แชร์

 บทที่ 4 ลงมือปลูกผัก

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-15 09:55:18

บทที่ 4 ลงมือปลูกผัก

เสียงนกขับขานร้องส่งกันไปมา แสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในกระท่อมแยงตาผู้ที่นอนลับสนิทให้รู้สึกตัว จิ้นหยางลืมตาขึ้นกวาดสายตามองต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้งก่อนจะนึกออกได้ว่าตัวเองทะลุมิติมาจากที่อื่น

"เฮ้อ! คิดว่าฝันไปเสียอีก คงเป็นฟ้าลิขิตสินะ " จิ้นหยางเอ่ยพลางยันกายลุกขึ้น มองเห็นสตรีที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่ตื่นจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นไม่ให้เกิดเสียงดังก่อนเข้าไปที่ครัว เพื่อทำอาหารเช้าเมื่อเข้ามาในครัวยามนี้มีเพียงมันเทศเท่านั้นที่เหลืออยู่ นี่คงเป็นอาหารสุดท้ายแล้วสินะ

"คงไม่มีทางเลือกแล้วต้องทำอันนี้กินสินะ ว่าแล้วเชียวทำไมเจียวซิ่งถึงได้ไม่อยากกินข้าวเย็นด้วย " จิ้นหยางเอ่ยพึมพัมก่อนจะจัดการนำมันไปเผาเพื่อกินประทังชีวิต

เมื่อจัดการมันเสร็จจิ้นหยางได้ออกไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ กระท่อม บรรยากาศกำลังเย็นสบายหลังจากที่ฝนตกไปทั้งคืนเช้านี้จึงมีหมอกควันลอยบนท้องฟ้า

"พี่จิ้นหยางข้ามาแล้วขอรับ " พลันเสียงของเจียวซิ่งดังขึ้น จิ้นหยางหันขวับไปมองทันที

"เจ้าเด็กคนนี้คงจะติดจิ้นหยางนี่มากสินะ ทั้ง ๆ ที่เช้าขนาดนี้ยังเร่งรีบมาที่นี่ แต่ก็ดีเหมือนกันฉันเองจะได้ไม่เหงา " จิ้นหยางพูดแผ่วเบาก่อนจะถามเจียวซิ่งที่เดินใกล้เข้ามาหาตน

"เจ้ามาที่นี่แต่เช้ามีอะไรหรือ"

"ท่านแม่ของข้าทำอาหารเยอะ ข้าคิดถึงท่านจึงนำมาฝากขอรับ แม้จะเป็นเพียงข้าวปั้นแต่มันก็ช่วยให้ท่านมีแรงนะขอรับ " เจียวซิ่งยื่นห่อข้าวปั้นให้แก่จิ้นหยางเขารับพร้อมยิ้มกริ่มให้เจียวซิ่ง

"ขอบใจเจ้ามากนะ ที่เป็นห่วงข้าจริงสิวันนี้เจ้าไปที่ใดหรือไม่? "

"ไม่ขอรับ ..ทำไมหรือ?"

"ข้าว่าลงมือปลูกแตงกวา เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่? แม้ตอนนี้ข้าไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายเจ้าแต่ว่าหากแตงกวาข้าโตเมื่อไหร่ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม"

"ตัวข้าช่วยท่านได้เสมอ ไม่หวังสิ่งตอบแทนขอรับ "

“เจ้าช่างดีเสียจริง” จิ้นหยางเอ็นดูเจียวซิ่งมาก ๆ ราวกับเขาเป็นน้องชายที่เกิดมาจากแม่คนเดียวกัน

หลังจากนั้นทั้งสองพากันเข้ามาในเรือนกินอาหารเช้าร่วมกันบัดนั้นท่านแม่ได้ตื่นขึ้นมาและนำเมล็ดแตงกวาให้แก่จิ้นหยางเพื่อนำไปปลูก

“เมล็ดแตงกวาก็มีมากพอที่สำหรับปลูกขายว่าแต่ที่นี่มีอุปกรณ์เพาะปลูกหรือไม่?” จิ้นหยางได้เอ่ยถามเมื่อได้เมล็ดพันธุ์อยู่ในมือ

“ท่านพี่หมายถึงอันใดหรือ? ที่หมู่บ้านของเรามีเพียงจอบเท่านั้น”

“ห่ะ! จอบอย่างนั้นหรือ?"จิ้นหยางเบิกตาโพลงโต

‘นั่นสินะจะไปมีอุปกรณ์การเกษตรได้ยังไงนี่มันยุคโบราณนะ เฮ้อ! คงต้องใช้แรงอีกแล้วนะสิเอาว่ะอย่างไรก็ต้องทำมาถึงขั้นนี้แล้วท้อไม่ได้’ จิ้นหยางถอดหายใจเฮือกใหญ่จ้องมองจอบที่อยู่ในมือของเจียวซิ่ง

“พี่จิ้นหยางตกอะไรหรือ แต่ก่อนเราก็ใช้เพียงจอบเท่านั้นนะ”

“เปล่า ๆ ไม่มีอะไรงั้นเราลงมือจัดการกับดินที่จะปลูกแตงกวากันเถอะ ส่วนท่านมิต้องออกมาช่วยข้านะขอรับ ขออยู่ในเรือนเถิด” จิ้นหยางตอบเจียวซิ่งก่อนจะหันมาบอกมารดา

“เจ้าเองก็อย่าหักโหมเกินไปนะจิ้นหยางร่างกายของเจ้าเองยังไม่ค่อยแข็งแรงช่วงนี้เหมือนสมองของเจ้ากระทบกระเทือนคำพูดคำจาของเจ้าไม่เหมือนเช่นเคย ข้าละเป็นห่วงเจ้าจริง ๆ หากข้ามีเงินมากพอจะพาเจ้าไปรักษากับท่านหมอในเมืองหลวงแต่ข้ามันจนไม่มีวาสนาพาเจ้าไปรักษาด้วยซ้ำ” มารดาที่เห็นท่าทางของบุตรชายเปลี่ยนไปเข้าใจว่าเขานั้นได้รับกระทบกระเทือนหลังจากการตกน้ำ จ้องมองบุตรชายด้วยความเป็นห่วง

