Share

ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา
ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา
Author: วริษา

บทที่ 1 ถูกหักหลัง

last update Last Updated: 2024-12-15 09:54:21

บทที่ 1 ถูกหักหลัง

        เมืองหลวงที่กว้างใหญ่ผู้คนกำลังเดินอย่างเร่งรีบเพื่อไปทำงานไม่ต่างอะไรกับ ลี่หยางชายหนุ่มที่กำลังเดินไปด้านหน้าขะมักเขม้น เขาทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานประจำหรือแม้กระทั่งงานพิเศษเพื่อหาเงินมาให้มาก ๆ ลี่หยางไม่เคยมีครอบครัว เขาเกิดมาเป็นเด็กกำพร้าและเติบโตมาจากสถานที่รับเลี้ยงเด็ก แต่เมื่อมีแฟนเขาจึงรักและเถิดทูลเขามากที่สุด และการทำงานในครั้งนี้เขาตั้งทำงานสารพัดอย่างเพราะครอบครัวของคนรักนั้นเกิดป่วยขึ้นมา เฉินจิ่นหรือแฟนของลี่หยางจึงนำเรื่องที่บ้านมาปรึกษาเพราะไม่รู้ว่าจะหาค่ารักษามาจากไหน ลี่หยางสงสารแฟนสุดหัวใจ เขาจึงได้มอบเงินเก็บให้กับเฉินจิ่น แต่ก็คงไม่พอสำหรับการรักษา ลี่หยางจึงให้คำสัญญาว่าเขาจะหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวของเฉินจิ่นจนกว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาล

เฉินจิ่นโอบกอดและขอบคุณที่ลี่หยางไม่รังเกียจที่ต้องมาช่วยเหลือเขาแถมยังต้องหาเงินค่ารักษาช่วยเขาอีกด้วย

"เหม่อลอยเชียวนะ รู้มั้ยว่าน้ำเต็มกะละมั่งแล้ว" หัวหน้าของลี่หยางได้สะกิดบอก 

"ขอโทษด้วยครับ ผมจะตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้ "ลี่หยางรีบก้มลงขอโทษ เขาทันทีที่ไม่ได้ตั้งใจทำงาน 

"ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรนายสักหน่อย ว่าแต่ช่วงนี้นายพักผ่อนน้อยหรือยังไง? เหมือนจะง่วงตลอดเวลา" เจ้านายถามเขาด้วยคความเป็นห่วง 

"พอดีช่วงนี้ผมทำงานหลายที่เพราะต้องหาเงินไปรักษาแม่ของเฉินจิ่น เลยไม่ค่อยได้พักผ่อนนะครับ" เจ้านายเดินเข้ามาตบบ่าและเดินออกไป

"อย่าดูแลเอาใจใส่คนอื่น จนลืมที่จะดูแลตัวเองด้วยล่ะ เงินจะหาเมื่อไหร่ย่อมได้แต่ว่าร่างกายของนายหากเจ็บป่วยขึ้นมาจะมีใครมาดูแล "

"ก็เฉินจิ่นไงครับเขารักผมจะตาย " ลี่หยางยิ้มกริ่มตอบออกมาอย่างมั่นใจ

“ขอให้เขารักนายจริงอย่างที่นายพูดแล้วกัน ตั้งใจทำงานให้เสร็จเถอะนายจะได้ไปทำที่อื่นต่อ” เจ้านายพูดจบก็เดินออกไป เขามาทำงานที่ร้านกาแฟโชคดีที่มีเจ้านายใจดี ทำให้ลี่หยางไม่ค่อยกดดันสักเท่าไหร่ เขาตั้งใจทำงานเสิร์ฟของที่ลูกค้าสั่ง และก็ช่วยเก็บกวาดร้านเมื่อตอนลูกค้าไม่มี ร้านที่เขาทำจะปิดลงตอนบ่าย ทำให้ลี่หยางมีเวลาไปทำงานอีกที่ เป็นร้านอาหารยามค่ำคืนเป็นร้านเหล้า ในตอนแรกที่ลี่หยางไปสมัครเจ้าของอยากให้ลี่หยางไปทำหน้าที่ต้อนรับและเอ็นเตอร์เทนแต่ลี่หยางไม่ชอบงานเช่นนั้นเหมือนไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองที่จะให้ผู้อื่นมาแตะต้องร่างกาย ลี่หยางจึงขอทำให้หน้าที่พนักงานเสิร์ฟและคอยเก็บกวาดร้านก็เพียงพอแล้ว แม้เจ้านายจะเสียดายหน้าตาของลี่หยางอย่างไรเขาก็ไม่ยอมทำ 

“ผมกลับก่อนนะครับ ” ลี่หยางเก็บของเสร็จเรียบร้อยก็ร่ำลาเพื่อกลับบ้านพักผ่อน เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลานี่ก็เลยเวลามามากแต่ทำไมเฉินจิ่นยังไม่มารับ ลี่หยางล้วงเอามือถือออกมาจากกระเป๋าสะพายก็พบกับข้อความของเฉินจิ่นที่ส่งมาบอกว่าวันนี้เขามารับไม่ได้ ลี่หยางถอนหายใจและเดินไปที่ป้ายรถเมย์เพื่อเดินทางพาร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับไปที่ห้องนอน ช่วงแรก ๆ เฉินจิ่นจะคอยมารับตลอดแต่ช่วงหลังมานี้เขามักจะไม่ค่อยว่างและบอกว่าตนเองนั้นกำลังดูแลคุณแม่อยู่ แม้ลี่หยางจะเข้าใจแต่เขาเองก็อยากพบหน้าของเฉินจิ่นบ้างเท่านั้นเอง

เมื่อกลับมาถึงห้องลี่หยางก็เดินไปที่เตียงนอนและหลับไปอย่างหมดแรง

ตริ่งๆ ๆ””” เสียงนาฬิกาในเวลาเดิม ๆ ก็ได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลี่หยางใช้มือคว้าไปปิดนาฬิกาที่ดังอยู่บนหัวเตียงและลุกขึ้นมาปิดตัวก่อนจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำไปทำงานเช่นเคย

