Share

ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา
ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา
Author: วริษา

บทที่ 1 ถูกหักหลัง

last update Last Updated: 2024-12-15 09:54:21

บทที่ 1 ถูกหักหลัง

        เมืองหลวงที่กว้างใหญ่ผู้คนกำลังเดินอย่างเร่งรีบเพื่อไปทำงานไม่ต่างอะไรกับ ลี่หยางชายหนุ่มที่กำลังเดินไปด้านหน้าขะมักเขม้น เขาทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานประจำหรือแม้กระทั่งงานพิเศษเพื่อหาเงินมาให้มาก ๆ ลี่หยางไม่เคยมีครอบครัว เขาเกิดมาเป็นเด็กกำพร้าและเติบโตมาจากสถานที่รับเลี้ยงเด็ก แต่เมื่อมีแฟนเขาจึงรักและเถิดทูลเขามากที่สุด และการทำงานในครั้งนี้เขาตั้งทำงานสารพัดอย่างเพราะครอบครัวของคนรักนั้นเกิดป่วยขึ้นมา เฉินจิ่นหรือแฟนของลี่หยางจึงนำเรื่องที่บ้านมาปรึกษาเพราะไม่รู้ว่าจะหาค่ารักษามาจากไหน ลี่หยางสงสารแฟนสุดหัวใจ เขาจึงได้มอบเงินเก็บให้กับเฉินจิ่น แต่ก็คงไม่พอสำหรับการรักษา ลี่หยางจึงให้คำสัญญาว่าเขาจะหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวของเฉินจิ่นจนกว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาล

เฉินจิ่นโอบกอดและขอบคุณที่ลี่หยางไม่รังเกียจที่ต้องมาช่วยเหลือเขาแถมยังต้องหาเงินค่ารักษาช่วยเขาอีกด้วย

"เหม่อลอยเชียวนะ รู้มั้ยว่าน้ำเต็มกะละมั่งแล้ว" หัวหน้าของลี่หยางได้สะกิดบอก 

"ขอโทษด้วยครับ ผมจะตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้ "ลี่หยางรีบก้มลงขอโทษ เขาทันทีที่ไม่ได้ตั้งใจทำงาน 

"ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรนายสักหน่อย ว่าแต่ช่วงนี้นายพักผ่อนน้อยหรือยังไง? เหมือนจะง่วงตลอดเวลา" เจ้านายถามเขาด้วยคความเป็นห่วง 

"พอดีช่วงนี้ผมทำงานหลายที่เพราะต้องหาเงินไปรักษาแม่ของเฉินจิ่น เลยไม่ค่อยได้พักผ่อนนะครับ" เจ้านายเดินเข้ามาตบบ่าและเดินออกไป

"อย่าดูแลเอาใจใส่คนอื่น จนลืมที่จะดูแลตัวเองด้วยล่ะ เงินจะหาเมื่อไหร่ย่อมได้แต่ว่าร่างกายของนายหากเจ็บป่วยขึ้นมาจะมีใครมาดูแล "

"ก็เฉินจิ่นไงครับเขารักผมจะตาย " ลี่หยางยิ้มกริ่มตอบออกมาอย่างมั่นใจ

“ขอให้เขารักนายจริงอย่างที่นายพูดแล้วกัน ตั้งใจทำงานให้เสร็จเถอะนายจะได้ไปทำที่อื่นต่อ” เจ้านายพูดจบก็เดินออกไป เขามาทำงานที่ร้านกาแฟโชคดีที่มีเจ้านายใจดี ทำให้ลี่หยางไม่ค่อยกดดันสักเท่าไหร่ เขาตั้งใจทำงานเสิร์ฟของที่ลูกค้าสั่ง และก็ช่วยเก็บกวาดร้านเมื่อตอนลูกค้าไม่มี ร้านที่เขาทำจะปิดลงตอนบ่าย ทำให้ลี่หยางมีเวลาไปทำงานอีกที่ เป็นร้านอาหารยามค่ำคืนเป็นร้านเหล้า ในตอนแรกที่ลี่หยางไปสมัครเจ้าของอยากให้ลี่หยางไปทำหน้าที่ต้อนรับและเอ็นเตอร์เทนแต่ลี่หยางไม่ชอบงานเช่นนั้นเหมือนไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองที่จะให้ผู้อื่นมาแตะต้องร่างกาย ลี่หยางจึงขอทำให้หน้าที่พนักงานเสิร์ฟและคอยเก็บกวาดร้านก็เพียงพอแล้ว แม้เจ้านายจะเสียดายหน้าตาของลี่หยางอย่างไรเขาก็ไม่ยอมทำ 

“ผมกลับก่อนนะครับ ” ลี่หยางเก็บของเสร็จเรียบร้อยก็ร่ำลาเพื่อกลับบ้านพักผ่อน เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลานี่ก็เลยเวลามามากแต่ทำไมเฉินจิ่นยังไม่มารับ ลี่หยางล้วงเอามือถือออกมาจากกระเป๋าสะพายก็พบกับข้อความของเฉินจิ่นที่ส่งมาบอกว่าวันนี้เขามารับไม่ได้ ลี่หยางถอนหายใจและเดินไปที่ป้ายรถเมย์เพื่อเดินทางพาร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับไปที่ห้องนอน ช่วงแรก ๆ เฉินจิ่นจะคอยมารับตลอดแต่ช่วงหลังมานี้เขามักจะไม่ค่อยว่างและบอกว่าตนเองนั้นกำลังดูแลคุณแม่อยู่ แม้ลี่หยางจะเข้าใจแต่เขาเองก็อยากพบหน้าของเฉินจิ่นบ้างเท่านั้นเอง

เมื่อกลับมาถึงห้องลี่หยางก็เดินไปที่เตียงนอนและหลับไปอย่างหมดแรง

ตริ่งๆ ๆ””” เสียงนาฬิกาในเวลาเดิม ๆ ก็ได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลี่หยางใช้มือคว้าไปปิดนาฬิกาที่ดังอยู่บนหัวเตียงและลุกขึ้นมาปิดตัวก่อนจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำไปทำงานเช่นเคย