“ท่านแม่ข้าไม่ได้ไม่สบายตรงใด หากข้ามีบางอย่างเปลี่ยนไปจากเดิมแต่ข้าก็ยังเป็นบุตรชายของท่านเช่ยเคยท่านแม่มิต้องกังวลใจไปขอรับ” มารดาของจิ้นหยางพยักหน้าให้แก่เขาก่อนที่เขาจะเดินไปที่แปลงผักจัดการขุดเตรียมดินกับเจียวซิ่ง สองวันแรกร่างกายของจิ้นหยางเจ็บปวดแทบไม่อยากจะขยับกายมือของเขาเริ่มแตกบวมแดงเมื่อจับจอบเป็นเวลานาน แต่ความโชคดีคือเขามีเจียวซิ่งคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด จนกระทั่งวันนี้เมล็ดของแตงกวาได้ทำการนำลงดิน รอยยิ้มของจิ้นหยางปรากฏขึ้นเฝ้ารอคอยวันที่แตงกวาจะงอกขึ้นมา

“ในที่สุดข้าก็ปลูกแตงกวาได้แล้ว”

“พี่จิ้นหยางดีใจขนาดนั้นเลยหรือขอรับ เราพึ่งจะเอาเมล็ดลงดินเองนะขอรับ ต้องรอให้มันงอกขึ้นมาออกดอกมีผลก่อนสิถึงเรียกว่าสำเร็จ”

“เจ้านี่ช่างดับฝันข้าเสียจริง เพียงเท่านี้ข้าก็ดีใจแล้ว เอาล่ะวันนี้เราทั้งสองเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ตอนนี้ก็ยังไม่มืดค่ำ เจ้าช่วยพาข้าเดินเล่นในหมู่บ้านได้หรือไม่เผื่อข้าเห็นอะไรน่ากินจะได้ซื้อมากินเย็นนี้”

“ท่านพูดอย่างกับท่านร่ำรวยอย่างไรอย่างนั้น”

“เจ้านับถือข้าจริงหรือไม่? จะไปไม่ไปหากไม่ไปข้าไปผู้เดียวก็ได้”

“ไปสิ! ข้าจะพาท่านไปเองจริงสิวันนี้ข้าได้ยินท่านแม่เอ่ยตั้งแต่ก่อนที่ข้าจะออกจากเรือนมา เห็นว่าวันนี้มีท่านเจ้าเมืองย้ายมาใหม่จัดพิธีต้อนรับและฉลองกันครึกครื้นเราไปที่นั้นดีหรือไม่ขอรับ อาหารน่าจะมีมากมายแถมยังมีสุราให้ดื่มอีกด้วย”

“เฮ้อ! คนรวยสินะแล้วเขาจะให้เราเข้าไปกินของเขาได้อย่างไรเล่า คนล่ะระดับชั้นกันอย่างนี้”

“ไม่ยากเลยขอรับ ตามข้ามาเถิด หึ หึ” ใบหน้าของเจียวซิ่งยิ้มชั่วร้ายคล้ายมีแผน จิ้นหยางชั่งใจจะตามไปดีหรือไม่ทำไมจู่ ๆ รู้สึกใจหายวาบอย่างนี้แต่ถ้าหากมีอาหารอย่างที่เจียวซิ่งกล่าวมาก็น่าลองไปดูเช่นกัน วันนี้เขากับแม่จะได้อิ่มไปอีกวัน

“นำไปสิ” เจียวซิ่งดีดนิ้วเปาะหนึ่งเดินนำหน้าจิ้นหยางไปยังจวนของท่านเจ้าเมืองที่ย้านมาใหม่ทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่

    บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่ทั้งสองพากันเดินเข้ามาในตลาดช่างคึกคักตื่นตาตื่นใจของจิ้นหยางเหลือเกิน การที่เขาทะลุมิติมายังที่แห่งนี้ไม่ได้มีเรื่องร้ายอะไรนอกจากความยากจน ที่นี่ทั้งบรรยากาศสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากที่เขาอยู่ยิ่งนัก แม้จะลำบากอยู่บ้างแต่เขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว“พี่จิ้นหยางรีบเดินตามข้ามาขอรับ เดินไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่จะเจอเรือนของท่านเจ้าเมืองแล้วขอรับเห็นด้านหน้านั้นหรือไม่? ผู้คนจอแจเต็มหน้าเรือนสงสัยจะมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้าเมืองที่ย้ายมาใหม่มีใบหน้าที่หล่อเหลาข้าชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าจะหล่อเท่าข้ามั้ย” จิ้นหยางมองใบหน้าของเจียวซิ่งก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขันในความมั่นอกมั่นใจของเขาเหลือเกิน“พี่จิ้นหยางหัวเราะข้าอย่างนั้นหรือ? ท่านไม่รู้สินะว่าข้านะมีใบหน้าหล่อเหลาที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว หากข้าเติบโตอีกสักหน่อยคงจะมีสตรีมากมายเข้าหาจนน่ารำคาญแน่นอน”“ข้ายังไม่ได้ว่าอะไรเจ้าเลยนะ ไหนล่ะทางที่เจ้าจะพาหาเข้าไปหาอาหาร เท่าที่ข้าดูผู้ที่เข้าไปต้องมีเทียบเชิญมิใช่หรือ” สองเท้าก้าวมาถึงหน้าเรือนเห็นคนที่เข้าไปต้องยื่นเทียบเชิญให้แก่บ่าวรับใช้ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 6 ถูกใจบ่าวใช้หน้าหวาน 