ติ่ง! เสียงข้อความดังขึ้นในตอนที่ลี่หยางอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จแล้วก็ได้เดินออกมาสวมเสื้อผ้าและหยิบมือถือมาดูว่าเฉินจิ่นติดต่อมาบ้างหรือเปล่า ? นี่ก็หลายวันแล้วที่ไม่ได้พบหน้า ตั้งแต่วันที่เงินเดือนของลี่หยางออกเขาก็ได้ขอไปดูแลแม่ แต่แล้วกลับไม่พบข้อความของเฉินจิ่นเลย มีเพียงข้อความของที่ร้านส่งเข้ามาลี่หยางเปิดอ่านก็พบว่าวันนี้ร้านปิดเพราะคุณแม่ของเจ้าของร้านได้ล้มหัวฟาดพื้นต้องกลับไปหาแม่ที่นอกเมือง ลี่หยางอ่านจบก็ได้ยิ้มออกมาทันที เช่นนั้นก็เท่ากับว่าวันนี้เขาได้พักผ่อนหนึ่งวัน แต่ลี่หยางกลับเดินไปหยิบกระเป๋าสะพานและมือถือไปด้านนอกพร้อมเสื้อคุมกันแดด แม้เขาไม่รู้จักกับครอบครัวของเฉินจิ่นเท่าไหร่แต่ก็เคยส่งของกินของใช้ไปให้บ่อย ๆ จึงมีที่อยู่ของเขา ลี่หยางตั้งใจว่าวันนี้จะไปเยี่ยมคุณแม่ที่ป่วยและซื้อของไปฝาก

       ลี่หยางไปที่ตลาดและซื้อของพร้อมเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมย์เพื่อเดินทางเขามองดูของที่ซื้อไปฝากก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ วันนี้เขาจะได้พบกับเฉินจิ่นคนรักที่เขาคิดถึงมากที่สุดในตอนนี้ 

ในที่สุดรถก็ได้มาจอดที่หน้าบ้านของเฉินจิ่นเขาลงรถมาก็ได้เดินไปหน้าบ้านเลขที่ที่จดมา ก็ได้พบเลขที่ตนเคยส่งของมาให้บ่อย ๆ

“มาถึงแล้วสินะ นายจะดีใจแค่ไหนนะที่เห็นฉันมาเยี่ยมถึงที่บ้านอย่างนี้ โอ๊ยตื่นเต้นชะมัดอยากเห็นสีหน้าตอนที่เขาเห็นฉันชะมัดคงจะตกใจน่าดู ” ลี่หยางพูดออกมาพร้อมกดกริ่งที่หน้าบ้าน ไม่นานนักก็มีคนออกมาเปิดประตูให้ลี่หยาง 

“ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ ”หญิงสาวใบหน้าสะสวยเปิดประตูออกมาและมองดูลี่หยางตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มหวานให้เขาเพื่อเป็นการต้อนรับ

“เอ่อ... ไม่ทราบว่าที่นี่บ้านของเฉินจิ่นมั้ยครับ? ” เมื่อเธอได้ยินชื่อของเฉินจิ่นก็รีบชวนเขาเข้าบ้านทันที

“ก็คิดว่าใครที่ไหนที่แท้ก็คงเป็นเพื่อนของเฉินจิ่นใช่มั้ยคะ เข้ามาด้านในก่อนเถอะค่ะ แล้วนี่เอาอะไรมามากมายขนาดนี้คะ” เธอผายมือให้ลี่หยางเข้ามาลี่หยางเองก็ต้องแปลกใจที่เธอถาม และเขาเองก็สงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครเพราะเฉินจิ่นเคยบอกว่าเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว

ลี่หยางกำลังจะบอกว่าที่เขานำมานั้นเป็นของฝากแต่ก็ไม่ทันได้พูดเฉินจิ่นก็เดินออกมาพร้อมอุ้มเด็กเล็กอยู่ในอ้อมกอด

“ที่รักใครมาหรือทำไมถึงออกมานานขนาดนี้” เฉินจิ่นที่เดินเข้ามาหาผู้หญิงคนนั้นพร้อมโอบกอดเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ลี่หยางที่เดินตามมาก็ได้เห็นเข้าเต็ม ๆ ทั้งสองตา สิ่งที่เกิดอยู่ต่อหน้ามันเกิดความคาดหมาย ใจของลี่หยางเริ่มสั่นไหวและร้อนรุ่ม 

“มีคนมาหาคุณนะค่ะน่าจะเป็นเพื่อนคุณ ใจดีมากเลยซื้อของมาฝากตั้งมากมาย เจ้าหนูมาหาแม่ม่ะให้คุณพ่อได้ไปต้อนรับเพื่อน” ผู้หญิงคนนั้นก็ยื่นมืออุ้มเอาเด็กเล็กที่อยู่ในแขนของเฉินจิ่นมากอดและพาเดินเข้าไปที่ห้อง ส่วนเฉินจิ่นเมื่อรู้ว่ามีคนมาหาเขาก็ได้หันหน้ามาดูก็ต้องสะดุ้งตกใจและใบหน้าก็เริ่มซีดขาว จากต่างลี่หยางที่ตอนนี้รอบดวงตากำลังเอ่อแดงและพยายามกลั่นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา นี่ผ่านมาเขาโกหกมาตลอด ความรักตลอดห้าปีที่ผ่านมาคือสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงลี่หยางทั้งสิ้น ลี่หยางเจ็บปวดหัวใจของตนเองอย่างมากมายแต่ก็ต้องกลั่นน้ำตาซ้อนความเจ็บปวดไว้และยื่นของที่เขาซื้อมาฝากด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ฉันซื้อของมาฝากแม่ของนาย ท่านเป็นอย่างไรบ้างหายดีแล้วหรือ” ลี่หยางพยายามพูดออกมาอย่างเป็นปกติแม้ว่าน้ำเสียงตอนนี้กำลังสั่นเครือ

เฉินจิ่นรีบรับของและวางลงพร้อมเดินเข้ามาใกล้ลี่หยาง

“นี่ลี่หยางฟังฉันก่อนนะ เรื่องนี้ฉันอธิบายได้” เขาก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้ลี่หยางมากขึ้น แต่ลี่หยางก็พยายามถอยหลังหนี

“อย่า...เข้ามาใกล้ฉันเดี๋ยวเมียของนายจะเห็นเอาได้ ”

“นี่ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอธิบายได้ ฟังฉันก่อนนะ” เฉินจิ่นจับแขนของลี่หยางให้ไปพูดกับตนที่ด้านนอก เขตหมู่บ้านที่เฉินจิ่นอยู่นั้นติดกับทะเลทำให้มีลมแรงโบกสะบัดเขาได้พาลี่หยางมาคุยกันที่ถนนริมทะเล เมื่อมาถึงลี่หยางไม่อาจอั้นความรู้สึกไว้อีกต่อไป 

“ปล่อย!! ฉันบอกให้ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ นี่มันเรื่องอะไรแล้วแม่นายที่ป่วยอยู่ตอนนี้อยู่ที่ไหน แล้วผู้หญิงกับเด็กนั่นอีกหากวันนี้ฉันไม่มาเยี่ยมนายที่บ้านก็คงไม่รู้ว่าที่ผ่านมาฉันโง่ขนาดไหนที่ให้นายหลอกอย่างกับคนโง่ ” ลี่หยางระเบิดอารมณ์ของตัวเองออกมาพร้อมน้ำตาที่กำลังรินไหล 

“ไม่นะ! ฉันไม่เคยหลอกลวงนายเลย ความรู้สึกที่ฉันมีให้นายนั่นคือของจริง แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นมันคือความจำเป็นที่ฉันต้องทำเช่นนั้น”

“ความจำเป็นอะไร? หากนายไม่รักเธอก็คงไม่มีเด็กคนนั้นมาเกิดหรอกนะ นายกลับไปเถอะไปอยู่กับครอบครัวของนาย ตอนนี้ฉันไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ฉันเหนื่อย” น้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากตาของลี่หยางอย่างมากมาย

“ฟังฉันก่อนนะ แม่ของฉันไม่สบายจริง ๆ และท่านอยากอุ้มหลาน ฉันต้องทำ...”