ติ่ง! เสียงข้อความดังขึ้นในตอนที่ลี่หยางอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จแล้วก็ได้เดินออกมาสวมเสื้อผ้าและหยิบมือถือมาดูว่าเฉินจิ่นติดต่อมาบ้างหรือเปล่า ? นี่ก็หลายวันแล้วที่ไม่ได้พบหน้า ตั้งแต่วันที่เงินเดือนของลี่หยางออกเขาก็ได้ขอไปดูแลแม่ แต่แล้วกลับไม่พบข้อความของเฉินจิ่นเลย มีเพียงข้อความของที่ร้านส่งเข้ามาลี่หยางเปิดอ่านก็พบว่าวันนี้ร้านปิดเพราะคุณแม่ของเจ้าของร้านได้ล้มหัวฟาดพื้นต้องกลับไปหาแม่ที่นอกเมือง ลี่หยางอ่านจบก็ได้ยิ้มออกมาทันที เช่นนั้นก็เท่ากับว่าวันนี้เขาได้พักผ่อนหนึ่งวัน แต่ลี่หยางกลับเดินไปหยิบกระเป๋าสะพานและมือถือไปด้านนอกพร้อมเสื้อคุมกันแดด แม้เขาไม่รู้จักกับครอบครัวของเฉินจิ่นเท่าไหร่แต่ก็เคยส่งของกินของใช้ไปให้บ่อย ๆ จึงมีที่อยู่ของเขา ลี่หยางตั้งใจว่าวันนี้จะไปเยี่ยมคุณแม่ที่ป่วยและซื้อของไปฝาก

       ลี่หยางไปที่ตลาดและซื้อของพร้อมเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมย์เพื่อเดินทางเขามองดูของที่ซื้อไปฝากก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ วันนี้เขาจะได้พบกับเฉินจิ่นคนรักที่เขาคิดถึงมากที่สุดในตอนนี้ 

ในที่สุดรถก็ได้มาจอดที่หน้าบ้านของเฉินจิ่นเขาลงรถมาก็ได้เดินไปหน้าบ้านเลขที่ที่จดมา ก็ได้พบเลขที่ตนเคยส่งของมาให้บ่อย ๆ

“มาถึงแล้วสินะ นายจะดีใจแค่ไหนนะที่เห็นฉันมาเยี่ยมถึงที่บ้านอย่างนี้ โอ๊ยตื่นเต้นชะมัดอยากเห็นสีหน้าตอนที่เขาเห็นฉันชะมัดคงจะตกใจน่าดู ” ลี่หยางพูดออกมาพร้อมกดกริ่งที่หน้าบ้าน ไม่นานนักก็มีคนออกมาเปิดประตูให้ลี่หยาง 

“ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ ”หญิงสาวใบหน้าสะสวยเปิดประตูออกมาและมองดูลี่หยางตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มหวานให้เขาเพื่อเป็นการต้อนรับ

“เอ่อ... ไม่ทราบว่าที่นี่บ้านของเฉินจิ่นมั้ยครับ? ” เมื่อเธอได้ยินชื่อของเฉินจิ่นก็รีบชวนเขาเข้าบ้านทันที

“ก็คิดว่าใครที่ไหนที่แท้ก็คงเป็นเพื่อนของเฉินจิ่นใช่มั้ยคะ เข้ามาด้านในก่อนเถอะค่ะ แล้วนี่เอาอะไรมามากมายขนาดนี้คะ” เธอผายมือให้ลี่หยางเข้ามาลี่หยางเองก็ต้องแปลกใจที่เธอถาม และเขาเองก็สงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครเพราะเฉินจิ่นเคยบอกว่าเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว

ลี่หยางกำลังจะบอกว่าที่เขานำมานั้นเป็นของฝากแต่ก็ไม่ทันได้พูดเฉินจิ่นก็เดินออกมาพร้อมอุ้มเด็กเล็กอยู่ในอ้อมกอด

“ที่รักใครมาหรือทำไมถึงออกมานานขนาดนี้” เฉินจิ่นที่เดินเข้ามาหาผู้หญิงคนนั้นพร้อมโอบกอดเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ลี่หยางที่เดินตามมาก็ได้เห็นเข้าเต็ม ๆ ทั้งสองตา สิ่งที่เกิดอยู่ต่อหน้ามันเกิดความคาดหมาย ใจของลี่หยางเริ่มสั่นไหวและร้อนรุ่ม 

“มีคนมาหาคุณนะค่ะน่าจะเป็นเพื่อนคุณ ใจดีมากเลยซื้อของมาฝากตั้งมากมาย เจ้าหนูมาหาแม่ม่ะให้คุณพ่อได้ไปต้อนรับเพื่อน” ผู้หญิงคนนั้นก็ยื่นมืออุ้มเอาเด็กเล็กที่อยู่ในแขนของเฉินจิ่นมากอดและพาเดินเข้าไปที่ห้อง ส่วนเฉินจิ่นเมื่อรู้ว่ามีคนมาหาเขาก็ได้หันหน้ามาดูก็ต้องสะดุ้งตกใจและใบหน้าก็เริ่มซีดขาว จากต่างลี่หยางที่ตอนนี้รอบดวงตากำลังเอ่อแดงและพยายามกลั่นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา นี่ผ่านมาเขาโกหกมาตลอด ความรักตลอดห้าปีที่ผ่านมาคือสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงลี่หยางทั้งสิ้น ลี่หยางเจ็บปวดหัวใจของตนเองอย่างมากมายแต่ก็ต้องกลั่นน้ำตาซ้อนความเจ็บปวดไว้และยื่นของที่เขาซื้อมาฝากด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ฉันซื้อของมาฝากแม่ของนาย ท่านเป็นอย่างไรบ้างหายดีแล้วหรือ” ลี่หยางพยายามพูดออกมาอย่างเป็นปกติแม้ว่าน้ำเสียงตอนนี้กำลังสั่นเครือ

เฉินจิ่นรีบรับของและวางลงพร้อมเดินเข้ามาใกล้ลี่หยาง

“นี่ลี่หยางฟังฉันก่อนนะ เรื่องนี้ฉันอธิบายได้” เขาก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้ลี่หยางมากขึ้น แต่ลี่หยางก็พยายามถอยหลังหนี

“อย่า...เข้ามาใกล้ฉันเดี๋ยวเมียของนายจะเห็นเอาได้ ”

“นี่ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอธิบายได้ ฟังฉันก่อนนะ” เฉินจิ่นจับแขนของลี่หยางให้ไปพูดกับตนที่ด้านนอก เขตหมู่บ้านที่เฉินจิ่นอยู่นั้นติดกับทะเลทำให้มีลมแรงโบกสะบัดเขาได้พาลี่หยางมาคุยกันที่ถนนริมทะเล เมื่อมาถึงลี่หยางไม่อาจอั้นความรู้สึกไว้อีกต่อไป 

“ปล่อย!! ฉันบอกให้ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ นี่มันเรื่องอะไรแล้วแม่นายที่ป่วยอยู่ตอนนี้อยู่ที่ไหน แล้วผู้หญิงกับเด็กนั่นอีกหากวันนี้ฉันไม่มาเยี่ยมนายที่บ้านก็คงไม่รู้ว่าที่ผ่านมาฉันโง่ขนาดไหนที่ให้นายหลอกอย่างกับคนโง่ ” ลี่หยางระเบิดอารมณ์ของตัวเองออกมาพร้อมน้ำตาที่กำลังรินไหล 

“ไม่นะ! ฉันไม่เคยหลอกลวงนายเลย ความรู้สึกที่ฉันมีให้นายนั่นคือของจริง แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นมันคือความจำเป็นที่ฉันต้องทำเช่นนั้น”

“ความจำเป็นอะไร? หากนายไม่รักเธอก็คงไม่มีเด็กคนนั้นมาเกิดหรอกนะ นายกลับไปเถอะไปอยู่กับครอบครัวของนาย ตอนนี้ฉันไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ฉันเหนื่อย” น้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากตาของลี่หยางอย่างมากมาย

“ฟังฉันก่อนนะ แม่ของฉันไม่สบายจริง ๆ และท่านอยากอุ้มหลาน ฉันต้องทำ...”