    บทที่ 6 ถูกใจบ่าวใช้หน้าหวาน อวิ้นหลี่ว์ เจ้าเมืองที่ย้ายมาหมู่บ้านแห่งนี้เพราะเขาเบื่อหน่ายเมืองหลวงที่วุ่นวายและบ่าวมากมายรวมถึงเหล่าใต้เท้าที่มักประจบสอพอจึงขอออกมาเป็นเจ้าเมืองที่ชนบทมาอยู่ในที่เงียบสงบ แม้จะทำใจเรื่องงานเลี้ยงฉลองที่น่าเบื่อแต่อย่างไรก็มีเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น เขาจึงนั่งร่วมฉลองอยู่กับเหล่าใต้เท้าที่อยู่ในหมู่บ้านนี้รวมถึงเรือนของคนมีฐานะที่เข้ามาแสดงความยินดี ความเบื่อหน่ายที่พบเจออยู่บ่อย ๆ จนเคยชินจู่ ๆ สายตาพลันมองไปเห็นบุรุษใบหน้าหวานแต่งกายเหมือนเป็นบ่าวในเรือนนี้ช่างสะดุดตามากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเจอมา ดวงตากรีดยาวเศร้าหมองแต่ช่างดึงดูดเขายิ่งนัก การแสดงที่อยู่ตรงหน้ายังไม่น่ามองเท่าบ่าวรับใช้ผู้นั้นแม้แต่น้อย ยิ่งยามที่มือเรียวยาวหยิบจับอาหารเข้าปากริมฝีปากอ้ารับอาหารเข้าไปเคี้ยวกินยิ่งทำให้เขาสั่นไหว อยากจะครอบครองร่างกายของบ่าวผู้นี้เหลือเกิน คิดไม่ผิดเลยที่ครั้งนี้เขาย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ ราวกับพบเจอทับทิมแสนงาม ครั้นสายตาของเขาหันไปทางอื่นชั่วครู่หันกลับมาไม่เห็นแม้กระทั่งเงาของบ่าวผู้นั้น อวิ้นหลี่ว์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ร่ำลาทุกคนให้ทุกคนดื่มด่ำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 7 มาบำเรอข้า

    บทที่ 7 มาบำเรอข้า“ท่านเจ้าเมืองข้าขออภัยด้วยเพราะข้าซุ่มซ่ามเอง ไม่ทันระวังทำให้หล่นลงมาในอ่างกับท่าน” น้ำเสียงสั่นระรัวรีบเอ่ยบอกพลางยันกายลุกขึ้นแต่ทว่ากลับถูกอวิ้นหลี่ว์ใช้มือจับปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้นเพื่อมองให้ชัดเจน ดวงตาของจิ้นหยางช่างดึงดูดเขาเหลือเกิน ริมฝีปากเผยอราวกับยั่วยวนอวิ้นหลี่ว์ให้ลิ้มลอง ร่างกายของเขาอวิ้นหลี่ว์เลือดลมกระฉูดทั่วร่างหากปล่อยบ่าวผู้นี้ออกไปจากอ่างน้ำวันนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ ๆ“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดเจ้าสักนิดอีกอย่างมิใช่เจ้าซุ่มซ่ามแต่เป็นข้าต่างหากที่ทำให้เจ้าลงมาแช่น้ำกับข้าเช่นนี้เจ้าชื่ออันใดหรือ”“เอ่อ...ข้าน้อยมีนามว่าจิ้นหยางขอรับ” เพราะน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานกำลังเอ่ยถามทำให้จิ้นหยางไม่ทันได้คิดจึงเอ่ยบอกชื่อตนเองออกไป“ชื่อไพเราะเสียจริง ต่อจากนี้เรียกข้าว่าท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ ไหนลองเรียกสิ”“ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์” น้ำเสียงสั่นกระเส่าเรียกดวงตาหลุบลงด้วยความเขินอายเมื่อถูกเขาจับปลายคางให้เงยมอง จิ้นหยางใจสั่นไหวเมื่อถูกเขาสัมผัสอย่างอ่อนโยน ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของจิ้นหยางเจ้าเมืองหลี่ว์มิอาจจะอดกลั่นที่จะครอบครองร่างกายที่อยู่เบื่องหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 8 กลืนกินกันและกัน

    บทที่ 8 กลืนกินกันและกันอวิ้นหลี่ว์ปล่อยมือออกจากแท่งร้อนของจิ้นหยางเงยหน้าขึ้นยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจที่เห็นจิ้นหยางเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ให้จิ้นหยางได้พัก จับแขนของจิ้นหยางให้หันมาหาตน“ในเมื่อข้าทำเจ้าเสร็จแล้วถึงตาข้าจะมีความสุขบ้างแล้ว ดูสิมังกรของข้าตั้งผงาดรอเจ้าปรนนิบัติอยู่” จิ้นหยางหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกินทำไมเขาถึงได้เอ่ยมาอย่างไม่อายอย่างนี้ จิ้นหยางจ้องมองแท่งร้อนของท่านเจ้าเมืองก่อนจะใช้มือทั้งสองสาวขึ้นลงสายตาจ้องมองใบหน้าของเขา หากเขาตั้งใจทำให้เสร็จคงจะหนีออกไปได้ รีบมาทำให้จบเสียทีไม่เช่นนั้นท่านแม่จะเป็นห่วงเมื่อคิดได้เช่นนั้นจิ้นหยางก้มลงครอบปากสวมแท่งเนื้อลำยาวจนคนถูกกระทำหน้าบิดเบี้ยวแสดงความเสียวซ่านเมื่อปลายลิ้นของจิ้นหยางกวาดตวัดดูดแรง มือขวาของอวิ้นหลี่ว์จับขอบอ่างเพื่อยับยั้งความเสียว อีกข้างยื่นมาจับหัวของจิ้นหยางเอาไว้จิ้นหยางรูดขึ้นรูดลง ใช้ปลายลิ้นตวัดปลายหัวกลมมนก่อนจะก้มดูดเม้นด้วยความแรงมากกว่าเดิม จนอวิ้นหลี่ว์ครวญครางออกมา“ซี้ด ... อ๊าาาลึก ลึกกว่านี้อีกนิด เจ้าใช้ลิ้นได้เก่งเหลือเกินดูดรัดจนข้าปวดไปหมด” เสียงครางกระเส่าของอวิ้นหลี่ว์ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 9 ตามจับหนู