“หยุดอย่ามาอ้างเลย ถ้านายรักฉันจริงจะไม่มีทางหักหลังฉันแบบนี้ เอามือสกปรกของนายออกมาจากมือฉันเดี๋ยวนี้ ” ลี่หยางไม่อาจทนฟังคำโกหกที่ออกมาจากปากของเฉินจิ่นได้อีกต่อไปเขาสะบัดมือของเฉินจิ่นออกและวิ่งหนีเขาไปแต่ในเวลาเดียวกันรถบรรทุกสัตว์ทะเลเพื่อไปส่งตามที่ต่าง ๆ ก็ได้ขับออกมาด้วยความเร็วทำให้เขาไม่สามารถเบรกทำชนเข้ากับร่างของลี่หยางอย่างแรงก่อนที่จะกระเด็นลงไปในทะเล เสียงดังกึกก้องไม่ว่าจะเป็นเสียงเบรกของล้อรถหรือเสียงที่ตะโกนออกมาของเฉินจิ่นที่ดังอยู่ในหูของลี่หยางที่กำลังร่องลอยไปที่ทะเลความเจ็บปวดที่จิตใจนั้นมากกว่าแรงที่รถชนเขาหลายร้อยเท่า ร่างของลี่หยางกำลังจมลงอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขาไม่รับรู้อะไรนอกจากความหนาวเหน็บในร่างกายลี่หยางเริ่มทรมานเพราะน้ำกำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายเขาหลับตาลงอย่างช้า ๆ และปล่อยให้ตนเองจมลงไปที่ใต้ท้องทะเล และภาวนาในจิตใจ หากได้เกิดมาอีกครั้งเขาจะไม่ขอรักใครอีกเลยและไม่ขอพบเจอกับเฉินจิ่นอีก

Related chapters

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 2 หมู่บ้านจั๋วมู่หลาง

    บทที่ 2 หมู่บ้านจั๋วมู่หลาง“ท่านป้าเมื่อไหร่ท่านพี่จิ้นหยางจะฟื้นเสียที นี่ก็หลายชั่วยามแล้วหรือว่าท่านพี่จะจากข้าไปแล้ว” เสียงเจี้ยวจ้าวของใครกันนะมารบกวนฉันแบบนี้รู้มั้ยว่าเวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของฉันโอ๊ยอยากจะบ้าตาย ลี่หยางบ่นพึ่มพำก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างล้า ๆ“โอ๊ะ! ท่านป้าท่านพี่ฟื้นแล้ว ท่านพี่ท่านฟื้นแล้วท่านรู้มั้ยว่าข้าตกใจแค่ไหนที่คิดว่าท่านพี่จะจากไปตอนอายุเพียงเท่านี้ จากนี้ไปท่านพี่ห้ามไปที่แม่น้ำเพียงผู้เดียวอีกนะ” เด็กหนุ่มก้มลงมากอดร่างของลี่หยางทำให้เขาตกใจเพราะไม่เคยพบเจอกับเด็กนี่ัสักครั้งแต่เขาก็ต้องแปลกใจมากกว่าเดิมที่เห็นสภาพบ้านที่เก่าทรุดโทรมทำด้วยไม้คล้ายกระท่อม และเสื้อผ้าที่สวมใส่และต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเห็นผู้หญิงแก่คนหนึ่งเดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมโอบกอด“จิ้นหยางของข้า โล่งอกไปทีสวรรค์เมตตาเจ้ายิ่งนัก” เธอเข้ามาสวมกอดลี่หยางอีกคนทำให้เขาเริ่มหายใจไม่ออกและตะโกนออกมา“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ ” ทั้งสองผละออกห่างจากร่างกายของลี่หยางและจ้องมองเขาอย่างแปลกใจ“เอ๊ะ! เจ้าเป็นอะไรหรือว่าไม่สบายตรงไหนข้าจะไปตามท่านหมอประจำหมู่บ้านมาตรวจเจ้าอีกที นี่เจียวซิ่งเจ้าอยู่นี่

    Last Updated : 2024-12-15
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 3 ทำไมต้องกลัว

    บทที่ 3 ทำไมต้องกลัวระหว่างทางจิ้นหยางก็ได้ถามเจียวซิ่งเกี่ยวกับใต้เท้ามู่ว่าเหตุใดต้องเกรงกลัวด้วย เจียวซิ่งก็ได้เล่าให้ฟังว่าท่านป้านั้นได้ไปหยิบยืมเมล็ดพันธุ์ข้าวมาปลูกแต่ทว่าไม่มีความรู้แล้วแห้งแล้ง ทำให้ไม่มีผลผลิตและไม่มีข้าวไปคืนท่านใต้เท้าทำให้เขาคิดเป็นจำนวนพร้อมดอกเบี้ยที่มากมายมหาศาล ใต้เท้าเป็นคนมักโลภหากผู้ใดได้ดีก็มักจะกลั่นแกล้ง แต่หากว่าผู้ใดแบ่งผลผลิตให้ก็จะปล่อยผ่าน เป็นอยู่อย่างนี้มาเนิ่นนานทำให้ใต้เท้าผู้นี้ร่ำรวยขึ้นทุกวัน เมื่อจิ้นหยางได้ฟังก็กำหมัดแน่นเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากรีดเลือดกับปู“เหอะ เป็นคนเห็นแก่ตัวแก่ได้จริง ๆ ตอนนี้ดูท่าฝนจะตกแล้ว ฉันจะต้องทำทุกอย่างเพื่อหาทางใช้หนี้ใต้เท้ามู่ผู้นี้ให้ได้ ชีวิตของฉันต่อจากนี้จะได้สุขสบาย” จิ้นหยางครุ่นคิดในใจพลางเดินตามหลังเจียวซิ่งไปในป่า ไม่นานนักก็ถึงป่า ไม้แห้งน้อยใหญ่เต็มไปหมดเจียวซิ่งวางผ้ามัดฟืนเอาไว้ที่พื้นก่อนจะเดินเก็บมาใส่ผ้าให้ได้มากที่สุด จิ้นหยางเห็นดังนั้นจึงรีบทำตามเจียวซิ่งโดยไม่รอช้า ในที่สุดทั้งสองก็พากันเดินกลับเรือนครั้นใกล้จะถึงกระท่อมของจิ้นหยางเม็ดฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอย่างโหมกระหน่ำ เจียวซิ่งหั