“หยุดอย่ามาอ้างเลย ถ้านายรักฉันจริงจะไม่มีทางหักหลังฉันแบบนี้ เอามือสกปรกของนายออกมาจากมือฉันเดี๋ยวนี้ ” ลี่หยางไม่อาจทนฟังคำโกหกที่ออกมาจากปากของเฉินจิ่นได้อีกต่อไปเขาสะบัดมือของเฉินจิ่นออกและวิ่งหนีเขาไปแต่ในเวลาเดียวกันรถบรรทุกสัตว์ทะเลเพื่อไปส่งตามที่ต่าง ๆ ก็ได้ขับออกมาด้วยความเร็วทำให้เขาไม่สามารถเบรกทำชนเข้ากับร่างของลี่หยางอย่างแรงก่อนที่จะกระเด็นลงไปในทะเล เสียงดังกึกก้องไม่ว่าจะเป็นเสียงเบรกของล้อรถหรือเสียงที่ตะโกนออกมาของเฉินจิ่นที่ดังอยู่ในหูของลี่หยางที่กำลังร่องลอยไปที่ทะเลความเจ็บปวดที่จิตใจนั้นมากกว่าแรงที่รถชนเขาหลายร้อยเท่า ร่างของลี่หยางกำลังจมลงอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขาไม่รับรู้อะไรนอกจากความหนาวเหน็บในร่างกายลี่หยางเริ่มทรมานเพราะน้ำกำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายเขาหลับตาลงอย่างช้า ๆ และปล่อยให้ตนเองจมลงไปที่ใต้ท้องทะเล และภาวนาในจิตใจ หากได้เกิดมาอีกครั้งเขาจะไม่ขอรักใครอีกเลยและไม่ขอพบเจอกับเฉินจิ่นอีก

Related chapters

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 2 หมู่บ้านจั๋วมู่หลาง

    บทที่ 2 หมู่บ้านจั๋วมู่หลาง“ท่านป้าเมื่อไหร่ท่านพี่จิ้นหยางจะฟื้นเสียที นี่ก็หลายชั่วยามแล้วหรือว่าท่านพี่จะจากข้าไปแล้ว” เสียงเจี้ยวจ้าวของใครกันนะมารบกวนฉันแบบนี้รู้มั้ยว่าเวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของฉันโอ๊ยอยากจะบ้าตาย ลี่หยางบ่นพึ่มพำก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างล้า ๆ“โอ๊ะ! ท่านป้าท่านพี่ฟื้นแล้ว ท่านพี่ท่านฟื้นแล้วท่านรู้มั้ยว่าข้าตกใจแค่ไหนที่คิดว่าท่านพี่จะจากไปตอนอายุเพียงเท่านี้ จากนี้ไปท่านพี่ห้ามไปที่แม่น้ำเพียงผู้เดียวอีกนะ” เด็กหนุ่มก้มลงมากอดร่างของลี่หยางทำให้เขาตกใจเพราะไม่เคยพบเจอกับเด็กนี่ัสักครั้งแต่เขาก็ต้องแปลกใจมากกว่าเดิมที่เห็นสภาพบ้านที่เก่าทรุดโทรมทำด้วยไม้คล้ายกระท่อม และเสื้อผ้าที่สวมใส่และต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเห็นผู้หญิงแก่คนหนึ่งเดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมโอบกอด“จิ้นหยางของข้า โล่งอกไปทีสวรรค์เมตตาเจ้ายิ่งนัก” เธอเข้ามาสวมกอดลี่หยางอีกคนทำให้เขาเริ่มหายใจไม่ออกและตะโกนออกมา“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ ” ทั้งสองผละออกห่างจากร่างกายของลี่หยางและจ้องมองเขาอย่างแปลกใจ“เอ๊ะ! เจ้าเป็นอะไรหรือว่าไม่สบายตรงไหนข้าจะไปตามท่านหมอประจำหมู่บ้านมาตรวจเจ้าอีกที นี่เจียวซิ่งเจ้าอยู่นี่

    Last Updated : 2024-12-15
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 3 ทำไมต้องกลัว

    บทที่ 3 ทำไมต้องกลัวระหว่างทางจิ้นหยางก็ได้ถามเจียวซิ่งเกี่ยวกับใต้เท้ามู่ว่าเหตุใดต้องเกรงกลัวด้วย เจียวซิ่งก็ได้เล่าให้ฟังว่าท่านป้านั้นได้ไปหยิบยืมเมล็ดพันธุ์ข้าวมาปลูกแต่ทว่าไม่มีความรู้แล้วแห้งแล้ง ทำให้ไม่มีผลผลิตและไม่มีข้าวไปคืนท่านใต้เท้าทำให้เขาคิดเป็นจำนวนพร้อมดอกเบี้ยที่มากมายมหาศาล ใต้เท้าเป็นคนมักโลภหากผู้ใดได้ดีก็มักจะกลั่นแกล้ง แต่หากว่าผู้ใดแบ่งผลผลิตให้ก็จะปล่อยผ่าน เป็นอยู่อย่างนี้มาเนิ่นนานทำให้ใต้เท้าผู้นี้ร่ำรวยขึ้นทุกวัน เมื่อจิ้นหยางได้ฟังก็กำหมัดแน่นเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากรีดเลือดกับปู“เหอะ เป็นคนเห็นแก่ตัวแก่ได้จริง ๆ ตอนนี้ดูท่าฝนจะตกแล้ว ฉันจะต้องทำทุกอย่างเพื่อหาทางใช้หนี้ใต้เท้ามู่ผู้นี้ให้ได้ ชีวิตของฉันต่อจากนี้จะได้สุขสบาย” จิ้นหยางครุ่นคิดในใจพลางเดินตามหลังเจียวซิ่งไปในป่า ไม่นานนักก็ถึงป่า ไม้แห้งน้อยใหญ่เต็มไปหมดเจียวซิ่งวางผ้ามัดฟืนเอาไว้ที่พื้นก่อนจะเดินเก็บมาใส่ผ้าให้ได้มากที่สุด จิ้นหยางเห็นดังนั้นจึงรีบทำตามเจียวซิ่งโดยไม่รอช้า ในที่สุดทั้งสองก็พากันเดินกลับเรือนครั้นใกล้จะถึงกระท่อมของจิ้นหยางเม็ดฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอย่างโหมกระหน่ำ เจียวซิ่งหั