    บทที่ 9 ตามจับหนูฝั่งด้านจิ้นหยางเช้าวันนี้เขาตื่นสายกว่าทุกวันเพราะร่างกายที่ผ่านศึกมาถึงสองคราทำให้รู้สึกเจ็บไม่น้อยและเหน็ดเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก แต่แล้วเสียงของเจียวซิ่งได้ดังขึ้นปลุกเขาที่อยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง“พี่จิ้นหยาง ท่านกลับออกมาได้อย่างไรขอรับถูกจับได้หรือไม่? ข้าเป็นห่วงท่านแทบแย่ เฮ้อ! ข้าคิดว่าท่านต้องถูกทำโทษจึงรีบมาหาท่านแต่เช้าเมื่อเห็นท่านนอนอยู่เช่นนี้ข้าเองก็เบาใจ” จิ้นหยางสะลึมสะลือตื่นขึ้นด้วยน้ำเสียงเจี๊ยวจ้าวของเจียวซิ่ง“นี่เจ้า ...อยากให้ท่านแม่รู้หรือไงว่าไปที่ใดมาถึงได้แหกปากเสียงดังแต่เช้าตรู่เช่นนี้”“ท่านป้าไม่อยู่ในเรือนเสียหน่อยขอรับ อีกอย่างท่านป้าไม่ระแคะระคายที่ท่านกลับมาทีหลังข้าด้วยซ้ำ ท่านรีบบอกข้ามาว่าท่านออกมาจากเรือนท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร เขาเรียกท่านไปทำไมกัน” ใบหน้าของเจียวซิ่งคิ้วขมวดเข้าหากันเพ่งมองมายังใบหน้าของจิ้นหยางด้วยความอยากรู้อยากเห็น จิ้นหยางไม่อยากให้เจียวซิ่งรู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาพบเจออะไรมาเลยต้องโกหกออกไป เขาลุกขึ้นใช้มือดันหัวของเจียวซิ่งออกห่างก่อนจะต่อว่าเขา“เพราะเจ้าที่ทำให้ข้าลำบาก ต่อจากนี้ข้าจะไม่เชื่อใจเจ้าไปไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 10 ท่านใต้มู่หน้าเหี้ยมใจโหด

    บทที่ 10 ท่านใต้มู่หน้าเหี้ยมใจโหดตะวันเริ่มบ่ายคล้อยจิ้นหยางกับเจียวซิ่งกลับมาจากตัดไม้ไผ่เพื่อนำมาทำเป็นหลักให้แตงกวาเกี่ยวพันขึ้นยามใหญ่เมื่อมาถึงเรือน หน้าเรือนมีต้นไม้ใหญ่พร้อมกับแคร่ไม้ไผ่หนึ่งตัวไว้เป็นที่พักพิงยามร้อน ๆ ทั้งสองจึงพากันมานอนเอนหลังพักผ่อน“ท่านจะรีบไปตัดมาไผ่มาทำไมหรือขอรับ ผักของท่านยังไม่ขึ้นเลยนะขอรับ เราจะไม่เหนื่อยเปล่าหรือ? ”“ข้ามั่นใจอย่างไรแตงกวาของข้าต้องขึ้น เจ้าอย่ามาพูดให้ข้าละเหี่ยใจเช่นนี้สิ”“จริงสิ! พี่จิ้นหยางตอนที่ท่านขัดหลังให้ท่านเจ้าเมืองท่านคงเห็นเรือนร่างเขาหมดทุกจุดแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นท่านจงตอบข้ามาว่าข้ากับท่านเจ้าเมืองผู้ใดหล่อเหลากว่ากันขอรับ” เมื่อถูกถามใบหน้าของจิ้นหยางแดงระเรื่อครั้นนึกภาพของท่านเจ้าเมืองที่เขาสัมผัสมาแทบทั้งคืน จนต้องลุกขึ้นจากแคร่เดินหนีเจียวซิ่งเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นสีหน้าของตนยามนี้“ไม่รู้ ...ไม่มีผู้ใดหล่อเหลาสักคนไปหาท่านแม่ดีกว่าเย็นนี้มีอะไรกินนะ!”“เดี๋ยวสิท่านพี่มาตอบข้าก่อน ว่าผู้ใดหล่อเหลากว่ากัน” เจียวซิ่งลุกขึ้นเดินตามหลังของจิ้นหยางแต่ทว่าเมื่อมาถึงหน้าเรือนกลับเห็นว่ายามนี้มีเกี้ยวมาหยุดเทียบท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 11 บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวคนของข้า