    Last Updated : 2024-12-15
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา    บทที่ 4 ลงมือปลูกผัก

    บทที่ 4 ลงมือปลูกผักเสียงนกขับขานร้องส่งกันไปมา แสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในกระท่อมแยงตาผู้ที่นอนลับสนิทให้รู้สึกตัว จิ้นหยางลืมตาขึ้นกวาดสายตามองต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้งก่อนจะนึกออกได้ว่าตัวเองทะลุมิติมาจากที่อื่น"เฮ้อ! คิดว่าฝันไปเสียอีก คงเป็นฟ้าลิขิตสินะ " จิ้นหยางเอ่ยพลางยันกายลุกขึ้น มองเห็นสตรีที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่ตื่นจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นไม่ให้เกิดเสียงดังก่อนเข้าไปที่ครัว เพื่อทำอาหารเช้าเมื่อเข้ามาในครัวยามนี้มีเพียงมันเทศเท่านั้นที่เหลืออยู่ นี่คงเป็นอาหารสุดท้ายแล้วสินะ"คงไม่มีทางเลือกแล้วต้องทำอันนี้กินสินะ ว่าแล้วเชียวทำไมเจียวซิ่งถึงได้ไม่อยากกินข้าวเย็นด้วย " จิ้นหยางเอ่ยพึมพัมก่อนจะจัดการนำมันไปเผาเพื่อกินประทังชีวิตเมื่อจัดการมันเสร็จจิ้นหยางได้ออกไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ กระท่อม บรรยากาศกำลังเย็นสบายหลังจากที่ฝนตกไปทั้งคืนเช้านี้จึงมีหมอกควันลอยบนท้องฟ้า"พี่จิ้นหยางข้ามาแล้วขอรับ " พลันเสียงของเจียวซิ่งดังขึ้น จิ้นหยางหันขวับไปมองทันที"เจ้าเด็กคนนี้คงจะติดจิ้นหยางนี่มากสินะ ทั้ง ๆ ที่เช้าขนาดนี้ยังเร่งรีบมาที่นี่ แต่ก็ดีเหมือนกันฉันเองจะได้ไม่เหงา " จิ้นหยางพูด

    Last Updated : 2024-12-15
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่

    บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่ทั้งสองพากันเดินเข้ามาในตลาดช่างคึกคักตื่นตาตื่นใจของจิ้นหยางเหลือเกิน การที่เขาทะลุมิติมายังที่แห่งนี้ไม่ได้มีเรื่องร้ายอะไรนอกจากความยากจน ที่นี่ทั้งบรรยากาศสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากที่เขาอยู่ยิ่งนัก แม้จะลำบากอยู่บ้างแต่เขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว“พี่จิ้นหยางรีบเดินตามข้ามาขอรับ เดินไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่จะเจอเรือนของท่านเจ้าเมืองแล้วขอรับเห็นด้านหน้านั้นหรือไม่? ผู้คนจอแจเต็มหน้าเรือนสงสัยจะมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้าเมืองที่ย้ายมาใหม่มีใบหน้าที่หล่อเหลาข้าชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าจะหล่อเท่าข้ามั้ย” จิ้นหยางมองใบหน้าของเจียวซิ่งก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขันในความมั่นอกมั่นใจของเขาเหลือเกิน“พี่จิ้นหยางหัวเราะข้าอย่างนั้นหรือ? ท่านไม่รู้สินะว่าข้านะมีใบหน้าหล่อเหลาที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว หากข้าเติบโตอีกสักหน่อยคงจะมีสตรีมากมายเข้าหาจนน่ารำคาญแน่นอน”“ข้ายังไม่ได้ว่าอะไรเจ้าเลยนะ ไหนล่ะทางที่เจ้าจะพาหาเข้าไปหาอาหาร เท่าที่ข้าดูผู้ที่เข้าไปต้องมีเทียบเชิญมิใช่หรือ” สองเท้าก้าวมาถึงหน้าเรือนเห็นคนที่เข้าไปต้องยื่นเทียบเชิญให้แก่บ่าวรับใช้ที่

    Last Updated : 2024-12-18
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 6 ถูกใจบ่าวใช้หน้าหวาน 

    บทที่ 6 ถูกใจบ่าวใช้หน้าหวาน อวิ้นหลี่ว์ เจ้าเมืองที่ย้ายมาหมู่บ้านแห่งนี้เพราะเขาเบื่อหน่ายเมืองหลวงที่วุ่นวายและบ่าวมากมายรวมถึงเหล่าใต้เท้าที่มักประจบสอพอจึงขอออกมาเป็นเจ้าเมืองที่ชนบทมาอยู่ในที่เงียบสงบ แม้จะทำใจเรื่องงานเลี้ยงฉลองที่น่าเบื่อแต่อย่างไรก็มีเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น เขาจึงนั่งร่วมฉลองอยู่กับเหล่าใต้เท้าที่อยู่ในหมู่บ้านนี้รวมถึงเรือนของคนมีฐานะที่เข้ามาแสดงความยินดี ความเบื่อหน่ายที่พบเจออยู่บ่อย ๆ จนเคยชินจู่ ๆ สายตาพลันมองไปเห็นบุรุษใบหน้าหวานแต่งกายเหมือนเป็นบ่าวในเรือนนี้ช่างสะดุดตามากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเจอมา ดวงตากรีดยาวเศร้าหมองแต่ช่างดึงดูดเขายิ่งนัก การแสดงที่อยู่ตรงหน้ายังไม่น่ามองเท่าบ่าวรับใช้ผู้นั้นแม้แต่น้อย ยิ่งยามที่มือเรียวยาวหยิบจับอาหารเข้าปากริมฝีปากอ้ารับอาหารเข้าไปเคี้ยวกินยิ่งทำให้เขาสั่นไหว อยากจะครอบครองร่างกายของบ่าวผู้นี้เหลือเกิน คิดไม่ผิดเลยที่ครั้งนี้เขาย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ ราวกับพบเจอทับทิมแสนงาม ครั้นสายตาของเขาหันไปทางอื่นชั่วครู่หันกลับมาไม่เห็นแม้กระทั่งเงาของบ่าวผู้นั้น อวิ้นหลี่ว์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ร่ำลาทุกคนให้ทุกคนดื่มด่ำ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 7 มาบำเรอข้า