    Last Updated : 2024-12-15
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา    บทที่ 4 ลงมือปลูกผัก

    บทที่ 4 ลงมือปลูกผักเสียงนกขับขานร้องส่งกันไปมา แสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในกระท่อมแยงตาผู้ที่นอนลับสนิทให้รู้สึกตัว จิ้นหยางลืมตาขึ้นกวาดสายตามองต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้งก่อนจะนึกออกได้ว่าตัวเองทะลุมิติมาจากที่อื่น"เฮ้อ! คิดว่าฝันไปเสียอีก คงเป็นฟ้าลิขิตสินะ " จิ้นหยางเอ่ยพลางยันกายลุกขึ้น มองเห็นสตรีที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่ตื่นจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นไม่ให้เกิดเสียงดังก่อนเข้าไปที่ครัว เพื่อทำอาหารเช้าเมื่อเข้ามาในครัวยามนี้มีเพียงมันเทศเท่านั้นที่เหลืออยู่ นี่คงเป็นอาหารสุดท้ายแล้วสินะ"คงไม่มีทางเลือกแล้วต้องทำอันนี้กินสินะ ว่าแล้วเชียวทำไมเจียวซิ่งถึงได้ไม่อยากกินข้าวเย็นด้วย " จิ้นหยางเอ่ยพึมพัมก่อนจะจัดการนำมันไปเผาเพื่อกินประทังชีวิตเมื่อจัดการมันเสร็จจิ้นหยางได้ออกไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ กระท่อม บรรยากาศกำลังเย็นสบายหลังจากที่ฝนตกไปทั้งคืนเช้านี้จึงมีหมอกควันลอยบนท้องฟ้า"พี่จิ้นหยางข้ามาแล้วขอรับ " พลันเสียงของเจียวซิ่งดังขึ้น จิ้นหยางหันขวับไปมองทันที"เจ้าเด็กคนนี้คงจะติดจิ้นหยางนี่มากสินะ ทั้ง ๆ ที่เช้าขนาดนี้ยังเร่งรีบมาที่นี่ แต่ก็ดีเหมือนกันฉันเองจะได้ไม่เหงา " จิ้นหยางพูด

    Last Updated : 2024-12-15
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่

    บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่ทั้งสองพากันเดินเข้ามาในตลาดช่างคึกคักตื่นตาตื่นใจของจิ้นหยางเหลือเกิน การที่เขาทะลุมิติมายังที่แห่งนี้ไม่ได้มีเรื่องร้ายอะไรนอกจากความยากจน ที่นี่ทั้งบรรยากาศสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากที่เขาอยู่ยิ่งนัก แม้จะลำบากอยู่บ้างแต่เขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว“พี่จิ้นหยางรีบเดินตามข้ามาขอรับ เดินไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่จะเจอเรือนของท่านเจ้าเมืองแล้วขอรับเห็นด้านหน้านั้นหรือไม่? ผู้คนจอแจเต็มหน้าเรือนสงสัยจะมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้าเมืองที่ย้ายมาใหม่มีใบหน้าที่หล่อเหลาข้าชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าจะหล่อเท่าข้ามั้ย” จิ้นหยางมองใบหน้าของเจียวซิ่งก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขันในความมั่นอกมั่นใจของเขาเหลือเกิน“พี่จิ้นหยางหัวเราะข้าอย่างนั้นหรือ? ท่านไม่รู้สินะว่าข้านะมีใบหน้าหล่อเหลาที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว หากข้าเติบโตอีกสักหน่อยคงจะมีสตรีมากมายเข้าหาจนน่ารำคาญแน่นอน”“ข้ายังไม่ได้ว่าอะไรเจ้าเลยนะ ไหนล่ะทางที่เจ้าจะพาหาเข้าไปหาอาหาร เท่าที่ข้าดูผู้ที่เข้าไปต้องมีเทียบเชิญมิใช่หรือ” สองเท้าก้าวมาถึงหน้าเรือนเห็นคนที่เข้าไปต้องยื่นเทียบเชิญให้แก่บ่าวรับใช้ที่

    Last Updated : 2024-12-18
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 6 ถูกใจบ่าวใช้หน้าหวาน 

    บทที่ 6 ถูกใจบ่าวใช้หน้าหวาน อวิ้นหลี่ว์ เจ้าเมืองที่ย้ายมาหมู่บ้านแห่งนี้เพราะเขาเบื่อหน่ายเมืองหลวงที่วุ่นวายและบ่าวมากมายรวมถึงเหล่าใต้เท้าที่มักประจบสอพอจึงขอออกมาเป็นเจ้าเมืองที่ชนบทมาอยู่ในที่เงียบสงบ แม้จะทำใจเรื่องงานเลี้ยงฉลองที่น่าเบื่อแต่อย่างไรก็มีเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น เขาจึงนั่งร่วมฉลองอยู่กับเหล่าใต้เท้าที่อยู่ในหมู่บ้านนี้รวมถึงเรือนของคนมีฐานะที่เข้ามาแสดงความยินดี ความเบื่อหน่ายที่พบเจออยู่บ่อย ๆ จนเคยชินจู่ ๆ สายตาพลันมองไปเห็นบุรุษใบหน้าหวานแต่งกายเหมือนเป็นบ่าวในเรือนนี้ช่างสะดุดตามากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเจอมา ดวงตากรีดยาวเศร้าหมองแต่ช่างดึงดูดเขายิ่งนัก การแสดงที่อยู่ตรงหน้ายังไม่น่ามองเท่าบ่าวรับใช้ผู้นั้นแม้แต่น้อย ยิ่งยามที่มือเรียวยาวหยิบจับอาหารเข้าปากริมฝีปากอ้ารับอาหารเข้าไปเคี้ยวกินยิ่งทำให้เขาสั่นไหว อยากจะครอบครองร่างกายของบ่าวผู้นี้เหลือเกิน คิดไม่ผิดเลยที่ครั้งนี้เขาย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ ราวกับพบเจอทับทิมแสนงาม ครั้นสายตาของเขาหันไปทางอื่นชั่วครู่หันกลับมาไม่เห็นแม้กระทั่งเงาของบ่าวผู้นั้น อวิ้นหลี่ว์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ร่ำลาทุกคนให้ทุกคนดื่มด่ำ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 7 มาบำเรอข้า