    บทที่ 11 บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวคนของข้าฝั่งด้านอวิ้นหลี่ว์หลังจากที่รู้ว่าจิ้นหยางมิใช่บ่าวรับใช้ในเรือนเขารีบเดินทางมาตามที่บ่าวรับใช้บอกพร้อมกับหลวนเหยาที่ตามคอยคุ้มกัน ทั้งสองควบม้าจนมาถึงท้ายหมู่บ้าน เห็นชาวบ้านเดินไปมาจึงได้เอ่ยถามทางไปที่เรือนของจิ้นหยาง เมื่อรู้ก็ได้พากันควบม้าไปทันทีแต่เมื่อมาถึงหน้ากระท่อมหลังหนึ่งที่อยู่บนเขาดูเหมือนจะไม่ใช่เรือนเสียด้วยซ้ำอวิ้นหลี่ว์ไม่คิดเลยว่าจิ้นหยางจะลำบากถึงเพียงนี้แต่ทว่ายามนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ชาวบ้านเขามาถึงเห็นเกี้ยวจอดอยู่จึงไม่ได้เข้าไปแอบอยู่หลังต้นไม้เพื่อดูเห็นว่ายามนี้ชายที่เขากำลังตามหากำลังถูกทุบตี ใจของอวิ้นหลี่ว์ร้อนรุ่มไปหมดอยากเข้าไปจัดการบั่นคอของชายที่ลงมือทำร้ายจิ้นหยางแต่ก็ถูกหลวนเหยาห้ามเอาไว้ก่อน“ท่านเจ้าเมืองอย่าได้วู่วามเลยขอรับ อีกอย่างดูเหมือนว่าผู้ที่ถูกทุบตีนั่นคงเป็นจิ้นหยางที่ท่านตามหา แต่ทว่าผู้ที่สั่งการและยืนอยู่ด้านหน้านั้นคือท่านใต้เท้ามู่ขอรับ” ดวงตาของอวิ้นหลี่ว์จ้องเขม็งกัดฟันกรอดจนคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยิน“ใต้เท้ามู่หรือ? ได้ข้าจะไม่วู่วามตามที่เจ้าบอก เจ้าบอกข้าว่าใต้เท้ามู่มีอำนาจทำให้ชาวบ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 12 ใช้หนี้แทนมารดาของจิ้นหยาง

    บทที่ 12 ใช้หนี้แทนมารดาของจิ้นหยางอวิ้นหลี่ว์รออยู่หน้าเรือนไม่นานบ่าวรับใช้มาตามให้ไปพบใต้เท้ามู่ตามที่ต้องการ"ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ ใต้เท้าเรียนเชิญท่านที่ห้องโถงขอรับตามมาด้านนี้ขอรับ " บ่าวรับใช้ผายมือให้อวิ้นหลี่ว์เดินตามตนไปที่ห้องโถง เขาเดินตามไปก่อนจะหันไปสบตากับหลวนเหยาให้ไปเดินตรวจตราดูในเรือนของใต้เท้ามู่เมื่อเดินใกล้ถึงห้องโถงใต้เท้ามู่รีบเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าชื่นบาน"ต้องขออภัยท่านเจ้าเมืองที่ให้คอยอยู่หน้าเรือนไม่ได้ออกไปต้อนรับด้วยตนเองขอรับ เชิญด้านนี้ขอรับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านเมืองหลี่ว์มาเยือนถึงที่เรือนเข้าไปดื่มน้ำชาสักจอดแล้วค่อยพูดคุยนะขอรับ โฮ๊ะ ๆ "“มิต้องมากพิธีอะไรหรอก ข้าผ่านมาแถวนี้ผ่านเรือนของท่านจึงเข้ามาแวะเยือนเท่านั้น เรือนของท่านช่างใหญ่โตน่าอยู่จริง ๆ ข้าชักชอบที่นี่มากกว่าเรือนที่ข้าอยู่เสียอีก”“ฮ่า ฮ่า เรือนของข้าไม่ได้ใหญ่เกินกว่าเรือนของท่านเจ้าเมืองเลย” ใต้เท้ามู่เอ่ยพลางพากันเดินเข้าไปที่ห้องโถง อวิ้นหลี่ว์กวาดตามองภายในห้องถูกตกแต่งด้วยของมีค่ามากมาย เงินทองและสิ่งของพวกนี้น่าจะมาจากหยาดเหงื่อของชาวบ้านแน่ ๆ ในเมื่อเขามาเป็นท่านเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21

บทล่าสุด

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 16 โชคดีของเราจริง ๆ

    บทที่ 16 โชคดีของเราจริง ๆหลังจากที่อวิ้นหลี่ว์กลับไปมารดาของจิ้นหยางรีบเข้ามาพูดคุยกับเขาด้วยความดีใจ"ท่านเจ้าเมืองผู้นี้ช่างเป็นคนดีนัก ช่วยเหลือเราสองแม่ลูกจากใต้เท้าหน้าเลือด จิ้นหยางต่อจากนี้เจ้าจงตอบแทนผู้มีพระคุณเป็นอย่างดีนะ ไม่รู้อีกกี่ชาติถึงจะพบคนเช่นท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ นับว่าเป็นความโชคดีของเราแท้ ๆ " จิ้นหยางได้ยินคำพูดของมารดาถึงกับแค้นหัวเราะออกมาในลำคอฮึ ฮึ 'โชคดีของท่านแต่ข้านี่สิต้องคนที่ถูกกระทำ แต่เอาเถอะอย่างไรก็ดีกว่าเป็นหนี้ใต้เท้ามู่ก็แล้วกัน '"ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ ข้าจะสำนึกบุญคุณตอบแทนท่านเจ้าเมืองเป็นอย่างดี โชคดีที่ข้าต่อรองได้และท่านเจ้าเมืองเห็นใจให้ข้าอยู่ดูแลท่านกับแตงกวาในยามเช้า ต่อจากนี้ยามกลางคืนท่านต้องอยู่เพียงลำพังต้องดูแลตนเองให้ดีนะขอรับ ""เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก เพียงเท่านี้ข้าก็ตายตาหลับแล้ว " สิ้นคำพูดของเหนียงฟางก็เดินเข้าไปในเรือนปล่อยให้จิ้นหยางนั่งอยู่เพียงลำพัง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปรดน้ำแตงกวาที่ตอนนี้กำลังโผล่พ้นดินมาแล้ว ทำให้เขาเริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้างและครุ่นคิดค่าตัวเท่าไหร่ในแต่ละคืนถึงจะคุ่มค่าที่ยอมเสียตัว'ค่าแรงสมั