    บทที่ 7 มาบำเรอข้า“ท่านเจ้าเมืองข้าขออภัยด้วยเพราะข้าซุ่มซ่ามเอง ไม่ทันระวังทำให้หล่นลงมาในอ่างกับท่าน” น้ำเสียงสั่นระรัวรีบเอ่ยบอกพลางยันกายลุกขึ้นแต่ทว่ากลับถูกอวิ้นหลี่ว์ใช้มือจับปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้นเพื่อมองให้ชัดเจน ดวงตาของจิ้นหยางช่างดึงดูดเขาเหลือเกิน ริมฝีปากเผยอราวกับยั่วยวนอวิ้นหลี่ว์ให้ลิ้มลอง ร่างกายของเขาอวิ้นหลี่ว์เลือดลมกระฉูดทั่วร่างหากปล่อยบ่าวผู้นี้ออกไปจากอ่างน้ำวันนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ ๆ“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดเจ้าสักนิดอีกอย่างมิใช่เจ้าซุ่มซ่ามแต่เป็นข้าต่างหากที่ทำให้เจ้าลงมาแช่น้ำกับข้าเช่นนี้เจ้าชื่ออันใดหรือ”“เอ่อ...ข้าน้อยมีนามว่าจิ้นหยางขอรับ” เพราะน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานกำลังเอ่ยถามทำให้จิ้นหยางไม่ทันได้คิดจึงเอ่ยบอกชื่อตนเองออกไป“ชื่อไพเราะเสียจริง ต่อจากนี้เรียกข้าว่าท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ ไหนลองเรียกสิ”“ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์” น้ำเสียงสั่นกระเส่าเรียกดวงตาหลุบลงด้วยความเขินอายเมื่อถูกเขาจับปลายคางให้เงยมอง จิ้นหยางใจสั่นไหวเมื่อถูกเขาสัมผัสอย่างอ่อนโยน ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของจิ้นหยางเจ้าเมืองหลี่ว์มิอาจจะอดกลั่นที่จะครอบครองร่างกายที่อยู่เบื่องหน้

    Last Updated : 2024-12-19
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 8 กลืนกินกันและกัน

    บทที่ 8 กลืนกินกันและกันอวิ้นหลี่ว์ปล่อยมือออกจากแท่งร้อนของจิ้นหยางเงยหน้าขึ้นยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจที่เห็นจิ้นหยางเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ให้จิ้นหยางได้พัก จับแขนของจิ้นหยางให้หันมาหาตน“ในเมื่อข้าทำเจ้าเสร็จแล้วถึงตาข้าจะมีความสุขบ้างแล้ว ดูสิมังกรของข้าตั้งผงาดรอเจ้าปรนนิบัติอยู่” จิ้นหยางหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกินทำไมเขาถึงได้เอ่ยมาอย่างไม่อายอย่างนี้ จิ้นหยางจ้องมองแท่งร้อนของท่านเจ้าเมืองก่อนจะใช้มือทั้งสองสาวขึ้นลงสายตาจ้องมองใบหน้าของเขา หากเขาตั้งใจทำให้เสร็จคงจะหนีออกไปได้ รีบมาทำให้จบเสียทีไม่เช่นนั้นท่านแม่จะเป็นห่วงเมื่อคิดได้เช่นนั้นจิ้นหยางก้มลงครอบปากสวมแท่งเนื้อลำยาวจนคนถูกกระทำหน้าบิดเบี้ยวแสดงความเสียวซ่านเมื่อปลายลิ้นของจิ้นหยางกวาดตวัดดูดแรง มือขวาของอวิ้นหลี่ว์จับขอบอ่างเพื่อยับยั้งความเสียว อีกข้างยื่นมาจับหัวของจิ้นหยางเอาไว้จิ้นหยางรูดขึ้นรูดลง ใช้ปลายลิ้นตวัดปลายหัวกลมมนก่อนจะก้มดูดเม้นด้วยความแรงมากกว่าเดิม จนอวิ้นหลี่ว์ครวญครางออกมา“ซี้ด ... อ๊าาาลึก ลึกกว่านี้อีกนิด เจ้าใช้ลิ้นได้เก่งเหลือเกินดูดรัดจนข้าปวดไปหมด” เสียงครางกระเส่าของอวิ้นหลี่ว์ทำ

    Last Updated : 2024-12-19
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 9 ตามจับหนู

    บทที่ 9 ตามจับหนูฝั่งด้านจิ้นหยางเช้าวันนี้เขาตื่นสายกว่าทุกวันเพราะร่างกายที่ผ่านศึกมาถึงสองคราทำให้รู้สึกเจ็บไม่น้อยและเหน็ดเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก แต่แล้วเสียงของเจียวซิ่งได้ดังขึ้นปลุกเขาที่อยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง“พี่จิ้นหยาง ท่านกลับออกมาได้อย่างไรขอรับถูกจับได้หรือไม่? ข้าเป็นห่วงท่านแทบแย่ เฮ้อ! ข้าคิดว่าท่านต้องถูกทำโทษจึงรีบมาหาท่านแต่เช้าเมื่อเห็นท่านนอนอยู่เช่นนี้ข้าเองก็เบาใจ” จิ้นหยางสะลึมสะลือตื่นขึ้นด้วยน้ำเสียงเจี๊ยวจ้าวของเจียวซิ่ง“นี่เจ้า ...อยากให้ท่านแม่รู้หรือไงว่าไปที่ใดมาถึงได้แหกปากเสียงดังแต่เช้าตรู่เช่นนี้”“ท่านป้าไม่อยู่ในเรือนเสียหน่อยขอรับ อีกอย่างท่านป้าไม่ระแคะระคายที่ท่านกลับมาทีหลังข้าด้วยซ้ำ ท่านรีบบอกข้ามาว่าท่านออกมาจากเรือนท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร เขาเรียกท่านไปทำไมกัน” ใบหน้าของเจียวซิ่งคิ้วขมวดเข้าหากันเพ่งมองมายังใบหน้าของจิ้นหยางด้วยความอยากรู้อยากเห็น จิ้นหยางไม่อยากให้เจียวซิ่งรู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาพบเจออะไรมาเลยต้องโกหกออกไป เขาลุกขึ้นใช้มือดันหัวของเจียวซิ่งออกห่างก่อนจะต่อว่าเขา“เพราะเจ้าที่ทำให้ข้าลำบาก ต่อจากนี้ข้าจะไม่เชื่อใจเจ้าไปไ

