกาย ดรุณีน้ำตาคลอเบ้า จ้องมองเขาอย่างอึดอัดสับสน เขาเจ็บปวดหัวใจไม่จบสิ้น ขณะเดียวกันก็สงสารสุดหัวใจ หากมิใช่เพราะเขาบุ่มบ่ามมุทะลุเกินไป วันนี้หว่านเอ๋อร์ก็ไม่ต้องทนกล้ำกลืนกับความไม่เป็นธรรมแล้ว กู้จิ่งซีย่างเท้าไปสองก้าว เห็นบุตรชายไม่ขยับตาม ก็ถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ยังไม่เดินอีก?” กู้ซิวหมิงเปล่งเสียงรับคำ จากนั้นก็เอ่ยกับหลี่หว่านเอ๋อร์ “หว่านเอ๋อร์ เจ้ากลับไปรอข้าที่เรือนชิงอวี้เซวียนก่อน” หลี่หว่านเอ๋อร์อดทนกลั้นน้ำตาไว้ พยักหน้ารับเบา ๆ จ้องมองเงาแผ่นหลังที่จากไปของสองคนพ่อลูก บัดนี้นางรู้สึกไร้ที่พึ่งพิงอย่างถึงที่สุดแล้ว คงเป็นเพราะเมื่อวานและหลายวันก่อนถูกความรุ่งเรืองมั่งคั่งลวงตา ทำให้หลงคิดไปว่าท่านพี่ซิวหมิงยอมไม่สมรสภรรยาเพื่อนางแล้ว จะไม่มีผู้ใดกล้าข่มเหงรังแกนาง และจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อยู่ท่ามกลางอาภรณ์แพรพรรณหรูหราและอาหารเลิศรสโอชา มีความมั่งคั่งรุ่งเรืองเคียงข้าง และมีชายหนุ่มคนรักอยู่เคียงคู่ไปตลอดชีวิต และในอนาคตอันใกล้นี้ นางกับท่านพี่ซิวหมิงก็จะให้กำเนิดบุตรธิดาครบถ้วน และมีชีวิตที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ คิดไม่ถึ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-14
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 143  

    เดิมทีเมิ่งจิ่นเหยาคิดว่าเหตุใดจะต้องสร้างความอึดอัดใจให้สตรีด้วยกัน ในเมื่อพันหมื่นความผิดล้วนอยู่ที่กู้ซิวหมิงที่เป็นตัวปัญหาใหญ่ที่สุด จึงไม่คิดจะทำให้หลี่หว่านเอ๋อร์ต้องลำบากใจมาตั้งแต่ตอนต้นแล้ว แต่ถึงอย่างไรแล้ว นางไม่คิดจะทำให้คนอื่นลำบากใจก็จริง แต่คนอื่นกลับใช้กู้ซิวหมิงมาก่อความรำคาญให้นาง พอพูดแบบนี้แล้ว เหมือนกับว่านางยังคงคิดถึงกู้ซิวหมิงไม่ลืมเลือน อิจฉาริษยาหลี่หว่านเอ๋อร์ ถึงได้หาเรื่องสร้างความอึดอัดใจให้คนอื่น ฟ้าดินเป็นพยาน หากนางคิดจะสร้างความลำบากใจให้หลี่หว่านเอ๋อร์จริง เช่นนั้นก็คงเรียกเจ้าตัวมาตำหนิต่อหน้า ตั้งแต่ที่รู้ว่าหลี่หว่านเอ๋อร์เข้าไปอยู่ในห้องหลักของเรือนชิงอวี้เซวียน หลังจากที่หลี่หว่านเอ๋อร์เข้าจวนมาแล้ว ไยจะต้องรอให้ถึงบัดนี้ด้วย? สีหน้าของนางดูเคร่งขรึมลง ชำเลืองมองหลี่หว่านเอ๋อร์ด้วยสายตาเยือกเย็น พลางเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “คนที่มีสิทธิ์เรียกข้าว่าท่านแม่ นอกจากกู้ซิวหมิงบุตรชายของข้าแล้ว ก็มีเพียงแค่ฮูหยินของซื่อจื่อที่ผ่านพิธีสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วเท่านั้น มิใช่อนุภรรยาของบุตรชายของข้า” สิ้นเสียงของนาง ก็หันไปเอ่ยกับหนิงตงที่อย