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 15 ข้อตกลง

    บทที่ 15 ข้อตกลง"ท่านเจ้าเมืองจะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้แต่ข้าขอเพียงสิ่งเดียวอย่าบอกเรื่องนี้ต่อมารดาของข้าได้หรือไม่ขอรับ เพียงเท่านี้นางก็มีเรื่องให้ทุกข์ใจมากพอแล้ว "เมื่อมาถึงแคร่อวิ้นหลี่ว์นั่งลงจ้องมองสายตาไปจนทั่วก่อนจะหันมามองคนที่ยืมกุมมือแน่นใบหน้าก้มต่ำกำลังอ้อนวอนเขาอยู่"ให้ลงโทษเจ้าหรือ ข้าย่อมทำเช่นนั้นอยู่แล้วแต่เมื่อคิดว่าคืนนั้นเข้าเองก็ปรนนิบัติข้าเป็นอย่างดีและข้าเองก็พึงพอใจ เรื่องที่เจ้าแอบเข้าไปในเรือนถือว่าหายกัน "อวิ้นหลี่ว์โหยหาคนตรงหน้าจนแทบเก็บอาการไม่อยู่คว้าแขนของเขาให้มานั่งใกล้ ๆ ตนก่อนจะถลกเสื้อขึ้นดูรอยบาดแผลใต้ลมผ้า"ท่านเจ้าเมืองทำอะไรขอรับ ไม่ได้นะที่นี่คนอื่นอยู่มากมายแถมยังอยู่ด้านนอกอีกด้วย " จิ้นหยางสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ ๆ เขาถลกเสื้อของจิ้นหยางขึ้นอย่างนี้"เฮ้อ! เจ้าคิดว่าข้ามีแต่ความคิดเช่นนั้นหรือ ข้าแค่ดูบาดแผลของเจ้าเท่านั้นคงจะเจ็บมากสินะ ข้าน่าจะเข้ามาใช้ดาบตัดมือคนที่ทำร้ายเจ้าเสียตั้งแต่แรก ทำไมข้าถึงไม่ทำเช่นนั้นนะ! มาทำให้แขนของเจ้าหลังของเจ้าได้รับรอยพกช้ำเต็มไปหมด ""ท่านเจ้าเมืองรู้ได้อย่างไรว่าข้าได้รับบาดเจ็บอีกอย่างอาหารกับยาสมุนไ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 14 เจ้าเป็นคนของข้า

    บทที่ 14 เจ้าเป็นคนของข้าหลวนเหยาไปที่โรงครัวแจ้งต่อท่านพ่อครัวให้ทำอาหารบำรุงร่างกายและอาหารเผื่อสำหรับสามคนและขนมหวานห่อไปให้จิ้นหยางไม่ลืมที่จะแจ้งขอยาสมุนไพรอีกด้วย เมื่อได้ของหลวนเหยาก็ควบม้าประจำกายของตนเองไปที่หลังหมู่บ้านทันทียามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้า เหนียงฟางมารดาของจิ้นหยางต้มข้าวต้มเสร็จตักมาให้เขาที่เตียงแต่กลับพบว่ายามนี้บุตรชายได้นอนหลับไปแล้ว จึงไม่อยากปลุกหากเขาลุกมาเมื่อไหร่ค่อยหาให้เขากินนางจึงออกมานั่งอยู่ด้านนอกเรือน จ้องมองดูดวงอาทิตย์ตกด้วยหัวใจที่ทุกข์ระทม สายตาว่างเปล่าไปหมดหูพลันได้ยินเสียงฝีเท้าม้ากำลังดิ่งตรงมาทางตนหัวใจของนางเริ่มสั่นไหว กลัวว่าจะเป็นคนของใต้เท้ามู่กลับมาทำร้ายจิ้นหยางอีก นางรีบมองหาไม้มาคว้าไว้เพื่อปกป้องจิ้นหยางเมื่อม้าถูกทำให้หยุดเดินหลวนเหยากระโดดลงมาจากม้ากวาดตามองดูเห็นหญิงชราท่าทางหวาดกลัวเขารีบเข้าไปหาเพื่อแจ้งให้รู้ว่าเขามาดี“ท่านป้า ข้ามาดีขอรับข้ามิได้มีเจตนาอันใดพอดีเจ้านายของข้าให้ข้านำอาหารมาให้ท่านกับจิ้นหยางขอรับ”“เจ้าเป็นคนของใต้เท้ามู่อย่างนั้นหรืออาหารของเจ้าคงใส่ยามาสินะ”“ข้ารู้ว่ายากที่ท่านป้

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 13 เจ้าหนี้คนใหม่

    บทที่ 13 เจ้าหนี้คนใหม่ฝั่งด้านหลวนเหยาได้เดินสำรวจตามที่เจ้าเมืองสั่งการที่นี่การป้องกันความปลอดภัยช่างหละหลวมนักคงเป็นเพราะวางใจไม่คิดจะมีผู้มาทำอะไรได้ จึงไม่ได้เกรงกลัวอันตรายทำให้หลวนเหยาสามารถเดินไปมาอย่างไม่ถูกสายตาจับจ้องหรือสงสัย เมื่อเขาเดินผ่านห้องของนอนของใต้เท้ามู่ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้ เขาจึงแอบแงะหน้าต่างเพื่อมองดูเห็นว่ายามนี้มีสตรีสองนางที่ท่านใต้เท้ามู่พากลับมาจากด้านนอกถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ไม่ให้หนี สตรีพวกนี้คงไม่พ้นเป็นเครื่องมือปรนเปรอใต้เท้าใจโฉดผู้นี้ หลังจากที่เดินสำรวจจนหมดจึงรีบกลับไปรอเจ้าเมืองอยู่ที่หน้าห้องโถงตามเดิม“นี่ขอรับสัญญาที่จิ้นหยางเป็นหนี้ข้า ในเมื่อท่านใช้หนี้แทนต่อจากนี้เขาคือลูกหนี้ของท่านขอรับ "“ใช่ต่อจากนี้จิ้นหยางคือคนของข้า ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มจะคล้อยต่ำแล้วข้าต้องขอตัวกลับเรือนก่อนข้าพึ่งมาไม่กี่วันยังไม่คุ้นชินเส้นทางเดี๋ยวจะหลง ไว้วันหน้าค่อยพบกันใหม่”“เดินทางปลอดภัยนะขอรับ หากชามาถึงข้าจะให้ลี่อินนำไปส่งที่เรือนนะขอรับ เมื่อถึงยามนั้นข้าฝากให้ท่านเจ้าเมืองช่วยเอ็นดูนางด้วย” อวิ้นหลี่ว์ไม่ตอบอันใดลุกขึ้นหยิบ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 12 ใช้หนี้แทนมารดาของจิ้นหยาง