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 30 ฮูหยินของท่านเจ้าเมือง

    บทที่ 30 ฮูหยินของท่านเจ้าเมืองรุ่งเช้าวันต่อมา เจียวซิ่งรู้ว่าเรือนของจิ้นหยางถูกวางเพลิงจนไม่เหลือแม้กระทั่งเสาเรือนรีบเดินทางมาที่เรือนของท่านเจ้าเมืองเพื่อกับจิ้นหยาง และเมื่อจิ้นหยางได้ยินรีบไปดูเรือนด้วยความเสียใจ เรือนทั้งหลังมีเพียงขี้เถ้าเท่านั้นและเขาเองก็รู้ดีว่าต้องเป็นฝีมือของใต้เท้ามู่จึงรีบเดินทางไปหาใต้เท้ามู่ที่เรือนเรื่องในครั้งนี้เขาจะไม่น้อยอยู่นิ่งเฉยอีกต่อไป แม้ตายก็ไม่กลัวแต่ทว่าเมื่อมาที่เรือนของใต้เท้ามู่กลับไม่อยู่และรู้มาว่าท่านเจ้าเมืองได้จัดการจับกุมใต้เท้ามู่ไปยังวังหลวงเพื่อรับโทษ จิ้นหยางครุ่นคิดก็นึกออกว่าที่เขาไม่ให้ตนเองไปหาเมื่อคืนนี้เพราะต้องออกมาจัดการใต้เท้ามู่ทำให้จิ้นหยางทราบซึ้งน้ำใจของเขายิ่งนัก กลับเรือนท่านเจ้าเมืองเพื่อรอเขากลับจากวังหลวง ยิ่งเขาทำดีด้วยเท่าไหร่หัวใจของจิ้นหยางยิ่งเจ็บปวดที่ต้องคอยอาศัยท่านเจ้าเมืองอยู่เรื่อย แม้จะไม่มีเรือนให้อยู่แต่ว่าวันนี้เขาจะใช้หนี้ท่านเจ้าเมืองและพาท่านแม่ออกไปอยู่ที่อื่น หากอยู่ที่นี่ต่อมีแต่หัวใจของจิ้นหยางที่ต้องเจ็บปวดเพียงผู้เดียว เรื่องของท่านใต้เท้ามู่ถูกฝ่าบาทตัดสินความผิดให้ค

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 29 จัดการใต้เท้ามู่

    บทที่ 29 จัดการใต้เท้ามู่ ฝั่งด้านบ่าวรับใช้ของใต้เท้ามู่ที่เตรียมการเดินทางมายังเรือนของจิ้นหยางเพื่อมาทำลายแปลงผักพร้อมเผาเรือนตามคำสั่งของใต้เท้ามู่เมื่อเห็นว่าดวงตะวันตกดินถึงเวลาที่พวกเขาต้องลงมือจัดการจึงพากันเดินทางมาจัดการตามคำสั่งทันที แต่ทว่าเมื่อมาถึงกลับพบว่าแตงกวาของจิ้นหยางถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้วมีเพียงเรือนที่เงียบสนิท“ทำไมเรือนถึงได้ไร้แสงไฟอย่างนี้นะ ! ” ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งได้เอ่ยขึ้น อีกคนจึงแย้งขึ้นมา“ในเรือนมีเพียงหญิงชรากับบุตรชายไม่ใช่หรือ ? คงเป็นเพราะเก็บแตงเหน็ดเหนื่อยพากันพักผ่อนเร็วล่ะมั่ง รีบจัดการตามคำสั่งของท่านใต้เท้าเถิดจะได้รีบกลับกันหากผู้อื่นมาเห็นเขาจะเป็นเรื่องใหญ่”“นี่เจ้าจะกลัวอันใด ! ในหมู่บ้านนี้ไม่มีผู้ใดไม่เกรงกลัวใต้เท้ามู่หรอกและไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายอำนาจของท่านหรอกนะ เช่นนั้นเจ้านำไฟนี่ไปโยนใส่หลังคาเรือนสิจะได้รีบกลับ” ชายคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมยื่นโคมไฟให้แก่เขาเพื่อโยนใส่หลังคาที่ทำด้วยฟางเท่านั้น หากโดนไฟเพียงเล็กน้อยก็ลุกไหม้ทันที“ก็ได้จะได้รีบกลับไปพัก” ชายอีกคนคว้าจับโคมไฟโยนใส่กระท่อมของจิ้นหยางเปลวไฟลุกขึ้นโหมกระหน่ำภายในพริบ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 28  ข้ารักบุตรชายของท่าน

    บทที่ 28 ข้ารักบุตรชายของท่าน ฝั่งด้านใต้เท้ามู่เมื่อกลับถึงเรือนเขาร้อนใจโมโหโกรธเกรี้ยวที่ถูกท่านเจ้าเมืองชี้ดาบมาหาตนเช่นนี้อีกทั้งยังช่วยเหลือจิ้นหยางที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น เขาเสียทั้งเงินทั้งผลประโยชน์ใต้เท้ามู่ไม่อาจจะอยู่นิ่งอีกต่อไป จึงสั่งการให้คนของตนไปจัดการกับเรือนของจิ้นหยางและหาทางกำจัดเจ้าเมืองหลี่ว์ไม่ให้อยู่ที่นี่ได้"เป็นเพียงท่านเจ้าเมืองคิดว่าข้าจะเกรงกลัวหรือไง ไม่ว่ากี่คนต่อกี่คนข้าก็ไม่กลัวและข้าจะทำให้ได้รู้ว่าเข้ามายุ่งกับข้าจะเจอดีอย่างไรน่าเจ็บใจนักที่ข้าไม่ได้แตงกวาของเจ้าจิ้นหยาง ในเมื่อข้าไม่ได้ผู้อื่นจะต้องไม่ได้เช่นกัน ผู้ใดอยู่ข้างนอกเข้ามาหาข้าเดี๋ยวนี้"“ขอรับท่านใต้เท้ามีเรื่องอะไรหรือขอรับ”“ข้ามีเรื่องให้เจ้าไปทำเมื่อท้องฟ้าไร้แสงดวงอาทิตย์เมื่อไหร่พาบ่าวรับใช้ไปจัดการแปลงผักของจิ้นหยางให้เสียหายให้หมดและจัดการเผาไฟในเรือนของจิ้นหยางด้วย ข้าเคยเตือนแล้วว่าอย่าได้แข็งข้อกับข้า เมื่อไม่เกรงกลัวจะต้องเจอบทลงโทษเช่นนี้ ”“ได้ขอรับแต่ว่าในเรือนมีหญิงชราอยู่ด้วย จะไม่เป็นอะไรหรือขอรับ ”“ก็ดีนะสิ ! ให้พวกนั้นตายให้หมดล้วนเป็นเรื่องที่ดีต่อข