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-14

Bab terbaru

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 254

    เฉียวหมอมอกระซิบเตือนสติ “เฉิงเอ๋อร์ เจ้าจงจำเอาไว้ว่าห้ามมีข้อบกพร่องแม้แต่เพียงนิดเดียว มิเช่นนั้นพวกเราแม่ลูกก็อย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตรอดอีกเลย”ใบหน้าของหลี่เฉิงเผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก “หรือว่าคุณหนูใหญ่จะ…”สีหน้าของเฉียวหมอมอจริงจัง พลางส่ายหน้าแผ่วเบา “ไม่ใช่คุณหนูใหญ่”แต่เป็นฮูหยินฮูหยินสามารถทำให้ชุ่ยเอ๋อร์ตายได้ ก็สามารถทำให้นางกับหลี่เฉิงตายได้เช่นกัน พวกเขาทรยศฮูหยิน หลังจากที่ฮูหยินรู้เรื่อง ไม่มีทางปล่อยพวกเขาแม่ลูกเอาไว้แน่ และจะฆ่าพวกเขาเพื่อปิดปาก……ภายในห้องส่วนตัวเมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองจุดอ่อนทั้งสองฉบับที่เฉียวหมอมอและบุตรชายได้ประทับรอยนิ้วมือเอาไว้ มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายวาบผ่านนัยน์ตาราชวงศ์ปัจจุบันเชิดชูความกตัญญู บุตรฟ้องบิดามารดาถือว่าไม่กตัญญู ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นความจริงหรือไม่ บุตรล้วนต้องติดคุกสามปี ถูกโบยยี่สิบไม้ เช่นนั้นนางก็จะไม่ฟ้องร้องแล้ว ทว่าจะให้นางซุนอยู่มิสู้ตายเมิ่งจิ่นเหยาสั่งกำชับ “ชิงชิว เก็บของให้เรียบร้อย”ชิงชิวรับคำ พอพับกระดาษทั้งสองแผ่นเสร็จก็ใส่เข้าไปในซองจดหมายหนิงตงเคลื่อนเท้าไปที่หน้าต่างแล้วเหลือบมอง เมื่อมองเห็

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 253

    เมิ่งจิ่นเหยาส่งสายตาไปให้กับหนิงตงหนิงตงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทันใดนั้นก็หยิบตั๋วเงินใบหนึ่งออกมาจากถุงเงินแล้วส่งให้กับหลี่เฉิงนั่นคือตั๋วเงินที่มีค่าหนึ่งพันตำลึงจำนวนหนึ่งใบเมื่อหลี่เฉิงเห็นว่าจำนวนไม่ถูกต้อง ก็งุนงงเล็กน้อย ทว่าก็ไม่กล้าถามอันใด เพียงแค่เตือนอย่างตะกุกตะกักเท่านั้น “คุณหนูใหญ่ นะ นี่มันตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงเท่านั้นนะขอรับ”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าแผ่วเบา “ไม่ผิด นี่ก็คือหนึ่งพันตำลึง”เมื่อเฉียวหมอมอมองเห็นหนึ่งพันตำลึงนั่น ก็มองเมิ่งจิ่นเหยาอย่างสับสนและประหม่า ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าหกพันตำลึง อยู่ ๆ ก็กลายเป็นหนึ่งพันตำลึง หรือว่าต้องการกลับคำ และต้องการเล่นตลกกับพวกเขาแม่ลูกกระนั้นหรือ?หลี่เฉิงอดรนทนไม่ไหว จึงถามด้วยเสียงร้อนรน “คุณหนูใหญ่ ท่านบอกว่าหกพันตำลึงมิใช่หรือขอรับ?”เมิ่งจิ่นเหยากล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน “เงินรายได้หนึ่งพันตำลึงของที่ดิน คงจะใกล้ได้เวลาส่งมอบสมุดบัญชีให้กับนางซุนแล้วกระมัง? เงินหนึ่งพันตำลึงนี้เจ้าเอาไปเติมเต็มรอยรั่วนี้ก่อน”นางพูดแล้วหยุดลงชั่วขณะ หันหน้าไปมองเฉียวหมอมอ พลางยกยิ้มแผ่วเบา “ส่วนที่เหลืออีกห้าพันตำลึง ก็ต้องดูคว