    บทที่ 7 มาบำเรอข้า“ท่านเจ้าเมืองข้าขออภัยด้วยเพราะข้าซุ่มซ่ามเอง ไม่ทันระวังทำให้หล่นลงมาในอ่างกับท่าน” น้ำเสียงสั่นระรัวรีบเอ่ยบอกพลางยันกายลุกขึ้นแต่ทว่ากลับถูกอวิ้นหลี่ว์ใช้มือจับปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้นเพื่อมองให้ชัดเจน ดวงตาของจิ้นหยางช่างดึงดูดเขาเหลือเกิน ริมฝีปากเผยอราวกับยั่วยวนอวิ้นหลี่ว์ให้ลิ้มลอง ร่างกายของเขาอวิ้นหลี่ว์เลือดลมกระฉูดทั่วร่างหากปล่อยบ่าวผู้นี้ออกไปจากอ่างน้ำวันนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ ๆ“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดเจ้าสักนิดอีกอย่างมิใช่เจ้าซุ่มซ่ามแต่เป็นข้าต่างหากที่ทำให้เจ้าลงมาแช่น้ำกับข้าเช่นนี้เจ้าชื่ออันใดหรือ”“เอ่อ...ข้าน้อยมีนามว่าจิ้นหยางขอรับ” เพราะน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานกำลังเอ่ยถามทำให้จิ้นหยางไม่ทันได้คิดจึงเอ่ยบอกชื่อตนเองออกไป“ชื่อไพเราะเสียจริง ต่อจากนี้เรียกข้าว่าท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ ไหนลองเรียกสิ”“ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์” น้ำเสียงสั่นกระเส่าเรียกดวงตาหลุบลงด้วยความเขินอายเมื่อถูกเขาจับปลายคางให้เงยมอง จิ้นหยางใจสั่นไหวเมื่อถูกเขาสัมผัสอย่างอ่อนโยน ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของจิ้นหยางเจ้าเมืองหลี่ว์มิอาจจะอดกลั่นที่จะครอบครองร่างกายที่อยู่เบื่องหน้

    Last Updated : 2024-12-19
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 8 กลืนกินกันและกัน

    บทที่ 8 กลืนกินกันและกันอวิ้นหลี่ว์ปล่อยมือออกจากแท่งร้อนของจิ้นหยางเงยหน้าขึ้นยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจที่เห็นจิ้นหยางเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ให้จิ้นหยางได้พัก จับแขนของจิ้นหยางให้หันมาหาตน“ในเมื่อข้าทำเจ้าเสร็จแล้วถึงตาข้าจะมีความสุขบ้างแล้ว ดูสิมังกรของข้าตั้งผงาดรอเจ้าปรนนิบัติอยู่” จิ้นหยางหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกินทำไมเขาถึงได้เอ่ยมาอย่างไม่อายอย่างนี้ จิ้นหยางจ้องมองแท่งร้อนของท่านเจ้าเมืองก่อนจะใช้มือทั้งสองสาวขึ้นลงสายตาจ้องมองใบหน้าของเขา หากเขาตั้งใจทำให้เสร็จคงจะหนีออกไปได้ รีบมาทำให้จบเสียทีไม่เช่นนั้นท่านแม่จะเป็นห่วงเมื่อคิดได้เช่นนั้นจิ้นหยางก้มลงครอบปากสวมแท่งเนื้อลำยาวจนคนถูกกระทำหน้าบิดเบี้ยวแสดงความเสียวซ่านเมื่อปลายลิ้นของจิ้นหยางกวาดตวัดดูดแรง มือขวาของอวิ้นหลี่ว์จับขอบอ่างเพื่อยับยั้งความเสียว อีกข้างยื่นมาจับหัวของจิ้นหยางเอาไว้จิ้นหยางรูดขึ้นรูดลง ใช้ปลายลิ้นตวัดปลายหัวกลมมนก่อนจะก้มดูดเม้นด้วยความแรงมากกว่าเดิม จนอวิ้นหลี่ว์ครวญครางออกมา“ซี้ด ... อ๊าาาลึก ลึกกว่านี้อีกนิด เจ้าใช้ลิ้นได้เก่งเหลือเกินดูดรัดจนข้าปวดไปหมด” เสียงครางกระเส่าของอวิ้นหลี่ว์ทำ

    Last Updated : 2024-12-19
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 9 ตามจับหนู

    บทที่ 9 ตามจับหนูฝั่งด้านจิ้นหยางเช้าวันนี้เขาตื่นสายกว่าทุกวันเพราะร่างกายที่ผ่านศึกมาถึงสองคราทำให้รู้สึกเจ็บไม่น้อยและเหน็ดเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก แต่แล้วเสียงของเจียวซิ่งได้ดังขึ้นปลุกเขาที่อยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง“พี่จิ้นหยาง ท่านกลับออกมาได้อย่างไรขอรับถูกจับได้หรือไม่? ข้าเป็นห่วงท่านแทบแย่ เฮ้อ! ข้าคิดว่าท่านต้องถูกทำโทษจึงรีบมาหาท่านแต่เช้าเมื่อเห็นท่านนอนอยู่เช่นนี้ข้าเองก็เบาใจ” จิ้นหยางสะลึมสะลือตื่นขึ้นด้วยน้ำเสียงเจี๊ยวจ้าวของเจียวซิ่ง“นี่เจ้า ...อยากให้ท่านแม่รู้หรือไงว่าไปที่ใดมาถึงได้แหกปากเสียงดังแต่เช้าตรู่เช่นนี้”“ท่านป้าไม่อยู่ในเรือนเสียหน่อยขอรับ อีกอย่างท่านป้าไม่ระแคะระคายที่ท่านกลับมาทีหลังข้าด้วยซ้ำ ท่านรีบบอกข้ามาว่าท่านออกมาจากเรือนท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร เขาเรียกท่านไปทำไมกัน” ใบหน้าของเจียวซิ่งคิ้วขมวดเข้าหากันเพ่งมองมายังใบหน้าของจิ้นหยางด้วยความอยากรู้อยากเห็น จิ้นหยางไม่อยากให้เจียวซิ่งรู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาพบเจออะไรมาเลยต้องโกหกออกไป เขาลุกขึ้นใช้มือดันหัวของเจียวซิ่งออกห่างก่อนจะต่อว่าเขา“เพราะเจ้าที่ทำให้ข้าลำบาก ต่อจากนี้ข้าจะไม่เชื่อใจเจ้าไปไ