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 27 มาช่วยไว้ทัน

    บทที่ 27 มาช่วยไว้ทันเสียงของอวิ้นหลี่ว์ดังกึกก้องควบม้ามาด้วยความรวดเร็วดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองจิ้นหยางด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหันมามองใต้เท้ามู่ด้วยสายตาเกรี้ยวกราด กระโดดลงจากม้าชักดาบชี้ไปยังหน้าของใต้เท้ามู่อย่างไม่เกรงกลัว โดยมีหลวนเหยาตามมาคอยอารักขาอีกคน เมื่อจิ้นหยางเห็นท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ความหวาดกลัวภายในใจหายไปทันที“อะไรกัน ! ท่านเจ้าเมืองท่านกล้าหันปลายดาบมาทางข้าอย่างนั้นหรือ ? ข้าเพียงแค่สั่งสอนชาวบ้านที่โกงคนอื่นเท่านั้นเอง” ใต้เท้ามู่ใบหน้าถอดสีแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อยแถมยังเอ่ยถามอวิ้นหลี่ว์อย่างไม่ร้อนตัวอีกด้วยซ้ำ“ไม่จริง! ข้าไม่เคยไปโกงอะไรท่านสักอย่าง มีแต่ท่านที่โกงชาวบ้าน ขู่เข็นทำร้ายร่างกาย” จิ้นหยางผลักร่างของบ่าวรับใช้ให้ออกห่างตนเพราะยามนี้มีทั้งอวิ้นหลี่ว์ที่คอยปกป้องยังมีหลวนเหยาอีกคน"ใต้เท้าสิ่งที่ท่านทำอยู่มิใช่สั่งสอนแล้วกระมั่ง เพราะเมื่อครู่ข้าได้ยินคำพูดของท่านทั้งหมดแล้ว " อวิ้นหลี่ว์เอ่ยน้ำเสียงทุ่มต่ำต่อว่าใต้เท้ามู่"ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านสักนิด อย่าได้มาใส่ใจเลยขอรับกลับไปใช้ชีวิตเป็นท่านเจ้าเม

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 26 ยอมตายดีกว่า

    บทที่ 26 ยอมตายดีกว่าผ่านมาหลายวันฝั่งด้านลี่อินเมื่อกลับเรือนวันนั้นได้ไปถามท่านพ่อเกี่ยวกับจิ้นหยางจึงได้รู้ว่าตอนนี้จิ้นหยางไม่ได้เป็นหนี้ท่านพ่อแล้ว จึงไม่รู้จะเข้าหาจิ้นหยางเช่นไรเลย วัน ๆ เอาแต่นั่งถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายจนใต้เท้ามู่เดินผ่านมาเห็น“ช่วงนี้เจ้าเป็นอะไรไปไม่เห็นจะออกไปเที่ยวเล่นเหมือนอย่างแต่ก่อน แล้วเจ้าไปพบท่านเจ้าเมืองเป็นเช่นไรบ้างถูกใจเจ้าหรือไม่ ?”“ข้าเบื่อเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ก็หล่อเหลาดีแต่ข้าไม่ชอบเขาเจ้าค่ะ ”“ทำไมล่ะในเมื่อเขาเองก็หล่อเหลาแถมยังมีฐานะเป็นถึงท่านเจ้าเมืองข้าว่าคู่ควรกับเจ้ามากที่สุดในย่านนี้แล้ว ”“ไม่เจ้าค่ะ ข้ามีบุรุษที่หมายตาเอาไว้แล้ว” ใบหน้าของจิ้นหยางโผล่เข้ามาในความคิดของลี่อินนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมบอกกับบิดาว่ายามนี้ใจของนางมีคนที่หมายเอาไว้แล้ว“ห่ะ! ว่าอะไรนะแล้วเป็นบุตรชายเรือนใต้เท้าผู้ใดกัน หากร่ำรวยพอ ๆ กับตระกูลเราข้าเองก็เห็นด้วย เจ้าลองเอ่ยมา”“จิ้นหยางเจ้าค่ะบุรุษที่ข้าถูกชะตาแม้เขาจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้เป็นหนี้ท่านพ่อ แถมยังขยันกตัญญูต่อมารดาเพียงเท่านี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ ”“เฮ้อ ! ข้าจะเป็นล

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 25 ประกายพลุช่างงดงาม

    บทที่ 25 ประกายพลุช่างงดงามอวิ้นหลี่ว์ลุกขึ้นเดิมตามจิ้นหยางมายืนอยู่ชานของเรือที่สามารถยืนมองบรรยากาศด้านนอกได้อย่างชัดเจน อวิ้นหลี่ว์เดินเข้าไปสวมกอดจากด้านหลังฝังจมูกเข้าซอกคอของจิ้นหยางพลางชื่นชม“วันนี้อากาศดีเสียจริง ไม่ว่าจะมองไปที่ใดช่างงดงามไปหมด เจ้าว่าอย่างนั้นหรือไม่?”“ไม่เลยขอรับ วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนและมองไปทางใดมีเพียงแสงไฟ ข้าชอบมองดวงจันทร์เสียมากกว่าอีกอย่างท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ปล่อยข้าได้หรือไม่ ? ข้าไม่ชอบที่ท่านมาโอบกอดข้าราวกับคู่รักเช่นนี้ และที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ข้าจะปรนนิบัติท่านได้”“ไม่ข้าไม่ปล่อยเจ้าจะทำไม ข้าแค่อยากกอดเจ้าเช่นนี้นาน ๆ ไม่ได้หรือ? มองไปบนท้องฟ้ายามนี้น่าจะถึงยามที่เขาจะจุดพลุแล้ว เจ้าคงไม่มีเวลามาเที่ยวเพราะต้องทำงานเลี้ยงมารดารู้หรือไม่ว่าข้าเช่าเรือลำนี้เพราะเจ้าเลยนะ ข้าทำเพียงนี้เจ้ายังไม่รู้ใจข้าอีกหรือ ” จิ้นหยางใจชื้นขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าท่านเจ้าเมืองทำเพื่อตนแม้จะไม่อยากคิดไปไกลแต่คำพูดของเขายิ่งตอกย้ำทำให้จิ้นหยางคิดเข้าข้างตนเองไม่สนอะไรอีกต่อไป เขาหันกลับมาจ้องมองใบหน้าของอวิ้นหลี่ว์สายตาจ้องตาก่อนจะโอบกอดเขาแน่น จู่ ๆ ก็รู้สึกได