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 252

    สีหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาอ่อนลง พลางถามอีกว่า “ชุ่ยเอ๋อร์เล่า?”เฉียวหมอมอตอบตามความเป็นจริง “หลังจากชุ่ยเอ๋อร์ออกเรือน ก็ตายเพราะคลอดยากเจ้าค่ะ”ตายเพราะคลอดยากงั้นหรือ?เมิ่งจิ่นเหยาหรี่ตาเล็กน้อย อย่าโทษที่นางคิดมากเกินไป ชุ่ยเอ๋อร์ออกไปจากสายตาของนางซุน ไม่อยู่ในการควบคุมของนางซุน ทว่าเมื่อรู้ความลับของนางซุนแล้ว ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงนางซุนให้ไม่ห่วงกังวล ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะปิดปากนางเฉียวหมอมอสังเกตความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของนางอย่างไม่แสดงออก สามารถคาดเดาได้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงลังเลว่า “เป็นเหมือนที่คุณหนูใหญ่คิดจริง ๆ เจ้าค่ะ”ถูกต้องแล้ว ชุ่ยเอ๋อร์ตายเพราะคลอดยาก เป็นฝีมือของฮูหยินจริง ๆ ฮูหยินจงใจส่งของบำรุงครรภ์จำนวนมากเป็นพิเศษไปให้กับชุ่ยเอ๋อร์ชุ่ยเอ๋อร์ที่ซื่อ ๆ เข้าใจผิดคิดว่าฮูหยินคิดถึงไมตรีครั้งเก่า และเห็นความสำคัญของตนจึงได้ส่งของบำรุงมาให้กับตนเอง และทั้งหมดก็เป็นของดี เป็นของดีที่ปกติไม่ได้กิน จึงได้กินไปทั้งหมด สุดท้ายก็ตายเพราะคลอดบุตรยาก หนึ่งศพสองชีวิตเมื่อมาคิดดูในตอนนี้ ภายในใจของเฉียวหมอมอยังคงหวาดกลัวอยู่บ้าง นายหญ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 251

    ในวินาทีที่สิ้นเสียงของนาง เสียงที่หนักแน่นของหลี่เฉิงก็ดังขึ้น “คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยยินดีเป็นม้ารับใช้ของคุณหนูใหญ่ขอรับ”เมื่อหลี่เฉิงกล่าวจบ ก็ยื่นมือไปสัมผัสที่หมึก จากนั้นก็ประทับรอยนิ้วมือไปบนกระดาษทั้งสองแผ่น การเคลื่อนไหวลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยเมื่อเฉียวหมอมอเห็นดังนั้น ก็ประทับนิ้วมือตามในทันทีจุดอ่อนมีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมแล้ว พวกเขาแม่ลูกขึ้นเรือของเมิ่งจิ่นเหยาโดยสมบูรณ์ นับจากนี้เป็นต้นไปก็เป็นผู้ที่อยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว สามารถทำได้เพียงจงรักภักดีต่อเมิ่งจิ่นเหยาเท่านั้น มิเช่นนั้นหากถูกเปิดเผยต่อหน้านางซุน นางซุนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไว้แน่เมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองรอยนิ้วมือที่อยู่บนนั้น รอยยิ้มฉายวาบผ่านนัยน์ตา พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เฉียวหมอมอ ผู้ดูแลหลี่ พวกเรามาร่วมมือกันอย่างมีความสุขเถิด”สีหน้าของนางสงบนิ่ง น้ำเสียงนุ่มนวล ดูแล้วท่าทางน่าคบค้าด้วยอย่างมากทว่าเฉียวหมอมอกับหลี่เฉิงกลับเกิดความรู้สึกหวาดกลัวนางขึ้นมาเล็กน้อย คนผู้นี้ไม่ได้รับความรักอย่างที่สุด เป็นบุตรสาวคนโตสายตรงของจวนหย่งชางป๋อที่แม้กระทั่งบ่าวไพร่ยังสามารถเหยียบย่ำ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 250