    บทที่ 12 ใช้หนี้แทนมารดาของจิ้นหยางอวิ้นหลี่ว์รออยู่หน้าเรือนไม่นานบ่าวรับใช้มาตามให้ไปพบใต้เท้ามู่ตามที่ต้องการ"ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ ใต้เท้าเรียนเชิญท่านที่ห้องโถงขอรับตามมาด้านนี้ขอรับ " บ่าวรับใช้ผายมือให้อวิ้นหลี่ว์เดินตามตนไปที่ห้องโถง เขาเดินตามไปก่อนจะหันไปสบตากับหลวนเหยาให้ไปเดินตรวจตราดูในเรือนของใต้เท้ามู่เมื่อเดินใกล้ถึงห้องโถงใต้เท้ามู่รีบเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าชื่นบาน"ต้องขออภัยท่านเจ้าเมืองที่ให้คอยอยู่หน้าเรือนไม่ได้ออกไปต้อนรับด้วยตนเองขอรับ เชิญด้านนี้ขอรับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านเมืองหลี่ว์มาเยือนถึงที่เรือนเข้าไปดื่มน้ำชาสักจอดแล้วค่อยพูดคุยนะขอรับ โฮ๊ะ ๆ "“มิต้องมากพิธีอะไรหรอก ข้าผ่านมาแถวนี้ผ่านเรือนของท่านจึงเข้ามาแวะเยือนเท่านั้น เรือนของท่านช่างใหญ่โตน่าอยู่จริง ๆ ข้าชักชอบที่นี่มากกว่าเรือนที่ข้าอยู่เสียอีก”“ฮ่า ฮ่า เรือนของข้าไม่ได้ใหญ่เกินกว่าเรือนของท่านเจ้าเมืองเลย” ใต้เท้ามู่เอ่ยพลางพากันเดินเข้าไปที่ห้องโถง อวิ้นหลี่ว์กวาดตามองภายในห้องถูกตกแต่งด้วยของมีค่ามากมาย เงินทองและสิ่งของพวกนี้น่าจะมาจากหยาดเหงื่อของชาวบ้านแน่ ๆ ในเมื่อเขามาเป็นท่านเ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 11 บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวคนของข้า

    บทที่ 11 บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวคนของข้าฝั่งด้านอวิ้นหลี่ว์หลังจากที่รู้ว่าจิ้นหยางมิใช่บ่าวรับใช้ในเรือนเขารีบเดินทางมาตามที่บ่าวรับใช้บอกพร้อมกับหลวนเหยาที่ตามคอยคุ้มกัน ทั้งสองควบม้าจนมาถึงท้ายหมู่บ้าน เห็นชาวบ้านเดินไปมาจึงได้เอ่ยถามทางไปที่เรือนของจิ้นหยาง เมื่อรู้ก็ได้พากันควบม้าไปทันทีแต่เมื่อมาถึงหน้ากระท่อมหลังหนึ่งที่อยู่บนเขาดูเหมือนจะไม่ใช่เรือนเสียด้วยซ้ำอวิ้นหลี่ว์ไม่คิดเลยว่าจิ้นหยางจะลำบากถึงเพียงนี้แต่ทว่ายามนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ชาวบ้านเขามาถึงเห็นเกี้ยวจอดอยู่จึงไม่ได้เข้าไปแอบอยู่หลังต้นไม้เพื่อดูเห็นว่ายามนี้ชายที่เขากำลังตามหากำลังถูกทุบตี ใจของอวิ้นหลี่ว์ร้อนรุ่มไปหมดอยากเข้าไปจัดการบั่นคอของชายที่ลงมือทำร้ายจิ้นหยางแต่ก็ถูกหลวนเหยาห้ามเอาไว้ก่อน“ท่านเจ้าเมืองอย่าได้วู่วามเลยขอรับ อีกอย่างดูเหมือนว่าผู้ที่ถูกทุบตีนั่นคงเป็นจิ้นหยางที่ท่านตามหา แต่ทว่าผู้ที่สั่งการและยืนอยู่ด้านหน้านั้นคือท่านใต้เท้ามู่ขอรับ” ดวงตาของอวิ้นหลี่ว์จ้องเขม็งกัดฟันกรอดจนคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยิน“ใต้เท้ามู่หรือ? ได้ข้าจะไม่วู่วามตามที่เจ้าบอก เจ้าบอกข้าว่าใต้เท้ามู่มีอำนาจทำให้ชาวบ้า

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 10 ท่านใต้มู่หน้าเหี้ยมใจโหด