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 16 โชคดีของเราจริง ๆ

    บทที่ 16 โชคดีของเราจริง ๆหลังจากที่อวิ้นหลี่ว์กลับไปมารดาของจิ้นหยางรีบเข้ามาพูดคุยกับเขาด้วยความดีใจ"ท่านเจ้าเมืองผู้นี้ช่างเป็นคนดีนัก ช่วยเหลือเราสองแม่ลูกจากใต้เท้าหน้าเลือด จิ้นหยางต่อจากนี้เจ้าจงตอบแทนผู้มีพระคุณเป็นอย่างดีนะ ไม่รู้อีกกี่ชาติถึงจะพบคนเช่นท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ นับว่าเป็นความโชคดีของเราแท้ ๆ " จิ้นหยางได้ยินคำพูดของมารดาถึงกับแค้นหัวเราะออกมาในลำคอฮึ ฮึ 'โชคดีของท่านแต่ข้านี่สิต้องคนที่ถูกกระทำ แต่เอาเถอะอย่างไรก็ดีกว่าเป็นหนี้ใต้เท้ามู่ก็แล้วกัน '"ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ ข้าจะสำนึกบุญคุณตอบแทนท่านเจ้าเมืองเป็นอย่างดี โชคดีที่ข้าต่อรองได้และท่านเจ้าเมืองเห็นใจให้ข้าอยู่ดูแลท่านกับแตงกวาในยามเช้า ต่อจากนี้ยามกลางคืนท่านต้องอยู่เพียงลำพังต้องดูแลตนเองให้ดีนะขอรับ ""เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก เพียงเท่านี้ข้าก็ตายตาหลับแล้ว " สิ้นคำพูดของเหนียงฟางก็เดินเข้าไปในเรือนปล่อยให้จิ้นหยางนั่งอยู่เพียงลำพัง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปรดน้ำแตงกวาที่ตอนนี้กำลังโผล่พ้นดินมาแล้ว ทำให้เขาเริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้างและครุ่นคิดค่าตัวเท่าไหร่ในแต่ละคืนถึงจะคุ่มค่าที่ยอมเสียตัว'ค่าแรงสมั

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 15 ข้อตกลง

    บทที่ 15 ข้อตกลง"ท่านเจ้าเมืองจะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้แต่ข้าขอเพียงสิ่งเดียวอย่าบอกเรื่องนี้ต่อมารดาของข้าได้หรือไม่ขอรับ เพียงเท่านี้นางก็มีเรื่องให้ทุกข์ใจมากพอแล้ว "เมื่อมาถึงแคร่อวิ้นหลี่ว์นั่งลงจ้องมองสายตาไปจนทั่วก่อนจะหันมามองคนที่ยืมกุมมือแน่นใบหน้าก้มต่ำกำลังอ้อนวอนเขาอยู่"ให้ลงโทษเจ้าหรือ ข้าย่อมทำเช่นนั้นอยู่แล้วแต่เมื่อคิดว่าคืนนั้นเข้าเองก็ปรนนิบัติข้าเป็นอย่างดีและข้าเองก็พึงพอใจ เรื่องที่เจ้าแอบเข้าไปในเรือนถือว่าหายกัน "อวิ้นหลี่ว์โหยหาคนตรงหน้าจนแทบเก็บอาการไม่อยู่คว้าแขนของเขาให้มานั่งใกล้ ๆ ตนก่อนจะถลกเสื้อขึ้นดูรอยบาดแผลใต้ลมผ้า"ท่านเจ้าเมืองทำอะไรขอรับ ไม่ได้นะที่นี่คนอื่นอยู่มากมายแถมยังอยู่ด้านนอกอีกด้วย " จิ้นหยางสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ ๆ เขาถลกเสื้อของจิ้นหยางขึ้นอย่างนี้"เฮ้อ! เจ้าคิดว่าข้ามีแต่ความคิดเช่นนั้นหรือ ข้าแค่ดูบาดแผลของเจ้าเท่านั้นคงจะเจ็บมากสินะ ข้าน่าจะเข้ามาใช้ดาบตัดมือคนที่ทำร้ายเจ้าเสียตั้งแต่แรก ทำไมข้าถึงไม่ทำเช่นนั้นนะ! มาทำให้แขนของเจ้าหลังของเจ้าได้รับรอยพกช้ำเต็มไปหมด ""ท่านเจ้าเมืองรู้ได้อย่างไรว่าข้าได้รับบาดเจ็บอีกอย่างอาหารกับยาสมุนไ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 14 เจ้าเป็นคนของข้า

    บทที่ 14 เจ้าเป็นคนของข้าหลวนเหยาไปที่โรงครัวแจ้งต่อท่านพ่อครัวให้ทำอาหารบำรุงร่างกายและอาหารเผื่อสำหรับสามคนและขนมหวานห่อไปให้จิ้นหยางไม่ลืมที่จะแจ้งขอยาสมุนไพรอีกด้วย เมื่อได้ของหลวนเหยาก็ควบม้าประจำกายของตนเองไปที่หลังหมู่บ้านทันทียามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้า เหนียงฟางมารดาของจิ้นหยางต้มข้าวต้มเสร็จตักมาให้เขาที่เตียงแต่กลับพบว่ายามนี้บุตรชายได้นอนหลับไปแล้ว จึงไม่อยากปลุกหากเขาลุกมาเมื่อไหร่ค่อยหาให้เขากินนางจึงออกมานั่งอยู่ด้านนอกเรือน จ้องมองดูดวงอาทิตย์ตกด้วยหัวใจที่ทุกข์ระทม สายตาว่างเปล่าไปหมดหูพลันได้ยินเสียงฝีเท้าม้ากำลังดิ่งตรงมาทางตนหัวใจของนางเริ่มสั่นไหว กลัวว่าจะเป็นคนของใต้เท้ามู่กลับมาทำร้ายจิ้นหยางอีก นางรีบมองหาไม้มาคว้าไว้เพื่อปกป้องจิ้นหยางเมื่อม้าถูกทำให้หยุดเดินหลวนเหยากระโดดลงมาจากม้ากวาดตามองดูเห็นหญิงชราท่าทางหวาดกลัวเขารีบเข้าไปหาเพื่อแจ้งให้รู้ว่าเขามาดี“ท่านป้า ข้ามาดีขอรับข้ามิได้มีเจตนาอันใดพอดีเจ้านายของข้าให้ข้านำอาหารมาให้ท่านกับจิ้นหยางขอรับ”“เจ้าเป็นคนของใต้เท้ามู่อย่างนั้นหรืออาหารของเจ้าคงใส่ยามาสินะ”“ข้ารู้ว่ายากที่ท่านป้