    เมื่อนางจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม เมิ่งจิ่นเหยาที่เงียบงันอยู่นานก็ได้พยักหน้าตอบ “ในเมื่อพวกเจ้าสองคนแม่ลูกมีความจริงใจ เรื่องนี้ก็จะมอบให้พวกเจ้าไปทำ ข้าก็คร้านจะหาผู้อื่นเช่นกัน สำหรับจะเป็นวัวเป็นม้าในอีกครึ่งชีวิตที่เหลือนั้น ก็ไม่จำเป็น เพียงแค่ต้องทำเรื่องนี้แทนข้าให้ดีก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่เฉิงก็คุกเข่าตาม พลางกล่าวขอบคุณพร้อมกับเฉียวหมอมอ “ขอบคุณคุณหนูใหญ่”เมิ่งจิ่นเหยาส่งสายตาให้กับชิงชิวชิงชิวเข้าใจโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็หยิบซองจดหมายซองหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ เปิดซองจดหมายแล้วหยิบกระดาษที่เขียนตัวอักษรขึ้นมาสองแผ่น หลังจากนั้นก็รับกล่องขนาดเล็กทรงกลมกล่องหนึ่งมาจากมือของหนิงตงแล้วเปิดออก นั่นคือกล่องหมึกสีชาดกล่องหนึ่งเมิ่งจิ่นเหยากล่าวอีกว่า “เฉียวหมอมอ ผู้ดูแลหลี่ ประทับรอยนิ้วมือบนนี้เถิด”เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา เฉียวหมอมอกับหลี่เฉิงก็ตะลึงงัน พากันลุกขึ้นยืน มองไปบนกระดาษสองแผ่นที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่รู้เหตุผลเฉียวหมอมอกล่าวอย่างงงัน “คุณหนูใหญ่ นี่คือ?”เมิ่งจิ่นเหยายิ้มอย่างใจเย็น พลางกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าจะให้เงินหกพันตำลึงแก่พวกเจ้า หากพวกเจ้ากลับคำไ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 249

    “คุณหนูใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาเสียที เชิญเข้ามาโดยเร็วเถิดขอรับ”เมื่อหลี่เฉิงมองเห็นเมิ่งจิ่นเหยา ก็เหมือนดังได้เห็นที่พึ่งสุดท้าย เป็นแสงสว่างในความมืดมิด ดวงตาทั้งคู่ของเขาเปล่งประกาย รีบหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกทางเชิญเมิ่งจิ่นเหยาและสาวใช้สองคนเข้ามาเมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าเล็กน้อย พลางย่างเท้าเข้าไปในห้องส่วนตัวหนิงตงกับชิงชิวติดตามไปอย่างใกล้ชิดเมื่อเฉียวหมอมอมองเห็นเมิ่งจิ่นเหยากับสาวใช้อีกสองคนเข้ามา ก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน พลางรินน้ำชาให้กับเมิ่งจิ่นเหยา “คุณหนูใหญ่ เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”ก่อนหน้านี้ตอนที่เมิ่งจิ่นเหยายังไม่ออกเรือน เฉียวหมอมอคือคนสนิทที่อยู่ข้างกายของฮูหยิน สำหรับสตรีที่ไม่ได้รับความรักอย่างเมิ่งจิ่นเหยาแล้ว นางไม่จำเป็นต้องจะต้องใส่ใจ ทว่าตอนนี้นางกลับมีเรื่องที่ต้องขอร้องต่อหน้านาง ความรู้สึกเช่นนี้ทั้งน่ากระอักกระอ่วนและซับซ้อนเมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองดูเฉียวหมอมออยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “เงินหกพันตำลึงไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย ข้าต้องการเห็นคุณค่าถึงจะสามารถช่วยเหลือผู้ดูแลหลี่ได้ เฉียวหมอมอลองบอกมาก่อนเถิดว่ามีอันใดที่คุ้มค่ากับเงินหกพัน

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 248

    จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว แม่สามีของนางในตอนนี้ได้จัดงานเลี้ยงขึ้น จึงได้เชิญท่านย่าของนางไปที่ตระกูลกู้เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงาน ท่านย่าของนางจึงวางใจได้เสียที และจัดเตรียมการแต่งงานให้กับนางกู้จิ่งซีดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่นางกล่าวออกมา จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ฮูหยินก็เป็นแม่คนแล้วเช่นกัน”เมิ่งจิ่นเหยา “…”หากเป็นลูกอกตัญญูเหมือนเช่นกู้ซิวหมิงก็ช่างเถิด นางไม่ต้องการ มีลูกอย่างกู้ซิวหมิง อายุคงสั้นลงไปอีกหลายปี……วันรุ่งขึ้น ใบหน้าของเฉียวหมอมอเต็มไปด้วยความกังวล นางติดตามหลี่เฉิงบุตรชายมารออยู่ที่ห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาที่ตกลงกันไว้ ก่อนหน้านี้มิใช่ว่าบุตรชายไม่เคยติดหนี้การพนัน ทว่าก็ไม่เคยติดหนี้มากมายถึงเพียงนี้ไม่ต้องถึงห้าพันตำลึงของโรงบ่อน ต่อให้เป็นรายได้ของที่ดินที่ขาดดุลหนึ่งพันตำลึงนั่น นางก็ไม่สามารถเอามาคืนได้เช่นกันนางเป็นหมอมอคนสนิทที่อยู่ข้างกายฮูหยิน แต่กลับกำลังจะทำข้อตกลงกับคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่กับฮูหยินมีบุญคุณความแค้นต่อกัน นางทำเช่นนี้เป็นการทรยศฮูหยินที่เคยมีบุญคุณต่อนางอย่างไม่ต้องสงสัยความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจทรมานไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ถึงเวลา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 247