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 24 ร่องเรือ

    บทที่ 24 ร่องเรือจิ้นหยางเดินจนทั่วตลาดไม่ว่าร้านใดก็เป็นเพียงร้านเล็ก ๆ ไม่รับของจากผู้อื่นส่วนมากจะเป็นของที่ตนเองปลูกและนำมาขายได้ยินมาจากทุกคนว่ามีเพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่รับซื้อของทุกคนที่นี่คือร้านค้าผักของใต้เท้ามู่ ที่ให้บ่าวคอยดูแลและทำงานให้ไม่เพียงแต่ร่ำรวยเพราะคิดดอกเบี้ยแพงแต่ยังกดราคาของชาวบ้านอีกมากมาย หากไม่ขายของก็เน่าเสีย หากยิ่งเป็นหนี้ยิ่งถูกหักจนแทบไม่เหลือเงินกลับเรือน จิ้นหยางเหน็ดเหนื่อยเดินจนท้อมาหยุดพักที่โรงน้ำชา เพื่อหาอะไรรองท้องก่อนจะกลับเรือน"เถ้าแก่ข้าขอซาลาเปาสองลูกพร้อมน้ำชาขอรับ" ตั้งแต่ทะลุมิติมาอยู่ที่นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่จิ้นหยางได้เข้ามานั่งที่โรงน้ำชาผู้คนมากมายมากหน้าหลายตากันพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะได้ยินมาจากปากของชาวบ้านอีกกลุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังของจิ้นหยาง"วันนี้มีงานเทศกาลที่หมู่บ้านฝั่งเหนือเห็นว่าครั้งนี้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ มีการแสดงมากมายแถมยังมีขุนนางใหญ่ ๆ พากันมาร่วมงานด้วยข้าจะไปเที่ยวเล่นพวกเจ้าไม่ไปหรือได้ยินว่าสตรีหมู่บ้านฝั่งนั้นมีแต่ผู้งาม ๆ ไม่แน่ค่ำคืนนี้ข้าได้เมียกลับเรือนกับเขาสักคน ""เอาสิ อย่างนั้นข้าจะต้องรีบ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 23  ลี่อินมาเยือน

    บทที่ 23 ลี่อินมาเยือน“ดีสิ ยิ่งเตียงเล็กเท่าไหร่ข้าก็จะได้ใกล้ชิดเจ้ามากกว่าเดิม ต่อให้นอนบนโขกหินหากมีเจ้าเคียงข้างข้าก็สามารถหลับได้อย่างสบาย ” อวิ้นหลี่ว์เดินเข้ามาใกล้ใช้มือลูบไล้ใบหน้าของจิ้นหยางพร้อมส่งยิ้มหวานเยิ้มทำให้ใจของจิ้นหยางสั่นไหวใจเต้นแรง วูบวาบรีบปัดมือของท่านเจ้าเมืองออกก่อนจะหันหลังให้“หากท่านเอ่ยมาเช่นนั้นก็เข้าไปรอข้าที่เตียงของข้าเถอะ ข้าจะไปอาบน้ำล้างกายเสียก่อน ”“อาบน้ำหรือ ? ข้าอาบด้วยสิข้ารีบร้อนออกมาจนไม่ได้ล้างเนื้อล้างตัวหากนอนเช่นนี้คงเหนียวตัวแย่ ”“ในเรือนของข้าไม่มีอ่างอาบน้ำนะขอรับ และต้องไปอาบที่คลองด้านหลังนู้น ท่านมั่นใจหรือขอรับ?”“อย่างนั้นข้ายิ่งชอบ อาบน้ำพร้อมกับเจ้าใต้แสงจันทร์เป็นอะไรที่ดีที่สุด คิดไม่ผิดเลยที่ข้ามาในครั้งนี้ ไปเถอะไปอาบน้ำกัน” สายตาเป็นประกายของอวิ้นหลี่ว์พอให้จิ้นหยางได้รู้ว่าเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่ และแล้วคืนนี้จิ้นหยางเองก็คงต้องปรนนิบัติเขาเช่นอย่างเคยภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา เสียงน้ำแข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังกระฉ่อนทั้งสองผสานกายเป็นหนึ่งเดียวเมื่อสำเร็จความสุขจิ้นหยางพาอวิ้นหลี่ว์มานอนลงบนเตียงเดียวกับตน

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 22  ข้ากลัวความมืด

    บทที่ 22 ข้ากลัวความมืดลี่อินยืนบิดใบหน้าแดงระเรื่อมองด้านหลังของจิ้นหยางที่เดินจากไปด้วยหัวใจเต้นตึกตัก"คุณหนูทำไมถึงได้ให้เงินชายผู้นั้นไปมากขนาดนั้นกันเจ้าคะ หากนายท่านรู้จะดุเอาได้นะอีกอย่างคุณหนูไม่น่ามายุ่งวุ่นวายกับคนที่เป็นบ่าวเช่นนี้สิเจ้าคะ ท่านเจ้าเมืองทั้งหล่อเหลาทั้งบึกบึนคุณหนูไม่เห็นมีสีหน้าแววตาเช่นกับมองบ่าวคนเมื่อครู่เลย""เจ้าเงียบไปเถอะน่า อีกอย่างท่านพ่อไม่เคยต่อว่าข้าอยู่แล้ว บ่าวเมื่อครู่เพียงข้ามองหัวใจของข้าก็สั่นไหว เป็นบ่าวแล้วอย่างไรข้าไม่สนเพราะตระกูลของข้ารวยอยู่แล้วสิบชาติก็ใช้ไม่หมด ต่อจากนี้ข้าจะไถ่ตัวของจิ้นหยางและคอยสนับสนุนเรื่องเงินให้แก่เขาเอง เมื่อครู่ข้าน่าจะให้ไปเยอะกว่านั้น เพียงแค่สองตำลึงเงินจะพอค่ายามั้ยนะ ! ไม่ได้การพรุ่งนี้ข้าจะนำยาสมุนไพรซื้ออาหารและนำเงินไปให้จิ้นหยางที่เรือนด้วยตัวเอง ข้าทำถึงเพียงนี้เขาคงจะเห็นความดีในตัวของข้าจนตกหลุมรักและมาเป็นสามีสตรีที่ร่ำรวยอย่างข้าราวกับตกถังข้าวสาร แค่คิดก็มีความสุขแล้วรีบกลับเรือนกันเถิดพรุ่งนี้ข้าจะนำเงินไปสักสิบก้วนดีมั้ยนะหรือว่าน้อยไปต้องพกไปสักสิบตำลึงทองถึงจะพอ ฮ่า ฮ่ายิ่งคิดยิ่งตื่น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status