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 13 เจ้าหนี้คนใหม่

    บทที่ 13 เจ้าหนี้คนใหม่ฝั่งด้านหลวนเหยาได้เดินสำรวจตามที่เจ้าเมืองสั่งการที่นี่การป้องกันความปลอดภัยช่างหละหลวมนักคงเป็นเพราะวางใจไม่คิดจะมีผู้มาทำอะไรได้ จึงไม่ได้เกรงกลัวอันตรายทำให้หลวนเหยาสามารถเดินไปมาอย่างไม่ถูกสายตาจับจ้องหรือสงสัย เมื่อเขาเดินผ่านห้องของนอนของใต้เท้ามู่ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้ เขาจึงแอบแงะหน้าต่างเพื่อมองดูเห็นว่ายามนี้มีสตรีสองนางที่ท่านใต้เท้ามู่พากลับมาจากด้านนอกถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ไม่ให้หนี สตรีพวกนี้คงไม่พ้นเป็นเครื่องมือปรนเปรอใต้เท้าใจโฉดผู้นี้ หลังจากที่เดินสำรวจจนหมดจึงรีบกลับไปรอเจ้าเมืองอยู่ที่หน้าห้องโถงตามเดิม“นี่ขอรับสัญญาที่จิ้นหยางเป็นหนี้ข้า ในเมื่อท่านใช้หนี้แทนต่อจากนี้เขาคือลูกหนี้ของท่านขอรับ "“ใช่ต่อจากนี้จิ้นหยางคือคนของข้า ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มจะคล้อยต่ำแล้วข้าต้องขอตัวกลับเรือนก่อนข้าพึ่งมาไม่กี่วันยังไม่คุ้นชินเส้นทางเดี๋ยวจะหลง ไว้วันหน้าค่อยพบกันใหม่”“เดินทางปลอดภัยนะขอรับ หากชามาถึงข้าจะให้ลี่อินนำไปส่งที่เรือนนะขอรับ เมื่อถึงยามนั้นข้าฝากให้ท่านเจ้าเมืองช่วยเอ็นดูนางด้วย” อวิ้นหลี่ว์ไม่ตอบอันใดลุกขึ้นหยิบ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 12 ใช้หนี้แทนมารดาของจิ้นหยาง

    บทที่ 12 ใช้หนี้แทนมารดาของจิ้นหยางอวิ้นหลี่ว์รออยู่หน้าเรือนไม่นานบ่าวรับใช้มาตามให้ไปพบใต้เท้ามู่ตามที่ต้องการ"ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ ใต้เท้าเรียนเชิญท่านที่ห้องโถงขอรับตามมาด้านนี้ขอรับ " บ่าวรับใช้ผายมือให้อวิ้นหลี่ว์เดินตามตนไปที่ห้องโถง เขาเดินตามไปก่อนจะหันไปสบตากับหลวนเหยาให้ไปเดินตรวจตราดูในเรือนของใต้เท้ามู่เมื่อเดินใกล้ถึงห้องโถงใต้เท้ามู่รีบเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าชื่นบาน"ต้องขออภัยท่านเจ้าเมืองที่ให้คอยอยู่หน้าเรือนไม่ได้ออกไปต้อนรับด้วยตนเองขอรับ เชิญด้านนี้ขอรับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านเมืองหลี่ว์มาเยือนถึงที่เรือนเข้าไปดื่มน้ำชาสักจอดแล้วค่อยพูดคุยนะขอรับ โฮ๊ะ ๆ "“มิต้องมากพิธีอะไรหรอก ข้าผ่านมาแถวนี้ผ่านเรือนของท่านจึงเข้ามาแวะเยือนเท่านั้น เรือนของท่านช่างใหญ่โตน่าอยู่จริง ๆ ข้าชักชอบที่นี่มากกว่าเรือนที่ข้าอยู่เสียอีก”“ฮ่า ฮ่า เรือนของข้าไม่ได้ใหญ่เกินกว่าเรือนของท่านเจ้าเมืองเลย” ใต้เท้ามู่เอ่ยพลางพากันเดินเข้าไปที่ห้องโถง อวิ้นหลี่ว์กวาดตามองภายในห้องถูกตกแต่งด้วยของมีค่ามากมาย เงินทองและสิ่งของพวกนี้น่าจะมาจากหยาดเหงื่อของชาวบ้านแน่ ๆ ในเมื่อเขามาเป็นท่านเ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 11 บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวคนของข้า

    บทที่ 11 บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวคนของข้าฝั่งด้านอวิ้นหลี่ว์หลังจากที่รู้ว่าจิ้นหยางมิใช่บ่าวรับใช้ในเรือนเขารีบเดินทางมาตามที่บ่าวรับใช้บอกพร้อมกับหลวนเหยาที่ตามคอยคุ้มกัน ทั้งสองควบม้าจนมาถึงท้ายหมู่บ้าน เห็นชาวบ้านเดินไปมาจึงได้เอ่ยถามทางไปที่เรือนของจิ้นหยาง เมื่อรู้ก็ได้พากันควบม้าไปทันทีแต่เมื่อมาถึงหน้ากระท่อมหลังหนึ่งที่อยู่บนเขาดูเหมือนจะไม่ใช่เรือนเสียด้วยซ้ำอวิ้นหลี่ว์ไม่คิดเลยว่าจิ้นหยางจะลำบากถึงเพียงนี้แต่ทว่ายามนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ชาวบ้านเขามาถึงเห็นเกี้ยวจอดอยู่จึงไม่ได้เข้าไปแอบอยู่หลังต้นไม้เพื่อดูเห็นว่ายามนี้ชายที่เขากำลังตามหากำลังถูกทุบตี ใจของอวิ้นหลี่ว์ร้อนรุ่มไปหมดอยากเข้าไปจัดการบั่นคอของชายที่ลงมือทำร้ายจิ้นหยางแต่ก็ถูกหลวนเหยาห้ามเอาไว้ก่อน“ท่านเจ้าเมืองอย่าได้วู่วามเลยขอรับ อีกอย่างดูเหมือนว่าผู้ที่ถูกทุบตีนั่นคงเป็นจิ้นหยางที่ท่านตามหา แต่ทว่าผู้ที่สั่งการและยืนอยู่ด้านหน้านั้นคือท่านใต้เท้ามู่ขอรับ” ดวงตาของอวิ้นหลี่ว์จ้องเขม็งกัดฟันกรอดจนคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยิน“ใต้เท้ามู่หรือ? ได้ข้าจะไม่วู่วามตามที่เจ้าบอก เจ้าบอกข้าว่าใต้เท้ามู่มีอำนาจทำให้ชาวบ้า