    บทที่ 10 ท่านใต้มู่หน้าเหี้ยมใจโหดตะวันเริ่มบ่ายคล้อยจิ้นหยางกับเจียวซิ่งกลับมาจากตัดไม้ไผ่เพื่อนำมาทำเป็นหลักให้แตงกวาเกี่ยวพันขึ้นยามใหญ่เมื่อมาถึงเรือน หน้าเรือนมีต้นไม้ใหญ่พร้อมกับแคร่ไม้ไผ่หนึ่งตัวไว้เป็นที่พักพิงยามร้อน ๆ ทั้งสองจึงพากันมานอนเอนหลังพักผ่อน“ท่านจะรีบไปตัดมาไผ่มาทำไมหรือขอรับ ผักของท่านยังไม่ขึ้นเลยนะขอรับ เราจะไม่เหนื่อยเปล่าหรือ? ”“ข้ามั่นใจอย่างไรแตงกวาของข้าต้องขึ้น เจ้าอย่ามาพูดให้ข้าละเหี่ยใจเช่นนี้สิ”“จริงสิ! พี่จิ้นหยางตอนที่ท่านขัดหลังให้ท่านเจ้าเมืองท่านคงเห็นเรือนร่างเขาหมดทุกจุดแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นท่านจงตอบข้ามาว่าข้ากับท่านเจ้าเมืองผู้ใดหล่อเหลากว่ากันขอรับ” เมื่อถูกถามใบหน้าของจิ้นหยางแดงระเรื่อครั้นนึกภาพของท่านเจ้าเมืองที่เขาสัมผัสมาแทบทั้งคืน จนต้องลุกขึ้นจากแคร่เดินหนีเจียวซิ่งเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นสีหน้าของตนยามนี้“ไม่รู้ ...ไม่มีผู้ใดหล่อเหลาสักคนไปหาท่านแม่ดีกว่าเย็นนี้มีอะไรกินนะ!”“เดี๋ยวสิท่านพี่มาตอบข้าก่อน ว่าผู้ใดหล่อเหลากว่ากัน” เจียวซิ่งลุกขึ้นเดินตามหลังของจิ้นหยางแต่ทว่าเมื่อมาถึงหน้าเรือนกลับเห็นว่ายามนี้มีเกี้ยวมาหยุดเทียบท

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 9 ตามจับหนู

    บทที่ 9 ตามจับหนูฝั่งด้านจิ้นหยางเช้าวันนี้เขาตื่นสายกว่าทุกวันเพราะร่างกายที่ผ่านศึกมาถึงสองคราทำให้รู้สึกเจ็บไม่น้อยและเหน็ดเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก แต่แล้วเสียงของเจียวซิ่งได้ดังขึ้นปลุกเขาที่อยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง“พี่จิ้นหยาง ท่านกลับออกมาได้อย่างไรขอรับถูกจับได้หรือไม่? ข้าเป็นห่วงท่านแทบแย่ เฮ้อ! ข้าคิดว่าท่านต้องถูกทำโทษจึงรีบมาหาท่านแต่เช้าเมื่อเห็นท่านนอนอยู่เช่นนี้ข้าเองก็เบาใจ” จิ้นหยางสะลึมสะลือตื่นขึ้นด้วยน้ำเสียงเจี๊ยวจ้าวของเจียวซิ่ง“นี่เจ้า ...อยากให้ท่านแม่รู้หรือไงว่าไปที่ใดมาถึงได้แหกปากเสียงดังแต่เช้าตรู่เช่นนี้”“ท่านป้าไม่อยู่ในเรือนเสียหน่อยขอรับ อีกอย่างท่านป้าไม่ระแคะระคายที่ท่านกลับมาทีหลังข้าด้วยซ้ำ ท่านรีบบอกข้ามาว่าท่านออกมาจากเรือนท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร เขาเรียกท่านไปทำไมกัน” ใบหน้าของเจียวซิ่งคิ้วขมวดเข้าหากันเพ่งมองมายังใบหน้าของจิ้นหยางด้วยความอยากรู้อยากเห็น จิ้นหยางไม่อยากให้เจียวซิ่งรู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาพบเจออะไรมาเลยต้องโกหกออกไป เขาลุกขึ้นใช้มือดันหัวของเจียวซิ่งออกห่างก่อนจะต่อว่าเขา“เพราะเจ้าที่ทำให้ข้าลำบาก ต่อจากนี้ข้าจะไม่เชื่อใจเจ้าไปไ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 8 กลืนกินกันและกัน

    บทที่ 8 กลืนกินกันและกันอวิ้นหลี่ว์ปล่อยมือออกจากแท่งร้อนของจิ้นหยางเงยหน้าขึ้นยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจที่เห็นจิ้นหยางเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ให้จิ้นหยางได้พัก จับแขนของจิ้นหยางให้หันมาหาตน“ในเมื่อข้าทำเจ้าเสร็จแล้วถึงตาข้าจะมีความสุขบ้างแล้ว ดูสิมังกรของข้าตั้งผงาดรอเจ้าปรนนิบัติอยู่” จิ้นหยางหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกินทำไมเขาถึงได้เอ่ยมาอย่างไม่อายอย่างนี้ จิ้นหยางจ้องมองแท่งร้อนของท่านเจ้าเมืองก่อนจะใช้มือทั้งสองสาวขึ้นลงสายตาจ้องมองใบหน้าของเขา หากเขาตั้งใจทำให้เสร็จคงจะหนีออกไปได้ รีบมาทำให้จบเสียทีไม่เช่นนั้นท่านแม่จะเป็นห่วงเมื่อคิดได้เช่นนั้นจิ้นหยางก้มลงครอบปากสวมแท่งเนื้อลำยาวจนคนถูกกระทำหน้าบิดเบี้ยวแสดงความเสียวซ่านเมื่อปลายลิ้นของจิ้นหยางกวาดตวัดดูดแรง มือขวาของอวิ้นหลี่ว์จับขอบอ่างเพื่อยับยั้งความเสียว อีกข้างยื่นมาจับหัวของจิ้นหยางเอาไว้จิ้นหยางรูดขึ้นรูดลง ใช้ปลายลิ้นตวัดปลายหัวกลมมนก่อนจะก้มดูดเม้นด้วยความแรงมากกว่าเดิม จนอวิ้นหลี่ว์ครวญครางออกมา“ซี้ด ... อ๊าาาลึก ลึกกว่านี้อีกนิด เจ้าใช้ลิ้นได้เก่งเหลือเกินดูดรัดจนข้าปวดไปหมด” เสียงครางกระเส่าของอวิ้นหลี่ว์ทำ

DMCA.com Protection Status