    เมื่อมองเห็นท่าทางที่เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีแล้วของแม่นางน้อย กู้จิ่งซีก็ถามอย่างสนใจว่า “ฮูหยินมีแผนอย่างไรงั้นหรือ?”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาหันมามองเขา ก็เห็นบุรุษผู้นี้กำลังมองดูตนเองด้วยสีหน้าอ่อนโยน ก็ไม่รู้ว่าเหตุใด ถึงได้มีความรู้สึกไว้วางใจเขาอย่างแปลกประหลาด ลังเลเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็เล่าแผนทั้งหมดให้เขาฟังกู้จิ่งซีฟังแม่นางน้อยพูดจนจบ อันที่จริงแผนของแม่นางน้อย สำหรับเขาแล้วยังไม่ประสีประสายิ่งนัก ทว่าสตรีที่อยู่แต่ในเรือน สิ่งที่สามารถทำได้มีข้อจำกัด จึงสามารถทำได้แค่นี้เท่านี้เขาพยักหน้าแผ่วเบา พลางตอบไปสองคำ “ไม่เลว”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาได้ฟังคำยืนยันจากเขา รอยยิ้มที่มีอยู่บนใบหน้าก็กว้างขึ้น ยันข้อศอกไว้บนโต๊ะ มือทั้งสองเท้าคาง ยิ้มหวานพลางถามว่า “ท่านพี่มีแผนที่ดีกว่านี้หรือไม่เจ้าคะ?”กู้จิ่งซีหันมามองนาง พยักหน้าแล้วตอบว่า “มี ทว่าไม่เหมาะกับเจ้า”เมิ่งจิ่นเหยาส่งเสียง ‘หืม?’ อย่างไม่เข้าใจ เงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน หมายจะสอบถามกู้จิ่งซีกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “เป็นสตรี อย่าใช้วิธีการเปื้อนเลือดจะดีกว่า”เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็เบ้ปาก สุดท้ายก็ไม่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 246

    เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าแผ่วเบา ครุ่นคิดอย่างลังเลอยู่ชั่วครู่ก็ถามอีกว่า “ที่ดินในเขตชานเมืองของข้าขาดผู้ดูแล เจ้ายินดีไปหรือไม่?”ทุกวันนี้ นางรู้สึกว่าความสามารถของหลินรุ่ยค่อนข้างใช้ได้ บังเอิญในสินเดิมของมารดานางมีที่ดินอยู่และต้องการเปลี่ยนผู้ดูแล หลินรุ่ยเหมาะสมที่จะไปทำหน้าที่ผู้ดูแลได้พอดีประการแรกเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยมีความสามารถประการที่สองเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยเป็นคนของนาง สามารถเชื่อใจได้ รายได้ของที่ดินนั่นดีมาก เขาไม่มีทางทำบัญชีเท็จและปิดบังเงินรายได้ที่ดินกับร้านค้าพวกนั้นอยู่ในสินเดิมของมารดานาง ถูกนางซุนดูแลมานานหลายปี ผู้ดูแลเดิมได้ถูกนางซุนเปลี่ยนตัวไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผู้ดูแลพวกนั้นล้วนแต่เป็นคนที่นางซุนปลูกฝังมา หรือไม่ก็เป็นพวกคนไม่ซื่อสัตย์ที่ไปพึ่งพานางซุนตอนนี้นางรับกลับมาดูแลต่อ คนของนางซุนย่อมต้องเปลี่ยนออกไปเป็นธรรมดา เปลี่ยนออกไปทั้งหมด ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่สามารถหาคนที่เชื่อใจได้มากมายขนาดนั้น ช่วงนี้สามารถทำได้เพียงเปลี่ยนคนที่ไม่เข้าตาที่สุดออกไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ สังเกตกันไป ค่อยเป็นค่อยไป คนที่นางสามารถใช้ประโยชน์ได้ก็เก็บเอาไว้ก่อนหลินรุ่ย

DMCA.com Protection Status