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 10 ท่านใต้มู่หน้าเหี้ยมใจโหด

    บทที่ 10 ท่านใต้มู่หน้าเหี้ยมใจโหดตะวันเริ่มบ่ายคล้อยจิ้นหยางกับเจียวซิ่งกลับมาจากตัดไม้ไผ่เพื่อนำมาทำเป็นหลักให้แตงกวาเกี่ยวพันขึ้นยามใหญ่เมื่อมาถึงเรือน หน้าเรือนมีต้นไม้ใหญ่พร้อมกับแคร่ไม้ไผ่หนึ่งตัวไว้เป็นที่พักพิงยามร้อน ๆ ทั้งสองจึงพากันมานอนเอนหลังพักผ่อน“ท่านจะรีบไปตัดมาไผ่มาทำไมหรือขอรับ ผักของท่านยังไม่ขึ้นเลยนะขอรับ เราจะไม่เหนื่อยเปล่าหรือ? ”“ข้ามั่นใจอย่างไรแตงกวาของข้าต้องขึ้น เจ้าอย่ามาพูดให้ข้าละเหี่ยใจเช่นนี้สิ”“จริงสิ! พี่จิ้นหยางตอนที่ท่านขัดหลังให้ท่านเจ้าเมืองท่านคงเห็นเรือนร่างเขาหมดทุกจุดแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นท่านจงตอบข้ามาว่าข้ากับท่านเจ้าเมืองผู้ใดหล่อเหลากว่ากันขอรับ” เมื่อถูกถามใบหน้าของจิ้นหยางแดงระเรื่อครั้นนึกภาพของท่านเจ้าเมืองที่เขาสัมผัสมาแทบทั้งคืน จนต้องลุกขึ้นจากแคร่เดินหนีเจียวซิ่งเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นสีหน้าของตนยามนี้“ไม่รู้ ...ไม่มีผู้ใดหล่อเหลาสักคนไปหาท่านแม่ดีกว่าเย็นนี้มีอะไรกินนะ!”“เดี๋ยวสิท่านพี่มาตอบข้าก่อน ว่าผู้ใดหล่อเหลากว่ากัน” เจียวซิ่งลุกขึ้นเดินตามหลังของจิ้นหยางแต่ทว่าเมื่อมาถึงหน้าเรือนกลับเห็นว่ายามนี้มีเกี้ยวมาหยุดเทียบท

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 9 ตามจับหนู

    บทที่ 9 ตามจับหนูฝั่งด้านจิ้นหยางเช้าวันนี้เขาตื่นสายกว่าทุกวันเพราะร่างกายที่ผ่านศึกมาถึงสองคราทำให้รู้สึกเจ็บไม่น้อยและเหน็ดเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก แต่แล้วเสียงของเจียวซิ่งได้ดังขึ้นปลุกเขาที่อยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง“พี่จิ้นหยาง ท่านกลับออกมาได้อย่างไรขอรับถูกจับได้หรือไม่? ข้าเป็นห่วงท่านแทบแย่ เฮ้อ! ข้าคิดว่าท่านต้องถูกทำโทษจึงรีบมาหาท่านแต่เช้าเมื่อเห็นท่านนอนอยู่เช่นนี้ข้าเองก็เบาใจ” จิ้นหยางสะลึมสะลือตื่นขึ้นด้วยน้ำเสียงเจี๊ยวจ้าวของเจียวซิ่ง“นี่เจ้า ...อยากให้ท่านแม่รู้หรือไงว่าไปที่ใดมาถึงได้แหกปากเสียงดังแต่เช้าตรู่เช่นนี้”“ท่านป้าไม่อยู่ในเรือนเสียหน่อยขอรับ อีกอย่างท่านป้าไม่ระแคะระคายที่ท่านกลับมาทีหลังข้าด้วยซ้ำ ท่านรีบบอกข้ามาว่าท่านออกมาจากเรือนท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร เขาเรียกท่านไปทำไมกัน” ใบหน้าของเจียวซิ่งคิ้วขมวดเข้าหากันเพ่งมองมายังใบหน้าของจิ้นหยางด้วยความอยากรู้อยากเห็น จิ้นหยางไม่อยากให้เจียวซิ่งรู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาพบเจออะไรมาเลยต้องโกหกออกไป เขาลุกขึ้นใช้มือดันหัวของเจียวซิ่งออกห่างก่อนจะต่อว่าเขา“เพราะเจ้าที่ทำให้ข้าลำบาก ต่อจากนี้ข้าจะไม่เชื่อใจเจ้าไปไ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 8 กลืนกินกันและกัน

    บทที่ 8 กลืนกินกันและกันอวิ้นหลี่ว์ปล่อยมือออกจากแท่งร้อนของจิ้นหยางเงยหน้าขึ้นยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจที่เห็นจิ้นหยางเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ให้จิ้นหยางได้พัก จับแขนของจิ้นหยางให้หันมาหาตน“ในเมื่อข้าทำเจ้าเสร็จแล้วถึงตาข้าจะมีความสุขบ้างแล้ว ดูสิมังกรของข้าตั้งผงาดรอเจ้าปรนนิบัติอยู่” จิ้นหยางหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกินทำไมเขาถึงได้เอ่ยมาอย่างไม่อายอย่างนี้ จิ้นหยางจ้องมองแท่งร้อนของท่านเจ้าเมืองก่อนจะใช้มือทั้งสองสาวขึ้นลงสายตาจ้องมองใบหน้าของเขา หากเขาตั้งใจทำให้เสร็จคงจะหนีออกไปได้ รีบมาทำให้จบเสียทีไม่เช่นนั้นท่านแม่จะเป็นห่วงเมื่อคิดได้เช่นนั้นจิ้นหยางก้มลงครอบปากสวมแท่งเนื้อลำยาวจนคนถูกกระทำหน้าบิดเบี้ยวแสดงความเสียวซ่านเมื่อปลายลิ้นของจิ้นหยางกวาดตวัดดูดแรง มือขวาของอวิ้นหลี่ว์จับขอบอ่างเพื่อยับยั้งความเสียว อีกข้างยื่นมาจับหัวของจิ้นหยางเอาไว้จิ้นหยางรูดขึ้นรูดลง ใช้ปลายลิ้นตวัดปลายหัวกลมมนก่อนจะก้มดูดเม้นด้วยความแรงมากกว่าเดิม จนอวิ้นหลี่ว์ครวญครางออกมา“ซี้ด ... อ๊าาาลึก ลึกกว่านี้อีกนิด เจ้าใช้ลิ้นได้เก่งเหลือเกินดูดรัดจนข้าปวดไปหมด” เสียงครางกระเส่าของอวิ้นหลี่ว์ทำ

DMCA.com Protection Status